สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 445 : ความแข็งแกร่งของนายน้อยกู่ฉิน
WSSTH บทที่ 445 : ความแข็งแกร่งของนายน้อยกู่ฉิน
บนเวทีประลองเป็นตายนั้น มีร่างๆหนึ่งกำลังยืนอยู่กลางเวทีเพียงลำพัง ร่างนั้นแลดูองอาจและมั่นใจในตัวเอง มันหลับตารอเวลาจนราวกับคล้ายศิลาปั้นไร้ชีวิตก้อนหนึ่ง
เวลาเองก็ค่อยๆไหลผ่านไปอย่างเงียบงัน
หลังจากรอมาตั้งแต่เช้า เหล่าศิษย์นิกายหลายคนที่อยู่รอบๆ เวทีประลองเป็นตายเองก็อดไม่ที่จะจะเริ่มบ่นออกมา อย่างโอดครวญท่าทางพวกมันจะหมดความอดทนแล้ว
"ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนอยู่ที่ใด ใยป่านนี้ถึงยังไม่มาอีกเล่า?"
"สองปีที่แล้ว นัดหมายกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ มิใช่ว่าวันนี้…เขากลับบังเกิดความเขลา ถึงขั้นมิกล้ามาหรอกนะ?
"อาจเป็นได้ จะอย่างไร 2 ปีที่แล้วนายน้อยกู่ฉินก็มีระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 … ด้วยพรสวรรค์ของนายน้อยกู่ฉินข้าจะมิแปลกใจเลย หากเขาจักตัดผ่านไปยังระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 9 "
"ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 9… ต้วนหลิงเทียน ยังคงอยู่ในระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4 เท่านั้นเมื่อ 1 ปีที่แล้ว… เพียงเวลาแค่ปีเดียวเขาอาจจะยังเทียบไม่ได้กับนายน้อยกู่ฉิน"
"มิผิด บางทีคงต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปีเขาอาจจะเหนือกว่านายน้อยกู่ฉิน แต่ตอนนี้นับว่าทั้งคู่ยังต่างชั้นกันอยู่หลายขั้นนัก…"
…
เหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวไม่มีใครคิดว่าต้วนหลิงเทียนจะมีเปรียบอะไรในวันนี้
แน่นอนว่ายังมีศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวที่มั่นใจในตัวต้วนหลิงเทียนอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
"ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนต้องมาแน่!!"
"มิเพียงแต่ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนจักมา แต่ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนต้องสำแดงความมหัศจรรย์กระทั่งเอาชนะนายน้อยกู่ฉิน สื่อชาง! สร้างตำนานให้เล่าขานระบือไปทั่วทั้งอาณาจักรพนาคราม!!"
"นายน้อยกู่ฉินนั่นสุดท้ายต้องเป็นเพียง หินรองเท้าก้อนหนึ่งให้ศิษย์พี่ต้วนหลิงเหยียบย่ำเทียนก้าวเดินต่อไปเท่านั้น!!"
"ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนมักสร้างปาฏิหาริย์อยู่เสมอ ข้าเชื่อว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน"
…
ที่แย้งคอเป็นเอ็นออกมาเหล่านี้ ส่วนมากแล้วเป็นศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียน
พวกมันได้เห็นการผงาดขึ้นมาอย่างเหนือชั้นของต้วนหลิงเทียนด้วยสองตาตัวเอง!
สำหรับพวกมันแล้ว ต้วนหลิงเทียนไม่ได้ต่างอะไรไปจากตำนานที่ยังเดินได้ ของขุนเขาเทียนเฉวียน ของนิกายกระบี่ 7 ดาว! เป็นตำนานที่พวกมันล้วนชื่นชมนับถือสุดใจ
"เฮอะ!!" ทันใดนั้นเองร่างชายหนุ่มอันแสนจะหยิ่งยโส ที่ยืนนิ่งคล้ายศิลาบนเวทีพลันลืมตา พร้อมกล่าววาจาออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ต้วนหลิงเทียน อัจฉริยะอันดับ 1 ของนิกายกระบี่ 7 ดาว …มันยังมิมาอีกหรือ? ประมุขหลิ่งหู ดูเหมือนอัจฉริยะอันดับ 1 ของนิกายกระบี่ 7 ดาวท่าน จักมิได้เป็นดั่งคำร่ำลือกันสักเท่าไร!" ในขณะที่มันกล่าววาจานี้ มันยังเงยหน้าแหงนมองขึ้นไปยังร่างตัวตนระดับสูงของกระบี่ 7 ดาวบนท้องฟ้า
หลิ่งหูจิ่นหง!
ประมุขนิกายกระบี่ 7 ดาว!
"นายน้อยกู่ฉิน ใจเย็นลงก่อนเถิด อย่าได้เร่งร้อนไป" หลิ่งหูจิ่นหงนั้นไม่ได้นำพาวาจาเสียดสีอะไร ยังคงยิ้มแย้มกล่าวคำออกมาด้วยนำเสียงสบาย "ข้ารู้จักต้วนหลิงเทียนดี ในเมื่อตัวเขายอมรับนัดหมายประลอง 2 ปีแล้ว เช่นนั้นเขาย่อมมา มิกลับกลอกวาจาเป็นแน่…"
1 ใน 5 นายน้อยผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรพนาคราม นายน้อยกู่ฉิน สื่อชางกล่าว “ข้าก็หวังว่าจักเป็นเช่นนั้น!”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง
"นั่นต้วนหลิงเทียน!"
"ต้วนหลิงเทียนมาแล้ว!"
"อ๊า! ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนจริงๆด้วย ฮึ! อย่างที่ข้าคิดไว้มิมีผิด อย่างศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนน่ะหรือ จักต้องกลัวนายน้อยกู่ฉิน?"
…
คลื่นเสียงโหมกระหน่ำขึ้นมากึกก้องไปทั่วขุนเขาเทียนชู
ตอนนี้ผู้คนรีบแหวกแยกออกเป็นสองฝั่ง เปิดทางให้ต้วนหลิงเทียนเยื้องย่างขึ้นสู่เวทีประลองเป็นตาย อย่างสะดวก
ปลายสุดเส้นทางด้านนอกปรากฏร่าง 2 คนที่กำลังเดินเคียงไหล่กันมา
เป็นต้วนหลิงเทียนและโม่อี้
"อะฮ่า ช่างครึกครื้น รื่นเริงกันซะจริง" ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาด้วยอารมณ์ เมื่อเห็นศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่ที่นี่
เหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวที่มารวมตัวกันย่อมปรารถนาชมดูว่า นัดหมายประลอง 2 ปีครานี้ผู้ใดจะกำชัยชนะ แข็งแกร่งกว่ากัน!
เหล่าศิษย์นิกายต่างประสานมือคารวะต้วนหลิงเทียน ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนเดินผ่าน
"ข้ามิได้เห็นศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนมาเนิ่นนานแล้ว ดูเหมือนท่าทางของเขาจะเปลี่ยนมิไม่ใช่น้อย"
"มิผิด ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนได้เติบโตขึ้นไม่น้อย เขาแลดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อีกทั้งความแข็งแกร่งแน่นอนว่าย่อมสูงส่งขึ้นด้วย"
…
ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวล้วนซุบซิบสนทนากันดังระงม
"ผู้คนที่เดินมากับศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน ใช่ศิษย์ส่วนตัวของท่านประมุข ที่ท่านประมุขรับมาปีก่อนหรือไม่?"
"มิผิดเขาเป็นศิษย์ส่วนตัวของท่านประมุขที่รับมาปีก่อน แทนที่ตัว ศิษย์ทรยศอย่างตัวบัดซบหวงจี้!"
"ตัวบัดซบสารเลวหวงจี้นั่น ช่างน่าตายนัก! ท่านประมุขใช้ทรัพยากรตั้งมากมายของนิกายกระบี่ 7 ดาวดูแลมันอย่างดีส่งเสริมให้มันดั่งอัจฉริยะบุคคล แต่สุดท้ายสิ่งที่มันตอบแทนกลับมาคือความทรยศ!"
…
สายตาของศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวหลายต่อหลายคนตกไปยังร่างของโม่อี้ ก่อนที่จะพาลนึกถึงเรื่องราวที่กระตุ้นโทสะของพวกมันออกมา
พวกมันล้วนแล้วแต่รังเกียจหวงจี้ที่ทรยศนิกายทั้งสิ้น
ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนและโม่อี้ก็เดินมาถึงเวทีประลองเป็นตาย
ติดขอบเวทีประลองเป็นตายต้วนหลิงเทียนก็ได้เห็นร่างอันคุ้นเคย
เหอตงและสั่วฉิง ซึ่งเป็นศิษย์สายใน…ยังมีเจิ้งซง และเฮ่อชวนคนรู้จักที่ขุนเขาเทียนเฉวียน
ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆพร้อมพยักหน้าทักทายคนรู้จักเหล่านี้
หลังจากที่ทั้งหมดยิ้มพยักหน้ากลับ ต้วนหลิงเทียนก็กระโดดขึ้นไปยังเวทีประลองเป็นตาย ด้วยท่าทางสบายๆ
ในตอนนี้ทุกสายตาพร้อมใจกันจับจ้องไปยังร่างทั้ง 2 บนเวทีประลองเป็นตาย
ต้วนหลิงเทียนผู้เป็นอัจฉริยะอันดับ 1 ของนิกายกระบี่ 7 ดาว ได้เอาชนะนายน้อยคมมีด ซึ่งเป็น 1 ใน 5 นายน้อยผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจกรพนาครามได้ในการประลองแข่งขั้น 5 นิกายใหญ่
นายน้อยกู่ฉิน เองก็เป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง ในบรรดา 5 นายน้อยผู้ยิ่งใหญ่เช่นกัน ทั้งยังเรียกได้ว่าความสามารถของมันอยู่ในอันดับที่ 3ของนายน้อยผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 5 มีระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน
การต่อสู้ของเหล่าตัวตนผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ นับว่ายากนักที่จะเกิดขึ้น และมีน้อยคนนักที่จะได้เห็น
พวกมันทั้งหมดต่างคาดหวังกันอย่างยิ่ง
ดวงตาของสื่อชาง นายน้อยกูฉินชืดชาลง เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนขึ้นมานเวทีประลอง ก่อนที่มันจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นๆ “ในที่สุดเจ้าก็มาได้เสียที ต้วนหลิงเทียน ข้านึกว่าเจ้าจักมิกล้าโผล่หัวออกมาแล้ว!”
ทว่าต้วนหลิงเทียนกลับทำราวกับไม่ได้ยินคำกล่าวของมัน … เขาไม่แยแสมันแม้แต่น้อย
"ประมุขนิกาย ผู้อาวุโส" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังหลิ่งหูจิ่นหงและคนรู้จักอื่นๆ บนฟ้าพร้อมยิ้มแย้มทักทาย
นอกจากจ้าวหลินแล้ว คนอื่นๆล้วนพยักหน้าตอบกลับคำทำทักของต้วนหลิงเทียนทั้งสิ้น
"ต้วนหลิงเทียน!" จ้าวหลินเพ่งไปยังต้วนหลิงเทียนเขม็ง จิตสังหารของมันระอุขึ้นมาในแววตาปานจะกลืนกินเลือดเนื้อต้วนหลิงเทียน
ถึงแม้ว่าจิตสังหารของจ้าวหลินจะได้รับการปิดซ่อนเอาไว้อย่างดี กระทั่งหลิ่งหูจิ่นหงและคนอื่นๆ ไม่ทันสัมผัสได้ แต่ต้วนหลิงเทียนย่อมสัมผัสได้อย่างชัดเจน
‘จิตสังหารของจ้าวหลินที่มีต่อข้า ดูจะมากขึ้นกว่าเดิมซะอีก…อืม มันบอกว่าลูกมันได้ทำลายระดับบ่มเพาะ เพื่อฝึกฝนวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นฯ นั่นที่ข้าเขียนหลอกไว้….หรือลูกชายมันบ้าจี้กระทำตาม ข้อกำหนดบ้าบออย่างการตอนตัวเองที่ข้าเขียนเล่นเอาไว้…’ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองจ้าวหลินด้วยสายตาแปลกๆ
“ต้วนหลิงเทียน!”โทสะอารมณ์ของสื่อชางพุ่งทะลุฟ้า เมื่อพบเจอการไม่แยแสของต้วนหลิงเทียน มันสะบัดมือคราหนึ่งปรากฏกู่ฉิน ขึ้นมาตัวหนึ่ง เป็นกู่ฉินที่มันมักจะพกติดตัวและเล่นเสมอๆ….
และกู่ฉินนี้ นับเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 5 ชิ้นหนึ่ง!
อาวุธวิญญาณระดับ 5!
“นายน้อยกู่ฉิน อย่าได้ใจร้อน” ทันทีที่สื่อชาง เรียกกู่ฉินออกมา และเตรียมวางนิ้วบนสายกู่ฉินพร้อมโจมตี หลิ่งหูจิ่นหงก็กล่าวคำขึ้นมาขัดมันเสียก่อน “วันนี้ข้าหวังว่าท่านจะหยุดมือเมื่อจี้ถึงตัว …เป็นอันรู้ผลการประลองระหว่างท่านกับต้วนหลิงเทียน จักได้มิส่งผลต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน … เรื่องนี้นายน้อยกู่ฉินเห็นชอบหรือไม่”
“เฮอะ!” นายน้อยกู่ฉินมองไปยังร่างของต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย็นชา “ประมุขหลิ่งหูเรื่องนี้ข้าว่าท่านต้องเข้าใจอันใดผิดไปแล้ว…หากยังเป็นการประลองไร้สาระ จี้ถึงตัวแล้วหยุดมือนั่น… ข้ากับต้วนหลิงเทียนจักเสียเวลานัดหมายกันทำอะไร? ….หรือบางที นี่เป็นเพราะต้วนหลิงเทียนกลับหัวหดหวาดกลัวต่อความตาย จึงร้องขอให้ประมุขหลิ่งหูช่วยกล่าวคำออกมาแทรกแซงนัดหมาย 2 ปีของพวกเรา?”
คำกล่าวของสื่อชางนั้น เน้นย้ำในคำ ต้วนหลิงเทียนหวาดกลัวความตาย ดังชัดเจนขึ้นมา…
หลิ่งหูจิ่นหงส์ขมวดคิ้วโดยพลัน
เหล่าตัวตนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาวก็ไม่พอใจขึ้นมาเมื่อโดนกล่าววาจาเสียดสีเช่นนี้เหมือนกัน
พรสวรรค์ตามธรรมชาติของต้วนหลิงเทียน นั้นเป็นอะไรที่พิเศษ และเขายังเป็นความหวังในอนาคตของนิกายกระบี่ 7 ดาว
หากเป็นไปได้แน่นอนว่าพวกมันต้องไม่ยินยอมให้ต้วนหลิงเทียนเสี่ยงอันตราย
นั่นทำให้ประมุขหลิ่งหูจิ่นหงกล่าวออกไปเช่นนั้น…
“นายน้อยกู่ฉินในเมื่อเจ้าต้องการจะสู้ให้ถึงที่สุด ไม่มีจี้หยุดเมื่อถึงตัว งันเราก็มารบกันให้ถึงที่สุด ไม่ต้องยั้งไม้ยั้งมืออะไร…ทำไมข้าต้วนหลิงเทียน ต้องกลัวด้วยเล่า?” ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาชัดถ้อยชัดคำ วาจานับว่าฉะฉานท่วงท่ายังเด็ดเดี่ยวน่าเกรงขาม ยืนตระหง่านดั่งเทพสงครามไร้ซึ่งความหวาดหวั่น
ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบ นอกเหนือจากจ้าวหลินที่ยินดีในคราวเคราะห์ของต้วนหลิงเทียนแล้ว คนอื่นๆในระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาวล้วนแสดงท่าทางน่ากลัวออกมา
"ต้วนหลิงเทียนอย่าได้วู่วาม!"
“ทำไม่ได้! เจ้ายังมีระดับบ่มเพาะเพียงแค่ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 6 ! เจ้ายังมิใช่คู่ต่อสู้ของนายน้อยกู่ฉินในตอนนี้ …หากยังมีชีวิตย่อมมีความหวังเสมอ!”
“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน วันนี้ต่อให้ท่านแพ้ก็ไม่เป็นไร ไม่ช้าก็เร็วท่านสามารถล้างความอัปยศในวันนี้ได้แน่นอน เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น!”
…
ตอนนี้การส่งเสียงผ่านพลังงานต้นกำเนิดจำนวนมากดังขึ้นในหูของต้วนหลิงเทียน
บางส่วนของเสียงเหล่านี้มาจากระดับสูงของนิกาย บางเสียงก็มาจากศิษย์ นี่ทำให้ในใจต้วนหลิงเทียนรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาไม่น้อย
นิกาย!
นี่เป็นนิกายของเขา!
นิกายของเขา ต้วนหลิงเทียน!
นี่เป็นครั้งแรก…ที่ในใจต้วนหลิงเทียนเห็นความสำคัญของนิกายกระบี่ 7 ดาวขึ้นมา
"ฮ่า ๆ … ดี!" นายน้อยกู่ฉิน สื่อชางหัวเราะร่าออกมา เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียน เห็นด้วยกับวาจามัน “ต้วนหลิงเทียนข้าได้ยินมาว่า เจาเอาชนะนายน้อยคมมีดเมื่อปีที่แล้ว … จะว่าไปแล้ว…อันที่จริงตอนข้าได้ยินข่าวนี้ ข้าเองก็ประหลาดใจไม่น้อย”
“เพราะมันแค่ 1 ปีเท่านั้นจากที่ข้าพบเจอเจ้าในวันนั้น แต่เจ้าสามารถตัดผ่านไปยังระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4 ได้แล้ว ข้าเองก็ต้องยอมรับว่าพรสวรรค์ในเชิงยุทธ์ของเจ้าแข็งแกร่งยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ผ่านมาแล้วอีก 1 ปี แต่ระดับบ่มเพาะของเจ้ายังไม่ตัดผ่านไปยังระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7ใช่หรือไม่?” เมื่อกล่าวจบ ในแววตาของสื่อชางก็เผยอารมณ์หยามหยันออกมาเล็กน้อย “ข้ากล่าวถูกหรือไม่?”
ต้วนหลิงเทียนยังคงแสดงท่าทีเฉยชาไม่ได้แยแสอะไร หรือหวั่นไหวอะไรกับคำพูดของมันแม้แต่น้อย กล่าวถามไปด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา “แล้วถ้าข้ายังไม่ตัดผ่านไปยังระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 มันจะเป็นอะไร?”
"เขายังมิได้ตัดผ่านไปยังระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 เช่นนั้นหรือ?" ตอนนี้เหล่าศิษย์ของนิกายกระบี่ 7 ดาวจำนวนมาก เริ่มหลังเหงื่อเย็นออกมาเมื่อได้ยินคำต้วนหลิงเทียน และพวกมันล้วนอธิษฐานภาวนาขอให้ ระดับบ่มเพาะของนายน้อยกู่ฉินยังคงเป็นระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 เหมือนเดิม เท่ากับเมื่อ 2 ปีที่แล้ว …
แต่เรื่องนี้ยังเป็นไปได้หรือ?
"เจ้านี่ช่างหยิ่งยโสเสียจริงๆ … " นายน้อยกู่ฉินสะบัดมือเล็กน้อยก่อนที่จะหัวเราะเสียงดัง และเสียงหัวเราะนั้นยังเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน "แต่น่าเสียดายที่เจ้ายังไร้คุณสมบัติที่จักทำตัวหยิ่งยโสต่อหน้าข้า! และข้าจักให้เจ้าได้สัมผัสกับระดับบ่มเพาะที่ข้าก้าวหน้าขึ้นภายใน 2 ปีนี้ …ข้าเชื่อว่ามันน่าจักทำให้เจ้าประหลาดใจ!" ด้วยคำประกาศกร้าวของสื่อชาง ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปที่มัน
วู้มมม!
พลังงานต้นกำเนิดทั่วร่างของสื่อชางปะทุแผ่พุ่งส่งเสียงคำรามออกมา …และไอพลังฟ้าดินก็เริ่มตอบรับต่อความแข็งแกร่งพลังงานต้นกำเนิดมันจนฉาย เงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา
1,000 ตัว
1,100 ตัว
1,200 ตัว
ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
1,300 ตัว
…
1,500 ช้างแมมมอธโบราณ!
นายน้อยกู่ฉินยังไม่ได้ใช้คุณสมบัติการเพิ่มพูนพลังงานต้นกำเนิดของกู่ฉินวิญญาณระดับ 5 ในมือ! เพียงอาศัยพลังงานต้นกำเนิดที่แท้จริงของร่างกายมัน ก็ทำให้ไอพลังฟ้าดินตอบสนองฉายเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 1,500 ตัว!!
"ระดับครึ่งก้าวธรรมชาติ!"
"สวรรค์ช่วยในเวลาแค่ 2 ปี นายน้อยกู่ฉินกลับสามารถตัดผ่านไปยังระดับครึ่งก้าวธรรมชาติได้จริงๆ!!"
…
ตอนนี้เหล่าศิษย์ของนิกายกระบี่ 7 ดาวล้วนตกตะลึงอึ้งค้าง อาปากหวอราวตัวโง่งม ทั้งสีหน้าของเหล่าตัวตนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาวเองก็ยังมืดมนลงอย่างน่ากลัว…