สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 263 : นมผา 10,000 ปี!
บทที่ 263 : นมผา 10,000 ปี!
ต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นว่า รอบๆ บริเวณผนังหน้าผาตรงนี้ ที่มีต้นไม้เฉียงๆนี่งอกเงยออกมา ไม่ได้แห้งแล้งเหมือนบริเวณอื่น แลดูมีความชุ่มชื้นอยู่ไม่น้อย พื้นที่ชุ่มชื้นนี้นับด้วยตาคร่าวๆคงมีราวๆ 2-3 ตารางเมตร …
นอกจากนั้นสีของผนังผาตรงนี้แลดูจะเข้มกว่าบริเวณอื่น
หากไม่สังเกตให้ดีเกรงว่าจะไม่มีใครล่วงรู้
เจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวยังคงร้องเสียงดังลั่นไม่หยุด ราวกับว่าพวกมันกำลังเร่งเร้าให้ต้วนหลิงเทียนรีบเข้ามาเร็วๆ
"พวกเจ้าตัวเล็กทั้ง 2 คงไม่คิดให้ข้าใช้กำลังทำลายผนังผาเพื่อสร้างทางเข้าแบบพวกเจ้าหรอกนะ?" มุมปากของต้วนหลิงเทียนกระตุกเล็กน้อย ก่อนที่จะเผยยิ้มขื่นขมออกมา เขาก้มลงไปมองเหวลึกด้านล่างต้นไม้เฉียงๆ ก่อนที่จะบังเกิดความรู้สึกหนาวยะเยือกในหัวใจ
ตึงงงง!!
ทันใดนั้นเองบังเกิดเสียงดังก้องออกมา ฟังแล้วน่าจะเป็นเสียงการเคาะกระแทกจากด้านใน เสียงนี้ดังหนักแน่นไม่น้อย บ่งบอกถึงความรุนแรงในการลงมือ
ต้วนหลิงเทียนรู้ว่านี่เป็นการกระทำของเจ้าตัวน้อยทั้ง 2
ในขณะที่เขาเริ่มสงสัยว่าเจ้าตัวน้อยทั้ง 2 คิดทำอะไร เขาก็เห็นว่าผนังผาด้านหน้าเริ่มบังเกิดรอยปริร้าวแตกระแหง… รอยแตกเหล่านี้มองไปคล้ายใยแมงมุมไม่น้อย เพียงชั่วพริบตามันก็กระจายไปทั่วผนังผาตรงหน้า
"นี่มัน…?" ต้วนหลิงเทียนมองรอยร้าวตรงหน้าด้วยสายตาเป็นประกาย"เอาล่ะ! เสี่ยวเฮย เสี่ยวไป๋ พวกเจ้าถอยออกไปก่อน!"
“ฟ่อ ฟ่อ”อสรพิษน้อยทั้ง 2 ร้องตอบรับออกมา ก่อนที่จะโผล่หน้าออกมาแลบลิ้นให้ แล้วหดหัวหายเข้าไปด้านใน
ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ มือขวากำหมัดแน่น พลังงานต้นกำเนิดเริ่มควบแน่นไปยังกำปั้น … เหนือศีรษะเขาบังเกิดเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 71 ตัวเด่นชัดแลดูดุร้ายราวกับพวกมันพร้อมทะยานก้าวผ่านผืนฟ้า
ต้วนหลิงเทียนพลันลงมือทันที!
เขาง้างหมัดขวาไปด้านหลังด้วยความเร็วราวกับดึงสายธนู พริบตาต่อมากำปั้นของเขาก็ถูกปล่อยออกไปราวกับกระสุนปืน ซัดกระแทกทำลายผนังหน้าผาตรงหน้า
ตูมมมม!!
เสียงระเบิดดังลั่นสนั่นแก้วหูสะเทือน
ผนังหน้าผาตรงหน้าที่ร้าวอยู่ก่อนแล้ว เมื่อโดนกำปั้นที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียน มันก็พังทลายลงในทันใด เศษหินแตกกระจายร่วงหล่นลงไปในหุบเหวลึก ทว่าหาได้ยินเสียงพวกมันตกกระทบพื้นไม่…
"หืม?" สองตาของต้วนหลิงเทียนหรี่ลงเล็กน้อย เมื่อเห็นภาพด้านหลังผนังผา
ทว่าตอนนี้เองต้นไม้ใต้เท้าบังเกิดการสั่นไหวทำให้สีหน้าของต้วนหลิงเทียนซีดลงทันที ใจของเขาเต้นดังโครมคราม ในตอนนี้สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดก็คือต้นไม้นี่จะพังทลายร่วงลงไป ตัวเขาเองก็คงไม่พ้นตกลงไปด้วยเช่นกัน!
โชคยังดีอยู่บ้าง ที่ต้นไม้นี่แค่เพียงสั่นไหวไปมาเพราะแรงกระแทกเฉยๆ สุดท้ายมันก็กลับมาตั้งมั่นได้เหมือนเดิม!
"บัดซบ น่ากลัวจริงๆ …ทำเอาข้าใจหายใจคว่ำหมด" มุมปากของต้วนหลิงเทียนเผยรอยยิ้มขมขื่นเล็กน้อย แม้จะเป็นเขาเองก็อดที่จะหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้ แต่เมื่อเขามองไปยังโพรงถ้ำที่ปรากฏออกมาหลังจากทำลายผนังหน้าผา ความกังวลทั้งหมดก็มลายหายไป ใบหน้าของเขาเริ่มเต็มไปด้วยอารมณ์ตื่นเต้น
ฟุ่บ!
ต้วนหลิงเทียนพลันใช้วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกายเข้าไปด้านในโพรงที่ซ่อนอยู่หลังผนังหน้าผาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเข้าไปก็พบว่ามันเป็นโพรงถ้ำกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง ซ้ำยังเป็นถ้ำที่เกิดจากธรรมชาติ ไม่ได้เกิดจากน้ำมือมนุษย์
หากไม่ใช่เพราะเจ้าอสรพิษน้อย 2 ตัวค้นพบแล้วล่ะก็ เกรงว่าต่อให้เป็นจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดมาเดินเล่นที่ยอดเขานี้ด้วยตัวเอง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหาถ้ำนี้พบ …
ในบางเรื่องนั้น ความสามารถของสัตว์อสูรย่อมเหนือล้ำไปกว่ามนุษย์
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
อสรพิษน้อย 2 ตัวเคลื่อนไหววูบวาบดั่งลำแสงพุ่งไปรัดพันแขนของต้วนหลิงเทียนเหมือนเดิม พวกมันผงกหัวงึกๆอย่างน่ารัก ก่อนที่จะใช้ปลายหางเล็กๆ ชี้ไปด้านในถ้ำ
"พวกเจ้าทั้ง 2 ต้องการให้ข้าเข้าไปดูหรือ?" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังอสรพิษทั้ง 2 ก่อนที่จะยิ้มออกมา
เจ้าตัวน้อยทั้ง 2 รีบผงกหัวหงึกๆราวกับมนุษย์
ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพยายามสงบอารมณ์ที่ปั่นป่วนเล็กน้อย ก่อนที่จะค่อยย่างสามขุมเดินเข้าไปด้านในด้วยประกายตาคมกล้าพร้อมรับมือกับเรื่องราวที่จะเข้ามา
ถึงแม้อสรพิษน้อยทั้ง 2 จะไม่บอกให้เขาเดินเข้าไป ตัวเขาก็คิดที่จะเข้าไปสำรวจอยู่แล้ว
สถานที่แห่งนี้มีความลึกลับและแปลกประหลาดอย่างมาก ซ้ำยังมีความลี้ลับยากเข้าถึง ทำให้ต้วนหลิงเทียนปรารถนาที่จะสำรวจมันให้ครบทุกซอกทุกมุม เพื่อสนองอัตตาที่เกิดขึ้นในใจเขา
หนทางในถ้ำเต็มไปด้วยความคดเคี้ยว
ไม่นานหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเดินลึกเข้ามา รอบด้านก็เงียบสนิทไร้ซึ่งแสงสว่างใดๆ
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับต้วนหลิงเทียน เขาหงายมือจุดเปลวเพลิงหลอมโอสถขึ้นมาทันที และเพียงชั่วพริบตาถ้ำที่มืดมิดพลันส่องสว่างขึ้นมาทันใด เขาค่อยๆก้าวเดินต่อไปเบื้องหน้าอย่างช้าๆ
ทันใดนั้นเองเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวที่พันรอบแขนอยู่กระแสดงท่าทางระริกระรี้ออกมา ราวกับมันสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง
แล้วเมื่อต้วนหลิงเทียนก้าวเดินต่อไปอีกแค่ไม่กี่ก้าว
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ทันใดนั้นเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ก็เหมือนจะรอไม่ไหว พวกมันพลันพุ่งร่างไปด้านหน้าราวกับเส้นสายอัสนี สีขาวดำทันที
ต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่คิดลังเลเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของอสรพิษน้อย เขารีบพุ่งตัวตามพวกมันไปทันที
วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!
หลังจากที่พุ่งร่างตามมาสักพัก ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนก็สังเกตเห็นว่าเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 พลันหยุดร่างอยู่ตรงหัวมุมด้านหน้า ดวงตาสีทองและสีเงินของพวกมันทั้ง 2 จับจ้องไปด้านหน้าอย่างตกตะลึง
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต้วนหลิงเทียนก็รีบพุ่งตัวมาพร้อมหันไปดูในทิศทางนั้นทันที
"นั่นมัน…." ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนพลันเห็นว่าลึกสุดของถ้ำ มีแสงสีขาวนวลส่องสว่างเรืองรองอยู่
ทั้งขนาดยืนห่างอยู่ตรงนี้แต่ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ว่าพลังงานต้นกำเนิดทั่วร่างของเขากำลังปั่นป่วนขึ้นมา
อีกทั้งแกนพลังงานต้นกำเนิดในตันเถียนของเขาเองก็ดูเหมือนจะพลุ่งพล่านขึ้นมาเช่นกัน
"สถานที่นี้มันคืออะไรกันแน่?" ใบหน้าต้วนหลิงเทียนเต็มไปด้วยความฉงน เขาดับเปลวเพลิงหลอมโอสถในมือลงทันที เพราะมันไม่จำเป็นต้องจุดเปลวเพลิงใดๆ ตอนนี้ในถ้ำก็ส่องสว่างไปด้วยแสงสีขาวนวลตานั่น
ต้วนหลิงเทียนค่อยๆก้าวเดินไปด้านหน้าที่ละก้าวอย่างช้าๆ พร้อมอสรพิษน้อยทั้ง 2
จากการคำนวณ ตรงนี้สมควรเป็นกึ่งกลางของขุนเขาเทียนเฉวียน
ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ก้าวเดินออกมาจากทางเดินแคบๆ พร้อมก้าวเข้าไปยังโถงถ้ำที่กว้างและส่องสว่าง
อากาศที่นี่หนาวเย็นไม่น้อย อดไม่ได้ที่ต้วนหลิงเทียนจะบังเกิดความหนาวจนร่างกายสั่นเทิ้ม
แต่ทว่าเมื่อเขาเริ่มมองไปรอบๆ สองตาของเขาก็เบิกกว้างแทบถลนออกมาด้วยความตกตะลึง
ภายในโถงถ้ำนี้ส่องสว่างราวกับอยู่ใต้ดวงตะวัน ขนาดของมันเทียบเท่าห้องพักปกติ อีกทั้งด้านหน้ายังเป็นแอ่งอะไรสักอย่างที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ภายในแอ่งมีของเหลวสีขาวราวน้ำนมแทบล้นปรี่ …
ติ๋ง!
เสียงสะท้อนก้องกังวานเข้าหูของต้วนหลิงเทียนอย่างชัดเจน และเมื่อเขามองไป ก็เห็นว่ามีหยดของเหลวสีขาวนวลหล่นลงไปในแอ่งน้ำสีขาวตรงหน้าจนบังเกิดระลอกคลื่นวงกลมแผ่ออกมา
ต้วนหลิงเทียนพลันเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนทันที
สายตาของเขาก็เห็นถึงหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่มหึมา แทงยาวลงมา
"หินงอกหินย้อยแบบนี้มัน … " ต้วนหลิงเทียนได้ค้นในความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดด้วยความเร็ว หลังจากใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตระหนักรู้ได้ทันที ม่านตาของเขาพลันหดแคบลง "ไม่ผิดแน่ …นี่มัน นมผา 10,000 ปี?"
นมผา 10,000 ปี!
จากที่เขาค้นในความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด
นมผานี่ หากมีอายุ 100 ปีสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาได้ แต่ผลของมันมีน้อยนิดนัก
ส่วนนมผาที่มีอายุ 1,000 ปีนั้น เรียกได้ว่ามีสรรพคุณสูงมาก มันสามารถเพิ่มพูนและยกระดับพลังงานต้นกำเนิดได้ในระดับหนึ่ง ซ้ำยังสามารถเพิ่มศักยภาพพรสวรรค์ในเชิงยุทธ์ที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดได้เล็กน้อย
ทว่านมผาอายุ 10,000 ปีนี่ มันเป็นนมผาระดับสูงที่สุด!
นมผาอายุ 10,000 ปีนี้นับว่ามีสรรพคุณคล้าย นมผา 1,000 ปี ทว่ามันให้ผลเลิศล้ำกว่ากันอย่างเทียบไม่ติด
แม้กระทั่งจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดเอง ก็มีวาสนาได้พานพบนมผา 10,000 ปีนี่ เมื่อตอนที่ใช้ชีวิตที่ 2
และกล่าวได้ว่าการพานพบโดยบังเอิญนี้ ทำให้พรสวรรค์และศักยภาพของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดพุ่งขึ้นไปมากมายมหาศาล และเวลาที่เขาใช้ในการบ่มเพาะ จนตัดผ่านไปยังระดับจักรพรรดิอีกครั้ง ก็ใช้เพียงแค่ครึ่งหนึ่งของชีวิตแรก!
เรื่องนี้มันหมายความว่าอย่างไร?
นมผา 10,000 ปีนี่ มันสามารถเพิ่มศักยภาพและพรสวรรค์ตามธรรมชาติ ในเชิงยุทธ์ของผู้ฝึกยุทธ์ให้เลื่อนไปยังระดับสูงที่สุด!
"ให้ตายเถอะ! ข้าพบพานโชควาสนาครั้งใหญ่แล้ว! นี่มันมหาโชคลาภชัดๆ!" ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนแดงขึ้นเพราะความตื่นเต้น
เขาไม่คิดเลยว่าจะพานพบโชควาสนามหึมาขนาดนี้! ตัวเขาพึ่งเข้าร่วมนิกายกระบี่ 7 ดาว และพึ่งจะขึ้นเขาเทียนเฉวียนมาแค่ครึ่งวัน แต่เขาก็ได้พานพบนมผา 10,000 ปีแล้ว! นี่มันเป็นสิ่งที่คิดอยากจะหาก็หาไม่ได้ เพียงหวังพึ่งได้แต่โชควาสนาเท่านั้น !!
นอกจากนี้ในแอ่งนั่น ปริมาณนมผา 10,000 ปีอยู่ อย่างน้อยๆ ก็ …
ต้วนหลิงเทียนที่กำลังคิดในใจอย่างตื่นเต้น ก็หันไปมองแอ่งทีเต็มไปด้วยนมผาอย่างไม่รู้ตัว
ทว่าการมองไปครั้งนี้แทบทำให้ตาเขาถลนออกจากเบ้า!
"เสี่ยวเฮย เสี่ยวไป๋!" ม่านตาหลิงเทียนหดแคบลง เสียงของเขาตะโกนออกมาดังกึกก้อง จนขี้หูสั่นสะท้าน
สวรรค์!
นี่เขากำลังเห็นอะไรอยู่?
เจ้าอสรพิษน้อยตัวจ้อย 2 ตัว กำลังดื่มกินนมผา 10,000 ปีอย่างเริงร่า และแค่ผ่านไปไม่นาน พวกมันก็กินไปเสียจะครึ่งแอ่งนั่นแล้ว!
ต้วนหลิงเทียนที่กำลังตะลึงมองมันอยู่อีกครู่หนึ่ง พวกมันก็พลันอิ่มหนำพอดี แล้วเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ก็เริ่มเลื้อยไปหาที่นอน ก่อนที่จะหลับใหลไป ท้องของพวกมันทั้ง 2 ป่องนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด…
เมื่อมันหลับใหลไปแล้ว แสงสีเงินสีทองทอออกมาจากร่างกายของพวกมันทั้ง 2 วูบวาบกระพริบเรืองรอง
มุมปากของต้วนหลิงเทียนถึงกับกระตุก ตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าจับเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 มารีดนมผา ที่อยู่ในพุงน้อยๆของพวกมันออกมา! …นมผา 10,000 ปี จำนวนตั้งมากมาย แต่เพียงพริบตาเดียวพวกมันกลับกลืนหายไปเสียครึ่ง!
ต้วนหลิงเทียนเดินเข้ามา ก่อนที่จะหยิบขวดโอสถที่ไม่ได้ใช้ออกมาจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็เริ่มตักนมผา 10,000 ปีที่เหลือในแอ่งใส่ขวดโอสถ
หลังจากเก็บนมผา 10,000 ปีในแอ่งเข้าขวดจนเกลี้ยงแอ่งแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เงยหน้ามองหินงอกหินย้อยที่ให้กำเนิดนมผา 10,000 ปีด้านบน ทว่าหลังจากมองอยู่นานมันก็ยังไม่หยดลงมาเพียงบังเกิดนมผาจำนวนเล็กน้อยค่อยๆรวมตัวเท่านั้น
"ดูจากความเร็วในการกลั่นตัวแล้ว นมผา 10,000 ปี นี้ 2-3 เดือนควรกลั่นตัวหยดลงมาแค่เพียง 1 หยด … " ต้วนหลิงเทียนคิดคำนวณออกมาคร่าวๆ
สองตาของต้วนหลิงเทียนเบนไปมองเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวที่นอนพุ่งป่องหลับใหลไป พร้อมคิดในใจด้วยความอยากรู้อยากเห็น "เจ้าตัวน้อยทั้ง 2 ได้กินนมผา 10,000 ปีไปมากมายนัก นับเป็นมหาโชคของพวกมันโดยแท้ … ข้าสงสัยนักว่ามหาโชคครั้งนี้ จะทำให้พวกมันเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าไร "
อสรพิษน้อยทั้ง 2 นี่ เป็นเพียงสัตว์อสูรเท่านั้น และเท่าที่ดูศักยภาพและพรสวรรค์ของพวกมันก็หาได้ด้อยไปกว่าเสี่ยวจิน ที่เป็นหนูสวรรค์เนตรหยกแม้แต่น้อย
ตอนนี้พวกมันได้กลืนกินนมผา 10,000 ปีไปแล้ว ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มพูนศักยภาพและพรสวรรค์ของพวกมันได้อีกมากมาย กล่าวได้ว่าหลังจากนี้ความสามารถของพวกมันคงเรียกได้ว่าท้าทายสวรรค์แล้ว
"ถึงแม้ตรงนี้จะหนาวไปหน่อย ทว่าพลังวิญญาณและพลังงานฟ้าดินกลับหนาแน่นนัก … นับว่าเป็นสถานที่บ่มเพาะชั้นเลิศ" ต้วนหลิงเทียนเมื่อหาก้อนศิลาเรียบๆเหมาะสมได้ ก็ขึ้นไปนั่งขัดสมาธิทันที
เขาหลับตาลงก่อนที่จะเริ่มโคจรวิชาบ่มเพาะ 9 มังกรจักรพรรดิสงครามรูปแบบ นาคาพิโรธ ตรวจสอบดู …
ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อบ่มเพาะพลังภายในถ้ำนี้ พลังงานต้นกำเนิดในตันเถียนของเขา มันเพิ่มพูนกลั่นตัวได้รวดเร็วอย่างมาก ความก้าวหน้านับว่าห่างชั้นจากเมื่อก่อนลิบลับ
‘ข้าว่าแม้แต่สถานที่บ่มเพาะพลังที่ดีๆที่สุดของนิกาย กระบี่ 7 ดาวที่อยู่บนยอดเขาเทียนชู ยังไม่อาจเทียบได้กับถ้ำแห่งนี้ด้วยซ้ำ’ ต้วนหลิงเทียนคิดในใจ
‘ไม่คิดเลยว่าสถานที่เลิศล้ำเช่นนี้ จะซ่อนอยู่ในขุนเขาเทียนเฉวียนของนิกายกระบี่ 7 ดาว … หินงอกหินย้อยที่ให้กำเนิดนมผาเหล่านี้ดูไปแล้วคงมีอายุมากกว่า 10,000 ปีไปไกลโข จากบันทึกประวัติศาสตร์ นิกายกระบี่ 7 ดาวนี่ยังก่อตั้งมาได้ไม่ถึง 10,000 ปีด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าคนของนิกายกระบี่ 7 ดาวยังไม่ค้นพบสถานที่แห่งนี้ เพราะหากพวกมันพบเจอ นมผา 10,000 ปี คงไม่มีเหลือมาถึงข้า’
หลังจากโคจรพลังอยู่ครู่หนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
เขาสัมผัสได้ว่ายามนี้พลังงานต้นกำเนิดในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 ของเขา นั้นเต็มเปี่ยมและควบแน่นเป็นแกนได้อย่างมีเสถียรภาพ สมบูรณ์แบบแล้ว
"ตอนแรกข้าคิดว่าคงต้องใช้เวลาอีก 4-5 วันระดับพลังของขาจะมีเสถียรภาพ ไม่คิดเลยว่าเพียงนั่งบ่มเพาะเพิ่มพูนพลังในถ้ำหินย้อย 10,000 ปีนี่ จะทำให้ข้าเพิ่มพูนและกลั่นพลังงานต้นกำเนิดได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ มันสำเร็จเพียงแค่การเดินพลังรอบเดียวด้วยซ้ำ!" ใบหน้าต้วนหลิงเทียนเผยความประหลาดใจออกมา