หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 244 : มังกรครองภพ!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. ตอนที่ 244 : มังกรครองภพ!
Prev
Next

บทที่ 244 : มังกรครองภพ!

"เอ่อ เรื่องนี้…." ต้วนหลิงเทียนตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากใจเล็กน้อย  หากเขานำองค์หญิงปี้เหยากลับบ้านล่ะก็ เอวเขาคงไม่ค่อยจะปลอดภัยสักเท่าไร…

ต้วนหลิงเทียนรู้สึกหนาวเหน็บเสียดกระดูกสันหลังขึ้นมาโดยพลัน เมื่อนึกถึงความหึงหฤโหดของลี่เฟย

แต่เมื่อเขาเห็นองค์หญิงปี้เหยา มองมาด้วยสายตาคาดหวัง และใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง  เขาก็ใจอ่อนขึ้นมา

เขาเพียงแค่พานางไปเป็นแขกเท่านั้น …ไม่ได้คิดอะไร

ต้วนหลิงเทียนกล่าวปลอบใจตัวเอง

และเป็นดั่งที่คาดไว้ไม่มีผิด  เมื่อต้วนหลิงเทียนพาองค์หญิงปี้เหยามาถึงที่บ้าน ลี่เฟยเป็นคนแรกที่ตื่นตัว และถลึงตามองมาด้วยความดุร้าย

ส่วนลี่หลัวกลับเผยรอยยิ้มลี้ลับบนใบหน้าออกมา

เซี่ยวหลันที่เดินมาพร้อมกับลี่หลัว เมื่อเห็นองค์หญิงปี้เหยา เค้าลางความตกตะลึงก็เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้างดงามของนาง

นางไม่คิดเลยว่าสตรีที่ต้วนหลิงเทียนพามาบ้าน จะมีรูปโฉมงดงามไม่ด้อยไปกว่านาง เค่อเอ๋อและก็ลี่เฟยแม้แต่น้อย

"นายน้อย พี่หญิงผู้นี้เป็นใครหรือเจ้าคะ?" เค่อเอ๋อกระพริบตากลมโตปริบๆมองไปยังองค์หญิงปี้เหยา ก่อนที่จะกล่าวถามต้วนหลิงเทียนออกมา

"นี่คือองค์หญิงปี้เหยา" ต้วนหลิงเทียนยิ้มออกมาบางๆ ก่อที่จะเริ่มกล่าวแนะนำองค์หญิงปี้เหยาให้คนในบ้านรู้จัก

ทันใดนั้นเองทุกคนก็มีปฏิกิริยาตอบสนองกันทั้งสิ้น แม้แต่ลี่เฟยเองยามนี้ก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา เนื่องจากนางก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าสตรีที่ต้วนหลิงเทียนพากลับมาบ้าน จะเป็นถึงองค์หญิงปี้เหยา

ลี่เฟยเองย่อมเคยได้ยิน เรื่องราวของโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวงมาบ้าง

"ทักทายองค์หญิง!" ตอนนี้เองสตรีทั้ง 4 คน รวมทั้งลี่หลัวก็โค้งคำนับแสดงความเคารพ  พร้อมกล่าวทักทายองค์หญิงปี้เหยา

องค์หญิงปี้เหยาก้าวเข้ามาประคองร่างลี่หลัวเอาไว้ พร้อมกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มบางๆ  "ท่านป้าหลัว ที่นี่หาใช่วังหลวง ท่านอย่าได้ถือว่าข้าเป็นองค์หญิงแล้ว"

ลี่หลัวเองก็แย้มยิ้มออกมาพร้อมพยักหน้า ดวงตาที่งดงามราวกับสายธาราของนางจับจ้องมายังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาราวกับล่วงรู้บางสิ่งโดยพลัน  ทำให้ต้วนหลิงเทียนบังเกิดความเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย

"ท่านคือพี่หญิงเฟยใช่หรือไม่?" องค์หญิงปี้เหยามองไปยังลี่เฟย พร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและท่าทางนอบน้อม ทำให้ลี่เฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มหวานออกมา "องค์หญิง ท่านรู้จักข้าด้วยหรือ?"

"พี่หญิงเฟย ท่านช่างงดงามนัก ยิ่งกว่าคำกล่าวที่ท่านต้วนหลิงเทียนเคยบอกข้าไว้เสียอีก" ปากขององค์หญิงปี้เหยากล่าววาจาหวานปานน้ำผึ้ง สลายความเกลียดชังและอคติของลี่เฟยที่มีต่อนาง "พี่หญิงเฟย ต่อไปท่านเรียกข้าว่าปี้เหยาเถอะ"

"ตกลง … . น้องหญิงปี้เหยา เจ้าเองก็งดงามสมคำร่ำลือโฉมงามอันดับ 1 แห่งเมืองหลวงจริงๆ" ลี่เฟยพยักหน้าเบาๆ นางรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยในใจ เมื่อเห็นว่าองค์หญิงเองก็ไม่ได้วางท่าอะไร

องค์หญิงปี้เหยามองไปยังเค่อเอ๋อ และกล่าวถามออกมาด้วยรอยยิ้มบางๆเช่นกัน "ท่านคือเค่อเอ๋อใช่หรือไม่ ข้าได้ยินต้วนหลิงเทียนกล่าวว่าอายุของท่านไล่เลี่ยกับข้า ไม่ทราบว่าท่านเกิดเดือนใดหรือ?"

"องค์หญิง ข้าเกิดเดือน 9" ตอนนี้…เค่อเอ๋อไม่ใช่เค่อเอ๋อในครั้งอดีตอีกแล้ว  ถึงแม้จะต้องเผชิญหน้ากับองค์หญิง แต่นางก็ไม่รู้สึกต่ำต้อย และกล่าวสนทนาโต้ตอบออกไปได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ

"เช่นนั้นข้าก็นับว่าอ่อนวัยกว่าท่าน ข้าเกิดเดือน 12 ต่อไปข้าจะเรียกท่านว่าพี่หญิงเค่อเอ๋อ ส่วนท่านเรียกข้าว่าน้องหญิงปี้เหยา เหมือนที่พี่หญิงเฟยเรียกข้าดีหรือไม่"องค์หญิงปี้เหยากล่าวออกมาอย่างสนุกสนานพร้อมแลบลิ้นน้อยๆของนางอย่างน่ารัก  ทำให้เค่อเอ๋อเองก็บังเกิดความประทับใจอันดีต่อนางเช่นกัน

"อ๊า! ในที่สุดข้าก็มีน้องหญิงแล้ว ช่างดียิ่ง" เค่อเอ๋อกล่าวออกมาด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว ใบหน้าที่งดงามอ่อนโยนของนางแดงเล็กน้อย ปากของนางแย้มยิ้มออกมาอย่างสนุกสนาน

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอกมา เมื่อเห็นภาพตรงหน้า

องค์หญิงปี้เหยา ชงมีความสามารถในการเข้าหาผู้คนนัก ไม่นานนางก็ได้รับการยอมรับจากสตรีทั้ง 3 ในบ้านของต้วนหลิงเทียน

"ท่านคือ…?" สุดท้ายองค์หญิงปี้เหยาจึงหันมามองเซี่ยวหลัน  กล่าวได้ว่ายามนี้แม้แต่องค์หญิงปี้เหยาเองก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดความประทับใจ ที่เห็นสตรีที่งดงามปานนางฟ้านางสวรรค์บนโลกมนุษย์

วันนี้ใจของนางต้องบังเกิดความตกตะลึงอย่างไม่หยุดหย่อน

เดิมที่ด้วยรูปโฉมของตัวนางเอง ก็ล้วนได้รับการยอมรับโดยทั่วกันในเมืองหลวง ว่าเป็นโฉมงามอันดับหนึ่ง  นั่นทำให้องค์หญิงปี้เหยาเองก็มั่นใจในรูปโฉมของนางไม่น้อย

แต่ทว่าวันนี้ สตรีทั้ง 3 ที่นางได้พานพบ ไม่มีผู้ใดด้อยกว่านางแม้แต่น้อย

นอกจากสตรีของต้วนหลิงเทียนทั้ง 2 คนที่นางรู้ก่อนแล้วว่ามีลักษณะอย่างไร การปรากฏตัวของโฉมงามคนนี้ก็ทำให้นางหัวใจสะท้านเล็กน้อย…

นางสังเกตได้ว่าสตรีผู้นี้ช่างมีบรรยากาศคล้ายคลึงกับนางนัก…นางคงมีใจให้ต้วนหลิงเทียนไม่ต่างกัน

เพียงครู่เดียวความรู้สึกเข้าใจดั่งพบพานสหายร่วมทุกข์ก็บังเกิดขึ้นภายในใจของนาง

"องค์หญิงปี้เหยา ข้าเซี่ยวหลัน" เซี่ยวหลันยิ้มให้กับองค์หญิงปี้เหยา  นางเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขมขื่นในใจเล็กน้อย

นางสามารถมองทะลุความในใจขององค์หญิงปี้เหยาที่มีใจต่อต้วนหลิงเทียนได้อย่างชัดเจน  และนางเองก็รู้สึกอิจฉาอย่างยิ่งที่องค์หญิงปี้เหยาสามารถได้รับการยอมรับจากครอบครัวของต้วนหลิงเทียนได้ในเวลาสั้นๆ

อย่างไรก็ตามนางกับครอบครัวต้วนหลิงเทียนก็ไปมาหาสู่กันเกือบ 2 เดือนแล้ว แต่นางยังได้รับการยอมรับจากลี่หลัวและเค่อเอ๋อเท่านั้น

ลี่เฟยยังคงสงวนท่าทีต่อนาง …

"พี่หญิงเซี่ยวหลัน" องค์หญิงปี้เหยายิ้มให้เซี่ยวหลัน

"เอ่อ…เช่นนั้นพวกเจ้าก็อยู่พูดคุยกันไปนะ ข้าจะเข้าห้องไปบ่มเพาะพลังแล้ว" รอยยิ้มขมขื่นปรากฏขึ้นที่มุมปากของต้วนหลิงเทียน เมื่อเขาสังเกตได้ว่ายามนี้ตัวเองราวกับเป็นส่วนเกินของพวกนาง  เขาจึงบอกกล่าวพวกนางและกลับห้องไปบ่มเพาะพลังทันที

มีคำกล่าวไว้ว่า สตรีนั้นดีที่สุดหากจะอยู่ร่วมกันสัก 3 คน นั่นยังทำให้บุรุษสามารถสนทนากันได้อย่างสนุกสนาน  แต่หากสตรีมีมากมายถึง 4 คนขึ้นไปแล้วล่ะก็ พวกนางจะรวมหัวกันตั้งวงเล่นไพ่นกกระจอกกันแต่พวกนางแล้ว …

หลังจากที่กลับไปถึงห้องนอนของเขาต้วนหลิงเทียนก็เริ่มบ่มเพาะพลังตามแนวทาง วิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม รูปแบบที่ 3 นาคาพิโรธ  ซ้ำยังเริ่มฝึกฝนวิชาเสริมอีกวิชาด้วย

วิชาป้องกัน  มังกรครองภพ!

มังกรครองภพนี้สามารถพึ่งพาได้อย่างมาก แม้ว่าจะไมมีความสามารถที่ดูดกลืนพลังโจมตีก่อนที่จะยอนทวนกระแส ยืมหอกนั้นคืนสนองเหมือนวิชา พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล  แต่ในแง่ของการป้องกันแล้วล่ะก็กล่าวได้ว่ามันแข็งแกร่งมากกว่าวิชาป้องกันระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงทั่วๆไป

แม้ว่าวิชามังกรครองภพนี้ ผู้ที่ฝึกฝนสามารถบรรลุเพียงระดับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ความสามารถในการป้องกันของมันอาจเหนือกว่าพลังป้องกันของวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงอื่นๆที่บรรลุขั้นตอนแก่นแท้เสียอีก!

"วิชาพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลของข้า ได้ซึมซับผลของโอสถ โลหิตหลิงชี่จนบรรลุความสำเร็จถึงขั้นตอนแก่นแท้ … จากความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด หากข้าหลอมปรุงโอสถพลังผกผันได้สำเร็จ ข้าจะสามารถกระตุ้นพลังและความแข็งแกร่งของโอสถโลหิตหลิงชี่ที่ไหลเวียนอยู่ในเลือดเนื้อทั่วร่างของข้าได้อีกครั้ง"

ส่วนวัตถุดิบสำหรับปลอมสร้างโอสถพลังผกผันนั้น แน่นอนว่าอยู่ในรายการวัตถุดิบที่ต้วนเหลิงเทียนฝากผู้อื่นรวบรวมไว้แล้ว

ต้วนหลิงเทียนหยิบเตาหลอมโอสถออกมา ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการหลอมปรุงโอสถพลังผกผันทันที

หลังจากผ่านไปเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น โอสถพลังผกผันก็เสร็จสมบูรณ์

หลังจากนั้นเขาก็กลืนมันลงไปทันที และเริ่มกระตุ้นพลังงานของโอสถหลิงชี่ ที่ไหลเวียนอยู่ในเลือดและกล้ามเนื้อทุกส่วนทั่วร่างของเขา …

และตอนนี้เองเขาก็เริ่มโคจรพลังทั้งหมดตามแนววิชา มังกรครองภพ

สุดท้ายด้วยความช่วยเหลือจากพลังงานของโอสถโลหิตหลิงชี่จำนวนมหาศาล  วิชามังกรครองภพ ก็ถูกเพิ่มพูนความแข็งแกร่งจนสำเร็จไปถึงขั้นตอนแก่นแท้ได้ในที่สุด

"แม้ว่าวิชามังกรครองภพจะแข็งแกร่งกว่าวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงที่มีอยู่ทั่วไป แต่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ เมื่อความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ์นั้นสูสีใกล้เคียงกัน  ถึงแม้ว่าวิชาป้องกันจะสูงล้ำแค่ไหน แต่มันก็ทำได้มากที่สุดเพียงลดทอนพลังโจมตีลงมาส่วนหนึ่งเท่านั้น"

นี่คือสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนรู้แจ้งกระจ่างในใจ…

และจากการคาดการณ์ของต้วนหลิงเทียน ยามนี้เมื่อเขามีระดับบ่มเพาะอยู่ที่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3 หากเขาโคจรพลังใช้ออกด้วยวิชามังกรครองภพเต็มพลังแล้วล่ะก็  เขาสามารถต้านรับการโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์ที่มีระดับต่ำกว่าระดับกำเนิดแก่นแท้ ได้อย่างหมดจด

อย่างไรก็ตามหากฝ่ายตรงข้ามีระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นแรกขึ้นไป  ก็จะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปที่จะสามารถป้องกันพลังโจมตีของอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์

เขาสามารถสลายพลังโจมตีของมันได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้น ก็นับได้ว่าวิชาป้องกันมีความสำคัญหนักหนา

ตัวอย่างเช่นหากมีการปะทะกันของผู้ฝึกยุทธ์ที่มีกระบวนท่าและพลังทำลายในวิชาโจมตีที่เท่าเทียมกัน …หากผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งใน 2 คนนี้ไมได้ฝึกวิชาป้องกันแต่อีกคนฝึกล่ะก็…. ผู้ที่ฝึกวิชาป้องกันมาย่อมสามารถเอาชัยชนะได้อย่างง่ายดาย!

ต้วนหลิงเทียนกลับมามีสติอีกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกฝนวิชามังกรครองภพ

และตอนนี้เองเขาก็สังเกตได้ว่า ข้างนอกนั้นฟ้ามืดแล้ว

"ข้าลืมเวลาซะได้" ต้วนหลิงเทียนรู้สึกละอายเล็กน้อย เขาเดินออกจากห้องนอนของเขา และหลังจากที่รับประทานอาหารเย็นกับเหล่าสตรีทั้งหลายแล้ว เขาก็อาสาเดินไปส่งองค์หญิงปี้เหยา

สำหรับเซี่ยวหลันนางเลือกที่จะอยู่ต่อ

ต้วนหลิงเทียนไม่ได้รู้สึกอะไรกับการตัดสินใจของเซียวหลัน แต่สิ่งที่หาได้ยากก็คือ ลี่เฟยเองก็ไม่สนใจ

หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนกลับมาจากการไปส่งองค์หญิงปี้เหยา เขาก็ได้รู้เหตุผลที่ทำไมลี่เฟยถึงได้อ่อนข้อลงมาเช่นนี้

"พวกเรากำลังจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้แล้ว หากเซี่ยวหลันยังอยู่ด้วย ป้าหลัวจะได้ไม่ต้องเหงาและเศร้ามากนัก" เรื่องที่ลี่เฟยกล่าว ทำให้ต้วนหลิงเทียน สะท้านไปไม่น้อย

คืนนั้นหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนและลี่เฟยผ่านช่วงเวลาหฤหรรษ์อบอวนไปด้วยความรัก สอดประสานทำนองจังหวะหัวใจ  ลี่เฟยก็นอนซบบนไหล่ของเขาอย่างอ่อนแรง นางกล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ตัวเลวร้าย ข้ารู้ดีว่าองค์หญิงปี้เหยา กับเซี่ยวหลัน มีใจต่อท่าน…”

"เสียวเฟย เจ้ากล่าวถึงเรื่องอันใด?" ต้วนหลิงเทียนพลันกอดลี่ฟายไว้ที่อ้อมอกก่อนที่จะจูบนางพร้อมลูบเรือนผมสวยงาม  สาวน้อยนี้ขี้หึงนัก …

"ฮึ่ม! หรือเจ้ากล้าพูดว่าไม่รู้สึกอันใด?" ดวงตาคู่สวยแสนงดงามของลี่เฟยจ้องไปยังต้วนหลิงเทียน ทำให้ต้วนหลิงเทียนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

ในฐานะบุรุษธรรมดาผู้หนึ่งแล้ว ผู้ใดกันจะไม่หวั่นไหวยามเห็นสตรีทั้ง 2 ที่งดงามถึงปานนั้น?

ยิ่งไปกว่านั้นทั้ง 2 ก็ช่างแสนดีและน่ารักนัก

ท่าทางของลี่เฟยเริ่มจริงจังก่อนที่จะกล่าวออกมา  "ข้าคิดว่าน่าจะผ่าน"

"คิดว่าน่าจะผ่านอันใด?" ต้วนหลิงเทียนรู้สึกถึงความเย็นวูบประการหนึ่งแล่นวาบไปทีแผ่นหลัง  นี่เสี่ยวเฟยคงไม่มีความคิดประหลาดๆอันใดหรอกนะ?

"…ข้าคิดว่าหากพวกนางจะเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวกับเรา พวกนางต้องผ่านการทดสอบของข้าก่อน" ลี่เฟยยิ้มออกมาอย่างลี้ลับด้วยท่าทางราวกับนางพญา สูงส่งเหนือกว่าผู้อื่น

"การทดสอบอันใดรึ?" ต้วนหลิงเทียนถามด้วยความใคร่รู้ เขาโอบกอดนางพร้อมพรมจูบไปที่แก้มสวยของนาง

"เป็นความลับ!" ลี่เฟยกลอกตาหนีอย่างซุกซน ไม่มองตาต้วนหลิงเทียน ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก ทว่าแอบบีบหนั่นเนื้อละมุนของนางอีกสักรอบโทษฐาน มีความลับกับเขา

เช้าวันรุ่งขึ้น ต้วนหลิงเทียนก็พาเค่อเอ๋อ ลี่เฟย และฉงเฉวียนไปบอกลา ลี่หลัว เซี่ยวหลัน รวมทั้งผู้ดูแลอย่างชิ่งหรู ก่อนที่จะกระตุ้นม้าออกจากลานบ้าน เริ่มต้นการเดินทางออกจากอาณาจักรนภาล่อง

สำหรับคนอื่นๆนั้นต้วนหลิงเทียนได้ไปเอ่ยคำอำลาก่อนหน้านี้เมื่อวันก่อนแล้ว

อาณาจักรพนาครามนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอาณาจักรนภาล่อง กลุ่มของต้วนหลิงเทียนควบอาชาเหงื่อโลหิตห้อตะบึงผ่านหลายภูผามหานทีล่วงเลยเป็นเวลา 4 วันติดต่อ อาชาเหงื่อโลหิตท่องทะยานราวกับเส้นสายอัสนีสีแดง ทิ้งไว้เพียงละอองธุลีดินปลิวฟุ้งในอากาศด้านหลัง

"ฟ่อ ฟ่อ ~" อสรพิษน้อยที่อาศัยอยู่ในแขนเสื้อของต้วนหลิงเทียนก็เริ่มซุกซนโผล่หัวออกมาชมดูสภาพโดยรอบ พวกมันล้วนโยกหัวไปมาพร้อมแลบลิ้นน้อยๆ ราวกับมีความสุขและชมชอบการเดินทางเช่นนี้

"เจ้าตัวน้อยทั้ง 2 นี่พวกเจ้ารู้ด้วยหรือว่ายามนี้พวกเรากำลังจะออกจากอาณาจักรนภาล่องแล้ว" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังอสรพิษน้อยทั้ง 2 ด้วยรอยยิ้ม

อสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัว พยักหัวเล็กๆของพวกมันแลไปคล้ายมนุษย์ ท่าทางของพวกมันสนุกสนานนัก

"ฉงเฉวียนหากเรายังคงเดินทางทั้งวันด้วยอาชาเหงื่อโลหิต และพักผ่อนในยามค่ำคืน  …พวกเราจะใช้เวลาอีกนานเท่าไร กว่าจะถึง นิกายกระบี่ 7 ดาว?" ต้วนหลิงเทียนควบอาชาขึ้นหน้าไปเล็กน้อยก่อนจะกล่าวถามฉงเฉวียน

นิกายกระบี่ 7 ดาวเป็น 1 ใน 5 นิกายใหญ่ของอาจักรพนาคราม

กว่า 90% ของศิษย์สาวกในนิกาย กระบี่ 7 ดาวล้วน ฝึกฝนวิชาตามแนวทางกระบี่  และเนื่องจากผู้ที่บรรลุวิถีแห่งกระบี่จะมีการจู่โจม ร้อยพันหมื่นแปรยากคาดเดา ซ้ำยังว่องไวไร้คู่เปรียบ ทำให้นิกายกระบี่ 7 ดาวนั้นเรียกได้ว่ามีพลังอำนาจอย่างยิ่งในอาณาจักรพนาคราม

แม้กระทั่งอีก 4 นิกายใหญ่ แห่งอาณาจักรพนาครามก็ไม่กล้าล่วงเกินนิกายกระบี่ 7 ดาว

ต้วนหลิงเทียนได้ยินเรื่องนี้มาจากฉงเฉวียน

จากเรื่องที่ฉงเฉวียนได้เล่าให้เขาฟังนั้น เรียกได้ว่า มองไปทั่วทั้งอาณาจักรพนาคราม นิกายกระบี่ 7 ดาวนั้น มีอิทธิพลและอำนาจด้อยกว่าเพียงตระกูลราชวงศ์เท่านั้น

และเรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือ นิกายกระบี่ 7 ดาวจะรับสมัครศิษย์สายนอกทุกๆ หกเดือน ซึ่งนับว่าเปิดรับถี่ยิ่งกว่านิกายใหญ่อีก 4  นิกายที่เหลือมาก …

อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นเช่นนี้ ศิษย์สาวกของนิกายกระบี่ 7 ดาว กลับ ยังมีน้อยกว่าศิษย์สาวกของนิกายใหญ่ อีก 4 นิกายที่เหลือ!

นี่แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันช่วงชิงภายในนิกายกระบี่ 7 ดาวนั้นรุนแรงและโหดร้ายมากกว่านิกายอื่นมากนัก!

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 244 : มังกรครองภพ!"

3.7 229 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

จอมดาบพิฆาตสวรรค์
จอมดาบพิฆาตสวรรค์
มีนาคม 12, 2022
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
มีนาคม 12, 2022
davisam
จักรพรรดิเทพมรณะ
มกราคม 14, 2023
The favored son of heaven
The favored son of heaven
มกราคม 31, 2024
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!
มีนาคม 12, 2022
Divine Beast Adventures
Divine Beast Adventures
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz