Epoch of Twilight จบแล้วอ่านฟรี - ตอนที่ 556: ก้าวแห่งการแก้แค้น
ตอนที่ 556: ก้าวแห่งการแก้แค้น
หลายวันผ่านไป หนึ่งในยาน Glassian ที่ชำรุดซึ่งมีรูขนาดใหญ่บนตัวยานได้ถูกหุ่นยนต์วิศวกรรมขนาดยักษ์ 12 ตัวนำเข้ามาใกล้ ๆ สายงานการแยกชิ้นส่วนยานอวกาศที่สร้างขึ้นในกรณีฉุกเฉินในบริเวณใกล้เคียงเมืองอวกาศอย่างช้า ๆ ชะตากรรมที่รอยานของ Glassian ที่เสียหายอยู่คือมันจะถูกแยกเป็นชิ้น ๆ
เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยสายงานการแยกชิ้นส่วนยานอวกาศนี้จึงได้ถูกสร้างขึ้นให้ห่างจากเมืองในอวกาศราว ๆ 3,000 กิโลเมตร ด้วยระยะทางนี้ก็จะไม่มีปัญหามากนักสำหรับเมืองในอวกาศในกรณีที่ยานของ Glassian อาจจะเกิดระเบิดในระหว่างการถอดชิ้นส่วน
ยานของ Glassian ถูกยึดทั้งสองด้านไว้ด้วยที่หนีบขนาดยักษ์ 2 อัน เครื่องจักรที่ควบคุมในระยะไกลถึง 1,000 ชุดเคลื่อนเข้าไปในยานของ Glassian ผ่านช่องที่เปิดไว้บนตัวยานอย่างกุลีกุจอ ชุดเครื่องจักรทั้งหมดนั้นขับเคลื่อนด้วยความคิดที่ฉลาดที่สุดในสาขาของพวกมันเองโดยเฉพาะ พวกมันจะอยู่ที่นี่เพื่อดำเนินการตรวจสอบอุปกรณ์กลไกภายในของยานนอกโลกเป็นพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่าจะเก็บรักษาเทคโนโลยีไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบและกำจัดความเป็นไปได้ของความหายนะที่ฉุกละหุกทั้งหมด
คลังอาวุธของอาวุธปฏิสสารจะเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเพื่อป้องกันการรั่วไหลใด ๆ ที่อาจเป็นไปได้
เนื่องจากยานของ Glassian ถูกปืนใหญ่วงโคจรต่ำโจมตีด้วยรังสีแกมมาเข้มข้นสูง ทั้งสองด้านของยานอวกาศนั้นจึงถูกฉีกทะลุ ทำให้พลังงานเข้มข้นสูงรั่วไหลออกมาหลังจากทะลุผ่านห้องควบคุม จึงย่นระยะเวลาของฉากแห่งความโกลาหลลงได้อย่างแท้จริง ทุกมุมของยานถูกกัดกร่อนด้วยความร้อนสุดขีดและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกือบทั้งหมดได้หดตัวจนเหลือแต่ฝุ่น
อานุภาพของปืนใหญ่วงโคจรต่ำที่มนุษย์สร้างขึ้นพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีมากกับพวก Glassians มันมีประสิทธิภาพมากในแง่ที่ว่าส่วนใหญ่ของสงครามได้เสียหายจนเหลือแต่เศษซาก
อย่างไรก็ตามนักวิจัยก็ไม่ได้ท้อใจเพราะว่าส่วนที่สำคัญที่สุดของยานอวกาศ เครื่องยนต์ และเครื่องปฏิกรณ์พลังงานส่วนใหญ่ยังอยู่ในสภาพดี เนื่องจากทั้งสองส่วนนี้ส่วนใหญ่สร้างขึ้นจากโลหะผสมที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษ ตราบใดที่พวกมันไม่ได้ถูกโจมตีโดยตรงก็มีโอกาสน้อยที่พวกมันจะได้รับผลกระทบ นับประสาอะไรกับการถูกทำลาย
ไม่ต้องพูดถึงนี่ไม่ใช่ยาน Glassian เพียงลำเดียวและสภาพความเสียหายของพวกมันทั้งหมดแตกต่างกันไปในแต่ละลำ บางลำก็แทบจะไม่มีรอยครูดในขณะที่ลำอื่น ๆ ถูกโจมตีอย่างหนักและยานในตอนนี้ที่อยู่ในสายงานถอดแยกชิ้นส่วนคือลำที่อยู่ใกล้ที่สุดและมาถึงสายงานถอดแยกชิ้นส่วนเร็วที่สุด ในระลอกแรกของยาน Glassian ที่ถูกทำลายโดยยานรบอวกาศ ไม่มีแม้แต่รอยบุ๋มบนเกราะชั้นนอกของยาน ซึ่งหมายความว่ามียานไม่กี่ลำที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
ยานของ Glassian ใช้ระบบเครื่องยนต์คู่ เครื่องแรกคือชุดเครื่องยนต์ธรรมดาแบบมาตรฐานซึ่งทำงานภายใต้หลักการเดียวกับที่มนุษย์ใช้กันมานานหลายศตวรรษ และอีกเครื่องคือชุดขับเคลื่อนแบบไร้ปฏิกิริยาสะท้อน
เครื่องยนต์ทั้งสองนี้เป็นเครื่องยนต์ชิ้นแรกที่ถูกถอดแยกชิ้นส่วน
…
เครื่องยนต์ชุดขับเคลื่อนแบบไร้ปฏิกิริยาสะท้อนถูกส่งไปยังโรงงานทดสอบการขับเคลื่อนแบบไร้ปฏิกิริยาสะท้อนซึ่งเป็นของห้องปฏิบัติการทดสอบแอโรฟิสิกส์และแอโรเคิร์ฟ (Aero–Physics and Aero–Curvature) อย่างเร่งด่วน ช่างเทคนิคจำนวนมากรีบเข้าไปเพื่อหารายละเอียดวิศวกรรมย้อนกลับ (reverse engineer) และทำการศึกษาทันทีที่มาถึงโรงงาน
เนื่องจากชุดเครื่องยนต์นั้นมีความสามารถในการขับเคลื่อนยานอวกาศระหว่างดวงดาว เครื่องยนต์ของยานจึงมักจะมีชุดแรงขับขนาดใหญ่ ชุดขับเคลื่อนแบบไร้ปฏิกิริยาสะท้อนของ Glassian นี้มีขนาดใหญ่กว่าด้วยความสูง 200 เมตร มันแทบจะดูคล้ายภูเขา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชุดเครื่องยนต์นี้แสดงให้เห็นถึงความสุดยอดของความสามารถทางด้านวิศวกรรมเทคโนโลยีของ Glassians แต่ทว่าเมื่อผลการทดสอบของชุดเครื่องยนต์นั้นออกมามันทำให้ผู้คนตกใจและผิดหวัง
ในอีกด้านหนึ่งโลหะที่ใช้สร้างชุดเครื่องยนต์นั้นเป็นโลหะผสมไทเทเนียมและแมกนีเซียมซึ่งมีอัตราส่วนแค่ 28 เท่านั้น เมื่อเทียบกับมนุษย์ที่ใช้อัตราส่วน 30 หรือสูงถึง 33 มันมีความแตกต่างกันอย่างมาก ภายใต้มุมมองของมนุษย์เทคโนโลยีการกลั่นและความแม่นยำของมันนั้นน้อยเกินไปและความวาวของพื้นผิวก็น่าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
อีกทางหนึ่งคือชุดเครื่องยนต์นี้ได้รับการพัฒนาไปไกลกว่าที่อยู่ในห้องทดลองของมนุษย์ แรงขับที่เกิดขึ้นนั้นมีมากกว่า แต่ก็มีความแตกต่างทางเทคนิคไม่มากนัก ไม่มีอุปสรรคใด ๆ เพื่อที่จะฟันฝ่าไปตราบใดที่มีวัตถุดิบ ด้วยความสามารถทางด้านวิศวกรรมของมนุษย์ ชุดเครื่องยนต์นั้นสามารถทำวิศวกรรมย้อนกลับให้สำเร็จได้อย่างง่ายดาย
กับชุดเครื่องยนต์นั้น ด้วยความรู้และพื้นฐานของวิศวกรรมย้อนกลับภายใน 3 เดือนเป็นอย่างมากมนุษย์สามารถสร้างให้เหมือนกับชุดเครื่องยนต์ดังกล่าวได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีประสิทธิภาพมากกว่า, เล็กกว่า และมีสมรรถภาพสูงกว่าชุดเครื่องยนต์ของ Glassian
เทคโนโลยีเช่นนี้ บางครั้งสิ่งที่ขาดก็แค่แรงบันดาลใจที่เรียบง่าย สมมุติว่านักเดินทางธรรมดาจากอดีตได้มาถึงอนาคต เขาจะไม่สามารถสร้างความประหลาดใจทางเทคโนโลยีได้ทันทีรวมถึงโทรศัพท์มือถือหรือรถยนต์ แต่จะสามารถตกทอดความเชี่ยวชาญไปยังอนาคตได้อย่างช้า ๆ และเมื่อเวลาผ่านไปมันจะช่วยให้สังคมมนุษย์พัฒนาไปได้หลายทศวรรษหรือหลายศตวรรษ มันเป็นความฝันของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ที่ประจักษ์ชัด
อย่างไรก็ตามจากมุมมองอื่น ๆ มันเป็นไปได้ที่จะรู้เทคโนโลยีของ Glassian ในทุก ๆ ด้านจนถึงรายละเอียดที่เล็กที่สุด
เทคโนโลยีของมนุษย์อาจจะนับได้ว่าเกือบจะผิดปกติ มันมักจะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหารเป็นหลักและแทบจะไม่เคยมีเหตุผลเชิงพาณิชย์ใด ๆ มีรากฐานที่แข็งแกร่งในด้านเทคโนโลยีแต่กลับอ่อนแอในด้านทฤษฎี มีเหตุผลมากมายที่สามารถอธิบายสิ่งที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น ตัวอย่างเช่นความไม่มั่นคงต่อการอยู่รอดของผู้คน หรือช่วงเวลาการพัฒนาที่สั้น แต่เหตุผลหลักสำหรับทุกคนคือจำนวนประชากร
จนถึงทุกวันนี้แม้ว่าจะมีโคลนนิ่งนับล้านเกิดทุกปี แต่ประชากรทั้งหมดของมนุษย์ที่แท้จริงยังคงมีแค่ 12 ล้านคน และเกือบครึ่งหนึ่งของ 12 ล้านคนเหล่านี้ยังเป็นผู้เยาว์
เมื่อรวมความคิดที่ฉลาดที่สุดจากชุมชนวิทยาศาสตร์รวมทั้งวิศวกร มันช่างน่าตกใจเมื่อเทียบอัตราส่วนของพวกเขากับจำนวนประชากรทั้งหมดก็จะอยู่ที่ 6% อย่างไรก็ตามเนื่องจากประชากรทั้งหมดมีน้อย จำนวนที่เหลืออยู่จึงอยู่ในระดับที่ทำให้ท้อใจ
จำนวนนักวิทยาศาสตร์ชั้นหัวกะทิที่มนุษย์มีอยู่ในขณะนี้คือ 700,000 คน บางทีก่อนที่พวกเขาจะเสียชีวิตลงพวกเขาสามารถสนับสนุนประเทศที่ยิ่งใหญ่ด้วยการพัฒนาที่แข็งแกร่งและเป็นการพัฒนาในเชิงบวก แต่โดยที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ในปัจจุบันได้เข้าสู่ยุคอวกาศ ทุกด้านของสาขาเทคโนโลยีได้มีการขยายตัวอย่างมาก การศึกษาและการวิจัยทุกประเภทได้มีการแข่งขันกัน ทฤษฎีใหม่ได้ผุดขึ้นมาจากการศึกษาใหม่ ๆ เหล่านี้ ซึ่งท้าทายความคิดเก่า ๆ จำนวนไม่รู้จบของความรู้ได้หลั่งไหลมาสู่การพัฒนาหลังจากการฟันฝ่าอุปสรรคมาได้ จำนวนนักวิจัยที่มีอยู่ในขณะนี้ยังไม่เพียงพอที่จะดับความกระหายของมนุษย์ต่อความรู้ใหม่ ๆ นี้
ในบรรดานักวิจัยชั้นยอด 700,000 คนนี้มี 90,000 คนที่ได้กินยาช่วยเพิ่มความอัจฉริยะและเป็นที่รู้จักในฐานะนักวิทยาศาสตร์ระดับสูง พวกเขาเป็นคนที่สนับสนุนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของมนุษย์ ถึงกระนั้นพวกเขาแต่ละคนสามารถจัดการงานได้หลาย ๆ อย่างในครั้งเดียว ดังนั้นโดยทั่วไปพวกเขาจึงมุ่งเน้นไปที่เรื่องซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
วิธีการของนักวิจัยเหล่านี้ปกติจะสอดคล้องกับประเด็นทางทหาร สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานรากมนุษย์หรือไม่สามารถก่อให้เกิดผลใด ๆ เกี่ยวกับการเพิ่มความแข็งแกร่งของมนุษย์ มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขามักจะถูกละเลย
… …
เมื่อยานของ Glassian ที่ชำรุดเหล่านั้นได้ถูกลากไปยังเมืองในอวกาศ อุปกรณ์ที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ก็ถูกส่งไปยังฐานการวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการตรวจสอบ ในพริบตารายงานการวิเคราะห์เทคโนโลยีของ Glassian ฉบับสมบูรณ์ก็ได้รับการเผยแพร่
นักวิจัยได้ค้นพบว่าเทคโนโลยีของมนุษย์เกี่ยวกับวัสดุศาสตร์ที่สำคัญ การถ่ายโอนพลังงานควอนตัม ความสามารถทางด้านเทคนิควิศวกรรม และด้านความแม่นยำนั้นสูงขึ้นมาก อย่างไรก็ตามสาขาต่าง ๆ รวมถึงการคำนวณควอนตัม ฟิสิกส์แรงโน้มถ่วง เครื่องปฏิกรณ์เตาหลอมนิวเคลียร์ และอีกหลาย ๆ ด้านที่มีมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับ Glassians
สรุปแล้วความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของมนุษย์และของ Glassians อยู่ในระดับเดียวกัน
โชคดีที่การต่อสู้ในตอนต้นได้รับชัยชนะ ดังนั้นจึงทำให้มนุษย์สามารถแก้ไขจุดอ่อนในด้านเทคโนโลยีที่ด้อยกว่าทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วในปัจจุบันนี้
ในอีก 6 เดือนต่อจากนั้นเทคโนโลยีของมนุษย์ได้รับการพัฒนาในย่างก้าวที่ไม่เคยมีมาก่อน / ทักษะด้านวิศวกรรมขั้นสูงทำให้มนุษย์สามารถเลียนแบบเทคนิคชั้นยอดของเทคโนโลยี Glassian ได้โดยไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก ซึ่งครอบคลุมจุดอ่อนของพวกเขาทั้งหมดโดยเสริมความแข็งแกร่งของพวกเขาเองในทุกรูปแบบ
หลังจากช่วงเวลานี้มนุษย์ไม่เคยผ่อนคลายลงเลยนับตั้งแต่ชัยชนะของพวกเขาที่มีต่อ Glassian สภาวะสงครามของพวกเขายังคงดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสองอารยธรรมระหว่างดวงดาวอยู่ภายใต้อาณาเขต ยิ่งกว่านั้นเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังระหว่างมนุษย์และพวก Glassian ได้ถูกหว่านลงแล้ว ศึกสงครามนี้จะไม่มีวันสิ้นสุดจนกว่าจะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกกำจัดให้หมดสิ้น
ถ้าจะถามว่าสงครามครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ก็คงจะเป็นความมั่นใจของมนุษย์ที่มีมากขึ้นนับตั้งแต่การต่อสู้ครั้งแรกของพวกเขา เดิมทีมนุษย์เงยหน้าขึ้นมอง Glassian จากนั้นพวกเขาก็เริ่มมองพวกมันในระดับเดียวกัน แล้วในที่สุดก็มองลงไปที่พวกมัน นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้การแก้แค้นกลายเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่าเดิม ความกระตือรือร้นในการทำสงครามได้ขยายไปทั่วเมืองในอวกาศ
การแก้แค้นนี้แทนมวลมนุษยชาตินับพันล้านที่ถูกสังหารรวมทั้งการละทิ้งดาวบ้านเกิดของพวกเขา มนุษย์เต็มไปด้วยความอัปยศและอดสู ความรู้สึกเกลียดชังเหล่านี้ได้ก่อตัวขึ้นเป็นเวลาสองทศวรรษ อารมณ์เหล่านี้เป็นแรงผลักดันหลักของมนุษย์ มันจะไม่ยอมให้สำหรับสิ่งอื่นใดนอกจากความสำเร็จเท่านั้น
เครื่องจักรแห่งสงครามครั้งใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
แต่สงครามครั้งใหม่นี้ไม่เกี่ยวกับการป้องกันตัว ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้รุกรานมากกว่า ใครที่จะเป็นผู้เริ่มการโจมตี
Glassians ได้ตัดสินใจเมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้น แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สงครามจะสิ้นสุดลง