สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 249 : หนูลึกลับสีทอง!
บทที่ 249 : หนูลึกลับสีทอง!
ต้องกล่าวได้ว่าการกระทำแปลกๆ ของเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวนี้ ทำให้กระทั่งต้วนหลิงเทียนเองยังสงสัยเช่นกัน
"เป็นไปได้หรือไม่ ที่เสี่ยวเฮยกับเสี่ยวไป่ สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่พวกมันกินได้?" ลี่เฟยพลันกล่าวออกมา ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
"อาจเป็นได้" ต้วนหลิงเทียนเองก็คิดไปในทำนองเดียวกันกับลี่เฟย “ ไม่สิต้องเป็นเช่นนี้แน่ๆ! เจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 จอมตะกละเอ๊ย! มีของกินทีไรออกมาทุกที”
แต่จะว่าไปเขาเองก็อยากรู้อยากเห็นไม่น้อยว่ามันเป็นอะไรกันแน่… ขนาดเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวนี่ยังตื่นเต้นมากขนาดนี้
“ฟ่อ ฟ่อ!”เจ้าสองตัวน้อยดูเหมือนจะฟังบทสนทนาระหว่างลี่เฟยกับต้วนหลิงเทียนออก พวกมันส่ายศีรษะไม่พอใจและส่งเสียงฟ่อฟ่อ ข่มขู่ออกมาราวกับพวกมันกำลังขุ่นเคืองแล้วที่โดนให้ร้าย
"นายน้อย พี่หญิงเฟย,อย่าได้ว่าเจ้าตัวน้อยทั้ง 2 นี่อีกเลย เห็นหรือไม่ พวกมันงอนท่านแล้ว" เค่อเอ๋อลูบศีรษะน้อยๆของพวกมันเป็นการปลอบใจ เมื่อพวกมันสงบลงพวกมันก็หันไปจับจ้องสิ่งของบนเวทีประมูลต่อ
ต้วนหลิงเทียนก็ส่ายหัวพร้อมรอยยิ้มออกมา ก่อนที่จะหันไปจับจ้องบนเวทีประมูลต่อ
ตอนนี้เองชายชราบนเวทีก็หยิบผ้าสีแดงที่คลุมอยู่ออก …
คราวนี้ทั้งหมดก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่า ที่แท้มันกลับเป็นกรงขังเล็กๆ ที่กักขังสิ่งมีชีวิตตัวน้อยเอาไว้ ทั้งตอนนี้มันยังแลดูซึมเศร้าน่าเวทนานัก
สิ่งมีชีวิตตัวนี้แน่นอนว่าย่อมเป็นสัตว์อสูรตัวหนึ่ง …และมันเป็นหนู! ทว่านี่ไม่ใช่หนูธรรมดาที่ทุกคนต่างพากันรังเกียจ มันเป็นหนูตัวสีทอง! รูปร่างหน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตาหนูจากชีวิตที่แล้วของต้วนหลิงเทียน ที่พบเจอได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปในโลกเก่า
และตอนนี้เจ้าหนูตัวน้อยนี่ก็แลดูซึมเศร้าอย่างมาก
"หืม มันถูกวางยางั้นรึ?"ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วขึ้นมาโดยพลัน เขาสัมผัสได้ทันทีว่าเจ้าหนูสีทองตัวน้อยนี่ได้รับยาพิษบางอย่างที่มีผลคล้ายคลึงกันกับพิษปรสิตกลืนกำเนิด
พิษปรสิตกลืนกำเนิด เป็นพิษที่ฉงเฉวียนได้รับมา และมันสามารถระงับพลังงานต้นกำเนิดทั่วร่างได้อย่างชะงัด
"อ๊า! มันน่ารักยิ่ง!" ดวงตาคู่สวยงามของลี่เฟยและเค่อเอ๋อทอประกายเรืองวูบขึ้นมา เมื่อเห็นหนูตัวน้อยสีทองตัวนี้ ในแววตาของพวกนางแฝงความอ่อนโยนของเพศแม่เอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม
และทางด้านเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 เมื่อพวกมันเห็นหนูสีทองตัวนี้ พวกมันก็ตื่นเต้นอย่างมาก และหากต้วนหลิงเทียนไม่คอยปรามเอาไว้ เกรงว่าป่านนี้มันคงทำลายกระจกเบื้องหน้าพุ่งลงไปยังเวทีด้านล่างแล้ว
"เสี่ยวเฮย เสี่ยวไป๋ ….นี่พวกเจ้าทั้ง 2 คงไม่ได้คิดจะกินมันจริงๆหรอกนะ?" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังอสรพิษน้อยทั้ง 2 ด้วยสายตาแปลกๆ
"อ๊า เสี่ยวเฮย เสี่ยวไป๋ พวกเจ้าห้ามกินมันนะ เรื่องนี้เจ้าทั้ง 2 ต้องเชื่อฟังข้า ห้ามดื้อเด็ดขาด!" ลี่เฟยและเคอเอ๋อหันไปจ้องเสี่ยวเฮยเสี่ยวไป๋ตาเขม็ง พร้อมกล่าวออกมาอย่างพร้อมเพรียง
ทันใดนั้นอสรพิษน้อย 2 ตัวก็แสดงความขุ่นเคืองออกมาเล็กน้อย ดวงตาของพวกมันทอประกายออกมาอย่างก้าวร้าว เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร
"อะไร! นี่พวกเจ้าทั้ง 2 คิดกินเจ้าหนูนั่นจริงๆรึเนี่ย?" ต้วนหลิงเทียนไม่รู้จะพูดยังไงจริงๆ
"เฮ้ๆ แต่ข้าว่าหากพิษร้ายในร่างเจ้าหนูตัวน้อยนั่นถูกถอดทอน เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเจ้าทั้ง 2 จะกินมันได้นะ" สายตาของต้วนหลิงเทียนจับจ้องไปยังหนูสีทองตัวน้อยบนเวทีอีกครั้ง เขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เจ้าหนูสีทองตัวนี้ไม่ได้อ่อนแอกว่าอสรพิษน้อยทั้ง 2 แม้แต่น้อย …
กระทั่งมันยังแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ!
"นายน้อยเจ้าคะ ท่านบอกว่าหนูสีทองตัวนั้น แข็งแกร่งกว่าเสี่ยวเฮยและเสี่ยวไป๋อีกหรือเจ้าคะ?" เค่อเอ๋อ อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตกตะลึง นางย่อมรู้ซึ้งดี ว่าอสรพิษน้อย 2 ตัวเก่งกาจขนาดไหน…
แต่หนูสีทองตัวเล็กน่ารักขนาดนี้ ยังจะแข็งแกร่งกว่าพวกมันอีกหรือ?!
ลี่เฟยเองก็เผยสายตาสับสนและแสดงสีหน้ายากจะเชื่อออกมา "ตัวเลวร้าย เรื่องนี้เจ้ามองพลาดไปหรือไม่?"
"ฟ่อ ฟ่อ ~" อสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวทำท่าราวกับจะเข้าใจว่าต้วนหลิงเทียนกล่าวอะไร พวกมันหันไปจ้องต้วนหลิงเทียนอีกครั้งราวกับไม่ยอมรับ ทว่าเมื่อต้วนหลิงเทียนหันกลับมาจ้องพวกมัน …พวกมันก็ทำได้เพียงก้มหัวหลบสายตาแลดูจ๋อยไปเล็กน้อย
"อะไร เจ้าตัวน้อยทั้ง 2 อย่างพวกเจ้า ยังไม่มั่นใจงั้นหรือ" ต้วนหลิงเทียนยิ้มออกมา
"นายน้อยท่านซื้อมันได้หรือไม่"เค่อเอ๋อจ้องไปยังหนูตัวสีทอง และดวงตาทั้งคู่ของนางก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยนราวกับมารดามองดูบุตร
"ใช่แล้วตัวเลวร้าย เจ้าหนูน้อยนั่นน่ารักยิ่ง! เจ้าต้องซื้อมาให้พวกเราให้ได้นะ!" ลี่เฟยกล่าวออกมาเช่นกัน
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวออกมาพร้อมรอยยิ้ม "เอาล่ะๆ ในเมื่อพวกเจ้าทั้ง 2 ชมชอบมันถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าข้าย่อมต้องซื้อมันมาให้จงได้ อืม…และหากข้ามองไม่ผิด เจ้าหนูตัวนี้ สมควรเป็น หนูขนทอง!”
"หนูขนทอง?" เค่อเอ๋อไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบรับอะไรมากมาย ทว่าลี่เฟยนั้นอดไม่ได้ที่จะสะท้าน "หนูขนทองหรือ? หนูที่รู้จักกันในนามราชันย์ของสัตว์อสูรจำพวกหนู! สัตว์อสูรประเภทหนูที่แข็งแกร่งที่สุด! "
"ใช่แล้ว" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าตอบรับ "ดูจากรูปร่างของมันแล้ว มีโอกาสสูงกว่า 90% ที่มันจะเป็นหนูขนทองที่ว่าหาใช่หนูที่มีสีทองเฉยๆ…แต่จะให้แน่ใจได้จริงๆ ข้าต้องซื้อมันมาให้ได้ และตรวจสอบใกล้ๆอีกครั้ง"
ตอนนี้เองชายชราบนเวทีก็เริ่มกล่าวอธิบาย "แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ตอนนี้ก็เข้าสู่รายการประมูล 3 อย่างสุดท้ายของการประมูลในวันนี้แล้ว …และยามนี้ข้าคิดว่าแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายเองก็พอจะคาดเดากันได้แล้วว่าหนูสีทองตัวนี้เป็นหนูขนทอง! ซ้ำมันยังเป็น ทารกอยู่!”
"โดยปกติแล้ว สามารถกล่าวได้ว่าหนูขนทองทั่วไปจักมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นแรกๆเท่านั้น … แต่หนูขนทองตัวนี้มีความแข็งแกร่งสูงถึงวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7!"
ทั้งหองโถงประมูลถึงกับตื่นตะลึงเมื่อได้ยินคำกล่าวของชายชรา
"หนูขนทองวัยแรกเกิด ซ้ำยังมีระดับบ่มเพาะสูงถึงวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7?"
"เช่นนี้ไม่ใช่หมายความว่ายามเจ้าหนูขนทองตัวนี้เติบโตเต็มที่ มันจะมีระดับบ่มเพาะสูงถึง ครึ่งก้าวธรรมชาติหรอกหรือ?"
"คงมิได้หยุดแค่เพียงครึ่งก้าวธรรมชาติเท่านั้น …หนูขนทองที่มีระดับบ่มเพาะสูงถึงระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 ตัวนี้หาได้ง่ายดาย…การที่มันมีระดับบ่มเพาะสูงล้ำถึงเพียงนี้ตั้งแต่แรกเกิด สามารถกล่าวได้ว่ามันเป็นหนูขนทองที่มีศักยภาพและพรสวรรค์สูงล้ำกว่าหนูขนทองทั่วไปมากโข! ไม่แน่มันอาจจะอยู่ในขอบเขตที่สามารถพัฒนาร่างยกระดับกลายเป็นสัตว์อสูรปีศาจได้ด้วยซ้ำ "
"อะไรนะ! พัฒนาเป็นสัตว์อสูรปีศาจงั้นรึ นั่นมันสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขึ้นไปแล้วนะ!"
…
ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
การซื้อหนูขนทองตัวนี้กล่าวได้ว่าเป็นการซื้อขุมพลังที่มีศักยภาพสูงพอที่จะกลายเป็นตัวตนระดับสัตว์อสูรปีศาจ!
และสัตว์อสูรปีศาจนั่น เทียบได้กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขึ้นไป!
"ฮึ่ม! อย่าได้ใจให้มันมากกันนัก สัตว์อสูรที่มีศักยภาพสูงอย่างหนูขนทองตัวนี้ พวกเจ้าคิดกันจริงๆหรือว่าหากซื้อมันไปแล้วจักมีปัญญาควบคุมมันได้” ตอนนี้เองบังเกิดเสียงค่อนแคะด้วยความเย้ยหยันดังออกมาจากมุมหนึ่งในโถงประมูล
แสะตอนนั้นเองเสียงอื้ออึงในโถงประมูลพลันสงบลง
ถูกต้องแล้ว…ราชันย์แห่งหนูทั้งมวลอย่างหนูขนทอง หาได้เป็นอะไรที่จะยินยอมสยบต่อมนุษย์ได้โดยง่าย
หากท่านไม่มีความแข็งแกร่งที่สูงล้ำกว่ามันอย่าหวังเลยว่าจะควบคุมมันได้!
"ทุกท่านโปรดวางใจ หนูขนทองตัวนี้ ได้รับการวางโอสถวารีผนึกกำเนิดเอาไว้แล้ว ดังนั้นตอนนี้มันมีเพียงความแข็งแกร่งในระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 เท่านั้น …เมื่อแขกผู้มีเกียรติซื้อมันไปแล้ว ทางเราจะส่งมอบหนูขนทองตัวนี้พร้อมยาถอนพิษให้ท่าน"ชายชรากล่าวออกมาช้าๆ
"นายน้อยเจ้าคะ โอสถวารีผนึกกำเนิดคืออันใดหรือเจ้าคะ?" ในห้องส่วนตัวตอนนี้เค่อเอ๋อบังเกิดความอยากรู้อยากเห็น นางจึงหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยดวงตาคู่กลมน่าเอ็นดู พร้อมกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงไพเราะ
"วารีผนึกกำเนิดนั้น จัดได้ว่าเป็นยาพิษชนิดหนึ่ง มันมีเอาไว้ระงับพลังงานต้นกำเนิด แต่อย่างไรก็ตามมันสามารถระงับพลังงานต้นกำเนิดได้เพียงผู้ฝึกยุทธ์หรือสัตว์อสูรที่มีระดับบ่มเพาะต่ำกว่าแรกสัมผัสธรรมชาติได้เท่านั้น" ต้วนหลิงเทียนกล่าวอธิบายออกมา วารีผนึกกำเนิดนี้กล่าวได้ว่าให้ผลไม่ต่างอะไรกับยาพิษปรสิตกลืนกำเนิด
แต่ทว่าความแตกต่างของระดับพิษทั้ง 2 นั้นต่างกันราวฟ้าดิน
เพราะหากไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหยั่งรู้ธรรมชาติขึ้นไป ล้วนไม่อาจต่อต้านพิษปรสิตกลืนกำเนิดได้ทั้งสิ้น!
เช่นเดียวกับฉงเฉวียนที่ไร้หนทางต่อต้าน พิษปรสิตกลืนกำเนิดได้อย่างสิ้นเชิง
เค่อเอ๋อพลันเข้าใจได้ทันทีหลังจากฟังคำอธิบายของต้วนหลิงเทียน
"ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าหนูน้อยขนทองตัวนี้จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเสี่ยวเฮยและเสี่ยวไป๋เช่นนี้ … "ลี่เฟยกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ คำที่นางกล่าวออกมายังทำให้เจ้าสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวรู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อย แววตาของพวกมันฉายแววยากยอมรับออกมา แต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากแสดงท่าทางกระฟัดกระเฟียดขุ่นเคืองออกมา
"อะไร! พวกเจ้าทั้ง 2 ยังไม่ยอมรับงั้นหรือ?" ต้วนหลิงเทียนเอื้อมมือไปเคาะหัวเจ้าตัวน้อยทั้ง 2 ก่อนที่จะหันไปจับจ้องหนูขนทองบนเวทีก่อนที่จะกล่าวออกมา “กล่าวกันตรงๆแล้ว หนูขนทองในช่วงวัยแรกเกิดก่อนที่จะเติบโตนี้ ระดับบ่มเพาะของพวกมัน น้อยตัวนักที่จะมากเกินกว่าระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9…ดูเหมือนเจ้าหนูขนทองตัวนี้จะไม่ธรรมดาเลยจริงๆ”
ก่อนหน้านี้ต้วนหลิงเทียนไม่ได้สังเกตว่าเจ้าหนูขนทองตัวนี้ยังเป็นเพียงหนูวัยแรกเกิดเท่านั้น
และเมื่อเขาได้ยินคำกล่าวของชายชราเขาก็รู้ดี และตระหนักถึงความไม่ธรรมดาของหนูขนทองตัวนี้
และตอนนี้เองเสียงเอ่ยราคาประมูลเจ้าหนูขนทองทารกนี่ก็ดังขึ้น …
"1,000,000 เหรียญทอง!"ทันใดนั้นเองมีเสียงออกมาจากห้องส่วนตัวห้องหนึ่งของชั้น 2 น้ำเสียงนี้สะกดข่มเสียงจอแจในโถงประมูลชั้นล่างอย่างเหนือชั้น!
ตอนนี้ชั้นล่างพลันเงียบกริบ
1,000,000 เหรียญทอง เท่ากับ 100,000,000 เหรียญเงิน!
ในห้องโถงประมูลด้านล่างหามีผู้ใดหยิบจ่ายเงินมากมายขนาดนี้ออกมาได้…แล้วยังจะฝันอันใด?
"เป็นห้องหมายเลข 7 นั่นอีกแล้ว!" ต้วนหลิงเทียนประหลาดใจไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้ก็เป็นห้องหมายเลข 7 ที่เสนอราคาหญ้าเปลวเงินออกมาสูงถึง 1,700,000 เหรียญเงิน! จนเขาต้องจ่ายออกถึง 2,000,000 เหรียญเงินเพื่อแย่งชิงกับมัน
"1,500,000 เหรียญทอง!" ทันใดนั้นมีเสียงจากห้องส่วนตัวห้องอื่นดังขึ้น
มุมปากของต้วนหลิงเทียนกระตุกเล็กน้อย เจ้าพวกนี้นับว่าร่ำรวยไม่น้อย …
ในที่สุด เมื่อห้องหมายเลข 7 กล่าวเสนอราคาออกมาถึง 3,000,000 เหรียญทอง เสียงจากห้องส่วนตัวอื่นๆ ที่สู้ราคาหนูขนทองวัยทารก ก่อนหน้านี้ก็เงียบไป
"3,000,000 เหรียญทอง! สวรรค์!นั้นมันเป็นเงินมากมายถึง 300,000,000 เหรียญเงิน!"
"นรกเถิด! ห้องส่วนตัวหมายเลข 7 นั่นมันเป็นผู้ใดกันแน่!"
"เฮ่อ…มีเพียงตระกูลหม่าเจ้าของโรงประมูลนี่เท่านั้น ที่ล่วงรู้อัตลักษณ์ ของผู้ที่จับจองห้องส่วนตัวในชั้น 2 เหล่านั้น และไม่ว่าจะยามมาหรือไป พวกเขาล้วนใช้อีกทางหนึ่งทั้งสิ้น พวกเราไม่มีทางรู้หรอก"
"ก็คงมิพ้นพวก 3 ตระกูลใหญ่ประจำเมืองวายุทมิฬแห่งนี้ หรือมก็พ่อค้าร่ำรวยรายใหญ่ที่ผ่านมานั่นล่ะ"
…
ผู้คนในห้องโถงล้วนคิดถึงเพียงตัวตนระดับสูงเท่านั้น ที่มีความมั่งคั่งขนาดนี้
3,000,000 เหรียญทอง!
สำหรับพวกมันแล้ว นี่เป็นความมั่งคั่งที่ชั่วชีวิตนี้ไม่มีวันมีได้
"แขกผู้มีเกียรติในห้องที่ 7 ได้เสนอราคา 3,000,000 เหรียญทอง มิทราบว่ามีแขกผู้มีเกียรติท่านใดคิดเสนอราคาอีกหรือไม่?" ชายชราบนเวทีประมูลรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย "3,000,000 เหรียญทองครั้งที่หนึ่ง … 3,000,000 เหรียญทองครั้งที่สอง!… "
"3,010,000 เหรียญทอง!" เมื่อเป็นความต้องการของเค่อเอ๋อและลี่เฟย ต้วนหลิงเทียนได้กล่าวเสนอราคาออกมา โดยตาไม่กระพริบ
น้ำเสียงของต้วนหลิงเทียนที่ดังขึ้นครั้งนี้ ทำให้ทั่วทั้งห้องโถงเงียบสนิท
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเสียงอื้ออึงในโถงประมูลค่อยดังขึ้นอีกครั้ง
"ผู้อื่นเขาเสนอราคากันทีหลักล้านหลักแสนในแต่ละครั้ง …แขกในห้องส่วนตัวหมายเลข 1 นั่นไม่ใช่ว่าตระหนี่ไปหน่อยหรือ?"
"มิผิด เพียง 10,000 เหรียญทอง ยังกล้าเพิ่มมาได้"
…
หลายคนเริ่มสนทนากันอย่างเมามัน
ต้วนหลิงเทียนเองก็มีความเห็นเล็กน้อยกับคำที่พวกมันกล่าวกันถึงเขา
10,000 เหรียญทองแล้วจะทำไม?
พวกเจ้าเหตุใดกล่าวกันราวเงินหองหาได้ง่ายดายนัก!
ที่สำคัญนี่มันเหรียญทองหาใช่เหรียญเงิน
10,000 เหรียญทองนี่ ก็เท่ากับ 1,000,000 เหรียญเงินแล้ว! และนี่มันเป็นราคาของอาชาเหงื่อโลหิต!
แล้วนี่ยังเรียกว่าน้อย! เรียกว่าตระหนี่! พวกมันร่ำรวยนัก ใยไม่ควักเงินออกมาสู้เสียเอง กล่าวแดกดันทำอะไร?
ทันใดนั้นเองเสียงจากห้องส่วนตัวหมายเลข 7 พลันดังก้องออกมาอีกครั้ง “3,500,000 เหรียญทอง!”
ผู้คนในโถงประมูลล้วนอ้าปากอุทานดังอา ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าเสียงดัง "นี่สิถึงเรียกว่าการสะกดข่มอย่างแท้จริง คนจริงเขาต้องเพิ่มกันเช่นนี้ เพิ่มทันที490,000 เหรียญทอง ไม่อิดออด!… "
"หากเทียบกับห้องส่วนตัวเลข 7 แล้ว …ข้าว่า ห้องส่วนตัวหมายเลข 1 ก็ตระหนี่เกินไปจริงๆนั่นล่ะ"
"ข้ายังสงสัยว่าแขกที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 1 ยังจะเสนอราคาสู้ต่ออีกหรือไม่"
…
ในขณะที่เสียงสนทนาเบื้องล่างยิ่งมายิ่งอื้ออึง ต้วนหลิงเทียนพลันเอ่ยปากกล่าวราคาออกมาอย่างเกียจคร้าน "3,510,000 เหรียญทอง!"