หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 416 : ลูกพี่ลูกน้อง

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 416 : ลูกพี่ลูกน้อง
Prev
Next

บทที่ 416 : ลูกพี่ลูกน้อง

 

 

“ฮึ่ม!! วันนี้หากมิใช่เพราะมีคนๆหนึ่งลงมือตามอำเภอใจ กลุ่มโจรร้ายคงมิได้คุ้มคลั่งลงมือแลกชีวิตกัน จนพวกเราต้องวุ่นวายกันไปหมดเช่นนี้!”

“เฮ่อ…คนทั้งคู่ต่างก็เป็นศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวดุจเดียวกันแท้ๆ  เหตุใดถึงได้แลแตกต่างกันยิ่งนัก  คนๆหนึ่งมีฝีมือเหนือชั้นแต่งำประกาย   ส่วนอีกคน ตัวไร้สามารถกลับพยายามสร้างเรื่องราวเรียกร้องความสนใจ…เพ้ย! หากมิใช่เพราะอาวุโสฟงผิงลงมือทำลายระดับบ่มเพาะหัวหน้าโรจไปเช่นนั้น!  มันจักมีความกล้าลงมือหรือไม่?

"นับว่าเป็นโชคดียิ่งแล้ว ที่พี่น้องเรามิมีผู้ใดตกตายเพราะเหล่าโจรร้ายนั่นบ้าคลั่ง หาไม่แล้วล่ะก็ … เหอะ!"

…

เหล่าผู้คุ้มกันของหอการค้ากู่เหอต่างสนทนากันอย่างครึกครื้น ประเด็นของเรื่องเหมือนจะบ่งชี้ไปยังบางสิ่ง…

ใบหน้าของจ้าวเหล่ยก้มลงต่ำโดยพลัน … มันยังจะไม่รู้อีกหรือ ว่าเรื่องที่ผู้คนกำลังสนทนากัน  พุ่งเป้ามาที่มัน!

"ต้วนหลิงเทียน เจ้ายังอยู่ในระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4 จริงๆหรือ?" อีกด้านหนึ่งนั้น …ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนพลันได้ยินเสียงส่งผ่านพลังงานต้นกำเนิดดังขึ้นในหู

ต้วนหลิงเทียนย่อมระบุได้ทันที ว่าน้ำเสียงนี้เป็นของฟงผิง เขาเองก็ตอบกลับทันที “ใช่”

ม่านตาของอาวุโสฟงผิงหดแคบลงเมื่อได้รับการยืนยันจากต้วนหลิงเทียน…

"แล้ว…เจ้าสามารถเข้าใจพลังลม เช่นนี้ได้อย่างไร? จากที่ข้ารู้มา ปกติแล้วผู้ฝึกยุทธ์ที่ยังมิถึงขั้นแรกสัมผัสธรรมชาติ อย่างดีก็ทำได้เพียงเข้าใจเมล็ดพันธุ์พลัง หาใช่พลังที่แท้จริงเช่นเจ้า…เรื่องนี้มัน…??"

การส่งเสียงผ่านพลังงานต้นกำเนิดของฟงผิงดังขึ้นในหูต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ครานี้มันเต็มไปด้วยความสงสัยระคนประหลาดใจ ทั้งยังแฝงความใคร่รู้ไว้ไม่น้อย

เพราะเท่าที่ฟงผิงรู้ เรื่องราวพวกนี้เป็นดั่งกฎเหล็กของทวีปเมฆาล่องไปแล้ว และมันไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดกระทำได้เช่นนี้มาก่อน!

 

ทว่าต้วนหลิงเทียนกลับสามารถทำลายกฎเหล็กนี่ลงได้ มันเป็นเรื่องเหนือสามัญสำนึกนัก! มันตกตะลึงจนไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว!

"ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน" ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา ก่อนที่จะส่งเสียงกลับไป "ข้าก็แค่ …พยายามเข้าใจมัน แล้วข้าก็เข้าใจมันได้…"

ฟงผิงอึ้งค้างราวกับตัวโง่งม

พยายามเข้าใจมัน แล้วก็เข้าใจมันได้…แล้วนี่มันหมายความว่าไรเล่า?

นี่ยังต่างจากการเงียบไปไม่กล่าวตอบ ตรงไหนกัน?

แต่ฟงผิงก็เข้าใจได้ทันที ว่าเรื่องราวเช่นนี้สมควรเป็นความลับสำคัญ… และหากเป็นตัวมันเอง มันก็คงไม่กล่าวความลับสำคัญเช่นนี้ออกมาโดยง่าย!

ตัวมันเข้าใจดี …ว่าต้วนหลิงเทียนย่อมไม่เต็มใจจะบอกกล่าวเรื่องราวเช่นนี้ …

การเดินทางหลังจากนั้นเรียกได้ว่าสงบไร้เรื่องราว….

 

หลังจากที่ใช้เวลาอีกเกือบเดือน ในที่สุดต้วนหลิงเทียนและคาราวานพ่อค้าของหอการค้ากู่เหอ ก็เดินทางใกล้ถึงที่หมายเต็มทีแล้ว

“พวกเราจักถึงที่หมายในอีก 5-6 วันหลังจากนี้" ฟงผิงมองไปยังต้วนหลิงเทียน  และเมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนหันมองทางไปมาด้วยความสงสัย  มันก็กล่าวตอบพร้อมยิ้มออกมา

หลังจากที่มันได้เป็นประจักษ์พยานในความแข็งแกร่งอันน่าตื่นตะลึงของต้วนหลิงเทียน  มุมมองที่มันมีต่อต้วนหลิงเทียนก็แปรเปลี่ยนไป

ในทวีปเมฆาล่องแห่งนี้ ผู้ที่แข็งแกร่งย่อมเป็นที่เคารพนับถือ

แม้ตอนนี้ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของต้วนหลิงเทียนจะยังคงต่ำกว่าตัวมัน  แต่พรสวรรค์ตามธรรมชาติในเชิงยุทธ์อันสูงล้ำของต้วนหลิงเทียนนั้น เรียกได้ว่าสูงดั่ง ปีศาจ และ หาผู้ทัดทานยากนัก

ด้วยพรสวรรค์เช่นนี้ เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนจะแข็งแกร่งเหนือกว่ามัน ก็คงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น  อีกทั้งคงอีกไม่นานและไม่ได้ยากเย็นอะไร…

“โอ้ นี่พวกเราใกล้จะถึงแล้วหรือ ?” ประกายตาของต้วนหลิงเทียนเรืองขึ้นมาวูบหนึ่ง

ต้วนหลิงเทียนแน่นอนว่าย่อมเห็นได้ชัดเน ว่ามุมมองของฟงผิงที่มีต่อเขานั้นเปลี่ยนไป

โลกนี้มันก็เป็นเช่นนี้…ผู้แข็งแกร่งย่อมได้รับความเคารพนับถือ

กลับกัน หากไร้ซึ่งความแข็งแกร่งและพลังอำนาจใดๆ ก็ไม่ต่างจากมดปลวก ที่ให้ผู้คนย่ำเหยียบ

 

ณ ขุนเขาเทียนเฉวียน  นิกายกระบี่ 7 ดาว

วันนี้แขกแปลกหน้าคนหนึ่ง…ได้เดินทางมาถึงที่พักของอาวุโสฝ่ายนอกจ้าวหลิน  อันเป็นหุบเขาโล่งโปร่งแสงแดดส่องถึง ที่ปกติไม่ค่อยจะมีผู้ใดย่างกรายเข้ามา

“ขออภัยขอรับใต้เท้า ….ท่านคือ อาวุโสจ้าวหลิน ของนิกายกระบี่ 7 ดาวใช่หรือไม่?” แขกแปลกหน้าอันเป็นชายคนหนึ่งกล่าวถามจ้าวหลิน อย่างสุภาพนอบน้อม

"เจ้า …หืม…ชุดนี้.. คนของหอการค้ากู่เหอเช่นนั้นหรือ?" สายตาของจ้าวหลิน มองไปยังตรา กู่ บนอกเสื้อของชายหนุ่ม คิ้วของมันโค้งขึ้นเล็กน้อย  "เป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า ส่งเจ้ามาหาข้างั้นหรือ?"

“ลูกพี่ลูกน้อง?” ชายหนุ่มที่เป็นคนของหอการค้ากู่เหอ อดที่จะแปลกใจออกมาไม่ได้ เมื่อได้ยินคำกล่าวถามแปลกๆของจ้าวหลิน

"อา…ลูกพี่ลูกน้องของข้า เรียกว่า จ้าวอวี่" จ้าวหลินกล่าวไขข้อสงสัย

"เช่นนี้นี่เอง …ถูกแล้วขอรับ เป็นอาวุโสจ้าวอวี่ให้ข้าออกเดินทางมาหาท่านตั้งแต่เดือนที่แล้ว …เพื่อมอบจดหมายนี่ให้แก่ท่านขอรับ" ชายจากหอการค้ากู่เหอ หยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากแหวนมิติแล้ว มอบให้แก่จ้าวหลิน

“จดหมาย?”จ้าวหลินรู้สึกสงสัยเล็กน้อย เมื่อได้รับจดหมาย

มันย่อมบังเกิดความสงสัยอยากรู้อยากเห็นในใจไม่น้อย ว่าทำไมลูกพี่ลูกน้องของมันถึงได้ส่งจดหายมาหามัน ทั้งๆ ที่ตลอดระยะเวลา 3 ปีมานี้ ไม่ได้มีการติดต่ออะไรกันสักครั้ง…

ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ เป็นหลานชายของ พี่แท้ๆปู่มัน  ภายในตระกูลจ้าวนั้น คนที่มีศักดิ์ญานะและอยู่รุ่นเดียวกับมัน ก็เหลือเพียงจ้าวอวี่ลูกพี่ลูกน้องของมันคนนี้

ตอนนี้ตระกูลจ้าว…ก็เรียกได้ว่า เหลือกันอยู่ไม่กี่คนแล้ว

 

นอกจากปู่ของมัน กับลูกพี่ลูกน้องคนนี้… ก็มีเพียงบุตรชายของมันกับบุตรของอีกฝ่ายเท่านั้นที่หลงเหลือกันอยู่ในตระกูลจ้าว

จ้าวหลินเปิดซองจดหมาย

"นานแล้วมิได้พบเจอ เจ้าเป็นอย่างไรบ้างน้องจ้าว?  ทั้งยังเนิ่นนานแล้วพี่ชายไม่ได้ความคนนี้มิได้ติดต่อมา แต่ข้าเองยังคงคิดถึงเจ้าและท่านปู่อย่างยิ่ง…วันนี้มีแขกที่น่าตื่นตระหนกมาปรากฏตัวที่หอการค้ากู่เหอสาขาเมืองโบราณชั่วนิรันดร์ที่ข้าอยู่  มันกล่าวว่ามันเป็นศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาว… "

"เรื่องนี้นับว่ายากขะเชื่อนักเพราะมันมีอายุเพียงแค่ 22 ปีเท่านั้นทว่าความแข็งแกร่งของมันนั้นนับว่าน่าทึ่งนัก …ความแข็งแกร่งของมันกระทั่งยังเหนือกว่าจ้าวเหล่ยเสียอีก… มันถึงกับบรรลุระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4 ไปแล้ว … "

ม่านตาของจ้าวหลินหดแคบลงโดยพลันเมื่ออ่านเนื้อความในจดหมายถึงตรงนี้…

"นี่มัน…หรือว่า…?" จ้าวหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมอ่านต่อ

"ชายหนุ่มคนนี้เรียกว่า ต้วนหลิงเทียน  ข้ายังไม่แน่ใจและบังเกิดความสงสัยในคำกล่าวของมัน ว่าที่แท้แล้วมันจริงหรือลวง  จำต้องเขียนจดหมายมากล่าวถามความเจ้า …ว่านิกายกระบี่ 7 ดาวเรา มีศิษย์อันโดดเด่นเช่นนี้อยู่จริงหรือไม่?  รบกวนเจ้าช่วยเขียนจดหมายตอบกลับ เพื่อไขข้อสงสัยให้พี่ชายไม่ได้ความผู้นี้ด้วย…"

จ้าวหลินอ่านจดหมายต่อจนจบ

“ฮ่ะๆๆ! ฮ่าๆๆๆๆ!!!”

ครู่หนึ่งหลังจากนั้น จ้าวหลินก็เริ่มระเบิดเสียงหัวเราะออกมา  ราวกับว่ามันได้พบพานความสุขครั้งยิ่งใหญ่

‘เป็นสวรรค์ ส่งเสริมข้าแล้ว!!’ จ้าวหลินบังเกิดความสุขเอ่อล้นขึ้นมาในใจ

‘ต้วนหลิงเทียน ข้ามิแปลกใจเลย ว่าใยเจ้าถึงได้หายตัวไปเป็นเดือนๆ… ที่แท้เป็นเจ้าออกเดินทางไปยังเมืองโบราณชั่วนิรันดร์นี่เอง…ข้าคิดว่าเจ้าคงคาดไม่ถึงเป็นแน่ ว่าผู้อาวุโสของหอการค้ากู่เหอ จ้าวอวี่ผู้นั้น เป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า!!’ เมื่อนึกถึงตรงนี้ในใจของจ้าวหลินบังเกิดความตื่นเต้น จนแทบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่

ประกายเย็นชายะเยือกวาวสว่างขึ้นมาในดวงตาจ้าวหลิน ‘ต้วนหลิงเทียน…ยามนี้เจ้ามิต่างไปยืนค้างที่ประตูนรกแล้ว…ยามนี้ได้เวลาที่ข้าจะให้เจ้าได้ตายตก!!’

"เอาล่ะ เจ้าไปรอข้าก่อน ข้าจักเขียนจดหมายเพื่อตอบกลับพี่ชายของข้าสักครู่" จ้าวหลินมองไปยังคนของหอการค้ากู่เหอพร้อมกล่าว

“ขอรับ ใต้เท้า” ชายคนนั้นก็กล่าวตอบคำอย่างสุภาพ

…จ้าวหลินสะบัดมือขึ้นมาคราหนึ่ง ก็ปรากฏ ชุดฝนหมึกพร้อมพู่กัน ทั้งยังกระดาษอีกแผ่น มันนั่งลงเขียนจดหมาย อยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะพับกระดาษจดหมายใส่ซองปิดผนึกอย่างดี

“เอาล่ะ จำไว้เจ้าต้องส่งจดหมายนี่ให้ถึงมือของอาวุโสจ้าวอวี่!!  ส่วนเงินนี่เป็นรางวัลให้เจ้าล่วงหน้า!”จ้าวหลินส่งมอบจดหมายที่เขียนอยู่นานให้ชายหนุ่ม ก่อนที่จะหยิบตั๋วเงินปึกใหญ่ ยื่นส่งไปให้ชายหนุ่มตรงหน้า…!

“ใต้เท้าจ้าวหลินอย่าได้กังวลไปขอรับ! หากข้าผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่จดหมายนี่ต้องถึงมืออาวุโสจ้าวอวี่แน่นอนขอรับ! หากมิถึงมืออาวุโสจ้าวอวี่ ข้ายินดีชดใช้ด้วยชีวิต!!” เมื่อได้รับตั๋วเงินปึกหนา มองคร่าวๆพบว่าเป็นตั๋วเงินใบละหมื่นเหรียญทองสงตาของมันแทบถลน…เรียกได้ว่าตั๋วเงินปึกนี้ยังมีจำนวนมหาศาลยิ่งกว่าค่าจ้างชั่วชีวิตของมันเสียอีก  มันจึงกล่าวคำมั่นออกมาด้วยความยินดี!!

“เอาล่ะๆ เจ้าไปได้แล้ว!”จ้าวหลินโบกมือให้มัน

“ขอรับใต้เท้า” ชายหนุ่มรีบจากไปอย่างยินดี ปากฉีกยิ้มไม่หยุดหุบไม่ลง …ต่อจากนี้ไปแม่ผู้ชราพร้อมบิดาพิการ อีกทั้งภรรยาใหญ่น้อยทั้งหลายจักได้อยู่สุขสบายกันแล้ว!!

 

“ท่านพี่…อนาคตตระกูลจ้าวเรายามนี้… ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว…หากท่านได้รับวิชาบ่มเพาะคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกจากต้วนหลิงเทียนนั่นล่ะก็…ตระกูลจ้าวของเราต้องพลิกฟื้นกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง!!” ประกายตาของจ้าวหลินส่องแสงเจิดจ้าระยิบระยับ

เมื่อมันได้รู้ว่าต้วนหลิงเทียนไปโผล่ที่เมืองโบราณชั่วนิรันดร์…ใจมันเพียงปรารถนาโบยบินไปยังเมืองโบราณชั่วนิรันดร์ในทันใด เพื่อเข่นฆ่าสังหารต้วนหลิงเทียนลงเสีย!

แต่มันก็รู้ดีว่าจะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น….

หากต้วนหลิงเทียนตกตายนอกนิกายเช่นนั้น ประจวบกับจังหวะที่มันไม่อยู่ที่ขุนเขาแล้วล่ะก็… ไม่นานผู้คนย่อมโยงเรื่องราว จนสาวมาถึงตัวมันได้ไม่ยาก

มันย่อมไม่อยากเห็นเรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้น

 

“ความแข็งแกร่งของพี่ชายข้า ยังเหนือกว่าข้าเสียอีก! หาใช่เรื่องยากอันใดสำหรับเขาไม่ ที่จักลงมือสังหารต้วนหลิงเทียน!  และแย่งชิงวิชาคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกนั่นมา!!” เมื่อคิดถึงถึงตรงนี้ ปากจ้าวหลินเผยรอยยิ้มสดใสออกมา

…..

อีก 6 วันต่อมาต้วนหลิงเทียนก็เดินข้ามผ่านทเลทรายไร้สิ้นสุด จนเห็นเมืองๆหนึ่งตั้งอยู่กลางทะเลทรายไกลตา ดูแล้วท่าทางเมืองนี้จะเป็นเมืองที่มีแหล่งน้ำกลางทะเลทรายแห่งเดียวในละแวกนี้

ต้วนหลิงเทียนมองไปยังฟงผิงที่อยู่ด้านข้าง ก่อนที่จะกล่าวถามออกมาด้วยความอยากรู้ “อาวุโสฟงผิง เมืองนี่เป็นจุดหมายปลายทาง การเดินทางของพวกเราครั้งนี้หรือ?”

"ถูกแล้ว" อาวุโสฟงผิงพยักหน้ารับคำ  "เมื่อพวกเราไปถึงเมืองข้างหน้า จะเป็นหน้าที่ของพ่อค้าที่จักไปทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้า… เมื่อเสร็จสิ้นแล้วพวกเราจะได้เดินทางกลับเมืองโบราณชั่วนิรันดร์… แต่ในระหว่างที่รอนี้ พวกเราจักได้พักผ่อนดื่มกินดีๆเสียที "

ประกายตาของต้วนหลิงเทียนเรืองขึนมาวูบหนึ่ง

ในระหว่างการเดินทางตลอดระยะเวลา 1 เดือนมานี้ เขาไม่ได้กินดีอยู่ดี หรือได้พักผ่อนสบายๆ เลยสักคืน

กลุ่มพ่อค้าก็ทยอยเดินทางเข้าเมือง

หัวหน้าผู้คุ้มกันก็รับหน้าที่คุ้มครองเหล่าพ่อค้าไปค้าขาย ส่วนทางด้าน กลุ่มต้วนหลิงเทียน อาวุโสฟงผิงและศิษย์ของนิกายกระบี่ 7 ดาวคนอื่นๆ ก็ไปหาอะไรกินในร้านอาหาร

มื้ออาหารครั้งนี้ผ่านไปอย่างสงบ กระทั่งจ้าวเหล่ยยังไม่คิดก่อกวนหรือสร้างปัญหาอะไร

อันที่จริงแล้ว ตั้งแต่ต้วนหลิงเทียนแสดงความแข็งแกร่ง 800 ช้างแมมมอธโบราณออกมาวันนั้น   จ้าวเหล่ยก็หวาดกลัวเขาอย่างมากและไม่กล้าที่จะไม่เกรงใจต่อหน้าต้วนหลิงเทียน  มันประพฤติตัวเรียบร้อย สงบเสงี่ยมเจียมตัว จนศิษย์สายในอีก 2 คนถึงกับต้องตะลึง และคารวะมันเลยทีเดียว ที่มันไม่สร้างปัญหาอะไร…

ทั้งหมดล้วนสัมผัสได้ชัดเจนว่าจ้าวเหล่ยเปลี่ยนไป

 

หลังจากที่อิ่มหนำกับอาหารแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไปหาที่พักเพื่อรอเวลา …และเมื่อกลุ่มพ่อค้าจัดการเรื่องราวต่างๆ เสร็จสิ้น ทั้งหมดก็เริ่มเดินทางมุ่งหน้ากหลับเมืองโบราณชั่วนิรันดร์

และตลอดระยะเวลาเดินทาง ต้วนหลิงเทียนก็ใช้เวลาในการบ่มเพาะ สั่งสมพลังอย่างขยันขันแข็ง ไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่าไปอย่างไร้ค่า…

…..

เวลาก็ล่วงเลยไปว่องไวดั่งเหินบิน

เพียงพริบตา 1 เดือนก็พ้นผ่าน…

วันหนึ่ง…ต้วนหลิงเทียนลืมตาขึ้นมา พร้อมประกายตาส่องสว่างระยิบระยับราวกับธารดารา

"ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีความก้าวหน้าไม่น้อย" ต้วนหลิงเทียนพึ่งลืมตาตื่นได้ไม่ทันไร  เสียงผ่านพลังงานต้นกำเนิดของฟงผิงก็ดังขึ้นในหู ทันที

ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มบางๆออกมา

ตอนนี้ระดับบ่มเพาะของเขาอยู่ในจุดสำคัญ ระหว่างระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4 และขั้นที่ 5

มีเพียงรอโอกาสอันเหมาะสม โคจรพลังทะลวงผ่านชีพจร ตัดผ่านไปยังระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 5 ก็เท่านั้น!

ถึงเวลานั้น ความแข็งแกร่งของเขาก็จะเพิ่มพูนขึ้นได้อีกครั้ง!

‘หากข้าตัดผ่านไปยังระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 5 แล้ว…ถึงแม้ว่าข้าจะเผชิญหน้ากับนายน้อยคมมีดอีกครั้ง และต้องสู้กันอีกสักตั้ง ข้าก็ไม่จำเป็นต้องกลัว ความแข็งแกร่งที่เกิดจากเมล็ดพันธ์พลังมีดอีกต่อไป  ต่อให้พลังของมันจะผันผวนไปอยู่จุดสูงสุด ข้าก็ขยี้มันได้สบาย!’ ต้วนหลิงเทียนคิดขึ้นมาอย่างมั่นใจ

“อาวุโสฟงผิง แล้วนี่อีกกี่วันพวกเราจะบรรลุถึงเมืองโบราณชั่วนิรันดร์?”ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามฟงผิง เขาบ่มเพาะพลังจนแทบไม่ได้ดูที่ทางอะไรเลย แน่นอนว่าย่อมไม่รู้ว่าเดินทางไปถึงไหนยังไงแล้ว…

ฟงผิงยิ้มบางตอบ “พวกเราสมควรถึงในอีก 4-5 วัน…แล้วยามนั้น คนที่ข้ากับอาวุโสจ้าวอวี่ส่งไปยังนิกายกระบี่ 7 ดาวก็สมควรกลับมาถึงพอดี ทีนี้พวกเราจักได้ยืนยันตัวตนของเจ้าได้เสียทีเมื่อกลับไปถึง” ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำ ก่อนที่จะหลับตาไป และเริ่มบ่มเพาะพลังต่อ

 

ในเวลาเดียวกันนั้น ณ หอการค้ากู่เหอ แห่งเมืองโบราณชั่วนิรันดร์

“อาวุโสจ้าวอวี่ขอรับ นี่เป็นจดหมายที่ใต้เท้าจ้าวหลินให้ข้านำมามอบแก่ท่านขอรับ!” ชายหนุ่มที่ได้เงินรางวัลจากจ้าวหลิน ยื่นส่งจดหมายถึงมือจ้าวอวี่ ตามที่มันเอ่ยคำมั่นเอาไว้

“เอาล่ะ เจ้าไปได้แล้ว”จ้าวอวี่โบกมือ ชายหนุ่มคนนั้นก็จากไป

แคว่ก!

ครู่ต่อมา จ้าวอวี่ก็ฉีกจดหมายเปิดอ่าน…

เพียงอ่านจดหมายไปได้ไม่นาน สายตาของมันก็เบิกโพลงด้วยความตกตะลึง

“ที่แท้ต้วนหลิงเทียนเป็นศิษย์สายในของนิกายกระบี่จริงๆเช่นนั้นหรือ?  ดูเหมือนครั้งนี้จ้าวเหล่ยพลั้งพลาดไปแล้ว”จ้าวอวี่ที่อ่านจดหมายไปครู่หนึ่งระบายลมหายใจออกมา และเริ่มอ่านต่อ

“ต้วนหลิงเทียนเพียงเข้านิกายกระบี่ 7 ดาวไปไม่ถึงปี เขาก็สามารถสังหารศิษย์สายนอกอันดับหนึ่งฉีฮ่าว  และกลายเป็นศิษย์สายนอกอันดับหนึ่ง ตั้งแต่ตอนอายุ 21…หืม!”

“อีกหนึ่งปีต่อมา เขายังได้สังหารศิษย์สายในระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 1 นามหลิ่วชีเกอบนเวทีประลองเป็นตาย ทั้งๆ ที่ยังมีระดับบ่มเพาะเพียงะรดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9…อะไร?”

“และเมื่อไม่นานมานี้ ในการประลองแข่งขันระหว่างนิกายใหญ่ชั้นนำทั้ง 5 ของอาณาจักรพนาคราม…ต้วนหลิงเทียนเอชนะนายน้อยคมมีด ของนิกายบัวปีศาจคมมีด และคว้าอันดับที่หนึ่ง ในการประลองแข่งขัน นำพาเกียรติยศที่ห่างหายไปนานกว่า 20 ปีมาสู่นิกายกระบี่ 7 ดาว…นี่ นี่!?”

ลมหายใจของจ้าวอวี่ยิ่งมายิ่งหอบถี่ เมื่อได้รับรู้ความในจดหมาย…

มันไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่า ต้วนหลิงเทียน…ไม่ใช่แค่ศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาวเท่านั้น…แต่ต้วนหลิงเทียนยังมีความสำเร็จที่น่าตื่นตะลึงพรึงเพริดเช่นนี้อีก!

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 416 : ลูกพี่ลูกน้อง"

3.7 232 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

The Inverted dragons scale
The Inverted dragons scale
มีนาคม 12, 2022
รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ ( 末世虐杀游戏最新章节 )
รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ ( 末世虐杀游戏最新章节 )
มีนาคม 12, 2022
ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ราชันสามภพ
กรกฎาคม 6, 2023
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
มีนาคม 12, 2022
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!
มีนาคม 12, 2022
อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ (Cultivation Online)
อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ (Cultivation Online)
เมษายน 24, 2023
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz