หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 419 : จิ้งจอกเฒ่า เจ้าเล่ห์!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 419 : จิ้งจอกเฒ่า เจ้าเล่ห์!
Prev
Next

บทที่ 419 : จิ้งจอกเฒ่า เจ้าเล่ห์!

 

 

ภายในห้องโถงอันกว้างใหญ่ ของหอการค้ากู่เหอสาขาเมืองโบราณชั่วนิรันดร์

ตอนนี้คนของนิกายกระบี่ 7 ดาวทุกคน รวมถึงต้วนหลิงเทียนก็ได้มารวมกันพร้อมหน้าพร้อมตา

"ต้วนหลิงเทียน เจ้าปิดบังตัวเองไว้ได้อย่างลึกซึ้งนัก …หากข้ามิได้รบจดหมายจากลายมือท่านประมุข ข้าคงมิรู้ว่าเจ้ายังเข้าร่วมนิกายเราไม่ถึง 3 ปี …กระทั่งได้ทำสิ่งอัศจรรย์มากมาย! " ประกายตาของฟงผิงวูบวาบขึ้นมาขณะกล่าวคำ แววตาที่ใช้มองไปยังต้วนหลิงเทียนทอแววระยับดั่งธารดารา ใบหน้าของมันยังคลี่ยิ้มอบอุ่นออกมา

ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มรับคำบางๆ

เขาเองก็รู้ดีแก่ใจว่าหากอาวุโสฟงผิงได้รับจดหมายแล้ว ย่อมรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงเขาเช่นนี้

ที่สำคัญที่สุดก็คือ …เขาหลุดจากสถานะผู้ต้องสงสัยได้เสียที!

คำกล่าวของฟงผิงทำให้ศิษย์สายในอีก 2 คนที่อยู่ในห้องรู้สึกสงสัยไม่น้อย ท่าทางพวกมันแลดูอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดไม่เบา

“อาวุโสฟงผิง ความในจดหมายของท่านประมุขว่าอย่างไรบ้างล่ะขอรับ”

“นั่นสิขอรับ พวกเราเองก็สนใจผลงานของต้วนหลิงเทียนด้วยเช่นกัน”

ศิษย์สายใน มองไปยังอาวุโสฟงผิงเขม็ง กล่าวถามด้วยความอยากรู้ขึ้นมา

“เจ้า 2 คนใจเย็นลงก่อน” ฟงผิงส่ายหัวพร้อมยิ้มเตรียมจะกล่าว ทว่ากลับถูกขัดจังหวะเสียก่อน

“ต้วนหลิงเทียนศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาว เข้าร่วมนิกายกระบี่ 7 ดาวได้ไม่ทันครบปี ก็สังหารฉีฮ่าวศิษย์สายนอกอันดับ 1 และยึดตำแหน่งนั้นมา และเมื่ออายุย่าง 22 ปีก็ลงมือสังหารหลิ่วชีเกอ ศิษย์สายในระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 1 ได้ทั้งๆ ทอยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9”

“และเมื่อไม่นานมานี้ ในการประลอง 5 นิกายใหญ่ที่นิกายบัวปีศาจคมมีด ก็ได้เอาชนะนายน้อยคมมีด หนึ่งในนายน้อยผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าของอาณาจักรพนาคราม  นำพาเกียรติยศอันดับ 1 ในการประลองมาสู่นิกายกระบี่ 7 ดาว!”

เป็นจ้าวอวี่ที่ก้าวออกมากล่าวคำออกมารวดเดียวจบ ทำให้ศิษย์สายใน 2 คนที่ฟังอยู่ถึงกับตะลึงค้างไปในทันใด

ถึงแม้พวกมันจะรู้ว่าความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนนั้นน่ากลัว  แต่พวกมันไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะประสบความสำเร็จอย่างน่าตื่นตระหนกเช่นนี้ที่นิกายกระบี่ 7 ดาว

เขาได้เขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ของนิกายกระบี่ 7 ดาวขึ้นมา!

ตอนนี้สายตาที่พวกมันมองต้วนหลิงเทียนยิ่งเต็มไปด้วยความเคารพ

"ต้วนหลิงเทียน!" ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนก็พบว่า เมื่อจ้าวอวี่กล่าวคำเสร็จ มันก็มองมาทางเขา พร้อมกล่าววาจาออกมาด้วยท่าทางจริงใจ "วันนั้นเป็นเพราะข้ามิอาจยืนยันฐานะที่แท้จริงของเจ้าได้ ข้าจึงกระทำตัวไม่ดีและกล่าววาจาว่าร้ายเจ้าไป…ข้าหวังว่าเจ้าจักเข้าใจ และอภัยให้ข้า"

“อาวุโสจ้าวอวี่ เรื่องมันผ่านไปแล้ว…ก็ให้แล้วกันไปเถอะ อย่าได้กล่าวถึงเลย” ต้วนหลิงเทียนแน่นอนย่อมตอบคำด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นท่าทีสุภาพของจ้าวอวี่

ดูเหมือนว่าจ้าวอวี่นี่จะไม่ได้สันดารเสียเหมือนดั่งลูกชายมัน …

ในฐานะอาวุโสของนิกายกระบี่ 7 ดาว การที่จะมายินดีก้มหัวขอขมาศิษย์สายในคนหนึ่งเช่นนี้ นับว่าหาได้ยากนัก!

"เจ้าลูกมิรักดี เจ้าลืมที่ข้ากล่าวไปแล้วหรือ! ใยยังไม่มาขออภัยต่อศิษย์น้องเจ้าอีก?" ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นว่าจ้าวอวี่ หันไปกล่าววาจาตำหนิจ้าวเหล่ย ราวกับมีโทสะไม่น้อย

จ้าวเหล่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะมองไปยังต้วนหลิงเทียนแล้วก้มหัวลง "ต้วนหลิงเทียนเรื่องราวก่อนหน้านี้ เป็นความผิดของข้าเอง … ข้ามิควรกระทำเช่นนั้น… ต่อไปข้าจะมิให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ข้าหวังว่าเจ้าจะอภัยให้ข้า ที่แล้วก็ให้มันแล้วกันไป"

คำที่จ้าวเหล่ยกล่าวออกมา ทำให้ต้วนหลิงเทียนอึ้งไม่น้อย

ความคิดแรกในหัวของเขาก็คือ จ้าวเหล่ยน่าจะถูกบังคับให้กล่าวคำเช่นนี้…

แต่ตั้งแต่ต้นจนจบในขณะที่จ้าวเหล่ยกล่าวคำ มันไม่มีท่าทางฝืนใจหรือคับข้องใจที่จะกล่าวเช่นนี้เลย  ท่าทางมันดูเหมือนจะกล่าวออกมาด้วยความตั้งใจจริงๆ

เขาก็ไม่ใช่ชนชั้นไร้อารยะ ดังนั้นจึงยิ้มรับบางๆ "ศิษย์พี่จ้าวเหล่ยแม้เรื่องนี้จะเป็นท่านริเริ่มก่อนก็จริง แต่จะอย่างไรวิธีการที่ข้ากระทำต่อท่านก็เกินเลยไปบ้าง… ข้าก็ต้องขออภัยเช่นกัน"

จ้าวเหล่ยยิ้มรับคำเงียบๆแล้วถอยหลังไป

“เอาล่ะ ยามนี้เรื่องราวทั้งหลายล้วนกระจ่าง ฝ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ…ต้วนหลิงเทียนเป็นศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาวเรา ก็ได้รับการยืนยันแล้ว!” ฟงผิงหัวเราะออกมาท่าทางมีความสุขไม่น้อย

ต้วนหลิงเทียนมองไปยังฟงผิงกับจ้าวอวี่ ก่อนที่จะค่อยๆกล่าวออกมา “อาวโสฟงผิง, อาวุโสจ้าวอวี่…ข้ามีอะไรบางอย่าง ที่ต้องบอกกล่าวพวกท่านไว้ล่วงหน้า”

“อะไรหรือ?”

"ว่ามา"

ฟงผิงและจ้าวอวี่มองไปยังต้วนหลิงเทียน ด้วยทีท่าราวกับหากมีอะไรให้บอกพวกมัน พวกมันจะจัดการให้ทันที!

“คือ…ข้าคิดที่จะออกจากเมืองโบราณชั่วนิรันดร์ และเดินทางท่องเที่ยวฝึกฝนไปเรื่อยๆ” ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาตามตรง ไม่ได้อ้อมค้อมอะไร

เรื่องนี้เขาคิดไว้ตั้งแต่ 2 เดือนก่อน ที่จะเดินทางไปกับขบวนพ่อค้าแล้ว

ตอนนี้ในเมื่อเขาได้รับการยืนยันตัวตนแล้ว ก็ได้เวลาจากไปเสียที

การอาศัยที่หอการค้ากู่เหอแห่งเมืองโบราณชั่วนิรันดร์นี้ เสมือนเขาอยู่ในความคุ้มครองและ ไม่ได้มีเรื่องราวอะไรมากมายนัก ประสบการณ์ที่ได้รับก็ไม่มีอะไรมาก

บางทีการออกเดินทางด้วยตัวเองอาจได้รับประสบการณ์มากกว่า และก็เป็นการเคี่ยวกรำตัวเองไปในตัว

คำกล่าวของต้วนหลิงเทียนทำให้อาวุโสฟงผิงขมวดคิ้ว “ต้วนหลิงเทียน ประมุขนิกายส่งเจ้ามาที่นี้ เพื่อหวังให้เจ้ามาหาประสบการณ์และเคี่ยวกรำตัวเอง…และก็มิใช่เพียงแค่นั้น ข้าคิดว่าที่ประมุขส่งเจ้ามาที่นี่ เพราะห่วงใยต่อเจ้า  ในเมืองโบราณชั่วนิรันดร์นี้จะอย่างไรก็มีข้ากับอาวุโสจ้าวอวี่อยู่  แม้ว่าเจ้าจะพบปัญหาอันใด พวกข้าก็ช่วยแก้ไขให้เจ้าได้ไม่ยาก”

“ถูกแล้ว..ต้วนหลิงเทียนหากเจ้าออกไปลำพัง แล้วเกิดพบเหตุร้ายเจออันตรายเข้า จะให้พวกข้ากล่าววาจากับประมุขอย่างไรเล่า?” จ้าวอวี่พยักหน้าและแสดงท่าทางเห็นด้วยกับวาจาของฟงผิง

“ผู้อาวุโส อย่าได้กังวล ข้าจะระมัดระวัง ไม่วู่วามหรือทำอะไรเกินตัว” ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางพร้อมส่ายหัว ราวกับแนวแน่ ไม่คิดเปลี่ยนใจ

ฟงผิงและจ้าวอวี่ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก เมื่อเห็นท่าทียืนกรานของต้วนหลิงเทียน

ฟงผิงยังกล่าวคำด้วยน้ำเสียงจริงจัง เคร่งเครียด “ต้วนหลิงเทียน เจ้าต้องระมัดระวัง ดูแลตัวเองให้ดี และรอบคอบเข้าไว้ให้มากเมื่ออยู่ข้างนอก…เจ้าก็รู้ ว่ายามนี้เจ้ามิได้ตัวคนเดียว แต่อนาคตของนิกายกระบี่ 7 ดาวยังขึ้นอยู่กับเจ้า”

“มิผิด เจ้าต้องระวังให้มากเข้า” อาวุโสจ้าวอวี่ยังกล่าวเสริมออกมา

“อาวุโสอย่างได้กังวล ข้าจะระวังอย่างดี” ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ากล่าว “เช่นนั้น ข้าออกไปเลยแล้วกัน…”

“อย่าได้เร่งรีบนักเลย” จ้าวอวี่กล่าวรั้งต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม “ต้วนหลิงเทียน จะอย่างไรเจ้าก็พึ่งกลับมาวันนี้ สมควรเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางอยู่บ้าง…ให้ข้าและบุตรเป็นเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับพวกเจ้าสักมื้อเป็นไร  ไปหาอันใดกินกันที่เหลาอาหารดีๆสักแห่ง แล้วพรุ่งนี้เจ้าค่อยออกเดินทาง เช่นนี้เป็นอย่างไร?”

"ก็ดีเหมือนกัน" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ ไม่ได้ขัดข้องอะไร

สำหรับเขา ไม่ว่าจะไปวันนี้หรือพรุ่งนี้ ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากมาย

“เช่นนั้นคืนนี้พวกเรา จักถล่มเงินอาวุโสจ้าวอวี่สักครา” ฟงผิงกล่าวล้อเลียนออกมา

ห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนาน

คืนนั้นจ้าวอวี่กับจ้าวเหล่ยก็ได้จัดเลี้ยงอาหาร ทุกคนจากนิกายกระบี่ 7 ดาว ที่ทำหน้าที่ผู้คุ้มกันหอการค้ากู่เหอ

“อาหารมื้อนี้ เป็นพวกเราพ่อลูกต้องการเลี้ยงขอขมาต้วนหลิงเทียน และเพื่อเลี้ยงส่งต้วนหลิงเทียน…” จ้าวอวี่ยกจอกสุราในมือขึ้นมา ก่อนที่จะมองจ้าวเหล่ย และหันไปมองต้วนหลิงเทียน ก่อนที่พ่อลูกจะยกสุราซดหมดจอก

“อาวุโสจ้าวอวี่ท่านก็กล่าวเกินไป…คนเราไม่ต่อยตีย่อมไม่รู้จัก” แสงจันทร์นวลสาดลงมายังใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนยิ้มของต้วนหลิงเทียน  ก่อนที่จะยกจอกสุราขึ้นมาหันไปมองทั้ง 2 แล้วยกซด

ครู่ต่อมาฟงผิงและศิษย์สายในอีก 2 คนก็ร่วมดื่มกันด้วย

ทั้ง 6 คนดื่มสุรากันจนดึกดื่นก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ

“ต้วนหลิงเทียน ไว้เจ้ากลับมา …พวกเราค่อยมาดื่มกันอีกครั้ง”จ้าวอวี่ยิ้มให้ต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะพาจ้าวเหล่ย ที่เริ่มมึนเมาจากการดื่มสุรามากเกินไป กลับบ้านลานหลังน้อยของมัน

“ย่อมได้” ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบคำ ก่อนที่จะเดินเคียงบ่าไปกับอาวุโสฟงผิง มุ่งไปคนละทางจากจ้าวอวี่

ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็อำลาแล้วแยกจากฟงผิง

เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังน้อย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมึนเมาของต้วนหลิงเทียนก็สลายหายไป ดวงตาที่พร่ามัวก็กลับกลายเป็นกระจ่างใส

“พี่ใหญ่หลิงเทียน พ่อลูกคู่นั้นมิใช่ตัวดีเป็นแน่… พวกมันต้องวางแผนอันใดไว้แน่นอน”เสียงของเจ้าหนูตัวน้อยส่งผ่านพลังงานต้นกำเนิดเข้าหูต้วนหลิงเทียน

“เสี่ยวจิน ข้าไม่คิดเลยว่าเรื่องนี้เจ้าก็มองเห็นด้วย…” ต้วนหลิงเทียนหยิบเจ้าน้อยออกจากแขนเสื้อ ก่อนที่จะลูบขนมันเบาๆ ด้วยประกายตาวูบวาบไปด้วยประกายน่ากลัว “จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ จ้าวอวี่… การเสแสรงแสดงของเจ้าครั้งนี้นับว่าไม่เลวเลยจริงๆ กระทั่งข้ายังเกือบถูกหลอก…น่าเสียดายที่ลูกชายเจ้ามันใช้การไม่ได้เผยแผนชั่วของเจ้าออกมาหมดสิ้น”

ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังอยู่ในห้องโถงใหญ่ของหอการค้ากู่เหอ เขาก็สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล และสายตาชั่วร้ายของจ้าวเหล่ยและจ้าวอวี่ ในขณะที่เขากล่าวว่าจะออกไปข้างนอก…มันเป็นสายตาที่ผิดกับวาจาก่อนหน้าลิบลับ

และจ้าวอวี่ดูเหมือนจะเจตนาถ่วงเวลาออกไป

“พี่ใหญ่หลิงเทียน ใยพวกเรามิฉวยโอกาสจากไปเสียตั้งแต่คืนนี้เลยเล่า…?” เสี่ยวจินกล่าวแนะนำออกมา

"เอาล่ะ พวกเราจะไปพรุ่งนี้นี่ล่ะ …ให้ข้าดูหน่อย ว่าไอจ้าวอวี่นั่นมันมีแผนการณ์อะไร!" ประกายตาของต้วนหลิงเทียนเย็นเยือกลง มุมปากยังเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา

ในบ้านลานหลังเล็กดานข้างลานกว้างของหอการค้ากู่เหอ ประกายตาของจ้าวอวี่กลับกระจ่างใสไร้มัวหมอง ราวกับว่ามันไม่ได้มึนเมาจากพิษสุราอะไร

ในขณะเดียวกันจ้าวเหล่ยที่มันหอบหิ้วกลับมา ก็ได้สติและเริ่มเคลื่อนไหวด้วยท่าทางราวกับตื่นเต้นยินดี

นี่ยังเป็นคนที่เมามายเพราะพิษสุราจนหลับใหลได้หรือ?

“ท่านพ่อ ในเมื่อต้วนหลิงเทียนมันจะออกไปพรุ่งนี้  ท่านก็ลอบติดตามมันไปแล้วฆ่ามันเสีย  แค่มันตายพวกเราก็จะได้วิชาบ่มเพาะคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ที่มันมีอยู่ ที่นี้ตระกูลจ้าวของเราก็จักได้มีคืนวันอันดีแล้ว!” เมื่อกล่าวจบจ้าวเหล่ยก็เผยท่าทางตื่นเต้นออกมา

“ทำไม่ได้…” จ้าวอวี่ส่ายหัวออกมา "พรุ่งนี้ยามมันออกเดินทาง ไม่เพียงข้ามิอาจติดตามมันไป  ข้ายังต้องไปดื่มน้ำชากับอาวุโสฟงผิง"

จ้าวเหล่ยอื้ออึงไปครู่หนึ่ง “ท่านพ่อ แล้วเช่นนี้มิใช่ว่ามันจะหนีไปได้หรอกหรือ?”

“เหล่ย ถ้ามันตาย…แล้วทุกคนพบว่ายามนั้นข้ามิได้อยู่ในหอการค้ากู่เหอ …ทางนิกายย่อมเพ่งเล็งมาที่ข้า  เช่นนั้นตัวข้าจึงต้องไปหาอาวุโสฟงผิง และดื่มน้ำชากับมันช่วงเช้า เพื่อให้มันเป็นพยายานยืนยันที่อยู่ของข้า ในยามที่เกิดเหตุ” ใบหน้าจ้าวอวี่เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาราว สุนัขจิ้งจอก

“ด้วยวิธีนี้ พวกเราจักมิต้องเสี่ยงอันตรายใดๆ…แต่เรื่องวิชาบ่มเพาะ คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกเล่า? หากเราปล่อยให้ต้วนหลิงเทียนจากไปเช่นนี้  ต่อไปพวกเรายังจะหาโอกาสอันดีเช่นนี้ได้อยู่อีกหรือ? ” จ้าวเหล่ยขมวดคิ้ว ท่าทางไม่ค่อยเต็มใจ

“เหล่ย…” จ้าวอวี่ระบายลมหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ ก่อนที่จะยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองอย่างระอา “บางครั้งเจ้าก็ต้องหัดคิดให้มากเข้า…ข้าไม่ได้ตามไปฆ่าต้วนหลิงเทียนและแย่งชิงวิชาบ่มเพาะของมันด้วยตัวเอง  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะมิให้ผู้อื่นไปสังหารและแย่งชิงคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกของมัน”

"ผู้ใดจะฆ่ามันให้เราหาได้สำคัญไม่… สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ วิชาบ่มเพาะ คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูก!"

แววตาของจ้าวเหล่ยทอประกายขึ้นมาโดยพลันเมื่อได้ฟังคำจ้าวอวี่ “ท่านพ่อ ท่านคิดอ่านได้ประเสริฐยิ่ง!”

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 419 : จิ้งจอกเฒ่า เจ้าเล่ห์!"

3.7 232 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

จอมดาบพิฆาตสวรรค์
จอมดาบพิฆาตสวรรค์
มีนาคม 12, 2022
ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ข้าจะเป็นราชาอมตะ
กรกฎาคม 22, 2023
davisam
จักรพรรดิเทพมรณะ
มกราคม 14, 2023
ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ราชันสามภพ
กรกฎาคม 6, 2023
ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Picking Up Attributes From Today
ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Picking Up Attributes From Today
มีนาคม 12, 2022
INVINCIBLE โลกอมตะ
INVINCIBLE โลกอมตะ
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz