สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 446 : ภัยคุกคาม!
WSSTH บทที่ 446 : ภัยคุกคาม!
"ครึ่งก้าวธรรมชาติ! อีกเพียงแค่ก้าวเล็กๆก็จักบรรลุระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ…อย่างที่คิดเอาไว้มิมีผิด พรสวรรค์ของนายน้อยผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งเป็นลำดับที่ 3 อย่างนายน้อยกู่ฉิน นับว่าน่ากลัวจริงๆ!!"
“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนยังไม่ตัดผ่านไปยังระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 แต่นายน้อยกู่ฉินตัดผ่านไปยังระดับครึ่งก้าวธรรมชาติแล้ว…เขาเยื้องย่างสู่ระดับธรรมชาติแล้ว! ทั้งสองคนมิได้อยู่ในระดับเดียวกันอย่างสิ้นเชิง!!”
"ย่ำแย่แล้ว! ครานี้ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนตกอยู่ในอันตรายแล้ว!!"
…
ในตอนนี้เองความเชื่อมั่นของเหล่าศิษย์ที่เชื่อในตัวต้วนหลิงเทียน เสมือนดั่งถูกทำลายแหลกเป็นเสี่ยงๆ
ผู้ฝึกยุทธ์ที่ยังไม่แม้แต่จะผ่านไปยังระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 ยังจะเอาชนะผู้เชี่ยวชาญครึ่งก้าวธรรมชาติได้หรือ…?
พวกมันไม่กล้าจะเชื่อว่าเป็นไปได้ เพราะนี่มันไร้หนทางเป็นไปได้!
ระดับครึ่งก้าวธรรมชาติ แข็งแกร่งเกินไป!
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 6 ความแข็งแกร่งของเขาเทียบได้กับช้างแมมอธโบราณ 800 ตัวเท่านั้น หากไม่ได้ใช้อาวุธวิญญาณ!
แต่ทว่า ผู้เชี่ยวชาญครึ่งก้าวธรรมชาติ ต่อให้ไม่ใช้อาวุธวิญญาณ แต่ความแข็งแกร่งก็บรรลุถึงขีดขั้น 1,500 ช้างแมมมอธโบราณแล้ว!
ทั้งสองนับว่าคนละชั้นกันอย่างสิ้นเชิง!
และที่สำคัญที่สุดก็คือ นายน้อยกู่ฉินครอบครองอาวุธวิญญาณ อย่างกู่ฉินวิญญาณระดับ 5
ตอนนี้ความคิดเช่นนี้ ไม่ใช่แค่เกิดขึ้นกับเหล่าศิษย์เท่านั้น …กระทั่งเหล่าตัวตนระดับสูงในนิกายกระบี่ 7 ดาวล้วนคิดไปในทิศทางเดียวกันทั้งสิ้น!
"ครึ่งก้าวธรรมชาติ … นายน้อยกู่ฉินตัดผ่านไปยังระดับ ครึ่งก้าวธรรมชาติแล้ว!" เจิ้งฝาน ปรมาจารย์ขุนเขาไท่หยาง เผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา
และตอนนี้ตัวตนระดับสูงของนิกาย รวมทั้งหลิ่งหูจิ่นหงเอง ก็เผยสีหน้าปั้นยากออกมา
ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะสร้างปาฏิหาริย์มามากมายหลายครั้ง แต่จะอย่างไรในอดีตนั้นระดับบ่มเพาะของศัตรูที่ต้วนหลิงเทียนต้องเผชิญกระทั่งสังหารลงได้ ก็ยังไม่มีได้มีความแตกต่างในระดับบ่มเพาะมากนัก..
แต่ทว่าครานี้ความแข็งแกร่งของนายน้อยกู่ฉินแทบจะเป็น 2 เท่าของต้วนหลิงเทียน!
นี่ไม่มีทางนำมาเปรียบเทียบกันได้เลย!… ครั้งนี้ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดแล้ว!!
"ประมุขนิกาย!" อาวุโสไป่ มองไปยังประมุขนิกายด้วยความกังวล
ต้วนหลิงเทียนเป็นบุรุษที่ศิษย์ของนางรักมากที่สุด นางเองก็ต้องคอยปกป้องดูแลต้วนหลิงเทียนให้ปลอดภัยเช่นกัน
หลิ่งหูจิ่นหงพยักหน้า หลังจากนั้นมันก็ลอยตัวออกมาเบื้องหน้า ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ พร้อมมองลงไปยังร่างทั้ง 2 บนเวทีประลองเป็นตาย “นายน้อยกู่ฉิน…ในนามของต้วนหลิงเทียน ข้ายินยอมรับความพ่ายแพ้ต่อเจ้าในวันนี้…”
ทันทีที่หลิ่งหูจิ่นหงกล่าววาจานี้ออกมา เหล่าผู้คนที่ห่วงใยในความปลอดภัยของต้วนหลิงเทียน อย่างเจิ้งซง,โม่อี้,สั่วฉิง,เหอตง และคนอื่นๆพลันระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
แต่ทว่ามีคนไมค่อยพอใจกับทีท่าครานี้สักเท่าไร
"บ้าเอ๊ย!" จ้าวหลินเผยท่าทางหงุดหงิดและไม่พอใจออกมา แววตาของมันยังเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม
"ต้วนหลิงเทียน!" ที่ด้านข้างของเวทีประลอง ศิษย์ส่วนตัวของปรมาจารย์ขุนเขาเทียนจี หูเฉวี่ยฟงลดต่ำลงโดยพลัน "กระทั่งประมุขนิกายยังถึงขั้นออกหน้ารับแทนต้วนหลิงเทียน ปกป้องมันออกหน้าออกตาเสียขนาดนี้!"
ตั้งแต่ที่มันได้บาดหมางกับต้วนหลิงเทียนในวันประลองแข่งขันศิษย์สายนอก หูเฉวี่ยฟงก็เกลียดต้วนหลิงเทียนเข้ากระดูกดำ
ถึงแม้ว่าอาจารย์ของมันจะกล่าวให้มันลืมเลือนเรื่องราวความบาดหมางระหว่างมันกับต้วนหลิงเทียนไปเสีย แต่มันก็ทำได้เพียงตอบรับอย่างขอไปทีเท่านั้น …ความเกลียดชังในใจของมันไม่เคยลดน้อยถอยลง ซ้ำยังมากขึ้นเรื่อยๆ!
และวันนี้เองมันก็รู้สึกมีความสุข กระทั่งมีความอิ่มเอมใจไม่น้อย เมื่อได้เห็นว่าต้วนหลิงเทียนกำลังจะตายด้วยน้ำมือของนายน้อยกู่ฉิน…!
แต่ทว่ามายามนี้ เมื่อมันเห็นประมุขนิกายออกหน้ารับแทนต้วนหลิงเทียน ปกป้องกันทนโท่ถึงเพียงนี้! หน้าอกของมันพลันอัดแน่นไปด้วยเพลิงแห่งความอิจฉาและความเกลียดชัง ราวกับมันพร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเวลา!
"ยอมรับความพ่ายแพ้ในนามของข้า…?" ต้วนหลิงเทียนเองก็อึ้งไปไม่น้อยเมื่อได้ยินคำกล่าวจากปากของหลิ่งหูจิ่นหง
เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าประมุขนิกายจะกระทำอะไรแบบนี้ออกมา แต่พอเขาได้คิดก็เข้าใจได้ในทันที
นี่เพราะเมื่อได้เห็นระดับบ่มเพาะของนายน้อยกู่ฉินว่าบรรลุถึงระดับครึ่งก้าวธรรมชาติแล้ว ทุกคนย่อมไม่มีใครคิดว่าเขาจะทำอะไรได้อีก…
หากเป็นเมื่อครึ่งปีที่แล้ว แม้จะเป็นเขา แต่ถ้าได้รู้ว่านายน้อยกู่ฉินจะตัดผ่านไปถึงระดับครึ่งก้าวธรรมชาติ เขาเองก็คงจะสิ้นหวังเช่นกัน…
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เขาไม่ได้ตัดผ่านระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 ด้วยซ้ำ ต่อให้ตอนนี้เขาตัดผ่านไปยังระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 ในแง่ของความแข็งแกร่งแล้ว เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนายน้อยกู่ฉินในระดับครึ่งก้าวธรรมชาติ
"ฮ่าๆๆๆ…!!" นายน้อยกู่ฉินพลันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังสนั่นลั่นฟ้า เมื่อได้ยินวาจาของหลิ่งหูจิ่นหง “ประมุขหลิ่งหู ข้าให้ท่านกล่าวยอมแพ้ในนามต้วนหลิงเทียนได้มิมีปัญหาอันใด …แต่ทว่าท่านต้องยินยอมรับคำของข้าเรื่องหนึ่ง”
"เรื่องอะไร?" คิ้วของหลิ่งหูจิ่นหงโค้งขึ้น พร้อมกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ข้าอยากจะแต่งงานกับศิษย์ส่วนตัวของปรมาจารย์ฉินเซียง หากท่านยินยอมรับปากช่วยเหลือเรื่องการแต่งงานของพวกเรา เช่นนั้นข้าจะยอมรับการยอมแพ้ของต้วนหลิงเทียน และไม่สร้างความลำบากอะไรให้มันอีกต่อไป … " นายน้อยกู่ฉินจ้องไปยังหลิ่งหูจิ่นหงเขม็งยามกล่าววาจา
สีหน้าของหลิ่งหูจิ่นหง มิดลงเผยความเคร่งเครียดออกมาโดยพลัน "เรื่องนั้นเป็นไปมิได้! เปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นเถอะ!"
แน่นอนว่าหลิ่งหูจิ่นหงย่อมรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์ส่วนตัวของปรมาจารย์ฉินเซียงกับต้วนหลิงเทียนอย่างกระจ่าง…
"ข้าต้องการเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น … หากประมุขหลิ่งหูไม่เห็นด้วย ข้าเกรงว่าคงต้องทำการประลองกับต้วนหลิงเทียนจนกว่าจะมีผู้ใดตายตก! …ประมุขหลิ่งหู ถึงแม้ว่าตอนนี้ขาจะยืนอยู่บนนิกายกระบี่ 7 ดาวของท่าน แต่ข้าก็มั่นใจดี ว่าเพื่อเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวมของนิกายแล้ว ท่านคงไม่คิดทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด… "นายน้อยกู่ฉินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่แยแส ในวาจายังแฝงสภาวะข่มขู่ประการหนึ่ง "อาจารย์ของข้ารู้เรื่องราวนัดหมายประลอง 2 ปีที่นิกายกระบี่ 7 ดาวนี้ดี… หากใครในนิกายกระบี่ 7 ดาวกล้าที่จะวุ่นวายและระงับนัดหมายประลอง 2 ปีระหว่างข้ากับต้วนหลิงเทียน ข้ามั่นใจว่าอาจารย์ข้าย่อมไม่อยู่เฉยแน่ "
ใบหน้าของหลิ่งหูจิ่นหงยิ่งมายิ่งแลดูเคร่งเครียด เมื่อได้ยินคำกล่าวของสื่อชาง
ในบรรดานายน้อยผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 5 ของอาณาจักรพนาคราม เบื้องหลังของนายน้อยกู่ฉินนับว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวไม่น้อย…
ถึงแม้ว่าตระกูลของนายน้อยกู่ฉินจะนับว่าเป็นตระกูลใหญ่ในอาณาจักรพนาคราม แต่จะอย่างไรก็นับว่ายังห่างไกลจากนิกายกระบี่ 7 ดาว…
นิกายกระบี่ 7 ดาวไม่เกรงกลัวตระกูลที่หนุนหลังนายน้อยกู่ฉิน!
อย่างไรก็ตามนิกายกระบี่ 7 ดาวจำเป็นต้องเกรงกลัว…อาจารย์ลึกลับที่คอยสนับสนุนฟูมฟักนายน้อยกู่ฉินคนนี้!!
เป็นที่รู้กันดีว่าอาจารย์ของนายน้อยกู่ฉิน เป็นตัวตนชั้นแนวหน้าของอาณาจักรพนาคราม ในแง่ของความแข็งแกร่งแล้ว เรียกได้ว่าไม่ได้แพ้ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดของอาณาจักรพนาครามแม้แต่นิด
ตามข่าวลือกระทั่งผู้เชี่ยวชาญในตระกูลราชวงศ์ของเมืองหลวงแห่งอาณาจักรพนาคราม ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรพนาคราม… ยังต้องแสดงความเคารพและนับถือ เมื่อพบเจออาจารย์ของสื่อชาง
“นายน้อยกู่ฉิน เรื่องนี้มิเหลือหนทางอื่นใด…ในการเจรจาเลยเช่นนั้นหรือ?” หลิ่งหูจิ่นหงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะกล่าวถามออกมาอีกครั้ง
นายน้อยกู่ฉินไม่ได้ใส่ใจอะไรกับวาจาของหลิ่งหูจิ่นหง มันเพียงหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย้ยหยัน ดูแคลน “ต้วนหลิงเทียน พวกเราตั้งแต่แรกก็นับว่ามิใช่คนในระดับเดียวกันอยู่แล้ว….มีเพียงข้า นายน้อยกู่ฉิน สื่อชางคนนี้ ที่คู่ควรกับเค่อเอ๋อ! เจ้าจักต้องตกตายกลายเป็นผีภายใต้กู่ฉินของข้า!!”
"ท่านประมุขเรา …ดูเหมือนจะหวาดกลัว อาจารย์ที่อยู่เบื้องหลังนายน้อยกู่ฉินไม่น้อย…"
“เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในตอนที่นายน้อยกู่ฉินมาเยือนที่นิกายเรา เขาเคยบอกกล่าวว่า อาจารย์ของเขายินดีมอบ อาวุธวิญญาณระดับ 5 ให้เป็นของหมั้น…ข้าคาดเดาว่าอาจารย์ของนายน้อยกู่ฉินหากไม่เป็นผู้หลอมศาสตราระดับ 5 เอง ก็ต้องมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้หลอมศาสตราระดับ 5 …”
“ไม่ว่าจักเป็นผู้หลอมศาสตราระดับ 5 เองก็ดี หรือจักมีสัมพันธ์กับผู้หลอมศาสตราระดับ 5 ก็ดี ทั้งสองอย่างล้วนมิใช่ตัวตนที่นิกายกระบี่ 7 ดาวเราจะไปล่วงเกินได้ง่ายๆ”
“ผู้หลอมศาสตราในอาณาจักรพนาครามนั้นมากมายดั่งเมฆบนฟ้า…หามีผู้หลอมศาสตราระดับ 5 แม้แต่คนเดียว…”
…
ความหวาดกลัวอย่างรุนแรง ต่อเบื้องหลังของนายน้อยกู่ฉิน ลอยมากับคำพูดซุบซิบของเหล่าศิษย์รอบๆเวทีประลองเป็นตาย
"นายน้อยกู่ฉินมีอาจารย์ที่ทรงพลังคอยหนุนหลังอยู่เช่นนี้ เกรงว่าต่อให้เป็นระดับสูงของนิกายเรา ก็มิกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวอันใดกับการประลองครานี้…!"
"วันนี้ดูท่า…ต้วนหลิงเทียนจำต้องพบพานกับหายนะแล้ว…"
"น่าเสียดายยิ่งนัก อัจฉริยะในเชิงยุทธ์ที่มิมีผู้ใดเทียบเทียมได้อย่างศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน …ที่นิกายกระบี่ 7 ดาวเราพบพานได้อย่างยากลำบาก …วันนี้อาจจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่เสียแล้ว!"
…
เหล่าศิษย์ของนิกายกระบี่ 7 ดาวล้วนมองไปยังร่างของต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเวทนา สงสาร
ส่วนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาวเผยท่าทางบิดเบี้ยวเคร่งเครียดออกมาถึงขีดสุด
มีเพียงจ้าวหลินเท่านั้นที่แสยะยิ้มจนปากแทบฉีก "ต้วนหลิงเทียน ดูเหมือนชะตาเจ้าจักขาดลงวันนี้เสียแล้ว …นับว่าช่วยระบายแค้นของข้าเช่นกัน!"
"ศิษย์น้องต้วนหลิงเทียน!"
"ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน!"
เจิ้งซง, สั่วฉิง, โม่อี้ และทุกคนที่คุ้นเคยกับ ต้วนหลิงเทียน…ในใจของทั้งหมดย่อมเต็มไปด้วยความวิตกกังวลอันหนักหนา แต่อนิจจาที่พวกมันไม่มีปัญญาช่วยอะไรได้…
นอกจากนี้ยังไม่ต้องกล่าวถึงอาจารย์ลึกลับเบื้องหลังนายน้อยกู่ฉินด้วยซ้ำ กระทั่งลำพังตัวนายน้อยกู่ฉินเอง พวกมันก็ไม่มีปัญญาทำอะไรแล้ว…
ตอนนี้ทุกคนล้วนรู้ดีว่า ต้วนหลิงเทียนไร้ซึ่งหนทางใดๆ ในการหลีกเลี่ยงการปะทะกับนายน้อยกู่ฉิน….
"ต้วนหลิงเทียน!" หลิ่งหูจิ่นหงมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาสะทกสะท้อน มือสะบัดหยิบกระบี่วิญญาณระดับ 5 ออกมา "กระบี่เล่มนี้ เป็นกระบี่วิญญาณระดับ 5 ที่สืบทอดกันมาของนิกายกระบี่ 7 ดาว กระบี่พิทักษ์… เจ้า … "
หลิ่งหูจิ่นหงยังกล่าวไม่ทันจบคำ เป็นต้วนหลิงเทียนที่ยกมือขึ้นมาขัด "ขอบคุณสำหรับความหวังดีท่านประมุข แต่ข้าไม่จำเป็นต้องใช้กระบี่วิญญาณระดับ 5 เล่มนั้น!"
ข้าไม่จำเป็นต้องใช้!
ต้วนหลิงเทียนใช้เพียงวาจาสั้นๆปฏิเสธการกระทำของหลิ่งหูจิ่นหง ที่หมายมอบกระบี่วิญญาณระดับ 5 ให้หยิบยืม…
นั่นมันกระบี่วิญญาณระดับ 5 … แต่ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนปฏิเสธมันอย่างไร้เรื่องราวเช่นนั้น?"
"บางทีอาจเป็นเพราะศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนคิดว่า ต่อให้ใช้กระบี่วิญญาณระดับ 5 ไปก็เท่านั้น …จักอย่างไร ก็ไร้ซึ่งหนทางชนะ"
"เฮ่อ…หากเป็นข้าล่ะก็ สามารถใช้กระบี่วิญญาณระดับ 5ได้สักครั้งก่อนตาย ชีวิตข้าก็นับว่าไม่เกิดมาอย่างสูญเปล่าแล้ว"
…
ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวล้วนกระซิบกระซาบกันดังอื้ออึง
ในตอนนี้ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะเอาชนะได้…
เพราะความแตกต่างของพลังระหว่างต้วนหลิงเทียนกับนายน้อยกู่ฉินนั้นมากมายเกินไป…
หลิ่งหูจิ่นหงเพียงทอดถอนใจ ก่อนที่จะสะบัดมือ อีกครั้งกระบี่วิญญาณระดับ 5 พลันหายเข้าแหวนมิติไป ในแววตาของมันยังแฝงความไม่เต็มใจเอาไว้…
มันไม่กล้าเดิมพันด้วยนิกายกระบี่ 7 ดาว…
หากมันสร้างปัญหาทำให้นายน้อยกู่ฉินบังเกิดความขุ่นเคืองขึ้นมาแล้วล่ะก็…เมื่ออาจารย์ลึกลับของอีกฝ่ายลงมือ นิกายกระบี่ 7 ดาวคงต้องพบพานกับหายนะทำลายล้าง
ภายในนิกายกระบี่ 7 ดาวนี้ ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด มี 3 คน นับว่าเป็นขุมพลังหลักของนิกายกระบี่ 7 ดาว ต่างอยู่ในระดับ หยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 6 อันได้แก่ตัวมัน อาวุโสเผิงและผู้พิทักษ์อาวุโสเฉียน
นั่นหมายความว่าขอเพียงมีตัวตนระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 7 ขึ้นไปสักคนที่มีความเข้าใจในแนวคิดไม่อ่อนด้อย ก็เพียงพอที่จะกวาดล้างทั้งนิกายกระบี่ 7 ดาวให้พินาศ…
สถานที่ๆมีตัวตนระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขั้นที่ 7 หรือเหนือกว่ามีเพียงสถานที่เดียวเท่านั้นก็คือ ตระกูลราชวงศ์ที่อาศัยอยู่ในวังหลวงของอาณาจักรพนาคราม…
และคนๆนั้นเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลราชวงศ์! อันได้รับการขนานนามว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรพนาคราม
แต่ทว่าอาจารย์ของนายน้อยกู่ฉิน ยังสามารถทำให้ตัวตนเช่นนั้นบังเกิดความเคารพ และปฏิบัติตัวด้วยอย่างสุภาพ นั่นหมายความว่าพลังและอำนาจของมันไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าอย่างแน่นอน
ในฐานะประมุขนิกายกระบี่ 7 ดาวแล้วถึงแม้ว่าตัวมันจะไม่เต็มใจและฝืนทนสักเท่าไร… มันก็รู้ดีว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้…!
มันไม่ได้ตัวคนเดียว!
มันเป็นตัวแทนของนิกายกระบี่ 7 ดาวทั้งหมด!!
"ต้วนหลิงเทียน…นิกายกระบี่ 7 ดาวของข้า ทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว…" ตอนนี้เองก็มีเสียงของหลิ่งหูจิ่นหงส่งตรงมายังหูของต้วนหลิงเทียน ในน้ำเสียงแฝงความจนปัญญาเอาไว้ไม่น้อย
คิ้วของต้วนหลิงเทียนเพียงโค้งขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะมองไปยังหลิ่งหูจิ่นหงด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้กล่าวว่าอะไรออกมา
เขาย่อมคาดเดาได้ว่าตอนนี้ในใจของหลิ่งหูจิ่นหงคิดอ่านอะไร… นั่นทำให้เขาไม่คิดโทษอีกฝ่ายสักนิด…