สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 415 : ต้วนหลิงเทียน ลงมือ!
บทที่ 415 : ต้วนหลิงเทียน ลงมือ!
วู้มมมม!
ร่างโจรร้ายในชุดสีเทาปราดพุ่งไปทางจ้าวเหล่ย ดาบในมือของมันเองยังเริ่มเรืองแสงรองๆออกมา พลังงานต้นกำเนิดโคจรถ่ายเทลื่นไหลเตรียมซัดฟาด ฆ่าคน
เหนือขึ้นไปบนฟ้า ปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 800 ตัว ทั้งยังมีอีก 150 ตัวจากดาบวิญญาณในมือมัน กำลังโถมทะยานข้ามฟ้ามาด้วยความเกรี้ยวกราด
เห็นได้ชัดว่าโจรชุดเท้าผู้นี้ ที่แท้เป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์วิญญาณแรกก่อตั้งระดับ 6!
ส่วนดาบในมือมันนั้นเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 8 เท่านั้น
การพุ่งมาอย่างดุร้ายของโจรชุดเทา ทำให้สีหน้าจ้าวเหล่ยซีดลงโดยพลัน …มันจะเอาอะไรไปสู้อีกฝ่าย? หากอีกฝ่ายบรรลุถึง ตัวมันมิพ้นชะตากรรมถูกสับเป็นหมูบะช่อ!
"ต้วนหลิงเทียน!" ในระหว่างที่มันกำลังตื่นกลัวอยู่นั้น สายตาดันเหลือบไปเห็นต้วนหลิงเทียนที่อยู่ไม่ไกล
ทั้งเมื่อจ้าวเหล่ยเห็นว่ายามนี้ต้วนหลิงเทียนยังคงนั่งอยู่บนหลังม้าด้วยท่วงท่าปลอดโปร่งสบายอารมณ์ ไร้โจรร้ายใดๆจู่โจม ทั้งยังกำลังเหลือบมองมาทางมัน …นี่ทำให้มันโมโหแทบบ้า!
"ข้าต่อสู้เสี่ยงตายกับโจรร้ายแทบตาย แต่ต้วนหลิงเทียนบัดซบนั่นทำเพียงชมดูอยู่ด้านข้างอย่างไร้เรื่องราว?" ทันใดนั้นในใจของจ้าวเหล่ยบังเกิดความไม่ยินยอมอยู่บ้าง ทั้งยังเริ่มบิดเบี้ยวคิดการณ์อุบาทว์ประการหนึ่ง
สายตาจ้าวเหล่ยมองไปยังโจรชุดเทาที่กำลังวิ่งเข้ามา ก่อนที่มุมปากของมันจะแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย เพียงผู้ใดเห็นก็รู้ว่า ยิ้มเช่นนี้มันมิใช่ตัวดีแน่นอน
ตึงงง!!
ทันใดนั้นจ้าวเหล่ยก็โดดลงมาจากหลังม้า โคจรออกด้วยพลังงานต้นกำเนิดเต็มกำลัง พุ่งร่างทะยานเข้ามาดั่งกระสุนปืนใหญ่ ทิศทางที่พุ่งไปแน่นอนว่าย่อมมุ่งหน้าไปหาต้วนหลิงเทียน
ต้วนหลิงเทียนที่ชมดูเรื่องราวอยู่ตั้งแต่แรกนั้นเห็นเหตุการณ์ดี และในขณะที่เห็นว่าโจรชุดสีเทาจะไปเล่นงานจ้าวเหล่ย เขายังคิดจะยื่นมือไปช่วยเหลือมันอยู่บ้าง
เพราะถึงแม้จะมีเรื่องบาดหมางและไม่ลงรอยกับจ้าวเหล่ย แต่จะอย่างไรมันก็ยังเป็นศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวคนหนึ่ง ในฐานะที่เป็นศิษย์นิกายเดียวกัน ใจของเขายังไม่แคบพอถึงขั้นเฝ้าดู ศิษย์ร่วมนิกายถูกโจรร้ายสังหารตกตายต่อหน้าทั้งที่ช่วยได้
แต่สีหน้าของต้วนหลิงเทียนก็มืดลงโดยพลันเมื่อเห็นเหตุการณ์ต่อมา
"จ้าวเหล่ย!" เขาเห็นจ้าวเหล่ยพุ่งร่างมาทางเขา ก่อนที่จะปราดอ้อมหลบไปด้านหลัง ทำให้ยามนี้ผู้ที่จะเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรที่ติดตามจ้าวเหล่ยมา ย่อมเป็นต้วนหลิงเทียน!
เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าจ้าวเหล่ยคิดอ่านอุบาทว์อะไร?
ตัวบัดซบจ้าวเหล่ยนี่…คิดยืมดาบฆ่าคน!
เพราะสุดท้ายแล้ว…จ้าวเหล่ยมันก็ไม่ได้ล่วงรู้ถึงความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขา และยังรู้แค่ว่า เขามีความแข็งแกร่งเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4 เท่านั้น!
"ต้วนหลิงเทียน โจรพวกนี้ข้าฝากเจ้าด้วยแล้วกัน …ตัวข้าจักเร่งรุดไปช่วยอาวุโสฟงผิงก่อน!" ครู่ต่อมาเสียงจ้าวเหล่ยก็ดังขึ้นให้ต้วนหลิงเทียนได้ยิน นั่นทำให้ประกายตาต้วนหลิงเทียนเย็นยะเยือกลงโดยพลัน ทั้งยังเปล่งประกายอำมหิตเรืองวูบขึ้นมาอย่างน่ากลัว
ช่วยอาวุโสฟงผิงหรือ?
ด้วยฝีมือกระจอกงอกง่อยของจ้าวเหล่ย… อาวุโสฟงผิงยังต้องการความช่วยเหลืออะไรจากมันอีกหรือไร?
นอกจากนี้กลุ่มโจรที่พุ่งไปปะทะกับอาวุโสฟงผิงก็ตายตกแทบหมดสิ้นแล้ว!
ยังจะเหลืออะไรให้จ้าวเหล่ยกระทำอีก…!
"ดูเหมือนว่าพักนี้ข้า…จะใจดีเกินไปสินะ" ยามนี้ความเย็นชาเหน็บหนาว สะท้านไขกระดูกเริ่มก่อเกิดในใจต้วนหลิงเทียน เขารู้สึกว่าความคิดที่แว่บขึ้นมาในใจเมื่อครู่ ช่างตื้นเขินและน่าขันนัก…!
เพราะเมื่อครู่เขาคิดจะไปกำจัดโจรช่วยชีวิตจ้าวเหล่ยนี่..!
แต่ไม่คิดเลย…ว่าจ้าวเหล่ยจะพุ่งมาหาเขา! และมองเขาในฐานะโล่มนุษย์คนหนึ่ง ทั้งคิดให้เขาทานรับโจรเสื้อเทาทั้งกลุ่มโจรที่ติดตามมันมาเช่นนี้!
เห็นได้ชัดว่าจ้าวเหล่ยเจตนาให้เขาตาย!
เพราะหลังจากทั้งหมดแล้วในสายตาของจ้าวเหล่ย เขายังอ่อนด้อยกว่าโจรชุดเทา…!
วูบบบบ!
กลุ่มโจรจำนวนหนึ่งที่นำมาด้วยโจรชุดเทาไม่นานก็มาถึง ด้วยความที่โจรชุดเทาอยู่ในระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 6 มันจึงเคลื่อนไหวได้รวดเร็วที่สุด และเป็นผู้ที่มาถึงตัวลงมือจู่โจมต้วนหลิงเทียนคนแรก!
เมื่อมันเห็นความเยาว์วัยของต้วนหลิงเทียน ประกายตาโจรชุดเทาเหมือนกับจะส่องแสงออกมาได้
วู้มมม!
ในเวลาเดียวกันมันก็ไม่คิดอะไรมาก เพียงฟาดดาบในมือออกไปอย่างสั่วๆ หมายปาดลำคอของต้วนหลิงเทียน ส่วนตัวมันนั้นเริ่มเหลือบมองไปด้านหลังต้วนหลิงเทียน คิดติดตามไปหาจ้าวเหล่ยเสียแล้ว…
"นี่ข้าโดนดูแคลนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?" เมื่อต้วนหลิงเทียนเห็นโจรชุดเทาลงมือ ทั้งๆที่สายตายังจับจ้องไปยังจ้าวเหล่ยที่อยู่เบื้องหลัง รอยยิ้มเย้ยหยันพลันปรากฏบนใบหน้าของต้วนหลิงเทียน
วู้มมม!
ตอนนี้ดาบของโจรชุดเทาก็พุ่งมาด้วยความเร็วสูงจนใกล้บรรลุถึงลำคอเขาแล้ว
บางทีการโจมตีนี้คงมากเกินพอที่จะคร่าชีวิตผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4 ทั่วไปได้ทั้งหมด…
ทว่าต้วนหลิงเทียนไม่เคยเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4 ทั่วไป!
ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงแรงลมจากดาบที่ฟาดปะทะเข้ากับลำคอของเขา …เมื่อมีภัยถึงตัว นั่นทำให้จิตสังหารและความอำมหิตในใจที่เก็บเอาไว้อยู่นานเริ่มปะทุออกมา คนกลับกลายเป็นเกรี้ยวกราด!
ประกายตาต้วนหลิงเทียนชืดชาลงในทันใด
"หาที่ตาย!" ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนพลันลงมือฉับไว!
พลังงานต้นกำเนิดและพลังลมเริ่มปะทุออกมาด้วยความเร็วสูงล้ำควบแน่นไปที่ขาทั้ง 2
เสี้ยวพริบตาที่พลังงานอัดแน่นไปยังต้นขา ขาของเขาก็ถีบหลังม้า ส่งร่างพุ่งทะยานสู่เวหาราวจะก้าวเดินไต่อากาศ เหยียบย่ำก้อนเมฆ พร้อมลังกาหน้าหลบคมดาบที่ฟาดเข้ามาได้อย่างอัศจรรย์
การเคลื่อนไหวนี้ต่อเนื่องลื่นไหลราวกับสายน้ำเคลื่อนคล้อย เมฆาลอยเลื่อน
ภาพนี้ทำให้เหล่าโจรที่ติดตามโจรชุดเทาที่ลงมือต่อต้วนหลิงเทียน ต้องหันไปจับจ้องต้วนหลิงเทียนที่ปราดลังกาขึ้นไปอย่างตกตะลึง!
"เป็นไปได้ยังไง?" จากที่ห่างออกไป จ้าวเหล่ยที่กำลังวิ่งไปหาอาวุโสฟงผิงด้วยความรีบร้อน เมื่อปลอดภัยแล้ว มันก็หันกลับมามองทางต้วนหลิงเทียน และเมื่อได้เห็นภาพนี้ ความเหลือเชื่อเผยออกมาเต็มใบหน้ามัน
ต้วนหลิงเทียนกลับหลบการโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์วิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 6 ได้?
และพริบตาต่อมา สายตาจ้าวเหล่ยยังเหลือบไปเห็นเงาร่างช้างแมมมอธโบราณที่ ลอยเด่นหราอยู่เหนือร่างต้วนหลิงเทียน ใบหน้าของมันยิ่งซีดลงราวกับศพ "8 … 800 ช้างแมมมอธโบราณ? ต้วนหลิงเทียนมันเป็นผู้ฝึกยุทธ์วิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 6?"
จ้าวเหล่ยยามนี้นิ่งค้างไปดั่งตัวบ้าใบ้โง่งม
ผู้ฝึกยุทธ์วิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 6…ด้วยวัย 22 ปี
นี่…
มันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ อดที่จ้าวเหล่ยจะยื่นมือออกมาหยิกที่ต้นขาตัวเองอย่างแรงไม่ได้
พริบตาแรกที่มันหยิกลงก็ไม่รู้สึกอะไร ทำให้มันประหลาดใจขึ้นมาทันที "ดูเหมือนที่แท้ ตอนนี้ข้ากำลังฝัน ก็ว่าแล้ว ต้วนหลิงเทียนจักไปมีระดับบ่มเพาะ เช่นนี้ได้อย่… "
ทว่าครู่ต่อมาจ้าวเหล่ยก็ต้องหยุดลง
นั่นเพราะความเจ็บปวดอันรุนแรงที่ขาอ่อนพึ่งจะแล่นมาถึงสมองมันให้ได้รับรู้!
"ข้าไม่ได้ฝัน?" สีหน้าของจ้าวเหล่ยซีดลง แววตาของมันเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม “ต้วนหลิงเทียนนี้ยังมีอายุไม่เท่าไร แต่มันกลับมีระดับบ่มเพาะที่น่าเหลือเชื่อเช่นนี้ …พวกเราก็เป็นคนดุจเดียวกัน …ใยความแตกต่างกันถึงได้มากมายเช่นนี้ สวรรค์ไร้ความเป็นธรรมนัก!"
ในตอนนี้เมื่อโจรทั้งหมดตกตายจะหมดแล้ว ทำให้เกือบทุกคนได้เห็นภาพนี้เต็มสองตา
แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นย่อมมีอาวุโสฟงผิงด้วย
"นั่นมัน…พลังลม?" อาวุโสฟงผิงนั้นสายตาห่างชั้นจากจ้าวเหล่ยหลายขุม เพียงมองปราดเดียวก็ล่วงรู้ได้ทันที ว่าที่ขาของต้วนหลิงเทียนนั้น นอกจากพลังงานต้นกำเนิดแล้วยังมีพลังลมอยู่อีกด้วย!
ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์แรกสัมผัสธรรมชาติที่ฝึกฝนและทำความเข้าใจพลังลมเช่นเดียวกัน นั่นทำให้พลังลมนี้คุ้นเคยกับมันมาก “นั่นมิใช่เมล็ดพันธ์พลังลม มันเป็นพลังลมที่แท้จริง พลังลมเบื้องต้น!” หลังจากที่เห็นกระจ่างชัด ม่านตาของฟงผิงถึงกับหดแคบลง ใบหน้ายังเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกอันเหลือเชื่อ
ผู้ฝึกยุทธ์วิญญาณแรกก่อตั้งเข้าใจพลังลมเบื้องต้นแล้วหรือ?
นี่ข้ากำลังชมดูอันใดอยู่กัน?
"ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 6!" ตอนนี้เองเสียงกระหึ่มด้วยความประหลาดใจพลันดังกึกก้องขึ้นมา
เป็นคนอื่นๆ ที่กำลังตกตะลึงกับเง่าร่างช้างแมมมอธโบราณ 800 ตัวเหนือร่างของต้วนหลิงเทียน ที่ไอพลังฟ้าดินก่อตัวขึ้นมาแสดงความแข็งแกร่ง
นอกจากฟงผิงแล้ว ไม่มีใครล่วงรู้ว่า ในบรรดาความแข็งแกร่ง 800 ช้างแมมมอธโบราณที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกมานั้น มี 200 ช้างแมมมอธโบราณ ที่บังเกิดขึ้นจากพลังลมเบื้องต้น
"อะไรกัน!?!" สีหน้าท่าทางของโจรชุดเทาเปลี่ยนเป็นตกตะลึงในทันใด เมื่อเห็นว่าดาบของมันพลาดเป้า…!!
และเมื่อมันหันไปมอง …จนเห็นเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 800 ตัวลอยเด่นหราเหนือร่างต้วนหลิงเทียน สีหน้าของมันก็ซีดจางลง
ตอนนี้มันพึ่งสำเหนียกว่า…มันได้กระทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงแล้ว!
มันประเมินชายหนุ่มวัย 20 ต้นๆ ต่ำเกินไป ลงมือด้วยความประมาทหนักหนา!
เดิมมันคิดว่าชายหนุ่มคนนี้คงเป็นเบี้ยเล็กๆ แต่ไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 6 เช่นเดียวกับมัน!
มันแค้นตัวเองจนแทบอยากตายให้รู้แล้วรู้รอด
วูบ!
พลังงานต้นกำเนิดในร่างโจรชุดเทารีบเร่งเร้าออกมาเต็มกำลังหมายชะงักท่าร่าง และคิดที่จะหันไปรับมือกับชายหนุ่ม …แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของมันนั้นถลันออกไปเสียแล้ว…มันพุ่งร่างไปหมายไปหาจ้าวเหล่ย ดาบในมือก็เหวี่ยงฟาดไปแบบง่ายๆ…หยุดยั้งอะไรตอนนี้ไม่ทันแล้ว
พริบตานั้นใบหน้าของมันกลับกลายเป็นสิ้นหวัง
มันรู้ว่ามันต้องตายแน่…
แล้วมันก็ตายจริงๆ
วู้มม!
ประกายตาที่เย็นชาของต้วนหลิงเทียนเผยประกายอำมหิตออกมา ในขณะที่ม้วนหน้าแขนของเขายืดออกปรากฏกระบี่วิญญาณระดับ 6 ขึ้นมาในมือ ก่อนที่กระบี่นั้นจะตวัดแทงออกไปรวดเร็วดั่งฟ้าผ่า ทั้งยังทิ่มแทงออกไปในขณะลังกาหน้าด้วยซ้ำ…. ทว่ากระบี่นี้ราวมีดวงตางอกเงย กลับทะลวงกลางหลังของโจรชุดเทาตัดขั้วหัวใจ ทั้งทะลุหน้าอกของมันด้านหน้าออกมา…!
ร่างของโจรชุดเทาที่พุ่งไปได้อีกไม่กี่ก้าวสุดท้ายก็ล้มลงแน่นิ่ง
ตายคาที่!
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่โจรชุดเทาลงมือต่อต้วนหลิงเทียนด้วยความประมาท และเผยช่องว่างอันใหญ่หลวงให้แก่ต้วนหลิงเทียนเลยด้วยซ้ำ ถึงแม้มันจะไม่เปิดเผยช่องว่างและตั้งใจสู้อย่างเต็มที่ แต่ลำพังฝีมือของมันก็ไม่นับว่าอยู่ในสายตาของต้วนหลิงเทียน…
เพราะหลังจากที่ทุกคนรู้ กระทั่งนายน้อยคมมีด 1 ใน 5 นายน้อยผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรพนาคราม ซึ่งเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 6 ที่ได้เข้าใจเมล็ดพันธ์พลังมีดไปแล้ว ทั้งยังมีมีดวิญญาณระดับ 6 ในมือ…ยังพ่ายแพ้ต่อต้วนหลิงเทียนไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว…
สำหรับต้วนหลิงเทียนแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 6 ธรรมดาๆ อย่างโจรชุดเทานี่ ไม่ได้นับเป็นภัยคุกคามอะไร…
กลุ่มโจรที่วิ่งตามมาอีกไม่กี่คนด้านหลังเมื่อเห็นภาพตรงหน้า พวกมันก็รีบหยุดร่างลงพร้อมใบหน้าที่ซีดเป็นศพ
มันรู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มเบื้องหน้านั้นเป็นหายนะ…
หนี!
พวกมันหันมองหน้าสหายที่ยืนขาสั่นด้านข้างก่อนที่จะคิดเห็นตรงกัน…
ต้วนหลิงเทียนไม่คิดจะเสียเวลาวิ่งไล่ฆ่าหนูสกปรกไม่กี่ตัวพวกนี้..
เพราะครู่ต่อมา พวกมันก็หนีไปไหนไม่รอด ถูกผู้คุ้มกันของหาการค้ากู่เหอรุมสังหาร
สุดท้าย กลุ่มโจร 100 กว่าชีวิตก็ตกตายไม่มีเหลือ!
เบ็ดเสร็จแล้วมี ผู้คุ้มกันของหอการค้ากู่เหอได้รับบาดเจ็บเพียง 10 กว่าคนเท่านั้น ไม่ได้มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างไร เรียกได้ว่าเป็นชัยชนะอันสมบูรณ์แบบ
กลุ่มโจรถูกทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง…ทว่าผู้คนยังคงเงียบกริบ
นั่นเพราะทุกสายตาของขบวนพ่อค้าครั้งนี้จับจ้องมายังร่างของต้วนหลิงเทียน ที่กำลังสะบัดกระบี่ไล่เลือดอยู่อย่างพร้อมเพรียง…
อึก! อึก! อึก! อึก! อึก!
…
พริบตาต่อมาเสียงกลืนน้ำลายก็ดังขึ้นระงมราวกับกบร้องประชันหยาดพิรุณกระทบดิน…
"เขาช่าง…แข็งแกร่งยิ่งนัก!" ศิษย์สายในนิกายกระบี่ 7 ดาวทั้ง 2 คนต่างหันมามองหน้ากันเองอย่างตะลึง
"ยากนักที่จักเชื่อได้ว่า…ชายหนุ่มวัยเพียง 22 ปีจะแข็งแกร่งได้ถึงขีดขั้นนี้ …ตอนนี้ข้าล่ะหวังให้เขาเป็นคนนิกายกระบี่ 7 ดาวเราจริงๆ"
“มิผิด หากมีเขาอยู่… นิกายกระบี่ 7 ดาวเรายังต้องห่วงเรื่องความรุ่งโรจน์ในอนาคตอีกหรือ?”
ถึงแม้ศิษย์สายในทั้ง 2 คนนี้จะแก่กว่าต้วนหลิงเทียนเกิน 10 ปี แต่พวกมันก็มองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพนับถือ
พรสวรรค์ตามธรรมชาติ และความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนทำให้พวกมันยอมรับนับถือหมดใจ
“ต้วนหลิงเทียน ดูเหมือนเป็นข้าที่ยังดูเบาเจ้าอยู่” ในที่สุดอาวุโสฟงผิงก็กล่าวออกมาทำลายความเงียบ
ฟงผิงมองยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาซับซ้อน
ตัวมันเองยังไม่อาจคิดจินตนาการออกว่า…ลำพังผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4 ใช้วิธีพิสดารอันใดกันแน่ ถึงได้ไปทำความเข้าใจกระทั่งใช้ พลังลมเบื้องต้นออกได้แคล่วคล่องเช่นนี้?
ในฐานะที่มันเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์แรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 3 ที่เข้าใจได้ถึง ครึ่งก้าวพลังลมขั้นสูง…มันย่อมรู้ดีว่าที่ต้วนหลิงเทียนปราดร่างฉับไว หลบคมดาบของโจรชุดเทาในเสี้ยวพริบตาอย่างเหนือชั้นนั่น เป็นการใช้พลังลมเบื้องต้นในการกระสานกับวิชาท่าร่างอย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน…
"ต้วนหลิงเทียน …มันแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?" สีหน้าของจ้าวเหล่ยราวกับขี้เถ้า ตอนแรกมันยังนึกว่าต้วนหลิงเทียนเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4 เท่านั้น… มันไม่เคยคิดเคยฝันเลย ว่าต้วนหลิงเทียนจะซุกซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้มากมายเช่นนี้
ไม่นานขบวนพ่อค้าก็เดินไปถึงจุดพักแรม และเริ่มตระเตรียมที่พักแรมชั่วคราวสำหรับค่ำคืนนี้
ต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นว่า นอกเหนือจากฟงผิงแล้ว…ทุกๆคนรวมถึงหัวหน้าผู้คุ้มกันของหอการค้ากู่เหอ ล้วนมองมาที่เขาด้วยสายตาเคารพนับถือ