สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 251 : รายการสุดท้ายของการประมูล...
บทที่ 251 : รายการสุดท้ายของการประมูล…
สุดท้ายอาคมดาบแสงทะลวงนี้ ก็ถูกผู้เข้าร่วมประมูลในห้องส่วนตัวหมายเลข 7 ชนะการประมูลไปด้วยราคา 1,600,000 เหรียญทอง
ยามนี้เสียงประหลาดใจพลันดังขึ้นในห้องโถงอย่างจ้าละหวั่น
"ช่างแปลกนัก ที่ครานี้แขกในห้องส่วนตัวหมายเลข 1 ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร"
"นั่นสิ ช่างแปลกยิ่งนัก"
"อาคมดาบแสงทะลวงนี้ นับว่าเป็นสิ้นค้าชั้นยอด แม้ว่ามันจักเป็นเพียงสินค้าที่ใช้แล้วทิ้ง แต่หากเทียบกับหนูขนทองแล้ว ยังนับว่ามีประโยชน์กว่ากันอยู่บ้าง"
…
ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากจะหัวร่อให้ฟันหัก เมื่อได้ยินคำกล่าวสนทนาของผู้คนด้านล่าง
อาคมดาบแสงทะลวง?
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาจะต้องเสียเงินซื้อมันด้วยซ้ำ เพราหากเขาต้องการเมื่อไหร่ เขาแค่จารึกมันขึ้นมาเองเสียก็สิ้นเรื่อง
นอกจากนี้ค่าวัตถุดิบที่ใช้ในการจารึก เต็มที่ก็ไม่เกิน 3,000,000 เหรียญเงิน หรือ 30,000 เหรียญทอง
เท่าที่เขารู้ก็คือคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 7 นี่ ถูกดูดเงินไปถึง 1,600,000 เหรียญทอง เพื่ออาคมจารึกดาบแสงทะลวงไร้สาระนี่!
"ข้าคาดไม่ถึงจริงๆว่าสถานะของผู้จารึกอาคมจะมีค่ามากถึงเพียงนี้ … เพียงอาคมจารึกง่ายๆอย่างอาคมดาบแสงทะลวง กลับสามารถขายได้ในราคาที่สูงขนาดนี้" ต้วนหลิงเทียนถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์สะทกสะท้อน
และอดไม่ได้ที่เขาจะคิดเล่นๆขึ้นมา
เมื่อถึงเวลาที่เขายากจนจนไม่อาจจะซื้อข้าวสารกรอกหม้อ เขายังคงหยิบอาคมจารึกที่จารึกเอาไว้ออกมาขายทิ้งเล่นๆ และดูท่ามันน่าจะได้กำไรอย่างงดงามมหาศาล
น้ำเสียงของชายชราบนเวทีประมูลดังขึ้นอีกครั้ง และครานี้ยังแฝงความตื่นเต้นเอาไว้เล็กน้อย “เอาล่ะท่านแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ของชิ้นต่อไปนับว่าเป็นรายการสุดท้ายในการประมูลครั้งนี้แล้ว… อันที่จริงตามแผนการเดิมของโรงประมูลตระกูลหม่าเรา อาคมดาบแสงทะลวงสมควรเป็นรายการสุดท้าย…”
"แต่ทว่ารายการประมูลชิ้นสุดท้ายนี้ ทางโรงประมูลของตระกูลหม่าเรากลับได้รับมันมาจากแขกผู้มีเกียรติท่านหนึ่งในนาทีสุดท้าย!" ในขณะที่กล่าวคำนี้ ใบหน้าของชายชราแดงขึ้นมาไม่น้อย
ภาพนี้กลับยิ่งทำให้ผู้คนในโรงประมูลบังเกิดความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นไปอีก ว่ามันเป็นอะไรกันแน่ถึงทำให้ชายชราตื่นเต้นได้ถึงเพียงนี้?
"ตาเฒ่า เจ้าเลิกตีรวนอ้อมค้อมได้แล้ว รีบกล่าวเร็วเข้าว่ามันคืออันใด"
"ใช่ จะอย่างไรมันก็เป็นรายการสุดท้ายแล้ว อย่าได้ลีลาอันใดได้หรือไม่ รีบเอามันขึ้นมาเร็วเข้า!"
…
ทั้งโถงประมูลเต็มไปด้วยเสียงดังอื้ออึงภายในเวลาไม่นาน
ยามนี้ทุกคนล้วนให้ความสนใจกับรายการสุดท้ายที่จะออกประมูล
พวกเขาย่อมเข้าใจได้อย่างชัดแจ้ง จาการสังเกตท่าทางของชายชราที่ดำเนินการประมูล ดูท่าแล้วสิ่งของที่จะนำออกประมูลเป็นรายการสุดท้ายนี้ คงมีราคาไม่ต่ำไปกว่าหนูขนทองและอาคมจารึกดาบแสงทะลวงเป็นแน่
ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข 1
"นี่! ตัวเลวร้าย ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าทางโรงประมูลจะเอาโอสถเร่งพลังกำเนิดของเจ้ามาประมูลเป็นรายการสุดท้ายเช่นนี้" ลี่เฟยจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนอย่างไม่ลดละ ดวงตาคู่สวยของนางเต็มไปด้วยประกายความใคร่รู้ "ข้าสงสัยนัก ว่าราคาปิดประมูลสุดท้ายของโอสถเร่งพลังกำเนิดที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่า 90% ที่เจ้าหลอมขึ้นมาได้นี้จะมากมายสักเท่าไร… "
ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนเองก็เต็มไปด้วยความอยากรู้เช่นกัน "อีกไม่ช้าเราก็จะได้รู้กันแล้ว ว่ามันจะประมูลได้เท่าไร"
ครู่ต่อมาทุกสายตาที่ต่างจับจ้องชายชราเมื่อครู่ก็เบนไปมองยังสิ่งของบนพานแดงในมือเด็กสาวที่เดินขึ้นมาหาชายรา และเมื่อผ้าสีแดงถูกดึงออกไป
ขวดโอสถพลันปรากฏสู่สายตาผู้คนอีกครั้ง
"อะไร เป็นโอสถอีกครั้งเช่นนั้นรึ?"
ทันใดนั้นเองโถงประมูลก็ราวกับมีระเบิดแห่งความวุ่นวายปะทุขึ้นมา
"หรือว่ามันจะเป็นโอสถสู่ธรรมชาติ?"
"อาจเป็นได้ … ไม่สิ ย่อมมิผิดแน่ มันต้องเป็นโอสถสู่ธรรมชาติ ถึงจักมีราคามากพอที่จะนำมาเป็นรายการสุดท้ายในงานประมูลนี้"
"หากเป็นโอสถสู่ธรรมชาติจริง แน่นอนว่าราคาของมันย่อมเหนือกว่าหนูขนทองก่อนหน้านี้ มันเป็นถึงโอสถที่จะช่วยให้ผู้ที่ติดอยู่ในระดับครึ่งก้าวสู่ธรรมชาติ สามารถทะลวงผ่านไปยังระดับแรกสัมผัสธรรมชาติได้โดยตรง"
…
ตอนนี้ผู้คนจำนวนมากล้วนคาดเดากันไปว่า โอสถในมือของชายชราย่อมเป็นโอสถสู่ธรรมชาติไม่ผิดแน่
เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว จากทั้งหมดที่รู้กัน มีเพียงโอสถสู่ธรรมชาติเท่านั้น ที่มีราคามากพอที่จะนำมาเป็นสินค้าในรายการสุดท้ายของการประมูลเช่นนี้
"โอสถสู่ธรรมชาติงั้นรึ?" ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนนั้นอดไม่ได้ที่จะตะลึงกับจินตนาการอันเลิศล้ำของผู้คนในโรงประมูลที่ต่างจากความจริงไปได้ไกลโข
ชายชราพลันยกมือขึ้นเพื่อระงับเสียงอื้ออึงภายในโถงประมูล "แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน โอสถที่อยู่ในมือของข้าหาใช่โอสถสู่ธรรมชาติไม่"
"อะไร หาใช่โอสถสู่ธรรมชาติเช่นนั้นรึ?"
ครู่ต่อมาทุกคนที่อยู่ในโถงประมูลพลันสับสนอลหม่าน
ไม่ใช่โอสถสู่ธรรมชาติ?
แล้วมันเป็นโอสถอันใดกัน
ภายใต้ทุกสายตาที่จับจ้องมา ชายชราพลันกล่าวออกมาอย่างช้าๆ "ภายในขวดโอสถที่มือข้าถืออยู่นี้ มีเพียงโอสถเร่งพลังกำเนิด แค่ 1 เม็ดเท่านั้น!"
โอสถเร่งพลังกำเนิด?
ครู่ต่อมาทุกผู้คนในโถงประมูลล้วนทำหน้าเหรอหราราวตัวโง่งม
อะไร? กลับนำโอสถเร่งพลังกำเนิดออกประมูลอีกครั้ง?
ซ้ำยังมีเพียงแค่ 1 เม็ด?
อย่างไรก็ตามไม่มีใครคิดกล้าโวยวายเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมา เพราะในตอนแรกโอสถเร่งพลังกำเนิด 10 เม็ดที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 75% ก็โผล่ออกมาแล้ว ยามนี้พวกเขาทำได้เพียงเตรียมตัวเตรียมใจเท่านั้น
"ยามนี้ทุกคนคงประหลาดใจไม่น้อย ว่าเพราะเหตุใดโรงประมูลตระกูลหม่าของเรา จึงหยิบยกโอสถเร่งพลังกำเนิดออกมาประมูลเป็นรายการสุดท้ายเช่นนี้… " ยามกล่าววาจาถึงตรงนี้ชายชราพลัน ระงับคำเอาไว้ ปล่อยให้ทุกคนได้ฉุกใจคิด
"ชายชราคนนี้นับว่าเชี่ยวชาญด้านการจัดประมูลไม่น้อย" ต้วนหลิงเทียนที่อยู่ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข 1 เมื่อเห็นการกระทำของชายชราก็อดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มออกมา
ลี่เฟยและเค่อเอ๋อเองก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าตอบรับ
หากไม่ใช่ว่าเพราะพวกนางย่อมรู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายชายชราจะกล่าวอย่างไร เกรงว่าพวกนางก็คงต้องลุ้นระทึกมากมายตามไปด้วย
และสุดท้ายชายชราพลันกล่าววาจาออกมาอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น "แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน เราผู้ชราขอกล่าววาจารับรองออกมาได้เลยว่า มูลค่าของโอสถเร่งพลังกำเนิดเม็ดนี้ ย่อมมิได้ด้อยไปกว่าโอสถสู่ธรรมชาติแต่อย่างใด!"
"มารดามันเถอะ! ตาเฒ่า! เจ้ารีบกล่าวอย่างตรงไปตรงมาเสียที!"
"บัดซบข้าเองก็คิดว่าเจ้าจะบอกกล่าวออกมาแล้ว แต่กลับกลายเป็นตีรวนพวกเราอีกครั้ง!"
…
การกระทำของชายชราก่อให้เกิดมวลอารมณ์ขุ่นเคืองของทุกผู้คนอย่างแท้จริง
ชายชราหัวเราะออกมาอย่างเขินอายก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าของมันแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "ท่านแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย ทุกเรื่องราวที่ข้ากล่าวก่อนหน้านี้หาได้ไร้สาระแต่อย่างใด โอสถเร่งพลังกำเนิดในมือของข้านี้ เกรงว่าทุกท่านคงไม่อาจหามันได้จากที่ไหนอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรพนาคราม หรือแม้แต่ราชวงศ์ฮั่นยิ่งใหญ่ ก็มิมีทางที่จะมีมันอีกเป็นเม็ดที่ 2!!”
"เพราะว่า … หลังจากที่ท่านหูจวิ้นต้าเหรินดำเนินการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของเม็ดยานี้ด้วยตัวท่านเอง…ท่านก็พบว่าความบริสุทธิ์ของโอสถเร่งพลังกำเนิดเม็ดนี้มันได้บรรลุถึงความบริสุทธิ์ที่ระดับ 91%!!" ในขณะที่ชายชรากล่าวท่าทางของเขาแลดูตื่นเต้นอย่างมาก
ปึงงงงง!!
ดั่งโยนหนึ่งศิลาก่อเกิดพันระลอก
เพราะทันทีที่กล่าวจบผู้คนกว่าครึ่งล้วนลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง พวกเขาลุกขึ้นมาด้วยความสั่นสะท้าน
"ว่ากระไร! โอสถเร่งพลังกำเนิดที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 91%!?"
แม้จะเป็นเพียงโอสถที่มีความบริสุทธิ์แค่ 80% นั่นก็เป็นโอสถที่ดำรงอยู่แต่ในตำนานเล่าขานแล้ว ..โอสถเร่งพลังกำเนิดที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 91% นี่ แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีอยู่จริง!
"หากเรื่องนี้เป้นความจริง เช่นนั้นโอสถเร่งพลังกำเนิดเม็ดนี้ก็สมควรมีราคาสูงกว่าโอสถสู่ธรรมชาติ!"
“นั่นย่อมแน่นอน! ถึงแม้โอสถสู่ธรรมชาติจะมีคุณค่าสมราคา แต่มันก็มักจะปรากฏขึ้นบ่อยครั้งตามโรงประมูลใหญ่ของอาณาจักรพนาคราม แต่โอสถเร่งพลังกำเนิดเม็ดนี้…ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่มันมีความบริสุทธิ์สูงถึง 91% เลยด้วยซ้ำ ขอแค่เพียง 80% มันก็เป็นสิ่งที่มิเคยปรากฏขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรพนาครามนี้แล้ว”"
"โอสถเร่งพลังกำเนิดนี้มีความสำคัญอันพิเศษนัก!"
…
กลุ่มคนที่ลุกขึ้นยืนเริ่มเอนหลังลงมานั่งอีกครั้ง
"เจ้าจักให้ข้าตรวจสอบโอสถเม็ดนี้สักหน่อยจะได้หรือไม่" ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงชายชราคนหนึ่งดังขึ้นจากห้องส่วนตัวในชั้น 2
ต่อมาภายใต้ทุกสายตาที่หันไปจับจ้อง พวกเขาก็เห็นชายชราคนหนึ่ง พลันเปิดกระจกออก และกระโดดลงมาจากหน้าต่าง ก้าวเดินไปยังเวทีประมูล
ชายชราคนนี้สวมใส่ด้วยชุดสีเขียวสดใส สายตาของเขาเต็มไปด้วยความคมกล้าบ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง ท่วงท่ายามยืนอยู่แลดูพิเศษนัก
"ผู้หลอมโอสถระดับ 7 งั้นรึ?" ดวงตาที่เฉียบคมราวกับเหยี่ยวของต้วนหลิงเทียนจับจ้องไปยังสัญลักษณ์ผู้หลอมโอสถบนเสื้อคลุมของชายชราได้ในพริบตา
แน่นอนว่าตราสัญลักษณ์นี้ เป็นตราแสดงตำแหน่งผู้หลอมโอสถระดับ 7
"ผู้หลอมโอสถระดับ 7!" ครู่ตอมาก็เริ่มมีผู้คนที่ระบุตำแหน่งของชายชราชุดเขียวผู้นี้ได้ กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
ชายชราที่สวมชุดคลุมสีเขียวสดใสมองไปยังชายชราที่ทำหน้าที่ดำเนินการจัดการประมูล พร้อมค่อยๆกล่าวออกมาว่า "ข้าเป็นผู้หลอมโอสถที่ถูกส่งมายังเมืองวายุทมิฬแห่งนี้ โดยสมาคมผู้หลอมโอสถสาขาหลักประจำเมืองหลวงของอาจักรพนาคราม และในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้ ตัวข้าจะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถประจำเมืองวายุทมิฬแห่งนี้อย่างเป็นทางการ "
เมื่อชายชราชุดเขียวกล่าวจบคำ เสียงในห้องประมูลก็ดังอื้ออึงขึ้นมาอีกครั้ง
ที่แท้ ชายชราชุดเขียวที่พึ่งปรากฏตัวออกมาผู้นี้ กลับเป็นสมาชิกของสมาคมผู้หลอมโอสถ!
นอกจากนี้เขายังเป็นหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถของเมืองวายุทมิฬคนใหม่แห่งนี้อีกด้วย!
หลังจากเมื่อ 3 ปีที่แล้วหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถของเมืองวายุทมิฬ อันเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 7 ได้ตกตายลงจากอุบัติเหตุไม่คาดฝันประการหนึ่ง ตำแหน่งหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถของเมืองวายุทมิฬแห่งนี้ ก็ได้รับการรักษาการณ์โดยผู้หลอมโอสถระดับ 8 มาโดยตลอด
ไม่มีแม้แต่ผู้เดียวที่คาดคิด ว่าหลังจากที่เวลาล่วงเลยผ่านไป 3 ขวบปี สมาคมผู้หลอมโอสถสาขาหลักของเมืองหลวงแห่งอาณาจักรพนาครามจะส่งผู้หลอมโอสถคนใหม่มาดำรงตำแหน่งเช่นนี้
"ที่แท้ เป็นท่านหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถคนใหม่นี่เอง" ชายชราที่ทำหน้าที่ดำเนินการประมูลส่งมอบขวดโอสถในมือให้แก่ชายชราที่สวมชุดสีเขียวสดใส
เขาไม่ได้กังวลแม้แต่นิด ว่าชายชราชุดเขียวผู้นี้จะแย่งชิงโอสถเร่งพลังกำเนิดที่มีความบริสุทธิ์มากถึง 91% เม็ดนี้ไป
เพราะในโรงประมูลของตระกูลหม่ายามที่จัดประมูลนี้ จะมีผู้ฝึกยุทธ์ระดับครึ่งก้าวธรรมชาติเฝ้าระวังอยู่ถึง 3 คน ที่คอยควบคุมเรื่องราวในงานประมูล
หากท่านมิมีผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติคอยคุ้มครอง อย่างได้หมายก่อการปล้นชิงสินค้าใดๆจากโรงประมูล
ชายชราสวมชุดสีเขียวสดก็รับขวดโอสถออกมา ก่อนที่จะเริ่มทำการตรวจสอบโอสถด้านในด้วยความระมัดระวังถึงขีดสุด …
ไม่นานหลังจากนั้นทั้งร่างของเขาก็สั่นสะท้าน มือที่ถือโอสถสั่นเป็นระวิง เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อว่า "เป็นเช่นนั้นจริงๆ … มันเป็นโอสถเร่งพลังกำเนิดที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 91%!"
ชายชราชุดสีเขียวพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ เมื่อเขาใจเย็นลงแล้วก็ส่งมอบโอสถในมือ คืนสู่มือของชายชราผู้จัดการประมูล ก่อนที่จะกล่าวถามออกมาด้วยความกระวนกระวายว่า "ท่านสามารถบอกข้าได้หรือไม่! ว่าผู้ที่ส่งโอสถเร่งพลังกำเนิดเม็ดนี้เข้าร่วมประมูลเป็นผู้ใด ?"
"อ่า…เรื่องนี้ เกรงว่าข้าต้องขออภัย ต่อท่านหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถแล้ว ตัวตนของผู้ที่นำสินค้าเข้าร่วมการประมูลของโรงประมูลตระกูลหม่าเรา จะถูกรักษาความลับเอาไว้อย่างดี มิมีวันแพร่งพรายเด็ดขาด" ชายชราที่จัดการประมูลกล่าวตอบ
ชายชราชุดเขียวได้ฟังก็พยักหน้าอย่างไม่ดื้อดึง ก่อนที่จะพุ่งร่างไปด้วยความเร็วสูงราวเหินบินกลับห้องส่วนตัวของมันไป พร้อมมีเสียงกล่าวคำดังขึ้นอีกครั้ง "ข้านั้นตั้งใจที่จะได้รับโอสถเร่งพลังกำเนิดเม็ดนี้อย่างยิ่ง หวังว่าทุกท่านจักไว้หน้าให้ข้าได้บ้าง"
แต่ทว่า…ไม่มีใครให้ความสนใจใดๆกับวาจาของเขา
เมื่อชายชราชุดเขียวคนนี้ได้เปิดเผยตัวตน และทำการทดสอบด้วยตัวเองเช่นนี้ แน่นอว่าทุกคนสามารถยืนยันได้อย่างมั่นใจแล้วว่า โอสถเร่งพลังกำเนิดเม็ดนี้ เป็นโอสถเร่งพลังกำเนิดที่ถูกนำเมาประมูลครั้งนี้มีความบริสุทธิ์สูงถึง 91% จริงๆ!
ชายชราบนเวทีประมูลพลันกล่าวต่อออกมา "ข้าเข้าใจดีว่า ยามนี้ในใจของแขกผู้มีเกียรติทุกท่านคงกระจ่างแจ้งและรับรู้กันดี ว่าโอสถที่มีความบริสุทธิ์ 91% มีคุณค่าอย่างไร …หากผู้หลอมโอสถท่านใด ใช้โอสถนี้เป็นดั่งพิมพ์เขียวและดำเนินการค้นคว้าวิจัย เพื่อไขความลับและเจาะลึกถึงวิธีการ รวมทั้งที่มาของความบริสุทธิ์อันสูงส่งของโอสถเม็ดนี้ได้แล้วล่ะก็ ย่อมได้ประโยชน์เลิศล้ำเป็นแน่!”
"นอกจากนี้โอสถเม็ดนี้ยังกล่าวได้ว่าเป็นของสะสมอันมีค่า ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ใช่ผู้หลอมโอสถ แต่หากซื้อมันไว้ ด้วยความที่มันเป็นโอสถที่มิมีโอสถเม็ดใดเสมอเหมือน ยามนำไปมอบเป็นของกำนัลให้แก่เหล่านิกายใหญ่…เช่นนั้น…ท่านก็มีโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์ยากจินตนาการจากนิกายใหญ่เหล่านั้นตอบแทนเป็นแน่”
"เอาล่ะ ข้าจักมิกล่าววาจาไร้สาระอันใดอีกต่อไป ข้าขอเปิดราคาประมูลของโอสถเร่งพลังกำเนิดที่มีความบริสุทธิ์เม็ดนี้ด้วยราคา 1,000,000 เหรียญทอง!" ในที่สุดชายชราก็กล่าววาจาเปิดราคาประมูลออกมา
และในยามนี้ทั่วทั้งห้องโถงประมูลล้วนเงียบสนิทราวกับไร้ชีวิต
แม้แต่ห้องส่วนตัวบนชั้น 2 เองก็เงียบกริบไร้สำเนียงเสียงใด
ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข 1
ลี่เฟยมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตามึนงง "ตัวเลวร้าย นี่ใช่ตระกูลหม่าเจ้าของโรงประมูลเจตนามิให้โอสถเร่งพลังกำเนิดของเจ้าขายออกใช่หรือไม่ มันถึงได้ประกาศราคาเริ่มประมูลสูงถึง 1,000,000 เหรียญทองเช่นนี้ …เพียงแค่โอสถเร่งพลังกำเนิดผู้ใดมันจะบ้า… "
ทว่าลี่เฟยที่กล่าวไม่ทันจบคำนั้น ดวงตาคู่สวยของนางก็พลันเบิกกว้างชะงักค้างขึ้นมาเสียก่อน
นี่เพราะมีเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะนาง
"5,000,000 เหรียญทอง!"