บทที่ 285 : หนึ่งกระบวนท่า
"พรสวรรค์ตามธรรมชาติที่น่าสะพรึงกลัวอะไรเช่นนี้!"
"ไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนผู้นั้น ที่ไม่ว่าจะแลดูอย่างไรก็ยังมีอายุราวๆ 20 ปีเท่านั้น แต่กลับเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4… สวรรค์ มองไปทั่วนิกายกระบี่ 7 ดาวเรา คนที่มีพรสวรรค์มหึมาขนาดนี้หามีผู้ใดไม่!!"
"เหลือเชื่อ!"
…
ผู้คนรอบๆ เวทีประลองเป็นตายล้วนกล่าวออกมาอย่างตกตะลึงถ้วนหน้า
ศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนตกตะลึงกับระดับบ่มเพาะของต้วนหลิงเทียนอย่างแท้จริง
ไม่รู้ว่าพวกมันจะมีท่าทีอย่างไรหากรู้ว่า ต้วนหลิงเทียนยังคงออมมือไว้อยู่ …
เพราะถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะไม่ได้ใช้อาวุธวิญญาณ เขาก็สามารถใช้ออกได้ด้วยความแข็งแกร่ง 71 ช้างแมมมอธโบราณ ซึ่งนั่นกล่าวได้ว่าทัดเทียมกับระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 5
เช่นเดียวกับในป่าแรกเริ่ม ที่เขาลงมือเต็มกำลัง
ตอนนี้เขาตั้งใจเปิดเผยความแข็งแกร่งเพียง 60 ช้างแมมมอธโบราณ อันเป็นระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 เท่านั้น
สำหรับตวนหลิงเทียนลงมือกับฮั่วซินและเหวียนหวู่ เขาใช้กำลังแค่นี้ก็พอแล้ว
"ดูเหมือนวิชาบ่มเพาะของต้วนหลิงเทียนนี้ จะมีเอกลักษณ์นัก …กระทั่งการกำเนิดร่างใหม่ และเพิ่มพูนพรสวรรค์ตามธรรมชาติ ก็มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้ว" เปลวเพลิงแห่งความความละโมบลุกโชนแผดเผาอยู่ในแววตาจ้าวหลิน
ถึงแม้ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนจะงำประกายเอาไว้ ทว่าแค่นี้ก็เพียงพอที่จะดึงดูดความโลภในใจจ้าวหลินแล้ว
"จะอย่างไรก็ตาม แม้ต้วนหลิงเทียนจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 แต่ความแข็งแกร่งที่ใช้เพียงอาวุธวิญญาณระดับ 8 ก็ยังเป็นอะไรที่อ่อนแอกว่าฮั่วซินและเหวียนหวู่ ข้าหวังว่าคัมภีร์วิชาบ่มเพาะนั่นจักอยู่ในแหวนมิติของมัน …หากไม่ ก็ย่ำแย่แล้ว!" เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา จ้าวหลินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย ตามกฎของนิกายกระบี่ 7 ดาว การประลองเป็นตายไม่มีผู้ใดสามารถแทรกแซงขัดขวางได้
ถึงแม้ว่าตัวมันจะเป็นผู้อาวุโสของศิษย์สายนอกประจำขุนเขาเทียนเฉวียน มันก็ไม่กล้าไปแทรกการประลองเป็นตาย ต่อหน้าผู้คนมากมายที่ชมดูอยู่
เห็นได้ชัดว่าจ้าวหลินไม่ได้มองในแง่ดี… ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะเปิดเผยระดับบ่มเพาะออกมาแล้วก็ตาม
"ต้วนหลิงเทียน!" บนเวทีประลองเป็นตาย ฮั่วซินระงับสายตาแตกตื่นก่อนที่จะมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาจริงจัง "ข้ามิคิดเลยว่าเจ้าจักงำประกายเอาไว้ได้มิดชิดนัก …แท้จริงแล้วเจ้ากลับเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4! เหอะ! แต่จะอย่างไรวันนี้ เจ้าเป็นคนตาย!"
พรสวรรค์ของต้วนหลงิเทียนนั้นทำให้ฮั่วซินรู้สึกหวาดกลัว
ตอนนี้มันรู้สึกดีใจเล็กน้อย โชคดีที่ต้วนหลิงเทียนขึ้นเวทีประลองเป็นตายมาวันนี้ เพราะด้วยพรสวรรค์ของต้วนหลิงเทียนแล้ว เกรงว่าอีกไม่นานการเอาชนะตัวมันก็คงง่ายดายแล้ว
หากเวลานั้นมาถึงคนที่ต้องประสบหายนะแน่นอนว่าต้องเป็นมัน
ไม่ใช่แค่เพียงฮั่วซินที่ยินดี เหวียนหวู่ก็ยินดีไม่แพ้กัน สองตาของมันจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนอย่างชั่วร้าย
มันรู้ว่าหากต้วนหลิงเทียนไม่ตายในวันนี้ ชีวิตมันคงไม่เหลือคืนวันดีงามอะไรสืบไป "ต้วนหลิงเทียนเจ้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 แล้วมันจักอย่างไร? วันนี้เจ้าต้องตาย!"
แม้ต้วนหลิงเทียนจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับเดียวกับมัน แต่จะอย่างไรอาวุธที่ใช้ยังเป็นเพียงอาวุธวิญญาณระดับ 8 เท่านั้น เหวียนหวู่คิดว่าต้วนหลิงเทียนยังไม่เป็นปัญหาอะไร
ซ้ำตอนนี้มันยังเผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียนพร้อมกับฮั่วซิน นั่นทำให้มันรู้สึกมั่นใจอย่างยิ่ง ไม่มีความลังเลใดๆ ในการฆ่าต้วนหลิงเทียน!
"ข้าได้กล่าวไปแล้ว …ว่าฆ่าพวกเจ้า อาศัยเพียง 1 กระบวนท่า!!" ผมที่ยาวของต้วนหลิงเทียนปลิวสยายโดยไร้ลม ดวงตาแดงก่ำเปล่งประกายเย็นชาน่าหวาดหวั่นยามมองฮั่วซินและเหวียนหวู่
ตอนนี้ในสายตาเขาไร้ซึ้งสิ่งใด…มีเพียงเป้าหมายทั้ง 2
เขาคือผู้ล่า
ฮั่วซินและเหวียนหวู่เป็นเพียงเหยื่อของเขา
"ยังกล้ากล่าววาจาเขื่องโขไร้สาระ!" ฮั่วซินตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนที่ร่างของมันจะสั่นสะท้าน พลังงานต้นกำเนิดแผ่ซ่านปะทุออกมา ก่อนที่จะระเบิดออกที่เท้า ส่งร่างพุ่งทะยานไปด้วยความเร็วสูงราวกับดาบแหลมคมเล่มหนึ่งทิ่มแทงมายังต้วนหลิงเทียน
"ฮึ่ม!" แทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่ฮั่วซินลงมือ เหวียนหวู่ก็สลับเท้าพุ่งร่างออกมาเช่นกัน
กระบี่ระดับ 7 ในมือสั่นไหวเปล่งประกายวูบวาบ แลไปคล้ายอสรพิษ พุ่งไปที่ต้วนหลิงเทียนเช่นกัน
และทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนพลันลงมือ
วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!
ต้วนหลิงเทียนไม่กลัวแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับฮั่วซินและเหวียนหวู่ ที่ลงมือพร้อมกัน เขาเลือกที่จะพุ่งร่างสวนออกไปด้วยโทสะอันเกรี้ยวกราด พลังงานต้นกำเนิดถูถ่ายทอดไปยังกระบี่วิญญาณระดับ 8 ของเขา
พลังงานต้นกำเนิดเริ่มสั่นสะเทือนเบาๆ และความถี่ของมันก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ …
เรื่องนี้ไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นได้
รอบเวทีประลองเป็นตายพลันเงียบกริบ ทุกคนใจจดจ่อกับการเคลื่อนไหวของทั้ง 3 ที่กำลังคิดหักหาญเอาชีวิตกันและกัน
พริบตาทั้ง 3 ก็ปะทะกัน!
"ตาย!" สีหน้าของฮั่วซินและเหงียนหวู่ เผยความบ้าคลั่งออกมา เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนกล้าพุ่งออกมาปะทะกับพวกมัน กระบี่วิญญาณระดับ 7 ในมือของพวกมัน พลันสะบัดวูบวาบเผยเงากระบี่มากมายพร่างพราวทั่วผืนฟ้า ก่อนที่เงากระบี่ทั้งหมดจะพุ่งใส่ร่างต้วนหลิงเทียน
มุมปากของต้วนหลิงเทียน กระตุกขึ้นเล็กน้อย เมื่อเผชิญหน้ากับเงากระบี่มากมายที่ถาโถมเข้ามา… เงากระบี่นี้นอกจาก กระบี่จริงเพียง 2 เล่มแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นเพียงเงาลวงทั้งสิ้น นับว่ายากที่จะค้นหากระบี่จริงไม่น้อย
ทว่าต้วนหลิงเทียนพลันแสยะยิ้มราวกับปีศาจออกมา
และในตอนนี้เองฮั่วซิน,เหวียนหวู่ รวมถึงผู้ชมโดยรอบก็ได้สังเกตเห็นรอยยิ้มแสยะราวปีศาจของต้วนหลิงเทียน…
มันเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจนัก ว่าเหตุใดต้วนหลิงเทียนถึงยิ้มแย้มออกมาในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้?
เรื่องนี้มันประหลาด!
และในขณะที่มุมปากของต้วนหลิงเทียนเผยยิ้มแสยะนั้น ประกายตาแดงฉานของเขาพลันเรืองวูบออกมา กระบี่ระดับ 8 ในมือสั่นสะท้านเบาๆ ราวกับว่ามันกำลังแปรเปลี่ยนเป็นมังกรโผล่พ้นผิวน้ำไปเริงร่าท่องทะยานในอากาศ
และเมื่อพลังงานต้นกำเนิดสั่นสะเทือนถึงขีดสุด ก็บังเกิดระลอกคลื่นแผ่ซ่านกระจายตัวออกไปในอากาศ
วิชาวาดกระบี่!
กระบี่ของต้วนหลิงเทียนพลันวาดออก อย่างไร้ความซับซ้อน และหามีแม้เพียงเศษเสี้ยวของความลังเล
หากกล่าวง่ายๆกระบี่นี้เพียงฟันเฉียงจากซ้ายไปขวาอย่างธรรมดาสามัญ!
ทว่ามันฟาดฟันออกไปด้วยความเร็วประดุจสายฟ้า!
ฟุ่บ!
ประกายกระบี่เรืองวูบออกมา อย่างแม่นยำมันเป็นกระบี่ระดับ 7 ในมือของเหวียนหวู่ที่กำลังเรืองรองออกมา
ตอนนี้กระบี่ของเหวียนหวู่กำลังห้อมล้อมเข้ามาใกล้ร่างต้วนหลิงเทียนจากทุกทิศทาง
ทว่ากระบี่ที่ฟาดฟันออกมาอย่างฉับไวของต้วนหลิงเทียนนั้น กลับฟาดสะบัดลงไปยังกระบี่เล่มที่แท้จริงกลางเงาลวงกระบี่นับ 10 ได้อย่างอัศจรรย์ …
เคร๊ง!
กระบี่วิญญาณระดับ 8 ปะทะกับกระบี่วิญญาณระดับ 7 ดังสนั่น
ทันใดนั้นประกายตาของต้วนหลิงเทียนก็เรืองวูบขึ้นมา
พลังสั่นสะเทือน!
ร้อยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของเหวียนหวู่ที่ปรากฏในพริบตาที่ต้วนหลิงเทียนปะทะหักหาญฟาดกระบี่ยันกับเขาด้วยกำลัง พลันแข็งค้างสลายหายไป และเริ่มเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวที่ฉายชัดออกมาในแววตา
แล้ว…ความรู้สึกใดๆทั้งมวลของเหวียนหวู่ก็ต้องสิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านี้…
กระบี่วิญญาณระดับ 8 ของต้วนหลิงเทียนที่เคลือบไปด้วยพลังสั่นสะเทือน มันปัดกระบี่วิญญาณในมือเหวียนหวู่จนหลุดกระเด็น…
มือที่กุมกระบี่ของเหวียนหวู่เองก็เผยให้เห็นโลหิตที่หลั่งไหลทะลักออกมา ทว่ามันไม่ทันได้รู้สึกเจ็บปวด
ฉัวะ!
ประกายกระบี่พลันถลันวูบฟาดต่อมา โดยไม่ได้หยุดยั้ง มันลากเส้นตรงเส้นหนึ่งพ้นผ่านลำคอเหวียนหวู่ไป
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา!
และในขณะที่ทุกคนยังไม่ตอบสนองอันใดได้ทัน กระบี่ที่วาดผ่านลำคอเหวียนหวู่ของต้วนหลิงเทียน ยังลากไปจนถึงกระบี่อีกเล่มหนึ่งที่กำลังฟันลงมาจากทางด้านขวา ห่างจากร่างเขาไม่เท่าไร
แน่นอนว่าเจ้าของกระบี่นี้คือฮั่วซิน
ฮั่วซินยังไม่มีแม้กระทั่งโอกาสจะได้รู้เรื่องราวอะไร มันก็เห็นกระบี่ของต้วนหลิงเทียนฟุ่งมาอย่างฉับไว ฟาดปะทะไปยังกระบี่ในมือมันเสียแล้ว
และในพริบตานั้นมันก็สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนมหาศาลที่ส่งผ่านกระบี่ระดับ 7 ของมันมาจนกระดูกมือของมันเริ่มลั่นสะท้าน
มันไม่กล้าลังเลรีบปล่อยมือที่ถือกระบี่ไว้ทันที!
เพราะมันรับรู้ว่าหากยังดื้อรั้นไม่ทิ้งกระบี่ มิแคล้วกระดูกแขนรวมทั้งอาจจะลามไปยังกระดูกทั่วร่างของมัน ต้องถูกพลังสั่นสะเทือนลึกลับนั่นป่นปี้จนแหลกเป็นเสี่ยงๆ …
และเมื่อมันปล่อยมือ มันก็สัมผัสได้ถึงโลหิตอุ่นๆที่ฉีดพุ่งออกมาทั่วฝ่ามือ แต่ทว่าทันใดนั้นเอง
"ไม่!" ในห้วงคิดของฮั่วซินนั้น เวลาของมันคล้ายจักหยุดเดิน เพราะยามนี้มันเห็นประกายกระบี่ที่กำลังลากผ่านมายังลำคอของมัน…เป็นหนึ่งกระบี่ ที่ลากมาเป็นเส้นตรง ทั้งๆที่ปัดกระบี่ของมันออกไปแล้ว แต่ความเร็วกลับไม่ตกลงเลยสักนิด
เสมือนมีผู้ใดบีบเค้นลำคออย่างรุนแรง จนเสียงสำเนียงไม่อาจเปล่งออกมา แม้มันอยากกู่ร้องตะโกนแค่ไหนก็ไม่อาจทำอะไรได้ …
พริบตาต่อมามันก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นยะเยือกบริเวณลำคอ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับลง
ในห้วงสติชั่วพริบตาก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลงนั้น มันมีเพียง 1 ห้วงคิดเท่านั้น
ต้วนหลิงเทียนมันใช้พลังมารอันใดกันแน่เมื่อครู่…
กระบี่วิญญาณระดับ 8 ในมือของต้วนหลิงเทียนกระพริบเล็กน้อยก่อนที่จะหายไปในอากาศ เป็นเขาที่เก็บมันลงแหวนมิติไป เพราะทุกอย่างจบลงแล้ว
…ทั้งหมดตั้งแต่ต้วนหลิงเทียนเริ่มเคลื่อนไหว ผ่านไปยังถึง 5 ลมหายใจด้วยซ้ำ
ตอนนี้ศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนที่มีความแข็งแกร่งไม่มากพอ ก็เห็นเพียงต้วนหลิงเทียนฟาดกระบี่วูบเดียว ก่อนที่จะเก็บกลับไป คงเหลือไว้เพียงรอยแดงบนลำคอของฮั่วซินและเหวียนหวู่
ส่วนศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนที่แข็งแกร่งขึ้นมาหน่อยก็เห็นได้ชัดเจนว่า กระบี่ของต้วนหลิงเทียนนั้น ลากผ่านกระบี่เหวียนหวู่เลยไปถึงลำคอ กระทั่งลากผ่านกระบี่ฮั่วซินและปาดไปที่คอมันเช่นกัน
เพียงแค่คิดว่ากระบี่นี้ว่องไวและรุนแรงเพียงไหน ก็นับเป็นเรื่องที่พวกมันต้องตกตะลึงพรึงเพริดแล้ว เพราะอะไรผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 และใช้เพียงอาวุธวิญญาณระดับ 8 ถึงบรรลุขีดขั้นความว่องไวได้ถึงระดับนี้
"เรื่องเช่นนี้เป็นไปได้ด้วยหรือ?" ม่านตาของจ้าวหลินหดแคบลง แววตาฉายชัดออกมาถึงความไม่อยากจะเชื่อหลังจากมองเรื่องราวตรงหน้า
ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ แน่นอนว่ามันต้องเห็นวิถีกระบี่ของต้วนหลิงเทียน ที่วาดออกจู่โจมเมื่อครู่อย่างชัดเจน
“กระบี่ที่ว่องไวนัก …นี่มันวิชากระบี่เลิศล้ำอะไรกันแน่ ถึงได้รวดเร็วฉับไวสุดขีด ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 มีวิชาเช่นนี้ได้อย่างไร ซ้ำมันยังใช้ความแข็งแกร่งเพียง 72 ช้างแมมมอธโบราณ กำราบฮั่วซินและเหวียนหวู่ ที่มีความแข็งแกร่ง 76 ช้างแมมมอธโบราณได้อีก กระทั่งฟาดปัดกระบี่พวกมันปลิดปลิวได้ง่ายดายตรงๆเช่นนี้!" ลมหายใจของจ้าวหลินยิ่งมายิ่งหอบถี่ ใจของมันเต้นสั่นระรัว ดวงตาเปล่งประกายความโลภออกมาอย่างแรงกล้า "ดูเหมือนกระบวนท่านั่น ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับวิชาบ่มเพาะ คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นชำระไขกระดูกเป็นแน่!"
ตุบ! ตุบ!
บนเวทีประลองเป็นตาย เสียงร่างไร้วิญญาณของฮั่วซินและเหวียนหวู่ ที่ล้มลงไปนอนกองบนพื้นพลันดังขึ้น
เมื่อสองเสียงนี้ดังเข้าหูเหล่าศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนที่อยู่รอบๆเวทีประลอง พวกมันก็เสมือนถูกธูปจี้ให้สะดุ้งตื่นจากฝัน กลับคืนมามีสติจากอาการเหม่อลอย และตอนนี้ใบหน้าของพวกมันก็ฉายชัดออกมาถึงความตื่นตะลึง
หลังจากนั้นความวุ่นวายก็บังเกิดขึ้นตามคาด
"โอ้สวรรค์ ต้วนหลิงเทียบนกลับสังหารศิษย์พี่ฮั่วซินและศิษย์พี่เหวียนหวู่ได้จริงๆ!"
"เขาใช้เพียงกระบี่ระดับ 8 เท่านั้น …ซ้ำยังใช้เพียงกำลัง 72 ช้างแมมมอธโบราณเท่านั้น … แต่ศิษย์พี่ฮั่วซินกับศิษย์พี่เหวียนหวู่ ไม่ว่าคนใดก็มีความแข็งแกร่ง 76 ช้างแมมมอธโบราณ… แล้วนี่ต้วนหลิงเทียนเขาใช้วิธีผีสางอันใดกัน? "
"นี่มันเป็นเรื่องเหนือคาดอย่างแท้จริง!"
"เป็นไปได้หรือไม่ ว่าวิชากระบี่ที่เขาใช้ จักเป็นวิชากระบี่ระดับ ปฐพี?"
"วิชากระบี่ระดับปฐพี? เจ้าคิดว่ามันเป็นไปได้หรือไร? ยังจักมีผู้ใดไม่ล่วงรู้อีกบ้าง ว่าวิชาระดับปฐพี เป็นเพียงวิชาที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติที่เข้าใจในเรื่องของพลังแล้วถึงจักฝึกฝนได้… ? แล้วนี่เขายังเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ เขายังจะฝึกวิชาระดับปฐพีอะไรได้อีกหรือ? "
"ศิษย์พี่ฮั่วซิน กับศิษย์พี่เหวียนหวู่ ก็บรรลุเพลงกระบี่ระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง ซ้ำยังมีความสำเร็จในขั้นตอนแก่นแท้ …แต่กระนั้นทั้งคู่ยังต้องตกตายลงด้วยกระบี่เดียวของต้วนหลิงเทียน ซ้ำเขายังมีความแข็งแกร่งเพียง 72 ช้างแมมมอธโบราณเท่านั้น… เรื่องนี้ ข้าเกรงว่า คงมีเพียงผู้ลงมือเองอย่างเขาเท่านั้นที่รู้ "
…
ยามนี้ทุกสายตาของเหล่าศิษย์ที่มาชมดูเรื่องราวรอบๆ เวทีประลองเป็นตาย ล้วนมีเพียงความเคารพนับถือ และยอมรับบุรุษผู้ยืนอยู่เพียงลำพังบนเวทีประลองเป็นตาย
แต่แน่นอนว่าในความเคารพนับถือและยอมรับนั้น ก็ต้องแลกไปด้วยความรู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้าไม่น้อย …
เพราะก่อนหน้านี้พวกมันยังบังเกิดความรู้สึกขบขันในคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน และคำๆนั้น ตอนนี้ก็ได้กลับมาดังก้องวนเวียนอยู่ในหูของพวกมัน
"พวกเจ้าจักตกตาย ใน 1 กระบวนท่า!" …คำๆนี้ที่ไม่มีผู้ใดคิดเชื่อ
แต่ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนได้พิสูจน์แล้วว่าคำกล่าวนี้ของเขา หาได้กล่าวออกมาเรื่อยเปื่อยเหลวไหลไม่..
