ข้าคือราชาแห่งเทคโนโลยี (am the King Of Technology) - Chapter 7: สำรวจ (2)
ที่ดินแรกที่พวกเขาไปนั้นตั้งอยู่บนเนินเขา
ในตอนที่พวกเขาก้าวเข้าไป, แลนดอนก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น มันดูเหมือนกับเคยมีฝูงสิงโตดุร้ายผ่านมาแถวที่ดินนี้
ลานบ้านนั้นมีเศษซากอุปกรณ์หลากหลายชิ้นกองอยู่บนพื้น
มีรองเท้าข้างนึงถูกพบลอยอยู่กลางแอ่งน้ำที่กลางลานบ้าน มีร่องรอยของพันธุ์พืชต่างๆสามารถมองเห็นได้จากลานบ้านยาวเข้าไปในที่ดิน
พอสังเกตุดูตามพื้นอย่างละเอียด, เขาก็เจอชุดชั้นในผู้หญิง, เศษภาพวาดเตียงดอกไม้และสิ่งที่ดูเหมือนกับปลาย่างปนอยู่กับพันธุ์พืชที่กองเป็นทางด้วย,
ขุนนางพวกนี้กลัวพ่อของเราโกรธจนถึงขั้นทิ้งขว้างข้าวของกับอาหารเละเทะแบบนี้เลยหรอ?
เขาคิด
แลนดอนกับพวกอัศวินต่างก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
พวกเขาคิด
ที่ส่วนนึงของลานบ้าน, พวกเขาเห็นกองขี้เถ้าขนาดใหญ่กระจายอยู่เต็มพื้นและมีร่องรอยของกิ่งไม้กับดาบเปื้อนเลือดปนอยู่ในนั้นด้วย
พวกเขาค้นดูคฤหาสน์ทุกหลังที่อยู่ในที่ดินนี้แต่ก็ไม่เจออะไรที่มีค่าเลย ในขณะที่พวกเขากำลังจะออกไปนั้นเอง, แลนดอนก็เห็นถ้ำแห่งนึงอยู่หลังที่ดิน
ทางเข้าถ้ำนั้นดูเหมือนกับลอกแบบมาจากหนังเดอะลอร์ดออฟเดอะริงเลย แลนดอนเหลือแค่รอให้พ่อมดขาวซารูมานปรากฎตัวออกมาเท่านั้น
ถ้ำแห่งนี้มีหินแร่โมลิบดีนัม, โทรน่าและเฟลด์สปาร์อยู่ตามกำแพงกับเพดานถ้ำ ซึ่งผู้คนในทวีปนี้รู้แค่วิธีใช้ประโยชน์จากหินโมลิบดีนัมเท่านั้น
โดยโมลิบดีนัมมักจะถูกนำไปใช้ในการป้องกันการผุกร่อนหรือการขึ้นสนิมของดาบ, ชุดเกราะและวัตถุเครื่องเงินต่างๆ
นี่คือยุคสมัยของดาบ ในโลกนี้มีดาบเป็นพันเล่มถูกตีขึ้นทุกวัน ดังนั้นมันจึงเป็นสมบัติหายากอย่างแน่นอน
ในอีกด้านนึง, ผู้คนในทวีปนี้จะใช้หินแร่โทรน่าและเฟลด์สปาร์ในฐานะหินประประดับ ในสายตาของพวกเขา หินสองชนิดนี้ก็เป็นแค่หินธรรมดา ที่แทบไม่มีค่าอะไรเลย
แต่สำหรับแลนดอนที่มาจากโลกปัจจุบันนั้น, พวกมันเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ โทรน่านั้นสามารถนำไปใช้ทำแก้ว, กระดาษ, น้ำยาทำความสะอาด, สิ่งทอและอื่นๆอีกยาวเหยียด นี่คือชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขาอย่างแท้จริง
ถ้ำแห่งนี้ใหญ่โตมากจนแลนดอนคิดว่าถ้าพวกเขาเดินหน้าเข้าไปต่อพวกเขาคงจะหลงทางได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะกลับกันก่อน
ในส่วนของที่ดินแห่งที่สองนั้น, มันตั้งอยู่บนเนินเขาอีกลูกนึง, ที่อยู่ห่างจากที่แรกไป 700 เมตร
พอเดินเข้ามา, ที่ดินแห่งนี้ดูสะอาดกว่าที่แรกมาก มันเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงจริงๆ แลนดอนรู้สึกตกใจ
พวกเขาเจอถุงเมล็ดพันธุ์ต่างๆอยู่ในครัว, มีชุดเกราะ, ดาบ, ขี้เถ้า, และคราบเลือดกระจัดกระจายอยู่ที่ลานบ้าน พอตรงไปที่ด้านหลังที่ดิน, พวกเขาก็พบทางเข้าถ้ำอีกแห่งนึง
ในตอนที่พวกเขาเข้าไปในถ้ำ, พวกเขาก็พบแร่เหล็กเป็นจำนวนมาก นี่คือเหมืองแร่เหล็ก พอคิดว่าพวกขุนนางมีของแบบนี้อยู่ที่นี่แล้วมันช่างน่าประหลาดใจจริงๆ
ทุกคนที่นี่ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าและพร่ำสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีใครในอาณาจักรรู้เรื่องเหมืองนี้เลย
พวกเขาเดินดูรอบๆเป็นเวลาพักนึงก่อนที่จะตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังที่ดินที่อยู่อีกฟาก
ในตอนที่สำรวจคฤหาสน์ของที่นี่, พวกเขาก็พบ; เมล็ดพันธุ์, ชุดเกราะและดาบเป็นจำนวนมาก และเหมือนกับที่ดินสองแห่งก่อนหน้านี้, พวกเขาพบกองขี้เถ้าขนาดใหญ่อยู่ตามพื้นและเจอถ้ำอยู่ข้างหลังที่ดิน
ถ้ำแห่งนี้มีแร่เม็ดสีและไอรอนออกไซด์อยู่ตามกำแพงและเพดานถ้ำเป็นจำนวนมาก
ในขณะที่สังเกตุดูกำแพง, แลนดอนก็เห็นไอรอนออกไซด์สีแดง, เหลือง, อัมพัน ดินประสิวและหินปูน
ในโลกนี้, ผู้คนมักจะใช้แร่พวกนี้ทำรงควัตถุต่างๆสำหรับวาดภาพระบายสี, ซึ่งมีแค่พวกราชวงศ์, ผู้หญิงที่มีโอกาสถูกเลือกเข้าฮาเร็มของพระราชาและพวกคนรวยเท่านั้นที่จะสามารถมีภาพวาดเหมือนของตัวเองได้
สามัญชนส่วนใหญ่นั้นต่อให้ผ่านไปทั้งชีวิตก็ยังไม่มีโอกาสได้รับภาพวาดเหมือนของตัวเองเลย
ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับการวาดภาพมีราคาแพงมาก ถ้าผู้คนในอาณาจักรรู้ว่าแลนดอนมีสิ่งนี้, พวกเขาก็คงจะโมโหจนแทบกระอักเลือดออกมาและคงประกาศสงครามกับเขาอย่างเต็มรูปแบบ
ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดถึงผลประโยชน์ของรงควัตถุพวกนี้, แลนดอนก็กำลังคิดอะไรของตัวเองอยู่
ระบบ, แร่พวกนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
ตอบคำถามท่านโฮสท์ ดินประสิวเป็นวัตถุดิบหลักในการทำดินปืน แล้วมันก็ยังสามารถใช้ในการทำดอกไม้ไฟ, ทำจรวด, ถนอมอาหารและยังสามารถใช้เป็นปุ๋ยสำหรับการเพาะปลูกได้ด้วย ในส่วนของแร่อื่นๆนั้น, พวกมันสามารถใช้เป็นรงควัตถุสำหรับเครื่องสำอางและนวัตกรรมในอนาคตได้ ในส่วนของหินปูน, พวกมันสามารถใช้ปรับสภาพดิน, ใช้เป็นตัวอัดกระดาษหรือสัตว์ต่างๆให้แข็งตัว, และอื่นๆอีกมากมาย ความเป็นไปได้ของท่านโฮสท์นั้นไม่มีจำกัด
แลนดอนรู้สึกตื่นเต้นหลังจากที่ได้ฟังระบบ เขามองเข้าไปในถ้ำแล้วคิด,
พระเจ้า, พอดูดีๆแล้วมีดินประสิวอยู่ตามกำแพงกับเพดานถ้ำเยอะเลยนะเนี่ย
ในขณะที่มองแท่งคริสตัลสีขาวที่ฝังอยู่ตามกำแพงและเพดานถ้ำอยู่นั้น, เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสกรู๊จ แม็คดั๊ค ในการ์ตูนวอลต์ ดิสนีย์ เขาถึงกับเผลอยิ้มกว้างออกมาด้วยซ้ำ
อันที่จริง, แร่ดินประสิวพวกนี้ดูเหมือนกับแท่งน้ำแข็งบนเพดานช่วงหน้าหนาวเลย มันชวนให้เขานึกถึงหนังเรื่องโฟรเซ่น มันไม่มีทางที่เขาจะ ‘ปล่อยมันไป(let it go)’ อย่างแน่นอน
คนบนทวีปนี้ไม่รู้ประโยชน์ของแร่พวกนี้ แต่ก็ต้องขอบคุณระบบและชีวิตก่อนของเขา, ตอนนี้เขารู้ความสำคัญของแร่พวกนี้แล้ว
แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีความสุข, แต่เขาก็รู้ว่าหนทางยังอีกยาวไกล…โดยเฉพาะในตอนที่มองหินแร่เหล่านี้
เขาจำเป็นต้องหาวิธีสกัดแร่ออกมาจากหิน ในโลกปัจจุบันนั้น, แร่พวกนี้จะถูกนำมาผ่านกระบวนการโดยใช้สารประกอบต่างๆที่มีฤทธิ์เป็นกรด แต่มันไม่มีหอ, ท่อหรือถังสำหรับกลั่นที่นี่ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากสำหรับเขา
ในขณะที่คิดอยู่นั้น, เขาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่นพวกเครื่องสำอาง แม้ว่าเขาจะมีรังควัตถุสำหรับทำสีเครื่องสำอาง, แต่เขาก็ยังต้องใช้น้ำมันละหุ่ง, แป้งข้าวโพดที่ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์สตาร์ช, น้ำ, โซเดียมคลอไรด์, โอเลอิล แอลกอฮอลล์และอื่นๆ เขาจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบถึง 12 ชนิดในการทำสิ่งนี้ เขารู้สึกท้อแท้จริงๆ
สำหรับนวัตกรรมที่สำคัญๆส่วนใหญ่นั้น, ตอนนี้เขามีวัตถุดิบอยู่แค่ที่นี่ที่เดียว…แต่อย่างน้อยเขาก็รู้สึกดีใจกับสิ่งที่เขามี เขาเริ่มคิดถึงวิธีการใช้หินแร่พวกนี้
อ้ะ ใช่แล้ว, เราเห็นหินชนวนอยู่ในดินแดนนี้เต็มเลย ตอนนี้เราน่าจะมีวัตถุดิบมากพอสำหรับทำกระดานดำนะ…555
เขาคิดในขณะที่เดิน
ในตอนที่พวกเขาออกมาจากถ้ำแล้ว, แลนดอนก็หันไปถามคนของเขา
“ทุกคนคิดว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไง?”
“รายงานที่พวกเราได้รับมาไม่ได้พูดถึงเหมืองทั้งสามแห่งที่พวกเราเพิ่งจะพบเลยครับ จากที่ดูๆแล้ว, พวกบารอนกับเจ้าเมืองอาจจะเป็นคนกลุ่มเดียวที่รู้เรื่องนี้”
แกรี่ตอบ
“อาจจะไม่ใช่แค่นั้นนะ, เพราะพวกเขาต้องมีคนงานสำหรับทำเหมือง หรือว่าพวกเขาจะใช้พวกชาวบ้าน?”
จอร์ชถาม
“ไม่…ไม่ใช่หรอก…ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากการขุดหลุมฝังตัวเอง อย่าลืมสิ! ขุนนางพวกนี้ใช้ความพยายามอย่างมากในการซ่อนทรัพยากรพวกนี้จากอาณาจักรเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเลยนะ”
ลูเซียสพูด
“นั่นสินะครับ ถ้าพวกเขาเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร, พวกเขาก็นับวันตายรอได้เลย และด้วยความที่เรื่องมันมาถึงจุดนี้แล้ว, พวกเขาก็คงไม่สามารถบอกพระราชาเกี่ยวกับทรัพยากรในเบย์มาร์ดได้อีก”
มาร์คพูด
“ทำไมหรอครับ?”
อัศวินหนุ่มถาม
“เพราะพวกเขาอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วหน่ะสิ, และในช่วงที่อยู่ที่นี่พวกเขาก็ไม่เคยรายงานเกี่ยวกับทรัพยากรที่พวกเขาพบในเบย์มาร์ดเลย การโกหกพระราชานั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการทำเหมือนพระราชาเป็นคนโง่ ถ้าพระราชารู้ขุนนางพวกนี้คงหนีโทษประหารไม่พ้นหรอก”
มาร์คตอบ
อัศวินคนอื่นๆพากันอ้าปากค้าง
“แถม, ถ้าพระราชาบาร์นรู้ว่าเขายกดินแดนที่เหมือนกับขุมทรัพย์นี้ให้ราชาแลนดอนของพวกเรา, เขาคงจะลงมือฆ่าขุนนางพวกนั้นด้วยตัวเองแน่ๆ”
จอร์ชพูดเสริม
“ข้ามั่นใจเลยว่า, ถ้าพระราชารู้เขาคงไม่ยกดินแดนนี้ให้ราชาแลนดอนหรอก”
อัศวินอีกคนพูด
ทุกคนพยักหน้าเป็นการเห็นด้วย