สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 231 : แข่งขันหลอมอาวุธ โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน!
บทที่ 231 : แข่งขันหลอมอาวุธ โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน!
ดึกสงัดในยามค่ำคืน ต้วนหลิงเทียนนอนกอดสาวน้อยทั้ง 2 ก่อนที่จะหลับใหลไปอย่างมีความสุข
เปรี๊ยะ!!
เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นมาเบาๆในหูของต้วนหลิงเทียน และด้วยพลังวิญญาณที่สูงล้ำ เสียงเบาบางนี้ไม่ต่างอะไรไปกับเสียงกริ่งแจ้งเตือนดังลั่น ทำให้ต้วนหลิงเทียนตื่นขึ้นมาทันที
ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็สังเกตเห็นเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชนขึ้นมาไปทั่วทั้งห้อง
"ผู้ใด?!" ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนก็ได้ยินเสียงฉงเฉวียนกล่าวตะโกนออกมา ก่อนที่จะได้ยินเสียงคนทำลายประตูดังโครมคราม
เค่อเอ๋อและลี่เฟยที่ได้ยินเสียงเอะอะตื่นขึ้นมาด้วยเช่นกัน
ทั้ง 3 คนรีบแต่งตัวและเดินออกมานอกระเบียงที่กำลังลุกเป็นไฟ ลี่หลัวเองก็ออกมาแล้วเช่นกัน
"ลูกเทียนพวกเจ้าปลอดภัยไหม?" ลี่หลัวมองไปยังต้วนหลิงเทียนและลี่เฟยกับเค่อเอ๋อ พร้อมกล่าวถามออกมาด้วยความห่วงใย
ถึงแม้ว่าบ้านลานทั้งหลังจะลุกไหม้ด้วยความรวดเร็ว จนยามนี้ทั่วทุกแห่งมีแตเปลวเพลิงอันร้อนแรง แต่กลุ่มของต้วนหลิงเทียนก็สามารถจัดการดับเปลวเพลิงรอบๆตัว ด้วยพลังงานต้นกำเนิดได้อย่างสบาย
ในเวลาไม่นาน ฉงเฉวียนก็กลับมาพร้อมถือร่างคนผู้หนึ่งเอาไว้ในมือ
มันเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง
ต้วนหลิงเทียนสามารถจดจำชายผู้นี้ได้อย่างรวดเร็ว "ลี่ซิน เป็นเจ้า!"
ลี่ซิน บุตรชายของผู้อาวุโส 7 ลี่คุน!
ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนมืดลงทันที ในปีที่เขาออกจากเมืองวายุโปรยนั้น ตัวเขาก็ไม่ได้คิดจะเอาเรื่องเอาราวอะไรลี่ซินอีกเพราะเห็นว่ามันไม่เหลือใครแล้ว
แต่มาวันนี้ลี่ซิน มันกล้าที่จะสร้างปัญหากับต้วนหลิงเทียน!
"ต้วนหลิงเทียน น่าแค้นใจนักที่ข้าเผาเจ้าไม่ตาย!" ดวงตาของลี่ซินแดงก่ำ เมื่อเขาสังเกตเห็นต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆอยู่รอดปลอดภัย น้ำเสียงและใบหน้ามันฉายชัดออกมาถึงความแค้นใจ
ทันใดนั้นเองเสียงผู้คนวิ่งมาด้วยความเร็วก็ดังขึ้น ประมุขตระกูลและกลุ่มผู้อาวุโสทั้งหมดล้วนรุดมาอย่างรีบร้อน แม้แต่สาวกของตระกูลลี่เองก็หอบหิ้วถังน้ำมาหลายใบเพื่อช่วยกันดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อยู่ในบ้านลานของต้วนหลิงเทียน
แต่น่าเสียดายนัก ที่เปลวเพลิงมันลุกลามรวดเร็วเกินไป บ้านของเขายามนี้วอดวายไปแล้วทั้งหลัง
สุดท้ายบ้านลานที่เขาเติบโตมาก็เหลือเพียงกองเถ้าถ่าน
ต้วนหลิงเทียนกำหมัดแน่น จิตสังหารของเขากระพริบวูบวาบอยู่แววตา บ้านลานหลังนี้ เขามีความทรงจำกับมันมากมาย…
ตอนนี้มันหายไปแล้ว!
"ฮ่าๆๆ … ต้วนหลิงเทียน! เจาโกรธเช่นนั้นหรือ? แต่ข้ารังเกียจเจ้า! จนอยากจะฆ่าให้ตาย! เป็นเจ้าที่ทำลายชีวิตพี่ชายและบิดาของข้า ข้าจะแก้แค้นให้บิดาข้า! ข้าจะฆ่าเจ้าแก้แค้นให้กับพวกเขา!"ลี่ซินหัวเราะออกมา พร้อมกล่าวคำอาฆาต เมื่อได้เห็นสีหน้าท่าทางของต้วนหลิงเทียน
"ลี่ซิน เจ้ามันรนหาที่ตาย!" แววตาของต้วนหลิงเทียนกลับกลายเป็นเย็นชา เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ
"ลูกเทียน ให้ท่านประมุขจัดการเรื่องนี้ เถอะลูก" ลี่หลัวกล่าวบอกต้วนหลิงเทียน
ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขารู้ว่าตอนนี้ประมุขและผู้อาวุโสล้วนรับรู้เรื่องราวหมดสิ้นแล้ว
"ต้วนหลิงเทียน อย่าได้กังวล ตระกูลลี่จะชำระความให้กับเจ้า!" ใบหน้าของลี่หนันเฟิงยามนี้บิดเบี้ยวอย่างถึงขีดสุด ด้วยสถานะของต้วนหลิงเทียนยามนี้ ต้วนหลิงเทียนยังอุตส่าห์กลับมาเยี่ยมพวกเขา นั่นแสดงให้เห็นว่าต้วนหลิงเทียนยังคิดว่าตัวเป็นคนของตระกูลลี่แห่งนี้
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกลับมานอนหลับยังบ้านของเขาแท้ๆ… แต่ลี่ซินกลับจุดไฟเผาบ้านของต้วนหลิงเทียน…เรื่องนี้มันลำเส้นลี่หนันเฟิงมากไปแล้ว
"ใช่แล้วต้วนหลิงเทียน พวกเราจักให้คำอธิบายต่อเจ้าอย่างดี" ผู้อาวุโสของตระกูลลี่ทั้งหมดกล่าวออกมาพร้อมโทสะ พวกเขาหันไปจ้องมองลี่ซินด้วยสายตาอำมหิต
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า
หลังจากนั้นไม่นาน ต้วนหลิงเทียนก็ย้ายไปนอนยังบ้านลานหลังใหม่ที่ ลี่หนันเฟิงจัดให้ ส่วนทางด้านลี่ซินเขาไม่ต้องห่วงเท่าไหร่ เพราะเขารู้ว่าประมุขและเหล่าอาวุโสคงจัดการเรื่องราวนี้ได้เป็นอย่างดี เขาจึงไม่คิดอะไรอีก
เมื่อถึงยามเช้าของวันรุ่งขึ้น ต้วนหลิงเทียนก็ปลุกสาวน้อยทั้ง 2 คนและเดินเล่นไปรอบๆ ที่พักของตระกูลลี่
หลังจากที่เขาจากไปครั้งนี้ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรจะได้กลับมา
"ข้าได้ยินว่าลี่ซินถูกประมุขประหารไปแล้ว"
"เหอะ! มันสมควรตายแล้ว กล้าไปขวางทางหอกเช่นนี้"
"ต้วนหลิงเทียนเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลลี่ของเรา แต่ลี่ซินบัดซบนั่นยังกล้าไปตอแยเขา”
…
ต้วนหลิงเทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินบทสนทนาของสมาชิกตระกูลลี่ เขาไม่คิดว่าประมุขและผู้อาวุโสจะจัดการเรื่องราวให้เขาอย่างเด็ดขาดเช่นนี้
หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวคำอำลาประมุข ลี่หนันเฟิงและเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลลี่
ประมุขลี่หนันเฟิงและเหล่ากลุ่มผู้อาวุโสของตระกูลก็ได้เดินออกมาส่งต้วนหลิงเทียนถึงหน้าประตูทางออกเมืองวายุโปรยเช่นกัน
หลังจากที่มองแผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนหายลับไปแล้ว พวกเขาก็กลับตระกูลไปพร้อมความภาคภูมิใจ
ด้วยความรวดเร็วของอาชาเหงื่อโลหิต กลุ่มของต้วนหลิงเทียนใช้เวลาเพียงแค่1 ชั่วยามเท่านั้น ก็เดินทางบรรลุถึงเมืองออโรร่า
ต้วนหลิงเทียนพึ่งมาถึงบ้านของลี่เฟยไม่นาน ประมุขตระกูลลี่อย่างลี่อู๋ รวมถึงเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายก็เดินทางมาต้อนรับการกลับมาของเขาอย่างรวดเร็ว
"ต้วนหลิงเทียน" ลี่อู๋กล่าวเรียกต้วนหลิงเทียนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับความสำเร็จที่ต้วนหลิงเทียนบรรลุ
เพราะจะอย่างไรต้วนหลิงเทียนก็มาจากตระกูลลี่ของพวกเขา
เมื่อผู้คนพบว่าตระกูลลี่มีตัวตนน่าเกรงขามอย่างต้วนหลิงเทียน เหล่าตระกูลใหญ่จากเมืองต่างๆ ที่ใกล้เคียง ล้วนเดินทางมาทำความรู้จักเพื่อผูกมิตรกับตระกูลลี่ทั้งสิ้น
และนับว่าตระกูลลี่ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้มากมายมหาศาลนัก!
สำหรับลี่อู๋แล้ว เรื่องราวทั้งหมดนี้ ล้วนเกิดขึ้นได้เพราะความสามารถต้วนหลิงเทียน!
"ทักทายประมุข"ต้วนหลิงเทียนยิ้มให้ลี่อู๋ ก่อนที่จะหันไปยิ้มให้กับเหล่าอาวุโส ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับพวกมันก็ตาม
"ตัวเลวร้าย ท่านปู่เกิดเรื่องแล้ว!" ทันใดนั้นเองน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ และเสียงร่ำไห้ของลี่เฟยก็ดังออกมา
"เสี่ยวเฟยเกิดอะไรขึ้นกัน?" ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนเครียดขึ้นเล็กน้อยในขณะที่มองลี่เฟย
ลี่เฟยส่งจดหมายในมือไปให้ต้วนหลิงเทียน
ต้วนหลิงเทียนเปิดออกและอ่านมันทันที
"เฟย…หากเจ้ากลับมาแล้วเห็นจดหมายที่ปู่ทิ้งไว้ฉบับนี้ เกรงว่าปู่เจ้าคงต้องจากโลกนี้ไปก่อนแล้ว … ปู่นั้นคิดที่จะทำอะไรเพื่ออาจารย์ของปู่เสมอมา แต่เนื่องจากปู่มีเจ้าปู่จึงไม่อาจลงมือทำอะไรได้เพราะห่วงใยต่อเจ้า เรื่องนี้นับว่าเป็นปมในใจของปู่มาโดยตลอด!
"แต่ยามนี้เจ้ามีหลิงเทียนคอยดูแลเจ้าแล้ว ปู่เองก็วางใจได้เสียที ปู่จึงคิดออกเดินทางไปหาคนที่ทำให้อาจารย์ต้องตกตายลง หลังจากที่ท่านอาจารย์ได้พ่ายแพ้การประลองหลอมสร้างอาวุธที่เดิมพันด้วยชีวิต….ปู่คิดที่จะเดินทางไปประลองหลอมสร้างอาวุธโดยโดยพันด้วยชีวิตกับมัน! เพื่อแก้แค้นให้แก่อาจารย์ของปู่…นี่นับว่าเป็นเรื่องเดียวที่ปู่จักกระทำเพื่ออาจารย์ของปู่ได้”
"หากในปีนั้นท่านอาจารย์ไม่ยื่นมือมาช่วยเหลือปู่ ปู่คงตกตายไปนานแล้ว … หากเจ้าเห็นจดหมายฉบับนี้ เจ้าก็อย่าได้เศร้าโศกเสียใจนักเลย ปู่ตายเพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้าย …และมันก็คุ้มค่าแล้ว"
หลังจากอ่านจบสีหน้าของต้วนหลิงเทียนก็มืดลงทันที
ลี่อู๋เองก็สัมผัสได้ว่าเรื่องราวมิค่อยสู้ดีแล้ว "เกิดอันใดขึ้นหรือ?"
ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะยื่นส่งจดหมายให้ลี่อู๋
หลังจากอ่านจบสีหน้าของลี่อู๋ก็หมองคล้ำลงทันที "ที่แท้ ที่ผู้อาวุโสลี่เต๋อบอกกล่าวข้าว่า จักออกเดินทางไกลเมื่อปีที่แล้ว… ข้าไม่เคยคิดเลย … "
ปีที่แล้ว?
สีหน้าของต้วนหลิงเทียนบิดเบี้ยวลงทันที ก่อนที่จะหันไปมองลี่เฟยด้วยสายตากังวล
"ตัวเลวร้าย!" ลี่เฟยโผเข้าอ้อมอกของต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะร่ำร้องออกมาอย่างเสียใจ
ต้วนหลิงเทียนลูบหัวของลี่เฟยเบาๆ ก่อนที่จะกอดนางเอาไว้ พร้อมหันไปมองลีอู๋ "ประมุข ท่านรู้หรือไม่ผู้อาวุโสลี่เต๋อเดินทางไปที่ใด?"
ลี่อู๋ส่ายหัวออกมา "ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน ข้าไม่รู้แม้กระทั่งว่าผู้อาวุโสลี่เต๋อจักมีอาจารย์เช่นนี้ … อย่างไรก็ตาม การหลอมสร้างอาวุธโดยมีชีวิตเป็นเดิมพันเช่นนี้ สมควรมีเบาะแสให้สืบค้นไม่น้อย …ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบเรื่องนี้เดี๋ยวนี้ "
"ขอบคุณประมุข" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับด้วยความขอบคุณ
ลี่อู๋นำกลุ่มผู้อาวุโสจากไปทันที
คำสั่งต่างๆมากมายถูกส่งออกไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับตระกูลลี่แล้ว เรื่องนี้มีความสำคัญมาก
ในสายตาของผู้คนระดับสูงของตระกูลลี่ ต้วนหลิงเทียนคนนี้เป็นความภาคภูมิใจและเกียรติยศของตระกูลลี่ ถึงแม้ว่าตัวเขาจะมีแซ่อื่นก็ตาม
และด้วยสถานะของต้วนหลิงเทียน ที่มีอำนาจล้นพ้นในอาณาจักรนภาล่องแห่งนี้แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตระกูลลี่ก็ได้ แต่พวกเขาต้องพยายามช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนให้ถึงที่สุด …
"เสี่ยวเฟย เจ้าอย่าพึ่งกังวล ท่านปู่อาจจะชนะก็ได้" ต้วนหลิงเทียนกล่าวปลอบใจ
ลี่เฟยกล่าวออกมาพร้อมร้องไห้ "ท่านปู่ไปตั้ง 1 ปีแล้ว หากท่านปู่ชนะ ท่านปู่คงกลับมานานแล้ว"
"เอาล่ะ บางทีท่านปู่อาจจะเอาชนะมันได้แล้ว จึงออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลายจิตใจ ก่อนที่พวกเราจะยืนยันความจริงได้ เจ้าต้องใจเย็นลงก่อนรู้มั้ย?" ภายใต้การปลอบประโลมของต้วนหลิงเทียน ในที่สุดลี่เฟยก็เริ่มดีขึ้น
"ตัวเลวร้าย หากท่านปู่ตายแล้ว เจ้าต้องช่วยข้าล้างแค้นให้ท่านปู่นะ" ดวงตาที่งดงามของลี่เฟยเต็มไปด้วยจิตสังหาร
"เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะฆ่าล้าง พวกมันให้เจ้าทั้งตระกูลเลย" ประกายตาของต้วนหลิงเทียนกระพริบออกมาด้วยจิตสังหารเช่นกัน
ปู่ของลี่เฟยก็เหมือนปู่ของเขา
ต้วนหลิงเทียนพาลี่เฟยไปพักที่บ้านลานของเขา ซึ่งอยู่หลังกำแพง และเมื่อลี่หลัวกับเค่อเอ๋อรู้เรื่อง ทั้งคู่ก็มาช่วยปลอบลี่เฟยด้วยเช่นกัน
ต้วนหลิงเทียนกล่าวบอกเรื่องราวกับสตรีทั้ง 3 คนว่าเขาจะออกไปจัดการเรื่องราวบางอย่าง ก่อนที่จะออกเดินทางไปพร้อมกับฉงเฉวียน
เขามุ่งหน้าไปยังตลาดกลางเมือง ก่อนที่จะเดินเข้าร้านโอสถ เพื่อไปหาถังจิ้ง ผู้ดูแล เงายมทูตประจำเมืองออโรร่า
"เด็กน้อย เจ้ากลับมาแล้ว" ถังจิ้งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นต้วนหลิงเทียน แต่เขาเองก็เห็นว่ายามนี้สีหน้าของต้วนหลิงเทียนไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไร "มีเรื่องราวอะไรนักหนาเช่นนั้นรึ ด้วยสถานะเช่นนี้ของเจ้า ยังจะมีอันใดสร้างปัญหาให้เจ้าได้อีก?"
ปัจจุบันกล่าวได้ว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในอาณาจักรนภาล่อง นอกจากองค์ราชาแล้วเขายังจะมีเรื่องกับใคร??
"ถังจิ้ง ที่ข้ามาหาท่านวันนี้ เพราะมีเรื่องราวบางประการที่จะขอความช่วยเหลือจากท่าน" ต้วนหลิงเทียนกล่าวบอกเหตุผลการมาทันที
"ว่ามา" ถังจิ้งพยักหน้ารับคำ
ต้วนหลิงเทียนได้เล่าเรื่องราวของลี่เต๋อให้ถังจิ้งฟัง.. "ข้าอยากให้ท่านช่วยสืบข่าวรวมทั้งประสานงานแลกเปลี่ยนกับ เงายมทูตสาขาประจำเมืองต่างๆ เพื่อตรวจสอบดูว่าที่เมืองไหน มีการแข่งขันหลอมสร้างอาวุธ และมีการเดิมพันด้วยชีวิตบ้างในปีที่ผ่านมา "
"มิมีปัญหา" ถังจิ้งกล่าวตอบรับ
"ลำบากท่านแล้ว" หลังจากที่ออกจากร้านค้าโอสถ ต้วนหลิงเทียนก็เดินทางไปยังที่พักของตระกูลหลิน เพื่อหาหลินฉี
"ต้วนหลิงเทียน! ไม่คิดเลยจริงๆว่าสหายของข้าจะกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงเรื่องระบือไปทั่วอาณาจักรเช่นนี้ …เฮ่อ เจ้าช่างยอดเยี่ยมโดยแท้จริง" หลินฉีมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาซับซ้อน
ชายหนุ่มตรงหน้าเคยเติบโตมาพร้อมกันและอยู่ในระดับเดียวกันกับเขา…แต่ตอนนี้ชายหนุ่มคนนั้นได้ก้าวไปไกลจนเขาไม่มีวันตามทันอีกแล้ว
"หลินฉี ที่ข้ามาวันนี้ เพราะข้ามีเรื่องราวบางประการ อยากจะขอความช่วยเหลือจากเจ้าสักหน่อย" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถึงสาเหตุที่เขามาหาหลินฉี …เขาต้องการให้หลินฉีประสานงานกับกลุ่มการค้าทิวลิปม่วง ในการสืบหาข้อมูลเรื่องนี้
หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวที่ต้วนหลิงเทียนบอกกล่าว สีหน้าของหลินฉีเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที "นี่นับว่าไม่มีปัญหาอะไร ข้าจะไปหาผู้ดูแลกลุ่มการค้าทิวลิปม่วงประจำเมืองออโรร่าตอนนี้เลย…ข้ามั่นใจว่าด้วยสถานะของเจ้ายามนี้ ท่านลุงกับท่านป้าของข้าต้องยินดีอย่างยิ่งที่ได้ช่วยเหลือเจ้าเป็นแน่!"
"เอาล่ะ ถ้างันข้าต้องรบกวนเจ้าแล้ว" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ดังนั้นนอกเหนือจากตระกูลลี่แล้ว อำนาจที่เขาใช้พึ่งพาได้ก็มีเพียง เงายมทูต กับกลุ่มการค้าทิวลิปม่วงเท่านั้น
อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนมั่นใจว่า ด้วยเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่ของเงายมทูตและกลุ่มการค้าทิวลิปม่วง มันต้องได้ผลลัพธ์ที่เขาต้องการในเวลาอันสั้นแน่นอน
หลังจากที่เดินทางออกจากที่พักของตระกูลหลิน ต้วนหลิงเทียนก็ระบายลมหายใจออกมา ก่อนที่จะเดินทางกลับมายังเขตที่พักตระกูลลี่
ในระหว่างทางต้วนหลิงเทียนพบเจอคนที่มีใบหน้าคุ้นเคย
ลี่อัน
ช่วงแรกๆที่ต้วนหลิงเทียนเดินทางมายังตระกูลลี่นั้น ลี่อันคนนี้ก็นับได้ว่าเป็นคนรุ่นเยาว์ของตระกูลลี่เช่นเดียวกัน และมันเป็นรองเพียงลี่ชิงเท่านั้น
ต่อมาตัวมันก็คิดแย่งชิงเค่อเอ๋อ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเปิดเผยความแข็งแกร่งอันน่าพรั่นพรึงของเขาออกไป ลี่อันผู้นี้ก็หายหน้าหายตาไปโดยไม่โผล่มาให้เห็นอีกเลย
ส่วนบนของฟอร์ม