สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 451 : ทรยศ
WSSTH บทที่ 451 : ทรยศ
หากจะกล่าวไปแล้วตอนนี้ นับว่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวแทบทั้งหมดได้มารวมตัวกันบนยอดเขาเทียนชู ทำให้บริเวณนี้ล้วนเนืองแน่นไปด้วยผู้คน แต่ทว่าตอนนี้มันกลับเงียบเชียบไร้สำเนียงเสียงใด
คงมีเพียงแต่เสียงลมหายใจหนักหน่วงที่สูดเข้าพ่นออก ดังต่อเนื่องไม่หยุด
สำหรับศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวแล้ว นอกเหนือจากศิษย์ทรยศนิกายอย่างหวงจี้ ที่ยืนอยู่ข้างประมุขนิกายกุ้ยหยวน เหล่าตัวตนที่มาเยือนยอดเขาเทียนชูในวันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นตัวตนระดับสูง อันไกลห่างที่พวกมันไม่มีวันได้พานพบทั้งสิ้น
ไม่ใช่แค่เพียงพวกมันเท่านั้นที่ห่างไกล กระทั่งตัวตนระดับสูงหลายคนของนิกายกระบี่ 7 ดาวก็ยังนับว่าห่างไกลจากอีกฝ่ายไม่ต่างกัน
เพราะนอกเหนือจากหวงจี้แล้วอีกฝ่ายล้วนเป็นตัวตนหยั่งรู้ธรรมชาติทั้งสิ้น
แม้แต่ตัวตนที่อ่อนแอที่สุดของอีกฝ่าย ก็ยังเป็นถึง กระเรียนเหินเมฆา อันเป็นสัตว์อสูรปีศาจระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 4…
"ประมุขหลิ่งหู อาวุโสเฉียนกล่าวว่าเป็นไปมิได้ …ท่านเองก็คิดเช่นนั้นด้วยหรือ?" ประมุขนิกายกุ้ยหยวน หลู่หยวนจับจ้องมองไปยังหลิ่งหูจิ่นหงด้วยสายตาร้อนแรง รอยยิ้มชั่วร้ายยังปรากฏขึ้นที่มุมปาก
หลังจากที่หลู่หยวนกล่าวจบทุกสายตาไม่เว้นต้วนหลิงเทียน ก็หันไปจับจ้องหลิ่งหูจิ่นหง
“หากนิกายกระบี่ 7 ดาวยังอยู่ ข้าก็อยู่… หากนิกายกระบี่ 7 ดาวไม่อยู่ ตัวข้าหลิ่งหูจิ่นหง ถึงอยู่ก็ไม่สู้ตาย!” หลิ่งหูจิ่นหงประกาศจุดยืนออกมาอย่างชัดเจน
หากนิกายกระบี่ 7 ดาว ต้องลดตัวไปกระทำการอันเสื่อมเสียเพื่อเอาตัวรอด โดยการรวมกับนิกายทั้ง 3 เพื่อกลายเป็น นิกายจตุรพนาครามแล้วล่ะก็ ถึงแม้มันยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ต่างอะไรจากตาย!
"แม้พวกเราจักอยู่ ก็เหมือนตาย!"
"แม้พวกเราจักอยู่ ก็เหมือนตาย!"
…
คำกล่าวของหลิ่งหูจิ่นหงเหมือนจุดชนวนนำพาให้อารมณ์ผู้คนระเบิดออก
ตอนนี้ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาว หน้าแดงขึ้นมาด้วยอารมณ์ร่วม ต่างเริ่มกล่าวประกาศกร้าวออกมา เอ่ยวาจาเสียงดัง ท่วงท่าและความแน่วแน่ของพวกมันราวกับรุ้งทะยานผ่านฟ้า
เสียงร้องระงมไปทั่วยอดเขาเทียนชู กระหึ่มขึ้นราวกับจะไม่มีวันหยุด
เห็ดได้ชัดว่าเหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวทั้งหลาย ถูกวาจาของหลิ่งหูจิ่นหงปลุกเร้าขึ้นมาให้บังเกิดความฮึกเหิม
แน่นอนว่าในนั้นย่อมมีศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวที่หน้าซีดตัวสั่น รู้สึกหวาดกลัว
พวกมันตระหนักถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึง
“ข้าไม่อยากตาย ข้าไม่อยากตาย”เหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวเหล่านี้รู้สึกหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดในใจ
นอกจากใบหน้าของจ้าวหลินจะดิ่งลงเล็กน้อยแล้ว แววตามันยังเต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อนอีกด้วย ส่วนตัวตนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาวที่เหลือล้วนมีสีหน้าท่าทางหนักแน่น และกล้าหาญ
ทั้งหมดเผยความตั้งใจอันแน่วแน่ ยอมตายไม่ยอมสยบ!
“ฮ่าๆๆๆ…!!!!”ทันใดนั้นหลู่หยวนพลันหัวเราะดังสนั่นลั่นฟ้าขึ้นมา มันหวาดสายตามองไปยังรอบๆ ระงับเสียงเร้าอารมณ์ของศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวชะงัด “ประมุขหลิ่งหู หรือเจ้าคิดที่จะสละชีวิตศิษย์ทุกคนในนิกายกระบี่ 7 ดาว เพื่อผลประโยชน์ของนิกายกระบี่ 7 ดาว ?! เจ้าคิดจักให้นิกายกระบี่ 7 ดาวเจริญรอยตามนิกายสะบั้นคีรีที่ล่มสลายไปหรือไร”
ทันทีที่หลู่หยวนกล่าววาจานี้ออกมา ใบหน้าของเหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวทั้งหลายล้วนบิดเบี้ยวทันที
นิกายสะบั้นคีรี?
"พวกเจ้า …พวกเจ้าทั้งหมดทำลายนิกายสะบั้นคีรีไปแล้ว?" ม่านตาของจ้าวหลินหดแคบลง ก่อนที่จะกล่าวถามออกไปด้วยความตกตะลึง
“มิผิด! นิกายสะบั้นคีรียามนี้ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว…นอกจากศิษย์นิกายสะบั้นคีรีบางคนที่ยินดีจักเข้าร่วมนิกาย ไตรพนาครามของเรา ไม่ว่าจะเป็น ประมุขนิกาย,ผู้พิทักษ์อาวุโสของนิกาย,สัตว์อสูรพิทักษ์ และเหล่าตัวตนระดับสูงต่างๆของนิกายสะบั้นคีรี ล้วนตกตายหมดสิ้น!!”
อา! โอ! ฟืดด! ซูดด!!
…
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเหล่าศิษย์หรือตัวตนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาว ล้วนตกตะลึง สูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ
1 ใน 5 นิกายใหญ่แห่งอาณาจักรพนาคราม ถูกทำลายล้างสิ้นไปง่ายดายเช่นนี้?
"นิกายสะบั้นคีรี … ประมุขเถิง … " ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมหลับตาลง
หนึ่งปีที่แล้วในการประลองของ 5 นิกาย ต้วนหลิงเทียนได้เอาชนะ ศิษย์ของนิกายสะบั้นคีรี และเอาชนะอีกฝ่ายได้ทั้งหมด ซ้ำยังทำร้ายอีกฝ่ายจนไร้อนาคตไปคนหนึ่ง ทำให้นิกายสะบั้นคีรีต้องเสียหน้าอย่างหนัก
อย่างไรก็ตามประมุขนิกายสะบั้นคีรีไม่เพียงไม่มีโทสะ แต่มันยังกล่าวร้องขอต้วนหลิงเทียนด้วยใจจริง ให้เขาเป็นแขกเยี่ยมเยือนที่นิกายสะบั้นคีรีบ้างถ้าต้วนหลิงเทียนมีเวลาว่าง
ต้วนหลิงเทียนค่อนข้างชอบอัธยาศัยโผงผางจริงใจของประมุขนิกายสะบั้นคีรี
แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินเสียงกล่าวว่าประมุขเถิง ของนิกายสะบั้นคีรีตกตายแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจออกมา
นิกายสะบั้นคีรีเป็นถึง 1 ใน 5 นิกายใหญ่แห่งอาณาจักรพนาคราม แต่กลับถูกทำลายล้าง จบสิ้นลงง่ายดายเช่นนี้?
ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็เผยท่าทีจริงจังเคร่งเครียดออกมา
ถึงแม้นิกายกระบี่ 7 ดาวจะแข็งแกร่งกว่านิกายสะบั้นคีรี แต่ตอนนี้ทางฝ่าย 3 นิกายใหญ่ได้ขนผู้เชี่ยวชาญมากันหมด …ต่อให้นิกายกระบี่ 7 ดาวจะแข็งแกร่งแค่ไหน น้ำน้อยก็ไม่อาจดับไฟได้!
แค่เพียงจำนวนผู้เชี่ยวชาญของ 3 นิกายใหญ่อย่างเดียว ก็ทำให้นิกายกระบี่ 7 ตกใจแทบตายแล้ว!
“เสี่ยวจิน ดูท่าแล้ว…บางทีวันนี้พวกเราอาจจะถูกฝังไปพร้อมๆกับนิกาย” ต้วนหลิงเทียนเอื้อมไปแตะบริเวณแขนของเขาเบาๆ พร้อมส่งเสียงผ่านพลังงานต้นกำเนิดสนทนากับเสี่ยวจิน
"พี่ใหญ่หลิงเทียน พวกเราต้องรอดไปได้แน่ๆ…" หนูขนทองตัวน้อยส่งเสียงปลอบโยนออกมา
รอดไปได้?
ต้วนหลิงเทียนเพียงส่ายหัวพร้อมยิ้มออกมา เมื่อได้ฟังคำพูดไร้เดียงสาของหนูตัวน้อย เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
เขาไม่ได้หวังอะไรในเรื่องนี้
อาจไม่มีใครในเหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาว ที่จะรอดชีวิตไปได้ ภายใต้เงื้อมมือของตัวตนผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้
และทันใดนั้นเอง
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!
…
คล้ายเสียงดังสนั่นจากแผ่นดินไหว ขุนเขาเทียนชูยังเหมือนสะเทือนไปเล็กน้อย ฟังแล้วเป็นเสียงย่ำเท้าไม่ผิดแน่ ทั้งยังไม่ได้มากันจำนวนน้อยๆ
"นั่นเป็นศิษย์ของนิกายบัวปีศาจคมมีด!"
"แล้วนั่นก็ศิษย์นิกายกุ้ยหยวน!"
"สวรรค์ ตรงนั้นก็เป็นศิษย์นิกายหิมะจันทรา!"
ตอนนี้เหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวต่างตื่นตระหนกตกใจ เพราะพวกมันถูกเหล่าศิษย์ของทั้ง 3 นิกายใหญ่ ปิดล้อมหนทางไว้หมดสิ้นแล้ว…
ทั้งหมดที่มาล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์สายในของทั้ง 3 นิกายใหญ่ทั้งสิ้น ที่สำคัญพวกมันยังมาพร้อมกับผู้อาวุโสจำนวนมาก!
บ่งบอกได้ชัดเจนว่า 3 นิกายใหญ่ ได้เตรียมพร้อมที่จะทำลายนิกายกระบี่ 7 ดาวให้พินาศสิ้นวันนี้แน่นอนแต่แรกแล้ว และนั่นจะทำให้ นิกายไตรพนาครามของมัน จะกลายเป็นนิกายที่ยิ่งใหญ่ทรงพลัง ครอบครองอำนาจเบ็ดเสร็จแต่เพียงผู้เดียวในอาณาจักรพนาคราม
เพราะถึงเวลานั้น ต่อให้เป็นตระกูลราชวงศ์ของอาณาจักรพนาครามเอง ก็อาจจะต้องกริ่งเกรงในขุมพลังของ นิกายไตรพนาคราม
“ข้ายินดีเข้าร่วมกับนิกายไตรพนาคราม! ข้ายินดีเข้าร่วมกับนิกายไตรพนาคราม!…อย่าฆ่าข้าเลย อย่าฆ่าข้าเลย!” ศิษย์สายนอกนิกายกระบี่ 7 ดาวคนหนึ่งเมื่อเห็นการถูกปิดล้อม และเหล่าผู้อาวุโสจำนวนมากมาย ทั้งผู้เชี่ยวชาญที่น่ากลัว มันก็ร่ำร้องออกมา
“ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวคนใด มีความประสงค์ที่จักเข้าร่วมกับนิกายไตรพนาครามเรา สามารถเดินไปยืนรอด้านหลังศิษย์นิกายพนาครามของเราได้ด้วยตัวเจ้าเอง…และอย่าได้คิดอาศัยโอกาสนี้หลบหนี หาไม่แล้วพวกเจ้าจักต้องตาย!!” น้ำเสียงอันดังฟังชัดของประมุขนิกายบัวปีศาจคมมีด ดังขึ้นมาในห้วงแห่งความสิ้นหวังพอดิบพอดี นั่นทำให้ปราการในใจและความยึดมั่นของเหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวหลายคนเป็นอันต้องพังทลายลง
"ข้ายินดีเข้าร่วม!"
"ข้าไม่อยากตาย!"
"ข้าไม่อยากตาย! ข้าไม่อยากตาย!"
…
ทันทีที่กล่าวจบศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวมากมายหลายคนต่างทยอยกันเดินเข้าไปยังกลุ่มศิษย์นิกายไตรพนาคราม
ศิษย์สายนอกของนิกายกระบี่ 7 ดาวนั้น โดยมากแล้วพวกมันไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้ง ภัคดีต่อนิกายอะไรมากมาย
“คนทรยศนิกายเช่นพวกเจ้ามันน่าตายนัก! ” ศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาวหลายคน กล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในแววตายังเต็มไปด้วยจิตสังหาร ต่างพุ่งร่างไปสังหารเหล่าศิษย์สายนอกที่ทรยศนิกาย
ตอนนี้เอง ผืนดินของยอดเขาเทียนชูก็ถูกโลหิตชโลมย้อมเสียจนแดงฉาน
เหล่าศิษย์สายนอกที่ต้องการทรยศและหันไปหานิกายไตรพนาคราม เมื่อเห็นฉากสังหารโหดพวกมันถึงกับขาสั่น ไม่กล้าเดินออกไปอีก…
“ประมุขหลิ่งหู หรือนิกายกระบี่ 7 ดาวของเจ้าที่แท้ก็พวกเผด็จการบ้าอำนาจ ไม่ยินยอมให้ศิษย์ตัวออกจากนิกายเพื่อไปหานิกายที่ดีขึ้น หรือกระทั่งทางรอดชีวิตเจ้ายังมิคิดหลงเหลือให้พวกมัน?”ประมุขนิกายหิมะจันทรามองไปยังหล่งหูจิ่นหงพร้อมกล่าวถามออกมา
"พอแล้ว ทั้งหมดหยุดมือ" หลิ่งหูจิ่นหงถอนหายใจออกมา ร่างกายแลดูเหมือนไร้เรี่ยวแรง “ทั้งหมดฟังข้า…ศิษย์ทุกคนล้วนมีสิทธิ์ที่จักมีชีวิต …พวกเจ้ามิได้รับอนุญาตให้สังหารอดีตศิษย์ร่วมนิกาย!”
อดีตศิษย์ร่วมนิกาย!
คำกล่าวนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายามกล่าวออกนั้น มันแฝงไว้ด้วยความจนใจอันโศกเศร้าเพียงใด…
ทันทีที่หลิ่งหูจิ่นหงกล่าวจบศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาว มากมายก็รีบออกไปทันที
พริบตาก็เหลือไม่ถึงครึ่ง…
สุดท้ายคนที่เหลือก็มีเพียงร้อยกว่าคนเท่านั้น…และโดยมากแล้วก็เป็นศิษย์สายในทั้งสิ้น
“ยามไม้ใหญ่โค่นล้ม วานรกระจัดกระจาย… คำกล่าวนี้คงเป็นดั่งเช่นสถานการณ์ตอนนี้เอง…” ต้วนหลิงเทียนระบายลมหายใจออกมา และไม่ได้เกลียดชังอะไรต่อเหล่าศิษย์นิกายที่เลือกจะจากไป
ก็เป็นดั่งเช่นคำกล่าวของหลิ่งหูจิ่นหง ทุกคนล้วนมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิต
นอกจากนี้เหล่าศิษย์ทั้งหลายของนิกายกระบี่ 7 ดาวเองก็ไม่ใช่ว่าจะได้รับการปฏิบัติและการดูแลด้วยดีอย่างศิษย์ส่วนตัวของปรมาจารย์ และผู้อาวุโสต่างๆ
ทั้งหมดล้วนต้องพึ่งพาตัวเองทั้งสิ้น
สิ่งที่นิกายกระบี่ 7 ดาวมอบให้พวกมัน มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก็คือชื่อเสียง ชุดประจำตัว และตราสัญลักษณ์ ทรัพยากรของนิกายกระบี่ 7 ดาวเองก็ย่อมมีจำกัด…
“อย่างน้อยข้าก็ไม่ตัดสินใจผิดพลาดอะไร…”เหล่าตัวตนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาวล้วนรู้สึกพึงพอใจนัก เมื่อเห็นว่าศิษย์ส่วนตัวของพวกมันยังคงยืนหยัดอยู่ในกลุ่มคนที่หลงเหลืออยู่ ใบหน้าของมันยังแสดงความภาคภูมิใจออกมา
“อาจารย์…บุญคุณของท่าน ศิษย์จำต้องชดใช้ให้ท่านชาติหน้าแล้ว!” ตอนนี้เองมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
ชายหนุ่มในชุดสีขาวหน้าตาหล่อเหลาเอาการที่ยืนหยัดอยู่ตรงขอบนอกของศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาว พลันเคลื่อนร่างออกไปด้วยความรวดเร็วคล้ายลูกเกาทัณฑ์พ้นคันศร พุ่งไปยืนด้านหลังศิษย์ของนิกายไตรพนาครามด้วยความว่องไว ก่อนที่จะหายตัวปะปนไปกับฝูงชน
“หูเฉวี่ยฟง!”แม้มันจะพยายามพุ่งร่างว่องไว แต่ต้วนหลิงเทียนก็เห็นได้ชัดเจน!
ยากที่จะเชื่อได้จริงๆ ว่าศิษย์สายในคนหนึ่ง ที่เป็นถึงศิษย์ส่วนตัวของปรมาจารย์ขุนเขาเทียนจี อย่างมันจะทรยศนิกาย…
ในวันที่ประลองแข่งขันศิษย์สายนอกนั้น ต้วนหลิงเทียนได้ยินมาว่า ปรมาจารย์ขุนเขาเทียนจีนั้นดูแลและห่วงใยหูเฉวี่ยฟงอย่างมาก ถึงขั้นดั้นด้นไปหากระบี่วิญญาณระดับ 7 ที่มีความสามารถในการเพิ่มพูนความแข็งแกร่งถึง 30% มาให้มันใช้ …
อาจกล่าวได้ว่าเพื่อหูเฉวี่ยฟงแล้ว ปรมาจารย์ขุนเขาเทียนจี ทุ่มเทดูแลสนับสนุนมันเต็มที่ เพื่อให้มันเป็นดั่งชนชั้นอัจฉริยะที่เก่งกาจคนหนึ่ง
แต่ตอนนี้หูเฉวี่ยฟง กลับเป็นศิษย์ส่วนตัวคนแรกในหมู่ตัวตนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาวที่ทรยศนิกาย!
"สารเลว!!" ทันใดนั้นเองเสียงที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดพลันดังสนั่นขึ้นดั่งระเบิด จนหูต้วนหลิงเทียนสะท้าน
ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็ได้เห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งในบรรดาตัวตนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาว ที่สวมชุดสีขาวแต้มแดง ปะทุพลังงานต้นกำเนิดออกมาทั่วทั้งร่าง ดูท่ามันจะบังเกิดโทสะถึงขีดสุด
ซู่มมม!!
ทันใดนั้นปรมาจารย์ขุนเขาเทียนจี ก็พุ่งร่างออกไปคล้ายกระบี่แหลมคมเล่มหนึ่ง ทะลวงแหวกฝ่าอากาศไป หมายสังหารหูเฉวี่ยฟงที่ปะปนท่ามกลางฝูงชน
เหนือขึ้นไปบนฟ้าปรากฏเงาร่างมังกรโบราณออกมา 1 ตัว พร้อมด้วย ช้างแมมมอธโบราณ 2,000 ตัวอยู่รอบๆ
ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 9!
“อาวุโส ช่วยข้าด้วย!”หูเฉวี่ยฟงที่ซ่อนตัวในกลุ่มศิษย์ไตรพนาคราม เมื่อเห็นอาจารย์ของมันพุ่งร่างมาด้วยความเร็วสูงล้ำ สีหน้าของมันพลันซีดเซียวและหวาดกลัวถึงขีดสุด
และครู่ต่อมามันก็พลันระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เนื่องจากตอนนี้มีผู้อาวุโสระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 9 เดินออกมาจากกลุ่มคนของนิกายไตรพนาคราม และหยุดปรมาจารย์ขุนเขาเทียนจีเอาไว้
“อาจารย์ขอท่านอย่าได้กังวล…ข้าจะใช้ความสามารถที่ท่านสอนสั่งสร้างชื่อเสียงให้โด่งดัง…ท่านโปรดจากไปอย่างสงบเถิด ศิษย์คนนี้จะจดจำความเมตตาของท่านไว้ชั่วชีวิต” หูเฉวี่ยฟงสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับความกลัวในใจ ก่อนที่จะหันไปกล่าววาจากับ อาจารย์ของมัน
"เจ้า …เจ้า … ศิษย์ชั่ว!!" ปรมาจารย์ขุนเขาเทียนจีมีโทสะถึงขั้น พลังงานในร่างปั่นป่วน ตีกลับทำร้ายอวัยวะภายใน จนสีหน้าของมันแดงขึ้น สุดท้ายด้วยโทสะที่ยากระงับ ก็ทำให้มันถึงกับต้องกระอักโลหิตออกมา