ข้าคือราชาแห่งเทคโนโลยี (am the King Of Technology) - Chapter 4: เบย์มาร์ด
ในตอนที่พวกเขาใกล้จะถึงเมือง, แลนดอนก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมืองนี้ใหญ่เกือบเท่าเมืองหลวงด้วยซ้ำ แม้ว่ามันจะมีที่ดินที่ ‘แห้งแล้ง’, แต่คงมีแค่คนโง่เท่านั้นที่จะยอมทิ้งมันไปจริงๆ
‘บางทีพ่อของเราคงจะรับฟังข่าวคราวของที่นี่จากคนอื่นเฉยๆและไม่เคยเข้ามาตรวจดูที่นี่ด้วยตัวเองเลย….เห้อช่างเป็นพ่อที่โง่จริงๆ’
แลนดอนคิด
เบย์มาร์ดถูกห้อมล้อมด้วยกำแพงเมืองที่สูงมาก, ซึ่งมันน่าจะสูงประมาณ 16 เมตรได้ ที่เบย์มาร์ดนั้นมีประตูเข้าออกแค่จุดเดียว มันดูเหมือนกับเมืองยุคกลางที่อยู่ในหนังจริงๆ ในขณะที่รถม้าเคลื่อนที่เข้าไปในเมือง, ผู้คนก็พากันมองมาที่พวกเขาด้วยความสงสัย เขาได้ยินเสียงชาวบ้านกระซิบคุยกันด้วย
“นั่นลอร์ดคนใหม่กับครอบครัวหรอ?”
“คิดว่าพวกเขาจะช่วยเหลือพวกเราไหม?”
“ข้าได้ยินข่ามาว่าลอร์ดคนนี้เป็นที่รังเกียจของพวกคนในวังนะ”
“เอาจริงดิ , นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย…งี้ก็แสดงว่าพวกเราจบสิ้นแล้วหน่ะสิ?”
ในขณะที่พวกเขานั่งรถม้าเข้ามาในเมือง, แลนดอนก็เริ่มประเมินสถานการณ์ในอาณาจักรใหม่ ประชาชนที่นี่ยากไร้สุดๆและตอนนี้ก็ไม่มีเงินสำหรับใช้จ่ายอะไรเลย วิธีหลักในการหาอาหารของพวกเขามาจากการตกปลาและการล่าสัตว์ในบางโอกาส ซึ่งถ้าเขาต้องบริหารอาณาจักรนี้, เขาก็จำเป็นต้องใช้เงิน…เงินจำนวนมากด้วย
แต่ก็โชคดีที่แม่ของเขากับแลนดอนคนเก่านั้นฉลาด แม่ของเขาเริ่มเก็บออมมาตั้งแต่ตอนที่รู้ว่ามีเขา ในขณะที่แลนดอน, เริ่มเก็บเงินมาตั้งแต่ตอนอายุ 7 ขวบ ซึ่งเจ้าชายทุกคนนั้นจะเริ่มมีเงินเดือนเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุ 7 ขวดเพราะมันเป็นตอนที่พวกเขาเริ่มเข้ารับการฝึกในฐานะอัศวินฝึกหัด
ในตอนที่พวกเขาอยู่ในเมืองหลวง, ภรรยาของพระชาจะมีเงินเดือนอยู่ที่ 500 เหรียญทอง, ในขณะที่แม่ของเขาได้แค่ 200 เหรียญทอง ในตอนที่แม่รู้ว่าตัวเองท้อง, เธอก็รู้ว่ามันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะถีบส่งเธอออกมา ดังนั้นเธอจึงเก็บเงินเอาไว้, โดยใช้จ่ายแค่ที่จำเป็นเท่านั้น
ในส่วนของแลนดอน, ตั้งแต่ที่เขาเริ่มฝึกในฐานะอัศวินฝึกหัด, เขาก็ได้รับเงิน 50 เหรียญทองต่อเดือน (ถ้าเขาเป็นสามัญชนจะได้รับ 700 เหรียญทองแดง), ในขณะที่พวกพี่ชายของเขาจะได้รับ 300 เหรียญทองต่อเดือน ซึ่งเขาก็ยกเงินทั้งหมดให้แม่ของเขาเก็บเอาไว้
ในตอนที่พวกเขาอยู่กินที่หลังวังนั้น, แทบไม่ต้องใช้จ่ายอะไรเลย ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเก็บออมเงินเอาไว้ได้จำนวนนึง แต่ทั้งหมดนั่นกำลังจะเปลี่ยนไป
เมื่อก่อน, พวกเขามีกันแค่ในครอบครัว แต่ตอนนี้, พวกเขามีทั้งอาณาจักรที่ต้องดูแลและค่าจ้างที่ต้องจ่ายสำหรับเหล่าอัศวินและคนรับใช้ของพวกเขา ก่อนหน้านี้พวกเขาทุกคนได้รับเงินเดือนจากอาณาจักร แต่ตอนนี้, แลนดอนต้องเป็นคนจัดการเองแล้ว
เขาคำนวณออกมาได้อย่างรวดเร็วว่าเงินเก็บของพวกเขานั้นน่าจะสามารถใช้ดูแลทุกคนได้เป็นเวลาอย่างน้อยหกเดือน ซึ่งฐานเงินเดือนโดยเฉลี่ยของข้ารับใช้นั้นจะอยู่ที่ 250 เหรียญทองแดงต่อเดือน, ในขณะที่อัศวินจะมีขั้นต่ำอยู่ที่ 700 เหรียญทองแดงต่อเดือน, ขึ้นอยู่กับชั้นยศของพวกเขา (ฐานค่าเงินของที่นี่อยู่ที่ 100 เหรียญทองแดงเท่ากับ 1 เหรียญเงิน และเช่นเดียวกัน, 100 เหรียญเงินเท่ากับ 1 เหรียญทอง)
นอกจากนี้เขายังต้องเผื่อเอาไว้สำหรับกรณีที่อาจจะสร้างอุปกรณ์ใหม่หรืออาคารใหม่ในอนาคตด้วย ซึ่งเขาก็นึกขึ้นได้อย่างรวดเร็วว่าเขาพึ่งได้รับชุดระบบระดับเริ่มต้นมา อย่างไรก็ตามในขณะที่เขารอให้พืชเจริญเติบโตนั้น, เขาคงต้องเลี้ยงอาณาจักรไปก่อน
ในตอนที่พวกเขามาถึงปราสาทที่มีแค่หลังเดียวในเมือง, คนใช้ก็รีบพากันออกมาให้การต้อนรับพวกเขา
“ยินดีต้อนรับครับ/ค่ะนายท่าน” พวกเขาพูดในขณะที่โค้งให้เล็กน้อย
“ทำตัวตามสบายเถอะ ข้ามีชื่อว่า, แลนดอน บาร์น เป็นเจ้าเมืองคนใหม่ นี่แม่ของข้าคิม, และเพื่อนของข้าลูซี่, ส่วนคนที่เหลือนั้นเป็นเหล่าผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ของข้า…ตอนนี้ช่วยพาพวกเราเดินดูบ้านหลังใหม่หน่อยได้ไหม?” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
ในตอนที่พวกเขาเดินดูทั่วปราสาทแล้ว แลนดอนก็เรียกให้ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อรอฟังคำแนะนำเพิ่มเติม ในกลุ่มนี้, คนส่วนใหญ่มีอายุประมาณช่วงยี่สิบปี, โดยบางคนก็อยู่ช่วงวัยรุ่นตอนต้นในขณะที่บางคนอยู่ช่วงวัยรุ่นตอนปลาย
“ในปราสาทหลังนี้มีคนงานอยู่ทั้งหมดกี่คน?” เขาถาม
หญิงสาวคนนึงที่มีอายุยี่สิบต้นๆก้าวออกมาเพื่อตอบคำถาม “มีทั้งหมด 30 คนค่ะนายท่าน, โดยมีคนสวนทั้งหมด 12 คน, คนเลี้ยงม้า 4 คน, พ่อครัว 3 คน, และคนใช้ 11 คนค่ะ”
“เข้าใจหล่ะ…นาธาน, ดาเนียลลา, ช่วยก้าวออกมาข้างหน่อยหน่อยได้ไหม” เขาพูด
“ครับ/ค่ะ นายท่าน” พวกเขาขานรับในขณะที่ก้าวออกมาข้างหน้า
ทั้งคู่เป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ของแม่เขามาหลายปีแล้ว นาธานเป็นพ่อบ้านอายุ 47 ปีในขณะที่ดาเนียลลาเป็นแม่บ้านวัยกลางคน อันที่จริงพวกเขาทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันและมีลูกด้วยกันหนึ่งคน, เด็กคนนั้นก็คือแกรี่
“นาธานเจ้าเป็นคนฝึกพวกผู้ชายนะ, ส่วนดาเนียลลาจะเป็นคนฝึกพวกผู้หญิง ต่อไปก็เรื่องเงินเดือน, ทุกคนจะได้รับเงินทุกสิ้นเดือนโดยเงินเดือนจะอยู่ที่ 350 เหรียญทองแดง ใช้มันดูแลครอบครัวให้ดีหล่ะ และถ้าใครมีปัญหาอะไร, ก็เข้ามาแจ้งข้าโดยตรงได้เลย…ถึงยังไง, พวกเราทุกคนก็เป็นครอบครัวเดียวกัน”
พอพวกคนใช้ได้ยินแบบนี้, พวกเขาก็พากันตกตะลึงและมันก็แปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้น มันเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วว่า, พวกเขาไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหารด้วยซ้ำ ครอบครัวของพวกเขาที่อยู่ที่นี่มีชีวิตที่ยากลำบากมาก และพวกเขาทุกคนก็รู้ดีว่าเงินเดือนโดยเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 250 เหรียญทองแดง, แต่เจ้าชายกลับเสนอให้พวกเขามากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 100 เหรียญทองแดง…แล้วนี่มันหมายความว่ายังไงหล่ะ?…
นายท่านเป็นคนที่มีจิตใจดีและมีความเห็นอกเห็นใจเป็นอย่างมาก พวกเราต้องรับใช้เขาด้วยความซื่อสัตย์
นี่คือสิ่งที่พวกเขาทุกคนคิด
พอจบเรื่องคนใช้และให้พวกเขาทุกคนกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว, เขาก็ตัดสินใจที่จะพูดคุยกับเหล่าผู้ติดตามของเขาต่อ
“ทุกคนคอยรับใช้ครอบครัวของข้าด้วยความซื่อสัตย์มาเป็นเวลาหลายปี และนี่คือบ้านใหม่, ชีวิตใหม่ของพวกเรา บ้านที่ซึ่งพวกคนในอาณาจักรขับไล่พวกเรามา…”
ในขณะที่พูดเขาก็มองเหล่าผู้ติดตามของเขา พวกเขาทุกคนต่างก็รู้สึกโกรธเคือง จากนั้นเขาก็พูดต่อ
“พวกคนที่อาณาจักรอาจจะคิดว่าพวกเขาคือคนที่จะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย… พวกเขาอาจจะคิดด้วยซ้ำว่าพวกเราทุกคนจะตายโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา… พวกเขาคิดว่าเราอ่อนแอ, ไร้การป้องกันและเป็นตัวน่ารำคาญสำหรับอาณาจักร แต่ข้าไม่คิดเช่นนั้น พวกเราจะเปลี่ยนที่แห่งนี้ให้เป็นสรวงสวรรค์และตัดขาดไม่ให้พวกคนที่อาณาจักรได้เข้าถึงมัน”
ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้น, พวกอัศวินต่างก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เลือดของพวกเขากำลังเดือดพล่าน พวกเขาส่วนใหญ่นั้นต่างก็ถูกคนอื่นบอกว่าเป็นคนไร้ค่า พวกเขาถูกเรียกว่าขยะและโดนดูถูกนับครั้งไม่ถ้วนในตอนที่อยู่เมืองหลวง แม้กระทั่งลูซี่กับแม่ของเขาเองก็อดรู้สึกไม่ได้, เพราะพวกเขาเองก็กำลังเดือดเหมือนกัน
“พวกเจ้าทุกคนจะติดตามข้าใช่ไหม?”
“ครับ/ค่ะ” พวกเขาตอบกลับ
“ขอบใจนะ, ถ้างั้นก็จงติดตามข้ามาด้วยความตั้งใจจริงเพราะข้าต้องการยอดอัศวินที่จะฝึกฝนตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ, และข้าจะจ่ายเงินเดือนให้กับยอดอัศวินเท่านั้น โดยอัศวินรับใช้ทุกคนจะได้รับเงินเดือน 1,000 เหรียญทองแดง, อัศวินฝึกหัดจะได้รับเงินเดือน 2,000 เหรียญทองแดง, พันโทจะได้รับเงินเดือน 3,500 เหรียญทองแดง, พันเอกจะได้รับเงินเดือน 6,000 เหรียญทองแดง, นายพลจะได้รับเงินเดือน 9,000 เหรียญทองแดง, แม่ทัพจะได้รับเงินเดือน 12,000 เหรียญทองแดง, แม่ทัพใหญ่จะได้รับเงินเดือน 15,000 เหรียญทองแดงและผู้บัญชาการสูงสุดจะได้รับเงินเดือน 18,000 เหรียญทองแดง”
ทุกคนต่างก็พากันตกใจ จำนวนเงินนี้มันสูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยจริงๆ
“นี่คือยุคสมัยใหม่, ช่วงเวลาใหม่, บ้านหลังใหม่, และ…ราชาคนใหม่สินะ”
“ทรงพระเจริญครับฝ่าบาท”
“ทรงพระเจริญครับ”