หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 286 : อสรพิษน้อยหายไป!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 286 : อสรพิษน้อยหายไป!
Prev
Next

บทที่ 286 : อสรพิษน้อยหายไป!

ต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่บนเวทีประลองเป็นตายนั้น ตอนนี้อารมณ์ที่พุ่งพล่านของเขา ก็ค่อยๆสงบลง

โทสะที่ทะลักล้นเกินขีดจำกัดของเขา ทุเลาลงเรื่อยๆ กระทั่งสงบลงเมื่อฮั่วซินและเหวียนหวู่ถูกเขาสังหาร

ผมยาวสลวยที่พลิ้วสะบัดแม้ไร้ลมเองก็เริ่มสงบลง ดวงตาแดงก่ำค่อยๆแปรเปลี่ยนกลับคืนสีเดิม  เครื่องแต่งกายศิษย์สายนอกที่กระพือขึ้นเมื่อครู่ก็กลับมาเรียบสงบไร้เรื่องราว

สายตาของต้วนหลิงเทียนเพียงเหลือบไปมองศพทั้ง 2 บนพื้นอย่างไม่แยแส ราวกับเขาได้ทำเรื่องไม่สลักสำคัญอะไร

ต้วนหลิงเทียนริบอาวุธวิญญาณระดับ 7 รวมถึงแหวนมิติของฮั่วซินและเฉวียนอู่ …เมื่อเสร็จสิ้น เขาก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะยามนี้ทุกสายตารอบๆเวทีประลองเป็นตายล้วนจับจ้องมาที่เขา  แต่จะอย่างไรเขาก็ก้าวลงจากเวทีประลองมาไม่คิดสนใจอะไร

"ต้วนหลิงเทียน!" ทันใดนั้นเองแก้วหูของต้วนหลิงเทียนพลันต้องสะเทือนขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงหนึ่ง

เสียงนี้ เป็นการควบแน่นพลังงานต้นกำเนิดบีบอัดเป็นเสียงออกมา!

ความสามารถนี้มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ตั้งแต่ขั้นที่ 7 ขึ้นไปเท่านั้นถึงสามารถกระทำได้

เมื่อเสียงถูกส่งผ่านด้วยวิธีนี้ จะมีเพียงเป้าหมายที่ต้องการเท่านั้นถึงจะได้ยิน

ต้วนหลิงเทียนไม่ได้หันไปมองอะไร เขาเพียงเดินต่ออย่างไม่ใส่ใจ จะอย่างไรเสียงนี้ก็ไม่พ้นจ้าวหลิน …

ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้มีอะไรต้องเสวนากับจ้าวหลิน เขาเลือกที่จะละเลยมัน…

ครู่หนึ่งพลังงานต้นกำเนิดที่ถูกบีบอัดมาเป็นเสียงก็ถูกส่งผ่านมาที่ต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง "ต้วนหลิงเทียน ส่งมอบวิธีบ่มเพาะพลังที่เจ้ากำลังบ่มเพาะมาให้ข้า …ข้าสามารถแลกเปลี่ยนมันกับของล้ำค่าที่เจ้าต้องการได้"

ร่างของต้วนหลิงเทียนรั้งลงเล็กน้อย ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มดูถูกเหยียดหยามออกมา

แค่ดูก็รู้ว่าจ้าวหลินนี่ มันพวกคิดไม่ซื่อ!

ที่แท้มันก็ต้องการวิชาบ่มเพาะของเขา

แน่นอนเขาย่อมรู้ว่ามันต้องการวิชาบ่มเพาะอะไร  …ไม่พ้นวิชาคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกที่เขาบอกกล่าวต่อมัน

อันที่จริงวิชาบ่มเพาะนี้เขาเอ็งก็ไม่ได้มีอยู่จริงๆ แค่เอาชื่อมาจากหนังของประเทศโบราณเท่านั้น

มันเป็นแค่เรื่องเหลวไหลที่เขาแต่งขึ้นมาหลอกมัน!

สายตาของต้วนหลิงเทียนหันไปทางหนึ่ง เขาจับจ้องไปยังไกลๆ เห็นได้ชัดว่าเลยเหล่าผู้ชมไปไกลๆ มีร่างจ้าวหลินกำลังจับจ้องมาทางเขาตาเขม็ง

มุมปากต้วนหลิงเทียนเพียงแสยะยิ้มให้มัน พร้อมมองมันด้วยสายตาไร้เรื่องราว แล้วเขาก็เดินออกจากเวทีประลองเป็นตาย

ทุกก้าวที่ต้วนหลิงเทียนเดินออกไป เหล่าศิษย์ที่อยู่ในเส้นทางของเขา ล้วนหลบออกเปิดทางสายหนึ่งให้เขาเดินสะดวก

"ต้วนหลิงเทียนเจ้าช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก!"

"ใช่ๆ เจ้าทำได้อย่างไรกันรึ ถึงบรรลุระดับนี้ได้ ดูไปแล้วเจ้าเองก็มีอายุราวๆ 20 ปีเท่านั้น ใยแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เล่า"

"ต้วนหลงเทียน พวกเรามาเป็นสหายกัน ดีหรือไม่?"

…

ทุกก้าวที่ต้วนหลิงเทียนเดินผ่านไป เหล่าศิษย์ล้วนพยายามส่งเสียงกล่าวคำวุ่นวาย ทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะอิจฉาความสามารถของต้วนหลิงเทียน

ทว่าท่าทางของต้วนหลิงเทียนก็แลดูสงบมั่นคงดั่งเขาไท่ซาน ไม่คิดจะแยแสอะไร เขาเพียงเดินมุ่งตรงไปข้างหน้าเพื่อออกจากเวทีประลองแห่งนี้เท่านั้น

"ต้วนหลิงเทียน!" ใบหน้าของจ้าวหลินต่ำลงเล็กน้อย… รอยยิ้มแสยะ และสายตาไม่แยแสเมื่อครู่ เป็นต้วนหลิงเทียนส่งให้เขาเพื่อเป็นการปฏิเสธไม่ผิดแน่!

จ้าวหลินกำมือขึ้นพร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงน่ากลัว "ต้วนหลิงเทียน ข้าผู้นี้อยากได้อะไร ก็ต้องได้!"

เมื่อต้วนหลิงเทียนจากไป เหล่าศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนก็สลายตัว

แต่ถึงแม้พวกมันจะสลายตัวจากไป ทว่าบทสนทนายังคงมีอยู่ เนื่องเพราะพวกมันทั้งหมดยังไม่หายตกใจในความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน

ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ในวัยราวๆ 20 ซ้ำยังใช้เพียงอาวุธวิญญาณระดับ 8 เพื่อสังหารศิษย์สายนอกระดับเดียวกันที่ถืออาวุธระดับ 7 จำนวน 2 คน

ทั้งยังเป็นฆ่าพวกมันที่เข้ามาพร้อมๆกัน ในกระบี่เดียว

ความสำเร็จเช่นนี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องน่าตื่นตะลึง!

หลังจากที่ออกจากเวทีประลองเป็นตาย ต้วนหลิงเทียนก็เดินวกไปวนมา ในรูปแบบสลัดการติดตามก่อนที่จะกลับยอดเขา

เขากังวลว่าจ้าวหลินจะสะกดรอยตามเขามา

ถึงแม้จ้าวหลินจะเป็นอาวุโสของขุนเขาเทียนเฉวียน แต่ต้วนหลิงเทียนนั้นสามารถระบุได้ว่า จ้าวหลินผู้นี้สามารถกระทำได้ทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

และตอนนี้มันก็เล็งไปยังคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกที่เขาเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา! แน่นอนว่ามันคงไม่รามือจากเรื่องราวครั้งนี้ง่ายๆ

ดังนั้นเขาต้องระมัดระวังให้มากเข้าไว้ ไม่เผลอเปิดโอกาสอะไรให้มันลงมือ

ต้วนหลิงเทียนกระโดดลงไปยืนตามต้นไม้เฉียง ก่อนที่จะเดินเข้าถ้ำไป

"อ้าว เสี่ยวเฮยกับเสี่ยวไป๋ ไปไหนแล้ว?" ต้วนหลิงเทียนที่เข้ามาในถ้ำ ก็ต้องตกใจเมื่ออสรพิษน้อยทั้ง 2 ได้หายตัวไป  เมื่อไม่พบเจอเจ้าตัวน้อยทั้ง 2 ในใจต้วนหลิงเทียนก็กังวลและบังเกิดความเป็นห่วงขึ้นมาอย่างหนักหนา

"ถึงเสี่ยวเฮยกับเสี่ยวไป๋จะขี้เล่น แต่พวกมันก็ไม่เคยไปไหนโดยไม่บอกกล่าว … หรือมีอะไรเกิดขึ้นกัน?" ต้วนหลิงเทียนตอนนี้คิดได้ว่าตัวกังวลและฟุ้งซ่านวุ่นวาย  ก็ค่อยๆสงบอารมณ์ลง ยามนี้มีเพียงตั้งสติ ค่อยๆคิดเท่านั้นถึงจะรับมือเรื่องราวได้

"เป็นไปได้หรือไม่ที่มีผู้ใดมาที่นี่?" ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะกังวลใจ

ครู่ต่อมาเขาก็พยายามเดินหาร่องรอยตามถ้ำอย่างละเอียด

ในที่สุดเขาก็ยืนยันได้เรื่องหนึ่ง

นอกจากเขาแล้วยังไม่มีใครลงมาที่แห่งนี้เป็นคนที่ 2 …นอกจากนั้นเขาก็ยังพบเห็นร่องรอยเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 เลื้อยออกมานอกถ้ำ

กล่าวง่ายๆ เจา 2 ตัวนี่มันออกมากันเอง

"แล้วเสี่ยวเฮยกับเสี่ยวไป๋ จะไปไหนได้กัน?" ต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นว่าร่องรอยอสรพิษน้อยทั้ง 2 มาจบที่ไม้เอียง

เขาพลันกระโดดขึ้นไปหาร่องรอบบนยอดเขา ทว่ากลับไม่พบร่องรอยของพวกมันแม้แต่น้อย …

กล่าวได้ว่าพวกมันไม่ได้ขึ้นมายอดเขา

"หรือพวกมันจะเติบโตจนมีปีกงอกแล้วบินออกมากัน?" ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว ทว่าอีกความคิดต่อมาก็ทำให้ใจสั่นสะท้าน "หรือว่า … พวกมันเลื้อยตกต้นไม้เอียงนั่นไปแล้ว?"

ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความสงบเริ่มหายไป หัวใจของเขาพลันกระสับกระส่ายฟุ้งซ่านอีกครั้ง

ต้วนหลิงเทียนออกจากขุนเขาเทียนเฉวียน เมื่อมาถึงขุนเขาเทียนชู เขาก็เดินลงเขาออกจากนิกายกระบี่ 7 ดาวไป

เขาไม่ได้ไปที่ไหนไกล เขาไปเดินดูบริเวณตีนเขาของขุนเขาเทียนเฉวียน เพื่อยืนยันว่าอสรพิษทั้ง 2 นั้นตกลงมาหรือไม่ …

"หื้ม" ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็พบร่องรอยเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 บริเวณตีนเขาเทียนเฉวียน

เมื่อเขามองไปยังหน้าผาสูงชนเขาเห็นรอยยาว  2 สาย ที่น่าจะเป็นรอยจากการเลื้อยของเจ้าตัวน้อยทั้ง 2 ดิ่งลงมาจากด้านบน

กล่าวคือเจ้าตัวน้อยทั้ง 2 มันเลื้อยลงหน้าผามาง่ายๆเช่นนี้เลย…

"เจ้า 2 ตัวน้อยนั่นกล้าหาญนัก" ต้วนหลิงเทียนไปยืนมองร่องรอย ก่อนที่จะแหงนขึ้นไปมองยอดเขา ที่สูงเทียมเมฆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความเหน็บหนาวขึ้นมาในใจเล็กน้อย

"อา…แล้วเจ้า 2 ตัวน้อยมันไปที่ไหนกันล่ะเนี่ย" ต้วนหลิงเทียนเดินวนไปวนมารอบๆ อยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานเขาก็พบร่องรอยของเจ้าอสรพิษน้อย เขาก็แกะรอยเดินตามไปเรื่อยๆ  รู้ตัวอีกทีเขาก็เดินลึกเข้ามาในป่าซ้ำยังเป็นบริเวณที่มีร่องรอยสัตว์อสูรจำนวนมากอาศัยอยู่

ไม่นาน ร่องรอยของเจ้าตัวน้อยทั้ง 2 ก็หายไปกลางป่าลึก ไม่เหลืออะไรให้สืบสาวอีก

"เจ้าทั้ง 2 ตัวนี่มันมาทำอะไรที่นี่กัน หรือว่ามันหิว?" ต้วนหลิงเทียนส่ายหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มขมขื่นไปมา"เอาล่ะ จะอย่างไรข้าก็มาถึงที่นี่แล้ว ลองค้นหามันดูให้ทั่วๆก่อน ดูว่าจะเจอพวกมันไหม…ฮึ่ม ถ้าเจอล่ะก็ ต้องสั่งสอนให้รู้จักเชื่อฟังกันบ้างแล้ว!"

ต้วนหลิงเทียนนั้นทั้งกังวลทั้งโกรธที่เจ้า 2 ตัวน้อยออกมาไม่บอกกล่าว

ถึงแม้ว่าอสรพิษน้อยทั้ง 2 จะเป็นเพียงสัตว์อสูร แต่สำหรับเขาที่เลี้ยงมันมาตั้งแต่เกิดก็ไม่ต่างอะไรจากครอบครัว

เมื่อตอนนี้จู่ๆพวกมันก็มาหายตัวไปอย่างกะทันหัน  ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจเสีย เหมือนมีอะไรในชีวิตหายไป ความวิตกกังวลอย่างหนึ่งสุมอยู่เต็มอก เขาเองก็ไม่ค่อยคุ้นชินกับความรู้สึกเช่นนี้สักเท่าไร

ในระหว่างทางที่เขาติดตามรอยพวกมันเข้ามาในป่า ต้วนหลิงเทียนก็พบเจอสัตว์อสูรจำนวนไม่น้อย แต่เขาก็จัดการพวกมันจนหมดสิ้น

ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ค้นพบบางอย่าง

พลังสั่นสะเทือนของเขาไม่ได้ทรงพลังไปทุกอย่าง …

พลังสั่นสะเทือนของเขานั้นสามารถใช้ได้ผลกับฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งกว่าเขาไม่เกิน 10 ช้างแมมมอธโบราณเท่านั้น

เมื่อความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายมากเกินกว่าเขา 10 ช้างแมมมอธโบราณ พลังสั่นสะเทือนของเขาจะกลับกลายเป็นไร้ประโยชน์ทันที

ตัวอย่างก็ไม่ว่าจะแรดคชสาร หรือเสือดาวอำมหิต ที่เขาพบเจอในป่าแรกเริ่มก่อนหน้านี้กระทั่งศิษย์สายนอกทั้ง 2 คนที่อย่างฮั่วซินและเหวียนหวู่เขาพึ่งสังหารไป  …

แม้กำลังความแข็งแกร่งที่ต้วนหลิงเทียนใช้  ตอนจัดการกับพวกมันจะน้อยกว่า  แต่ก็ไม่ได้น้อยกว่า 10 ช้างแมมมอธโบราณ

มันยังอยู่ในขอบเขตของพลังสั่นสะเทือนที่ยังส่งผล

"กล่าวได้ว่าด้วยความแข็งแกร่ง 71 ช้างแมมมอธโบราณในตอนนี้ของข้า กับพลังสั่นสะเทือน ยังพอใช้ได้ผลกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 … แต่ไม่อาจทำอะไรผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 ได้แล้ว " ต้วนหลิงเทียนคิดในใจ และรีบทำความเข้าใจในเรื่องนี้

ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้จะมีความแข็งแกร่งอยู่ที่ 80 ช้างแมมมอธโบราณ กล่าวได้ว่ามีความต่างจากต้วนหลิงเทียนแค่ 9 ช้างแมมมอธโบราณ ทำให้ยังอยู่ในขอบเขตที่พลังสั่นสะเทือนยังส่งผลอยู่

‘อย่างไรก็ตามถ้าผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 ใช่อาวุธวิญญาณระดับ 7 แล้ว ความแข็งแกร่งมันจะเกินกว่าที่ข้าจะรับมือไหว ถึงแม้ข้าจะใช้อาวุธวิญญาณระดับ 7 ก็ตาม … ในแง่ใช้อาวุธจู่โจมปะทะกัน ข้าแพ้!’ ต้วนหลิงเทียนขบคิดเล็กน้อย

‘หากเกิดเรื่องราวปะทะกันกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดก่นแท้ขั้นที่ 6 ขึ้น ข้าคงไม่อาจใช้วิธีเดียวกันกับที่จัดการฮั่วซินและเหวียนหวู่ได้ … เพราะผลจากการขยายพลังของมันยามถืออาวุธวิญญาณระดับ 7 ในมือ จะมากเกินกว่าความแข็งแกร่งของข้ายามถืออาวุธระดับ 7 ในมือ เกิน 10 ช้างแมมมอธโบราณ’

‘ถ้าข้าต้องการเอาชนะพวกมัน ข้าต้องหาทางทำให้มันทิ้งอาวุธ หรือปลดอาวุธมัน ไม่ก็ต้องบังคับให้มันปะทะกับข้าด้วยมือเปล่า!’

ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 มีความแข็งแกร่ง 80 ช้างแมมอมธโบราณ หากใช้อาวุธระดับ 7 ความแข็งแกร่งสมควรอยู่เหนือ 100 ช้างแมมมอธโบราณขึ้นไป  …

ส่วนต้วนหลิงเทียนนั้น มีความแข็งแกร่งเพียง 71 ช้างแมมมอธโบราณ ถึงใช้อาวุธระดับ 7 แล้ว ก็ยังมีแค่เพียง 90 ช้างแมมมอธโบราณหรือเกินมาอีกนิดเท่านั้น!

ด้วยเหตุนี้ความแข็งแกร่งก็อาจจะต่างกันเกิน 10 ช้างแมมมอธโบราณ!

และนั่นมันเกิดขอบเขตที่พลังสั่นสะเทือนจะมีผล

‘ดูเหมือนหากข้าต้องปะทะกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 ที่มีอาวุธระดับ 7 ในมือ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆแล้วล่ะก็ เพื่อความปลอดภัยคงจำเป็นต้องใช้อาคมจารึกสินะ’ต้วนหลิงเทียนคิดในใจ

ในกรณีที่อีกฝ่ายมีระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 และถืออาวุธวิญญาณระดับ 7 หากเขาต้องการชนะ เขาก็สามารถใช้ชั้นเชิงยุทธ์ที่เหนือกว่าหลอกล่อและจู่โจมอย่างคาดไม่ถึง หรือทำให้อีกฝ่ายไม่อาจใช้อาวุธวิญญาณได้

แต่การทำเรื่องแบบนั้นมันก็อันตรายมาก

หากฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่ไก่อ่อน และไม่หลงกล ซ้ำยังมีสติรับมือการจู่โจมคาดไม่ถึงของเขาแล้วล่ะก็ เขาจะถูกบังคับให้อยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบทั้งพลังและความเร็ว ทำให้เขาอาจพ่ายแพ้หรือตายได้

‘บ่มเพาะ! … ข้าก็แค่ต้องบ่มเพาะพลังให้ก้าวหน้า เมื่อระดับบ่มเพาะของข้าเพิ่ม พลังสั่นสะเทือนก็จะเพิ่มพูนขึ้นด้วยเช่นกัน มันไม่ได้ถูกจำกัดพลังอำนาจอยู่แค่ 10 ช้างแมมมอธโบราณซะหน่อย’ ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ตัดสินใจจะทุ่มเทบ่มเพาะพลังให้มากขึ้นไปอีก

ต้วนหลิงเทียนค้นหาในป่าแรกเริ่มอยู่ทั้งวันทั้งคืนเขาก็ยังไม่พบร่องรอยของอสรพิษน้อยทั้ง 2 สุดท้ายเขาก็ต้องจำใจกลับบ้านถ้ำเปล่าอย่างช่วยไม่ได้

แต่เขาก็เชื่อมั่นว่าด้วยระดับของอสรพิษน้อยทั้ง 2 การที่พวกมันจะเอาตัวรอดในป่าแรกเริ่มนี่ ไม่น่าจะมีอันตรายใดๆ

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 286 : อสรพิษน้อยหายไป!"

3.7 227 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
มีนาคม 12, 2022
Dragon Kings Son-In-Law
Dragon Kings Son-In-Law
มีนาคม 12, 2022
davisam
จักรพรรดิเทพมรณะ
มกราคม 14, 2023
ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ราชันสามภพ
กรกฎาคม 6, 2023
The favored son of heaven
The favored son of heaven
มกราคม 31, 2024
ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ข้าจะเป็นราชาอมตะ
กรกฎาคม 22, 2023
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz