หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 456 : หวนคืนสู่ อาณาจักรนภาล่อง

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 456 : หวนคืนสู่ อาณาจักรนภาล่อง
Prev
Next

WSSTH บทที่ 456 : หวนคืนสู่ อาณาจักรนภาล่อง

 

 

บนพื้นร้อนระอุของทะเลทรายอันกว้างใหญ่สุดไพศาล  ปรากฏร่างชายหนุ่ม 2 คนยืนอยู่ใต้แสงตะวันเจิดจ้า ทว่าคนกลับไร้ความสดใสดั่งตะวัน บรรยากาศรอบๆตัวแลดูหดหู่หมองเศร้านัก

ทั้งสองคนเพียงยืนนิ่งๆอย่างเงียบงัน…ไร้คำใดกล่าวออก

หลังจากนั้นไม่นาน..

"อาจารย์..ท่านอาจารย์!!" ชายหนุ่มคนหนึ่งเสมือนสองขาไร้เรี่ยวแรง อยู่ดีๆมันกลับทรุดร่างลงไปคุกเข่าบนพื้นทราย ทั้งน้ำตายังไหลพรากออกมาปานพิรุณร่วง  มันเงยหน้ามองฟ้า หันไปยังทิศทางนิกายกระบี่ 7 ดาวด้วยสายตาอาลัย

ส่วนชายอีกคน หาได้หลั่งน้ำตาไม่…แต่ในใจยามนี้กลับบังเกิดความเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง

และชายอีกคนที่ไม่ร่ำไห้นี้ก็คือต้วนหลิงเทียนนั่นเอง …เขาเพียงยืนนิ่งๆสูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างเงียบงัน  ตอนนี้อารมณ์ในใจของเขาบังเกิดความสะทกสะท้อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน   สุดท้ายเขาก็หันไปมองยังทิศทางนิกายกระบี่ 7 ดาวก่อนที่จะกล่าวคำออกมาเสียงแข็ง “ประมุขหลิ่งหู ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร…ตราบใดที่ข้าต้วนหลิงเทียนยังมีชีวิตอยู่ …ข้าจะทำลายล้างนิกายไตรพนาครามให้ราบคาบ!”

"นอกจากนี้ข้าจะทำทุกอย่างเต็มที่ …ให้ดีที่สุด เพื่อช่วยโม่อี้สร้างนิกายกระบี 7 ดาวขึ้นมาอีกครั้ง!"

ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็หลับตาลง… ภาพใบหน้าของคนคุ้นเคยเริ่มปรากฏในหัวเขาทีละคนๆ…

คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเขาที่นิกายกระบี่ 7 ดาว …ทว่าตอนนี้ทั้งหมดได้ตายจากไปแล้ว

“ข้าต้วนหลิงเทียน ขอสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า ว่าข้าจะชำระแค้นไอพวกบัดซบนั่นให้หมด!…หากข้าผิดต่อคำสาบาน ขอให้ฟ้าดินพิฆาตร่างข้าจนเหลวแหลก!!” ต้วนหลิงเทียนเงยหน้าขึ้น ก่อนที่จะกัดหัวแม่มือ หลั่งโลหิตออกมา หลังจากกล่าวสาบานจบ หยาดหยดที่หลั่งออกมาหยดหนึ่งนั้น พลันลอยล่องขึ้นฟากฟ้าหายไปอย่างอัศจรรย์

ครืน ครืน …เปรี๊ยง เปรี๊ยงง!!

…

อัสนีบาตฟาดลั่นบนฟ้า 9 ครา ดังสนั่นจนหูด้านชา ตอบรับคำสาบานของต้วนหลิงเทียน

โม่อี้ที่คุกเข่าอยู่ไม่ได้เขยื้อนขยับไปไหน …ภายใต้ฟ้ามืดมัวแลบลั่นไปด้วยอัสนี สองตาของมันแดงก่ำราวกับฉาบทับไปด้วยม่านโลหิต

ถึงแม้ว่าหลิ่งหูจิ่นหงจะเป็นอาจารย์สอนสั่งมันเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น…แต่ใน หนึ่งปีที่ผ่านหลิ่งหูจิ่นหงดูแลเอาใจใส่อุปถัมภ์ค้ำจุนมันอย่างดี ในใจของมันย่อมบังเกิดความสำนึกตื้นตันอย่างหาที่สุดไม่ได้

กระทั่งมันยังถึงขั้นมองหลิ่งหูจิ่นหงไม่ต่างไปจากบิดาบังเกิดเกล้าคนหนึ่งแล้ว…

และตอนนี้ บุคคลที่เป็นดั่งบิดาบังเกิดเกล้า กลับต้องมาถูกสังหารตกตายต่อหน้าต่อตา…

ทว่ายามนี้มันก็ยังไม่มีปัญญาทำอะไรศัตรู ไร้สามารถอะไรจะไปล้างแค้นหนี้เลือดให้บิดาของมัน…

"อ๊าาาาค!!" โม่อี้กู่ร้องต่อฟ้า เสียงคำรามเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังอย่างถึงที่สุด ราวกับมันหมายแผดเสียงเขย่าผืนฟ้าอันไร้ขอบเขตนี่ระบายความคับแค้น …

ปับ…!

ต้วนหลิงเทียนเดินไปหาโม่อี้ก่อนที่จะตบบ่ามันเบาๆ “หักห้ามใจของเจ้าไว้ อย่าได้โศกเศร้าแล้ว พวกเราจะต้องล้างแค้นไอพวกบัดซบนั่นแน่…ไม่ช้าก็เร็ว…ตอนนี้สิ่งที่เจ้าต้องทำก็คือ…ขยันบ่มเพาะให้มากเข้าไว้  ต่อไปนิกายกระบี่ 7 ดาวต้องอาศัยเจ้าฟื้นฟูขึ้นใหม่แล้ว…”

ร่างของโม่อี้สั่นสะท้านไปคราหนึ่ง ก่อนจะกล่าวตอบด้วยเสียงสะอื้น “ขอรับ ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน..”

"จี๊ดๆ~" เต้าหนูขนทองตัวน้อยบนไหล่ต้วนหลิงเทยนส่งเสียงร้องออกมาสองครั้ง  การเข่นฆ่าบนยอดเขาเทียนชูทำให้มันตื่นตระหนกและหวาดกลัวไม่น้อย

ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเจ้าหนูน้อยจะมิใช่ชั่ว แต่เมื่อเทียบกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญหยั่งรู้ธรรมชาติแล้ว มันยังนับว่าค่อนข้างห่างชั้นกันนัก..!

"พี่ใหญ่หลิงเทียน แล้วตอนนี้พวกเราจะไปไหนกันต่อหรือ?" เสียงเสี่ยวจินดังขึ้นในหูต้วนหลิงเทียน "คนพวกนั้นชั่วช้านัก กล้าทำให้พวกเราเป็นคนจรจัดเช่นนี้ … ฮึ่ม! ฮึ่ม! เมื่อข้าแข็งแกร่งกว่าพวกมันเมื่อไหร่ ข้าจะให้พวกมันบ้านแตกสาแหรกขาด เป็นคนไร้ที่ไปบ้าง!"

“ทำให้พวกมันบ้านแตกสาแหรกขาด ไร้บ้านหรือ? นั่นยังสบายไปสำหรับพวกมัน…” ประกายตาต้วนหลิงเทียนเรืองขึ้นมาด้วยเจตนาฆ่าฟัน “ข้าจะให้พวกมันเหลือแต่ขี้เถ้า!”

เหลือแต่ขี้เถ้า!

วาจาของต้วนหลิงเทียนเต็มไปด้วยความชิงชังและเคียดแค้น ในน้ำเสียงยังเต็มไปด้วยจิตสังหารอำมหิต ทำให้โม่อี้และเสี่ยวจินเองก็อดไม่ได้ที่จะหนาวยะเยือกขึ้นมา

“เสี่ยวจิน เจ้าขยายตัวแล้วพาข้ากับโม่อี้ไปจากที่นี่กันก่อนเถิด” ต้วนหลิงเทียนกล่าวบอกเจ้าหนูตัวน้อย

"จี๊ดๆ ~" เสี่ยวจินพยักหน้ารับคำเบาๆ ร่างเล็กลอยไปตรงหน้าต้วนหลิงเทียน ก่อนที่มันจะขยายขนาดใหญ่โตขึ้นมา แลไปคล้ายเนินเขาย่อมๆ

หลังจากที่มันตัดผ่านไปยังระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 3 แล้ว ขนาดตัวของเจ้าเสี่ยวจินก็ใหญ่โตเพิ่มมากขึ้น

แต่ก่อนมันสูงราวๆ 3 เมตรเท่านั้น แต่ตอนนี้ล่อไป 4 เมตรแล้ว!

หลังจากที่เสี่ยวจินตัวใหญ่ขึ้น แผ่นหลังของมันก็แลดูจะมีพื้นที่กว้างขวางมากขึ้นเช่นกัน  นับว่ามีที่ว่างเหลือเฟือให้โม่อี้และต้วนหลิงเทียนนั่งได้สบาย

เมื่อเวลาผ่านไป หยาดน้ำตาโม่อี้ก็เริ่มแห้งเหือด มันยับยั้งความเศร้าโศกเอาไว้ในใจ

มันย่อมรู้ดีแก่ใจว่าตอนนี้สมควรกระทำอย่างที่ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนของมันกล่าว  มันต้องขยันบ่มเพาะ พยายามให้หนักขึ้น! ยกระดับเพิ่มพูนขีดขั้นความสามารถ เพื่อล้างแค้นให้อาจารย์ ล้างแค้นให้นิกายกระบี่ 7 ดาว!

"อาจารย์ท่านอย่าได้มีห่วงเลย …ข้ากับศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนจะร่วมกันสร้างนิกายกระบี่ 7 ดาวขึ้นมาอีกครั้ง!" โม่อี้ตั้งเป้าหมายและเอ่ยกล่าวคำมั่นต่อตัวเองขึ้นมา

โม่อี้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะมองไปยังหนูสีทองตัวขนาดมหึมา ที่มันนั่งอยู่ และพยายามระงับความตื่นตระหนกเอาไว้

ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม จะแปลกประหลาดมหัศจรรย์เพียงใด หากมันเกิดขึ้นด้วยน้ำมือศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนมันก็ไม่ค่อยตกใจอะไรมากนัก..

นี่เพราะศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนมักทำให้ผู้คนตื่นตระหนกตกใจอยู่แล้ว

"พี่ใหญ่หลิงเทียน แล้วพวกเราจะไปที่ไหนกันดีหรือ?" เสี่ยวจินส่งเสียงกล่าวถามต้วนหลิงเทียนผ่านพลังงานต้นกำเนิด

"เสี่ยวจิน เจ้าพาพวกเราบินลงใต้ไปเรื่อยๆ …ข้าคิดจะกลับไปยังอาณาจักรนภาล่อง" ต้วนหลิงเทียน มองไปยังสุดขอบฟ้าทางทิศใต้ในขณะที่กล่าวคำ

สำหรับชีวิตใหม่ที่โลกใบนี้แล้ว…อาณาจักรนภาล่องนั้น ก็เปรียบเสมือนรากฐานของเขา…

อีกทั้งคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขายังอยู่ที่นั่น

ซู่มมมม!!

ร่างเสี่ยวจิน หันมองทิศทางก่อนที่จะพุ่งออกไปราวกับสายฟ้าสีทอง มุ่งหน้าลงใต้ในทันใด เมฆหมอกกระจายแยกตัวแหวกออกเป็นทาง แลคล้ายถนนเส้นหนึ่งตัดผ่านกลางฟ้า

ต้วนหลิงเทียนนั่งอยู่บนด้านหลังเสี่ยวจินด้วยสีหน้าสงบ เขามองไปยังทิศทางเบื้องหน้าด้วยสายตาเหม่อลอย ไม่มีใครรู้ว่าในหัวคิดอ่านประการใด

ส่วนโม่อี้นั้นมันนั่งเงียบๆ หลับตาขัดสมาธิเริ่มโคจรพลังงานต้นกำเนิดสั่งสมเพิ่มพูนพลัง และมันก็จมอยู่กับการบ่มเพาะเช่นนี้ไปตลอดทาง

เพราะจะอย่างไรเมื่อนิกายกระบี่ 7 ดาวประสบภัยพิบัติเช่นนี้ ตัวมันที่เป็นศิษย์ส่วนตัวของหลิ่งหูจิ่นหง โม่อี้ย่อมมีภาระรับผิดชอบต่อนิกายไม่ได้น้อยไปกว่าต้วนหลิงเทียน

ในตอนที่ต้วนหลิงเทียนเดินทางออกจากอาณาจักรนภาล่องด้วยอาชาเหงื่อโลหิตตอนนั้น มันใช้ระยะเวลาเดินทางค่อนข้างนานนัก…

แต่ด้วยการอาศัยเจ้าเสี่ยวจินอันเป็นสัตว์อสูรปีศาจแรกสัมผัสธรรมชาติเหินบินไปเช่นนี้  จากความเร็วที่สูงที่สุดเท่าที่จะใช้ได้ …ทำให้ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ก็เข้าเขตอาณาจักรนภาล่องแล้ว

"ไปทางนั้น!" ต้วนหลิงเทียนชี้ไปยังทิศทางหนึ่งไกลตา  บอกทางให้เสี่ยวจิน

นั่นเป็นตำแหน่งที่ตั้ง ของเมืองหลวงแห่งอาณาจักรนภาล่อง …

"ท่านแม่ ข้ากำลังกลับบ้านแล้ว..!" ต้วนหลิงเทียนที่น่าเครียดมา 2-3 วัน วันนี้พอได้คลี่ยิ้มออกมา

‘จากไปก็หลายปีแล้ว ป่านนี้ท่านแม่เป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้…’

ต้วนหลิงเทียนรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมา หมายเดินทางกลับบ้านให้รวดเร็วที่สุด

เพียงใช้เวลาเดินทางอีกวันหนึ่ง ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็บรรลุถึงเมืองหลวง

และเพื่อไม่ให้ผู้คนตื่นตระหนก ต้วนหลิงเทียนบอกให้เสี่ยวจินลงจอดนอกเมืองหลวง แล้วก็เดินเท้าเข้าเมืองไปพร้อมๆกับโม่อี้

ส่วนเจ้าเสี่ยวจินก็หดตัวไปนั่งบนไหล่ต้วนหลิงเทียน มองไปยังเมืองเบื้องหน้าด้วยความสนใจ  ส่งเสี่ยงผ่านพลังงานต้นกำเนิดกล่าวถาม“พี่ใหญ่หลิงเทียน นี่หรือเมืองหลวงของอาณาจักรนภาล่อง?”

"ใช่แล้ว" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า ส่งเสียงตอบกลับ

“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน สถานที่แห่งนี้คือที่ใดหรือขอรับ?” โม่อี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเห็นเมืองที่ตั้งตรงหน้า

ตลอดระยะเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา มันนั่งบ่มเพาะพลังอยู่บนหลังเสี่ยวจินโดยไม่ได้ดูทิศทางอะไรเลย ไม่รู้ว่าเจ้าหนูสีทองตัวนี้พามันมาที่แห่งใดแล้ว

แต่มันก็มั่นใจได้อยู่อย่างหนึ่ง ว่าสถานที่ๆเจ้าหนูสีทองตัวนี้นำมา ต้องเป็นสถานที่ๆ ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนต้องการมาเป็นแน่…

"ที่นี่น่ะหรือ…อ่า..เรียกได้ว่ามันเป็นบ้านของข้าก็ได้" ต้วนหลิงเทียนยิ้มออกมาเล็กน้อย จะอย่างไรอาณาจักรนภาล่องก็เป็นมาตุภูมิของเขา

"บ้านหรือ?" ม่านตาของโม่อี้หดแคบลง ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ “ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน ข้าเคยได้ยินศิษย์บางคนกล่าวว่า ท่านมาจากอาณาจักรอาณาจักรนภาล่อง  ที่อยู่ภายใต้อาณัติของอาณาจักรพนาครามอีกทีหรือขอรับ” …

"ใช่แล้ว" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า เขาเดินนำโม่อี้มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงชั้นนอก ในขณะที่เดินยังกล่าวออกมาอีกว่า “ที่แห่งนี้คือมาตุภูมิของข้า อาณาจักรนภาล่อง  และบ้านเกิดของข้าก็อยู่ในเมืองหลวงนี่ล่ะ”

บ้าน

คำว่าบ้านของต้วนหลิงเทียนนี้ ก็คือสถานที่ๆมารดาของเขาอยู่

ความรู้สึกเดียวที่ทำให้เขาคิดถึงบ้าน ก็คือความคิดถึงต่อมารดาเขา

เพียงมีมารดาของเขาพร้อมหน้าพร้อมตาเท่านั้น …เขาถึงจะเรียกสถานที่แห่งนั้นว่าบ้านได้เต็มปาก…

เพราะในโลกนี้สำหรับตัวเขาแล้ว มารดาเป็นคนที่สำคัญที่สุด…

โม่อี้พยักหน้ารับ ท่าทางแลดูตื่นเต้นไปและกระตือรือร้นไม่น้อย

‘สถานที่แห่งนี้คือบ้านเกิดของศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนเช่นนั้นหรือ…ข้าสงสัยนักว่าสถานที่แห่งนี้มันเป็นเช่นไรกันแน่? ถึงได้สามารให้กำเนิดอัจฉริยะไร้ผู้ต้านอย่างศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนออกมาได้!’ ในใจโม่อี้เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

นั่นเพราะพรสวรรค์ในเชิงยุทธ์ของต้วนหลิงเทียนเป็นเรื่องพิสดาร และน่าเหลือเชื่อมากเกินไป

กระทั่งแม้ในขณะที่นิกายกระบี่ 7 ดาวกำลังจะถูกทำลาย 3 ประมุขของนิกายใหญ่ ยังไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะฆ่าศิษย์ที่มีพรสวรรค์ตามธรรมชาติมิใช่ชั่วทั้ง 2 คน เพื่อประโยชน์ในการได้ตัวต้วนหลิงเทียน

เพียงดูจากเรื่องราวและการกระทำครานี้ ก็บ่งบอกมูลค่าต้วนหลิงเทียนได้อย่างดีแล้ว

ต้วนหลิงเทียนเดินเข้าประตูเมืองหลวงชั้นนอกไปพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม… เขาสูดดมอากาศสัมผัสกลิ่นอาย รับบรรยากาศอันแสนคุ้นเคย

จากไปไม่กี่ปี ตัวเมืองก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากกาลก่อนมากนัก

“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน เมืองหลวงของท่าน ยังมีเมืองอยู่ด้านในตัวเมืองอีกทีเช่นนั้นหรือขอรับ?” โม่อี้กล่าวถามด้วยความประหลาดใจ เพราะเมื่อเข้าประตูเมืองหลวงชั้นนอกมา มองไปไกลๆ มันก็เห็นประตูเมืองหลวงชั้นในที่ดูเหมือนจะปิดอยู่อีกที

“ใช่แล้ว…ข้างหน้าเรียกว่าเมืองหลวงชั้นในของอาณาจักรนภาล่อง…ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ประตูเมืองจะเปิด พวกเราไปหาอะไรกินกันที่เหลาอาหารก่อนเถอะ  เมื่อหาอะไรรองท้องเสร็จแล้วน่าจะได้เวลาที่ประตูเมืองเปิดพอดี  ตอนนั้นพวกเราค่อยเข้าไปเมืองหลวงชั้นใน” ต้วนหลิงเทียนนำโม่อี้ไปยังเหลาอาหาร ที่สามารถมองเห็นประตูเมืองชั้นในได้…

ต้วนหลิงเทียนเพียงสั่งอาหารไม่กี่รายการ และอาหารก็ใช้เวลาทำไม่นาน ก็ยกมาจัดวาง

ต้วนหลิงเทียนไม่รอช้าเรียกโม่อี้ให้ลงมือจัดการทันที  โม่อี้ก็หยิบชามกับตะเกียบขึ้นมาจัดการอาหารเบื้องหน้าอย่างไม่เกรงใจ พุ้ยข้าวพร้อมกับคำใหญ่เข้าปากเคี้ยวหงุบหงับ

"จี๊ด ~" เจ้าหนูขนทองก็ไม่มีเกรงใจผู้ใด มันพุ่งไปคว้าเนื้อชิ้นใหญ่มาก่อนใครเพื่อน ก่อนที่จะจัดการจนหมดในเวลาอันรวดเร็ว!

ในขณะที่กินข้าวต้วนหลิงเทียนก็เงี่ยหูฟังบทสนทนาของลุกค้ารอบๆข้าง เพื่อติดตามสถานการณ์เรื่องราวในเมืองเช่นกัน

“ข้าได้ยินมาว่า ที่คณะทูตของอาณาจักรตะวันฉายมาคราวนี้ พวกมันหาได้มีเจตนาดีไม่…แลผิวเผินแล้วมิต่างอันใดกับการเยี่ยมเยือน ประสาอาณาจักรพันธมิตร  …แต่อันที่จริงแล้วพวกมันคิดข่มเหงอาณาจักรนภาล่องของเรา”

“ข้าเองก็ได้ยินมาเช่นนั้น ว่าคราวนี้คณะทูตของอาณาจักรตะวันฉาย มันนำพาอัจฉริยะรุ่นเยาว์อันโดดเด่นมาด้วยถึง 3 คน…หากข่าวมิผิด คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกมันนั้น ตัดผ่านไปยังระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 1 ได้แล้ว!”

“ส่วนอาณาจักรนภาล่องเรา อัจฉริยะในรุ่นนี้เห็นทีจะเป็น ท่านเจ้าพระยาน้อย ของจวนเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์นี่เฝิน…แต่จะอย่างไรระดับบ่มเพาะของเจ้าพระยาน้อยยังเป็นแค่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 เท่านั้น…ข้าเกรงว่าจักสู้อัจฉริยะอันโดดเด่นของทางอาณาจักรตะวันฉายนั่นมิได้…”

“ฮึ่ม! เห็นว่าอายุของคนอาณาจักรตะวันฉายนั่นมากกว่าเจ้าพระยาน้อยตั้งหลายปี…ถึงแม้มันจะเอาชนะเจ้าพระยาน้อยได้ ยังจะมีอันใดน่ายินดี? เพียงพึ่งพาระยะเวลาบ่มเพาะเท่านั้น หาได้วัดกันที่ความสามารถไม่!!”

“เฮ่อ…น่าเสียดายยิ่ง ที่นอกจากท่านเจ้าพระยาน้อยแล้ว รุ่นเยาว์ของอาณาจักรนภาล่องเรา มิมีผู้ใดสามารถเป็นตัวแทนอาณาจักรได้สักคน..”

“ผู้ใดว่ามิมี เจ้าอย่าได้ลืม เซี่ยวหยู กับเซี่ยวฉินแห่งตระกูลเซี่ยวของเมืองหลวงเรา นอกจากนี้คนของตระกูลซูเองก็มิใช่ชั่ว… แต่น่าเสียดายยิ่ง ที่ต่างอายุน้อยเกินกว่าอีกฝ่ายมากนัก ความแข็งแกร่งของพวกมันยังมิพอ เอาชัยเหนืออัจฉริยะของอาณาจักรตะวันฉาย…”

…

ลูกค้า 2-3 คนที่นั่งโต๊ะไม่ไกลจากต้วนหลิงเทียน กล่าวสนทนากันอย่างมีอารมณ์

อาณาจักรตะวันฉายหรือ?

คิ้วของต้วนหลิงเทียนโค้งขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินบทสนทนาของอีกโต๊ะ..

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 456 : หวนคืนสู่ อาณาจักรนภาล่อง"

3.7 233 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
มิถุนายน 26, 2022
นักล่าปีศาจ
นักล่าปีศาจ
พฤศจิกายน 12, 2023
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!
มีนาคม 12, 2022
Gate of God
Gate of God
พฤษภาคม 17, 2022
อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ (Cultivation Online)
อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ (Cultivation Online)
เมษายน 24, 2023
The favored son of heaven
The favored son of heaven
มกราคม 31, 2024
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz