หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 411 : อาวุโสฟงผิง

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 411 : อาวุโสฟงผิง
Prev
Next

บทที่ 411 : อาวุโสฟงผิง

 

 

"พี่ใหญ่หลิงเทียน เมื่อครู่ท่านชั่วร้ายนัก… ฮิฮิ" เสียงที่ส่งผ่านพลังงานต้นกำเนิดจากเสี่ยวจินดังขึ้นในหูต้วนหลิงเทียน รู้สึกนางจะสนุกสนานกับเหตุการณ์ก่อนหน้าไม่น้อย

"เจ้าเห็นแล้วหรือไม่ บางอย่างเราก็สามารถแก้ไขได้ง่ายดาย …เจ้าไม่จำเป็นต้องฆ่าคนทุกครั้ง"ต้วนหลิงเทียนกล่าวสอนสั่งเสี่ยวจินอย่างอดทน ทั้งยังกระทำตัวให้เป็นแบบอย่างอันดี

"ข้ารู้แล้วๆ…ต่อไปข้าจะไม่ฆ่าพวกมันแล้ว ข้าจะให้พวกมันแก้ผ้าแล้ววิ่งกลับบ้านด้วยชุดวันเกิดเช่นนี้!!…ข้ามิรู้เลยว่ามันจะสนุกสนานเช่นนี้ ส่วนเจ้าพวกสัตว์อสูรปีศาจตัวอื่น ข้าจะถลกหนังพวกมันออก แล้วค่อยปล่อยพวกมันไป!… " ต้วนหลิงเทียนรู้สึกหนาวสะท้านไปถึงไขสันหลังเมื่อได้ฟังวาจาเสี่ยวจิน…

เจ้าตัวจิ๋วกินจุนี่มันปีศาจน้อยชัดๆ …

และดูเหมือนนางจะไม่ได้พูดถึงแต่กับคนอย่างเดียวใช่หรือไม่?

นางยังคิดให้สัตว์อสูรปีศาจ หรือสัตว์อสูร ‘ถอดเสื้อผ้า’ ของพวกมันออกด้วย?

นี่ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกหนาวนัก

สหายตัวน้อยนี่…น่ากลัวยิ่ง!!

หลังจากที่เดินผ่านซอยเล็กๆ ไปไม่นานต้วนหลิงเทียนก็พบถนนใหญ่..

จากคำแนะนำของพลเมืองดีก่อนหน้า ต้วนหลิงเทียนก็เลี้ยวขวา ก้าวเดินไปตามทางอย่างไม่เร่งร้อนอะไร  ส่วนจ้าวเหล่ยนั้น เขาคิดว่าป่านนี้มันคงกลับไปถึงหอการค้ากู่เหอแล้ว

จากที่ต้วนหลิงเทียนรู้มา นอกจากอาวุโสทั้ง 2 แล้ว น่าจะมีศิษย์สายในอีก 3 คนที่ถูกส่งมายังเมืองโบราณชั่วนิรันดร์ จ้าวเหล่ยนี่คงเป็น 1 ใน 3 คนนั่น

"ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 3 ? คนอื่นๆ ก็คงไม่ต่างกันสักเท่าไร" ต้วนหลิงเทียนคิดในใจ

เข้าเชื่อว่าแม้หอการค้ากู่เหอจะไม่ได้อยู่ในสภาพร่ำรวยล้นฟ้า แต่เพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 3 พวกมันคงไม่ขาดแคลน …

ดูเหมือนว่า หอการค้ากู่เหอ จะหวังพึ่งเพียง อาวุโสทั้ง 2 คนเสียมากกว่า

เดินไปคิดไปไม่นาน ต้วนหลิงเทียนก็เดินตามทางมาจนใกล้จะถึงอยู่แล้ว

ตอนนี้เองก็มีเสียงบทสนทนารอบๆ ดังขึ้นเข้าหูต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง

บทสนทนาส่วนใหญ่ก็เป็นการสนุกสนานบนความทุกข์ของผู้อื่น ทับถมกันสนุกปาก

"ฮ่าๆ …เมื่อกี้พวกเจ้าทันได้เห็นหรือไม่? จ้าวเหล่ยนั่น มันแก้ผ้าวิ่งกลับมา! ตูดเปลือยเปล่าสีดำมีผดนั่น ..ฮ่าๆๆ ข้าขำแทบตายแล้ว!"

"มันมักจะชอบข่มผู้อื่นยิ่งนัก ..อาศัยสถานะศิษย์สายในนิกายกระบี่ 7 ดาวของมัน ระรานผู้คนไปทั่ว … ตอนนี้กรรมคงตามสนองมันแล้ว ผู้ใดกระทำต่อมันเช่นนี้ ข้าอยากคารวะสักจอก"

"ฮ่าๆๆ ข้าเองก็อยากรู้นักว่าเป็นผู้ใดกระทำกับมันเช่นนั้น …หากข้ารู้ ข้าจักเลี้ยงเหล้านารีแดงคนๆนั้นสัก 3 ไห!"

…

ต้วนหลิงเทียนอึ้งไปไม่น้อยเมื่อได้ฟังบทสนทนาเหล่านี้

ดูเหมือนว่าจ้าวเหล่ยนั่นจะมีชื่อเสียงไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไร

ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็เดินมาถึง สถานที่ๆดูใหญ่โตกว้างขวางแห่งหนึ่ง

ประตูหน้ามีรูปปั้นพยัคฆ์ศิลาตั้งอยู่ 2 ตัว

“นี่น่าจะเป็นหอการค้ากู่เหอสาขาเมืองโบราณชั่วนิรันดร์ สินะ” ต้วนหลิงเทียนกล่าวพึมพำออกมา

"ท่านเป็นผู้ใด?" ต้วนหลิงเทียนพบว่าในขณะที่เขากำลังจะก้าวเข้าประตูไป ร่างชายหนุ่ม 2 คนที่ยืนอยู่ข้างประตูพลันสืบเท้าก้าวเข้ามาขวางเขาเอาไว้

นายหนุ่มทั้งสองสวมชุดรูปแบบเดียวกัน ซ้ำที่เสื้อยังมีตราที่ปักไว้ ตรานั้นปักว่า “กู่”

ต้วนหลิงเทียนเดาได้ว่าทั้งคู่น่าจะเป็นคนของหอการค้ากู่เหอ

ต้วนหลิงเทียนค่อยๆยกมือขึ้นช้าๆ ก่อนที่จะ ตบเบาๆไปที่ลายปักบนเสื้อเขาเช่นกัน  ซึ่งแสดงเครื่องหมายที่รู้กันดีว่าเป็นของ นิกายกระบี่ 7 ดาว

“ศิษย์สายในนิกายกระบี่ 7 ดาว?” ทันใดนั้นสองตาของชายหนุ่มทั้ง 2 พลันเบิกกว้างขึ้น

พวกมันรีบหันไปจ้องใบหน้าของต้วนหลิงเทียนอีกครั้งอย่างระวัง สายตาเผยความเหลือเชื่อออกมา…

"ข้ามาหาอาวุโสจ้าวอวี่และอาวุโสฟงผิง" ต้วนหลิงเทียนยิ้มให้ทั้ง 2 พร้อมพยักหน้าเบาๆ

ถึงแม้ว่าชายหนุ่มทั้ง 2 จะตะลึงไม่น้อยเรื่องอายุของต้วนหลิงเทียน แต่ชายคนหนึ่งยังพอรู้สึกตัวอยู่บ้าง รีบก้าวเข้ามาทักทายต้วนหลิงเทียนตามมารยาทของหอการค้ากู่เหอ “น้องชาย โปรดตามข้ามาด้านใน”

"ขอบคุณพี่ชาย"ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนที่จะเดินตามเข้าไป

"น้องชาย เจ้าเป็นศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาวหรือ?" ชายหนุ่มที่พาต้วนหลิงเทียนเข้ามา กล่าวถามอย่างลังเล

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมาพร้อมยิ้ม "ท่านคงไม่คิดว่าข้าจะเป็นตัวปลอมเหมือนจ้าวเหล่ยใช่หรือไม่ …ข้าจะมาพบอาวุโสฟงผิงและจ้าวอวี่ถึงที่นี่ทำไมกันเล่า หากว่าข้าเป็นตัวปลอม?"

"มิผิด" ชายหนุ่มคนนั้นเข้าใจได้ในทันที และเขาก็ไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะมีความกล้าหาญถึงขั้นปลอมตัวด้วย "แล้วเจ้าได้เจอศิษย์สายในของนิกายเจ้า นามจ้าวเหล่ยหรือไม่เมื่อครู่?"

"ข้าเจอแล้ว" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

"ตอนเจ้าเจอมัน … มันยังใส่เสื้อผ้าอยู่หรือไม่?" ชายหนุ่มถาม

"ยังใส่อยู่" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

ชายหนุ่มคนนั้นบังเกิดความรู้สึกสนใจขึ้นมาไม่น้อย ก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้ต้วนหลิงเทียนแล้วกระซิบ “เมื่อครู่ข้าเห็นจ้าวเหล่ยแก้ผ้าล่อนจ้อน เผยก้นดำๆเป็นผดเข้ามา…เจ้าได้ทันเห็นหรือไม่ว่าเป็นผู้ใดลงมือกับมัน”

"เป็นข้าเอง" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าอีกครั้ง เรื่องนี้เกรงว่านอกจากกลุ่มคนหน้าเมืองโบราณชั่วนิรันดร์แล้ว คนที่เห็นเหตุการณ์มีไม่มากนัก

"ผู้ใดนะ?" ชายหนุ่มคนนั้นหันมามองต้วนหลิงเทียนแล้วกล่าวถามย้ำอีกครั้ง

“เป็นข้าเอง” ต้วนหลิงเทียนค่อยๆกล่าวออกมาพร้อมยิ้มบางๆ

"เป็นเจ้า?" ชายหนุ่มตะลึงไปในทันใด รู้สึกไม่เชื่ออยู่บ้าง

และเมื่อชายหนุ่มหายตกตะลึง เขาก็รีบกล่าวถามออกมาอย่างสนุกสนาน ทว่าทันใดนั้นเอง…

"ไอหนูเจ้ากลับกล้ามาที่หอการค้ากู่เหอจริงๆ… เจ้าคิดว่าสามารถหลอกบิดาข้าและอาวุโสฟงผิงได้เช่นนั้นรึ?" น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะอันเกรี้ยวกราดพลันดังขึ้นมา

เป็นจ้าวเหล่ยที่กลับมาสวมชุดศิษย์สายในนิกายกระบี่ 7 ดาวเรียบร้อยแล้ว กำลังเดินมาจากที่ไกลๆ จ้องมายังต้วนหลิงเทียนตาเขม็ง

ในแววตาของจ้าวเหล่ยยังเต็มไปด้วยความเคียดแค้นอันมืดมน มันกล่าวออกมา “ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เจ้ากล้าปลอมตัวเป็นศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาว…แต่เจ้ากล้ากระทั่งรนหาที่เสนอหน้ามาถึงที่นี่…วันนี้ต่อให้เจ้ามีปีก ก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้”

"กล้าปลอมตัวเป็นศิษย์สายในกระบี่ 7 ดาว?" ท่าทางชายหนุ่ม ของหอการค้ากู่เหอ ที่นำต้วนหลิงเทียนเข้ามา เริ่มเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดน่ากลัว มันรีบพุ่งร่างหลบออกไปด้านข้าง ห่างไปจากต้วนหลิงเทียนเสียไกล ราวกับมันกำลังหลีกเลี่ยงภัยพิบัติ

"น้องชาย…เจ้าไม่ได้เป็นศิษย์สายในนิกายกระบี่ 7 ดาวหรือ?" ชายหนุ่มคนนั้นมองไปยังต้วนหลิงเทียนตาเขม็ง

ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มอย่างไม่แยแส “ไม่ใช่ข้าถามท่านแล้วหรือไงตอนที่เดินเข้ามา …ว่า ท่านคงไม่คิดว่าข้าจะเป็นตัวปลอมเหมือนจ้าวเหล่ยใช่หรือไม่?  ท่านลืมแล้วเหรอ? ”

ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ รู้สึกวาจาของต้วนหลิงเทียนมีตรรกะที่ดีและมีเหตุผล มันจึงหันไปมองจ้าวเหล่ยด้วยความแคลงใจ

"ฮึ่ม!" จ้าวเหล่ยแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา "ผู้ใดจะไปรู้ว่าเจ้ามีแผนการอุบาทว์อันใด?  แต่ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เอาไว้! ต่อหน้าข้าจ้าวเหล่ย! แผนอุบาทว์ของเจ้ามิอาจใช้ได้ผล!"

"ขนาดนั้นเลย?" ต้วนหลิงเทียนทำเป็นตาโต ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก "อ่อ..จ้าวเหล่ย พอดีข้าอยากรู้อะไรนิดหน่อย…เป็นไปได้หรือไม่ที่เจ้าไม่เหลือเสื้อผ้าใดให้ใส่เลยในแหวนมิติ…  เพราะข้าแค่บอกให้เจ้าเข้าเมืองด้วยชุดวันเกิด แต่ข้าไม่ได้ห้ามสักคำว่าจะไม่ให้เจ้าใส่เสื้อผ้าหลังจากเดินเข้าเมืองไปแล้ว …ข้าเองยังคิดไม่ถึง..ว่าเจ้าจะมีใจห้าวหาญ  มั่นใจในความงดงามของก้นดำๆเป็นผดของเจ้า! กระทั่งโยนเสื้อผ้าทิ้ง แล้ววิ่งล่อนจ้อนกลับมาถึงที่นี่ นับถือๆ…. " ในขณะที่กล่าวต้วนหลิงเทียนแสร้งระบายลมหายใจ ก่อนที่จะประสานมือคารวะอย่างซูฮกขึ้นมา

"เจ้า … เจ้า … " เมื่อคำของต้วนหลิงเทียนดังเข้าหู จ้าวเหล่ยรู้สึกเหมือนเส้นสายอัสนีฟาดเปรี๊ยง  สีหน้าของมันยิ่งมายิ่งดำคล้ำ เต็มไปด้วยความอำมหิต "ไอหนู ตอนนี้เจ้าทำเป็นได้ใจไปเถอะ  ในเมื่อเจ้ากล้ามาถึงที่นี่ แล้วอย่าหวังว่าจะได้กลับไปง่ายๆ!"

ต้วนหลิงเทียนผายมือออกข้างตัวด้วยท่าทางสงบ ก่อนที่จะกล่าวคำด้วยน้ำเสียงเรียบๆ  "ข้าก็ไม่ได้คิดจะไปไหนอยู่แล้ว"

"หืม?" ท่าทางของต้วนหลิงเทียนนั้น นับว่าเกินความคาดหมายของจ้าวเหล่ยไปบ้าง

ตอนนี้ในใจของมันอดไม่ได้ที่จะบังเกิดคามระทึก หวั่นหวาดขึ้นมา

"หรือมันจักเป็นศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาวจริงๆ?" ตอนนี้ในใจของจ้าวเหล่ยเริ่มปรากฏความคิดเช่นนี้ ทำให้มันอดไม่ได้ที่จะกระวนกระวายขึ้นมา

และเมื่อจ้าวเหล่ยค่อยๆสงบใจแล้วคิดดีๆ…ชายหนุ่มตรงหน้าจะอย่างไรก็เอาชนะมันได้  ถึงแม้ว่ามันจะไม่นับว่าเป็นศิษย์สายในที่แข็งแกร่งอะไรในนิกายกระบี่ 7 ดาว แต่อย่างน้อยๆ มันก็มีระดับบ่มเพาะถึงระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 3…!

ในขณะที่ไอเด็กนี่มีอายุราวๆ 22 ปีเท่านั้น

ความสามารถที่ไอเด็กนี่ใช้ออกและเอาชนะมันได้ง่ายดาย นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพรสวรรค์ตามธรรมชาติของชายหนุ่มตรงหน้าเลิศล้ำเพียงใด!

"เป็นไปได้หรือไม่…ว่าในเวลา 2 ปีที่ข้าไม่ได้กลับไปยังนิกาย…จะมีปีศาจน้อยเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นมา?" ในใจของจ้าวเหล่ยยิ่งคิดยิ่งสะท้านสะเทือน

“ไม่จริง! เป็นไปไม่ได้! มันต้องไมใช่ศิษย์สายในนิกายกระบี่ 7 ดาว…มันต้องไม่ใช่แน่ๆ” ในขณะที่คิดมาถึงตรงนี้จ้าวเหล่ยก็กลัวมาก

มันไม่ได้รู้สึกกลัว…เพราะความกริ่งเกรงจะโดนลงโทษเรื่องเข้าใจผิด หรือฉีกจดหมายแนะนำตัวของประมุขนิกายแต่อย่างไร…

สำหรับมัน นี่เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย

แต่มันหวาดกลัวว่า…หากไอเด็กนี่เป็นศิษย์สายขึ้นมาจริงๆ และบิดามันได้รู้เรื่องราวความเข้าใจผิดครั้งนี้ …บิดามันจะไม่ลงมือสั่งสอนไอเด็กนี่ให้มัน…!

มันไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นได้

"จ้าวเหล่ย เกิดอะไรขึ้น?" ทันใดนั้นน้ำเสียงไม่แยแสดังขึ้นไกลๆ สะกิดความสนใจของต้วนหลิงเทียน

เมื่อต้วนหลิงเทียนจับจ้องมองไป ก็พบร่างชายวัยกลางคนสวมชุดลำลองสีฟ้าอ่อน กำลังก้าวเดินมาอย่างเนิบๆ แต่ละย่างก้าวของชายวัยกลางคนบ่งบอกให้รู้ว่ามีฝีมือไม่ธรรมดา

พลังวิญญาณของต้วนหลิงเทียนถูกแผ่ออกไปโดยพลัน และสามารถหยั่งถึงระดับบ่มเพาะของชายวัยกลางคนผู้นั้น ได้ในทันที

ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 3!

"อาวุโสฟงผิง" ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังสงสัยว่าผู้มาเป็นใคร จ้าวเหล่ยที่อยู่ไม่ไกลพลันหันไปทักทายอีกฝ่ายอย่างสุภาพ

"อาวุโสฟงผิง?" ประกายตาต้วนหลิงเทียนเรืองขึ้นมาเล็กน้อย

ฟงผิงเป็นผู้อาวุโสของนิกายกระบี่ 7 ดาวที่หลิ่งหูจิ่นหง บอกให้เข้ามาพบ และเขายังเป็นหนึ่งในอาวุโสที่ประจำการอยู่ที่หอการค้ากู่เหอแห่งเมืองโบราณชั่วนิรันดร์

"แล้วเจ้าคือ?" หลังจากที่รับการทักทายจากจ้าวเหล่ย ฟงผิงก็หันไปมองต้วนหลิงเทียน และทันใดนั้นเองเขาก็ขมวดคิ้ว สายตาเริ่มเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาเล็กน้อย “เจ้าเป็นผู้ใดกัน ใยต้องสวมชุดศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาว?”

ด้วยอายุในปัจจุบันของต้วนหลิงเทียน ไม่มีใครเชื่อได้ลงว่าต้วนหลิงเทียนเป็นศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาว

กระทั่ง นายน้อยผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 5 แห่งอาณาจักรพนาคราม ที่มีพรสวรรค์สูงส่ง ยังไม่อาจเป็นศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาวได้ หากยังมีอายุเพียงเท่านี้

"อาวุโสฟงผิง … " ต้วนหลิงเทียนหันไปมองอาวุโสฟงผิง ทว่าเขายังไม่ทันได้กล่าวจนจบคำ ก็ถูกจ้าวเหล่ยขัดจังหวะเสียก่อน

“อาวุโสฟงผิง ไอเด็กคนนี้มันกล้าสวมรอยเป็นศิษย์สายในของนิกายเรา เพื่อกระทำการชั่วช้าบางอย่าง โทษมันสมควรตาย! ..อาวุโสฟงผิงรีบสังหารมันเร็วเข้า เพื่อมิให้เกิดปัญหาใดๆในอนาคต” จ้าวเหล่ยมองไปยังต้วนหลิงเทียนอย่างอำมหิต ในแววตาเผยความเย็นชาพร้อมความชิงชังออกมา ขณะที่รีบกล่าวขึ้นเสียงดัง

สีหน้าของอาวุโสฟงผิงเริ่มมืดลงเมื่อได้ยินคำจ้าวเหล่ย เขารีบหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาคมกล้า “ทำไมเจ้าต้องสวมรอย …ปลอมตัวเป็นคนของนิกายกระบี่ 7 ดาว!?”

"อาวุโสฟงผิง!!" จ้าวเหล่ยรู้สึกกังวลเมื่อเห็นอาวุโสฟงผิงกล่าวถามและเปิดโอกาสให้ต้วนหลิงเทียนอธิบาย "ไอเด็กนี่ วาจามันสับปลับลูกเล่นร้ายกาจนัก! ท่านอย่าได้ให้มันมีโอกาสกล่าววาจาชักจูงใดๆต่อท่าน  รีบสังหารมันเถอะ!"

“ฮ่าๆๆๆๆๆ…!” ต้วนหลิงเทียนแน่นอนว่าย่อมรู้ดีว่าจ้าวเหล่ยมันมีเป้าหมายอะไร ถึงได้รีบกล่าวออกมาอย่างร้อนรนเช่นนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง

เสียงหัวเราะของเขานี้ยังเต็มไปด้วยความไร้กังวล และไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 411 : อาวุโสฟงผิง"

3.7 232 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน
กรกฎาคม 6, 2023
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
มีนาคม 12, 2022
ตำนานเทพปีศาจอมตะ (Immortal Devil Transformation)
ตำนานเทพปีศาจอมตะ (Immortal Devil Transformation)
มีนาคม 12, 2022
Gate of God
Gate of God
พฤษภาคม 17, 2022
วิถีสู่สวรรค์
วิถีสู่สวรรค์
มีนาคม 12, 2022
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
มิถุนายน 26, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz