สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 284 : บนเวทีประลองเป็นตาย
บทที่ 284 : บนเวทีประลองเป็นตาย
นิกายกระบี่ 7 ดาวนี้ มีเวทีประลองเป็นตายทั้งสิ้นรวม 7 เวที
แต่ละขุนเขาเอง ย่อมมีเวทีประลองเป็นตายอยู่ แน่นอนว่าขุนเขาเทียนเฉวียนเองก็มีเช่นกัน
เวทีประลองเป็นตายของขุนเขาเทียนเฉวียนนั้น ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของขุนเขา
พื้นที่บริเวณนี้ปูด้วยหินแกร่ง ยกระดับ ตัวเวทีปูสูงขึ้นมาเล็กน้อยด้วยอิฐ รอบๆเว้นระยะห่างไว้พอสมควร มีเก้าอี้ไว้สำหรับผู้ที่ชมดูเรียงรายล้อมรอบเวที
เนื่องจากอิฐที่ใช้ทำเวทีเป็นสีแดงฉานดั่งโลหิต หากมองผ่านๆ กลับทำให้บังเกิดความรู้สึกน่าหวาดหวั่นประการหนึ่ง…
ปกติแล้วบริเวณเวทีประลองเป็นตายนี้ จะเงียบเหงาเปลี่ยวร้างไร้ผู้คน
ทว่าวันนี้กลับมีผู้คนเนืองแน่นและเต็มไปด้วยความคึกคัก
เพราะวันนี้มีผู้คนกำลังจะขึ้นไปตัดสินกันบนเวทีประลองเป็นตาย มันเป็นการประลองถึงแก่ชีวิต ที่จะไม่มีวันเลิกราจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะพินาศสิ้น!
"รีบไปเร็วเข้า เดี๋ยวจะมิทันได้ชมดู"
"ไอ้หยา! ข้าเองก็อยู่ขุนเขาเทียนเฉวียนมาได้ 2 ปีแล้ว แต่มิเคยได้พบพานผู้ใดใช้เวทีประลองเป็นตายนี่สักครั้ง นี่นับเป็นครั้งแรกของข้า! ที่ได้ยินว่าจะมีผู้คนขึ้นไปฆ่าฟันกันเช่นนี้! ข้าคนนึงล่ะที่ไม่ยอมพลาดเด็ดขาด! "
"มิผิด เวทีประลองเป็นตายของขุนเขาเทียนเฉวียนเรามิได้มีโลหิตไหลชโลมหลั่งรินนานแล้ว"
…
ไม่ว่าศิษย์ขุนเขาเทียนเฉวียนกำลังทำอะไร หรือวุ่นวายแค่ไหนอยู่ เมื่อพวกมันได้ยินเรื่องนี้ ทั้งหมดล้วนวางมือละทิ้งสิ่งที่ทำ แล้วรีบมุ่งหน้ารุดมาดูชมทั้งสิ้น
เวทีประลองเป็นตายนี้กล่าวไปก็มีทำเลดีนัก มันตั้งอยู่ตอนกลางของขุนเขา พื้นที่เองก็กว้างใหญ่รองรับผู้คนได้มากมาย
ตอนนี้รอบๆ เวทีประลองเป็นตายเต็มไปด้วยเหล่าศิษย์…ที่แทบจะเกือบทั้งหมดของขุนเขาเทียนเฉวียน!
ทุกสายตาของศิษย์ขุนเขาเทียนเฉวียน ล้วนจับจ้องไปยังกลางเวที …
"เอ๊ะ! เหตุใดบนเวทีจึงมีผู้คนอยู่ 3 คนเล่า?" บางคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เมื่อมาถึงและเห็นจำนวนคนบนเวที…
ครู่ต่อมาก็มีผู้คนที่อยู่ข้างๆ คอยบอกกล่าวถึงเรื่องราวความเป็นมา และในที่สุดพวกมันก็เข้าใจได้… ซ้ำหัวใจของพวกมันยังบังเกิดความตื่นตระหนกไม่น้อย…
ดวงตาทุกคู่ของทั้งหมด ล้วนจับจ้องไปยัง ร่างชายหนุ่มที่อายุราวๆ 20 ปี …หลายคนรู้สึกว่าหนังศีรษะของมันชาด้าน …
ชายหนุ่มคนนี้หรือคือต้วนหลิงเทียน ศิษย์สายนอกที่พึ่งเข้าร่วมนิกายกระบี่ 7 ดาวมาหมาดๆ?
ต้วนหลิงเทียนผู้นี้หรือ ที่หาญกล้าต่อกรกับศิษย์พี่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 พร้อมกัน 2 คนบนเวทีประลองเป็นตาย?
"อายุยังมีเพียงราวๆ 20 ปีเท่านั้น … ถึงแม้มันจักมีพรสวรรค์และศักยภาพเลิศล้ำสักเพียงใด แต่มิแคล้วคงมีระดับบ่มเพาะแค่กำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 2 หากจะมากกว่านี้เห็นทีคงเป็นไปมิได้”
"มิผิด นับว่ามันกล้าหาญยิ่งนัก ที่ขึ้นไปประลองบนเวทีประลองเป็นตายเช่นนี้ พร้อมกับอีกฝ่ายถึง 2 คน ซ้ำทั้งคู่ยังมีระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 อีก … ข้าว่านี่มันเป็นการรนหาที่ตายแล้ว!"
"ชายหนุ่มนี่ใช่ยโสโอหังเกินไปหรือไม่?"
…
บนสนทนาคล้ายๆกันนี้ดังขึ้นรอบๆ เวทีประลองเป็นตาย
บนเวทีประลองเป็นตาย…
ต้วนหลิงเทียนยืนสงบนิ่งมั่นคง ไร้การเคลื่อนไหวใดๆ
ถึงแม้นว่าสภาพแวดล้อมจะอึกทึกวุ่นวาย ทว่าร่างของเขายังคงตั้งตระหง่าน สองตาจับจ้องไปยังเหวียนหวู่และฮั่วซิน ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
"ต้วนหลิงเทียน วันนี้ข้ากับเหวียนหวู่ จะร่วมกันส่งเจ้าลงนรกให้เอง… พวกเราจักใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น เพื่อเป็นการตอบแทนเจ้าที่ให้โอกาสนี้ …พวกเราจักมีเมตตาต่อเจ้า และสงเคราะห์เจ้าให้ตกตายโดยไร้ความทรมาน " ฮั่วซินมองไปยังต้วนหลิงเทียนพร้อมเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา "อย่าได้กังวล เจ้าจักมิทันเจ็บปวดอันใด …เพราะเจ้าจักตกตายในพริบตา"
ตาของเหวียนหวู่เองก็จับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนพร้อมทอประกายเรืองวูบออกมา "ต้วนหลิงเทียน ยามนี้ใช่เจ้ากำลังเสียใจอย่างยิ่งแล้วหรือไม่? เจ้ากล้าหยามหน้าพวกเราเพียงเพราะหนูขนทองแค่ตัวเดียว ตอนนี้รู้สึกอย่างไรเล่า ที่เจ้ากำลังจักตกตายด้วยน้ำมือพวกเรา?…น่าเสียดายนักที่ศิษย์พี่ฟ่านมิได้อยู่ที่นี้ หาไม่แล้วเขาคงสนใจเรื่องราวในวันนี้นัก "
มุมปากของต้วนหลิงเทียนเพียงขดตัวเล็กน้อยเท่านั้น ดูไม่จะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม
เสียใจ?
บางทีเขาอาจจะมีสิ่งที่ต้องเสียใจ แต่มันไม่ใช่เรื่องนี้แน่ๆ
และถึงแม้ศิษย์สายในคนนั้นจะอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่คิดเสียใจอะไร
"ฮ่าๆ… ต้วนหลิงเทียนเจ้าได้ยินเสียงกล่าวคำสนทนาของศิษย์รอบๆหรือไม่… พวกมันล้วนบอกว่าเจ้าประเมินตนเองสูงเกินไป และบอกว่าเจ้ากำลังรนหาที่ตายทั้งสิ้น …อันที่จริงข้าเองก็มิรู้ว่าเจ้าไปเอาความกล้า ที่คิดให้พวกเราสองคนขึ้นมาบนเวทีประลองเป็นตายกับเจ้าเพียงลำพังมาแต่ที่ใด!” ฮั่วซินหัวเราะออกมาดังก้อง มันกวาดมองไปยังรอบๆเวทีประลองเป็นตายด้วยความหยิ่งผยอง
"ข้าเองก็ได้ยินคำกล่าวของฮั่วซิน ที่เจ้าได้นำสตรีที่งดงามไร้ผู้ใดเทียบเทียมเข้าร่วมนิกายกระบี่ 7 ดาวของเราเช่นกัน … เจ้าอย่าได้กังวล เมื่อเจ้าตกตายพวกเราจักดูแลพวกนางอย่างดี ฮ่าๆๆ … "เมื่อเหวียนหวู่กล่าวจบก็หัวเราะร่าออกมา ราวกับมันมองเห็นภาพตอนจบของเรื่องราวอย่างไรอย่างนั้น
ทันใดนั้นเองท่าทางของต้วนหลิงเทียนพลันเปลี่ยนไป!
มังกรทุกตัวล้วนมีเกล็ดย้อนทั้งสิ้น!
เกล็ดย้อนต้วนหลิงเทียน แน่นอนว่าย่อมเป็นสตรีทั้ง 2 …
เหวียนหวู่มันกล้าคิดอุบาทว์กับสตรีของเขา!
"เหวียนหวู่!" ต้วนหลิงเทียนย่างสามขุมไปด้านหน้าพร้อมความคิดฆ่าฟันที่พุ่งทะลวงชั้นฟ้า ในแววตาราวกับมีปีศาจแดงฉาน …
ต้วนหลิงเทียนโกรธแล้ว!
โกรธอย่างแท้จริง!
ทั่วทั้งร่างเริ่มแผ่กลิ่นอายฆ่าฟันออกมา ราวกับเขากลับกลายเป็นอสูรกระหายโลหิตที่ผุดออกมาจากโลกันต์นรก
ชุดเครื่องแต่งกายเริ่มปลิวไสวแม้จะไม่มีแรงลมคอยช่วยเหลือ
"อะไร! เจ้าโกรธงั้นรึ?" เหวียนหวู่ที่สังเกตเห็นท่าทางของต้วนหลิงเทียน ก็เริ่มมีรอยยิ้มปรากฏออกมา มันหันไปกล่าวคำกับฮั่วซิน "ฮั่วซิน ในบรรดาสตรีของมัน 2 คน ข้าชอบคนที่มีรูปร่างยั่วยวนนางนั้น … หวังว่าเจ้าคงไม่คิดแย่งชิงกับข้าหรอกนะ?"
"แน่นอนว่าไม่ เพราะข้าก็ถูกใจความอ่อนหวานไม่เดียงสาของอีกนางเช่นกัน อยากรู้นักบนเตียงจักเป็นเช่นไร ฮ่าๆ" ฮั่วซินเลียริมฝีปากอย่างกระหาย ในแววตาเต็มไปด้วยความปรารถนา
เปรี๊ยะ!
ดวงตาของต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนเป็นแดงฉาน สายรัดผมมันขาดออก ปลดปล่อยผมยาวที่รวบไว้เรียบร้อยให้สยายกระจายตัว
เส้นผมปลิวพลิ้วสะบัดแม้ไร้ลม แลไปกลับดูสง่างามไม่น้อย
"ฮั่วซิน ก่อนหน้านี้ใช่เจ้ากล่าวคำว่า …พวกเจ้าทั้ง 2 สามารถสังหารข้าได้ใน 1 กระบวนท่า?" น้ำเสียงของต้วนหลิงเทียนครานี้เย็นชาและทุ้มต่ำน่าสยดสยองยิ่งนัก ศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนที่ได้ฟังบังเกิดความเหน็บหนาวประการหนึ่ง
"แน่นอน หากข้าและเหวียนหวู่ลงมือพร้อมกัน อาศัยเพียงกระบวนท่าเดียวก็เพียงพอที่จักสังหารเจ้าแล้ว อย่าได้กังวล พวกข้าจักดูแลสตรีของเจ้าอย่างดี เจ้าสามารถตกตายได้โดยไร้ห่วงใดๆ! ฮ่าๆ… "ฮั่วซินเองก็สังเกตเห็นได้ว่าเรื่องนี้ทำให้ต้วนหลิงเทียนบันดาลโทสะ มันก็กล่าวย้ำ จี้ปมเพิ่มเข้าไปเช่นกัน
ยามมันเห็นต้วนหลิงเทียนเป็นเช่นนี้ ในใจกลับรู้สึกลิงโลดยินดีนัก
"เฮ่ ฮั่วซินข้ามิอาจรอคอยได้อีกต่อไป …ในยามนี้ สาวงามมิแคล้วต้องนอนรอข้าอยู่เป็นแน่" เหวียนหวู่หัวเราะออกมอย่างชั่วช้า และเริ่มยั่วยุต้วนหลิงเทียนพร้อมกับฮั่วซิน
จำเป็นต้องกล่าวว่า พวกมันยั่วยุได้สำเร็จ…
ทำให้โทสะในใจต้วนหลิงเทียน ทะยานขึ้นไปสุดขีดจำกัดแล้ว!
เปลวเพลิงแห่งโทสะกำลังลุกโชนโชติช่วง!
"หนึ่งกระบวนท่า?" ดวงตาสีแดงฉานของต้วนหลิงเทียนจับจ้องอย่างเย็นชาไปบนรางของฮั่วซินและเหวียนหวู่ พร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเหน็บหนาว "พวกเจ้าจักตกตาย ใน 1 กระบวนท่า!"
เมื่อต้วนหลิงเทียนกล่าวจบ ศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนที่อยู่รอบๆเวทีประลองเป็นตายก็เงียบสนิทไร้เสียงไปครู่หนึ่ง
ต้วนหลิงเทียนกล่าวว่าอันใดนะ?
เขาคิดสังหาร ฮั่วซินและเหวียนหวู่ใน 1 กระบวนท่า?
ศิษย์ที่ได้ฟังทั้งหมดล้วนตะลึงงันในวาจาดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน
ฮั่วซินและเหวียนหวู่ที่อยู่บนเวทีประลองเป็นตายแน่นอนว่าย่อมตะลึงไปเช่นกัน และเป็นฮั่วซินที่ได้สติก่อน มันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา "ต้วนหลิงเทียน ใช่เจ้าฝันไปหรือไม่? นี่มิใช่เป็นข้าดูแคลนเจ้า แต่เกรงว่า ต่อให้เจ้าบ่มเพาะอีก 5 ปีเจ้าก็มิอาจกระทำเช่นนั้นได้! "
"ช่างเป็นความคิดที่เพ้อฝันยิ่งนัก!" สายตาเหวียนหวู่เย็นชาเผยร่องรอยดูแคลนออกมาอย่างเห็นได้ชัด
"เอาล่ะเหวียนหวู่พวกเรามาเริ่มกันเถิด" ฮั่วซินยิ้มกว้างออกมาอย่างชั่วร้าย ตาของมันจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียน ด้วยสายตาราวกับมอง …คนตาย
ดาบ 3 ฉื่อปรากฎออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่า ก่อนที่มือมันจะคว้าจับเอาไว้
พลังงานต้นกำเนิดกำลังโคจรถ่ายเทไปยังตัวดาบ
วู้มมม!
เหนือศีรษะของฮั่วซิน เงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 76 ตัวค่อยๆ ปรากฏก่อร่างขึ้นมา
ในพริบตาเดียวกันนั้น ในมือของเหวียนหวู่ก็ปรากฏดาบ 3 ฉื่อออกมาเช่นกัน
และเหนือศีรษะของมันเองก็มีเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 76 ตัว ไม่ต่างอะไรกับฮั่วซิน …
ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ทั้ง 2 คน!
ซ้ำยังมีดาบอันเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 7 ในมือ!
นี่คือความแข็งแกร่งทั้งหมดของเหวียนหวู่และฮั่วซิน
ตอนนี้เองเหล่าศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนที่ตะลึงค้างกับคำกล่าวเมื่อครู่ของต้วนหลิงเทียน ก็พลันฟื้นคืนสติกลับมา
และคราวนี้เมื่อพวกมันมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ก็เผยสายตาดูแคลนออกมา
"ต้วนหลิงเทียนนี่ ที่แท้กลับละเมอเพ้อฝัน กล่าววาจาเขื่องโขเกินตัวจริงๆ! คิดสังหารฮั่วซินกับเหวียนหวู่ใน 1 กระบวนท่าหรือ…เหลวไหล!”
"ฮั่วซินกับเหวียนหวู่พวกมันมีระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ซ้ำยังมีดาบระดับ 7 … กระทั่งผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 5 ที่ถืออาวุธวิญญาณระดับ 7 ในมือเช่นเดียวกัน… ยังมิกล้ากล่าวคำว่าสามารถสังหารพวกมันทั้ง 2 ได้ใน 1 กระบวนท่า! "
"บางที นี่อาจเป็นความกล้าหาญสุดท้ายก่อนตายของมัน"
…
เหล่าศิษย์สายนอกของขุนเขาเทียนเฉวียนที่อยู่รอบๆเวทีประลองเป็นตาย แน่นอนว่าต้องมองว่าคำกล่าวของต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ เป็นเพียงลมที่ผายออกมาหาสาระไม่ได้
สำหรับพวกมันแล้ว มิแคล้วต้วนหลิงเทียนต้องตกตายโดยเหวียนหวู่และฮั่วซิน!
จ้าวหลินที่ยืนอยู่ด้านข้างเวทีประลองเป็นตายเอง เมื่อเห็นเรื่องราวตรงหน้า มุมปากของมันก็แสยะยิ้มเย้ยหยันออกมา "ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ นับว่ายโสนัก แต่หากมันคิดจักยโสโอหัง จะอย่างไรก็ต้องมีกำลังด้วย …หากทำตัวยโสโอหังแต่สิ้นไร้ซึ่งกำลังความแข็งแกร่ง เจ้าก็มิต่างอันใดกับซากเนื้อที่รอวันให้ผู้อื่นเหยียบย่ำ"
ทว่าครู่ต่อมารอยยิ้มดูแคลนที่มุมปากของจ้าวหลินก็ต้องแข็งค้าง และมลายหายไปในทันใด
สวรรค์!
นี่เขากำลังเห็นอะไรอยู่?
"ไม่จริง … เป็นไปไม่ได้!"
"เรื่องนี้ เป็นไปได้อย่างไร?"
"มิใช่เรื่องจริง…นี่มันเป็นไปไม่ได้!"
"เหลือเชื่อยิ่งนัก!"
…
เหล่าศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียนที่ชมดูอยู่รอบๆเวทีประลองเป็นตาย ที่กำลังหัวเราะเย้ยหยันต้วนหลิงเทียนอยู่นั้น พลันต้องแข็งค้างกลับกลายเป็นตะลึงเหวอราวตัวโง่งมในทันทีทันใด เมื่อพวกมันจับจ้องไปยังอากาศที่ว่างเปล่าเหนือศีรษะต้วนหลิงเทียน
พวกมันเห็นซึ้งถึงอันใดน่ะหรือ?
วู้ม!
เหนือศีรษะของต้วนหลิงเทียน พลังงานฟ้าดิน ตอบสนองต่อพลังงานต้นกำเนิดที่แผ่ออกมาทั่วร่างของเขา ก่อนที่จะเริ่มก่อเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา เพื่อแสดงความแข็งแกร่งที่ต้วนหลิงเทียนมี …
และจำนวนช้างแมมมอธโบราณ ที่แสดงถึงความแข็งแกร่งนั้นก็ฉายชัดออกมาจำนวน 60 ตัว!
นี่เป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงการเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4!
พร้อมกระบี่ 3 ฉื่อในมือที่ปรากฏจากอากาศว่างเปล่าเมื่อครู่ …เหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนก็ปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมาเพิ่มอีก 12 ตัว…
ความแข็งแกร่งทั้งหมดยามนี้รวมแล้วนับได้ 72 ช้างแมมมอธโบราณ!
กล่าวได้ว่ากระบี่ 3 ฉื่อในมือของต้วนหลิงเทียนนั้น เป็นอาวุธวิญญาณระดับ 8 ที่สามารถเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของผู้ใช้ได้ถึง 20%
เขาไม่ได้ใช้อาวุธวิญญาณระดับ 7!
เพราะสำหรับเขา มันไม่จำเป็น!
"ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 … ." เมื่อเห็นเงาร่างช้างแมมมอธโบราณที่ฉายชัดเหนือศีรษะต้วนหลิงเทียน ฮั่วซินกับเหวียนหวู่ต่างหันมามองหน้ากันเอง ก่อนที่พวกมันจะพบความประหลาดใจในใบหน้าของอีกฝ่าย
ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ด้วยวัยเพียง 20 ปี?
หนังศีรษะพวกมันกลับกลายเป็นด้านชา ความคิดในหัวเริ่มอื้ออึงแล้ว …
ศักยภาพและพรสวรรค์ที่สูงล้ำขนาดนี้! นี่มันตัวประหลาดอันใดกัน!