สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 259 : การทดสอบคัดเลือกศิษย์สายนอก
บทที่ 259 : การทดสอบคัดเลือกศิษย์สายนอก
หลังจากที่ทำการคัดเลือกรอบแรกเสร็จสิ้นไปแล้ว ยังคงเหลือชายหนุ่มหญิงสาวอยู่เพียง 200 คนเท่านั้น
ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
คุณภาพของเหล่าอัจฉริยะมากพรสวรรค์ของอาณาจักรพนาครามนั้นไม่ใช่อะไรที่อาณาจักรนภาล่องจะเปรียบเทียบด้วยได้
ยังคงเหลือผู้คนอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ถึงแม้เกณฑ์คัดเลือกจะสูงขนาดนี้
"คนที่เหลือติดตามข้ามา!" ชายชรากล่าวออกมา ก่อนที่ตัวเขาและเหล่าศิษย์สายในทั้ง 2 คนของนิกายกระบี่ 7 ดาวจะนำกลุ่มต้วนหลิงเทียน และเหล่าผู้มาทดสอบคัดเลือก เดินเจ้าไปด้านใน ทั้งหมดเดินเรียงแถวมุ่งสู่ขุนเขาเทียนชู
ยอดเขาเทียนชูนับว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดของนิกายกระบี่ 7 ดาว!
ในระหว่างทางเสียงของชายชราพลันดังขึ้นมาว่า "ข้าเป็นผู้อาวุโสที่รับหน้าที่ทดสอบคัดเลือก รับศิษย์สายนอก … . เหลือขั้นตอนอีกเล็กน้อยพวกเจ้าในนี้ก็จะได้เข้าร่วมนิกายกระบี่ 7 ดาว …หากผ่านการทดสอบทั้งหมด พวกเจ้าจะได้เป็นศิษย์สายนอกของนิกายกระบี่ 7 ดาว!”
"แต่จะอย่างไรก็ตาม พวกเจ้าจะได้เป็นศิษย์สายนอกของนิกายกระบี่ 7 ดาวได้ดั่งฝัน พวกเจ้าก็ต้องผ่านการทดสอบนี้ไปให้ได้เสียก่อน"
ชายแก่ยังกล่าวต่อไปอีกว่า "และถึงแม้พวกเจ้าจะได้เป็นศิษย์สายนอกแล้ว ก็อย่าได้หลงระเริงไป …นิกายกระบี่ 7 ดาวของเรามีกฎอันเคร่งครัดอยู่ข้อหนึ่ง นั่นก็คือหากศิษย์นิกายคนใดที่มีอายุ 30 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้เลื่อนระดับเป็นศิษย์สายนอก มันผู้นั้นจะถูกขับไล่ออกจากนิกาย! "
คำกล่าวนี้ของชายชราทำให้หลายๆคนตกตะลึง
ศิษย์สายนอกที่ไม่อาจยกระดับตัวเองให้เป็นศิษย์สายในได้ก่อนอายุ 30 ปี จะถูกขับไล่ออกจากนิกาย?
"ข้าได้ยินมาว่า การที่จะเป็นศิษย์สายในของนิกายกระบี่ 7 ดาวได้ จำเป็นที่จะต้องตัดผ่านไปยังระดับ กำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 เป็นอย่างน้อย"
"แต่ที่ข้าได้ยินมานั้น การจะเป็นศิษย์สายในได้ ก็จำเป็นต้องผ่านการทดสอบเลื่อนระดับเสียก่อน แม้ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 จะขอทำการทดสอบได้ … แต่ส่วนมากมักมีแต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 เท่านั้นที่จะผ่านการทดสอบไปได้ "
…
เหล่าชายหนุ่มหญิงสาวต่างกระซิบกระซาบคุยกันในระหว่างเดินทาง
ถึงแม้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้จะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี ทว่าการที่จะตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 หรือ 8 ก่อนที่จะมีอายุ 30 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย
ครู่ต่อมาทุกคนก็บังเกิดความรู้สึกกดดัน
ต้วนหลิงเทียนที่เดินอยู่ท่ามกลางฝูงชนเมื่อได้ยินเรื่องราวพวกนี้ก็ไม่ได้แยแสอะไร เขายังคงเดินชมทิวทัศน์ไปพร้อมรอยยิ้ม
"ตัวเลวร้าย ต้องทะลวงผ่านระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 เช่นนี้ แล้วข้าจะมีโอกาสงั้นหรือ?" ลี่เฟยมองยังต้วนหลิงเทียนก่อนที่จะกล่าวถามออกมาอย่างกังวลไม่น้อย
ต้วนหลิงเทียนก้มหน้าเอาริมฝีปากมาจ่อหูของลี่เฟย ก่อนที่จะแกล้งเป่าลมใส่หูนางนางเบาๆ แล้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเย้ายวน "ตราบใดที่เจ้าเชื่อฟังข้า ข้ารับประกันให้เจ้าได้เลยว่า ข้าจะทำให้เจ้าตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 ก่อนที่จะมีอายุ 25 ปีด้วยซ้ำ เชื่อข้าหรือไม่? "
"ตัวเลวร้าย เจ้าอย่าได้โกหกคำโตแล้ว!" ลี่เฟยหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาดุเล็กน้อย ถึงแม้ใบหน้าของนางจะแดงระเรื่อขึ้นมาก็เถอะ
ตอนนี้ชายหนุ่มมากมายที่เดินอยู่ในแถวก็มองไปที่ต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาอิจฉา สายตาของพวกมันแลดูก้าวร้าวราวกับจะพุ่งมาจับต้วนหลิงเทียนกับลี่เฟยแยกจากกันอย่างไรอย่างนั้น เมื่อเห็นทั้งคู่สนิทสนมกัน
แต่คนอย่างต้วนหลิงเทียนก็ไม่เคยจะใส่ใจอะไรสายตาผู้อื่นอยู่แล้ว
ไม่นาน ผู้คนเกือบ 200 คนก็เดินตามหลังชายชรามาถึง ครึ่งทางก่อนที่จะถึงยอดเขาเทียนชู
ตรงนี้มีลานหินกว้างใหญ่ และใกล้ๆกับลานหินก็มีผู้คนยืนอยู่จำนวนหนึ่ง
ต้วนหลิงเทียนเองก็กวาดสายตามองไปทั่วๆ และด้วยสายตาอันคมกริบเขาก็เห็นได้อย่างรวดเร็วว่า มีทั้งหมด 6 คนที่ยืนอยู่
5 ใน 6 คนนี้เป็นชายชรา และด้านหลังชายชราเหล่านั้นก็มีชายหนุ่ม 3-4 คนยืนอยู่ด้านหลัง
ชายชราเหล่านี้เป็นผู้อาวุโสของนิกายกระบี่ 7 ดาวทั้งสิ้น ส่วนชายหนุ่ม 3-4 คนที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ดูเหมือนจะเป็นศิษย์สายนอกของนิกาย
ส่วนอีก กลุ่มหนึ่งนั้นเป็นสตรีทั้งหมด
ถึงแม้ว่าชุดเครื่องแต่งกายของศิษย์สตรีของนิกายกระบี 7 ดาว จะมีสีเขียวเหมือนกัน แต่รูปแบบชุดก็แลดูแตกต่างจากของบุรุษ มันแลดูเข้มแข็งทว่านุ่มนวลอ่อนช้อยออกแบบมาได้รับกับสรีระของสตรีเพศ ทำให้ผู้สวมใส่เคลื่อนไหวสะดวกสบาย และแลดูเรียบร้อยไม่น่าเกลียด
ผู้ที่ยืนด้านหน้ากลุ่มสตรี ก็เป็นสตรีที่หน้าตางดงามหมดจดคนหนึ่ง ซ้ำลายปักสีทองยังบ่งบอกว่านางเองก็มีฐานะเป็นผู้อาวุโสเช่นกัน
เบื้องหลังสตรีอาวุโสก็เป็น ศิษย์สตรี 3 คน พวกนางทั้งหมดล้วนเป็นศิษย์สายนอกของนิกาย
ต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆ ตามผู้อาวุโสที่ทำการทดสอบขึ้นไปยืนอยู่บนลานหิน
ทว่าตอนนั้นเอง สตรีอาวุโสที่งดงามก็เดินเข้ามาพร้อม ศิษย์สตรีสายนอกทั้ง 3 โดยที่ชายชราทั้ง 5 ไม่ได้เข้ามาแต่อย่างใด พวกนางเดินไปรอบๆ ก่อนที่จะถอยกลับไปหาผู้อาวุโสที่รับหน้าที่ทดสอบ
‘จะทำอะไรกัน?’ ต้วนหลิงเทียนสงสัยในใจ
แต่เขาก็ได้รับคำตอบอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสที่รับหน้าที่ทดสอบกวาดสายตามองมาทางนี้ ก่อนที่จะกล่าวคำออกมากับต้วนหลิงเทียน "สตรีทั้ง 2 ที่อยู่ข้างเจ้าไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบคัดเลือกศิษย์อะไรอีกต่อไป พวกนางสามารถเป็นศิษย์นิกายสายนอกได้ในทันที … ตอนนี้ให้พวกนางติดตามผู้อาวุโสของขุนเขาเหยากวง ไปยังขุนเขาเหยากวง และทำเรื่องเป็นศิษย์ของขุนเขาเหยากวงได้เลย "
คำที่ผู้อาวุโสทดสอบกล่าวออกมา ทำให้ชายหญิงที่ยืนอยู่บนลานหินตกตะลึง
ยิ่งใบหน้าสตรีทั้งหลายยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่
ได้รับการยกเว้นไม่ต้องทดสอบ? กลายเป็นศิษย์สายนอกของนิกายกระบี่ 7 ดาวโดยตรง?
ผู้คนถึงกับตะลึงงัน เรื่องเช่นนี้ก็มีด้วยหรือ?
ตอนนี้บุรุษหลายคนเริ่มบังเกิดความคิดสัปดนขึ้นมา ยามนี้พวกมันชักอยากจะเป็นสตรีดูบ้างแล้ว …
ศิษย์สตรี ที่หน้าจาหมดจดเรียบร้อยที่ติดตามผู้อาวุโสสตรี ก้าวออกมาพร้อมเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงสงบไร้อารมณ์ "ศิษย์น้องหญิง ตามข้ามา"
"พวกเจ้าไปเถอะ" ต้วนหลิงเทียนยิ้มก่อนที่จะกล่าวออกมากับ สตรีทั้ง 2 ข้างกาย
เมื่อเห็นสาวน้อยทั้ง 2 ยังคงแสดงท่าทีลังเล ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวออกมา "เดี๋ยวข้าจะไปหาพวกเจ้าเอง หลังจากที่เป็นศิษย์สายนอกได้แล้ว"
สาวน้อยทั้ง 2 ทำได้เพียงพยักหน้าหลังจากได้ยินว่าต้วนหลิงเทียนกล่าวอะไร แล้วพวกนางก็เดินตามหลังศิษย์สตรีไป
ดูเหมือนว่าในบรรดาเหล่าสตรีทั้งหมด เค่อเอ๋อและลี่เฟยจะโดดเด่นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ในระหว่างที่เดินทางมา เนื่องจากมีผู้คนมากมายหลายคนจึงไม่มีใครได้เห็นรูปร่างหน้าตาของพวกนางได้ชัดเจน แต่มายามนี้เมื่อเหลือสตรีอยู่เพียงราวๆ 30 คน เมื่อเค่อเอ๋อ ลีเฟยเดินออกไป ทุกคนก็สามารถเห็นพวกนางได้กระจ่าง
"ช่างงดงามยิ่งนัก!" เหล่าบุรุษล้วนจับจ้องลี่เฟยและเค่อเอ๋อกันตาเป็นประกาย
แม้กระทั่งสตรีที่งดงามอย่าง อาวุโสไป่ เองก็อดไม่ได้ที่จะมองพวกนางด้วยดวงตาทอประกายเรืองวูบ แฝงไว้ด้วยความประหลาดใจไม่น้อย
ไม่ใช่ว่านางจะไม่เคยเห็นสตรีที่งดงามถึงเพียงนี้
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ยากก็คือ สตรีที่มีใบหน้างดงามหมดจดปานเทพธิดา ซ้ำยังมีพรสวรรค์สูงจนน่าตะลึงนั้น ไม่ใช่หาได้ง่ายๆ
สตรีที่สวยงามทว่ามีพรสวรรค์ธรรมดานั้น สุดท้ายมิแคล้วก็ต้องตกเป็นรางวัลชีวิตของบุรุษ สิ้นสุดหนทางของความแข็งแกร่งหลังกลับกลายเป็นภรรยา
ครู่ต่อมา อาวุโสไป่ก็กล่าวคำกับผู้อาวุโสที่รับหน้าที่ทดสอบอยู่ 2-3 คำ ก่อนที่นางจะนำพากลุ่มสตรีเดินจากไป เห็นได้ชัดว่านางคิดเดินทางกลับขุนเขาเหยากวงแล้ว
"ข้าเองก็ได้ยินมานานแล้ว ว่าขุนเขาเหยากวงนี้รับเพียงศิษย์สตรีเท่านั้น … ข้าไม่คิดเลยว่าสุดท้ายเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริง" ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมา ด้วยความประหลาดใจ
"มิผิด … สตรีที่ยังเป็นเพียงศิษย์สายนอกนั้น จะมีเพียงที่ขุนเขาเหยากวงเท่านั้น ส่วนศิษย์สตรีสายในนั้น มีบ้างที่จะอยู่ขุนเขาเทียนชู แต่อายุของพวกนางก็หาใช่วัยแรกแย้มอีกต่อไป" ในขณะที่ชายหนุ่มคนนี้กล่าวจบ สีหน้ามันก็แลดูจะเสียดายเล็กน้อย
"เฮ่อ ข้าล่ะอิจฉาพวกนางจริงๆ พวกนางได้เป็นศิษย์สายนอก โดยไม่ต้องทดสอบอันใดต่อเช่นนี้" หลายคนเริ่มรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
"แต่อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ก็พอเข้าใจได้ แน่นอนว่าผู้อาวุโสที่เป็นสตรีก็ย่อมมีความสามารถ ในการมองหาสตรีที่มีพรสวรรค์ และเงื่อนไขในการคัดเลือกศิษย์ก็คงไม่เหมือนกันกับบุรุษเสียทีเดียว อีกทั้งพวกนางเองก็ผ่านเงื่อนไขแรกมาได้ … เช่นนั้นการที่พวกนางได้รับเลือกเป็นศิษย์สายนอกโดยตรงก็นับว่าเหมาะสมแล้ว" ชายคนหนึ่งกล่าวออกมา
ทุกคนที่ได้ยินก็พอเข้าใจเรื่องราวได้
สตรีย่อมเกิดมาอ่อนแอกว่าบุรุษ
สายตาของต้วนหลิงเทียนนั้นยังคงจับจ้องไปยังแผ่นหลังของลี่เฟยและเค่อเอ๋อ ที่เดินตามผู้อาวุโสไป่ของขุนเขาเหยากวง ขึ้นเขาเทียนชูไป จนลับสายตา
สุดท้ายที่ยังเหลืออยู่บนลานหินที่รอการทดสอบจากผู้อาวุโสก็เหลือเพียงเหล่าชายหนุ่ม ที่นับรวมต้วนหลิงเทียนแล้ว 150 คน
ผู้อาวุโสกวาดสายตามองไปรอบๆ
ทุกคนพลันยืนตรงโดยอัตโนมัติ
"เอาล่ะ สุดท้ายพวกเจ้าจักต้องเหลือเพียง 100 คนเท่านั้น … ในอีกแง่หนึ่งก็คือก็คือ 53 คนในหมู่พวกเจ้าต้องถูกคัดออก!" ผู้อาวุโสที่ทำหน้าที่ทดสอบจับจ้องไปยังชายหนุ่มทุกคนด้วยสายตาคมกล้า ทำให้บางคนบังเกิดอาการประหม่าขึ้นมา
ตอนนี้ทั้งหมดเหลือกันอยู่ 153 คน
นั่นคือกว่า 1 ใน 3 กำลังจะถูกคัดออก
"อืม..น่าสงสัยนัก ว่าจะทดสอบยังไง" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาเบาๆ เขาค่อนข้างอยากรู้ไม่น้อย
แต่จะอย่างไรต้วนหลิงเทียนก็มั่นใจว่าจะผ่านได้แน่นอน 100% เลยไม่กังวลอะไรมากมาย
"หืม?" ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เพราะอยู่ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอำมหิต และจิตสังหารที่น่าหวาดหวั่นของผู้อาวุโสทดสอบกดทับลงมายังผู้คน แน่นอนตัวเขาก็ด้วย …
กลิ่นอายและแรงกดดันนี้แน่นอนต้องอยู่ในระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ
นอกจากนี้มันยังไม่ใช่แรงกดดันจากผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติธรรมดาๆ!
‘ไม่คิดเลย ว่าผู้อาวุโสคนนี้จะมีระดับบ่มเพาะสูงถึงแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 7!’ ต้วนหลิงเทียนแปลกใจเล็กน้อย แต่จะอย่างไรกลิ่นอายและจิตสังหารนี้ก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้มากนัก เพราะพลังวิญญาณของต้วนหลิงเทียนเองก็สูงจนเทียบเท่าระดับวิญญาณแรกก่อตั้งไปแล้ว
และไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ความอดทนทางจิตวิญญาณและจิตใจของเขาไม่ใช่อะไรที่คนอื่นจะเทียบได้
เขาเองก็เป็นคนที่มีประสบการณ์ชีวิต 2 ชาติแล้ว จิตสังหารทั้งหลายแหล่เขาเจอมาจนชิน
ต้วนหลิงเทียนสังเกตได้ในทันทีว่าเพียงแค่เริ่ม ก็มีชายหนุ่มที่ไม่อาจต้านทานแรงกดดันและจิตสังหารนี้ได้ ทรุดตัวลงไปนับสิบคน และดูท่าแล้วเหล่าชายหนุ่มที่ทรุดตัวล้มลงไป ยากที่จะยืนหยัดขึ้นมาอีกครั้ง …
สำหรับพวกเขาแล้ว การต้านทานแรงกดดันและจิตสังหารจากผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 7 เป็นอะไรที่หนักหนาเกินไป!
ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็สังเกตได้ว่ามีคนเริ่มทรุดตัวลงมากขึ้นเรื่อยๆ
ตุบ! ฟุ่บ! วู้มมม! ซู่มมม! ซู่มมม!
…
เหนือศีรษะของผู้คนยามนี้เริ่มบังเกิดร่างเงาช้างแมมมอธโบราณขึ้นมากันจ้าละหวั่น ดูเหมือนเหล่าชายหนุ่มที่เหลือจะเริ่มคิดได้ พวกมันเริมโคจรพลังงานต้นกำเนิดใช้ความเข้มแข็งต่อต้านจิตสังหาร ของผู้อาวุโสคัดเลือก
เพียงพริบตาเหนือฟากฟ้าก็เต็มไปด้วยร่างเงาช้างแมมมอธโบราณ จนไม่อาจแยกได้ว่ามันเป็นเงาร่างช้างแมมมอธของใครกันแน่
ตุบ! คร่อก!
ครู่ต่อมาชายหนุ่มอีกคนหนึ่งก็ทรุดตัวล้มลงไปนอนน้ำลายฟูมปาก
เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างช้าๆ
ตอนนี้ยังเหลือชายหนุ่มที่ยืนอยู่เพียง 127 คนเท่านั้น
ตอนนี้ทุกคนก็รู้ได้เป็นอย่างดีว่า แรงกดดันและจิตสังหารที่อยู่ๆก็แผ่ซ่านกดทับออกมาอย่างฉับพลันนี้ เป็นแรงกดดันจากผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ และยังเป็นการทดสอบคัดเลือกที่พวกเขาต้องเผชิญ … ..
เหล่าชายหนุ่ม 10 คนแรกที่ทรุดตัวลง และนอนอยู่บนพื้นอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความเสียดาย ใยหน้าของมันเต็มไปด้วยความขมขื่น จนปัญญา
พวกมันรู้ดีว่าไร้วาสนาต่อนิกายกระบี่ 7 ดาวแล้ว!
ในบรรดาชายหนุ่ม 127 คนที่เหลือ มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ยังยืนหยัดตระหง่านได้ ดั่งเขาไท่ซาน
คนส่วนใหญ่ยามนี้ยืนขาสั่นพั่บๆ แลดูราวกับจะทรุดลงได้ตลอดเวลา
พวกมันกัดฟันแน่นดังกรอดๆ สองหมัดกำแน่นจนข้อขาว เหงื่อกาฬไหลหลั่งชโลมกาย
พวกมันรู้ดีว่า ตราบใดที่มีอีก 27 ล้มลงไป และพวกมันยังยืนหยัดอยู่ได้ มันจะเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบ!
"ฮ้าวววว…น่าเบื่อจริงๆ" ต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่กลางฝูงชนเริ่มหาวออกมา เขาเริ่มบิดร่างกายด้วยความเกียจคร้าน …