สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 278 : กลับนิกายกระบี่ 7 ดาว
บทที่ 278 : กลับนิกายกระบี่ 7 ดาว
ตอนนี้เช่าเฟยนับว่าพบกับความหวาดกลัวอย่างแท้จริง
ก่อนหน้านี้มันกล้าที่จะผยองต่อหน้าต้วนหลิงเทียน เพราะมันยังคิดว่าต้วนหลิงเทียนคงไม่กล้าฆ่ามัน …
แต่ตอนนี้เมื่อสัมผัสได้ถึงความตายที่คืบคลานมาช้าๆ มันจึ่งเริ่มหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ!
มันไม่อยากตาย!
ถึงตอนนี้มันจะเป็นเพียงคนพิการ ที่ไม่อาจมีความสำเร็จอะไรได้ในอนาคต แต่มันก็ไม่อยากตาย
เมื่อมันตายแล้วจะไม่เหลืออะไรอย่างแท้จริง!
"ได้โปรด ข้าขอร้องเจ้า … ต้วนหลิงเทียน… ได้โปรดเถิด จักให้ข้าทำอะไรก็ได้ …แต่อย่าได้สังหารข้าเลย ได้โปรดเถอะ!" เช่าเฟยมองไปยังต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะเริ่มร้องห่มร้องไห้ฟูมฟาย วิงวอนร้องขอความเมตตาออกมา
ใบหน้าของมันยามนี้แลดูน่าสมเพชเวทนานัก และมันหวังเพียงต้วนหลิงเทียนบังเกิดจิตคิดเมตตา ละเว้นปล่อยมันไป
มุมปากต้วนหลิงเทียนยกขึ้น เผยรอยยิ้มเย็นชา เขาไม่คิดเลยว่าเช่าเฟยผู้หยิ่งยโส ที่มักทำตัวเย็นชาหยิ่งผยองสะกดข่มผู้อื่น พอถึงคราวต้องตาย กลับน่าสมเพชได้ถึงขนาดนี้ เรื่องนี้ทำให้ต้วนหลิงเทียนดูแคลนเช่าเฟยจากก้นบึ้งของหัวใจ
หากเช่าเฟยยังคงความทะนงและหยิ่งยโส ไว้บ้างแม้ต้องตาย เขาอาจจะเคารพมันสักเล็กน้อย
ทว่าพบเจอเชนนี้ … จะลงมือฆ่ามัน …ยังคร้านกระทำให้แปดเปื้อน
ถึงแม้เขาจะไม่อยากลดตัวลงต่ำไปฆ่าสวะอย่างมัน แต่เขาก็จำเป็นต้องกระทำเพื่อความปลอดภัยของหูลี่และชีหลัน
เช่าเฟยนี่…สุดท้ายมันต้องสร้างปัญหาแน่นอนหากมันไม่ตกตาย
เช่าเฟยนั้นก็ได้เปลี่ยนเป้าหมายจากต้วนหลิงเทียนไป อ้อนวอนหูลี่และชีหลันแทน เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนไม่คิดจะแยแสมันสักนิด มันกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “หูลี่ ชีหลันทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนเป็นข้าผิดไปแล้ว! ได้โปรดเถิดข้าขอร้องพวกเจ้า ได้โปรดช่วยข้าด้วย…พวกเจ้าช่วยบอกให้ต้วนหลิงเทียนปล่อยข้าไปเถิด ข้ายังไม่อยากตาย ข้าไม่อยากตายเช่นนี้…ข้าขอร้องพวกเจ้า ช่วยข้าด้วย”
"ฮึ่ม!" หูลี่เพียงกวาดสายตาไปมองเช่าเฟยอย่างสมเพช ก่อนที่จะไม่สนใจใยดีอะไรมัน
ทว่าแววตาของชีหลันพลันเปลี่ยนเป็นซับซ้อน นางไม่อาจสบตาเช่าเฟยที่กำลังอ้อนวอนร้องขอชีวิตอยู่ได้
เช่าเฟยเห็นว่าชีหลันไม่กล้าสบตากับมัน แสงแห่งความหวังพลันบังเกิดในประกายตาของมันทันที มันรีบดิ้นรนคลานไปที่เท้าของชีหลันพร้อมโขกหัวจนโลหิตชโลมหน้าทันที
เช่าเฟยเงยศีรษะที่เต็มไปด้วยโลหิตขึ้นมามองชีหลันอีกครั้ง และยามนี้มันใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียใจมองไปที่ชีหลัน “ได้โปรดเถิดชีหลัน … ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากตาย ข้ายังไม่อยากตายเช่นนี้ ข้าเป็นผู้พิการแล้ว ข้าไม่เหลืออะไรแล้ว… ได้โปรด อย่าฆ่าข้าเลย ข้าขอร้องเจ้าล่ะ!”
ในขณะที่กล่าวอ้อนวอน เช่าเฟยก็ยังเริ่มก้มลงไปโขกศีรษะอีกอย่างรุนแรง ทำให้โลหิตของมันเริ่มท่วมออกมาอย่างน่ากลัว
ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนี้ เขากลัวว่าชีหลันจะถูกมันเล่นละครหลอกเอา เขาหันไปจับจ้องเช่าเฟยด้วยสายตาเย็นชา "เช่าเฟยเจ้าคิดว่าการทรมานตนเองมันจะได้อะไรขึ้นมา?"
"ชีหลันช่วยข้าด้วย ได้โปรด ข้าขอร้องเจ้าล่ะ!" อย่างไรก็ตามเช่าเฟยทำราวกับไม่ได้ยินต้วนหลิงเทียน มันยังกล่าวฟูมฟายกับชีหลัน ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียใจ "ช่วยข้าสักครั้งเถอะชีหลัน เห็นแก่ความหลังครั้งก่อน ที่ข้าก็เคยช่วยเหลือเจ้ากับหูลี่ในอดีต… ได้โปรดเถอะ ข้ายังไม่อยากตาย!"
“เช่าเฟย เจ้ายังกล้ากล่าวว่าช่วยเรา? ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนตัดสินใจก่อนหรือว่าจะเข้าป่าแรกเริ่มหรือไม่? ไม่ใช่ว่าเป็นเจ้างั้นหรือที่เลือกและนำสิ่งมีค่าที่สุดก่อนเสมอ?” ใบหน้าของหูลี่กระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่าเฟย
"จะเสียเวลากล่าวไร้สาระทำอะไรมากมาย? เชือดคอให้มันตายเสียก็จบแล้ว" ประกายตาของต้วหลิงเทียนเย็นชาลง เขาเดินก้าวใหญ่มาทางเช่าเฟย กระบี 3 ฉื่อในมือส่องประกายแวววาว….
"ชีหลัน!" หน้าของเช่าเฟยยิ่งมายิ่งหวาดกลัวเมื่อเห็นต้วนหลิงเทียน เดินถือกระบี่มา มันหันไปมองชีหลันด้วยแววตาอ้อนวอน พร้อมกล่าวคำด้วยใบหน้าเศร้าหมองอีกครั้ง "ข้าไม่อยากตายจริงๆ… ช่วยข้าเถอะ ได้โปรด ตราบใดที่พวกเจ้าไม่ฆ่าข้า ข้าสาบานว่าจะไม่มาสร้างปัญหาอะไรให้พวกเจ้าในอนาคต และข้าจะให้พี่ชายคอยช่วยเหลือพวกเจ้ายามเจอปัญหาด้วย”
สาบาน?
ต้วนหลิงเทียนยิ้มเย้ยหยันออกมา คำสาบานของคนชั่วช้าในตอนที่เผชิญหน้ากับความตาย จะเชื่อถือได้หรือ?
ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่มีวันเชื่อ!
"ต้วนหลิงเทียน" ทันใดนั้นเองชีหลันพลันกล่าวคำออกมา
ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขามองไปที่ชีหลัน "ชีหลันเจ้าคงไม่เชื่อคำกล่าวไร้สาระของมันใช่หรือไม่ ตัวบัดซบนี่ไม่อาจไว้ใจได้ คำกล่าวสาบานของมันเพียงกล่าวเอาตัวรอดเท่านั้น"
ชีหลันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะมองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยโลหิตของเช่าเฟยก่อนที่จะกล่าวออกมา "ต้วนหลิงเทียน แม้สิ่งที่เช่าเฟยกระทำวันนี้มันจะยากให้อภัย …แต่จะอย่างไรพวกเราก็ยังอยู่รอดปลอดภัย ส่วนเช่าเฟยเสียขาไป 1 ข้างข้าเชื่อว่ามันได้รับบทเรียนแล้ว ปล่อยมันไปเถอะ? "
ประกายตาเช่าเฟยส่องสว่างขึ้นเมื่อได้ยินคำกล่าวชีหลัน มันรีบหันไปหาต้วนหลิงเทียนพร้อมวิงวอนออกมา "ต้วนหลิงเทียนเชื่อข้าเถิด ข้าจะไม่มีวันสร้างปัญหาให้แก่พวกเจ้าแน่!"
"ปล่อยมันไป?" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังเช่าเฟยก่อนที่จะขวดคิ้ว "ชีหลัน เราปล่อยมันไปหรือไม่ปล่อย ก็ไม่นับว่ามีอะไรแตกต่าง … แต่การปล่อยมันไปนั้น รังแต่จะเกิดเรื่องราวยากคาดเดาแล้ว มันอาจจะสร้างความลำบากให้แก่เจ้าและหูลี่ในภายหลัง"
"ต้วนหลิงเทียน ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงข้ากับหูลี่ … แต่จะอย่างไรเช่าเฟยก็สาบานแล้ว…" ชีหลันกล่าวเสริมออกมา
รอยยิ้มขื่นขมปรากฏที่มุมปากของต้วนหลิงเทียน … ชีหลันนี่เชื่อคำสาบานของเช่าเฟยงั้นหรือ?
ต้วนหลิงเทียนมองไปยังหูลี่ก่อนที่จะกล่าวถามออกมา "หูลี่เจ้าคิดอย่างไร?"
หูลี่เงียบลง ตั้งแต่ได้ฟังคำชีหลันเขาก็คิดตาม หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังขาของเช่าเฟยที่ถูกเสือดาวอำมหิตกัดขาด ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ สุดท้ายเขาก็หันมามองต้วนหลิงเทียนพร้อมส่ายศีรษะ
ต้วนหลิงเทียนย่อมเข้าใจว่าหูลี่หมายความว่าอย่างไร
"เอาล่ะ….ไม่เป็นไร ในเมื่อพวกเจ้าทั้ง 2 คนแสดงความตั้งใจเช่นนี้ ข้าเองก็ไม่คิดเล่นบทคนโหดร้ายอะไร" ต้วนหลิงเทียน ถอนหายใจก่อนที่จะเก็บกระบี่ระดับ 7 ลงแหวนมิติ แล้วจับจ้องไปยังเช่าเฟย
เช่าเฟยอดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน และเมื่อเขาเห็นต้วนหลิงเทียนเก็บกระบี่ ประกายตาของมันก็ส่องประกายยินดีที่รอดชีวิต
"เช่าเฟย!" น้ำเสียงของต้วนหลิงเทียนเย็นชาไม่แยแส จนทำให้เช่าเฟยถึงกับสั่นสะท้าน มันหันมามองต้วนหลิงเทียน ด้วยความหวาดกลัว
มันไม่กล้าผยองต่อหน้าต้วนหลิงเทียนแล้ว
ตอนนี้มันรู้ดีถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะยังเยาว์วัย ทว่ามันกลับเด็ดขาดและอำมหิตนัก
เมื่อครู่หากไม่เพราะหูลี่กับชีหลันไม่อยากให้มันตาย ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะรอดชีวิต
"ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้ … หลังจากที่กลับไปแล้วเจ้าอย่าได้สร้างปัญหาอะไรอีก หาไม่แล้วข้าจะให้เจ้าได้ตายไร้ที่ฝัง!"ในขณะที่กล่าวคำจิตสังหารกระหายเลือด ก็แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายต้วนหลิงเทียนอย่างท่วมท้น ก่อนที่จะกดทับไปยังเช่าเฟย ทำให้ใบหน้าของมันซีดราวกับศพ ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว …
ไม่ว่าอย่างไรเช่าเฟยก็ไม่อาจจินตนาการได้จริงๆ ว่าเหตุใดชายหนุ่มอายุราว 20 ปีจะสามารถมีจิตสังหารที่น่าหวาดกลัวได้ถึงขั้นนี้!
ต้วนหลิงเทียนฆ่ามาแล้วกี่คนกันแน่!?
มันไม่อาจจินตนาการได้เลย!
"เอาล่ะ แล้วนี่เจาทั้ง 2 คนคิดจะล่าสัตว์อสูรในป่าแรกเริ่มนี่ต่อหรือจะกลับนิกาย?" เมื่อต้วนหลิงเทียนหันกลับมามองทั้ง 2 ใบหน้าเย็นชาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารก็หายไปเหลือเพียงรอยยิ้มอบอุ่น
"พวกเรากลับกันเลยเถอะ" ชีหลันรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น นางรู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าจะทำอะไรแล้ว
หูลี่เองก็พยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย
"งั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ!" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเดินเคียงไหล่ไปกับหูลี่และชีหลัน มุ่งหน้าออกจากป่าแรกเริ่ม
ส่วนทางด้านเช่าเฟยเมื่อมันมองเงาหลังทั้ง 3 คนหายไป มันก็พยายามใช้กระบี่ระดับ 7 ในมือปักลงบนพื้น ก่อนที่จะค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นยืน
หลังจากนั้นมันก็ใช้กระบี่ต่างไม้เท้าเดินทางออกจากป่าแรกเริ่มเช่นกัน
ตัวมันเข้าใจดี ว่าหากยังอยู่ป่านี้สืบต่อไปด้วยสารรูปเช่นนี้ก็มีแต่ตายกับตาย
"ต้วนหลิงเทียน ชีหลัน หูลี่ … .ข้าเช่าเฟยจะไม่มีวันยอมปล่อยให้พวกเจ้าได้อยู่สุขสบาย เตรียมรับโทสะของพี่ชายข้าให้ดี!!" เช่าเฟยเช็ดคราบโลหิตเกรอะกรังบนใบหน้า ก่อนที่จะเผยแววตาเย็นชาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น อำมหิต
ใบหน้าของเช่าเฟยยามนี้ช่างแตกต่างใบหน้าของเช่าเฟยที่อ้อนวอนร้องขอชีวิตนัก
นอกป่าแรกเริ่ม
กลุ่มต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 ระบายลมหายใจโล่งอก เนื่องจากเดินออกมาพ้นเขตป่าแล้ว อันหมายความว่าไม่จำเป็นต้องระวังสัตว์อสูรโจมตีอีกต่อไป
เส้นประสาทที่ตึงเครียดของพวกเขาพอได้ผ่อนคลายลงบ้าง
"ต้วนหลิงเทียนเจ้านี่มันช่างน่าเกรงขามนัก! แต่ข้าสงสัยประการหนึ่ง…เจ้ายังอายุราวๆ 20 ใช่หรือไม่?" ชีหลันมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเคารพและความชื่นชม
"ใช่แล้ว ข้ากำลังจะอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ในอีก 1 เดือนหลังจากนี้" ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มอ่อนๆ ก่อนที่จะพยักหน้า
อีก 1 เดือนอายุครบ 20 ปี?
คำที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวทำให้หูลี่และชีหลันแทบจะกลายเป็นหินเสียให้ได้
ถึงแม้ว่าพวกเขาเองก็สงสัยอยู่ก่อนหน้านี้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนอาจจะยังอายุไม่ถึง 20…แต่เมื่อพวกเขาได้รับคำยืนยันจากปากของต้วนหลิงเทียนเองเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดความปั่นป่วนในหัวใจราวกับมรสุมกลางทะเลที่เงียบสงบ พวกเขายังไม่อาจสงบใจได้แม้ว่าเวลาจะผ่านไปครู่ใหญ่
อายุยังไม่ทันครบ 20 ปีดี กลับบรรลุระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 5 แล้ว!
ดูเหมือนกระทั่งคำว่าสัตว์ประหลาดยังมิอาจนิยามพรสวรรค์และตัวตนของต้วนหลิงเทียนได้ดีพอ
"ช่างผิดปกติยิ่งนัก" หูลี่กล่าวคำที่คิดเอาไว้ออกมา
ต้วนหลิงเทียนเพียงถูจมูกด้วยความเขินอายเล็กน้อย
ดูเหมือนไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหนก็หลีกหนีคำว่าผิดปกติที่ผู้คนยัดเยียดให้ไม่ได้เสียที
"ต้วนหลิงเทียน ข้าล่ะอยากรู้นัก เจ้าใช้วิธีเลิศล้ำอันใดในการบ่มเพาะพลังกัน?" ชีหลันรู้สึกตะลึงพึงเพริดกับต้วนหลิงเทียนที่สามารถบรรลุระดับเช่นนี้ได้ด้วยอายุน้อยนิด แต่นางย่อมอยากรู้ว่าต้วนหลิงเทียนบ่มเพาะด้วยวิธีการผีสางอะไรมากกว่า
"แหะๆ เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้นะ…ข้าก็บ่มเพาะพลังเหมือนชาวบ้านเค้านั่นล่ะ" ต้วนหลิงเทียนยักไหล่พร้อมส่ายหัว
"ชีหลันภายในทวีปเมฆาล่องแห่งนี้ความสามารถและพรสวรรค์ของผู้ฝึกยุทธ์ล้วนมีสูงมีต่ำต่างกัน … พรสวรรค์ตามธรรมชาติของต้วนหลิงเทียนนี้ จัดได้ว่าอยู่ในระดับสูงล้ำยิ่งนัก ไม่ว่าพวกเราจักพยายามอย่างไร ก็คงไม่มีวันกระทำเช่นเขาได้" หูลี่เพียงส่ายศีรษะออกมา มันย่อมรู้ขีดจำกัดของตัวเองดี
"เฮ่อ ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็เถอะ แต่ความต่างมันจะไม่มากเกินไปหน่อยหรือ?" ชีหลันกระพริบดวงตาคู่สวยของนางในขณะที่มองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาอิจฉาและช่วยไม่ได้
ไม่นานทั้ง 3 คนก็ได้เดินขึ้นไปถึงทางเชื่อมของขุนเขาเทียนชู
"ชีหลัน หูลี่ …ข้าขอกล่าวตามตรง …พวกเจ้าทั้ง 2 ไม่น่าปล่อยเช่าเฟยไปเลย ข้าสังหรณ์ว่ามันยังไม่ยอมเลิกราอย่างแน่นอน" ต้วนหลิงเทียนนึกถึงเรื่องนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเสียใจเล็กน้อย เขาควรจะฆ่าเช่าเฟยเสีย ต่อให้สหายมองเขาเป็นคนโหดร้าย ก็ยังดีกว่าต้องมาคอยกังวลอย่างนี้
"ต้วนหลิงเทียน ก็จริงที่เช่าเฟยมันสมควรตาย แต่พอข้าเห็นสภาพอนาถาของมันแล้ว…มันก็น่าเวทนานัก พิการเช่นนั้นมันเองก็ไม่อาจทำอะไรได้แล้ว … และข้าคิดว่ามันคงไม่กล้าทำอะไร และถึงแม้มันกล้า แต่ทีนี้ข้าจะให้มันได้ตาย!" คราวนี้ประกายตาชีหลันแฝงไปด้วยความเย็นลงเล็กน้อย
ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มออกมาอย่างขื่นขม
สตรีทุกคนมักมีอารมณ์ซับซ้อนเช่นนี้หรือ?
"ต้วนหลิงเทียนข้ารู้ว่าเจ้ากังวลในเรื่องความปลอดภัยของพวกเรา … แต่ยามนี้จะอย่างไรพวกเราก็อยู่ในนิกายกระบี่ 7 ดาว พี่ชายของมันเองก็คงไม่กล้าลงมือทำอะไร" หูลี่เพียงยิ้มบางๆให้ต้วนหลิงเทียน
"ข้าก็หวังให้มันเป็นเช่นนั้น" ต้วนหลิงเทียนเพียงพยักหน้ารับคำ ดอกศรที่ปล่อยออกไปแล้วจะอย่างไรก็ยากที่จะรั้งไว้
และถึงตอนนี้เขาจะย้อนกลับไป ก็คงหาตัวเช่าเฟยไม่พบแล้ว..