หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 243 : เลิกเขม่น หันมา ปรองดอง!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. ตอนที่ 243 : เลิกเขม่น หันมา ปรองดอง!
Prev
Next

บทที่ 243 : เลิกเขม่น หันมา ปรองดอง!

ในที่สุดภายใต้การหลอมปรุงโอสถอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของต้วนหลิงเทียน โอสถหมอกเมฆาอีก 100 เม็ดก็ได้ถูกหลอมปรุงขึ้นจนเสร็จสิ้น

หลังจากที่อสรพิษน้อยทั้ง 2 ได้รับโอสถหมอกเมฆาไปอีกมากมาย ในที่สุดพวกมันก็พึงพอใจ

แต่สิ่งที่ต้วนหลิงเทียนไม่ได้คิดเอาไว้ก็คือ ครานี้เจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 หาได้หลับลึกลงไป แต่พวกมันกลับร่าเริงแจ่มใส พวกมันมองมายังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น

และตอนนี้เจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ก็ไม่คิดจะกินโอสถหมอกเมฆาแล้ว ใช้หางเล็กปัดไปราวกับก้อนหิน…

วันต่อมาต้วนหลิงเทียนจึงต้องปรุงโอสถกระแสธารา และโอสถหยกแดงฉาน เพื่อให้พวกมันกิน …

ทว่าหลังจากที่เจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวได้กินโอสถ กระแสธารา และหยกแดงฉานไปอย่างละ 100 กว่าเม็ดพวกมันก็เริ่มไม่แยแสและไม่คิดที่จะกินโอสถทั้ง 2 อีกต่อไป

อย่างไรก็ตามพวกมันยังคงไม่มีวี่แววว่าจะหลับลึกไปอีกครั้ง ประกายตาพวกมันยังเต็มไปด้วยความร่าเริงแจ่มใส จิตวิญญาณล้นเหลือทั่วทั้งร่างแลดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

"เจ้า 2 ตัวน้อยจอมตะกละ เท่านี้ยังไม่พออีกหรือ!" ต้วนหลิงเทียนรู้สึกท้อแท้เล็กน้อยเมื่อจับจ้องไปยังเจ้า 2 อสรพิษน้อย ตอนนี้พวกมันจ้องเขาตาแป๋ว  ราวกับว่ายังคาดหวังจะได้อะไรมากินเพิ่มเติมอีก…  เขารู้สึกว่าบางทีความคิดเขาในเรื่องนี้มันอาจจะผิดพลาด การจะทำให้เจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวนี่ก้าวหน้า หาได้ง่ายดายนัก

ต้วนหลิงเทียนวางโอสถหมอกเมฆา โอสถกระแสธารา และก็โอสถหยกแดงฉาน ที่เหลือทั้งหมดไว้บนโต๊ะ แล้วทำท่าดุร้ายพร้อมจับจ้องไปยังเจ้าตัวน้อยทั้ง 2 พร้อมกล่าวว่า "ข้าไม่มีอะไรให้พวกเจ้ากินแล้ว…หมดแล้ว เหลือแต่พวกโอสถนี่เท่านั้น พวกเจ้าอยากกินก็กินได้เลย"

"ฟ่อ ฟ่อ ~" ทันใดนั้นเองเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 พลันส่งเสียงราวกับไม่พอใจ พร้อมหัวขนาดเล็กที่ส่ายไปมา หางของพวกมันกระพริบราวกับเส้นสายอัสนีปัดโอสถทั้งหมดบนโต๊ะลอยละลิ่วกระจัดกระจาย

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะต้องตกตะลึง เมื่อเห็นภาพนี้

"เจ้า 2 ตัวน้อยน่าตี! นี่พวกเจ้ากล้าดื้อกับข้าแล้วหรือ?" ต้วนหลิงเทียนกวาดมือออกมาด้วยความเร็วจับเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัว แล้วก็จับพวกมันไปโยนไว้บนต้นไม้ข้างลานบ้าน หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากลานบ้านโดยไม่สนใจการประท้วงของเจ้า 2 ตัวน้อย แล้วกลับห้องไปบ่มเพาะพลัง

วิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม รูปแบบนาคาพิโรธ!

หลังจากผ่านไปอีกเดือน ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็มาแตะขอบเขตระดับกำเนิดแท้ขั้นที่ 4 ได้สำเร็จ ทว่าเขายังไม่อาจทะลวงผ่านมันไปได้ และคงจ้องใช้เวลาอีกสักพัก

ส่วนอีกด้านหนึ่ง ด้วยความช่วยเหลือจาก สุราวานรจักรพรรดิและสุราวานร เค่อเอ๋อก็สามารถตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3 ได้สำเร็จ

ส่วนทางด้านลี่เฟยนางอยู่ห่างจากระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3 เพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น

ในเวลา 1 เดือนทีผ่านมานี้ นอกเหนือจากเซี่ยวหลันที่แวะมาสนทนากับมารดาเขาเป็นครั้งคราว บ้านลานของต้วนหลิงเทียนก็เงียบสงบไร้เรื่องราว

และหลังจากที่ครบกำหนดนัดหมาย 1 เดือน ต้วนหลิงเทียนเองก็เริ่มออกไปรวบรวมวัตถุดิบที่ฝากผู้คนไปซื้อหาเอาไว้

เขาเริ่มต้นด้วยการไปเยือนจวนเจ้าพระยา หลังจากนั้นก็ไปที่ตระกูลซู แล้วก็แวะไปที่ตระกูลเซี่ยว

ต้วนหลิงเทียนกับเซี่ยวฉวินพึ่งรับวัตถุดิบจากประมุขตระกูลเซี่ยวเสร็จ และเดินออกมาคิดกลับ… แต่ทันใดนั้นเองเซี่ยวเหอก็เดินเข้ามาอย่างกะทัน  มันเป็นการพบกันอย่างไม่คาดฝันอีกครั้ง

"ฉวินน้อย นี่ใครรึ?" เขาแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นต้วนหลิงเทียน  ชายหนุ่มแปลกหน้าในชุดสีม่วงนี่ไม่ใช่คนที่เขาพบหน้าร้านขายโอสถเมื่อวันก่อนหรือ?

ชายหนุ่มในชุดสีม่วงหน้าตาหล่อเหลาแลดูไม่ธรรมดา ซ้ำยังมีท่วงท่าสง่างาม นับว่าทำให้เขาประทับใจไม่น้อย

"ท่านพี่เขาคือต้วนหลิงเทียน" เซี่ยวฉวินแนะนำต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะกล่าตอไป "ต้วนหลิงเทียน นี่เป็นพี่ชายของข้าเอง เซี่ยวเหอ"

"ที่แท้เป็นผู้บัญชาการต้วน" เซี่ยวเหอรู้สึกตกตะลึงไม่น้อยเมื่อได้ยินคำกล่าวของเซี่ยวฉวิน แล้วรอยยิ้มก็เริ่มปรากฏบนใบหน้าเขา

"ท่านเป็นพี่ชายของเซี่ยวฉวิน เช่นนั้นก็เรียกข้าว่าต้วนหลิงเทียนก็พอ อย่าได้เรียกอย่างเป็นทางการแล้ว" ต้วนหลิงเทียนเองก็กล่าวกับเซี่ยวเหอด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรเช่นกัน  เขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่ายามนี้เซี่ยวเหอได้เปลี่ยนไป หาใช่เซี่ยวเหอเมื่อกาลก่อนอีกแล้ว ตั้งแต่พบกันที่หน้าร้านโอสถวันนั้น

เขาไร้ความหยิ่งยโส และกลายเป็นคนนอบน้อมมากขึ้น

"เช่นนั้นข้าจะเรียกเจ้าว่าน้องหลิงเทียน" เซี่ยวเหอพยักหน้า แต่เมื่อเขาสบตากับต้วนหลิงเทียน ม่านตาของเขาก็ค่อยๆหดแคบลง สักพักรอยยิ้มของเขาก็หายไป คิ้วเริ่มขมวดขึ้น …

เหตุใดดวงตาคู่นี้ช่างคุ้นเคยนัก

เขาไม่มีวันลืมมันได้ชั่วชีวิต!

อย่างไรก็ตามชายหนุ่มในชุดสีม่วงวันนั้น ไม่อาจเทียบได้กับชายหนุ่มในชุดสีม่วงวันนี้ ทั้งคู่ไม่มีอะไรที่สามารถนำมาเชื่อมโยงกันได้เลย

แต่หากคิดจากมุมอื่น เซี่ยวฉวินเองก็เคยบอกเขาว่า ชายหนุ่มตรงหน้านี้ ก็เป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ตั้งแต่อายุ 18 เช่นกัน …

ในจุดนี้นับว่าใกล้เคียงกับชายหนุ่มชุดสีม่วงคนนั้น

เมื่อต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเซี่ยวเหอ ใจของเขาก็เต้นผิดจังหวะไปเล็กน้อย

ดูเหมือนเซี่ยวเหอนี่จะสังเกตเห็นพิรุธบางอย่าง …

แต่มันจับผิดเขาได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนก็เห็นว่าเซี่ยวเหอไม่กล้ายืนยันว่าเขาเป็นใคร ในสายตาของมันแฝงความลังเลเอาไว้ไม่น้อย

ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆเมื่อเห็นสายตางงงวยและสงสัย ทั้งยังลังเลของเซี่ยวเหอ เขาจ้องมันด้วยสายตาลึกซึ้งก่อนที่ จะหยิบตั๋วเงินปึกหนึ่งขึ้นมา นับคร่าวๆคงมีประมาณ 5 ล้านเหรียญเงิน หลังจากนั้นก็ยื่นส่งไปให้เซี่ยว "เงินจำนวนนี้ถึงเวลาที่จะคืนให้แก่เจ้าของแล้ว"

"เจ้า … เป็นเจ้าจริงๆ … " เซี่ยวเหอไม่ได้รับเงิน แต่ม่านตาของเขาหดแคบลง ท่าทางของเขาทำราวกับเจอภูตผี

"พี่ชายมีอันใดผิดพลาดรึ  เฮ่ ต้วนหลิงเทียนแล้วเจ้าจะให้เงินพี่ข้าทำไม?" ส่วนเซี่ยวฉวินที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็บังเกิดความสงสัยไม่น้อย เขาไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น

"ฉวินน้อย เขาเป็นชายหนุ่มในชุดสีม่วงที่เดิมพันกับข้าที่สมาคมผู้หลอมโอสถวันนั้น และได้เงินเดิมพันจากข้าไป 5 ล้านเหรียญเงิน  เมื่อครู่ข้าสังเกตได้ว่าแววตาของต้วนหลิงเทียนกลับละม้ายคล้ายคลึงกับบุคคลผู้นั้น … แต่ก่อนหน้านี้ข้าไม่กล้ายืนยันเรื่องนี้ แต่ข้าไม่คิดเลย พวกเขากลับเป็นคนๆเดียวกัน น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก! " รอยยิ้มขื่นขมฉายชัดออกมาบนใบหน้าเซี่ยวเหอ  เพราะเขาไม่คิดเลยว่าเมื่อเขาได้พบกับผู้หลอมโอสถอัจฉริยะวัยเยาว์ผู้นั้นอีกครั้ง จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

เซี่ยวฉวินเองก็ตกใจไม่น้อย "ท่านพี่ ไม่ใช่ท่านบอกข้าเองเหรอ ว่าชายหนุ่มผู้นั้นแลดูธรรมดาสามัญ?"

"นี่เป็นสิ่งที่เจ้าต้องถาม น้องหลิงเทียนแล้วล่ะ" เซี่ยวเหอ มองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาสงสัยเช่นกัน

"เฮ่ ต้วนหลิงเทียนมันยังไงกัน" เซี่ยวฉวินมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาสงสัย

ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ "เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนสามารถระบุตัวข้าได้ ข้าจึงใช้วิธีการบางอย่างปลอมแปลงโฉมในวันนั้น… อย่างไรก็ตามข้าไม่คิดเลย ว่าท่านจะจดจำแววตาของข้าได้เช่นนี้" เมื่อกล่าวจบต้วนหลิงเทียนก็มองไปยังเซี่ยวเหอ ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

ในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่า เซี่ยวเหอจดจำเขาได้อย่างไร

เขาสามารถปอมตัวเปลี่ยนแปลงใบหน้าได้ แต่สุดท้ายเขาไม่อาจเปลี่ยนแววตาได้

"จริงๆแล้วในตอนที่ข้าพ่ายแพ้เดิมพันวันนั้นข้าโมโหยิ่งนัก และไม่คิดจะทำอะไรอย่างอื่นอีก นอกจากล้างแค้นเจ้า… ดังนั้นก่อนที่ข้าจะจากไป ข้าจึงจดจำรูปร่างหน้าตาและแววตาของเจ้าเอาไว้ได้อย่างแม่นยำ" เซี่ยวเหอหัวเราะออกมา ในขณะที่เขาหวนนึกถึงวันนั้นเขาก็รู้สึกว่ายามนี้ตัวเองเปลี่ยนไปมาก

"แล้วตอนนี้ไม่อยากแก้แค้นข้าแล้วหรือ?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาอย่างหยอกล้อ

เซี่ยวเหอส่ายหัวไปมา "วันนั้นหลังจากที่ข้ากลับมาถึงตระกูล ข้าเองก็ได้คิดไตร่ตรองอะไรหลายๆอย่าง…หลังจากที่ทบทวนแล้วข้าก็รู้ดีว่าแต่ก่อนข้านั้นหยิ่งยโสขนาดไหน ทั้งข้ายังหลงละเมอคิดไปไกลว่าตัวข้ามีความสามารถเลิศล้ำปานใด จริงๆแล้วข้าต้องกล่าวขอบคุณเจ้าด้วยซ้ำที่ทำให้ข้าตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเองเช่นนั้น "

"ดังเช่นคำพูดเก่าๆ …ไม่มีอะไรจะประเสริฐไปกว่าปรับปรุงแก้ไขตัวหลังจากที่รู้ว่าตัวผิดพลาด … เซี่ยวเหอ เจ้ามีความคิดเช่นนี้ได้ เช่นนั้นข้าย่อมเชื่อมั่นว่าในอนาคตตัวเจ้าจะต้องพัฒนาความสามารถและยืนอยู่บนเส้นทางผู้หลอมโอสถได้อย่างไม่เป็นรองใครในอาณาจักรนภาล่อง "

ต้วนหลิงเทียนนั้นมองเซี่ยวเหอในแง่ดีขึ้นมากหลังจากได้ยินคำกล่าวของเซี่ยวเหอ

เซี่ยวเหอก็พยักหน้าและกล่าวออกมาอย่างสุภาพ "ข้าเองก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น"

สุดท้ายเซี่ยวเหอก็ไม่คิดรับเงิน ที่ต้วนหลิงเทียนส่งคืน

ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้คะยั้นคะยอแต่อย่างไร ทว่าเขาเลือกที่จะชี้แนะเซี่ยวเหอในบางเรื่องของผู้หลอมโอสถ

ไม่จำเป็นต้องสงสัย แท้จริงแล้วเซี่ยวเหอมีก็พรสวรรค์ในด้านนี้อยู่แล้ว เช่นนั้นเขาจึงสามารถเข้าใจคำกล่าวชี้แนะของต้วนหลิงเทียนในหลายๆเรื่อง

ต้วนหลิงเทียนเองก็อดยกย่องมันไม่ได้

เซี่ยวเหอเองก็ยกย่องต้วนหลิงเทียนอย่างสูงที่สามารถบรรลุความเข้าใจในความลึกล้ำของผู้หลอมโอสถได้ถึงขีดขั้นนี้ และเมื่อต้วนหลิงเทียนลากลับ เซี่ยวเหอก็เดินไปส่งเขาถึงหน้าประตูทางออกเขตที่พักตระกูลเซี่ยว

ยามนี้ทั้งสองอาจกล่าวได้ว่า โยนเรื่องราวความบาดหมางทิ้งไป แล้วหันมาปรองดองกันด้วยดี

หลังจากออกจากตระกูลเซี่ยว ต้วนหลิงเทียนก็เดินทางไปยังวังหลวง

ภายในสวนของวังหลวง

องค์ราชาได้สงแหวนมิติไปให้ต้วนหลิงเทียน "นี่คือวัตถุดิบที่ข้าสามารถหามาได้ภายในเมืองหลวง และยังมีวัตถุดิบที่ส่งคนไปรวบรวมมาให้เจ้า"

หลังจากที่รับแหวนมาพร้อมรอยยิ้มต้วนหลิงเทียนก็กล่าวขอบคุณออกมา  “เรื่องนี้ข้าต้องขอบคุณท่านมากองค์ราชา แล้วไม่ทราบว่าวัตถุดิบเหล่านี้มันมีราคาเท่าไรหรือ?”

"ราคา?" องค์ราชาส่ายหัวก่อนที่จะโบกมือ "เจ้าไม่จำเป็นต้องชำระเงินข้าหรอก แต่หากเจ้าจะมีน้ำใจสักเล็กน้อย… ก็ช่วยไปหาปี้เหยาสักครั้งก่อนที่เจ้าจะจากไป"

ต้วนหลิงเทียนตกใจเล็กน้อย แต่เขาก็พอเข้าใจความหมายที่องค์ราชาคิดให้เขาทำเช่นนี้ เขาจึงพยักหน้าออกไป

เมื่อได้พบองค์หญิงปี้เหยาอีกครั้ง ต้วนหลิงเทียนก็สังเกตได้ทันทีว่า องค์หญิงปี้เหยาผ่ายผอมลงไปไม่น้อย ซ้ำยังแลดูอ่อนแอลงมาก  กระทั่งต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดความสงสารเมื่อเห็นนางเป็นเช่นนี้

"องค์หญิง" ต้วนหลิงเทียนโค้งคำนับเบาๆให้องค์หญิงปี้เหยา

สีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจและยินดีฉายชัดออกมาบนใบหน้าที่เศร้าหมองขององค์หญิงปี้เหยา "ท่านมาแล้ว"

"อื้ม" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าเบาๆ และลอบถอนหายใจออกมาในใจ

มีบ้างบางครั้งที่ผลของการกระทำที่เกิดขึ้น… มันก็เป็นผลพวงของการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจ

ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงเลยว่า องค์หญิงปี้เหยาเองก็เป็นสตรีที่งดงามไม่ได้ด้อยไปกว่าเค่อเอ๋อและลี่เฟน

อย่างไรก็ตามมันยังเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะกระทำขั้นตอนสุดท้าย…เปิดใจรับนางเข้ามา

แม้จะเป็นเพียงขั้นตอนเดียว… แต่ก็ดูเหมือนจะอยู่ห่างไกลสุดปลายฟ้า

"ท่านคิดจากไปเมื่อไหร่หรือ?" องค์หญิงปี้หยากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเบา ถึงแม้จะเบาแต่มันก็ไพเราะชัดถ้อยชัดคำ ซ้ำยังเจือไปด้วยความสั่นสะท้านเล็กน้อย ภาพลักษณ์อ่อนแอบอบบางน่าสงสารของนางยามเอื้อนเอ่ย ทำให้ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดตัวองไม่ให้กระทำต่อนางด้วยความอ่อนโยน…ปราการในใจล้วนพังทลาย

"ไปพรุ่งนี้เช้าแล้ว" ต้วนหลิงเทียนกล่าวเสียงเบา

"เหตุใดจึงรวดเร็วนักล่ะ?" ร่างบอบบางไร้กำลังอย่างที่เคยขององค์หญิงปี้เหยาสั่นสะท้านอีกครั้ง นางหันมามองต้วนหลิงเทียน และเมื่อนางสังเกตว่ายามนี้ต้วนหลิงเทีนก็จับจ้องนางมาด้วยแววตาลึกซึ้ง นางก็ยังเกิดความประหม่าจนต้องหันหน้าหลบหนีไปด้านข้าง ทำราวกับเด็กน้อยถูกจับผิดได้อย่างไรอย่างนั้น  แน่นอนว่ายามนี้พวงแก้มสวยของนางเจือไปด้วยสีแดงระเรื่อ

ต้วนหลิงเทียนมองนางอยู่นาน ก่อนที่จะกล่าวคำว่า "องค์หญิงข้าจะพาท่านไปเดินเล่น ดีหรือไม่"

"ดียิ่ง" องค์หญิงปี้เหยาพยักหน้ารับคำ

ไม่เหมือนครั้งอดีตที่มาวังหลวงครั้งแรก คราวนี้ต้วนหลิงเทียนเดินไปกล่าวคำสนทนาไป…เวลาเนิ่นนานล่วงเลย

ทั้ง 2 เข้าใจกันมากขึ้น

ต้วนหลิงเทียนเองก็ได้ตั้งใจที่จะกล่าวถึงเรื่องราวของตัวเองกับลี่เฟยและเค่อเอ๋อ เพื่อหวังให้องค์หญิงคิดตัดใจจากเขา

แต่ช่างผิดคาดนัก ใบหน้าขององค์หญิงปี้เหยายังเต็มไปด้วยรอยยิ้มตั้งแต่ต้นจนจบ “กล่าวได้ว่า แม่นางเค่อเอ๋อกับแม่นางลี่เฟย จะเดินทางติดตามท่านไปยังอาณาจักรพนาครามด้วยหรือ?”

"ถูกแล้ว" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำเบาๆ มุมปากของเขยกขึ้นเผยรอยยิ้มมีความสุขออกมา

แต่เขาไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่าในช่วงเวลาที่องค์หญิงปี้เหยาหันหน้าไปอีกด้าน ยามเมื่อแสงตกกระทบจนเห็นใบหน้าของนางชัดเจนนั้น  มันแสดงให้เห็นว่าความหึงหวงและอิจฉาแฝงอยู่ในดวงตาคู่สวยของนาง… หากนางเลือกได้ คงไม่มีสิ่งใดที่นางต้องการมากไปกว่าการที่ได้อยู่เคียงข้างต้วนหลิงเทียนแทนที่ลี่เฟยและเค่อเอ๋อ

"ท่าน … ท่านจะกลับมาอีกหรือไม่?" เมื่อสุดท้ายงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวคำอำลาองค์หญิงปี้เหยา  นางเองก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามขึ้นมาใบหน้าของนางฉายแววโหยหาไม่น้อย

"ข้าต้องกลับมาแน่" ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ "คราวนี้ท่านแม่ไม่ได้ติดตามข้าไปด้วย  เมื่อข้ามีเวลาว่างข้าย่อมต้องกลับมาเยี่ยมท่านแม่"

ดวงตาขององค์หญิงปี้เหยาส่องประกายขึ้นมาวูบหนึ่ง "ข้าสามารถไปหาท่านแม่ของท่านได้หรือไม่?"

"หืม?" ต้วนหลิงเทียนตะลึงไม่น้อย

มาถึงตอนนี้องค์หญิงปี้เหยาก็รู้ตัวว่าตนกล่าววาจาตรงไปตรงมามากเกินไป สีหน้าของนางแดงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับโลหิตจะผุดแทรกซึมออกมา

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 243 : เลิกเขม่น หันมา ปรองดอง!"

3.7 229 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
มีนาคม 12, 2022
นักล่าปีศาจ
นักล่าปีศาจ
พฤศจิกายน 12, 2023
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
มีนาคม 12, 2022
The favored son of heaven
The favored son of heaven
มกราคม 31, 2024
ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ข้าจะเป็นราชาอมตะ
กรกฎาคม 22, 2023
ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ราชันสามภพ
กรกฎาคม 6, 2023
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz