หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 224 : ครึ่งก้าวธรรมชาติ ชวีอวิ๋น!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 224 : ครึ่งก้าวธรรมชาติ ชวีอวิ๋น!
Prev
Next

 บทที่ 224 : ครึ่งก้าวธรรมชาติ ชวีอวิ๋น!

 

 

ต่อให้ขบคิดจนหัวแทบแตกลี่ชิงก็ไม่เคยคิดฝันเลยว่า ต้วนหลิงเทียน ที่มีชื่อเสียงเรื่องระบือและดังกระฉ่อนในเมืองหลวง จนเป็นหัวข้อสนทนาของคนทั้งอาณาจักรนภาล่อง  จะเป็นคนๆเดียวกันกับ ต้วนหลิงเทียน ที่เขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการที่ได้ฆ่ามันให้ตายอย่างทรมาน และชมดูแววตาสำนึกเสียใจของมันยามสิ้นลม!

สาวกของตระกูลลี่สาขาย่อย ที่เดินทางมาเข้าร่วมตระกูลลี่สาขาหลักแห่งเมืองออโรร่าคนนั้น กลับเป็นถึงสาวกสายโลหิตหลักของตระกูลต้วน!

มายามนี้แน่นอนแล้วว่า พวกมันเป็นคนเดียวกัน!

ลี่ชิงรู้สึกราวกับว่าตัวเขาถูกสวรรค์หยอกล้อให้ละเมอฝันไป แต่เมื่อมันยกมือขึ้นมาหยิกไปที่ต้นขา ความเจ็บปวดที่แล่นวูบขึ้นมาก็ตอกย้ำเตือนมันว่า ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องจริง!

"เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้… ไม่มีทาง … . มันไม่มีทางเป็นไปได้ … " สีหน้าลี่ชิงหมองหม่นลง สายตาของมันเลื่อนลอยไม่ยอมรับ ประกายตาของมันหมองหม่นลงราวกับยามนี้ความหวังในชีวิตของมันทั้งหมดล้วนไม่มีเหลือแล้ว

มันวางแผน คิดพึ่งพานายน้อยของตระกูลผู้ว่าการประจำมณฑลผานางแอ่นเหิน เพื่อตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ หลังจากนั้นมันก็จะเดินทางกลับตระกูลลี่ และฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายด้วยมือของมัน เพื่อเป็นการระบายแค้นส่วนตัว และล้างแค้นให้ท่านปู่ของมัน… แต่มายามนี้ ความหวัง และความพยายามยามตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่าน ล้วนกลับกลายเป็นมายาฝันฉากหนึ่งที่ปิดม่านลง

นอกจากนี้ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนเป็นผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรที่มีอำนาจล้นพ้น อยู่ใต้ 1 เหนือทั้งมวล ให้วุ่นวาย  เอาแค่ระดับบ่มเพาะของต้วนหลิงเทียนที่ตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ ก็ได้รับการขนานนามว่าอัจฉริยะอันดับ 1 แห่งอาณาจักรนภาล่องแล้ว!

ตัวเขานับว่ายังห่างไกลที่จะสามารถคิดเปรียบเทียบกับต้วนหลิงเทียน

ต้วนหลิงเทียนที่นั่งอยู่บนหลังม้าอย่างสงบ เพียงจ้องมองไปยังลี่ชิงและเป่ยซันด้วยแววตาเรียบเฉยเท่านั้น  เมื่อเขาได้เห็นทีท่าแววตาหวาดกลัวของพวกมัน เขาก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยเรื่องเก่าๆ และไม่ได้อยากรังแกพวกมันแต่อย่างไร เพราะแววตาพวกมันบ่งบอก ว่าหลังจากนี้พวกมันไม่กล้าคิดฝันตอแยเขาแล้ว…

"ฮึ่ม!" ต้วนหลิงเทียนแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา พร้อมจับจ้องไปยังสารถีของเป่ยซันด้วยสายตาไร้อารมณ์ "เจ้าเองก็จดจำเอาไว้ให้ดี ต่อไปยามขับขี่รถม้าในเมืองหลวง ให้ช้าลงกว่านี้!"

"ขอรับ!  ข้าเข้าใจแล้ว!" สารถีคนนั้นกุลีกุจอพยักหน้าระรัวราวกับลูกเจี๊ยบจิกข้าวสาร มันไม่คิดลังเลที่จะก้มหัวและนอบน้อมแม้แต่น้อย ตอนนี้มันรับรู้อัตลักษณ์ของชายหนุ่มผู้นี้ดี เกรงว่าหากต้วนหลิงเทียนผู้นี้คิดสังหารมัน คงง่ายดายไม่ต่างอะไรจาก บี้มดแมลง

"ไปกันเถอะ!" ต้วนหลิงเทียนกล่าววาจาออกมาเรียบๆ ก่อนที่จะกระตุ้นให้ม้าออกเดินทางอีกครั้ง เหล่าองครักษ์เสื้อแพร 10 กว่าชีวิต ก็กระตุ้นม้าติดสอยห้อยตามไป

หลังจากที่เงาหลังกลุ่มของต้วนหลิงเทียนเดินทางลับหายไปที่มุมถนน เป่ยซันและชายชราผู้คุ้มกันของมัน ก็ฟื้นตัวจากอาการตกตะลึง

"โลหิตเคืองแค้น … ไม่สิ ยามนี้ข้าสมควรเรียกเจ้าว่าลี่ชิงถึงจะถูก!" สายตาของเป่ยซันจับจ้องมายังลี่ชิงด้วยความเย็นชา

ทั้งหมดที่เขาเข้าใจ เหตุผลเดียวที่ทำให้วันนี้ต้วนหลิงเทียน อยู่สูงและห่างไกลจากเขา  จนเขาสูญสิ้นความหวังในการล้างแค้นทั้งหมด ล้วนเป็นเพราะ ตัวบัดซบลี่ชิงนี่!

หากไม่ใช่ทั้งหมดเป็นเพราะลี่ชิงทำตัวลึกลับ มีลับลมคมในยามนั้น  เป็นไปไม่ได้ที่ต้วนหลิงเทียนจะมีโอกาสเติบโตมาถึงขั้นนี้!

ลี่ชิงเองก็สะดุ้งตกใจ ราวกับตื่นจากฝันทันที เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเป่ยซัน มันรีบคุกเข่าลงไปทันที “นายน้อย 3 ละเว้นข้าน้อยด้วย!”

"ปู่หวย" น้ำเสียงของเป่ยซันดังขึ้นอย่างเคร่งขรึม

"แย่แล้ว!" ลี่ชิงสะท้านขึ้นมาในใจ มันรีบลุกขึ้นและพยายามวิ่งหนีไป

น่าเสียดายที่ตัวมันเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ ที่ยังไม่ตัดผ่านกระทั่งระดับกำเนิดแก่นแท้ด้วยซ้ำ  แล้วมันจะไปมีปัญญาเล็ดรอดเงื้อมมือของผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งได้อย่างไร? ศีรษะของมันถูกชายชราพุ่งมาฟาดจนแหลกเหลวในฝ่ามือเดียว ตาย!

หลังจากที่เห็นลี่ชิงถูกสำเร็จโทษ เป่ยซันสูดลมหายใจเข้าปอดลึกยาวเฮือกหนึ่ง ก่อนที่จะกลับเข้าไปในรถม้า

ตัวเขานั้นเข้าใจดี ว่าแม้ตัวเขาอยากจะละวางความแค้นขนาดไหน … แต่บาดแผลในและความเคียดแค้นปรปักษ์ ที่ฝังลึกในใจนี้ มันยากที่จะลบเลือน

แต่ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนเป็นคนที่เขาไม่อาจล่วงเกินได้อย่างแท้จริง  หากเขายังไม่สำเหนียกและยังดื้อรั้น ก็ไม่ต่างอันใดกับรนหาที่ตาย

อีกทั้งเรื่องราวนี้ อาจจะทำให้บิดาเขาที่เป็นผู้ว่าการประจำมณฑลผานางแอ่นเหิน ต้องมาพลอยจบสิ้นไปด้วย

"หืม?" ต้วนหลิงเทียนที่กำลังนำกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรเดินไปในถนนสายหลักของเมืองหลวง พลันชะงักไปเล็กน้อย เพราะพลังวิญญาณอันเลิศล้ำของเขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง

มีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมายังเขาจากในเงามืด

นอกจากนี้ระดับบ่มเพาะของคนๆนี้ยังมิใช่ชั่ว ความสามารถในการปกปิดตัวตนของมันนับว่าอยู่ในระดับยอดเยี่ยม หากไม่ใช่เพราะยามนี้ในใจของต้วนหลิงเทียนสงบนิ่งดั่งสายน้ำ เกรงว่าอาจจะไม่ทันได้สัมผัส!

‘นับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง!’ ต้วนหลิงเทียนเริ่มบังเกิดความตื่นตัวในหัวใจ  เพราะยามนี้กล่าวไปในแง่ของพลังวิญญาณแล้ว ตัวเขานับว่ามีพลังวิญญาณไม่ด้อยกว่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้ง  แต่เขากลับรู้สึกหวาดหวั่นในใจขึ้นมาเช่นนี้…

มีโอกาสอย่างสูงที่ผู้เชี่ยวชาญคนนี้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ครึ่งก้าวธรรมชาติ!

"กลับกันเถอะ" ต้วนหลิงเทียนไม่ได้แสดงความตื่นตระหนกอะไรออกมา เขากล่าวคำกับองครักษ์เสื้อแพรที่อยู่ด้านหลัง ก่อนที่จะหันหัวม้า มุ่งหน้ากลับบ้านพักขององครักษ์เสื้อแพร

ในระหว่างการเดินทางกลับ ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าววาจาออกมากับชายชราทั้ง 2 ด้านหลังด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "ผู้เฒ่าหง ผู้เฒ่าฉิน พวกท่านอย่าได้ตกใจหลังจากฟังคำกล่าวของข้า และอย่าแสดงพิรุธอันใด"

ต้วนหลิงเทียนได้กล่าวเตือนชายชราทั้ง 2 ก่อนที่จะกล่าวกำชับออกไปเล็กน้อย แล้วเขาก็กล่าวบอกถึงเรื่องที่ตัวเขาสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังจับตามองอยู่ และกล่าวเตือนให้ชายชราทั้ง 2 ระวังตัว

ชายชราทั้ง 2 พยักหน้าตอบรับ อย่างเข้าใจ

ไม่นานหลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนและกองกำลังองครักษ์เสื้อแพร ก็กลับถึงบ้านพักของกองกำลัง หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็สั่งให้ปิดประตูหน้า และเดินข้ามผ่านประตูลานบ้าน เข้าไปในลาน

เมื่อเขาเข้ามาในลานบ้านและปิดประตู ก็มีคนปรากฏตัวออกมาแทบจะในทันที! ร่างๆหนึ่งกระโดดจากกำแพงลงมายืนบนพื้นลานด้วยฝีเท้าแผ่วเบา บ่งบอกว่าวิชาท่าร่างและตัวเบามันมิใช่ชั่ว

"เจ้าเป็นผู้ใด?" องครักษ์เสื้อแพรคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังกล่าวถามออกมา เมื่ออยู่ๆก็พบว่ามีร่างลึกลับปรากฏตัวขึ้น

ส่วนต้วนหลิงเทียนไม่ได้แปลกใจสักเท่าไร เขาหันไปมองชายชราอย่างช้าๆ

ชายชราคนนี้สวมชุดสีดำ เจตนาฆ่าฟันแผ่พุ่งออกมาจากระหว่างคิ้วรุนแรง  สายตาดุร้ายเต็มไปด้วยจิตสังหารเพ่งเล็งพุ่งมายังต้วนหลิงเทียน

‘อย่างที่คิดไว้ไม่ผิด มันพุ่งเป้ามาที่ข้าจริงๆ’ ต้วนหลิงเทียนคิดขึ้นมาในใจ เขาคาดเอาไว้ไม่ผิด ชายชราคนนี้มีกลิ่นอายแบบเดียวกับคนที่ลอบติดตามจับตามองเขาในเงามืดก่อนหน้านี้ ตัวเขาเองก็บังเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาไม่น้อย ชายชราผู้เป็นใครกันแน่?

ยามที่ชายชราคนนี้มองมายังเขา ราวกับมันมองศัตรูที่ต้องตกตายกันไปข้าง

แต่ต้วนหลิงเทียนมั่นใจว่ามันไม่รู้จักชายชราคนนี้ กระทั่งเห็นก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน!

"เจ้าคงเป็นผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์เสื้อแพร ต้วนหลิงเทียน ใช่หรือไม่?" ชายชราจับจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยแววตามืดมน

ทันใดนั้นเอง นอกเหนือจากผู้เฒ่าฉินและผู้เฒ่าหงแล้ว สีหน้าขององครักษ์เสื้อแพรอีก 8คนที่อยู่ด้านข้างต้วนหลิงเทียนก็บังเกิดโทสะขึ้นมา พวกมันพุ่งมายืนขวางต้วนหลิงเทียน พร้อมจับจ้องไปยังชายชราด้วยความระวัง

"ใช่แล้ว ข้านี่ล่ะต้วนหลิงเทียน แล้วเจ้าเป็นใครอีกล่ะ?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาด้วยท่าทางสงบ

ตอนนี้เขาเกือบจะมั่นใจได้เต็มสิบส่วนว่าระดับบ่มเพาะของชายชราผู้นี้คงอยู่ที่ระดับครึ่งก้าวธรรมชาติ และความแข็งแกร่งของมันสมควรไม่น้อย

"ข้าเป็นใครน่ะหรือ?" สีหน้าเย็นชาแฝงอำมหิต ราวกับศัตรูคู่ฟ้าปรากฏบนหน้าชายชรา มักล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดุร้าย "ข้าเป็นบิดาของชวีลู่!"

"ชวีอวิ๋น!" ทันใดนั้นเองผู้เฒ่าหงและผู้เฒ่าฉิน ที่อยู่ด้านข้างต้วนหลิงเทียน ก็กล่าวออกมาด้วยเสียงต่ำ ชัดถ้อยชัดคำ

"อะไร พวกเจ้า 2 คนรู้จักข้าด้วย?" สายตาของชวีอวินเบนไปจับจ้องผู้เฒ่าฉินและผู้เฒ่าหง "หืม? พวกเจ้าเป็นคนของจวนเจ้าพระยางั้นหรือ?"

ผู้เฒ่าฉินและผู้เฒ่าหง มองไปยังชวีอวิ๋น ด้วยท่าทางสงบไร้เรื่องราว

"ชวีอวิ๋น?" ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะย้อนคิดกลับไป ในวันที่เขาทำลายตันเถียนของชวีลั่ง จนชวีลู่บิดาของมันนำกองกำลังทหารองครักษ์มาดักรอเขาที่ประตูหน้าของสถาบันบ่มเพาะขุนพลนั้น  ผู้อาวุโสหลักของตระกูลต้วนที่มาช่วยเหลือเขาดูเหมือนจะกล่าวนามนี้ออกมา

ชายชราผู้นี้เป็นบิดาของชวีลู่!

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนพลันขึ้นใจขึ้นมาทั้งหมด ว่าเพราะเหตุใดชายชราคนนี้ถึงจับจ้องเขามาด้วยสายตาเคียดแค้น อาฆาตอำมหิตถึงเพียงนั้น

ที่แท้เป็นเพราะพวกมันมีเรื่องราวความแค้นที่ยากจะอยู่ร่วมฟ้าเดียวกันได้แล้วนี่เอง

"วันนี้เป้าหมายของข้ามีเพียงต้วนหลิงเทียนผู้เดียวเท่านั้น… ข้าหาได้มีเจตนาที่จะสร้างความยากลำบากแก่จวนเจ้าพระยาไม่ แต่หากพวกเจ้ามิชมชอบดื่มสุราคารวะ ต้องการสุราจับกรอก เกรงว่าข้าคงต้องทำให้คนของจวนเจ้าพระยาอย่างพวกเจ้าถูกฝังไปพร้อมกับต้วนหลิงเทียนที่นี่" สายตาของชวีอวิ๋นมืดลง เปี่ยมไปด้วยจิตสังหารยามกล่าวคำ

"วาจาอวดอ้างเขื่องโขนัก! แต่นั่นต้องดูก่อนว่าเจ้าจักมีความสามารถเพียงพอหรือไม่!" ผู้เฒ่าหงและผู้เฒ่าฉินก้าวออกมาด้านหน้าอย่างพร้อมเพรียง สายตาคมกล้าดั่งดาบเล่มหนึ่ง กล่าวคำท้าทายออกมาด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยโทสะ

"เช่นนั้น ข้าก็จักให้พวกเจ้าได้ชมดู!" กล่าวจบชายชราก็ลงมือทันที

ร่างของเขากระพริบวูบวาบพุ่งไปยังผู้เฒ่าหงและผู้เฒ่าฉินด้วยความเร็วสูง ปานเส้นสายอัสนีสีดำ

เหนือศีรษะของมัน บังเกิดเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 1,500 ตัว

"มันเป็นผู้ฝึกยุทธ์ครึ่งก้าวธรรมชาติอย่างที่คิด!" ต้วนหลิงเทียนยังจับจ้องไปยังร่างสีดำอย่างไม่คลาดสายตา

แม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 9 ที่แข็งแกร่งที่สุด ก็สมควรมีความแข็งแกร่งเพียง 1,200 ช้างแมมมอธโบราณเท่านั้น

ส่วนระดับ แรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 1 นั้นจะมีความแข็งแกร่ง 2,000 ช้างแมมมอธโบราณ

ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของชวีอวิ๋นผู้นี้จะด้อยกว่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ แต่มันก็แข็งแกร่งเหนือกว่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 9

ฟุ่บ! ฟุ่บ!

ผู้เฒ่าฉิน และผู้เฒ่าหงเองก็พลันลงมือด้วยเช่นกัน ร่างของทั้งคู่กระพริบวูบวาบพุ่งไปหมายปะทะหักหาญ

และเหนือศีรษะผู้เฒ่าฉินและผู้เฒ่าหง แต่ละคนก็ฉายภาพเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมาเช่นกัน

ในแง่ของความแข็งแกร่งแล้ว ไม่ว่าจะผู้เฒ่าฉินหรือผู้เฒ่าหง ก็หามีผู้ใดด้อยกว่าชวีอวิ๋นไม่  ยิ่งไปกว่านั้นผู้เฒ่าทั้ง 2 ยังสามารถผนึกกำลังกดดันชวีอวิ๋นได้ในเวลาสั้นๆ!

กล่าวได้ว่าผู้เฒ่าทั้ง 2 ลงมือสอดประสานส่งเสริมกันได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ!

"นี่พวกเจ้า! … พวกเจ้าทั้งคู่คือ เฒ่าพยัคฆ์และเฒ่ากระเรียนแห่งจวนเจ้าพระยาเช่นนั้นรึ?" สีหน้าของชวีอวิ๋นแปรเปลี่ยนเป็นซีดลง เมื่อรับรู้อัตลักษณ์ของ ศัตรูทั้งคู่

เฒ่าพยัคฆ์และเฒ่ากระเรียน?

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเล็กน้อย ผู้เฒ่าหงกับผู้เฒ่าฉิน มีฉายาอะไรเช่นนี้ด้วย?

อย่างไรก็ตามเขาก็เข้าใจได้ทันที เพราะยามที่ลงมือ ผู้เฒ่าหงนั้น ลงมือดุดัน กระบวนท่าแกร่งกร้าวดุร้ายดั่งพยัคฆ์ ส่วนผู้เฒ่าฉินก็วาดลวดลายจู่โจมอย่างงดงามน่าดูชม รวดเร็วฉับไว สง่าดั่งกระเรียน

ผู้เฒ่าหงลงมือดุดันสะกดข่มชวีอวิ๋นจนยากที่จะตอบโต้

ผู้เฒ่าฉินลงมือรวดเร็วฉับไว ท่าร่างเลิศล้ำนำหน้า ปิดหนทางหลบหนีของชวีอวิ๋น

"ข้าไม่คิดเลยว่าจวนเจ้าพระยาจักออกหน้ามากมายถึงเพียงนี้…ถึงกับส่งเจ้าเฒ่าทั้ง 2 อย่างพวกเจ้ามาคุ้มครองสารเลวน้อยตัวนี้!" ชวีอวิ๋นพลันพุ่งร่างของฉีกออกข้างไปอย่างร้อนรน  สีหน้ามันหมองคล้ำลงไม่น้อย "ในเมื่อพวกเจ้าสองเฒ่ากระเรียนพยัคฆ์อยู่นี่ เช่นนี้ข้าจักปล่อยให้สารเลวน้อยนั่นมีชีวิตรอดไปอีกวัน แต่อย่าได้คิดว่าครั้งหน้าพวกเจ้าจักมีปัญญาหยุดยั้งข้าได้!"

เมื่อกล่าวจบชวีอวิ๋นก็คิดหลบหนี

"ใช่เจ้าคิดมาก็มา คิดก็ไป ได้เช่นนั้นรึ?" ผู้เฒ่าฉินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่แยแส เสื้อคลุมสีขาวบนร่างเขาโบกสะบัดหยอกเย้าสายลมในขณะที่เคลื่อนร่างออกไปด้วยความเร็วสูงส่ง บังเกิดเสียงดังหวีดหวิว  ท่วงท่าแลไปคล้ายนกกระเรียนท่องทะยาน โผบินมาปิดทางหนีของชวีอวิ๋นในพริบตา

ในแง่ความเร็วในการเคลื่อนไหวและวิชาท่าร่าง กล่าวได้ว่าชวีอวิ๋นไม่อาจเทียบผู้เฒ่าฉินได้แม้แต่น้อย

และยามนี้ผู้เฒ่าหงเองก็พุ่งร่างติดตามมาถึง ทั้ง 2 ผู้เฒ่าขนาบหน้าหลัง ปิดทางหนีของชวีอวิ๋นอย่างสิ้นเชิง

"เจ้าคู่พยัคฆ์กระเรียนเฒ่า  พวกเจ้ากล้าขวางข้าเช่นนี้  หรือพวกเจ้าลืมสถานะของตัวข้าไปแล้ว!?" ใบหน้าของชวีอวิ๋นเริ่มหมองคล้ำลงเรื่อยๆ ไม่พ้นวันนี้เขาต้องทิ้งชีวิตไว้เป็นแน่หากยังวุ่นวายอยู่ที่นี่สืบไป เขาล้วงมือไปในอกเสื้อก่อนที่จะหยิบป้ายขลิบเทา ที่สลักคำว่า ผี เอาไว้ออกมา "ข้าเป็นผู้บัญชาการกองกำลังลับองครักษ์ผี ขององค์ราชามรรตัย หากพวกเจ้าสองคนลงมือสังหารข้า พวกเจ้าจะนำเภทภัยมาสู่จวนเจ้าพระยา!"

"เป็นคนขององค์ราชามรรตัย? หน่วยองครักษ์ผี?" ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนฉายความฉงนงุนงงออกมาไม่น้อย  เนื่องจาก คำที่ชวีอวิ๋นกล่าวออกมา เขาไม่รู้ความหมายของมันทั้งคู่

"ชวีอวิ๋น เจ้าประเมินค่าตัวเองสูงเกินไปแล้ว" น้ำเสียงของผู้เฒ่าหงเผยให้เห็นถึงความดูแคลน "องค์ราชามรรตัยของเจ้าน่ะหรือ จะกล้าเอาเรื่องเอาราวและยินยอมบาดหมางกับจวนเจ้าพระยา เพราะความตายขององครักษ์ผีเพียงแค่คนเดียว  เรื่องเช่นนี้ช่างน่าขบขันนัก!"

"เหอะ! เมื่อก่อนฝ่าบาทอาจจะไม่ทำกระไรพวกเจ้า แต่พวกเจ้าอย่าได้ลืมไปว่ายามนี้เจ้าพระยาเรืองฤทธิ์ของพวกเจ้าต้องพิษร้ายของพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์ จนตกต่ำหาได้ยิ่งใหญ่ทรงพลังดั่งกาลก่อน ในยามที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์แรกสัมผัสธรรมชาติอีกต่อไป! "

"ฮ่าๆๆ  อ่า…ขออภัยด้วย แต่ข้าเกรงว่าเจ้าคงจะต้องผิดหวังแล้วล่ะ เพราะอีก 3 เดือน พิษร้ายของพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์ของท่านเจ้าพระยาจะถูกขจัดออกไปอย่างหมดจด" ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ ที่จะหัวร่อออกมา เมื่อได้ยินคำกล่าวของชวีอวิ๋น

ชวีอวิ๋นผู้นี้มันคิดว่าอำนาจของจวนเจ้าพระยาอ่อนแอลงไม่เหมือนกาลก่อนเพราะเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์ถูกพิษพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์? จนมันสามารถรังแกกันได้ง่ายๆ?

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 224 : ครึ่งก้าวธรรมชาติ ชวีอวิ๋น!"

3.7 231 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
มีนาคม 12, 2022
ตำนานเทพปีศาจอมตะ (Immortal Devil Transformation)
ตำนานเทพปีศาจอมตะ (Immortal Devil Transformation)
มีนาคม 12, 2022
The Inverted dragons scale
The Inverted dragons scale
มีนาคม 12, 2022
หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords !
หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords !
มีนาคม 12, 2022
davisam
จักรพรรดิเทพมรณะ
มกราคม 14, 2023
รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ ( 末世虐杀游戏最新章节 )
รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ ( 末世虐杀游戏最新章节 )
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz