หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 421 : เพิ่มพูนความแข็งแกร่ง 42%

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 421 : เพิ่มพูนความแข็งแกร่ง 42%
Prev
Next

WSSTH บทที่ 421 : เพิ่มพูนความแข็งแกร่ง 42%

 

 

จากความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้ดีว่าวิชาบ่มเพาะชั้นเลิศเช่นนี้นั้น  ย่อมถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้ ของทวีปเมฆาล่อง

และต้วนหลิงเทียนยังมั่นใจเต็มร้อยอีกด้วย ว่าหากจ้าวอวี่ จ้าวหลิน และคนของตระกูลจ้าวคนอื่นๆ ได้เห็นวิชาบ่มเพาะนี่แล้วล่ะก็ พวกมันคงไม่อาจต้านทานความเย้ายวนได้แน่นอน

"จ้าวหลิน ไม่ใช่เจ้าต้องการวิชาคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของข้านักหรือไร  …ในเมื่อเจ้าอยากได้ขนาดนั้น เช่นนั้นข้าก็จัดให้ตามที่เจ้าต้องการ!"เมื่อต้วนหลิงเทียนนึกถึงจ้าวหลินดวงตาพลันกระพริบส่องแสงเย็นชาออกมา

ตุบ!

ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนก็ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะหันไปมองชายวัยกลางคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านข้าง  "เอาวิชาบ่มเพาะนี่ไปให้จ้าวอวี่เสีย… แล้วบอกมันว่าเจ้าได้วิชานี่ หลังจากที่สังหารข้าได้แล้ว  ด้วยวิธีนี้เจ้าก็ไม่มีปัญหากับจ้าวอวี่"

"นี่ … " ชายวัยกลางคนลังเลไม่น้อย และอยากกล่าวถามบางอย่าง

เพราะจะอย่างไร มันก็เห็นชายหนุ่มตรงหน้าเขียนวิชาบ่มเพาะนี่ขึ้นมาเอง …

แล้ววิชาบ่มเพาะที่เขียนขึ้นมาเองของเด็กน้อยคนหนึ่ง จะตบตาจิ้งจอกเฒ่าอย่างจ้าวอวี่ได้หรือ?

ในใจมันรู้สึกอับจนหนทางอย่างแท้จริง

"อะไร? เจ้ากังวลว่าจ้าวอวี่จะรู้เรื่องนี้?" ต้วนหลิงเทียนมองชายวัยกลางคนอย่างไม่แยแส ก่อนที่จะยื่นส่งคัมภีร์ที่เขียนขึ้นให้ไป "เจ้าลองอ่านดูเอง"

ชายวัยกลางคนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะรับคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกมา

ครู่ต่อมาจิตใจของชายวัยกลางคนก็ราวกับต้องมนต์สะกด!  มันโดนวิชาบ่มเพาะนี่ล่อลวงอย่างสิ้นเชิง สองตาไม่อาจละจากวิชาบ่มเพาะครึ่งแรก

เวลาไหลผ่านไปอย่างเงียบงัน

หลังจากที่ผ่านไป 15 นาทีชายวัยกลางคนได้อ่านวิชาบ่มเพาะ บทแรกจบ มันก็ส่งให้ต้วนหลิงเทียน ด้วยสายตาและท่าทางราวกับเห็นต้วนหลิงเทยีนเป็นเทพเซียน “วิชาบ่มเพาะนี่…ท่านต้องการให้ข้ามอบแก่จ้าวอวี่จริงหรือ?” ชายวัยกลางคนประหลาดใจนัก

มันดูก็รู้ว่าวิชาบ่มเพาะนี่มีค่าขนาดไหน กระทั่งมันยังหลงใหลอยากได้เสียเอง

แต่ตอนนี้ชายหนุ่มตรงหน้าจะมอบวิชาเลิศล้ำนี่ให้จ้าวอวี่ ผู้ที่คิดสังหารตัวเขาเอง…?

เขาอดอื้ออึงขึ้นมาไม่ได้

ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองไปยังชายวัยกลางคนด้วยสายตาเบื่อหน่าย ก่อนจะกล่าวออกมา  "แค่ทำตามที่บอกก็พอ อย่าได้ถามมากความ … เสี่ยวจินเจ้าตามมันไป ถ้าเห็นมันคิดเล่นไม่ซื่ออะไร…ก็ฆ่ามันได้เลย!"

"จี๊ด ~" หนูขนทองตัวน้อยพยักหน้ารับ กระบี่วิญญาณเล่มจิ๋วในมือเรืองแสงวูบวาบขึ้นมา ราวกับพร้อมสะบัดจ้วงทะลวงผู้คนได้ทุกเวลา

หน้าชายวัยกลางคนซีดลงโดยพลัน มันรู้ดีว่าหากมันยังอยากมีลมหายใจอยู่ต่อ มันต้องกระทำตามที่ชายหนุ่มสั่ง

หาไม่แล้วมันย่อมตายแน่นอน!

มันยังวางแผนเอาไว้อีกว่าหลังจากส่งมอบวิชาบ่มเพาะนี่ให้จ้าวอวี่แล้ว ตัวมันจะรีบเก็บข้าวของออกจากเมืองโบราณชั่วนิรันดร์แห่งนี้ไปให้ไกล  เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาภายหลัง

มันรู้สึกว่าวิชาบ่มเพาะในมือนั้นหาได้ง่ายดายและเลิศล้ำอย่างที่มันเห็น

ถึงแม้ว่ามันจะไม่รู้จักมักคุ้นกับชายหนุ่มเบื้องหน้า แต่มันรู้ดีว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่คนใจดีส่งมอบวิชาให้ง่ายๆ…

จ้าวอวี่นั่นมันคิดฆ่าชายหนุ่มเบื้องหน้า!

เมื่อมันลองถามตัวเองดูว่าหากมันเป็นชายหนุ่มคนนี้ มันจะยังมอบวิชาออกไปแต่โดยดีอีกหรือ?

หลังจากที่ชายหนุ่มเดินออกไปแล้ว มันก็ทำได้เพียงบ่นพึมพำออกมา “เด็กนั่นต้อง ลงมือทำอะไรบางอย่างกับวิชาบ่มเพาะนี่เป็นแน่”

ต้วนหลิงเทียนมองส่งชายวัยกลางคนด้วยหางตา และเมื่อมันจากไป เขาก็เริ่มหยิบวัตถุดิบออกมา เตรียมการหลอมกระบี่วิญญาณระดับ 6 สำหรับตัวเขาเอง

“ช่วงนี้ข้ามีเรื่องเยอะแยะวุ่นวาย ไม่ได้ว่างหลอมกระบี่ให้ตัวเองกับสาวน้อยทั้งสองสักที…เอาล่ะ ข้าจะหลอมของข้าเพื่อเอาไว้ใช้ก่อน ส่วนของอีก 2 คนค่อยทำหลังจากที่มีเวลาว่าง” ต้วนหลิงเทียนคิดอ่านในใจ ก่อนที่จะปรากฏเปลวเพลิงสีเขียวปะทุขึ้นมาในฝ่ามือ

เปลวเพลิงหลอมศาสตราระดับ 6!

เหล่าวัตถุดิบทั้งหลาย หลอมลลายลงโดยพลันเมื่อสัมผัสเข้ากับเปลวเพลิงตรงหน้า และพวกมันก็เริ่มผสานกลายเป็นเนื้อเดียวกันอย่างช้าๆ

มือของต้วนหลิงเทียนขยับว่องไวดั่งมีพันกร…

ความเร็วในการเคลื่อนไหวของมือและความเชี่ยวชาญของเขาน่าตระหนกนัก

หากมีผู้หลอมศาสตราสักคนอยู่ที่นี่ มันต้องประหลาดใจอย่างถึงขีดสุด เพราะวิธีหลอมสร้างศาสตราของต้วนหลิงเทียนนั้น เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจใจนัก

ไม่นานวัตถุดิบทั้งหมดก็หลอมละลายจนกลายเป็นสีใส ต้วนหลิงเทียนเองก็หยิบกระบี่ใบแคบที่เคยใช้อยู่ โยนลงไปหลอมด้วยเช่นกัน

หลังจากนั้นกระบี่อ่อนดาราม่วงก็ถูกหยิบออกมาและโยนเข้าไปเช่นกัน

ไม่นานทั้งหมดก็เริ่มหลอมละลายกลายเป้นของเหลว และถูกเขาขึ้นรูปกระบี่อย่างช้าๆ

ในที่สุดรูปร่างของมันก็เริ่มกลายเป็นกระบี่อ่อนสีม่วงเข้มเล่มหนึ่ง

ความบางของมันนั้นแทบไม่ต่างอะไรไปจากปีกของจั๊กจั่น ดูไม่ต่างไปจากกระบี่อ่อนดาราม่วงเล่มเก่าสักเท่าไร  แต่เพียงกลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมาก็รู้ว่ามันต่างจากเดิมไม่น้อย

ต้วนหลิงเทียนหยิบกระบี่อ่อนขึ้นมา ก่อนที่จะถ่ายเทพลังงานต้นกำเนิดลงไป

ทันใดนั้นพลังงานต้นกำเนิดก็เริ่มเกรี้ยวกราดและเพิ่มพูนขึ้น!

วู้มมมม

ตอนแรกเหนือร่างต้วนหลิงเทียนปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 600 ตัว และครู่ต่อมาก็ปรากฏเพิ่มขึ้นมาอีก 252 ตัว!

ทั้งหมด 852 ช้างแมมมอธโบราณ!

“หืม? สามารถเพิ่มพูนความแข็งแกร่งได้ 42% งั้นเหรอ…นับว่ามีประสิทธิภาพไม่ธรรมดาเลยจริงๆ” ใบหน้าต้วนหลิงเทียนเผยความประหลาดใจออกมาไม่น้อย  ตอนแรกเขาคิดว่ากระบี่วิญญาณระดับ 6 ในมืออย่างมากก็น่าจะเพิ่มพูนความแข็งแกร่งได้แค่ 41% เท่านั้น  แต่ใครจะไปรู้ว่ามันกลับเพิ่มพูนได้ถึง 42%!

เพราะทั้งหมดที่รู้ กระบี่วิญญาณระดับ 6 ที่ต้วนหลิงเทียนใช้อยู่ก่อนหน้าประจำ ก็ยังเพิ่มพูนความแข็งแกร่งได้เพียง 38% เท่านั้น…

อย่างดาบ รัตติกาลไร้น้ำตา ของปรมาจารย์เจิ้งฝานแห่งนิกายกระบี่ 7 ดาวนั้น กล่าวได้ว่ามันเป็นสุดยอดดาบวิญญาณระดับ 6 แล้ว เพราะมันเพิ่มพูนความแข็งแกร่งได้ถึง 40%

แต่ตอนนี้กระบี่อ่อนในมือต้วนหลิงเทียนกลับทรงพลังยิ่งกว่า รัตติกาลไร้น้ำตา!

กล่าวได้ว่าตอนนี้ในทวีปเมฆาล่องอาจจะมีต้วนหลิงเทียนเพียงคนเดียวที่มีความสามารถในการหลอมสร้างกระบี่วิญญาณระดับ 6 เช่นนี้ได้

เพราะเท่าที่รู้จากความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตัวจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดเองก็สามารถหลอมสร้างได้เพียงแค่เล่มเดียวเท่านั้น ที่มีความสามารถเพิ่มพูน 42% เช่นนี้

"กระบี่วิญญาณระดับ 6 นี่…น่าจะเป็นขีดจำกัดของข้าแล้ว" ต้วนหลิงเทียนระบายลมหายใจออกมา ก่อนที่จะตวัดกระบี่อ่อน

"ข้ายังจะเรียกเจ้าว่ากระบี่อ่อนดาราม่วงเช่นเดิม…" ต้วนหลิงเทียนลูบกระบี่อ่อนในมืออย่างช้าๆ ในแววตาเผยความหลงใหลราวกับมองอิสตรีคนรัก

ฟุ่บบบบ!

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังเหม่อลอยอยู่นั้นข้างๆ ก็บังเกิดแรงลมกรรโชกวูบหนึ่ง

ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงน้ำหนักที่ทิ้งลงบนไหล่ ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร “เสี่ยวจิน เป็นไงบ้าง ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่?”

"ฮี่ๆ…พี่ใหญ่หลิงเทียน จ้าวอวี่นั้นยามได้รับวิชาบ่มเพาะไปและเปิดดู สองตามันโตเท่าไข่ไก่ มันมองราวกับจะนั่งลงฝึกฝนซะเดี๋ยวนั้นเลย … พี่ใหญ่หลิงเทียน ท่านทำอะไรกับวิชาบ่มเพาะนั่นหรือ? " การส่งเสียงผ่านพลังงานต้นกำเนิดของเจ้าหนูน้อยเต็มไปด้วยความอยากรู้

"ข้าจะไปทำอะไรได้เล่า?" ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวและยิ้มออกมา ไม่ได้กล่าวบอกความจริงอะไรออกมา

เพราะความจริงที่ว่านั่นไม่เหมาะสำหรับเด็กน้อยสักเท่าไร

นอกจากนี้เจ้าสหายน้อยตัวนี้ยังพึ่งมีอายุ 7 ปีเท่านั้น เทียบไปแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กสาวตัวน้อยสักนิด

"พี่ใหญ่หลิงเทียน ยังเป็นไปได้อีกหรือที่ท่านจะมอบวิชาบ่มเพาะดีๆให้มัน?" เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวจินไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไร

"เอาล่ะหนูน้อย …พวกเราเองก็ออกเดินทางกันได้แล้ว" ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวแล้วยิ้มไม่ตอบอะไร เลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องแล้วพาเสี่ยวจินเดินทางออกจากเมืองโบราณชั่วนิรันดร์

หลังจากที่เดินออกไปนอกเมืองโบราณชั่วนิรันดร์แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็หยิบนกหวีดออกมา แล้วเป่าเสียงดัง ไม่นานก็มีร่างสีดำพุ่งมาจากขอบฟ้าไกลๆลงจอดตรงหน้า…เป็นเหยี่ยวตะวัน ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 1

"เอาล่ะ เราไปกันเถอะ!" ต้วนหลิงเทียนกระโดดขึ้นไปนั่งบนหลังเหยี่ยวตะวันอย่างสบายตัว  ชุดศิษย์สายในนิกายกระบี่ 7 ดาวโบกสะบัดไปตามแรงลม ยามเหยี่ยวตะวันพุ่งร่างเหินฟ้าขึ้นไปด้วยความเร็วสูง

เจ้าหนูตัวน้อยออกมานั่งตรงไหล่ของต้วนหลิงเทียน สายตาสอดส่ายมองไปซ้ายทีขวาที  ชมดูรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น…

 

ณ หอการค้ากู่เหอเมืองโบราณชั่วนิรันดร์

"เหล่ย" จ้าวอวี่เดินยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไปในบ้านลานหลังเล็กบ้านหนึ่ง  น้ำเสียงของมันยังเต็มไปด้วยความยินดี

"ท่านพ่อ!" ครู่ต่อมาจ้าวเหล่ยก็รีบออกมาเปิดประตูให้บิดาเข้าบ้าน

หลังจากที่ปิดประตูแล้วจ้าวเหล่ยก็เผยความตื่นเต้นออกมา “พ่อท่าทางท่านมีความสุขยิ่ง เรื่องราวใช่ประสบความสำเร็จแล้วหรือไม่?”

"ดูนี่" จ้าวอวี่ส่งคัมภีร์ สภาพเก่าแก่เล่มหนึ่งไปให้จ้าวเหล่ย

"คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ชำระไขกระดูก!" ประกายตาจ้าวเหล่ยเรืองวูบขึ้นมา เมื่อได้เห็นตัวอักษรหน้าปกคัมภีร์ มันเองรู้สึกตื่นเต้นไม่ใช่น้อย “ท่านพ่อ เรื่องนี้ยืนยันแน่แล้วหรือ?”

"อย่าได้กังวลแล้ว …พ่อได้ลองอ่านวิชาบ่มเพาะครึ่งแรกดูแล้ว…มันช่างเป็นวิชาบ่มเพาะที่ล้ำลึกยิ่งนัก! มองไปทั่วอาณาจักรพนาคราม ไม่สิ กระทั่งอาณาจักรศิลาทมิฬ หรือแม้กระทั่งกระทั่งราชอาณาจักรต้าฮั่นเองก็ไม่มีวิชาที่เลิศล้ำถึงเพียงนี้!!" ใบหน้าของจ้าวอวี่เผยรอยยิ้มสดใสออกมา "ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว ว่าเพราะเหตุใดต้วนหลิงเทียน ถึงได้มีความสามารถอัศจรรย์และพรสวรรค์ในเชิงยุทธ์สูงนัก! ที่มันประสบความสำเร็จได้ตั้งแต่อายุเท่านี้ ..ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะ คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกนี่ทั้งสิ้น!"

“ยอดเยี่ยมยิ่งนัก! ในอนาคต ชีวิตข้าจ้าวเหล่ยจักเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!!” จ้าวเหล่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และระงับความตื่นเต้นในใจเอาไว้ ก่อนที่จะหันไปกล่าวถามจ้าวอวี่ “จริงสิท่านพ่อ แล้วต้วนหลิงเทียนเล่า?”

"อย่าได้กังวล…มันได้รับการดูแลอย่างดีแล้ว….หาไม่แล้วเจ้าคิดว่าบิดาเอาคัมภีร์นี่มาจากที่ใด?" เมื่อจ้าวอวี่พูดจบ มันก็หัวเราะออกมาเสียงดัง "เหล่ย พ่อลองคิดดูแล้ว … เจ้ารีบออกเดินทางไปยังนิกายกระบี่ 7 ดาวเสียวันนี้เลยเถอะ นำคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกนี่ไปหาอาของเจ้า และให้อาเจ้าพาไปหาท่านทวดใหญ่ของเจ้า เพื่อไปบ่มเพาะพลังที่จุดชีพจรวิญญาณ  สถานที่บ่มเพาะของท่านทวดเป็น 1 ใน 9 จุดชีพจรวิญญาณที่เลิศล้ำที่สุดของนิกายกระบี่ 7 ดาว  มันเหมาะให้เจ้าใช้คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นบ่มเพาะพลังที่นั่น "

"ท่านทวด?" ประกายตาจ้าวเหล่ยเรืองวูบขึ้นมา

แน่นอนว่ามันรู้ดีว่าทวดที่บิดามันกล่าวถึง ย่อมเป็นขุมพลังหลักของนิกายกระบี่ 7 ดาว

หนึ่งในผู้พิทักษ์อาวุโสทั้งสองของนิกายกระบี่ 7 ดาว!

ผู้คนมักเรียกเขาว่า ผู้อาวุโสหมิง!

“ขอรับท่านพ่อ”จ้าวเหล่ยรีบพยักหน้าทันที

ครู่ต่อมาจ้าวเหล่ยก็เก็บข้าวของ ออกเดินทางด้วยสัตว์อสูรบินได้ชนิดหนึ่ง มุ่งหน้าไปยังนิกายกระบี่ 7 ดาวโดยไม่รอช้า!

ความรู้สึกของจ้าวเหล่ยฮึกเหิมขึ้นมาเต็มเปี่ยมราวกับมันมองเห็นอนาคตที่สดใสทรงพลังของมันแล้ว…

อีกด้านหนึ่ง ห่างไกลออกไปจากเมืองโบราณชั่วนิรันดร์

วู้มมม!

ร่างคนเหยี่ยวดั่งจะติดกัน พุ่งลัดฟ้าไปด้วยความเร็วสูงล้ำ

หากมองให้ชัดจะพบว่าร่างสีดำที่พุ่งข้ามผ่านฟ้าไปด้วยความเร็วสูงนั่น เป็นเหยี่ยวตะวัน ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 1

ด้านหลังเหยี่ยวตะวัน พบชายหนุ่มในชุดสีม่วงนั่งขัดสมาธิหลับตา โคจรพลังอย่างขยันขันแข็ง

เหนือศีรษะของเจ้าเหยี่ยวตะวันพบร่างหนูสีทองตัวน้อยๆ กำลังนั่งอยู่  มันเป็นหนูขนทองตัวอ้วนกลมจ้ำม่ำสมบูรณ์นัก

เจ้าหนูสีทองตัวน้อย ใช้มือน้อยๆดึงขนบนศีรษะเหยี่ยวตะวัน พร้อมส่งเสียงผ่านพลังงานต้นกำเนิดเข้าหูเหยี่ยวตะวันอย่างดุร้าย “เจ้าตัวขนเหม็น ถ้าเจ้าเหาะช้าเช่นนี้ ข้าจะบอกพี่ใหญ่หลิงเทียนให้จับเจ้าไปเคี่ยวในหม้อ ทำน้ำซุบกินเสียดีกว่า”

เหยี่ยวตะวันเป็นสัตว์อสูรระดับวิญญาณแรกก่อตั้ง ซึ่งกล่าวได้ว่าตอนนี้มันเริ่มมีสติปัญญาระดับพื้นฐาน ของมนุษย์บ้างแล้ว  ตอนนี้ดวงตาที่คมกล้าของมันเผยความอ่อนแอและหวาดกลัวออกมาไม่น้อยเมื่อได้ยินเสียงที่ส่งผ่านพลังงานต้นกำเนิดมา

“เสี่ยวจิน เจ้าไปข่มขู่เหยี่ยวตะวันอีกแล้วหรือ?”ทันใดนั้น ชายหนุ่มชุดสีม่วงที่นั่งอยู่บนหลังเหยี่ยวตะวันก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา

ในยามนี้ดูเหมือนร่างของชายหนุ่มจะมีอะไรบางอย่างที่ให้ความรู้สึกต่างออกไปจากเดิม…

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 421 : เพิ่มพูนความแข็งแกร่ง 42%"

3.7 232 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ ( 末世虐杀游戏最新章节 )
รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ ( 末世虐杀游戏最新章节 )
มีนาคม 12, 2022
INVINCIBLE โลกอมตะ
INVINCIBLE โลกอมตะ
มีนาคม 12, 2022
Naruto-Time-Control
ผู้ควบคุมเวลา (นิยายแปล)
ตุลาคม 23, 2024
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
มิถุนายน 26, 2022
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!
มีนาคม 12, 2022
ดาบจอมราชัน
ดาบจอมราชัน
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz