สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 275 : เสือดาวอำมหิต
บทที่ 275 : เสือดาวอำมหิต
"ฮู่ววววว!" แม้กระบี่ 3 ฉื่อของต้วนหลิงเทียนจะเพียงฟาดทะลุชั้นผิวหน้าของแรดคชสาร แต่ก็นับว่าสร้างความเจ็บปวดไม่น้อย อดไม่ได้ที่มันจะกรีดร้องออกมา พร้อมสะบัดร่างอย่างแรงหวังสลัดต้วนหลิงเทียนให้ตก
น่าเสียดาย ที่ต้วนหลิงเทียนยังยืนหยัดได้อย่างมั่นคงราวเขาไท่ซาน มุมปากเขาเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
ทันใดนั้นเองประกายตาของต้วนหลิงเทียนก็เย็นชาลง
พลังสั่นสะเทือน!
พลังงานต้นกำเนิดที่เคลือบฉาบไว้ที่ตัวกระบี่พลันสั่นสะเทือนด้วยความถี่ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ…
กึง!กึง!กึง!กึง!กึง!กึง!กึง!
…
พลังของการสั่นสะเทือนความถี่สูงนี้น่าหวาดกลัวนัก กระบี่ค่อยๆปาดลึกเข้าเนื้อแรดคชสารได้ง่ายดายราวปาดเนย กระบี่ค่อยๆจมลึกลงไปเรื่อยๆ มุ่งสู่กะโหลกของแรดคชสาร ชิ้นเนื้อรอบกระบี่เริ่มแหลกสลายเป็นเศษ
โลหิตพวยพุ่งออกมาดั่งพายุ พลังสั่นสะเทือนยังคงถูกใช้ออกมาอย่างต่อเนื่อง!
ด้วยพลังงานต้นกำเนิดที่ฉาบไว้ที่กระบี่กำลังสั่นสะเทือนด้วยความถี่สูงล้ำ ทำให้มันทะลวงกะโหลกแรดคชสารลงไปเล็กน้อยอย่างง่ายดาย ก่อนที่มันจะทำให้กะโหลกของแรดคชสารแตกสะท้านเป็นเสี่ยงๆ
"ฮู่ววววว ~" แรดคชสารคำรามโหยหวนออกมาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างใหญ่จะไร้การควบคุม เอนล้มดังตึง! ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายไปทั่ว
ตาย!
ตึง!
เมื่อร่างใหญ่โตของแรดคชสารล้มลง แผ่นดินสะเทือนไปเล็กน้อย ทั้ง 3 คนที่กำลังประมือกันอยู่พลันหยุดการกระทำ และหันมาแลดูเหตุการณ์
"นี่…." ชีหลันและหูลี่จับจ้องไปยังแรดคชสารที่ล้มลงไปกอง ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด
พวกมันไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะฆ่าแรดคชสารได้!
นอกจากนี้ตามร่างต้วนหลิงเทียนไม่มีกระทั่งรอยขีดข่วน!
"ไม่จริง…เป็นไปไม่ได้ … มันเป็นไปไม่ได้!" เช่าเฟยทำสีหน้าราวกับตัวโง่งม เมื่อเห็นภาพตรงหน้า
ไอเด็กหนุ่มหน้าสวยนั่นสังหารแรดคชสารได้จริง?
นี่จักเป็นไปได้อย่างไร!
ข้าต้องฝันไปแน่นอน!
อย่างไรก็ตามเมื่อมันทดลองหยิกต้นขาดู ความเจ็บปวดก็แล่นวูบขึ้นมา ทำให้รับรู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่ความฝัน!
ต้วนหลิงเทียนนำแกนสัตว์อสูรออกมาอย่างช่ำชอง เมื่อเสร็จสิ้นแล้วเขาก็เดินมารวมกลุ่มกับชีหลันและหูลี่ ก่อนที่จะนำมันมามอบให้หูลี่ พร้อมกล่าวคำ "หูลี่เจ้าเก็บมันเอาไว้ก่อนแล้วกัน เมื่อพวกเรากลับไปเมื่อไร ค่อยมาแบ่งกันทีหลัง"
"ต้วนหลิงเทียน เจ้านี่มัน.. จริงๆเลย ให้ตายเถิด" หูลี่เพียงยกนิ้วโป้งให้ต้วนหลิงเทียนด้วยความทึ่ง ก่อนที่จะส่ายหัวออกมา "ช่างน่าเสียดายนัก ที่เมื่อครู่ข้าไม่เห็นว่าเจ้าลงมือเอาอีท่าไหน… เจ้าสามารถสังหารแรดคชสารระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ได้ด้วยระดับบ่มเพาะกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3… เรื่องนี้กล่าวไปผู้ใดจะเชื่อ!"
ในขณะที่กล่าวถึงตอนนี้ หูลี่ก็เบนสายตาไปยังเช่าเฟยที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยความไม่พอใจ
"ต้วนหลิงเทียน เจ้าช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก" ชีหลันมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความนับถือ เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนสังหารแรดคชสารระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ได้ มันน่าตกตะลึงเกินไป
ก่อนหน้านี้ถ้ามีคนบอกนางว่า มีผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3 สามารถสังหารแรดคชสารที่มีระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ได้ ให้ตายนางก็ไม่เชื่อ
แต่มาตอนนี้ไม่เหลือหนทางให้นางไม่เชื่อ!
เพราะเรื่องนี้มันเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของนาง
ครู่ต่อมาเหมือนชีหลันจะนึกอะไรออก นางพลันหันไปมองเช่าเฟยด้วยโทสะ “เช่าเฟย พวกเราแยกย้ายกันไปเถอะ!”
เมื่อนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ชีหลันก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดโทสะขึ้นมาอีกครั้ง
โชคดีที่ต้วนหลิงเทียนไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นนางจะไม่ให้อภัยตัวเองไปชั่วชีวิต!
เพราะจะอย่างไร นางก็เป็นผู้ที่ชักชวนต้วนหลิงเทียนมาเข้ากลุ่มเล็กๆนี่
"เช่าเฟยเจ้าออกไปซะ ต่อไปข้าหูลี่ ไม่รู้จักกับเจ้า" หูลี่มองไปยังเช่าเฟยด้วยสายเย็นชา ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เมื่อเห็นหน้าเช่าเฟยก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องเมื่อครู่ นั่นทำให้เขาขุ่นเคืองนัก
"อะไร ยามนี้พวกเจ้ามีเด็กหนุ่มหน้าสวยนี่แล้ว คิดที่จะขับไล่ผู้นำอย่างข้ารึ?" ใบหน้าของเช่าเฟยเองก็หมองคล้ำลงเมื่อได้ยินคำกล่าวของหูลี่และชีหลัน "พวกเจ้าคิดว่าข้าเช่าเฟย เป็นคนที่เจ้าทั้ง 2 คิดจะกล่าวสั่งอะไรก็ได้?"
เขาบังเกิดความอิจฉาต้วนหลิงเทียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อมาตอนนี้เห็นว่าชีหลันและหูลี่คิดขับไล่ไสส่งเขาไปเพราะเห็นแก่ต้วนหลิงเทียนอีก ทำให้เพลิงโทสะเริ่มโหมกระพือในใจเขาทันที
อันที่จริงการออกจากกลุ่มเล็กๆนี่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
แต่พอคิดว่าเขาต้องถูกขับไล่เพราะเด็กหนุ่มหน้าสวยนี่ หัวใจเขาก็เต็มไปด้วยโทสะและความไม่พอใจ เขาไม่ยินยอมจากไปเพราะเหตุผลนี้!
"เช่าเฟย เรื่องที่เจ้ากระทำเมื่อครู่ ทำให้พวกข้าผิดหวังนัก" หูลี่มองไปยังเช่าเฟย ก่อนที่ใบหน้าจะลดต่ำลงเล็กน้อย
"ข้าก็กล่าวไปแล้วไม่ใช่หรือไร ว่าข้าทำไปเพื่อชวยเหลือเด็กหนุ่มหน้าสวยนี่ …แล้วเรื่องจริงมันก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ว่าข้ากระทำถูก มิมีพวกเจ้า เขาก็สังหารแรดคชสารได้ด้วยตัวเองไม่ใช่หรือไร?" เช่าเฟยกล่าวออกมาพร้อมยิ้มไร้เรื่องราว มันทำราวกับว่ารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้
แต่หูลี่กับชีหลันมีหรือจะไม่รู้ความจริง? ครู่ต่อมาทั้งสองก็ชักสีหน้าขยะแขยง "ไร้ยางอาย!"
"เฮ่ๆ เอาล่ะๆ พวกเจ้าอย่าทะเลาะ หรือบาดหมางกันเพราะข้าเลย แล้วกันไปเถอะ" ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวออกมาพร้อมยิ้มบางๆ
ชีหลันและหูลี่ถึงกับตะลึงเมื่อได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน
หากเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวเรื่องเช่นนี้ออกมาคงไม่แปลก แต่นี่คนที่กล่าวกลับเป็นต้วนหลิงเทียน… …
ทั้งคู่ล้วนหันไปมองต้วนหลิงเทียนพร้อมกัน พร้อมใบหน้าประหลาดใจ
"อย่างน้อยเจ้าก็รู้ว่าอะไรควร อะไรมิควร" เช่าเฟยหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน นี่เพราะเขาคิดว่าต้วนหลิงเทียนกลัวเขา
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะสังหารแรดคชสารได้ แต่เขาคิดว่ามันคงเป็นเพียงแค่เรื่องโชคดีเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นกว่าที่ต้วนหลิงเทียนจะจัดการแรดคชสารได้ ก็ใช้เวลาไปไม่น้อย
หากเป็นตัวเขาที่ลงมือล่ะก็ อาศัยกระบี่วิญญาณระดับ 7 ในมือ ป้อนเพียงกระบวนท่าเดียว ก็เพียงพอที่จะจัดการแรดคชสารแล้ว!
ในดวงตาของเขาต้วนหลิงเทียนไม่นับเป็นอะไร
ถึงแม้ว่าชีหลันกับหูลี่จะไม่รู้ว่าเพราะอะไร ต้วนหลิงเทียนจึงกล่าวราวกับคิดช่วยเช่าเฟย แต่จะอย่างไรตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้ว่าอะไรทั้งๆที่เขาเป็นคนเดือดร้อนที่สุดในกลุ่ม ทั้งคู่เลยไม่กล่าวอะไรอีก
แต่ตอนนี้ทั้งคู่ยึดถือเช่าเฟยเป็นเพียงคนแปลกหน้าไปแล้ว
เช่าเฟยเองก็ไม่คิดจะแยแสอะไรในเรื่องนี้ เพราะจะอย่างไรมันก็ถือว่าตัวเหนือกว่า ย่อมไม่คิดจากไปให้เสียหน้า
นอกจากนี้มันไม่คิดจะให้ต้วนหลิงเทียนได้อยู่สุขสบาย
ต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นว่าเช่าเฟยใช้สายตาเย็นชาจับจ้องมา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร ทว่าที่มุมปากของเขาบังเกิดรอยยิ้มแสยะเย้ยหยัน ราวกับยามนี้เรื่องราวทุกอย่างอยู่ในกำมือเขาหมดแล้ว
"ไปกันต่อเถอะ" ต้วนหลิงเทียนเรียกชีหลันและหูลี่ ก่อนที่จะพากันเดินหน้าต่อไป
เช่าเฟยแน่นอนว่าเมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนเดินไปข้างหน้า มันก็เดินตามไปทันที ซ้ำยังใช้แววตาอำมหิตจับจ้องไปยังแผ่นหลังต้วนหลิงเทียนอย่างไม่คลาดสายตา …
ตอนนี้เขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าสังหารต้วนหลิงเทียน!
แต่เขาต้องการที่จะเห็นต้วนหลิงเทียนถูกสัตว์อสูรฆ่า!
มีเพียงวิธีนี้ทำนั้นที่จะทำให้ความชิงชังในใจเขาหายไป…
กลุ่มเดินไปด้านหน้าอยู่ครู่หนึ่ง แต่ทั้งหมดก็ต้องหยุดลง เพราะต้วนหลิงเทียนหยุดเท้าเอาไว้
"มีอะไรงั้นหรือ?" ชีหลันและหูหลี่กล่าวถามออกมาทันที
"ขี้ขลาด!" เช่าเฟยหัวเราะเยาะก่อนที่จะเดินต่อไป
คิ้วของต้วนหลิงเทียนโค้งขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวบอกหูลี่กับชีหลันว่า "ข้าเกรงว่า พวกเราจะมีปัญหาแล้ว"
ในตอแรกชีหลันและหูลี่ยังคงสงสัยอยู่ไม่น้อย แต่ครู่ต่อมาเมื่อพวกเขาจับจ้องไปยังทิศทางหนึ่งไกลๆ ม่านตาของทั้งคู่ก็อดไม่ได้ที่จะหดแคบลง
มันเป็นเสือดาวตัวหนึ่งที่มีรูปร่างผอมแห้งซ้ำยังน่าสยดสยองไม่น้อย กำลังเดินเข้ามา
เสือดาวตัวนี้มีนัยน์ตาทั้งคู่เป็นสีเขียวเข้ม แต่ละย่างก้าวของมันเสมือนค้อนใหญ่ตอกทุบลงกลางอก ทำให้พวกเขาบังเกิดความอึดอัดไม่น้อย
"เสือดาวอำมหิต!" เช่าเฟยร้องออกมาอย่างรวดเร็ว ซ้ำภายในเสียงร้องของมันนี้ก็เจือไปด้วยความหวาดกลัวและความประหวั่น
สัตว์อสูรระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 เสือดาอำมหิต!
หากให้มันปะทะกับสัตว์อสูรระดับนี้…ตัวมันไร้ซึ่งความมั่นใจแม้แต่น้อย!
ในยามที่เสือดาวอำมหิตลงมือจู่โจมเต็มกำลังนั้น มันมีความแข็งแกร่งสูงถึง 80 ช้างแมมมอธโบราณ … ส่วนตัวมันนั้นถึงแม้จะพึ่งพาอาวุธวิญญาณระดับ 7 ก็สามารถใช้ความแข็งแกร่งได้เพียง 76 ช้างแมมมอธโบราณเท่านั้น …
ความแข็งแกร่ง 60 ช้างแมมมอธโบราณ มาจากระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ส่วนอีก 16 ช้างแมมมอธโบราณนั้นมาจากกระบี่ระดับ 7
แต่นี่เป็นเพียงความแข็งแกร่งในด้านการจู่โจมเท่านั้น!
ในด้านพลังโจมตีแล้วถึงแม้มันจะพึ่งอาวุธวิญญาณ ทว่าก็ยังอ่อนด้อยกว่าเสือดาวอำมหิต
ในแง่ของความเร็วนั้น แน่นอนว่าอาวุธวิญญาณไม่ได้เสริมความแข็งแกร่งในเรื่องนี้ด้วย นั่นหมายความว่ามันสามารถใช้ความเร็วได้ด้วยความแข็งแกร่งระดับ 60 ช้างแมมมอธโบราณเท่านั้น นับว่าต่ำกว่าเสือดาวอำมหิตที่ใช้ความเร็วได้ในระดับ 80 ช้างแมมมอธโบราณอยู่ไกลนัก!
เช่าเฟยเริ่มถอยหลังออกมาทันที เมื่อสังเกตเห็นแววตาของเสือดาวดำมหิตจับจ้องมาที่มันอย่างดุร้าย!
มันย่อมเข้าใจอุปนิสัยของเสือดาวอำมหิตดี หากเสือดาวอำมหิตเลือกเป้าหมายใดแล้วล่ะก็ มันจะพุ่งเป้าไปที่คนๆนั้นจนกว่าจะตาย! แม้ว่าคนผู้นั้นจะวิ่งหนี แต่เสือดาวอำมหิตจะไม่เลิกรา! มันจะไล่ตามไปสุดกำลังจนกว่ามันจะได้ฉีกกระชากร่างเหยื่อเป็นชิ้นๆ
นั่นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ตัวมันคิดจะหลบหนี
ทันใดนั้นเองความคิดชั่วร้ายพลันบังเกิดในใจ …
หากมีใครจู่โจมเสือดาวอำมหิตแล้วล่ะก็ เสือดาวอำมหิตจะเปลี่ยนเป้าหมายไปเล่นงานคนที่ทำร้ายมันก่อน…
ครู่ต่อมาเช่าเฟยก็ถอยกลับมารวมกลุ่มกับต้วนหลิงเทียน ชีหลันและหูลี่ พร้อมตะโกนออกมาทันที "ชีหลัน หูลี่ และเด็กน้อยหน้าสวย ..พวกเราจะรวมพลังกันสังหารเสือดาวอำมหิตนี่!"
ต้วนหลิงเทียนกับกลุ่ม 3 คนของเขา ไม่ได้ขยับหรือเคลื่อนไหวอะไรเมื่อได้ยินคำกล่าวของเช่าเฟย ซ้ำพวกเขายังมองไปยังเช่าเฟยราวกับมองตัวโง่งม
"เช่าเฟย นี่เจ้าคิดว่าพวกเราไม่รู้จักลักษณะนิสัยของเสือดาวอำมหิตหรืออย่างไร เจ้าคิดให้พวกเราจูโจมเพื่อดึงดูดความสนใจของมัน … หลังจากนั้นเจ้าจะได้ใช้โอกาสนี้หนีไปใช่หรือไม่!" ชีหลันรู้สึกกลัวไม่น้อยเมื่อเผชิญหน้าเสือดาวอำมหิต ร่างบอบบางของนางถึงกับสั่นระริกไม่หยุด แต่ว่าเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่าเฟย นางยังอดหันมากล่าวเย้ยหยันมันไม่ได้
"เช่าเฟย เจ้ามันชั่วร้ายยิ่งนัก!" ใบหน้าของหูลี่เองก็กลับกลายเป็นน่าเกลียด เช่าเฟยบัดซบนี่คิดหลบหนีโดยก้าวข้ามศพพวกเขา
เช่าเฟยมันคิดว่าพวกเขาโง่นักหรือ?
เสือดาวอำมหิตนั้นเงียบและไม่ได้คำรามอะไรออกมา มันก้าวย่างอย่างเชื่องช้าไปยังเช่าเฟย สายตามันจดจ่ออยู่ที่เช่าเฟยเพียงผู้เดียว ราวกับว่าบนโลกนี้มีเพียงมันกับเช่าเฟย
แม้ว่าเช่าเฟยจะถอยหลังจนเลยกลุ่มของต้วนหลิงเทียนไปแล้ว แต่เสือดาวอำมหิตก็ยังคงจับจ้องมาที่มันไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อเสือดาวอำมหิตเดินผ่านกลุ่มต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 ไปเฉยๆ สีหน้าของชีหลันก็ซีดราวกับศพ ในใจของนางสั่นสะท้านไม่หยุด…สีหน้าของหูลี่เองก็ไม่ต่างกัน สองขาของมันราวกับมีตะกั่วถ่วงไว้สักหมื่นชั่ง ไม่อาจขยับได้สักนิด
มันรู้ดีว่าหากเสือดาวอำมหิตฉีกร่างเช่าเฟยแล้ว รายต่อไปก็คือกลุ่มของมัน
ชีหลันและหูลี่บังเกิดความประหวั่นอย่างถึงขีดสุดเมื่อเผชิญหน้ากับเสือดาวอำมหิต
มีเพียงต้วนหลิงเทียนเท่านั้นที่ยืนสงบนิ่งไร้เรื่องราว ซ้ำยังมองไปยังเช่าเฟยด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก
เช่าเฟยนี่มันคิดจริงๆ หรือว่าเขาเป็นคนใจกว้างและอภัยให้มัน ซ้ำยังให้มันอยู่ในกลุ่มต่อไปไม่ว่าอะไร?
จริงๆแล้วก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะฆ่าแรดคชสาร เขาก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าหากฆ่าแรดคชสารเมื่อไหร่เขาจะตัดหัวมันซะ แต่ในขณะที่กำลังเขาลงกระบี่สังหารแรดคชสารนั้นเอง พลังวิญญาณอันเฉียบคมของเขาก็พลันสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง เมื่อเขาแผ่จิตสัมผัสออกไป เขาก็รับรู้ได้ถึงเสือดาวอำมหิตที่อยู่ไม่ไกล ทำให้บังเกิดแผนประการหนึ่งขึ้นในใจ
และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันล้วนอยู่ในความควบคุมของเขาทั้งสิ้น
“ถ้าพวกเจ้าไม่คิดร่วมมือกับข้า พวกเราทุกคนย่อมตกตายกันหมด!” ตอนนี้ใบหน้าท่าทางของเช่าเฟยบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ไม่น่าดูถึงขีดสุด แววตาของมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันยังไม่ลืมพยายามครั้งสุดท้าย เพื่อชักชวนให้กลุ่มของต้วนหลิงเทียนโจมตี…
ต้วนหลิงเทียนหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่จะจับจ้องไปยังเช่าเฟย พร้อมกล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมยไม่แยแส “เช่าเฟย หากข้ายังจำไม่ผิด ตั้งแต่เดินทางเข้าป่ามานี่ ดูเหมือนในกลุ่มจะมีเพียงเจ้าเท่านั้น ที่ยังไม่ได้ลงมือต่อสู้แม้แต่ครั้งเดียว ใช่หรือไม่?”