Epoch of Twilight จบแล้วอ่านฟรี - ตอนที่ 572: สัตว์มหึมาที่น่าสะพรึงกลัว
ตอนที่ 572: สัตว์มหึมาที่น่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง สัตว์ขนาดมหึมาที่มีขนสีทองกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง และบางครั้งมันก็หันมองย้อนกลับไป
นี่เป็นสัตว์ขนาดยักษ์ที่ใหญ่มาก กล้ามเนื้อทั่วตัวของมันคล้ายถูกเสริมด้วยใยเหล็กที่บิดงอ ด้วยเงาดำของมันมันจึงดูอันตรายและยิ่งน่ากลัว ชักจูงต่อผู้คนไม่ให้สงสัยในพลังของสัตว์ตัวนั้น มันอาจพลิกยานแม่ที่มีน้ำหนักมากถึง 100,000 ตันได้
ความถี่ในการก้าวของสัตว์ตัวนั้นเป็น 2-3 เท่าของมนุษย์ธรรมดา เมื่อรวมกับความสูง 50 เมตรของมัน ความเร็วของมันก็จะทะลุกำแพงเสียงได้อย่างง่ายดาย นอกจากเสียงของโลกที่ดังกึกก้องแล้ว มันก็จะมาพร้อมกับเสียงของโซนิคบูมที่แสบแก้วหูในทุกที่ที่มันไป
ในฐานะสัตว์มหึมาระดับ 8 บนโลก จึงไม่มีสิ่งใดที่จะคุกคามการดำรงอยู่ของมัน หากมันเผชิญศัตรูที่มีระดับเท่ากันแม้ว่ามันจะไม่สามารถเอาชนะได้ แต่พลังอันน่าสะพรึงกลัวของสัตว์ตัวนี้ก็จะทำให้มันได้เปรียบ
ในตลอดหลายปีที่ผ่านมามันได้พบกับศัตรูที่ทรงพลัง อาณาเขตของมันเป็นบริเวณที่อุ่นซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งอาหารมากมาย จึงทำให้มีผู้บุกรุกเป็นบางครั้งที่พยายามจะท้าทายตำแหน่งในฐานะผู้ปกครองของอาณาบริเวณนั้น ในท้ายที่สุดผู้ท้าท้ายทุกตัวก็จะจากไปพร้อมกับการบาดเจ็บเล็กน้อยหรือบาดเจ็บหนักขึ้นอยู่กับผลที่พวกมันก่อ เพราะสัตว์ตัวนั้นจะฉีกคู่ต่อสู้เป็นชิ้น ๆ ด้วยความแข็งแกร่งของมัน
ผู้ท้าท้ายที่อันตรายที่สุดคือนกกลายพันธุ์ที่คล่องแคล่ว สัตว์ตัวนั้นไม่เคยลังเลที่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกคู่ต่อสู้เพื่อที่มันจะสามารถฆ่านกได้ มันยอมให้จะงอยและกรงเล็บของนกกลายพันธุ์ทำให้มันได้รับบาดเจ็บด้วยการเจาะทะลุท้องของมันและเผยให้เห็นไส้ของมัน จากนั้นมันก็จะแกล้งตาย และในที่สุดการกระทำเหล่านั้นก็หลอกนกกลายพันธุ์ที่ระมัดระวังอยู่ ในขณะที่มันบินลงมาจากท้องฟ้า ครั้นแล้วทันทีนั้นมันก็ใช้กำลังที่เหลืออยู่ของมันหักคอของนกกลายพันธุ์ทันที เนื่องจากการต่อสู้นั้นมันจึงต้องพักผ่อนเป็นเวลากว่าครึ่งปีเพื่อให้หายจากอาการบาดเจ็บ
หลังจากผ่านไปหลายปีมันได้ผ่านการต่อสู้ลักษณะนี้ถึง 6 ครั้ง ส่งผลให้ท้ายที่สุดมีผู้บุกรุกน้อยลงที่กล้ามาท้าทายมันอีก ในอีกสิบกว่าปีต่อจากนั้นมันก็ไม่เคยประสบกับความท้าทายเลย
อย่างไรก็ตามสัตว์ขนาดมหึมาที่ทรงพลังดังกล่าวในขณะนี้ได้วิ่งไปพร้อมกับความรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัว
นับตั้งแต่การปรากฏของสิ่งที่น่ากลัวนั้น มันก็เริ่มวิ่งไม่หยุด แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ขนาดยักษ์ที่ฉลาด แต่มันก็ยังคงอยู่ในที่เดิมทันทีที่การปรากฏตัวนั้นหายไป
การปรากฏตัวของสิ่งที่น่ากลัวนั้นอธิบายได้แค่อย่างเดียว นั่นคือบริเวณโดยรอบเป็นที่ที่ไม่ปลอดภัย
ส่วนที่ไม่อาจระบุได้เพียงอย่างเดียวคือไกลแค่ไหนกันจากที่ที่มันปรากฏตัว
100 กิโลเมตร ?
1,000 กิโลเมตร ?
ในฐานะสัตว์กลายพันธุ์ที่เข้าใจการวัดขนาดของมนุษย์ ไม่มีอะไรที่จะต้องตกใจ สัตว์กลายพันธุ์ที่ฉลาดนี้ใช้เวลาอยู่กับมนุษย์มาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่ภาษาของมนุษย์จึงเป็นสิ่งที่มันรู้ดี
จริง ๆ แล้วมันได้เรียนรู้มากกว่านั้น มันยังได้แอบเรียนรู้ทักษะดาบที่มนุษย์เคยใช้ ในอาณาเขตของมันมันมีดาบไม้ยาวถึง 40 เมตร แต่น่าเศร้าที่มันจับดาบได้แค่ครั้งเดียวก่อนที่มันจะหัก
…
มันกลับไปยังอาณาเขตของมันเองอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันพื้นที่นี้เต็มไปด้วยไอน้ำ ป่าที่หนาทึบและเขียวชอุ่ม ตลอดจนอุดมไปด้วยแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพ จึงทำให้บริเวณนั้นยังคงอยู่ในอุณหภูมิปกติตลอดทั้งปี
การเคลื่อนไหวที่รุนแรงซึ่งเกิดจากการวิ่งของมันทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในป่า นกกลายพันธุ์นับไม่ถ้วนกระพือปีกของพวกมันด้วยความหวาดกลัวและสัตว์กลายพันธุ์จำนวนมากเริ่มวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด
สัตว์ขนาดมหึมานั้นวิ่งไปในขณะที่มองอย่างเอาเป็นเอาตาย ลมหายใจที่รุนแรงของมันดูคล้ายกับปล่องแรงดันสูงซึ่งได้ทำลายพืชที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
สัตว์กลายพันธุ์โชคร้ายรู้สึกตื่นตระหนกในขณะที่ยังไม่ได้เลือกเส้นทางของมันอย่างรอบคอบ มันวิ่งไปเป็นแนวเส้นตรงอย่างไม่คิดชีวิต และจู่ ๆ มันก็หมดแรง ร่างของมันล้มกลิ้งลงบนพื้นอย่างแรงภายใต้แรงเฉื่อยมหาศาล
ก่อนที่มันจะหยุดกลิ้งสัตว์กลายพันธุ์ตัวนี้ก็ถูกสัตว์ขนาดยักษ์นั้นจับไว้
สัตว์กลายพันธุ์ตัวนี้ไม่ได้เล็กเลย ตัวของมันสูงสิบกว่าเมตรและหนักสิบกว่าตันด้วยซ้ำ แต่อยู่ต่อหน้าสัตว์ขนาดมหึมานั้นมันไร้ความหมายไปเลย สัตว์กลายพันธุ์นั้นถูกยกขึ้นด้วยมือเดียวและเมื่อสัตว์กลายพันธุ์ถูกยกขึ้นกะโหลกของมันก็ถูกสัตว์ขนาดยักษ์นั้นกัด
วินาทีต่อมาเลือดก็กระเซ็นไปทุกที่และได้ยินเสียงกระดูกแตก
เพียงการกัดไม่กี่ครั้งต่อจากนั้น สัตว์กลายพันธุ์ทั้งตัวก็ลงไปอยู่ในท้องของสัตว์ขนาดยักษ์นั้น
ปริมาณอาหารเพียงเล็กน้อยนี้เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถสนองความหิวที่น่าแปลกใจของสัตว์ขนาดมหึมาตัวนี้ได้ หลังจากนั้นไม่นานสัตว์ขนาดยักษ์นั้นก็ยังคงไล่ล่าสัตว์กลายพันธุ์จำนวนมาก หลังจากที่มันกินอิ่ม ก็มีอาหารหลายร้อยตันอยู่ในท้องของมัน
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้คิดถึงเรื่องอาณาเขตที่ได้ครอบครองมานานกว่าสิบปีและมันก็รีบออกจากพื้นที่นั้นโดยวิ่งไปยังทิศทางที่ไกลออกไป
มันอยากจะออกไปให้ไกลจากดินแดนนี้จนกว่าในที่สุดมันจะรู้สึกว่าปลอดภัยอีกครั้ง
ไม่มีสัญญาณว่าฝนจะหยุดตก เพราะฝนยังคงตกหนักมากขึ้น ขนสีทองของมันแยกออกจากกันโดยแรงประเภทนี้ แม้ในขณะที่สัตว์ตัวนั้นจะอยู่ในสายฝน ทั่วทั้งตัวของมันก็ยังคงสะอาด เปล่งแสงสีทองที่เป็นประกายออกมา
สัตว์ขนาดยักษ์ตัวนี้กระโดดข้ามภูเขาในขณะที่มันวิ่งไปจนกระทั่งมันจำใจต้องหยุดที่แม่น้ำขนาดใหญ่
แม้แต่กับสัตว์ขนาดมหึมานี้แม่น้ำนั้นก็ใหญ่โตเป็นพิเศษ แม่น้ำกำลังบ้าคลั่งภายใต้กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากเมื่อน้ำที่ท่วมบริเวณโดยรอบได้พุ่งไปในแม่น้ำขนาดใหญ่ที่เหมือนเหวลึก ทำให้เกิดน้ำตกอันไม่มีที่สิ้นสุด
สัตว์ตัวนั้นยืนที่ริมฝั่งเฝ้ามองน้ำท่วมที่กำลังซัดชายฝั่ง สำหรับสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างขนาดมหึมาสิ่งนี้ถือว่าไม่เป็นอันตราย เพราะระดับของน้ำที่ไหลบ่าไม่สามารถท่วมส้นเท้าของมันได้
มันมองแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ลึกสุดหยั่งถึง มันกระตือรือร้นจวนเจียนที่จะลองข้ามไป แต่มันก็ลังเลซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในท้ายที่สุดสัตว์ตัวนั้นก็ไม่กล้าข้ามไป
สำหรับสิ่งมีชีวิตบนบกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบหรือแม่น้ำ พวกมันมีอันตรายเหมือน ๆ กัน ยิ่งกว่านั้นนี่คือแม่น้ำที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แม้แต่กับความแข็งแกร่งในตอนนี้ของสัตว์ตัวนั้น แต่ถ้ามันตกลงไปในน้ำ มันก็จะยังเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง
ถึงตอนนี้สัตว์ตัวนั้นจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงชั้นน้ำแข็งใต้เท้าของมันกำลังแตก สิ่งนี้ทำให้มันตกใจหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็วและกระโจนไปไกลหลายพันเมตร เมื่อมันลงสู่พื้นมันก็มองไปยังตำแหน่งก่อนหน้านี้ของมัน ชั้นน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่อยู่ใต้เท้าของมันก็แยกออกจากชายฝั่งของแม่น้ำและถูกชะลงไปในแม่น้ำขนาดใหญ่นั้นทำให้เกิดเสียงดังกึกก้อง
สัตว์ตัวนั้นไม่กล้ายืนอยู่ริมแม่น้ำ เพียงมองดูแม่น้ำจากระยะไกล
ดวงตาของมันบ่งบอกถึงความกังวล สถานที่นี้อยู่ไม่ไกลจากอาณาเขตของมัน และมันคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ แต่มันไม่เคยเห็นแม่น้ำขนาดใหญ่สายนี้มาก่อน
สภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยนี้กำลังเปลี่ยนแปลงและไม่สามารถบอกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้ดีหรือร้าย
มันแผดเสียงคำรามดังกึกก้อง ทำให้รอบๆ ตัวมันสั่นสะเทือน ชั้นน้ำแข็งสองสามกิโลเมตรในรัศมีที่เสียงคำรามที่ดังกึกก้องนั้นครอบคลุมถึงก็ได้เริ่มเกิดแตกร้าว
รอยแตกของน้ำแข็งทำให้สัตว์ตัวนั้นตกใจกลัว มันหันกลับทันทีและเริ่มออกวิ่ง มันไม่กล้าจะอยู่ที่เดิมอีก
แต่ทว่ามันเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด แค่วิ่งไปเพียงไม่กี่ก้าวสิ่งที่น่ากลัวนั้นก็โผล่ออกมาอีกครั้ง คราวนี้การปรากฏตัวนั้นไม่ได้หายไป ค่อย ๆ สัมผัสได้ถึงความกลัวของสัตว์ตัวนั้นที่ปรากฏขึ้นราวกับพลังลึกลับที่ประดังเข้ามาภายในตัวมัน
ทันใดนั้นร่างของมันก็ถูกหุ้มด้วยสนามพลังที่โปร่งใสและลอยขึ้นไปในอากาศ
"กรรรจ์ ! "
เมื่อเห็นตัวของมันลอยสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขนของมันก็ตั้งชัน ด้วยความกลัวที่รุนแรงต่อความตาย สัตว์ตัวนั้นก็เผยให้เห็นเขี้ยวที่ดุร้ายเต็มใบหน้าของมันและเริ่มคำรามอย่างรุนแรง
กล้ามเนื้อบนลำตัวของสัตว์ตัวนั้นเริ่มขยายอย่างรวดเร็ว และพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลทำให้เกิดเสียงสะท้อนในอากาศคล้ายกับเสียงระฆัง
ถึงตอนนี้ขนสีทองของสัตว์ตัวนั้นก็เปล่งประกายแสงจ้าที่สะดุดตาออกมา
วินาทีต่อมาร่างขนาดมหึมาของมันก็กระแทกกับฟองอากาศอย่างแรง
"ปัง ! "
ราวกับถูกกระแทกด้วยขีปนาวุธประมาณ 10 ลูก วินาทีต่อมาฟองอากาศทั้งหมดก็เปล่งแสงคล้ายกับดวงอาทิตย์ออกมา
ด้วยความแข็งแรงของมัน มันน่าจะแยกสลายจนไม่เหลืออะไรเลยเมื่อโดนสัตว์ตัวนั้นกระแทก ต่อให้มันจะเป็นภูเขาก็ตาม แต่ทว่าเมื่อมันใช้พละกำลังทุกอย่างที่มี แต่ฟองอากาศที่ไม่มีรูปร่างนี้ก็ไม่มีการชำรุดเสียหายเลยนอกจากสั่นอยู่เพียงครู่เดียว
หลังจากการกระแทกนั้นไม่ได้ผล สัตว์ตัวนั้นก็ไม่ท้อใจ แต่มันแทงอย่างบ้าคลั่ง แสดงถึงความดุร้ายที่รุนแรงภายในตัวมัน
มันคำรามเสียงดังกึกก้องและพุ่งเข้ากระแทกฟองนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็เริ่มทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบางอย่างกับฟองอากาศ ส่งผลให้ในฟองนั้นเริ่มสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อย ๆ มันเริ่มสั่นอย่างรุนแรงราวกับว่ามันใกล้จะถึงจุดแตกหักของมัน และในทันทีนั้นเสียงที่มีอำนาจอันน่าเกรงขามก็ดังขึ้นในใจของสัตว์ตัวนั้น เสียงนั้นเต็มไปด้วยการหมดความอดทน
"อย่าขยับ ! "
เมื่อเผชิญกับเสียงที่พลันดังขึ้นนี้ ทันใดนั้นสัตว์ขนาดมหึมาตัวนี้ก็เบิกตากว้างราวกับว่ามันถูกฟ้าผ่า มันตัวแข็งทื่อ