สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 269 : ปรมาจารย์แห่งขุนเขาเหยากวง
บทที่ 269 : ปรมาจารย์แห่งขุนเขาเหยากวง
อะไรที่อาวุโสไป่กล่าวออกมานี้ ทำให้ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วขึ้นมาเป็นปมทันที
ผู้อาวุโสไป่นี่มีอะไรผิดปกหรือไม่?
นางกล่าวยอมรับพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเค่อเอ๋อออกมาแล้ว แต่นางยังไม่ยินยอมรับเค่อเอ๋อเป็นศิษย์อีก?
"อาวุโสไป่ ถ้าท่านไม่เต็มใจรับน้องหญิงเค่อเอ๋อเป็นศิษย์ของท่านด้วย เช่นนั้นข้าไม่รับท่านเป็นอาจารย์แล้ว …ข้าต้องขออภัยด้วย" ลี่เฟยยื่นมือออกไปคว้ามือของเค่อเอ๋อ ก่อนที่จะเผยแววตาแน่วแน่ออกมา
ในช่วงหลายปีที่ผ่านนี้นางกับเค่อเอ๋อเป็นยิ่งกว่าพี่น้องกันเสียอีก ยากนักที่จะจับพวกนางแยกออกจากกัน
ตอนนี้อาวุโสไป่กลับไม่พอใจเค่อเอ๋อ … นี่ทำให้ในใจของนางเองก็บังเกิดความไม่พอใจเช่นกัน
ท่านไม่รับน้องหญิงเค่อเอ๋อของข้าเป็นศิษย์ใช่หรือไม่?
เช่นนั้นข้าก็ไม่รับว่าท่านเป็นอาจารย์เช่นกัน!
"พี่หญิงเฟย ข้ารู้ท่านหวังดีต่อข้า แต่ท่านอย่าทำเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ" ทางด้านเค่อเอ๋อกลับคงซึ่งความสงบเอาไว้ได้ นางไร้ซึ่งความน้อยใจใดๆ อีกทั้งนางยังรีบกล่าวเตือนลี่เฟยด้วยความเป็นห่วง "ท่านผู้อาวุโสไป่อาจจะไม่พอใจ ที่ท่านพี่ทำเช่นนี้นะเจ้าคะ … "
"ช่างเป็นสาวน้อยที่มีเหตุผลนัก" อาวุโสไป่ไม่เพียงไม่โกรธนาง ซ้ำยังมองไปที่เค่อเอ๋อด้วยแววตาชื่นชม ก่อนที่จะหันไปมองลี่เฟยด้วยรอยยิ้ม "สาวน้อย เจ้าคิดว่าข้าไม่เต็มใจที่จะรับน้องสาวของเจ้าไปเป็นศิษย์งั้นหรือ?"
“แล้วมันไม่ใช่เช่นนั้นหรือไร?” ตอนนี้เมื่อลี่เฟยเผชิญหน้ากับอาวุโสไป่ นางไม่ได้สุภาพเหมือนตอนแรกอีกแล้ว
"เจ้านี่มัน… " เมื่อสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงลี่เฟย อาวุโสไป่ถึงกับส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม "ไม่ใช่ว่าข้าไม่รับนางไปเป็นศิษย์เพราะข้าไม่ชอบใจอะไรนาง เพียงแต่ข้าคิดว่านางอาจจะมีหนทางที่ดียิ่งกว่านี้ให้เลือกเดิน"
หนทางที่ดียิ่งกว่านี้ให้เลือกเดิน?
คิ้วของต้วนหลิงเทียนขมวดเล็กน้อย เขาคิดถึงความเป็นไปได้ประการหนึ่ง ..เป็นไปได้หรือไม่ที่อาวุโสไป่กล่าววาจาเช่นนี้เพราะ…
ผู้ใดจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจไม่รู้ แต่แน่นอนว่าลี่เฟยย่อมไม่เข้าใจแน่นอน! "อาวุโสไป่ แล้วที่ท่านกล่าวนี่มันหมายความว่าอะไรหรือ?"
อาวุโสไป่ยิ้มบางๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมา "สตรีโง่งม นี่เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ ว่าข้าหมายถึงอะไร ? เอาล่ะๆ ข้าหมายถึงว่าข้าจะกลับไปแนะนำนางให้ท่านปรมาจารย์รับรู้ เพราะยามนี้ท่านปรมาจารย์เองก็ กำลังมองหาศิษย์ที่มีฝีมือและพรสวรรค์โดดเด่นอยู่เช่นกัน แน่นอนว่าท่านปรมาจารย์ย่อมชอบพอความสามารถอันยอดเยี่ยมของนางเป็นแน่”
ปรมาจารย์?
สายตาของต้วนหลิงเทียนทอประกายเรืองวูบออกมาทันที เมื่อได้ยินคำที่อาวุโสไป่กล่าว…
นิกายกระบี่ 7 ดาวแห่งนี้ มีประมุข 1 คน ส่วนรองประมุขนั้นมีถึง 6 คน
ประมุขนิกายแน่นอนว่าอยู่ที่ขุนเขาเทียนชูอันเป็นขุนเขาหลัก … ส่วนรองประมุขทั้ง 6 นั้นก็แยกย้ายกันไปดูแลขุนเขาทั้ง 6
และเหล่ารองประมุขนี้จะถูกเรียกกันว่า ปรมาจารย์ขุนเขา
ตอนนี้ลี่เฟยก็ได้กระจ่างแจ้งเสียที
ส่วนต้วนหลิงเทียนนั้น เรื่องนี้เขาพอรู้มาจากฉงเฉวียนอยู่บ้างแล้ว
และวันที่ฉงเฉวียนเล่าเรื่องนี้ออกมา ลี่เฟยไม่ได้อยู่ฟังนางจึงไม่รู้
เมื่อนางได้ยินคำกล่าวของอาวุโสไป่แล้ว นางก็บังเกิดความยินดีต่อเค่อเอ๋อจากใจ ก่อนที่จะหันไปมองอาวุโสไป่ด้วยความละอาย "อาจารย์…ข้าขอโทษ … "
"เอาล่ะครั้งนี้ข้าจะลืมมันไป แต่หากเจ้ายังเข้าใจอาจารย์เจ้าผิดง่ายๆเช่นนี้อีกล่ะก็ ครั้งหน้าอาจารย์จะไม่อภัยให้เจ้าง่ายๆแล้ว" อาวุโสไป่เหลือบมองไปยังลี่เฟย แววตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความรักความเอ็นดูจากใจอยู่ไม่น้อย
ศิษย์ใหม่ของนางคนนี้ ไม่ว่าจะมองอย่างไรนางก็ชมชอบไม่น้อย ทางด้านลี่เฟยเองที่เห็นสายตาอารีของอาวุโสไป่ที่มองมา นางก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจเช่นกัน
"ขอบคุณอาวุโสไป่เจ้าค่ะ" ภายใต้การส่งสัญญาณของต้วนหลิงเทียน เค่อเอ๋อรีบกล่าวขอบคุณอาวุโสไป่ทันที ใบหน้าของนางแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยน
"สาวน้อย ปรมาจารย์ขุนเขาเหยากวงเรา เป็นศิษย์สตรีอันโดดเด่นของนิกายกระบี่ 7 ดาว และแข็งแกร่งที่สุด… หากเจ้าได้ติดตามเรียนรู้จากนางแล้วล่ะก็ อนาคตของเจ้าก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นแน่นอน " อาวุโสไป่ยิ้มบางๆขณะกล่าวคำกับเค่อเอ๋อ ท่าทางของนางแลดูใจดีนัก
จริงๆแล้วตัวนางเองก็ชมชอบเค่อเอ๋ออยู่ไม่น้อย
แต่นางรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถไม่เพียงพอที่จะเป็นอาจารย์ที่ดีของเค่อเอ๋อ ดังนั้นนางจึงคิดแนะนำเค่อเอ๋อต่อปรมาจารย์ขุนเขาเหยากวง… ผู้ที่กล่าวได้ว่าลึกลับและแข็งแกร่ง ซ้ำยังเอาแต่ใจที่สุดในบรรดารองประมุขทั้ง 6
“อ๊า เรื่องนี้ช่างดียิ่ง ยินดีด้วยน้องหญิงเค่อเอ๋อ” ลี่เฟยรีบกล่าวแสดงความยินดีกับเค่อเอ๋อทันที รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดีใจพลันเผยออกมาบนใบหน้านางจากใจ
ต้วนหลิงเทียนเองก็ยิ้มอ่อนออกมาเช่นกัน
ถึงแม้ว่าเค่อเอ๋อจะฝึกวิชาบ่มเพาะในแนวทางกระบี่อย่าง วิชา กระบี่เทพเจ้าเหมันต์ แต่วิชากระบี่ที่มาพร้อมกับวิชาบ่มเพาะกระบี่เทพเจ้าเหมันต์นี้กลับลึกซึ้ง และสลับซับซ้อนไม่น้อย … สำหรับเค่อเอ๋อที่นางได้รับไปเพียงแค่ทฤษฎี ย่อมยากที่จะตีความทั้งหมดได้ง่ายๆ
หากเค่อเอ๋อได้รับการชี้แนะจากปรมาจารย์แห่งขุนเขาเหยากวงแล้วล่ะก็ ความเร็วในการก้าวหน้าของนางจะเพิ่มขึ้นมาอีกมาก!
นิกายกระบี่ 7 ดาวนั้น แน่นอนว่าเป็นนิกายที่ฝึกฝนบ่มเพาะและเลือกเดินบนเส้นทางแห่วิถีกระบี่ กล่าวได้ว่าวิชาระดับสูงของนิกายล้วนเป็นวิชากระบี่แทบทั้งสิ้น! เรื่องนี้ทำให้จินตนาการได้เลยว่า ปรมาจารย์ขุนเขาเหยากวงที่ได้รับการขนานนามว่าแข็งแกร่งที่สุด จะมีความสำเร็จอันลึกซึ้งในวิถีกระบี่มากขนาดไหน
"เอาล่ะ เช่นนั้น…ก็ได้เวลาสะสางเรื่องของเจ้าแล้ว" รอยยิ้มบนใบหน้าของอาวุโสไป่สลายหายไปในทันที ก่อนที่นางจะจับจ้องมายังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาจริงจัง
คิ้วของต้วนหลิงเทียนโค้งขึ้นเล็กน้อย
เค่อเอ๋อและลี่เฟยรู้สึกสับสนเมื่อได้ยิน
"ถึงแม้ว่าฉีเยี่ยนนั้นจะมีความผิด แต่เจ้าก็เอาชนะนางได้แล้ว เหตุใดยังต้องทำลายตันเถียนของนางอีก …เรื่องนี้ใช่เจ้ากระทำเกินไปหน่อยหรือไม่?" อาวุโสไป่จับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนพร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงความจริงจัง
"อาจารย์!"
"อาวุโสไป่!"
ทั้งเค่อเอ๋อและลี่เฟยล้วนกังวลใจ
"อาวุโสไป่!" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังอาวุโสไป่ด้วยท่าทางปลอดโปร่ง ราวกับว่าเขาไม่กังวลใจในเรื่องนี้แม้แต่น้อย "อาวุโสไป่…ท่านเองก็ได้ยินเรื่องราวจากฉีเยี่ยนแล้วไม่ใช่หรือ? ว่าตัวนางเป็นฝ่ายข่มขู่และคิดจะทำลายระดับบ่มเพาะของข้าก่อน…ถ้าหากวันนี้ความแข็งแกร่งของข้าอ่อนด้อยกว่านาง… ไมใช่ว่าฝ่ายที่ถูกนางทำลายตันเถียนจะเป็นข้าแทนงั้นหรือ ข้าแค่เพียงให้นางลิ้มรสยาขมที่นางคิดยัดเยียดให้ผู้อื่นดูบ้างก็เท่านั้น? "
อาวุโสไป่มองไปยังต้วนหลิงเทียนอย่างช้าๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมา "ถึงแม้นางจะเป็นเช่นนั้นแต่จะอย่างไร นางก็นับว่าเป็นศิษย์ของนิกายกระบี่ 7 ดาว ซ้ำยังเป็นศิษย์ของขุนเขาเหยากวงคนหนึ่ง…อย่างน้อยที่สุด เจ้าก็สมควรมีคำอธิบายในเรื่องนี้มิใช่หรือ ?"
"อาวุโสไป่ ข้าคิดว่า ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ข้าต้องกล่าวอธิบาย" ต้วนหลิงเทียนเพียงยักไหล่อกมาอย่างสบายอารมณ์ เพราะเขาไม่ได้เป็นฝ่ายผิด หากไม่เพราะฉีเยี่ยนนั้นมันมาระรานหาเรื่องเขาแต่แรก เขาก็คร้านจะไปสนใจอะไรกับนาง
นี่เป็นกฎที่เขาใช้จัดการเรื่องราวมาโดยตลอด ..หากไม่รุกรานข้าๆก็ไม่คิดรุกรานเจ้า หากเจ้ากล้าลงมือต่อข้า ข้าจะให้เจ้าได้ชดใช้ ว่องไวยิ่งกว่าอัสนี!
คิ้วสวยงามของอาวุโสไป่พลันขมวดขึ้นมา เผยความไม่พอใจที่เริ่มบังเกิดขึ้น
"อาจารย์ ที่ตัวเลวร้ายทำลงไปทั้งหมด ก็ล้วนเพื่อข้าและเค่อเอ๋อทั้งสิ้น ท่านอย่าได้โทษเขาเลยนะ" ลี่เฟยเดินไปคว้าแขนของอาวุโสไป่ ก่อนที่จะกล่าวออกมาพร้อมแววตาและน้ำเสียงราวกับเด็กน้อยออดอ้อนมารดา
ตัวเลวร้าย?
อาวุโสไป่ตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำกล่าวของลี่เฟย "สาวน้อย เขาเป็น…บุรุษของเจ้าหรือ …"
"อาวุโสไป่ท่านเข้าใจถูกแล้ว ข้าเป็นบุรุษของศิษย์ท่าน" มุมปากของต้วนหลิงเทียนเผยรอยยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวบอกอาวุโสไป่ ก่อนที่ลี่เฟยจะตอบ
มีคำโบราณที่กล่าวกันเอาไว้อยู่ว่า …อาจารย์ก็เสมือนบิดามารดา
หากมันเป็นเช่นนั้นจริง… ก็กล่าวได้ว่าลี่เฟยเป็นบุตรของอาวุโสไป่ไปแล้วครึ่งหนึ่ง อีกทั้งบุรุษของลูกศิษย์ก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นลูกเขยของนางไปแล้วครึ่งหนึ่งเช่นกัน!
อาวุโสไป่ตกตะลึงไม่น้อย ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างอย่างช่วยไม่ได้
นางไม่คิดเลยว่าลูกศิษย์ของนางจะมีสัมพันธ์กับศิษย์สายนอกเช่นนี้
อาวุโสไป่มองไปยังต้วนหลิงเทียนก่อนที่จะถอนหายใจออกมา "เอาล่ะๆ เช่นนี้ก็ไม่มีไรแล้ว…เอาเป็นว่าเรื่องราวครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะฉีเยี่ยนยั่วยุเจ้าก่อน ข้าจะเคารพการตัดสินใจของเจ้าก็แล้วกัน แต่ข้าหวังว่าในอนาคตเจ้าอย่าได้ทำให้ข้าต้องลำบากใจอะไรอีก"
"ขอบคุณอาวุโสไป่" ต้วนหลิงเทียนยิ้มออกมา ก่อนที่จะมองไปยังลี่เฟยที่อยู่ด้านข้างอาวุโสไป่ แล้วขยิบตาให้นางอย่างรู้กันเล็กน้อย
"เอาล่ะ นอกจากนี้ก็มีอีกเรื่อง…พรสวรรค์ของฉีเยี่ยนนั้นเพียงเทียบเท่าบุคคลทั่วไปเท่านั้น เจ้าจึงไม่ต้องใส่ใจอะไร แต่พี่ชายของนางฉีฮ่าวนั้น ไม่ใช่อะไรที่เจ้าจะจัดการได้ง่ายดาย! ยามนี้ระดับบ่มเพาะของมันอยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 แล้ว อีกทั้งตัวมันก็ไปฝึกฝนหาประสบการณ์ด้านนอกมามากมาย …กล่าวได้ว่ามันอาจจะผ่านการทดสอบเลื่อนขั้นเป็นศิษย์สายในด้วยระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 ได้ไม่ยากเย็นนัก" พี่อาวุโสไป่ยังกล่าวเตือนต้วนหลิงเทียนเพิ่มอีกว่า "อีกทั้งฉีฮ่าวผู้นี้ ยังเป็นพี่ชายที่รักและเอ็นดูน้องสาวอย่างยิ่ง … เจ้าต้องระวังมันเอาไว้ให้ดี"
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำ "ขอบคุณสำหรับคำเตือนอาวุโสไป่"
"อืม" อาวุโสไป่พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปมองลี่เฟยและเค่อเอ๋อ "ข้าจะไปหาท่านปรมาจารย์ขุนเขา และแจ้งเรื่องนี้ให้ท่านทราบ พรุ่งนี้ข้าจะมาหาทั้ง 2 ที่นี่อีกครั้ง"
"อำลาท่านอาจารย์"
"อำลาอาวุโสไป่!"
กลุ่มต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 ยืนมองส่งอาวุโสไป่ ที่เดินจากไป
"ข้าไม่คิดเลยว่าฉีเยี่ยนนั่น จะกล้ากล่าววาจาใส่ร้ายผู้อื่น ที่นางคิดหาเรื่องก่อนได้เช่นนี้ … โชคดีนักที่อาจารย์เป็นคนฉลาด ทำให้แผนที่นางเก็บซ่อนเอาไว้ถูกเปิดเผยออกมา" ใบหน้าของลี่เฟยยังเต็มไปด้วยความโกรธ เมื่อกล่าวถึงฉีเยี่ยน
"กล่าวได้ว่าตอนนี้ผลกรรมที่นางได้หว่านเอาไว้ มันก็ได้สนองตอบนางแล้ว …จะอย่างไรนางก็ถูกไล่ออกจากนิกายกระบี่ 7 ดาวไปแล้ว เจ้าก็อย่าได้สนใจนางอีกเลย" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมยิ้มบางๆ
"อื๊อ! จริงสิ! พวกเรายังต้องแสดงความยินดีกับน้องหญิงเค่อเอ๋อด้วย ที่กำลังจะกลายเป็นศิษย์ของปรมาจารย์ขุนเขาในเร็วๆนี้แล้ว" ลี่เฟยมองไปยังเค่อเอ๋อด้วยสองตาเป็นกระกายสว่างไสวราวกับดวงดารา
"พี่หญิงเฟย ท่านล้อข้าเล่นอีกแล้ว" รอยยิ้มเริ่มเผยออกมาบนใบหน้าของเค่อเอ๋อ ซ้ำยามนี้ยังเจือไปด้วยสีแดงระเรื่อ
ทันใดนั้นเองลี่เฟยก็นึกถึงเรื่องที่นางกำลังกล่าวถามต้วนหลิงเทียนก่อนหน้านี้ และถูกขัดจังหวะโดยฉีเยี่ยนซะก่อน นางจึงกล่าวถามออกมาอีกครั้ง "จริงสิตัวเลวร้าย เจ้าบอกว่าที่ให้พวกเราดื่มก่อนหน้านี้คือนมผา 10,000 ปีใช่หรือไม่ … แล้วมันคืออันใดรึ?"
เค่อเอ๋อเองก็มองไปยังต้วนหลิงเทียน และเผยความอยากรู้อยากเห็นออกมาไม่น้อยด้วยดวงตากลมโตของนาง
ต้วนหลิงเทียนยิ้มก่อนที่จะกล่าวออกมา "นมผา 10,000 ปีนับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่สามารถทำให้คนที่ใช้มัน ไม่ต่างอะไรกับเกิดใหม่ เพราะสรรพคุณของมันนั้น จะช่วยชำระล้างเส้นพลัง รวมถึงไขกระดูกภายในร่างกาย อีกทั้งยังยกระดับพรสวรรค์ตามธรรมชาติในเชิงยุทธ์ของผู้คนให้บรรลุถึงขีดจำกัดสูงสุด "
เค่อเอ๋อและลี่เฟยล้วนตกตะลึงเมื่อได้ยินคำกล่าวอธิบาย สรรพคุณของนมผา 10,000 ปี
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ๆ พวกนางพลันได้สติ
"ตัวเลวร้าย เช่นนั้น…จากที่เจ้ากล่าว ก็ย่อมหมายความว่ายามนี้พรสวรรค์ตามธรรมชาติในเชิงยุทธ์ของข้าและน้องหญิงเค่อเอ๋อ ได้ถึงขีดจำกัดและสูงที่สุดแล้วงั้นสิ?" ลี่ใจกล่าวถามออกมาพร้อมสูดลมหายใจเข้าอย่างหนาวเหน็บ
"ถูกต้อง" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าก่อนที่จะมองไปยังเค่อเอ๋อ "เค่อเอ๋อ เพราะเรื่องนี้ข้าจึงมั่นใจนัก ในยามที่ข้าบอกว่า อีกเพียงเวลาไม่ถึง 1 เดือนเจ้าต้องตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ได้แน่นอน หากจะเปรียบเทียบความสามารถของตัวเจ้าในอดีตกับตัวเจ้าในยามนี้ ความแตกต่างของมันมีมากราวกับสวรรค์และโลก! เอาเป็นว่ามันไม่อาจนำไปเทียบกันได้เลยด้วยซ้ำ"
เค่อเอ๋อพยักหน้าเบาๆ ใบหน้าของนางเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขออกมา
บุรุษของนางไม่เคยทำให้นางผิดหวังสักครั้ง และนางเองก็เชื่อมั่นในตัวบุรุษผู้นี้หมดหัวใจ
"นอกจากนี้ นี่เป็นนมผา 10,000 ปีสำหรับเสี่ยวจิน… " ต้วนหลิงเทียนหยิบขวดโอสถที่บรรจุนมผา 10,000 ปีออกมาและส่งมอบไปให้เค่อเอ๋อ "เค่อเอ๋อ เจ้าต้องเอานี่ให้เสี่ยวจินดื่มทุกๆ 2-3 สัปดาห์ และให้มันเพียงทีละขวดเท่านั้น…เจ้าต้องระวังเอาไว้ให้ดี อย่าได้เผลอให้มันดื่มรวดเดียวเด็ดขาด …ข้ากลัววามันดื่มรวดเดียวแล้วจะหลับราวกับสุกรนอนตายเช่นเดียวกับเสี่ยวเฮยและเสี่ยวไป๋” เมื่อกล่าวจบ ในน้ำเสียงของต้วนหลิงเทียนแฝงไปด้วยความรู้สึกจนปัญญาประการหนึ่ง
"อะไรนะ ตัวเลวร้าย นี่เสี่ยวเฮยกับเสี่ยวไป๋ มันนอนหลับไปอีกแล้วหรือ?" ลี่เฟยอดไม่ไดที่จะตกตะลึงออกมาเมื่อได้ยินอะไรที่ต้วนหลิงเทียนกล่าว…
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า "ใช่ พวกมันหลับไปหลังจากที่ดื่มนมผาจำนวนมาก และตอนนี้ข้าก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกนานเท่าไรพวกมันถึงจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง"
ลี่เฟยกับเค่อเอ๋อเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ต่างไร้คำจะกล่าวทั้งสิ้น
และพวกนางอดไม่ได้ที่จะนับถือความสามารถในการนอนของเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 …