หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 463 : เก๋อหลู่ ผู้แข็งแกร่งที่สุด!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 463 : เก๋อหลู่ ผู้แข็งแกร่งที่สุด!
Prev
Next

WSSTH บทที่ 463 : เก๋อหลู่ ผู้แข็งแกร่งที่สุด!

 

ฟุ่บ!

ร่างของนี่เฝินพุ่งวูบมาหยุดยืนประจันหน้ากับฮายีโดยพลัน   สีหน้าท่วงท่ายังคงสงบไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ ต่ออัจฉริยะของอาณาจักรตะวันรุ่ง

“ข้านี่เฝิน จากจวนเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์ แห่งอาราจักรนภาล่อง..”นี่เฝินเหลือบมองฮายีก่อนที่จะกล่าวออกมาช้าๆ

“นี่เฝิน?” ฮายียังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร กลับเป็นเอกอัครราชทูตโพลงขึ้นมาก่อน พร้อมจับจ้องมายังนี่เฝิน ด้วยแววตากระจ่าง “ที่แท้เป็นเจ้าพระยาน้อย จากจวนเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์นี่เอง…ข้าได้ยินมานานแล้วว่าเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์ของอาณาจักรนภาล่องนั้น มีนามกระเดื่องเลื่องลือ ยามอยู่ในสนามรบประดุจดั่งเทพสงครามาจหาญชาญศึก  แม้ข้าจะเป็นคนของอาณาจักรตะวันรุ่ง ทว่าชื่อเสียงของเจ้าพระยายังดังสนั่น มิต่างอันใดกับฟ้าร้องในหู  ยามนี้ได้พบพานพระยาน้อย… นับว่าบิดาพยัคฆ์มิมีลูกเป็นสุนัขอย่างแท้จริง …ช่างกล้าหาญและสง่างามนัก” คำกล่าวของเอกอัครราชทูตนี้ ยกย่องนี่เฝินอย่างมาก

แต่มันเป็นคำจริงจากใจ หรือคำเท็จหมายลวงหลอกทุกคนล้วนแยกออกได้โดยง่าย

บางครั้งการกล่าววาจายกย่องให้อยู่สูงเช่นนี้ …ก็นับว่าเป็นการบีบคั้นประการหนึ่ง! ที่กดดันเสมือนไม่อนุญาตให้แพ้พ่ายเด็ดขาด!!

หาไม่แล้วยามแพ้พ่าย ร่วงหล่นจากที่สูง ย่อมสาหัสกว่าธรรมดานัก

“ได้พบท่านเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์  เป็นเกียรติของป้าเอ๋อยิ่ง”หลังจากนั้นเอกอัครราชทูตก็หันไปมองนี่เหวี่ยก่อนประสานมือคารวะ ยิ้มแย้มพยักหน้าออกมา

“เอกอัครราชทูต เกรงใจไปแล้ว” นี่เหวี่ยเพียงตอบอย่างเฉยเมย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้สนใจละครลิงหลอกเจ้าของมันสักเพียงนิด

นี่ทำให้เอกอัครราชทูตแห่งอาณาจักรตะวันรุ่ง ก้มหน้าลงเล็กน้อยเผยใบหน้าน่ากลัวออกมา  ทว่าใบหน้าของมันก็กลับมาเริงร่าคลี่ยิ้มอีกครั้งในเสี้ยวพริบตา  นับว่าการเสแสร้งเปลี่ยนแปลงใบหน้าของมันรวดเร็วไม่น้อย

‘ไอทูตของตะวันรุ่งอะไรนี่ จิ้งจอกห่มหนังแกะชัดๆ  ยังแสร้งหน้าเนื้อใจเสือออกมา ด้วยคำระรื่นได้ถึงขนาดนี้ ’ ต้วนหลิงเทียนเหลือบมอง ป้าเอ๋อ อย่างไม่แยแสอะไร อีกฝ่ายก็เป็นตัวบัดซบอย่างที่คิดเอาไว้แต่แรก

เอกอัครราชทูตตะวันรุ่ง ป้าเอ๋อนี้ แลไปก็คล้ายคนธรรมดา แต่พลังวิญญาณของต้วนหลิงเทียนก็เฉียบคมพอ ที่จะสัมผัสได้ว่า ที่แท้มันเป็น ผู้เชี่ยวชาญครึ่งก้ามธรรมชาติ อันร้ายกาจคนหนึ่ง

“ฮายี ท่านเจ้าพระยาน้อยนี่เฝินแห่งจวนเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์ ก็มีระดับบ่มเพาะอยู่ในขีดขั้นเดียวกันกับเจ้า ต่างเป็นกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 ทั้งคู่…เท่าที่ข้ารู้ ความแข็งแกร่งของพระยาน้อยนับว่าเหนือล้ำที่สุดในอาณาจักรนภาล่อง  วันนี้ไม่ว่าเจ้าจะเอาชนะมันได้หรือไม่ได้ อย่างไรพวกเราก็จักได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน”  ป้าเอ๋อมองไปยังฮายี พร้อมส่งเสียงกล่าวผ่านพลังงานต้นกำเนิด “อย่างไรก็ตาม…หากเจ้าสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ เก๋อหลู่ก็มิจำเป็นต้องลงมือ…เช่นนี้อาณาจักรตะวันรุ่งเราจะได้รับชัยชนะขาดลอย! เมื่อกลับไปถึงอาณาจักร ข้าจะตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม!”

“ใต้เท้า! ขอท่านอย่าได้เป็นกังวล ข้าจักเอาชนะนี่เฝินให้ได้!” ฮายีส่งเสียงกล่าวตอบ

“พระยาน้อย ล่วงเกินแล้ว!” แสงเย็นเยือกส่องออกมาจากแววตาของฮายี ขณะที่มันมองมายังนี่เฝิน พลังงานต้นกำเนิดยังปะทุออกมาจากทั่วร่างของมันในทันใด

เหนือฟ้าปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 120 ตัวตระหง่านพร้อมสู้ศึก…

ฟู่มมม!

พริบตาต่อมาร่างฮายีก็พุ่งออกไปดั่งดอกศรพ้นเกาทัณฑ์ ความเร็วของมันน่าตกใจไม่น้อย!

เสียงลมหวีดหวิวฉีกกระชากยามมันพุ่งร่างฝ่าอากาศดังขึ้นรุนแรง  นอกจากนั้นยังมีเสียงปะทุของพลังงานต้นกำเนิดอันน่าครั่นคร้าม!

ขวับ!

ในขณะที่ฮายีพุ่งร่างมาหานี่เฝินด้วยความเร็วสูง มือขวาของมันนั้นสะบัดออกว่องไวคล้ายอัสนีฟาดพุ่งไปยังเอว หยับจับลงด้ามมนถนัดมือด้ามหนึ่ง  ก่อนจะชักดาบวงพระจันทร์ที่นิยมในแถบทะเลทรายออกมา ควงหมุนซ้อมมือรอบหนึ่ง

วู้มมม!!

พลังงานต้นกำเนิดโคจรถ่ายทอดลงสู่ดาบวงพระจันทร์ด้วยความเร็วสูง ทำให้ตัวดาบเริ่มเรืองรองออกมา เผยอานุภาพเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของมัน!  คลื่นพลังงานต้นกำเนิดอันเกรี้ยวกราด เริ่มปะทุครืนๆรอบตัวดาบ แลคล้ายจะฟาดฟันทำลายได้ทุกสรรพสิ่ง!  ทั้งตอนนี้มันยังถูกวาดเป็นวงโค้งฝ่าอากาศ หมายสับไปยังคอหอยของนี่เฝิน!!

เหนือขึ้นไปบนฟ้าปรากฏ 22 เงาร่างช้างแมมมอธโบราณข้างของเดิม!

ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 อาวุธวิญญาณระดับ8!

หนึ่งดาบที่ฟาดออกครานี้ มีความแข็งแกร่งรวมทั้งสิ้น 142 ช้างแมมมอธโบราณ  ยามดาบกรีดผ่าอากาศ คล้ายห้วงอากาศถูกแยกสะบั้น ก่อเกิดเป็นคลื่นลมแรงกระหน่ำ แรงกดดันดุร้ายพุ่งทะยานคล้ายสายรุ้งข้ามฟ้า

แต่แต่ฮายีขยับตัวลงมือ มาถึงตอนนี้ ยังกินเวลาเพียงหนึ่งกระพริบตาเท่านั้น

อัจฉริยะทั้งหลายของนภาล่องเมื่อเห็นความเร็วอันน่าพรั่นพรึงของฮายี พวกมันหลั่งเหงื่อเย็นเยียบออกมาชโลมกาย “ฮายี อยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 จริงๆ!”

“โชคดีที่ข้ายังมิทันได้ลุกออกไปท้าทายมัน หาไม่แล้วคงทำได้เพียงสร้างความอับอายให้ตัวเอง!”

“ข้าเกรงว่าอาณาจักรเราคงมีเพียงต้วนหลิงเทียน และท่านพระยาน้อยเท่านั้นที่สามารถรับมือมันได้”

…

ในขณะที่เหล่าอัจฉริยะของนภาล่องกำลังตื่นตระหนก นี่เฝินเองก็ลงมือเคลื่อนไหวแล้ว

ฟุ่บ!

เท้านี่เฝินกระทืบถีบออกมาด้วยความเร็วสูงล้ำ  ร่างคนพุ่งฉีกออกข้างหลบรัศมีดาบโค้งของอีกฝ่ายได้ในทันที

อย่างไรก็ตามดาบวิญญาณระดับ 8 ในมือฮายีคล้ายมีดวงตางอกเงย กลับพลิกสะบัดกลางอากาศเปลี่ยนวิถี! ปราดวูบไปยังร่างของนี่เฝินอีกครั้งประหนึ่งเงาตามตัว!  ยากที่นี่เฝินจะใช้ท่าร่างเคลื่อนย้ายหลบเร้นไปได้อีก

“เหอะ!”นี่เฝินสบถออกมาอย่างเย็นชาเมื่อมิอาจหลีกหนีได้พ้น  ดวงตาของมันหยีลงโดยพลัน ก่อนที่จะเรียกกระบี่วิญญาณขึ้นมาถือไว้ในมือ พร้อมยกมันขึ้นต้านรับอย่างไม่รอช้า

วู้มมมม!

กระบี่เปล่งแสงเรืองรองขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนที่เงาร่างช้างแมมมอธโบราณบนฟ้าจะปรากฏออกมา 142 ตัวอย่างเท่าเทียม หนึ่งกระบี่เตรียมปะทะกับดาบวงพระจันทร์ฮายี!

เคร๊ง!!

เสียงดังสนั่นของโลหะกระทบกระแทก พร้อมกันนั้นคลื่นพลังงานต้นกำเนิดก็แผ่ซ่านปะทุออกมา สะท้านไปในบรรยากาศ

พริบตาต่อมา ฮายีและนี่เฝินต่างก็กระเด็นถอยหลังออกไปเพราะแรงระเบิดจากพลังงานต้นกำเนิดที่ปะทะกัน!

ต่างถอยร่นไปคนละ 7 ก้าว

“มาได้ดี!!” จิตต่อสู้ในแววตาของนี่เฝินยิ่งมายิ่งมาก นอกจากนั้นมันยังรู้สึกเลือดเดือดเสมือนอยู่ในสนามรบขึ้นมา นำพาให้กลิ่นอายกระหายเลือดอำมหิตและเจตนาฆ่าฟันอันเกรี้ยวกราด เริ่มแผ่ซ่านออกมากดดันในบรรยากาศ สภาวะเข่นฆ่าพวยพุ่งสูงล้ำปานจะทะลุชั้นฟ้า

ฆ่า!

ฆ่า!

ฆ่า!

…

ตอนนี้ในโลกของนี่เฝินคล้ายมีฮายีหลงเหลืออยู่เพียงคนเดียว และเป็นศัตรูที่มันต้องเข่นฆ่าให้พินาศ!

"ฆ่า!" ทันใดนั้นแววตาของนี่เฝินพลันเหี้ยมเกรียมถึงขีดสุด เสียงกล่าวออกมา ปานวิญญาณวีรบุรุษผู้กล้าสิงสู่ สภาวะเกรี้ยวกราดดุร้ายนัก!

พริบตาต่อมา ประหนึ่งนี่เฝินถือครองพลังเทพสงคราม กลิ่นอายสังหารที่น่าพรั่นพรึงพุ่งถึงจุดสูงสุด คลื่นพลังไร้สภาพมากมายพวยพุ่งออกจากทั่วร่าง แลคล้ายจะกวาดทำลายได้ทุกสมรภูมิ

‘ฮายี แพ้แล้ว’ ต้วนหลิงเทียนที่มองอยู่พลันคิดออกมา

ตอนนี้การต่อสู้ที่อยู่ในระยะไกล ฮายีเริ่มหายใจติดขัดเมื่อถูกกลิ่นอายฆ่าฟันของนี่เฝินสะกด  และทันใดนั้นเองนี่เฝินพลันลงมือเคลื่อนไหว ในขณะที่จิตใจมันยังไม่พร้อม!

พริบตาที่นี่เฝินพุ่งร่างออกมา ฮายีรู้สึกเหมือนทั่วร่างนี่เฝินเต็มไปด้วยพลังฆ่าฟันอันไร้จำกัด ทำให้มันหวาดกลัวไปถึงก้นบึ้งของจิตใจ

“ไม่! มันข้าล้วนกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9! ใยข้าต้องกลัวมัน!!” ฮายีกัดฟันดังกรอด พยายามต้านทานแรงกดดันไร้สภาพที่นี่เฝินแผ่ซ่านออก  ทั้งมันเองก็เร่งเร้าพลังงานต้นกำเนิดชั่วชีวิตออกมาเต็มพลัง ดาบวงพระจันทร์ในมือ เรืองรองส่องแสงเจิดจ้า คล้ายตั้งใจต้านทานกระบี่ที่ฟันฟาดของนี่เฝินตรงๆ

"ฆ่า!" นี่เฝินที่พุ่งมาถึงแผดเสียงน่ากลัวออกมาอีกครั้งดังสนั่น ปาน ฝนคะนองฟ้าลั่น กลิ่นอายสังหารกระหายเลือดที่เกิดจากการฆ่าฟันนับไม่ถ้วนในสนามรบ กดทับไปที่ฮายีอีกครั้ง

นำพาให้พลังงานต้นกำเนิดบนดาบของฮายีลดลงไปเล็กน้อย

ฟั่บบบ!

วู้มมมมมมมมมม!!

ดาบกระบี่เตรียมปะทะกันอีกครั้งอย่างรุนแรง พลังงานต้นกำเนิดส่งเสียงคำรามออกมาสนั่น พลังทั้งคู่แลคล้ายจะเท่าเทียม หาได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเหมือนคราแรก เพราะจำนวนช้างแมมมอธโบราณยังเด่นหราเท่าเทียม…แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น!

เพราะเรื่องราวครานี้กลับต่างออกไปจากก่อนหน้าหลายขุม!  นี่เฝินที่ลงมือเต็มพลังเปี่ยมล้นไปด้วยเจตจำนงอันแน่วแน่หมายพิชิตสังหารศัตรู  ทั้งกลิ่นอายและจิตสังหารล้วนถูกเร่งเร้าถึงขีดสุด!  สภาวะทั่วร่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความดุดันอันทรงพลัง!!

ทำให้กระบี่ที่ฟันออกครานี้หนุนเสริมไปด้วยพลังมากมาย…!

ส่วนด้านฮายีนั้นมันว้าวุ่นในใจ และบังเกิดความกริ่งเกรงแต่แรก! ถูกลดทอนสภาวะอันเข้มแข็งไปหลายส่วน  นี่ทำให้พลังงานต้นกำเนิดที่ถ่ายเทควบแน่น ลงสู่ดาบหาได้หนักแน่นมั่นคงไม่

เคร๊งงง!

ไม่ทันได้คิดอะไร ดาบกระบี่ปะทะกันอีกครั้ง

แต่ทว่าครานี้ดาบวงพระจันทร์ในมือของฮายีกลับเป็นฝ่ายพ่าย  ด้วยถูกกระบี่ในมือนี่เฝินฟาดฟันจนง่ามมือฉีกชาด  ตัวดาบยังกระเด็นหลุดลอยออกจากมือปลิวละลิ่วไปไกล  ซ้ำร้ายคลื่นพลังที่ปะทุออกครานี้ ยังรุนแรงถึงขั้นทำให้ร่างฮายี กระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวเพียงฝ่ายเดียว  คนคล้ายหมดใจต่อสู้ คิดกล่าวคำยอมแพ้!

ฟุ่บ!

อย่างไรก็ตาม แม้คนคิดกล่าวคำยอมแพ้ แต่หมัดนี่เฝินกลับไม่อนุญาต  พลังงานต้นกำเนิดถูกอัดแน่นควบรวมไปที่หนึ่งกำปั้น  ซัดเข้ากลางอกตำแหน่งดวงใจอีกฝ่ายอย่างรุนแรง

ปงงงง!!  แคร่กก!

เสียงกระดุกแตกหักดังขึ้นสนั่นชัดเจน ทำให้ทุกคนที่ได้ฟังล้วนยะเยือกไปถึงไขสันหลัง

“อ๊าคค!”ฮายีคล้ายรับรู้ว่าตัวเองกระดูกแหลกเป็นคนสุดท้าย  เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป มันร่ำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่ร่างก็ลอยละลิ่วปลิวไปคล้ายว่าวสายป่านขาด  ใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างสุดแสน สุดท้ายร่างมันก็ร่วงหล่นกระแทกพื้น หัวใจยังหยุดเต้นไปพักหนึ่ง คนหมดสติไปในทันใด

นี่เฝินได้ชัย!

"ฮ่า ๆ … ดี!" คนของอาณาจักรนภาล่องล้วนกล่าวคำออกมาอย่างยินดี

“เป็นการต่อสู้ที่ดี!” นี่เฝินหันไปมองเอกอัครราชทูตป้าเอ๋อ ที่กำลังพุ่งไปตรวจดูอาการฮายีด้วยท่าทางไม่แยแส  ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะตกตายหรือมีลมหายใจ

เรื่องนี้ทำให้ป้าเอ๋อเกือบจะกระอักโลหิตออกมาด้วยโทสะ

‘ตัวบัดซบนี่เฝิน จัดการฮายีจนจบหัวใจหยุดเต้นไปครู่หนึ่งเกือบตกตาย  แต่มันยังกระทำเหมือนไม่มีใดเกิดขึ้น บัดซบ!’

“พระยาน้อย ช่างสมแล้วที่มันเป็นลูกของเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์  ไม่ทันไรก็มีกลิ่นอายสังหารกระหายเลือดจากสมรภูมิเช่นนี้แล้ว…เกรงว่าคงไร้ผู้ฝึกยุทธ์ใต้วิญญาณแรกก่อตั้งคนได้เอาชัยท่านได้อีกแล้ว …ท่านพระยาน้อย!” หลังจากที่ป้าเอ่อป้อนโอสถรักษาให้ฮายี มันก็หันมามองนี่เฝินด้วยสายตาลึกซึ้ง พร้อมกล่าวออก  “แต่จะอย่างไรก็ตาม หากท่านพระยาน้อยพบพานคู่ต่อสู้วิญญาณแรกก่อตั้ง เกรงว่ากลิ่นอายสังหารกระหายเลือดที่ได้มาจากสนามรบอย่างยากลำบากนี้ …คงเป็นเพียงของประดับประดาเท่านั้น หาได้มีประโยชน์อันใดไม่”

นี่เฝินเพียงยิ้มรับอย่างไม่ได้แยแสหรือสนใจอะไร มีลมใดอยากผายเชิญมันผายไปเถิด!

เรื่องนี้ยิ่งทำให้ป้าเอ๋อยิ่งมายิ่งมีโทสะ มันตะโกนออกมาด้วยเสียงแข็ง “เก๋อหลู่!”

ด้วยเสียงเรียกของป้าเอ๋อ ชายหนุ่มท่าทางแข็งแกร่งที่โต๊ะตะวันรุ่ง พลันรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง ค่อยถอนสายตาที่ตั้งแต่ต้นจนจบยังไม่ได้ละออกจากเรือนร่างองค์หญิงปี้เหยาสักเพียงนิดออกมา  …

ชายหนุ่มท่าทางแข็งแกร่งคนนี้ เป็นมือดีอันแข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรตะวันรุ่ง

เก๋อหลู่!

ระดับบ่มเพาะของมันอยู่ในระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 1

หากเป็นในอาณาจักรพนาครามแล้ว การที่มีระดับบ่มเพาะวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 1 ด้วยวัย 35 ปีนั้น  นับเป็นค่าเฉลี่ยของชาวบ้านร้านถิ่น เดินไปซอกไหนตรอกใดก็พบเจอได้ทุกที่เท่านั้น

แต่ในอาณาจักรเล็กๆ เช่นนี้ มันคือดาวจรัสแสงสุดยอดอัจฉริยะแล้ว…

"กร๊อบ แกร๊บ … " ร่างของเก๋อหลู่พุ่งออกไปคล้ายสายลมแรงหอบหนึ่ง พัดกระพือไปยังบริเวณที่ว่าง เผชิญหน้ากับนี่เฝินในทันใด  หลังจากนั้นมันก็บิดคอส่งเสียงกระดูกลั่นออกมา

“เจ้ามิใช่คู่มือของข้า”เก็อหลู่เหลือบมองไปยังนี่เฝินอย่างเฉื่อยชา กล่าวออกมาด้วยท่าท่างไม่แยแส

พร้อมกันนั้นเก๋อหลู่ก็ยกหมัดขึ้นมาบิดหัก ทั้งเร่งเร้าพลังงานต้นกำเนิด จนเผยเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 200 ตัวบนฟ้า เปิดเผยความแข็งแกร่งของมันออกมา พวกมันคล้ายกำลังสั่งสมพลังรอคอยการปะทุออก

“วิญญาณแรกก่อตั้งขั้นแรก”

ถึงแม้ว่าคนของอาณาจักรนภาล่อง จะได้ยินมาก่อนแล้ว ว่าฝั่งตะวันรุ่งมีอัจฉริยะ วิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 1 อยู่คนหนึ่งในบรรดาอัจฉริยะทั้ง 3  แต่เมื่อพวกมันได้มาเห็นกับตาตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดความตกตะลึงเล็กน้อย

ในขณะเดียวกันนั้นทุกสายตาของผู้คนอาณาจักรนภาล่องก็ตกไปยังร่างนี่เฝิน

ต่างอยากรู้ว่านี่เฝินจะสู้หรือเลือกถอย ด้วยการกล่าวคำยอมแพ้ …

หากเลือกที่จะสู้กับเก๋อหลู่นั้น …เรียกได้ว่าไร้ซึ่งหนทางชนะ!

ช่องว่างความต่างระหว่างกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 กับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 1 นั่นมากมายเกินไป!

แต่หากกล่าวยอมแพ้ ก็นับว่าทำให้อาณาจักรตะวันรุ่งยิ่งได้ใจ วางท่าเขื่องโขคุยโวได้อีกครั้ง  นั่นทำให้คนของตะวันรุ่งยิ่งหยิ่งยโสโอหังมากขึ้นไปอีก….

“ข้าขอยอมรับความพ่ายแพ้”ครู่ต่อมานี่เฝินเพียงกล่าวคำยอมแพ้ออกมาด้วยท่าทางสบายๆ เพียงยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเดินกลับมายังโต๊ะจวนเจ้าพระยาโดยไม่ทุกข์ร้อนใดๆ

คนของอาณาจักรนภาล่องก็ไม่ได้แปลกใจอะไรนัก

โชคดีที่พวกมันยังมีไพ่ตายอันร้ายกาจใบสุดท้ายอยู่ พวกมันจึงไร้ซึ่งความหวั่นวิตกว่าจะแพ้พ่ายหรือต้องสูญเสียเงินภาษีเดิมพันเลยสักนิด

“ฮ่าๆๆๆๆ…!!”เอกอัครราชทูตของตะวันรุ่ง ป้าเอ๋อ หัวเราะออกมาอย่างสะใจ เผยความหยิ่งยโสวางท่าโอหังออกมาไม่น้อย “พระยาน้อยนับว่าฉลาดเฉลียว และรู้จักประมาณตัวดียิ่ง…ฝ่าบาทเช่นนี้การประลองกระชับมิตรของอัจฉริยะระหว่าง 2 อาณาจักรเรา ก็ควรยุติลงแต่เพียงเท่านี้  และเป็นอาณาจักรตะวันรุ่งของกระหม่อม มีชัยใช่หรือไม่?” ในขณะที่กล่าวจบใบหน้าของป้าเอ๋อก็แสยะยิ้มออกมาอย่างยินดี ราวกับมันกำลังเห็นภูเขาทองคำ อันเป็นภาษี 3 ปี ของอาณาจักรนภาล่อง หลั่งไหลลงสู่กระเป๋ามัน!

“ช่างน่าเบื่อหน่ายยิ่งนัก หรืออาณาจักรนภาล่อง จักสิ้นไร้อัจฉริยะมีฝีมือใดๆแล้วจริงๆ?” เก๋อหลู่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเฉื่อยชา ก่อนที่จะหันหลังเตรียมเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของมัน

"ช้าก่อน!" ตอนนี้เองเสียงหนึ่งพลันดังขึ้นจากโต๊ะของจวนเจ้าพระยา และเป็นนี่เหวี่ยที่กล่าววาจาออกมา ระงับเก๋อหลู่เอาไว้

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 463 : เก๋อหลู่ ผู้แข็งแกร่งที่สุด!"

3.7 233 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
มิถุนายน 26, 2022
Eternal martial sorvereign
Eternal martial sorvereign
มีนาคม 12, 2022
มหายุทธทลายดารา!
มหายุทธทลายดารา!
มีนาคม 12, 2022
Tales of Herding Gods
Tales of Herding Gods
มีนาคม 12, 2022
ตำนานเทพปีศาจอมตะ (Immortal Devil Transformation)
ตำนานเทพปีศาจอมตะ (Immortal Devil Transformation)
มีนาคม 12, 2022
davisam
จักรพรรดิเทพมรณะ
มกราคม 14, 2023
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz