หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 226 : แผนของต้วนหลิงเทียน

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 226 : แผนของต้วนหลิงเทียน
Prev
Next

บทที่ 226 : แผนของต้วนหลิงเทียน

 

"นายน้อย สิ่งนี้คือ..?" ถึงแม้ว่าฉงเฉวียนพอจะคาดเดาได้ แต่ตัวเขาก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกมาเพื่อยืนยันความมั่นใจ

ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆก่อนที่จะกล่าวออกมา  "อย่างที่เจ้าคิดนั่นล่ะ พวกนี้เป็นโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 8 เจ้าก็แบ่งกินเดือนละเม็ดจนครบ 3 เดือน เหมือนโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 9 นั่นล่ะ…. แล้วในอีก 3 เดือนหลังจากนี้พิษอีกส่วนหนึ่งของปรสิตกลืนกำเนิดก็น่าจะหายไป ระดับบ่มเพาะของเจ้าก็จะกลับคืนมาอีก 1 ใน 3 ส่วน  เจ้าสมควรกลับไปมีระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ "

ลมหายใจของฉงเฉวียเริ่มปั่นป่วนขึ้นมาไม่น้อยทันทีที่เขาได้ยินเรื่องนี้  ในที่สุดระดับบ่มเพาะของเขาก็จะหวนคืนไปสู่ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติเสียที!

ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ตัวเขาอดไม่ได้ที่จะหดหู่ใจเสมอ …

เขาเป็นผู้ที่เคยยืนอยู่ในระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 6 แต่เพราะได้รับพิษร้ายอย่างปรสิตกลืนกำเนิดมา  มันจึงสะกดข่มระดับบ่มเพาะของเขาจนทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมาน…

หากเขาสามารถหวนกลับไปยืนอยู่ในระดับแรกสัมผัสธรรมชาติได้ล่ะก็ ถึงแม้วาจะเป็นเพียงระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 1 แต่ก็ยังนับว่าเหนือล้ำยิ่งกว่าตอนนี้มากโข!

เพราะเขามีวิชาและความสามารถอีกหลายอย่าง  ที่ต้องเหยียบย่างเข้าสู่ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติเสียก่อนถึงจะใช้ออกได้!

ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็ใช้เวลาอีกครึ่งชั่วยาม เพื่อกลั่นโอสถเม็ดหนึ่งที่แลดูเรียบง่ายมีสีคล้ำขึ้นมา ก่อนที่จะยื่นส่งไปให้ฉงเฉวียน "แล้วนี่ก็ยังเป็นยาระงับพิษในร่างเจ้าให้สงบเป็นเวลาอีกครึ่งปี"

ในตอนที่เขาหลอมปรุงโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 9 ให้ฉงเฉวียนกินวันนั้น เขาได้ผสมยาพิษบางอย่างเอาไว้ ซึ่งยาพิษนี้มันร้ายกาจถึงขั้นที่โอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ยังไม่อาจไถ่ถอนได้

ทำให้ฉงเฉวียนต้องกินโอสถถอนพิษของเขาเช่นนี้ทุกๆครึ่งปี มิฉะนั้นเขาต้องทรมานจนตายอย่างแน่นอน

นี่เป็นวิธีที่ต้วนหลิงเทียนใช้เพื่อควบคุมฉงเฉวียน

"ขอบคุณนายน้อย" ฉงเฉวียนจ้องมองโอสถด้วยสองตาเป็นประกาย เขารีบรับมันมาแล้วกลืนลงไปทันที

หลังจากที่ฉงเฉวียนกลับไปต้วนหลิงเทียนก็เดินไปยังลานบ้านด้านหลัง

ตอนนี้เขาเองก็รู้ว่าสาวน้อยทั้งสองได้ตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 1 ได้อย่างราบรื่นดีแล้ว

ต้วนหลิงเทียนกลับมายังห้องของเขาหลังจากที่อยู่เล่นกับสาวน้อยทั้ง 2 อยู่พักใหญ่

เมื่อดื่มสุราวานรจักรพรรดิอีก หยด ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มบ่มเพาะพลังทันที

คราวนี้ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ว่า ผลของการเพิ่มพูนพลังงาน จากสุราวานรจักรพรรดิลดลงจากเดิม กว่า 50%

หลังจากที่ดื่มมันลงไปแล้วต้วนหลิงเทียนก็เริ่มบ่มเพาะพลังงานต้นกำเนิดตามแนวทางวิชาบ่มเพาะ 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม รูปแบบนาคาพิโรธทันที  และในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็สามารถตัดผ่านระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 2 ไปได้อย่างเฉียดฉิว

‘เฮ่อ…ดูเหมือนสุราวานรจักรพรรดินี่ ทุกครั้งที่ดื่มผลมันจะลดลงครึ่งหนึ่งเสมอ…การใช้ครั้งที่ 2 ได้ผลเพียงครึ่งหนึ่งของครั้งแรก  หากข้าใช้มันครั้งที่ 3 คงได้ผลเพียงครึ่งนึงจากครั้งที่ 2 นี้เช่นกัน …งั้นหลังจากนี้ถึงใช้ไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อันใดสักเท่าไรแล้ว’ ต้วนหลิงเทียนคิดขึ้นมาในใจ

แต่จะอย่างไรก็ตามยามนี้ระดับบ่มเพาะของต้วนหลิงเทียนตัดผ่านมายังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 2 ได้สำเร็จ นั่นทำให้ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนครอบครองความแข็งแกร่งถึง 41 ช้างแมมมอธโบราณ!

หากเทียบกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2 โดยทั่วไป ตัวเขาจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าพวกมัน 11 ช้างแมมมอธโบราณ!

และหากเขาเปรียบเทียบความแข็งแกร่งกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3 เขาก็ยังนับว่ามีความแข็งแกร่งเหนือกว่าพวกมัน 1 ช้างแมมมอธโบราณ!

"ชวีอวิ๋นนั่นมันเป็นองครักษ์ผีสินะ …. "ต้วนหลิงเทียนหยิบแหวนมิติของชวีอวิ๋นขึ้นมา ก่อนทีจะหยดเลือดแสดงความเป็นเจ้าของ ก่อนที่จะลองค้นด้านในแหวนมิติ แล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้างออกมา "บัดซบ! ไอแก่ชวีอวิ๋นนี่กลับมีเงินเพียง 1 ล้านเหรียญเงินเท่านั้น… บัดซบนัก! ชวีอวิ๋นนี่มันไม่มีสมบัติอันใดเลยหรือไร?  มันเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ระดับครึ่งก้าวธรรมชาติ แต่กลับมีเงินเพียงเท่านี้นี่นะ!" เมื่อกล่าวจบสีหน้าของต้วนหลิงเทียนก็แสดงความสมเพชออกมา …หากชวีอวิ๋นในนรกรับรู้มันคงกระอักเลือดตายอีกครั้งแล้ว

ณ ประตูหน้าวังขององค์ชาย 5

องค์ชาย 5 มองไปยังถงลี่พร้อมยิ้มบางๆ "ลี่ พี่ชายผู้นี้จะไปเยี่ยมเจ้าทันที หากมีเวลาว่าง"

"ท่านพี่…." ดวงตาของถงลี่ยามนี้มีแต่ความหม่นหมองไม่เหลือประกาย นางกล่าวถามออกมาพร้อมน้ำตานองหน้า "เป็นไปได้หรือไม่ ที่พวกเราไม่อาจทำอะไรต้วนหลิงเทียนได้แล้ว?"

เมื่อนางรับรู้ถึงสถานะของต้วนหลิงเทียนในปัจจุบัน ในใจของถงลี่ก็เต็มไปด้วยความไม่ยินยอมและเคียดแค้นถึงขีดสุด

"ลี่เจ้าอย่าได้กังวล เมื่อพี่ชายผู้นี้ได้นั่งบัลลังก์ราชาเมื่อไหร่ ข้าจะจับต้วนหลิงเทียนมัด และส่งมันไปให้ถึงเท้าของเจ้า แล้วข้าจะอนุญาตให้เจ้าจัดการมันได้ตามใจชอบ" องค์ชาย 5 กล่าวให้คำมั่นออกมา

ท่างทางของถงลี่ฉายแววดีใจออกมาเมื่อได้ยินวาจาของพี่ชาย นางพยักหน้าระรัวด้วยสายตาชั่วร้าย "ดียิ่งท่านพี่ ถึงยามนั้นข้าจะแล่เนื้อมันออกทีละชิ้นๆ และเฝ้ามองดูมันหลั่งโลหิต … "

ต่อมาถงลี่และหญิงชราที่ติดตามอยู่ข้างนาง ก็ออกจากวังขององค์ชาย 5 เพื่อเดินทางกลับเมืองตะวันฉาย

องค์ชาย 5 และชายชราคิ้วขาวหันหลังเดินกลับเข้าจวนไปทันที เมื่อรถม้าของถงลี่หายลับไปจากสายตาแล้ว

"ลี่เจ้าอย่าได้กังวล ไอแก่นั่นมันมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว… " ในระหว่างทางที่เดินกลับเข้าวัง องค์ชาย 5 กล่าวพึมพำออกมา

….

ส่วนทางด้านต้วนหลิงเทียน ตั้งแต่ชวีอวิ๋นตกตายลง ก็นับว่าชีวิตของเขาดำเนินไปอย่างสงบสุขไร้เรื่องราวใดๆ

องค์ชาย 3 และ องค์ชาย 5 เองก็ราวกับหายตัวไปจากโลก

ทางด้านกู้โหย่วถิงก็ดูเหมือนจะเงียบหายไปอย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้นอกจากที่เดินทางไปสถาบันบ่มเพาะขุนพลเป็นครั้งคราว ต้วนหลิงเทียนก็จะอยู่บ้านและใช้เวลากับสาวน้อยทั้ง 2 และแม่ของเขา

บางครั้งต้วนหลิงเทียนก็จะเดินทางไปยังศูนย์บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร เพื่อดูความคืบหน้าในการหาตัวคนร้ายที่ลอบวางยาพิษราชา

เมื่อเวลาผ่านไป เบาะแสก็ทยอยโผล่ออกมาเรื่อยๆ

ต้วนหลิงเทียนคาดว่าขอเพียงใช้เวลาอีกไม่นาน เขาต้องค้นหาความจริงได้สำเร็จ และระบุตัวคนร้ายที่แท้จริงได้

และในขณะเดียวกัน ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็มีอายุได้ครบ 19 ปีบริบูรณ์แล้ว หน้าตาของเขาเริ่มย่างเขาสู่ช่วงวัยรุ่นเป็นหนุ่มเต็มตัว ความไร้เดียงสาเยาว์วัยเริ่มจางหายไปจากใบหน้าของเขา  คิ้วรูปดาบเริ่มเข้มเด่นชัดขึ้น  ดวงตาคมกล้าส่องประกายฉลาดเฉลียว เค้าโครงใบหน้าหล่อเหลา ท่วงท่าแลดูสง่างาม

…

เพียงพริบตา 3 เดือนได้ผ่านพ้นไป

ภายในห้องพัก

ฟู่วววว!

ชายหนุ่มในชุดสีม่วงลืมตาขึ้น เหนือศีรษะของเขามีเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 51 ตัว ก่อตัวขึ้น …

"ในที่สุดข้าก็ตัดผ่านได้ซะที! โชคดีนักที่สุราวานรจักรพรรดิ กับสุราวานร ไม่ได้มีผลขัดแย้งกัน" รอยยิ้มเริ่มเผยออกมาบนใบหน้าของต้วนหลิงเทียน

ตั้งแต่ที่เขาได้กินสุราวานรจักรพรรดิครั้งที่ 2 เข้าไปและสังเกตได้ว่าผลลัพธ์ของมันไม่ค่อยจะดีนักเขาจึงไม่คิดใช้สุราวานรจักรพรรดิให้เสียเปล่าอีก เขาจึงหันมาดื่มสุราวานรแทน

เป็นผลทำให้เขาสังเกตเห็นว่าความสามารถของสุราวานรไม่ได้มีผลลดน้อยลงแต่อย่างไรถึงเขาจะดื่มสุราวานรจักรพรรดิลงไปแล้ว

ด้วยความแข็งแกร่งของสุราวานร และโอสถเร่งพลังกำเนิด ทำให้เขาบ่มเพาะสั่งสมพลังงานต้นกำเนิดได้มากพอ จนสามารถทะลวงตัดผ่านระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3 ได้ภายใน 3 เดือน

โอสถเร่งพลังกำเนิด คือโอสถที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นจากโอสถเพิ่มกำเนิดที่เขาเคยใช้ในช่วงที่ยังมีระดับบ่มเพาะอยู่ที่ระดับก่อกำเนิด  โอสถเร่งพลังกำเนิดนี้สามารถช่วยเหลือผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ในการบ่มเพาะพลังได้มีประสิทธิภาพนัก

ต้วนหลิงเทียนก็ได้หลอมกลั่นโอสถนี่ตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งโอสถเร่งพลังกำเนิดของเขานั้นยังมีความบริสุทธิ์สูงล้ำ มีประสิทธิภาพเหนือชั้น ห่างไกลจากโอสถเร่งพลังกำเนิดที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วอย่างไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกันได้

ส่วนสตรีน้อยทั้ง 2 ที่บ้านอย่าง เค่อเอ๋อ และลี่เฟย พวกนางทั้ง 2 ก็สามารถตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 2 ได้สำเร็จตามติดเขามาไม่ไกล หลังจากที่ได้ใช้สุราวานรจักรพรรดิหยดที่ 2… และกล่าวได้ว่าระดับบ่มเพาะของพวกนางยามนี้ หากเทียบกับคนในรุ่นเดียวกันแล้วล่ะก็…คงมีเพียงแต่ต้วนหลิงเทียนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะพวกนางได้!

และแน่นอนว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ล้วนรู้กันแต่ภายในของครอบครัวต้วนหลิงเทียน  บุคคลภายนอกล้วนไม่ล่วงรู้เรื่องนี้ทั้งสิ้น!

หาไม่แล้วก็ไม่รู้ว่าผู้คนจะรู้สึกกันอย่างไร…ทั้งพวกมันยังจะตื่นตะลึงถึงเพียงไหน

ต้วนหลิงเทียนผู้ที่กำลังอารมณ์ดีหลังจากตัดผ่านระดับสำเร็จ ก็เดินทางไปยังสถาบันบ่มเพาะขุนพล เพื่อหา เซี่ยวหยู,เซี่ยวฉวินและเทียนหู และไปกินข้าวกลางวันร่วมกันกับพวกมัน

ปัจจุบันนี้สหายของต้วนหลิงเทียนก็เริ่มชินชากับการที่ต้วนหลิงเทียน ท่องทะยานข้ามหน้าข้ามตาไปไกลโขแล้ว

และตอนนี้มันก็ไม่สำคัญแล้วว่าต้วนหลิงเทียนจะข้ามระดับไปอีกหรือไม่  เพราะกล่าวได้ว่าระดับที่ต้วนหลิงเทียนอยู่ตอนนี้ สถานะของเขาเพียงด้อยกว่าหนึ่ง เหนือผู้คนทั่วหล้าเท่านั้น  คนเดียวที่มีสถานะทางสังคมและอำนาจเหนือกว่าเขาก็มีเพียงองค์ราชาผู้เดียวแล้ว

บางทีภายในเมืองหลวงตอนนี้ อาจจะมีบ้างที่มีคนไม่ทราบอัครมหาเสนาบดีคือใคร  แต่แน่นอนว่าไม่มีใครไม่ทราบว่าผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรคือใคร

ผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรอย่างต้วนหลิงเทียนนั้น กล่าวได้ว่าดำรงอยู่ในฐานะผู้แทนพระองค์ก็ว่าได้ และในสายตาขององค์ราชาตอนนี้ สถานะของเขาก็เหนือกว่าอัครมหาเสนาบดีไปแล้ว

"เฮ่ ข้าเองพักนี้ก็ไม่ค่อยได้มาทีนี่ …แต่ตอนนี้สมควรได้เวลานักศึกษาใหม่มาลงทะเบียนแล้วใช่หรือไม่?  เช่นนี้พวกเราก็กลายเป็นรุ่นพี่ผู้อื่นแล้วสิ?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมา

"เฮ่อ ต้วนหลิงเทียนเอ๊ย เจ้านี่ความรู้สึกช้านัก!  นักศึกษาใหม่ล้วนลงทะเบียนเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ 2 วันก่อนแล้ว! และพวกเราเองก็ได้รับการเลื่อนชั้นเป็นนักศึกษาปี 2 เสร็จสิ้นแล้ว" เทียนหูส่ายหน้าพร้อมหัวเราะออกมา ถึงแม้ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนจะมีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์เสื้อแพร แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้เหินห่างกันแต่อย่างไร

มิตรภาพระหว่างพวกเขากับต้วนหลิงเทียนนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง กับอีแค่เรื่องที่สถานะคนใดคนหนึ่งจะเปลี่ยนไป

เซี่ยนวฉวินมองไปยังต้วนหลิงเทียนก่อนที่จะกล่าวถามออกมา "ต้วนหลิงเทียนแล้วเจ้าเล่า มีแผนจะทำอะไรต่องั้นรึหลังจากนี้?"

แม้ว่ามันจะยากยอมรับ แต่ก็อย่างที่เขารู้ดี ถึงแม้ปีนี้ต้วนหลิงเทียนจะพึ่งมีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น แต่เขากลับมีความสำเร็จถึงขีดขั้นนี้แล้ว กล่าวได้ว่าภายในอาณาจักรนภาล่องแห่งนี้ เขาไม่มีทางมีอำนาจเหนือหรือว่าสูงส่งไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้แล้ว เว้นเสียแต่ว่าเขาลุกฮือก่อกบฏหมายชิงบัลลังก์ เพื่อยกระดับสูงขึ้นไปอีกขีดขั้น

กล่าวได้ว่ายามนี้ต้วนหลิงเทียนยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอาณาจักรนภาล่องอย่างแท้จริง

ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ "แน่นอนว่าตัวข้าย่อมมีแผนการตระเตรียมไว้แล้ว แต่จะอย่างไรทุกอย่างจะเริ่มขึ้นก็ต่อเมื่อข้าได้สะสางเรื่องราวที่ยังค้างคาอยู่อีกเล็กน้อย และหลังจากที่ข้าสะสางมันสำเร็จเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ บางทีข้าจะออกเดินทางจากอาณาจักรนภาล่องไปยังอาณาจักรพนาครามทันที…"

จากที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามฉงเฉวียนมา บางนิกายใหญ่ในอาณาจักรพนาครามนั้น มันตั้งอยู่ในสถานที่ๆมีทิวทัศน์สวยงาม ซ้ำยังเต็มไปด้วยพลังงานธรรมชาติรวมทั้งแหล่งพลังงานต้นกำเนิดที่เข้มข้น  จึงนับว่ามีส่วนช่วยเหลือและเป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนบ่มเพาะอย่างยิ่ง

เมื่อเทียบกับสถานที่ธรรมดาๆ แล้วความเร็วในการบ่มเพาะตามสถานที่แห่งนั้นย่อมต้องรวดเร็วกว่ากันมาก

ทั้งความเร็วในการบ่มเพาะของสถานที่บางแห่งนั้น อาจกล่าวได้ว่าสามารถเพิ่มพูนความเร็วในการบ่มเพาะได้มากมายถึง 2 เท่าจากเดิมเลยทีเดียว!

ต้วนหลิงเทียนสามารถจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสามารถไปบ่มเพาะยังสถานที่เช่นนั้น และด้วยความช่วยเหลือจากโอสถเร่งพลังกำเนิด ของเขาที่มีความบริสุทธิ์สูงล้ำ ระดับบ่มเพาะของเขาจะก้าวหน้าด้วยความเร็วสูงส่งขนาดไหน!

ดังนั้นเขาจึงวางแผนจะเข้าร่วมกับนิกายชั้นเลิศสักแห่งในอาณาจักรพนาคราม เพื่อผลประโยชน์ในการบ่มเพาะที่สูงล้ำขึ้น

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นสถาบันบ่มเพาะขุนพล หรือนิกายชั้นเลิศของอาณาจักรพนาครามที่เขาคิดเข้าร่วม ก็เป็นเพียงหินรองเท้าก้าวหนึ่งของเขาเท่านั้น

ความปรารถนาของเขาไม่ได้อยู่ในอาณาจักรนภาล่อง อีกทั้งจุดหมายของเขาก็นับว่าไม่ได้อยู่ที่อาณาจักรพนาครามเช่นกัน!

"อาณาจักรพนาคราม … "เซี่ยวหยู ,เซี่ยวฉวินรวมถึงเทียนหู เผยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโหยหา เมื่อได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน

หลังจากที่ร่วมรับประทานอาหารกับเหล่าสหายทั้ง 3 ต้วนหลิงเทียนก็เดินทางออกจากสถาบันบ่มเพาะขุนพลไปยังศูนย์บัญชาการกองกำลังองครักษ์เสื้อแพร พร้อมกันกับฉงเฉวียน

ฉงเฉวียนที่ได้รับระดับบ่มเพาะฟื้นคืนกลับมาถึง 2 ใน 3 นับว่าเป็นความช่วยเหลือระดับมหึมาสำหรับเขา

"ท่านผู้บัญชาการต้วนขอรับ การสืบสวนของพวกเรา ได้เรื่องแล้วขอรับ!!" ต้วนหลิงเทียนพึ่งก้าวเข้าประตูมาเท่านั้น จางเฉวียนและจ้าวกังก็รีบวิงมารายงานด้วยความยินดี

"ได้เรื่องว่าไงบ้างรึ?" สายตาต้วนหลิงเทียนจดจ่อขึ้นมาทันที "ใครกันที่เป็นผู้ซื้อโอสถเหล่านี้?"

จางเฉวียนเดินไปปิดประตูบ้านก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้ต้วนหลิงเทียน พร้อมยื่นคอไปกล่าววาจาใกล้ๆหูของต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา  "ท่านผู้บัญชาการ มันเป็นคนๆหนึ่งจากวังขององค์ชาย 5 ขอรับ"

"วังขององค์ชาย 5 งั้นรึ?" ต้วนหลิงเทียนหรี่ตาจ้องเขม็ง "เจ้าแน่ใจงั้นรึ เรื่องนี้ล้อเล่นไม่ได้นะ"

มีคนบอกว่า แม้แต่พยัคฆ์ยังไม่กัดกินทำร้ายลูกน้อยของมัน นั่นย่อมหมายความว่าลูกพยัคฆ์ย่อมไม่กัดบิดาของมันด้วยไม่ใช่หรือ?

"ผู้บัญชาการ พวกเราจับตัวคนที่ซื้อโอสถเหล่านี้ได้แล้วขอรับ… และมันยังกล่าวซัดทอดออกมาอีกว่า โอสถและวัตถุดิบทั้งหมดนี้ เป็น ชายชราคิ้วขาว ที่อยู่ข้างกายขององค์ชาย 5 เป็นผู้สั่งการ" จ้าวกังกล่าวเสริมออกมา

"เช่นนั้นดูเหมือนเรื่องนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์ชาย 5 จริงๆ… ข้าต้องไปเยือนวังหลวงสักหน่อยแล้ว!" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า และรู้สึกตกใจเล็กน้อย

องค์ชาย 5 ที่ดูโหดเหี้ยมอำมหิตไร้ปราณีนั่น …กระทั่งกับบิดามันยังไร้น้ำใจกระทำการอำมหิตไร้ปราณีได้ลงคอ…

ต้วนหลิงเทียนพาฉงเฉวียนไปด้วยกันกับเขา  รีบร้อนเข้าวังหลวงทันที

"ผู้บัญชาการต้วน ที่เจ้าเร่งรีบมาหาข้าถึงวังหลวง ใช่เพราะบุคคลที่เจ้านำมาด้วยหรือไม่นี้?" องค์ราชากล่าวเดาเหตุผลการมาของต้วหลิงเทียนออกมา

"เอ่อไม่ใช่อย่างนั้น …องค์ราชา ข้าเองก็ไม่รู้ว่าควรจะกล่าวเรื่องนี้อย่างไร … " ต้วนหลิงเทียนแสดงรอยยิ้มขมขื่นออกมา สีหน้าแลดูลำบากใจนัก

แน่นอนว่าเขาคงไม่สามารถบอกกล่าวต่อองค์ราชาไปได้ตรงๆว่า  "เฮ่! บุตรท่าน ต้องการให้ท่านตายน่ะ" ใช่ไหม?

"พูดมาเถอะ" องค์ราชาจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนอย่างสงบนิ่งพร้อมกล่าวคำด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

ต้วนหลิงเทียนมองไปยังราชาพร้อมกล่าวคำ "จากเบาะแสที่ข้าได้สืบสวนมา …ทุกอย่างล้วนชี้ไปที่…องค์ชาย 5!"

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 226 : แผนของต้วนหลิงเทียน"

3.7 231 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Dragon Kings Son-In-Law
Dragon Kings Son-In-Law
มีนาคม 12, 2022
ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Picking Up Attributes From Today
ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Picking Up Attributes From Today
มีนาคม 12, 2022
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
มีนาคม 12, 2022
จอมดาบพิฆาตสวรรค์
จอมดาบพิฆาตสวรรค์
มีนาคม 12, 2022
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
มีนาคม 12, 2022
ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ข้าจะเป็นราชาอมตะ
กรกฎาคม 22, 2023
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz