สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 453 : เปิดฉาก สังหาร!
WSSTH บทที่ 453 : เปิดฉาก สังหาร!
"ยินดีต้อนรับ!" ประมุขของนิกายบัวปีศาจคมมีด และประมุขนิกายกุ้ยหยวนเอง ก็ยิ้มแย้มแช่มชื่น หันไปมองต้วนหลิงเทียนแล้วกล่าวต้อนรับอย่างยินดี
ในตอนนี้แม้แต่เหล่าอาวุโสต่างๆของทั้ง 3 นิกายเองก็หันไปจับจ้องยังร่างต้วนหลิงเทียน
พวกมันทั้งหมดล้วนได้ยินเรื่องราว และตำนานของต้วนหลิงเทียนมานานแล้ว
พวกมันทุกคนได้รับรู้ว่า เขาเป็นอัจฉริยะในเชิงยุทธ์อันไร้ผู้ต้านแห่งอาณาจักรพนาคราม และพรสวรรค์ในเชิงยุทธ์อันสูงส่งนี้ ยังเรียกได้ว่าเป็นประวัติการณ์ของอาณาจักรพนาคราม!
"อนิจจา …สุดท้ายศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนก็ต้องจากไป…" ศิษย์นิกายที่ยังเหลือจำนวนมากต่างระบายลมหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้
ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ของเรื่องราวจะออกมาในรูปนี้ แต่พวกมันก็ไม่ได้ตำหนิอะไรต้วนหลิงเทียน กระทั่งยังรู้สึกขอบคุณต้วนหลิงเทียนอยู่ไม่น้อย
เพราะจะอย่างไร ต้วนหลิงเทียนก็ได้จัดการกับตัวบัดซบคิดคดทรยศทั้ง 2 นั่นก่อนที่จะจากไป….
เขาสามารถทำอะไรอย่างที่พวกมันต้องการแต่ไม่อาจกระทำได้ แทนพวกมัน…
นอกเหนือจากจ้าวหลินแล้ว เหล่าตัวตนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาว จับจ้องไปยังร่างของต้วนหลิงเทียนด้วยความพึงพอใจ
"ต้วนหลิงเทียน หากเจ้าพบเฟยอีกครั้งอย่าได้ลืมกำชับนาง …ว่าอย่าได้คิดแก้แค้นให้ข้า จนกว่าความแข็งแกร่งของนางจะสะท้านสะเทือนได้ทั้งนิกายไตรพนาคราม และคงเป็นเรื่องดีที่สุดที่นางจักล้มเลิกความคิดแก้แค้นนี้ไปเสีย ข้าที่เป็นอาจารย์ หวังเพียงให้นางมีชีวิตที่ดีและสงบสุข…ไร้ซึ่งห่วงกังวลใดๆ! " ตอนนี้เองเสี่ยงผ่านพลังงานต้นกำเนิดของอาวุโสไป่พลันดังขึ้นในหูต้วนหลิงเทียน นางกล่าวราวกับนี่เป็นคำสั่งเสียของนาง
"อาวุโสไป่ ขออภัยต่อท่านแล้ว…เกรงว่าความนี้ของท่าน…ข้าคงไม่อาจนำไปบอกเสี่ยเฟยได้" มุมปากของต้วนหลิงเทียนยกขึ้นเล็กน้อยเผยรอยยิ้มขื่นขมออกมา ในขณะหันไปกล่าวส่งเสียงผ่านพลังงานต้นกำเนิดตอบอาวุโสไป่
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" อาวุโสไป่อดที่จะตกตะลึงขึ้นมาเสียไม่ได้ เมื่อได้ยินคำกล่าวตอบของต้วนหลิงเทียน
ครู่ต่อมานางก็ได้รับคำตอบ
ต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่ริมขอบเวทีประลองเป็นตาย เงยหน้าขึ้นพร้อมหันไปมองประมุขทั้ง 3 ด้วยรอยยิ้มบางๆ "ประมุขทั้งหลาย ข้าต้องขอบคุณในไมตรีของพวกท่าน สำหรับการลงมือครั้งนี้… แต่ข้าเองก็ได้รับไมตรีอันล้นเหลือจากประมุขนิกายกระบี่ 7 ดาวเช่นกัน… เช่นนั้น ข้าเกรงว่าคงไม่อาจไปเข้าร่วมกับพวกท่านได้… " คำกล่าวของต้วนหลิงเทียนนั้นบ่งบอกว่าเขาพร้อมร่วมเป็นร่วมตายกับนิกายแล้ว
คำกล่าวประกาศครั้งนี้ทำให้ทุกคนล้วนอื้ออึงกันไปหมด
"ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน … " ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวจำนวนมากรู้สึกตกตะลึง อย่างไม่อยากจะเชื่อ
เหล่าตัวตนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาวเองก็อึ้งไปไม่แพ้กัน
"เจ้าคิดกลับคำพูดของเจ้าหรือไร?" หน้าของประมุขนิกายทั้ง 3 ดิ่งลงโดยพลันแววตาของพวกมันคล้ายมีเพลิงแห่งโทสะลุกโชนขึ้น พวกมันปะทุโชติช่วงอย่างยากจะดับ
"น่ารังเกียจยิ่งนัก"
"เจ้ากล้ากล่าววาจากลับกลอก?!"
…
ตอนนี้เหล่าอาวุโสและผู้คนที่ปิดล้อมยอดเขาเทียนชูต่างระเบิดคำก่นด่าออกมา
"ประมุขทั้งหลาย ข้าเองก็เสียใจจริงๆ… จริงๆแล้วก่อนหน้าข้าแค่ล้อเล่นเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งข้าบอกว่าอาจจะเข้าร่วม ไม่ใช่ว่าข้าจะเข้าร่วมเสียหน่อย อันที่จริงแล้ว…ข้าเองก็ไม่คิดว่าท่านทั้งหลายกลับยินดีสละศิษย์ 2 คนเพื่อประโยชน์ของข้า …นี่ทำให้ข้ารู้สึกยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้รับการดูแลอย่างเหลือเชื่อเช่นนี้" ต้วนหลิงเทียนถูจมูกก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างเขินอาย
คำกล่าวนี้ของต้วนหลิงเทียน แน่นอนว่าดังเข้าหูประมุขทั้ง 3 ชัดเจน และนั่นทำให้เพลิงโทสะของพวกมันลุกโชนขึ้น!
"ต้วนหลิงเทียน เมื่อเจ้าไม่คิดเข้าร่วมนิกายไตรพนาครามของเรา เช่นนั้นก็ลงนรกไปเสีย!" หลู่หยวนเป็นคนแรกที่อดรนทนไม่ไหว พลังงานต้นกำเนิดในร่างของมัน พวยพุ่งออกมาปานทะลุฟ้า มันพุ่งร่างออกไปจากหลังของอีแร้งขนหยกไปด้วยความเกรี้ยวกราด ประหนึ่งเหยี่ยวผยองทะยานถาโถมไปทางต้วนหลิงเทียน
นี่เพราะเพื่อตอบรับเงื่อนไขของต้วนหลิงเทียน… มันถึงกับต้องฆ่าศิษย์ส่วนตัวที่ดีที่สุดที่มันมีไปด้วยมือของมันเอง…!
เรื่องนี้ทำให้มันรู้สึกโมโหและโกรธเกรี้ยวนัก!
เหตุใดมันต้องไปเชื่อวาจาจิ้งจอกน้อยอย่างต้วนหลิงเทียนด้วย?
ซู่ม! ครืน ครืน ครืนน!
…
เสียงอากาศแตกระเบิดดังขึ้นถี่ยิบเมื่อหลู่หยวนพุ่งร่างมาด้วยความเร็วสูง
เหนือขึ้นไปบนฟ้าปรากฏเงาร่างมังกรโบราณ 8 ตัว พร้อมกับความน่าเกรงขามและงดงามประหนึ่งสายรุ้งทอข้ามผืนฟ้า
เปรี๊ยงงง!!
หลู่หยวนที่บันดาลโทสะถึงขีดสุด ตบฟาดฝ่ามือออกไป ซัดคลื่นพลังงานต้นกำเนิดอันหนักหน่วงให้พวยพุ่งออกไป ก่อเกิดเป็นพลังฝ่ามือไร้สภาพขุมหนึ่ง ฝ่ามือนี้อัดแน่นไปด้วยความแข็งแกร่งเต็มพิกัดของมังกรโบราณทั้ง 8 พุ่งทะยานตัดฟ้าไปหาต้วนหลิงเทียน และในเวลาเดียวกันกับที่หลู่หยวนลงมือนั้น หลิ่งหูจิ่นหงเองก็ขยับร่างออกไปเช่นกัน
ฟั่บบบ ซู่ววววววววววววว!!
พลังงานต้นกำเนิดทั่วร่างหลิ่งหูจิ่นหงพุ่งทะยานถึงขีดสุดพร้อมควบรวมลงกระบี่ในเสี้ยวพริบตา ก่อนที่จะสะบัดฟาด ก่อเกิดคลื่นสะบั้นไร้สภาพดั่งจันทร์เสี้ยว พุ่งไปรวดเร็วดั่งดาวตก ฉับไวเสียยิ่งกว่าพลังฝ่ามือของหลู่หยวน
เหนือร่างหลิ่งหูจิ่นหงขึ้นไปบนทองฟ้า พลังฟ้าดินค่อยๆตอบรับก่อเกิดเงาร่างมังกรโบราณออกมา 14 ตัว..!
ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ระดับ หยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 6 พลังฝึกฝนของหลิ่งหูจิ่งหงเทียบได้กับ เงาร่างมังกรโบราณ 8 ตัว …
และความแข็งแกร่งที่เพิ่มมาอีก ถึง 6 เงาร่างมังกรโบราณนั้น ล้วนเกิดจาก แนวคิดกระบี่ระดับ 6 ของหลิ่งหูจิ่นหง!
ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนเผยความเคร่งเครียดไม่น้อยเมื่อเห็น พลังฝ่ามือไร้สภาพของหลู่หยวนพุ่งเข้ามา
เมฆลมประสานเคลื่อนคล้อย!
เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อระเบิดความเร็วสูงสุด แต่นับว่ายังยากที่เขาจะหลีกหนีพลังฝ่ามือที่พุ่งจี้เข้ามาหลู่หยวนได้
ทั้งราวกับพลังฝ่ามือไร้สภาพนี้จะมีดวงตางอกเงยขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น มันไล่ตามจี้ติดเขาอย่างกับเงาตามตัว
"ท่านแม่…เค่อเอ๋อ เสี่ยวเฟย … " อารมณ์ความรู้สึกบีบคั้นเช่นนี้ทั้งยังความตายที่ย่างกรายเข้ามา ทำให้ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ ที่จะเกิดความคิดอาลัยนึกถึงสตรีคนสำคัญทั้ง 3 ที่มีค่าที่สุดในชีวิตนี้
ตอนนี้ร่างคนสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา ปรากฏขึ้นมาชัดเจนในใจอย่างไม่อาจห้ามได้ …
"จี๊ด ~" ตอนนี้เองเสียงเล็กแหลมของหนูสีทองตัวน้อยพลันดังขึ้น
ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็สังเกตเห็นว่า ข้อมือของเขาถูกบางสิ่งมัดเอาไว้ และเมื่อมองไปก็พบว่าเป็นหางของเจ้าหนูตัวน้อยที่รัดพันอยู่รอบข้อมือ และกำลังฉุดดึงร่างเขาอกพุ่งออกไป
ความเร็วในการพุ่งตัวออกไปครั้งนี้เหนือกว่าความเร็วที่เขาใช้ออกอย่างนำมาเทียบกันไม่ติด
และตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนพลันได้ยินเสียงหนึ่ง เพียงฟังดูเขาก็รู้ว่ามันเป็นเสียงแหวกฝ่าสายลมของคลื่นพลังกระบี่ ทั้งเสียงนี้ยังดังราวกับอยู่ข้างหู
ซู่มมม!!
เปรี๊ยงงงงงง!!
เป็นคลื่นพลังสะบั้นไร้สภาพ ที่หลิ่งหูจิ่นหงอัดพลังงานต้นกำเนิดผสานลงไปในกระบี่ซัดฟาดออกมา มันผ่าทำลายพลังฝ่ามือไร้สภาพของหลู่หยวนจนพินาศสิ้น…
“ประมุขหลิ่งหู ข้ามิคิดคาดเลยว่าเจ้าจักเข้าใจแนวคิดกระบี่ระดับ 6 แล้วเช่นนี้…หากนับในด้านความแข็งแกร่งแล้ว ในนิกายกระบี่ 7 ดาว เจ้าคงเป็นรองเพียงอาวุโสเฉียน! ” หลู่หยวนมองหลิ่งหูจิ่นหง ก่อนที่จะปรากฏหอกเล่มหนึ่งจากอากาศว่างเปล่าเข้าสู่มือ ตัวหอกถูกถ่ายทอดพลังงานต้นกำเนิดลงไปจนมันเริ่มเรืองแสงออกมา เผยสภาวะแหลมคมแข็งแกร่ง ปานจะทะลุทะลวงได้ทุกสิ่ง
แนวคิดหอก!
ต่างจากหลิ่งหูจิ่นหงที่ใช้กระบี่ อาวุธที่หลู่หยวนใช้คือหอก!
มีผู้ฝึกยุทธ์จำนวนน้อยมากในทวีปเมฆาล่องที่ใช้หอก และบรรดาผู้ที่ใช้หอกส่วนมากแล้วเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงทั้งสิ้น!
วู้มมมม!
หอกในมือของหลู่หยวนเริ่มสั่นขึ้นเล็กน้อย พลังงานต้นกำเนิดที่โคจรหมุนวนอยู่รอบตัวหอก แลไปคล้ายเปลวเพลิงที่โชติช่วงลุกโชนอย่างร้อนระอุ คล้ายมันจะผลาญทุกสรรพสิ่งให้หวนคืนสู่ความว่างเปล่า
ในเวลาเดียวกันนี้เหนือขึ้นไปจากร่างของหลู่หยวน ก็มีเงาร่าง 16 มังกรโบราณแหวกว่ายวนเวียนบนฟ้า
อีกทั้งรอบๆ เงาร่างมังกรโบราณทั้ง 16 ตัวแล้ว ยังมีเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 8,000 ตัวอยู่รอบนอก แลคล้ายดาวบริวารของดาวเคราะห์อย่างไรอย่างนั้น
หลู่หยวน ประมุขนิกายกุ้ยหยวน เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 6 ครอบครองหอกวิญญาณระดับ 5 และบรรลุแนวคิดหอกระดับ 5!
"อาวุธวิญญาณระดับ 5!"
"นั่นเป็นอาวุธที่สืบทอดกันในนิกายกุ้ยหยวน หอกทะเลเดือด!"
“ข้าเคยได้ยินเรื่องหอกทะเลเดือดที่อยู่ในการครอบครองของประมุขหลู่ เล่มนี้มานานแล้ว มันเป็นหอกวิญญาณระดับ 5 และยังเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 5 เล่มเดียวที่นิกายกุ้ยหยวนมี”
…
ศิษย์บางส่วนของนิกายบัวปีศาจคมมีดและนิกายหิมะจันทราอดไม่ได้ที่จะระบายหายใจเต็มไปด้วยอารมณ์ออกมา
ครู่ต่อมาทุกคนก็หันไปจับจ้องมองยังร่างหลิ่งหูจิ่นหงที่กำลังจะปะทะกับหลู่หยวน
หลิ่งหูจิ่นหงเพียงลอยร่างตระหง่านกลางหาว เสื้อผ้าไหวๆไปมาแม้จะไร้สายลมพัดผ่าน
กระบี่ที่ปรากฏออกมาพร้อมทั้งฟันฟาดพลังสะบั้นไปเมื่อครู่อย่างฉับไว ยามนี้กำลังทอประกายออกมาอย่างลี้ลับ ราวกับมีคลื่นแสงหมุนวนอยู่ทั่วใบกระบี่
และด้วยพลังงานต้นกำเนิดพร้อมแนวคิดกระบี่ที่ถูกเร่งเร้าถ่ายเทลงไปยังตัวกระบี่ ทำให้ตัวกระบี่สำแดงอานุภาพของมันออกมา
ครืนนนน!!
เหนือขึ้นไปบนฟ้า ปรากฏเงาร่างมังกรโบราณออกมา 17 ตัว
รอบๆ เงาร่างมังกรโบราณทั้ง 17 ตัว ยังมีเงาร่างช้างแมมมอธโบราณอีก 8,000 ตัวห้อมล้อมวนเวียน!
“ท่านประมุข!” ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวจับจ้องมองไปยังร่างของหลิ่งหูจิ่นหง และตอนนี้ท่าทางของทุกคนบังเกิดความเร่าร้อน ดั่งโลหิตทั่วกายเดือดพล่าน
นี่คือประมุขของนิกายกระบี่ 7 ดาว!
เห็นได้ชัดว่ามีความแข็งแกร่งและทรงพลังเสียยิ่งกว่าประมุขหลู่ แห่งนิกายกุ้ยหยวน!
“ประมุขหลิงหู ข้าต้องยอมรับว่า ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่าน … แต่น่าเสียดายที่นี่มิใช่เพียงการต่อสู้ของเราสองคน แต่เป็นการต่อสู้ของนิกายกระบี่ 7 ดาวเจ้า กับนิกายไตรพนาครามของเรา!” หลู่หยวนยังเผยท่าทีสงบออกมา ในขณะเดียวกันตอนนี้มันก็ค่อยๆยกมือขึ้น “ศิษย์นิกายไตรพนาครามรับคำสั่ง….”
ทันใดนั้นหลู่หยวนพลันสะบัดมือลง
"ฆ่าพวกมันให้สิ้น!!" ตอนนี้ประหนึ่งหลู่หยวนกลับกลายเป็นผู้พิพากษาแห่งความเป็นตาย ลิขิตชะตาชีวิตทุกผู้คน
"ฆ่า!"
"ฆ่ามันให้หมด!"
…
ทันใดนั้นเหล่าศิษย์นิกายไตรพนาครามราวกับฝูงผึ้งแตกรัง ถาโถมกวาดไปทางศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาว ที่เหลือที่จะร่วมเป็นร่วมตายกับนิกาย
ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวย่อมไม่ยินดีนอนรอความตาย ต่างชักอาวุธพุ่งร่างเข้าไปปะทะ หมายเข่นฆ่าศัตรูผู้รุกราน
และเกือบจะเป็นเวลาเดียวกัน เหนือฟ้า ร่างตัวตนระดับสูงทั้งหลายต่างเข้าปะทะหักหาญ หมายประหัตประหารอีกฝ่ายให้มอดม้วย
ทั้งหมดนี้คือเหล่าตัวตนระดับแนวหน้าของอาณาจักรพนาคราม ทุกกระบวนท่าการเคลื่อนไหว ด้วยพลังงานต้นกำเนิดอันมหาศาลและแนวคิดอันน่าพรั่นพรึง บันดาลให้ผืนฟ้าส่องแสงสว่างไสว
ณ ยอดเขาเทียนชูวันนี้ เทศกาลล่าสังหารได้เบิกฤกษ์ขึ้นแล้ว..
"ฆ่า!"
"ฆ่า!"
…
คลื่นเสียงแฝงไปด้วยอำมหิตและจิตสังหารดังระงมขึ้นรอบด้านของต้วนหลิงเทียน สัมผัสจากพลังวิญญาณบ่งบอกชัดเจนว่ายามนี้ …ร่างที่เสือกอาวุธพุ่งเข้ามาหมายดับชีวิตเขามีนับสิบนับร้อยชีวิต!
วิชาวาดกระบี่!
ประกายตาของต้วนหลิงเทียนกลับกลายเป็นเย็นเยือกไร้อารมณ์ กระบี่อ่อนดาราม่วงที่ถูกเรียกออกมาถือในมือเริ่มเรืองรองส่องแสง ร่างคนคล้ายกลับกลายเป็นสายลมพุ่งแทรกเข้าไปใจกลางวงศิษย์นิกายไตรพนาคราม เส้นแสงกระบี่วูบวาบในอากาศ ปลิดชีพศิษย์นิกายไตรพนาครามไปรวดเร็วดั่งเด็ดใบไม้
หนึ่งกระบี่ 1 ชีวิต! เพียงไม่กี่ลมหายใจ ศีรษะที่ถูกปลิดปลงเกลื่อนกลาดกลิ้งเกลือบนพื้นนับสิบๆหัว ร่างต้วนหลิงเทียนชโลมย้อมไปด้วยเลือดของศิษย์ไตรพนาคราม แววตายิ่งมายิ่งอำมหิต จิตสังหารจำนวนมากทะลักล้นออกมากดดันในบรรยากาศ ลดทอนสภาวะแหลมคมของผู้ที่บุกเข้ามา
พันมายาลวงตา!
ท่ามกลางกลุ่มคนนับสิบ บังเกิดแสงสว่างลี้ลับเรืองรองขึ้นในดวงตาของต้วนหลิงเทียนที่กำลังหมุนตัวตวัดกระบี่เชือดลำคอผู้คน เป็นพลังวิญญาณมหาศาลหลั่งไหลลงสู่ตราประทับจิต ก่อนที่มันจะเผยอำนาจจิตออกไปทางดวงตา
และทันใดนั้นรอบๆตัวของต้วนหลิงเทียนในรัศมี 10 เมตร ตราบใดที่ศิษย์นิกายไตรพนาครามที่แห่กันเข้ามามีพลังวิญญาณต่ำต้อยกว่าต้วนหลิงเทียน ทั้งหมดล้วนจมจ่อมสู่ภาพลวงตา เหวี่ยงอาวุธประหัตประหารเพื่อนข้างกายกันด้วยรอยยิ้มยินดีบนใบหน้า
ภาพสหายชักอาวุธจ้วงแทงสับร่างสหายด้วยกัน ทำให้ศิษย์ที่อยู่นอกรัศมีบังเกิดความหวาดกลัวอันหนักหนา ไม่กล้าเข้าไป ได้แต่ฟังสหายที่เสียสติเข่นฆ่าสหายร่วมรบด้วยความหวาดกลัว
“ข้าฆ่าต้วนหลิงเทียนได้แล้ว!”
“อัจฉริยะรู้ต้านตกตายด้วยมือข้า!”
….
"พวกเจ้าระวัง! ต้วนหลิงเทียนสามารถใช้ วิชาปีศาจได้!!"
…
ครู่ต่อมามีเหล่าอาวุโสของนิกายไตรพนาครามได้สังเกตเห็นความผิดปกติ ที่เกิดขึ้นจากอำนาจจิตของต้วนหลิงเทียน
แน่นอนว่าพวกมันย่อมไม่รู้ว่านี่คืออำนาจจิตของต้วนหลิงเทียน พวกมันเพียงคิดว่านี่ต้องเป็นวิชาปีศาจบัดซบวิชาหนึ่ง
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
ผู้อาวุโสทั้งหลายของนิกายไตรพนาครามไม่อาจปล่อยให้ศิษย์ทั้งหลายเข่นฆ่ากันเองในลักษณะนี้ต่อไป พวกมันเริ่มลงมือด้วยตัวเอง ต่างพุ่งร่างไปหาต้วนหลิงเทียนอย่างพร้อมเพรียงราวกับนัดหมายกันไว้
แน่นอนว่าเหล่าอาวุโสเหล่านี้ล้วนมีพลังวิญญาณที่เหนือกว่าต้วนหลิงเทียนทั้งสิ้น และนั่นทำให้อำนาจจิตพันมายาลวงตาของต้วนหลิงเทียนไม่อาจใช้ได้ผล มันไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง…
เพียงพริบตากลุ่มอาวุโสของนิกายไตรพนาครามก็ เจียนบรรลุถึงตัวต้วนหลิงเทียน
"สุดท้ายข้าก็ต้องตายหรือ?" รอยยิ้มขื่นขมปรากฏขึ้นที่มุมปากของต้วนหลิงเทียน เมื่อเห็นภาพรงหน้า
ไม่ต้องพูดถึงเขาด้วยซ้ำ กระทั่งเจ้าหนูสีทองยังด้อยกว่าเหล่าอาวุโสของนิกายไตรพนาคราม
ส่วนใหญ่ที่พุ่งร่างเข้ามานั้น ล้วนมีระดับบ่มเพาะอยู่ที่แรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 4 ขึ้นไปทั้งสิ้น…
ถึงแม้ว่าพลังวิญญาณของเขาจะตัดผ่านไปยังระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ และสามารถจารึกอาคมที่สังหารเหล่าตัวตนระดับแรกสัมผัสธรรมชาติได้ง่ายดาย แต่วัตถุดิบที่ต้องใช้ในการจารึกอาคมนั้น กลับหายากมาก มันไม่อาจหาซื้อได้ด้วยเงิน และบางอย่างก็เป็นอะไรที่พบพานด้วยโชควาสนานำพาเท่านั้น
ฟึ่บ!! ฉัวะะะะะ!!
ทันใดนั้นเองประกายกระบี่วูบวาบขึ้นตรงหน้าต้วนหลิงเทียน และมันก็เป็นดั่งฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วงชีวิตต้วนหลิงเทียนเอาไว้
เพียงรังสีกระบี่ที่เกิดจาก การตวัดฟันฟาดเพียงครั้ง เหล่าผู้อาวุโสของนิกายไตรพนาครามที่หมายเล่นงานต้วนหลิงเทียน หัวกับตัวล้วนแยกย้ายกันไปคนละทิศทาง
อาวุโสรอบๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมการปลิดชีวิตต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ รีบถอยห่างออกไปโดยพลัน! ต่างจับจ้องมองไปยังร่างชายวัยกลางคน ที่ยืนลอยบนฟ้าด้วยความหวาดกลัว…!