สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 450 : อาวุโสพิทักษ์ หมิง,เฉียน
WSSTH บทที่ 450 : อาวุโสพิทักษ์ หมิง,เฉียน
รวมนิกาย?
ให้นิกายพวกเราไปควบรวมกับพวกมันหรือ?
ตอนนี้เหล่าคนของนิกายกระบี่ 7 ดาวที่อยู่บนยอดเขาเทียนชู รู้สึกหนังศีรษะด้านชาไปอยู่บ้าง หลังจากได้ยินประมุขของนิกายบัวปีศาจคมมีดกล่าววาจาจบคำ
ที่แท้คำที่ประมุขนิกายบัวปีศาจคมมีดกล่าวหมายถึงเช่นนี้นี่เอง
“รวมนิกายเช่นนั้นหรือ?”หลิ่งหูจิ่นหงขมวดคิ้ว “ประมุขทั้งหลาย ช่วยไขข้อข้องใจให้ข้าหน่อยได้หรือไม่ ว่าใยทุกท่านถึงต้องคิดรวมนิกาย…แล้วช่วยแจ้งขอบเขตเงื่อนไขในการรวมนิกายครานี้ได้หรือไม่?”
ประมุขนิกายกุ้ยหยวนก้าวออกมาเล็กน้อยรับหน้าที่ตอบคำถามนี้ “ประมุขหลิ่งหู การรวมตัวกันครั้งนี้ของพวกเราเรียกว่า หลอมรวมทุกอย่าง…เมื่อนิกายกระบี่ 7 ดาวเข้าร่วมกับ 3 นิกายใหญ่ของเรา พวกเราทั้ง 4 นิกายจะร่วมกันแบ่งปันทุกสิ่ง ไม่ว่าจะวิชาบ่มเพาะ หรือทรัพยากรบ่มเพาะใดๆ สูตรโอสถต่างๆรวมทั้งอาวุธวิญญาณ ฯลฯ แน่นอน ย่อมมีวิชาประจำนิกายด้วย…!”
“นับแต่นี้ไป อาณาจักรพนาครามจักมิมีนิกายกระบี่ 7 ดาว ,นิกายกุ้ยหยวน,นิกายบัวปีศาจคมมีด และนิกายหิมะจันทราอีกต่อไป…พวกเราทั้ง 4 นิกายจักมิมีการแบ่งแยกอันใด และจักกลายเป็น นิกายจตุรพนาคราม อันเกรียงไกร!”
แบ่งปันทุกสิ่ง”?
กระทั่งวิชาประจำนิกายด้วย?
นิกายกระบี่ 7 ดาวจะไร้ซึ่งการคงอยู่อีกต่อไป?
วาจาของหลู่หยวนที่กล่าวออก ทำให้สีหน้าหลิ่งหูจิ่นหงเปลี่ยนเป็นยะเยือกทันที “ประมุขหลู่ เห็นทีเรื่องนี้ข้าคงกระทำไม่ได้!…นิกายกระบี่ 7 ดาวของข้าได้ถูกสืบสานมาตั้งแต่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้ง เรื่องนี้นับว่ามีความหมายยิ่งนัก! หากข้ารวมนิกายกระบี่ 7 ดาวเข้ากับพวกเจ้า มิใช่ข้าจักทำให้บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งต้องผิดหวังหรือ?”
“เช่นนั้น นิกายกระบี่ 7 ดาวของข้าย่อมมิมีข้อคัดค้านอันใด หากพวกเจ้าทั้ง 3 นิกายจักรวมตัวกัน…แต่ไม่มีวันที่นิกายกระบี่ 7 ดาวของข้า! จะเห็นชอบด้วยกับเรื่องรวมนิกายกับพวกเจ้า!!”
ไม่มีวัน!
น้ำเสียงของประมุขหลิ่งหูจิ่นหงชัดถ้อยชัดคำ แฝงเจตจำนงอันแน่วแน่ ไม่สั่นคลอน
“ถูกต้องแล้ว มิมีวันรวมนิกาย!!”
“เหตุใดพวกเราต้องไปรวมนิกายด้วย? นิกายกระบี่ 7 ดาวของเราคือนิกายอันดับ 1 แห่งอาณาจักรพนาคราม และมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!!”
“ที่ข้ามาที่นี่เพราะชื่อเสียงของนิกายกระบี่ 7 ดาว ที่เป็นนิกายอันดับ 1! หากนิกายกระบี่ 7 ดาวเข้าร่วมกับนิกายอื่น แล้วข้าจักมาเข้านิกายกระบี่ 7 ดาวไปเพื่ออะไร!?”
…
เหล่าศิษย์ของนิกายกระบี่ 7 ดาวเริ่มโวยวายกันขึ้นมา และยืนกรานในความคิดไม่อยากรวมนิกายอะไรนั่น
“ประมุขทั้งหลายคงเห็นแล้วใช่หรือไม่…นิกายกระบี่ 7 ดาวของข้า ไม่คิดที่จะรวมนิกายอันใด” หลิ่งหูจิ่นหงมองไปยังประมุขทั้ง 3 ด้วยสายตาสงบ พร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์
“หืม?” ต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นว่า ในขณะที่หลิ่งหูจิ่นหงตัดสินใจยืนกรานเช่นนั้นออกมา ท่าทางของประมุขนิกายใหญ่ทั้ง 3 นั่นนิ่งนัก พวกมันเพียงมองหน้ากันเล็กน้อยราวกับไม่ได้แปลกใจอะไร
ทว่าด้วยพลังวิญญาณอันแหลมคม ต้วนหลิงเทียนกลับสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่เริ่มก่อเกิดขึ้นจากร่างของประมุขนิกายทั้ง 3 ได้ในทันใด!
“ท่าไม่ดีแล้ว!” สีหน้าต้วนหลิงเทียนมืดลง เขารีบส่งเสียงไปหาหลิ่งหูจิ่นหงทันที “ประมุข! ข้าเกรงว่าพวกมันทั้ง 3 คิดไม่ซื่อแล้ว!”
ทว่าหลิ่งหูจิ่นหงไม่ทันได้ลงมือตอบโต้อะไร
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
สายลมหอบใหญ่ 3 สายพลันพัดกรรโชกแหวกฝ่าอากาศมาอย่างรุนแรง
ผู้ที่พุ่งนำมาก็คือ ต้าเผิงขนาดมหึมา ปีกของมันกว้างใหญ่ราวกับจะปกคลุมผืนฟ้า ร่างของมันพุ่งมาด้วยความเร็วสูงชั่วพริบตาก็บรรลุถึงยอดเขาเทียนชู ดวงตาสีโคลนของมันกวาดมองเรื่องราวทุกอย่างด้วยแววตาคมกล้า ประกายตายังเรืองวูบออกมาด้วยความดุร้าย จับจ้องไปยัง 3 สัตว์อสูรประจำนิกายทั้ง 3 โดยพลัน
“อาวุโสเผิง” ต้วนหลิงเทียนระบายลมหายใจออกมาเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างมหึมาของต้าเผิงมาถึง ในเวลาเดียวกันพลังวิญญาณของเขาก็แผ่ออกไปทันที
ทันใดนั้นเขาก็สามารถหยั่งถึงระดับบ่มเพาะต้าเผิงได้…
ระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 6
ความแข็งแกร่งของต้าเผิงยังนับว่าเหนือกว่าสัตว์อสูรปีศาจประจำนิกายทั้ง 3
"สหายน้อย ดูเหมือนว่าพลังวิญญาณเจ้าจักสูงขึ้นอีกแล้ว …ถึงแม้จะเป็นข้า ก็แทบไม่อาจจับสัมผัสพลังวิญญาณเจ้าได้" ทันใดนั้นเองเสียงชราพลันดังขึ้นในหูของต้วนหลิงเทียน
ต้วนหลิงเทียนย่อมระบุได้โดยพลันว่าเสียงที่ดังขึ้นเป็นของต้าเผิง
"อาวุโสเผิง ข้าไม่คิดเลยว่าข้าจะยังถูกท่านจับได้อีก…" ต้วนหลิงเทียนลอบตกใจ
หลังจากที่เขาได้ตรวจสอบระดับบ่มเพาะของทุกๆคนทั้งหมดในที่นี้ แต่ไม่มีใครสามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณเขา และรู้ตัวเหมือนต้าเผิง
ทว่าต้าเผิงกลับรู้ตัวทันที เห็นได้ชัดว่าต้าเผิงตัวนี้ไม่ธรรมดา!
“พลังวิญญาณของข้าแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรปีศาจธรรมดาๆ ไม่น้อย…ทั้งตัวข้ายังมีสายเลือดของ ต้าเผิงปีกทอง ไหลเวียนอยู่ในร่าง แม้มันจะเล็กน้อยก็ตาม”
ต้าเผิงปีกทอง?
ต้วนหลิงเทียนไม่รอช้ารีบสืบค้นในความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดทันที หลังจากที่ไดยินต้าเผิงกล่าว
ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็พบบันทึกเรื่องราวของต้าเผิงปีกทอง ในความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด
ต้าเผิงปีกทองเป็นสัตว์อสูรปีศาจที่น่ากลัวไม่น้อย พรสวรรค์ตามธรรมชาติของมัน ไม่ได้ด้อยกว่าหนูสวรรค์นัยน์ตาหยกแม้แต่น้อย เมื่อเติบโตเต็มที่พวกมันสามารถบรรลุได้ถึงระดับจักรพรรดิปีศาจ! พลังอำนาจของมันนับว่าสะท้านฟ้าดิน!
‘ข้าไม่คิดเลยว่าอาวุโสเผิงจะมีสายเลือดต้าเผิงปีกทอง…ถึงแม้จะเป็นสายเลือดจางๆก็ตาม’ต้วนหลิงเทียนครุ่นคิดในใจ
“เสี่ยวจิน เจ้ารู้เรื่องต้าเผิงปีกทองหรือไม่?” ต้วนหลิงเทียนส่งเสียงผ่านพลังงานต้นกำเนิดกล่าวถาม เจ้าหนูตัวน้อยในแขนเสื้อ
“ต้าเผิงปีกทองหรือ?” เสียงของเจ้าหนูตัวน้อยดังขึ้นในหูต้วนหลิงเทียน “ดูเหมือนในความทรงจำที่สืบทอดมาของข้าที่ตื่นขึ้น ก็มีบอกไว้อยู่เหมือนกัน…ต้าเผิงปีกทองสมควรสืบเชื้อสายมาจากสัตว์เซียน เหมือนหนูสวรรค์นัยน์ตาหยกเช่นข้า นับว่าพวกมันมีจุดเด่นในเรื่องความเร็วอันร้ายกาจ ในแง่ของความเร็ว มีสัตว์อสูรปีศาจน้อยมากที่สามารถแข่งขันกับต้าเผิงปีกทองได้”
สัตว์เซียนอีกแล้ว?!
ต้วนหลิงเทียนลอบตกใจ
ครู่ต่อมา ดวงตาของต้วนหลิงเทียนก็หันไปจ้อง อีก 2 ร่างที่พุ่งมาพร้อมกับต้าเผิง
เป็นชายชรา 2 คน
กลางอากาศเหนือลานประลองเป็นตาย พบร่างชายชราคนหนึ่งสวมชุดสีฟ้า ทั้งร่างกายของมันยังแผ่ซ่านกลิ่นอายล้ำลึกของลมออกมา มันลอยตัวอยู่อย่างสงบจับจ้องเรื่องราวตาไม่กระพริบ
"นั่นมันลม! แนวคิดลม!" ต้วนหลิงเทียนตกใจเล็กน้อย
หลังจากนั้นก็หันไปมองชายชราอีกคนหนึ่ง
ชายชราคนนี้สวมชุดสีเทา และเพียงมันลอยตัวอยู่เฉยๆ กับทำให้ผู้อื่นสัมผัสได้ถึงกระบี่ที่แหลมคม สายลมที่พัดผ่านในอากาศคล้ายจะเบี่ยงออกไป ราวกับหวาดกลัวสภาวะแหลมคมของกระบี่ที่มันแผ่ซ่านออกมา
“แนวคิดกระบี่ อันร้ายกาจ!”ต้วนหลิงเทียนหรี่ตาลง
เมื่อแผ่พลังวิญญาณออกไปตรวจสอบ ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ในทันที ว่าความแข็งแกร่งของชายชราในชุดสีเทานี้ เหนือกว่าชายชราในชุดฟ้าไม่น้อย
และที่สำคัญก็คือ ทั้งสองเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ หยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 6!
"อาจารย์ลุงเฉียน อาจารย์อาหมิง"
"อาวุโสเฉียน , อาวุโสหมิง"
หลิ่งหูจิ่นหง และตัวตนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาวทำความเคารพทั้ง 2 ทันที
"ท่านผู้พิทักษ์อาวุโส" เหล่าศิษย์นิกายกระที่ 7 ดาวเองก็ทำความเคารพทั้ง 2 คนบนฟ้า
“ทั้งสองคนเป็นผู้พิทักษ์อาวุโสของนิกายกระบี่ 7 ดาว อาวุโสเฉียน กับอาวุโสหมิงงั้นหรือ” ต้วนหลิงเทียนย่อมคาดเดาตัวตนทั้ง 2 ได้ก่อนแล้ว
“เมื่อมาแล้ว ใยต้องหลบๆซ่อนๆอยู่เล่า!”ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียน สังเกตเห็นอาวุโสชุดเทาแหงนมองฟ้าแล้วกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส
เวลาเดียวกันนั้นพลังงานต้นกำเนิดก็ถูกเร่งเร้าออกมาจากทั่วร่างของมัน ก่อเกิดเงาร่างกระบี่มหึมาเล่มหนึ่ง ครอบร่างของมันเอาไว้
ตามาด้วยแนวคิดกระบี่อันน่าสะพรึงกลัว เงาร่างกระบี่ที่ก่อเกิดจากพลังงานต้นกำเนิด ก็แผ่ซ่านกลิ่นอายเสียดแทงอันน่าพรั่นพรึงออกมา
ฟู่มมม!!
พริบตาต่อมากระบี่ไร้สภาพเล่มเขื่องพลันพุ่งทะลวงขึ้นไปยังผืนฟ้า แหวกม่านเมฆออกเป็นทาง ราวกับกระบี่กลับกลายเป็นไม้กวาด กวาดเมฆหมอกออกไปจากฟ้า
เปรี๊ยงงงงง!!
เสียงปะทะดังสนั่นบังเกิด ก่อนที่จะมีร่าง 6 ร่างปรากฏตัวออกมา พวกมันค่อยๆโยตัวลงมาช้าๆ
มีอยู่ 3 คนในหมู่พวกมันที่ตกอยู่ในสภาพไม่สู้ดีสักเท่าไร
เมื่อทั้ง 6 โรยตัวลงมาถึงจุดหนึ่ง พวกมันก็ต่างแยกไปทาง ประมุขนิกายทั้ง 3 ที่ลอยตัวล้อมยอดเขาเทียนชูเอาไว้ทั้ง 3 มุม
เห็นได้ชัดว่าที่แท้พวกมันเป็นผู้เชี่ยวชาญของ 3 นิกายใหญ่
“3 คนอยู่ในระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 6 ส่วนอีก 3 คนอยู่ในระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้น 5…”หลังจากที่แผ่พลังวิญญาณอันเฉียบคมออกไป ตรวจสอบระดับบ่มเพาะของ ทั้ง 6 คนนั่น สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็เริ่มไม่สู้ดี
หากนับรวมกับประมุขของนิกายใหญ่และ สัตว์อสูรปีศาจของทางฝั่ง 3 นิกายใหญ่แล้ว พวกมันมีตัวตนระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 6 ถึง 5! ระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 5 อีก 6! และยังมีระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 4 อีก 1…
ส่วนทางฝั่งของนิกายกระบี่ 7 ดาวนั้น มีกำลังรบระดับ หยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 6 แค่ 4 และระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 5 แค่ 1 ระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 4 แค่ 3 ระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 2 อีก 2 คน และ ระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นแรก อีก 1 คน..
กำลังรบต่างกันเกินไป!
“อาวุโสเฉียน ท่านนับว่าเป็นอัจฉริยะของนิกายกระบี่ 7 ดาวผู้บรรลุในวิถีกระบี่นัก สามารถเข้าใจแนวคิดกระบี่ระดับ 7 ได้แล้วเช่นนี้!” ชายชราคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของประมุขนิกายบัวปีศาจคมมีดกล่าวออกมา มันยังเผยแววตาดุร้ายยามที่จับจ้องไปยังชายชราชุดสีเทา
"เฒ่าหั่ว ข้ามิคิดเลยว่าแพะเฒ่าอย่างเจ้าจักถ่อสังขารมาถึงที่นี่ด้วยตัวเองเช่นนี้…ดูท่าแล้ววันนี้เจ้าคงคิดทำลายนิกายกระบี่ 7 ดาวของข้าแต่แรกแล้ว" ชายชราชุดเทาที่กล่าวคำออกมาอย่างไม่แยแสนี้ แน่นอนว่าเป็นผู้พิทักษ์อาวุโสของนิกายกระบี่ 7 ดาว อาวุโสเฉียน
ทว่าน้ำเสียงของมันเผยให้เห็นถึงเจตนาฆ่าฟันอันร้ายกาจ และเจตจำนงกระบี่แหลมคมทะลุฟ้า!
“อาวุโสเฉียน…เจ้าเข้าใจผิดแล้ว” ชายชราสวมชุดฟ้าเข้ม ที่ยืนอยู่บนหลังกระเรียนเหินเมฆา ข้างประมุขนิกายหิมะจันทรา มองมายังอาวุโสเฉียน ก่อนที่จะค่อยๆกล่าวออกมา “ตราบใดที่นิกายกระบี่ 7 ดาวยินยอมเข้าร่วมกับนิกายใหญ่ทั้ง 3 ของพวกเรา เป็นนิกายจตุรพนาครามแล้ว…ข้อบาดหมางในอดีตทั้งมวลย่อมมิมีอีกต่อไป แล้วพวกเราก็จักจากไปโดยดี”
“มิผิด”ชายชราอีกคนหนึ่งที่ยืนข้างประมุขนิกายกุ้ยหยวนบนอีแร้งขนหยกก็กล่าวออกมา พร้อมพยักหน้าด้วยเช่นกัน
“ตาแก่ 3 คนนั่น ที่มีระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 6 คงเป็นผู้พิทักษ์อาวุโสของนิกายใหญ่ทั้ง 3 ไม่ผิดแน่…ดูเหมือนว่าพวกมันจะเตรียมการกันมาอย่างดี พวกมันไม่มีทางยอมเลิกรากลับไปดีๆแน่..” ประกายตาต้วนหลิงเทียนเรืองวูบขึ้นมาเล็กน้อย ความกลัวเริ่มก่อเกิดขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของ 3 นิกายใหญ่ มาอยู่ที่ขุนเขาเทียนชูอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา!
หากเป็นผู้เชี่ยวชาญของนิกายอื่นๆ นิกายกระบี่ 7 ดาวคงไม่เกรงกลัวอะไร
แต่หากเป็นนิกายใหญ่เช่นนี้ แม้จะมากันเพียงแค่ 2 นิกาย นิกายกระบี่ 7 ดาวก็อาจจะต้านทานไม่ไหวแล้ว
แต่นี่ผู้เชี่ยวชาญกลับรวมหัวกันมาครบทั้ง 3 นิกายใหญ่! สำหรับนิกายกระบี่ 7 ดาวแล้ว นี่เป็นภัยพิบัติแน่นอน!!
"เป็นไปไม่ได้!!" คำตอบของผู้พิทักษ์อาวุโสเฉียนนั้นง่ายดายแต่ ชัดเจนและตรงไปตรงมา!
เหล่าผู้เชี่ยวชาญของทั้ง 3 นิกายใหญ่ ไม่ได้แปลกใจอะไรกับคำตอบของอาวุโสเฉียน และพวกมันก็ไม่ได้กังวลอะไรสักนิด ราวกับรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้
“3 นิกายใหญ่มันคิดจะทำลายล้างนิกายกระบี่ 7 ดาวแต่แรกแล้ว…พวกมันรู้ดีว่า การรวมนิกายทั้ง 4 …นิกายกระบี่ 7 ดาวต้องไม่เห็นด้วย พวกมันคิดชั่วลงมือแต่แรก!” เมื่อเห็นเรื่องราวตรงหน้า ความคิดในหัวต้วนหลิงเทียนก็หาข้อสรุปได้
นิกายกระบี่ 7 ดาว อันเป็นนิกายอันดับ 1 แห่งอาณาจักรพนาคราม ยังมีเหตุผลอะไรที่ต้องยุบรวมนิกายกับผู้อื่น?
บุรุษยอมตายดีกว่าต้องทนอับยศ!
นิกายกระบี่ 7 ดาวไม่มีวันลดตัวไปทำเรื่องเสื่อมเสียเกียรติ สร้างความผิดหวังให้แก่บรรพชน!
“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน” ตอนนี้เองโม่อี้ก็วิ่งเข้ามาหาต้วนหลิงเทียน และเผยท่าทางกังวลออกมา “พวก 3 นิกายนั้นมันต้องการอันใดกันแน่?”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา “พวกมันมาพร้อมความคิดชั่วช้า…”
ตอนนี้บรรยากาศบนยอดเขาเทียนชูนับว่าเริ่มตึงเครียดนัก การเผชิญหน้ากันของทั้ง 3 นิกาย และนิกายกระบี่ 7 ดาวครั้งนี้ …แลคล้ายต่างพร้อมปะทุพลังเข่นฆ่าประหัตประหารกันได้ทุกเวลา…