หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 228 : ปะทะเดือด หน้าบัลลังก์!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 228 : ปะทะเดือด หน้าบัลลังก์!
Prev
Next

บทที่ 228 : ปะทะเดือด หน้าบัลลังก์!

 

 

"อย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด" ประกายตาของของต้วนหลิงเทียนเรืองวูบออกมา เขาสามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ในเสี้ยวพริบตา

ตอนแรกที่องค์ราชามรรตัยปรากฏตัว ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงว่าบรรยากาศมันเคร่งเครียดและอึมครึมขึ้นในทันใด

ประการแรก องค์ราชามรรตัย ดูเหมือนจะมีความไม่พอใจในตัวองค์ราชาไม่น้อย

ประการที่สอง องค์ชาย 5 ที่มีนามว่าฉู่ฉิน ตอนแรกนั้นมันยังคุกเข่าอ้อนวอนเพื่อขออภัยโทษอยู่ดีๆ แต่ทว่าพอองค์ราชามรรตัยปรากฏตัว  มันก็ถอนหายใจโล่งอกออกมาราวกับได้เห็นผู้ที่สามารถช่วยชีวิตมันได้อย่างไรอย่างนั้น

แต่จะอย่างไรก็ตาม ตัวต้วนหลิงเทียนเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างองค์ชาย 5 กับองค์ราชามรรตัยฉู่จะเป็นถึงบุตรบิดาเช่นนี้ !

นี่ไม่ได้หมายความว่า องค์ชาย 5 เกิดจาก การที่องค์ราชามรรตัยไปเล่นชู้กับสนมขององค์ราชาหรอกหรือ?

สวรรค์ เรื่องเช่นนี้….

แลดูเหมือนเรื่องนี้จะซับซ้อนไม่น้อย..

"เจ้า… พวกเจ้าสองคน … " องค์ราชาพิโรธอย่างถึงทีสุด ม่านตาของเขาหดแคบลง มือสลับชี้ออกมายังองค์ราชามรรตัยฉู่ และฉู่ฉิน ลมหายใจเริ่มปั่นป่วน

"เสด็จพี่ เดิมทีฉินเอ๋อนั้นมิได้ล่วงรู้เรื่องราวอันใดเกี่ยวกับยาพิษหรอก …ยาพิษที่เขานำไปลอบวางให้ท่านนั้น  เป็นข้าที่มอบสูตรโอสถให้แก่เขาเอง " องค์ราชามรรตัยฉู่มองไปยังองค์ราชาด้วยสายตาเรียบเฉย ราวกับเขากล่าวเรื่องราวธรรมดา "ในปีนั้น ตัวข้าได้ตัดสินใจว่าจะอยู่ปกป้องราชวงศ์ให้ดี และความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของข้าก็คือ การได้เห็นบุตรชายคนเดียวได้ขึ้นครองบัลลังก์ … แต่โชคชะตาช่างเล่นตลกนัก  เป็นท่านเอง…เสด็จพี่ ตัวท่านนั้นกระหายในอำนาจมากจนเกินไป  แม้วัยท่านจะล่วงเลยไป 60 กว่าแล้ว แต่ตัวท่านยังไม่ยินยอมที่จะสละบัลลังก์ของท่าน "

บุตรชายคนเดียว!

เรื่องที่องค์ราชามรรตัยกล่าวออกมา ทำให้สีหน้าขององค์ราชาซีดราวกับศพ "บัดซบ เช่นนั้นสารเลวน้อยนี่ก็เกิดจากเจ้ากับอีนังแพศยานั่น?!" องค์ราชารู้สึกแน่นหน้าอกจนแทบหายใจไม่ออก เมื่อได้รู้ว่าตัวเขากลับโง่งมสวมหมวกเขียวมาตลอดหลายปีที่ผ่าน

"ไอแก่ เจ้าอย่าได้ว่าร้ายท่านแม่ของข้า!" ฉู่ฉินลึกขึ้นยืนก่อนที่จะชี้หน้าด่าองค์ราชาด้วยแววตาดุร้าย เมื่อเรื่องราวมันมาถึงขั้นนี้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องแสดงละครปิดบังอะไรอีก

"ฮ่า ๆ … .ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ … ." องค์ราชาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง  ครู่หนึ่งหลังจากนั้นองค์ราชาก็มองไปยังองค์ราชามรรตัยฉู่ด้วยสายตาเย็นชา  "น้องสี่ ที่เจ้าเลือกออกมาเผชิญหน้าและแตกหักกับข้าในวันนี้เช่นนี้ คงไม่ใช่แค่เพราะเจ้าคิดมาช่วยชีวิตมันอย่างเดียวใช่หรือไม่ ?"

องค์ราชามรรตัยฉู่มองไปยังองค์ราชาด้วยสายตาลึกซึ้ง "เสด็จพี่ …ที่ข้ามาวันนี้ ยังหวังให้ท่านสละบัลลังก์ ส่งมอบให้รุ่นเยาว์ที่มีความสามารถเสีย"

ให้สละบัลลังก์?

อะไรที่องค์ราชามรรตัยกล่าว ล้วนทำให้ผู้คนเลอะเลือนอีกครั้ง

แม้แต่ตัวต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่คิดเลยว่าองค์ราชามรรตัยจะไร้ยางอายถึงเพียงนี้! …

"แล้วหากข้าไม่เต็มใจ เจ้าจักทำเช่นไร?" องค์ราชากล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ ประกายตาเรืองวูบออกมาด้วยความเย็นชา

"เสด็จพี่ ท่านเองก็มิใช่คนเขลา" องค์ราชามรรตัยฉู่กล่าววาจาออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทว่าวาจาที่กล่าวออกด้วยน้ำเสียงเรียบๆนี้กลับแฝงคำขู่เอาไว้ไม่น้อย

"เช่นนั้นน้องสี่ คิดบีบบังคับให้ข้าสละบัลลังก์?" องค์ราชาเริ่มหัวเราะออกมาอีกครั้ง ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา ดูไปคล้ายถูกน้ำแข็งเคลือบปกคลุมเอาไว้

"แล้วหากข้าคิดทำเช่นนั้น จะเป็นอย่างไรเล่า?" ท่าทางขององค์ราชามรรตัยแลดูไม่ได้ทุกข์ร้อนแม้แต่น้อย ราวกับเขาไม่ได้เห็นองค์ราชาอยู่ในสายตา

"บังอาจ" สีหน้าขององค์ราชามืดลง ก่อนที่จะตะโกนออกมา

ทว่าตอนนี้องค์ราชามรรตัยดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรองค์ราชา ดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง  เลยหันมองออกไปนอกท้องพระโรง

ตอนนี้เองจะสังเกตได้ว่าฉงเฉวียนที่อยู่ด้านข้างต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองด้านนอกเช่นกัน

ต่อมาทั้งเจ้าพระยาและพระยาเรืองฤทธิ์ก็หันไปมองด้วยเช่นกัน

ร่างหนึ่งกำลังเยื้องย่างมาอย่างช้าๆ

ร่างนี้สวมชุดคลุมสง่างาม ในมือถือพัดขนนกสีขาวเอาไว้

ร่างนั้นเป็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง และตอนนี้เขาเองก็เดินไปยืนอยู่ด้านหลังองค์ราชา

องค์ราชาพลันถอนหายใจออกมา เมื่อเห็นชายวัยกลางคนที่มีท่างท่าราวกับนักปราชญ์มาถึง

"ผู้อำนวยการซื่อหม่า สำหรับคนที่ฉลาดเฉลียวเช่นท่านควรรู้ว่า…ยามนี้อะไรดีต่อท่าน  เป็นไปได้หรือไม่ที่ท่านคิดว่าอาศัยตัวท่านจะหยุดข้าได้?" องค์ราชามรรตัยหันไปจับจ้องชายวัยกลางคนผู้มาใหม่ ก่อนที่จะกล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงมืดมน

"ผู้อำนวยการซื่อหม่า?" สีหน้าของต้วนหลิงเทียนเผยความตกตะลึงออกมา

ชายวัยกลางคนที่ปรากฏตัวขึ้นมาตอนนี้ ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากอาจารย์ฝ่ายดาวกุนซือของสถาบันบ่มเพาะขุนพล ซื่อหม่าฉางฟง!

เมื่อครู่เขาได้ยินคำกล่าวขององค์ราชามรรตัยว่า "ผู้อำนวยการ … ."

เป็นไปได้งั้นหรือที่อาจารย์ประจำชั้นเรียนของเขาคนนี้กลับเป็นถึงผู้อำนวยการของสถาบันบ่มเพาะขุนพล

เช่นนั้นกล่าวได้ว่าชายผู้นี้ปกปิดตัวเองได้ดีนัก

"องค์ราชามรรตัยฉู่ ท่านยอมแพ้เสียเถิด " ซื่อหม่าฉางฟงมองไปยังองค์ราชามรรตัยฉู่ ก่อนที่จะกล่าวคำออกมาอย่างเฉยเมย “ฝ่าบาทเป็นองค์ราชาที่ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมและมีอำนาจโดยชอบธรรมตามกฎหมายของอาณาจักรนภาล่อง  หากท่านคิดต้องการให้ฝ่าบาทสละราชบัลลังก์ อย่าได้กล่าวถึงข้าเลย แม้กระทั่งท่านเจ้าพระยาก็คงไม่ยืนชมดูอยู่เฉยๆเป็นแน่”

"เจ้าพระยา?" สายตาขององค์ราชามรรตัยฉู่เบนไปตกที่ชายชราที่นั่งอยู่ด้านข้างองค์ราชา ก่อนที่จะแย้มยิ้มออกมาอย่างไม่แยแส "เรื่องนี้ไม่ต้องกล่าวถึงความจริงที่ว่า ยามนี้เจ้าพระยาต้องพิษพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์จนสูญเสียระดับบ่มเพาะด้วยซ้ำ …ถึงแม้ว่าเข้าจะไม่ได้ถูกพิษอันใด แต่เจ้าคิดจริงๆหรือว่าอาศัยพวกเจ้าเพียง 2 คนร่วมมือกันแล้วจะเอาชนะข้าได้? " ในขณะที่กล่าวคำถึงประโยคนี้ องค์ราชามรรตัยฉู่ก็เผยให้เห็นถึงน้ำเสียงและท่าทางหยิ่งผยอง

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ … องค์ราชามรรตัย สมแล้วที่ท่านเคยเป็นถึงความหวังของตระกูลราชวงศ์ และถูกกล่าวขานว่าเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์ที่หาได้ยากยิ่ง" ชายชราที่นั่งอยู่ด้านข้างองค์ราชากล่าวคำออกมาพร้อมหัวเราะเยาะ

"เจ้าพระยา ข้าขอเตือนว่าเรื่องนี้ จวนเจ้าพระยาอย่าได้สอดมือเข้ามาแทรกเสียจักประเสริฐกว่า หาไม่แล้วอย่าได้ตำหนิข้าองค์ราชามรรตัยไร้เมตตา" องค์ราชามรรตัยฉู่หันไปมองเจ้าพระยาพร้อมกล่าววาจาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ขาดเจตนาข่มขู่

"ฮึ่ม!" เจ้าพระยายังไม่ทันได้กล่าววาจาอะไร นี่เหวี่ยที่อยู่ด้านข้างพลันแค่นเสียงสบถและก้าวออกมา "องค์ราชามรรตัย ทางจวนเจ้าพระยาจะยอมรับใช้ และให้ความเคารพต่อราชาที่ถูกต้องตามกฎมณเฑียรบาลประจำราชวงศ์เท่านั้น … หากท่านคิดบีบบังคับให้องค์ราชาสละบัลลังก์เช่นนั้น ตัวเจ้าก็ไม่ต่างอันใดกับกบฏ   ข้านี่เหวี่ยจะเป็นคนแรกที่ยืนหยัดเคียงข้างฝ่าบาท เพื่อช่วยเหลือพระองค์ให้พ้นจากความยากลำบากครั้งนี้ และตัดหัวคนทรยศ! "

"ประเสริฐนัก! ท่านพระยา! ไม่เสียทีที่ข้าไว้ใจท่านมาตลอด ช่างประเสริฐนัก!"องค์ราชาอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมา เมื่อได้เห็นพระยาเรืองฤทธิ์ยืนหยัดเคียงข้างไม่หวาดหวั่น

"ถึงแม้ว่าข้าต้วนหลิงเทียนคงทำอะไรท่านไม่ได้ แต่ก็นับได้ว่าข้าเป็นหนี้บุญคุณขององค์ราชาอยู่ไม่น้อย เช่นนี้ข้าเองก็ยินดีจะให้ความช่วยเหลือองค์ราชาด้วยเช่นกัน" ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวแสดงจุดยืนออกมาด้วยเช่นกัน

"เจ้าน่ะหรือต้วนหลิงเทียน?" องค์ราชามรรตัยเบนสายตามามองต้วนหลิงเทียนด้วยความดูแคลน มุมปากแสยะยิ้มเย้ยหยันพร้อมกล่าว "เจ้าหาได้มีคุณสมบัติที่จะเลือก!"

“ข้าคงไม่ลำบากให้ท่านองค์ราชามรรตัยมากังวลเรื่องคุณสมบัติในการเลือกของข้าหรอก”ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส

"ต้วนหลิงเทียน เจ้าอย่าอวดดีให้มันมากนัก!" สีหน้าของฉู่ฉินมืดลงก่อนที่จะกล่าวคำออกมา

"หืม?" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังฉู่ฉินก่อนที่จะหัวเราะออกมา "องค์ชาย 5  … โอ้ ข้าลืมไป เจ้าไม่ใช่องค์ชายแล้วสิ"

"เจ้า!" สีหน้าของฉู่ฉินเต็มไปด้วยโทสะ แววตาเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร "ต้วนหลิงเทียน วันนี้เจ้าไม่รอดแน่ ข้าจะจับตัวเจ้า และส่งไปให้ลูกพี่ลูกน้องของข้าจัดการ ข้าจะให้นางสนุกกับการฉีกร่างเจ้าเป็นพันๆชิ้น!"

"อะไร? องค์ชาย 5 เจ้าแน่ใจแล้วงั้นหรือว่าพวกเจ้า 2 คนจะชนะ" ต้วนหลิงเทียนหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวคำออกมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ

"เจ้าจักได้รู้เร็วๆนี้… หลังจากวันนี้ไป ข้าฉู่ฉิน! จักเป็นองค์ราชาแห่งอาณาจักรนภาล่อง!" สายตาของฉู่ฉินเต็มไปด้วยความเพ้อฝัน มันทำราวกับว่าตัวมันเห็นฉากที่ขึ้นนั่งบัลลังก์ครอบครองแผ่นดินอย่างไรอย่างนั้น

"ช่างเพ้อฝันนัก!" องค์ราชาเย้ยหยันออกมา

"เสด็จพี่ ท่านเองก็จะได้รู้ในอีกไม่ช้า ว่ามันจักเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันหรือไม่"กล่าวจบองค์ราชามรรตัยก็กวาดสายตามองทุกคนทั่วทั้งห้อง สุดท้ายเขาก็หยุดมองไปยังอัครมหาเสนาบดีกู้โหย่วถิง "อัครมหาเสนากู้ ข้ารู้ว่าท่านเป็นคนฉลาด เช่นนั้นข้าจะให้ทางเลือกแก่ท่าน 2 ทาง… ประการแรกตกตายไปพร้อมๆกันกับไอแก่นี่ หรือเลือกที่จะเป็นอัครมหาเสนาบดีเช่นนี้ต่อไปแล้วช่วยเหลือบุตรชายข้าปกครองอาณาจักรนภาล่อง"

เมื่อกู้โหย่วถิงเห็นสายตาไม่แยแสขององค์ราชามรรตัย เขารู้ดีว่าถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจเลือกข้างแล้ว

ทั้งตอนนี้เขาก็ยังสังเกตเห็นว่า องค์ราชาจับจ้องเขามาอยู่เช่นกัน

เขาตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากในพริบตา

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

…

ทันใดนั้นเองร่างเงาสีดำพลันกระพริบวูบวาบพุ่งเข้ามายังท้องพระโรงทีละคนๆ ก่อนที่จะไปยืนทางฝั่งองค์ราชามรรตัยฉู่

ทั้งสิ้นมี 8 คน ทั้งหมดล้วนเป็นชายชราสวมใส่ชุดคลุมลมดำ แต่ละคนแลดูเย็นชาไม่แยแส

แน่นอนว่ามันย่อมเป็น หน่วยองค์รักษ์ผีขององค์ราชามรรตัย

"เรียนองค์ราชา องครักษ์ระดับผู้ฝึกยุทธ์ครึ่งก้าวธรรมชาติขององค์ราชา ถูกพวกเราจัดการเรียบร้อยหมดแล้วขอรับ" องครักษ์ผีคนหนึ่งกล่าวคำรายงานต่อองค์ราชามรรตัยฉู่

"อัครมหาเสนาบดีกู้ ตกลงท่านคิดเลือกหนทางใด?"องค์ราชามรรตัยมองไปยังกู้โหย่วถิงก่อนที่จะกล่าวถามออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เริ่มหมดความอดทน

กู้โหย่วถิงเองไม่กล้าลังเลอีกต่อไปเมื่อได้ฟังคำรายงานขององค์รักษ์ผีที่ถึงมาถึง "องค์ราชา ข้ากระหม่อมต้องขออภัยท่านด้วย" เขากล่าววาจาขออภัยต่อองค์ราชาก่อนที่จะ เหินร่างไปยังฝั่งขององค์ราชามรรตัย

ความเร็วในการเหินร่างของมันแม้รวดเร็ว ทว่ามีคนที่รวดเร็วฉับไวเสียกว่า!

โผละ!!

ซื่อหม่าฉางฟงที่ยืนอยู่ด้านหลังองค์ราชา พลันยกมือขึ้นมาก่อนที่จะควบรวมพลังงานต้นกำเนิดอย่างฉับพลัน แผ่กลิ่นอายทรงพลังน่าพรั่นพรึงออกมา  ก่อนที่จะซัดคลื่นพลังไร้สภาพใส่กู้โหย่วถิงที่เหินร่างอยู่กลางอากาศ จนร่างมันระเบิดแหลกเหลว ตกตายลงต่อหน้าองค์ราชามรรตัย

"ซื่อหม่าฉางฟง!" สีหน้าขององค์ราชามรรตัยหมองคล้ำลง เสื้อคลุมสีขาวของเขาเริ่มโหมกระพือขึ้นโดยไม่มีแม้แต่สายลม ผมยาวโบกสะบัดพลิ้ว ยามนี้เขาบันดาลโทสะแล้ว

ฟุ่บ!

ซื่อหม่าฉางฟงทะยานร่างไปหาองค์ราชามรรตัยด้วยท่วงท่าอหังการราวกับจะทะยานผ่านผืนฟ้า

เหนือศีรษะซื่อหม่าฉางฟงฉายชัดออกมาถึงเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 3,000 ตัว อย่างทรงพลัง! …

"ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 2!" ต้วนหลิงเทียนรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เขาไม่คิดเลยว่าอาจารย์ประจำชั้นของเขาอย่างซื่อหม่าฉางฟงจะแข็งแกร่งขนาดนี้

"เฮอะ!" สีหน้าขององค์ราชามรรตัยเผยความหยิ่งยโสออกมาไม่น้อยเมื่อเผชิญหน้ากับซื่อหม่าฉางฟงที่ทะยานร่างมาด้วยความว่องไว  ร่างกายของเขาสั่นไหวเล็กน้อย พลังงานต้นกำเนิดเริ่มเอ่อทะลักล้นออกมากดดันในบรรยากาศ เหนือศีรษะของเขาปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมาถึง 4,000 ตัวอย่างน่าเกรงขาม!

ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 3!

ม่านตาของต้วนหลิงเทียนหดแคบลงโดยพลันเมื่อเห็นภาพนี้!

ไม่คิดเลยว่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ผู้คนกล่าวขานกันว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับธรรมชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรนภาล่องอย่างองค์ราชามรรตัย จะเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 3!

"ผู้อำนวยการซื่อหม่า เราผู้ชราจะช่วยเหลือท่านอีกแรง!" ชายชราที่นั่งอยู่ด้านข้างขององค์ราชาพลันลุกขึ้นก่อนที่จะทะยานร่างไปราวพยัคฆ์ร้าย ระดับบ่มเพาะแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 2 ถูกเผยออกมาให้ทุกคนได้รับรู้!

"ท่านพ่อระวัง!" ร่างของนี่เหวี่ยพลันกระพริบวูบไหว พุ่งเข้าไปร่วมรบด้วยทันที เหนือศีรษะของเขาฉายเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 2,000 ตัว!

เห็นได้อย่างชัดเจนว่ายามนี้นี่เหวี่ยตัดผ่านไปยังระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นแรก สำเร็จแล้ว!

เวลานี้เสมือนมีภูผาสะเทือนปฐพีเลือนลั่นแลฟ้าถล่มลงมาในท้องพระโรงนี้อย่างแท้จริง ความเร็วของผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติทั้ง 4 คนที่พุ่งวูบวาบไปวูบวาบมาด้วยความเร็วสูงล้ำจนเห็นเพียงภาพติดตา ก่อให้เกิดแรงอัดอากาศกระแทกทำลายออกมาอย่างน่าครั่นคร้าม

อย่างน้อยๆต้วนหลิงเทียนก็ไม่อาจมองเห็นภาพการสับประยุทธ์ได้กระจ่าง…

แต่มีเพียงเรื่องเดียวที่เขาค่อนข้างมั่นใจ หลังจากจับสังเกตและใช้พลังวิญญาณจับสัมผัส นั่นก็คือ …ยามนี้ถึงแม้องค์ราชามรรตัยฉู่กำลังถูกกลุ้มรุม 3-1 แต่มันกำลังมีเปรียบ!!

"โฮ่ เจ้าพระยาดูเหมือนพิษพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์ของท่านจะถูกขจัดออกจนหมดสิ้นแล้ว… ส่วนเจ้า นี่เหวี่ย มิคิดเลยว่าจักก้าวขึ้นมาเหยียบระดับแรกสัมผัสธรรมชาติได้สำเร็จ!" น้ำเสียงขององค์ราชามรรตัยเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจเอาไว้ไม่น้อย

พัดขนนกในมือของซื่อหม่าฉางฟงบัดเดี๋ยวหุบเดียวคลี่ ปาดไปมา เป็นพัลวันอย่างว่องไว เผยให้เห็นว่าแท้จริงพัดเล่มนี้กลับเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 7

สองพ่อลูกแห่งจวนเจ้าพระยาเองก็หยิบอาวุธวิญญาณระดับ 7 ออกมาด้วยเช่นกัน

"เหอะ! พวกเจ้าใช้อาวุธวิญญาณแล้วจะอย่างไร อาศัยผู้ฝึกยุทธ์แรกสัมผัสธรรมชาติ 3 คน แต่กลับมีเพียง 2 คนที่เข้าใจ วิถีแห่งพลัง… วันนี้ข้าจะให้พวกเจ้า 2 คนได้ลิ้มรส พลังกระบี่ขั้นสูง!" ทันใดนั้นเองดาบ 3 ฉื่อขององค์ราชามรรตัยพลันบังเกิดสีน้ำเงินเข้มครอบคลุม

ฟุ่บ!

ทุกๆครั้งที่ดาบ 3 ฉื่อขององค์ราชามรรตัย เหวี่ยงฟาดออกไป พลังงานต้นกำเนิดที่แฝงไว้ในกระบวนท่าโจมตีของซื่อหม่าฉางฟงและคนอื่นๆ ที่กำลังซัดออกมา ล้วนถูกทำลายลงอย่างง่ายดายราวกับอีกฝ่ายทุบทำลายไม้ฟืน

ทกคนพลันตื่นตะลึงหลังจากที่องค์ราชาเหวี่ยงดาบครั้งนี้ออกมา

"พลังกระบี่ขั้นสูง!" เจ้าพระยากล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะรีบกล่าวออกมาโดยพลัน"ถอยก่อน!"

ทันใดนั้นทั้ง 3 คนรีบพุ่งร่างล่าถอยออกมาด้วยความตื่นตระหนก พวกเขาไม่กล้ารับดาบขององค์ราชามรรตัยอีกต่อไป ทุกคนเลือกที่จะหลบเลี่ยง ไม่กล้าปะทะหักหาญอีก

"หน่วยองค์รักษ์ผี รับคำสั่ง จับเป็นต้วนหลิงเทียน ส่วนคนอื่นๆฆ่าไม่ละเว้น!"ฉู่ฉินพลันกล่าวสั่งออกมา

ทันใดนั้นองค์รักษ์ผีทั้ง 8 คนก็พุ่งร่างไปหมายโจมตีกลุ่มของต้วนหลิงเทียนและ กองกำลังองครักษ์เสื้อแพร

 

 

 

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 228 : ปะทะเดือด หน้าบัลลังก์!"

3.7 231 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Godly Empress Doctor
Godly Empress Doctor
มีนาคม 12, 2022
The favored son of heaven
The favored son of heaven
มกราคม 31, 2024
มหายุทธทลายดารา!
มหายุทธทลายดารา!
มีนาคม 12, 2022
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
มีนาคม 12, 2022
ปกข้ามีดาวเทียมในยุคสามก๊ก
ข้ามีดาวเที่ยมในยุคสามก๊ก
กรกฎาคม 9, 2023
ตำนานเทพปีศาจอมตะ (Immortal Devil Transformation)
ตำนานเทพปีศาจอมตะ (Immortal Devil Transformation)
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz