หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 222 : เป่ยซัน

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 222 : เป่ยซัน
Prev
Next

บทที่ 222 : เป่ยซัน

 

"ขอรับพระบิดา" องค์ชาย 3 และองค์ชาย 5 รีบพยักหน้ารับคำทันที

ในขณะที่พวกเขาก้มหัวไปนั้น ประกายตาของทั้งคู่พลันเรืองวูบขึ้นมาด้วยเจตนาฆ่าฟัน

แน่นอนว่าเจตนาฆ่าฟันของพวกมันทั้งคู่นี้ย่อมมีเป้าหมายเดียวกัน ต้วนหลิงเทียน!

เมื่อเงยหน้าขึ้นมา องค์ชาย 3 ก็มองไปยังองค์ราชารา พร้อมกล่าววาจา “ผู้บุตรต้องขออภัยที่รบกวนเวลาพระบิดา”

"ข้าเองก็ขออภัยพระบิดาเช่นกัน" องค์ชาย 5 เองก็กล่าวออกมาด้วย

องค์ราชาไม่แยแสทั้ง 2 คนเพียงสะบัดมือส่งๆ อันหมายความว่าพวกเจ้ากลับไปได้แล้ว  ยามนี้เขาจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนกับองค์หญิงปี้เหยาสลับไปมา …

ต้วนหลิงเทียนยังคงยืนอยู่โดยไม่แสดงสีหน้าและอารมณ์ใดๆออกมา มีเพียงความสงบนิ่งเท่านั้น  ส่วนทางด้านองค์หญิงปี้เหยา กลับมีใบหน้าแดงก่ำที่เต็มไปด้วยความเขินอาย "เสด็จพ่อ ท่านจะจ้องอันใดกันเล่า?"

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ…." องค์ราชาหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง ก่อนที่จะกล่าวถาม "นี่พวกเจ้าทั้งคู่รู้จักกันแล้วหรือ?"

องค์หญิงปี้เหยาพยักหน้ารับออกมาอย่างเขินอาย

องค์ราชามองไปยังต้วนหลิงเทียนก่อนที่จะกล่าวออกมา "ผู้บัญชาการต้วนเจ้าเองคงไม่ค่อยได้มาวังหลวงสักเท่าไร เช่นนั้นก็ไปเดินสำรวจรอบๆ ทำความคุ้นเคย โดยให้ปี้เหยาพาชมเถิด "

"เช่นนั้น ข้าคงต้องขอรบกวนองค์หญิงปี้เหยาแล้ว" ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบคำก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมองค์หญิงปี้เหยา

หญิงชราที่ตามองค์หญิงปี้เหยามาแต่แรกก็เดินตามออกไปด้วยเช่นกัน

ส่วนทางด้านอัครมหาเสนาบดีกู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างองค์ราชานั้น วันนี้มันเพียงยืนนิ่งไม่กล่าววาจาใดๆ ออกมาแม้แต่ครึ่งคำ ทว่าสีหน้าของมันเปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตาของมันคมกล้าส่องแสง

และแววตานี้ของมันเปรียบดั่งอสรพิษที่กำลังรอเวลาพุ่งฉกรัดพันเหยื่อ!

เมื่อเทียบกับท่าทีขวยเขินเล็กน้อยในกาลก่อนแล้ว…ยามนี้องค์หญิงปี้เหยามีที่เขินอายไม่น้อย  เพราะนางไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มที่นางคิดมาช่วย  กลับมีความสามารถเลิศล้ำถึงเพียงนี้ เขาสามารถรอดการเล่นงานจากพี่ชายได้โดยที่นางไม่ต้องช่วย

และตอนนี้นางเองก็กำลังเดินกับชายหนุ่มเลิศล้ำผู้นี้ที่นางคำนึงหา  นางจึงเขินอายจนกระทั่งไม่รู้ว่าจะกล่าววาจาออกมาอย่างไร

ต้วนหลิงเทียนเองก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปนี้ได้เช่นกัน

หลังจากที่เดินเล่นกับองค์หญิงปี้เหยาอยู่ครู่หนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวาจาออกมาเป็นครั้งแรก "องค์หญิงปี้เหยา ต้องขออภัยท่านด้วย แต่ข้าเองยังมีเรืองราวที่ต้องไปสะสาง เกรงว่าวันนี้…ข้าต้องขอตัวลากลับแล้ว"

"อื้อ ท่านมีธุระก็รีบไปจัดการเถิด" องค์หญิงปี้เหยาพยักหน้าเบาๆ แล้วนางก็เฝ้ามองแผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ เมื่อเขาลับตาไปแล้วนางก็ถอนหายใจออกมา

ทางด้านต้วนหลิงเทียนที่เดินออกมาจากวังหลวง สิ่งแรกที่เขาทำก็คือการส่ายหัวไปมา  ยามนี้แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวรู้สึกยังไงกับองค์หญิงปี้เหยากันแน่

แต่เขาก็สามารถมั่นใจได้อย่างหนึ่ง …ในตอนที่เขาเห็นองค์หญิงปี้เหยาเร่งรีบมา เพื่อกล่าววาจาช่วยเหลือตัวเขา ตัวเขาก็รู้สึกอบอุ่นในใจไม่น้อย

ถึงแม้ว่าการกระทำนี้ของนาง จะเรียกได้ว่าไม่จำเป็นสำหรับเขาก็ตาม  แต่แค่ความตั้งใจที่คิดช่วยเหลือเขาก็นับว่าทำให้ตื้นตันแล้ว

“เฮ่อ…”  ต้วนหลิงเทียนเพียงระบายลมหายใจออกมา หลังจากนั้นเขาก็เดินทางไปยังบ้านลาน หลังใหม่ ที่เป็นศูนย์บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรของเขา

“ผู้บัญชาการต้วน ดาบยาวปลายตัด อันเป็นอาวุธประจำกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรนี้…พวกมันเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 8 หรือ?”

ต้วนหลิงเทียนที่พึ่งเดินผ่านประตูเข้ามาอดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อย เพราะเมื่อมาถึง จางเฉวียน ก็โผล่เข้ามากล่าวถามเขาด้วยสายตาใคร่รู้ และที่สำคัญ สมาชิกกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรอีกทั้ง 11 คนก็จับจ้องมาด้วยสายตาประหลาดใจเช่นเดียวกัน

พวกเขาคาดไม่ถึงจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนจะ ใช้จ่ายมือเติบขนาดนี้!

"พวกเจ้า สังเกตเห็นกันหมดแล้วหรือ?" ต้วนหลิงเทียนยิ้มออกมาบางๆ

"ท่านผู้บัญชาการ ท่านมิควรเสียค่าใช้จ่ายมากมายมหาศาลถึงเพียงนี้ เพื่อว่าจ้างผู้หลอมศาสตราระดับ 8 เลยขอรับ นี่ท่านคงใช้จ่ายออกไปไม่น้อยเลยใช่หรือไม่ขอรับ?" จ้าวกังกล่าวออกมา ด้วยความเป็นห่วง

"มันก็แค่ของเล่นเล็กๆน้อยๆ ที่ข้าทำขึ้นมาด้วยตัวเอง ค่าใช้จ่ายก็เสียไปเพียงค่าวัตถุดิบเล็กๆน้อยๆ ไม่กีเหรียญเท่านั้น" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างไม่ยี่หระ

แต่ทว่าทันทีที่ทั้ง 12 คนได้ รวมทั้งผู้ที่มีระดับครึ่งก้าวธรรมชาติได้ฟัง  ทั้งหมดล้วนเผยสีหน้าโง่งม เพราะตกตะลึงออกมา

ผู้บัญชาการของพวกมัน  เป็นผู้หลอมศาสตราระดับ 8 ด้วย?

จากที่พวกมันรู้มา ผู้บัญชาการของพวกมันกำลังจะมีอายุ 19 ปีในอีก 2 เดือนข้างหน้าเท่านั้น

ผู้หลอมศาสตราระดับ 8 ด้วยวัยเพียง 18 ปี นี่มันเรื่องอะไรกัน!

“ทานผู้บัญชาการ หากข้ารู้สึกมิผิด อาวุธวิญญาณระดับ 8 เหล่านี้ ยังเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้ผู้ถือครองถึง 20% ใช่หรือไม่ …นี่มันนับว่าเหนือกว่าอาวุธวิญญาณของผู้หลอมศาสตราระดับ 8 ส่วนมาก และกล่าวได้ว่ามันสมบูรณ์แบบที่สุดมิใช่หรือ " ชายชราที่ลงมือสังหารชวีลู่เมื่อวานกล่าวออกมา

"ผู้เฒ่าหง นับว่าท่านเองก็ตาแหลมไม่เบา" ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ ออกมาพร้อมพยักหน้ารับคำ

ชายชราที่ต้วนหลิงเทียนเรียกว่า ผู้เฒ่าหง คนนี้ เป็น 1 ใน 2 ผู้ฝึกยุทธ์ระดับครึ่งก้าวธรรมชาติที่เจ้าพระยาเรืองฤทธิ์มอบให้เขา

ตอนนี้สมาชิกคนอื่นๆ ที่ได้ฟังบทสนทนาระหว่างต้วนหลิงเทียนและผู้เฒ่าหง ล้วนตกตะลึงมากยิ่งขึ้น

พวกเขาทุกคนลองชักดาบยาวปลายตัดประจำตัวออกมา ก่อนที่จะลองเร่งเร้าพลังงานต้นกำเนิดออกมา และสุดท้ายทั้งหมดก็รู้ว่า ดาบในมือสามารถเพิ่มพูนความแข็งแกร่งได้ถึง 20% จริงๆ

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสะท้าน

นั่นเพราะอาวุธวิญญาณระดับ 8 ส่วนมากนั้น สามารถเพิ่มพูนพลังความแข็งแกร่งได้ใกล้เคียง 20% เท่านั้นไม่เคยถึง และโดยมากสุดจะเพิ่มพูนได้อยู่ที่ 19% เท่านั้น  และกล่าวได้ว่าผู้หลอมศาสตราระดับ 8 ที่สามารถหลอมอาวุธวิญญาณระดับ 8 ที่สามารถเพิ่มพูนพลังได้ 19% นี้ก็นับวายอดเยี่ยมที่สุดแล้ว!

นั่นหมายความว่าดาบยาวปลายตัด ที่พวกมันถือครองอยู่ นับว่าเป็นอาวุธวิญญาณระดับ 8 ที่เหนือสุดยอดในหมู่อาวุธวิญญาณระดับ 8 ด้วยกัน!

ไม่นาน สายตาของทุกคนที่จับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนก็เปลี่ยนเป็นความกริ่งเกรง และนับถืออย่างมาก

ผู้ฝึกยุทธ์ที่สามารถตัดผ่านระดับกำเนิดแก่นแท้ด้วยวัยเพียง 18 ปี ซ้ำยังเป็นผู้หลอมศาสตราระดับ 8!

นี่ไม่รู้ว่าหากพวกมันทั้งหมดรู้ว่าต้วนหลิงเทียน เป็นผู้หลอมโอสถระดับ 8 ด้วย จะเป็นอย่างไรกันหนอ?

ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองจางเฉวียนและจ้าวกัง

"จางเฉวียนกับจ้าวกัง พวกเจ้าทั้ง 2 คน ไปตระเวนตามร้านชายโอสถสมุนไพรทั้งหมดภายในเมืองหลวง  และตรวจสอบว่าร้านใดมีวัตถุดิบสมุนไพรตามรายการนี้บ้าง" ต้วนหลิงเทียนนหยิบกระดาษจดรายการวัตถุดิบสมุนไพรออกมา ก่อนที่จะยื่นส่งไปให้จ้างเฉวียนและจ้าวกัง "หากเจอแล้วพวกเจ้าก็ลองสอบถามทางร้านเพิ่มเติมด้วยว่า ทางร้านยังพอจดจำผู้ที่ซื้อหารายการเหล่านี้เมื่อ 3 ปีที่แล้วได้หรือไม่…จำไว้เรื่องนี้สำคัญยิ่ง! "

วัตถุดิบสมุนไพรในรายการเหล่านี้ จะเป็นวัตถุดิบสมุนไพรหลักๆ ที่ใช้ในการปรุงยาพิษที่ใช้กับองค์ราชา และพวกมันไม่อาจเอาไปทำอย่างอื่นได้อีก

เป้าหมายแรกของต้วนหลิงเทียนตอนนี้คือ ค้นหาผู้ที่ลอบวางยาพิษองค์ราชา!

"ขอรับ" จางเฉวียนและจ้าวกังรับคำสั่ง ก่อนที่จะออกไปจัดการทันที

….

ณ ที่ห่างไกลและเงียบสงบบริเวณด้านนอกของเมืองหลวงชั้นนอก

"อัครมหาเสนาบดีกู้?" น้ำเสียงชราที่ก้องกังวานดังขึ้น ราวกับจะดังมาจากทุกทิศทาง ซ้ำน้ำเสียงนี้ยังเผยให้สัมผัสได้ถึงอารมณ์ไม่พอใจเล็กน้อย

ทันใดนั้นชายชราในชุดสีดำทมิฬพลันปรากฏร่างขึ้นมา

"ผู้เฒ่าชวี" กู้โหย่วถิงมองไปยังชายชรา ก่อนที่จะทำการคารวะออกมา

"อัครมหาเสนาบดีกู้ ท่านมีอันใดหรือไม่ จึงมารบกวนเวลาข้าเช่นนี้?"ชายชราที่สวมชุดคลุมสีดำนี้ มีเบ้าตาลึกลงไปเล็กน้อย ร่างกายของเขาแลแก่ชราเป็นอย่างมาก ราวกับจะล้มลงได้แค่เพียงต้องลม

แต่อย่างไรก็ตามกู้โหย่วถิงสัมผัสได้ว่า ความแข็งแกรงของชายคนนี้นั้นสูงส่งมาก

อย่างน้อยๆก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา!

กู้โหย่วถิงถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะกล่าวราวเสียใจอย่างมาก “ผู้เฒ่าชวี ข้าเสียใจกับความสูญเสียของตระกูลท่านด้วย”

"บัดซบ อัครมหาเสาบดีกู้ ท่านกล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?" กลิ่นอายน่าพรั่นพรึงค่อยๆแผ่ซ่านออกมา ยามที่ชายชราได้ฟังวาจาของกู้โหย่วถิง

"ผู้เฒ่าชวีใจเย็นลงก่อน นี่ท่านยังไม่ทราบเรืองราวหรอกหรือ … ชวีลั่งหลานชายของท่าน เขาถูกทำลายจุดตันเถียนด้วยน้ำมือของผู้อื่น จนพิการไปแล้ว" ประกายตาของกู้โหย่วถิงส่องสว่างขึ้นมาขณะกล่าววาจา

"อะไร?!" ประกายตาสีม่วงของชายชราอยู่ๆก็ลุกโชนขึ้นอย่างน่ากลัว เขาเริ่มแผ่จิตสังหารออกมากดดัน กู้โหย่วถิง "อัครมหาเสนาบดี วาจาที่ท่านกล่าวนั้นเป็นเรื่องจริงเช่นนั้นรึ?"

"มิผิด"กู้โหย่วถิงพยักหน้ารับ

“แล้วบุตรชายข้า ได้แก้แค้นให้หลาน ลั่งแล้วหรือไม่? " ยามนี้อารมณ์ของชายชราในชุดคลุมสีดำเริ่มปั่นป่วนขึ้นมาแล้ว

“ผู้เฒ่าชวี… บุตรชายของท่านเอง ก็ตกตายแล้ว" กู้โหยวถิงกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มขมขื่น

ชายชราในชุดสีดำได้ฟังก็สะท้านไป มันคิดร่ำไห้แต่ไร้น้ำตา  ร่างกายผอมแห้งบอบบางสั่นระริก  น้ำเสียงของมันเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งจากขุมนรกยะเยือกใต้โลก “อัครมหาเสนาบดีกู้ ท่านรู้หรือไหมว่าเป็นฝีมือของผู้ใด?”

“ผู้เฒ่าชวี บุตรชายของท่านนั้นได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อล่างแค้นให้แก่ชวีลั่งหลานชายของท่าน  แต่สุดท้ายเขาก็ไม่อาจล้างแค้นได้สำเร็จ  ทั้งยังต้องมาตกตายอย่างอนาถ ด้วยน้ำมือของอีกฝ่าย…คนที่ทำลายตันเถียนหลานชายท่าน และคนที่สังหารบุตรของท่าน …มันเป็นคนๆเดียวกัน” กู้โหย่วถิงกล่าวออกมาอย่างช้าๆ

"ไอบัดซบนั่นมันเป็นใคร?" ชายชราที่สวมชุดคลุมสีดำ ยามนี้มันแลดูเดือดพล่านราวกับ โทสะชั่วชีวิตกำลังจะพวยพุ่งออกมา

"มันคือ ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร นามว่าต้วนหลิงเทียน!" กู้โหย่วถิงยังกล่าวต่อไปอีกว่า "ผู้เฒ่าชวี ยามนี้ท่านสมควรกลับไปหาหลานชายของท่านก่อน …เพราะข้าหวาดกลัวแทนท่านนัก บุตรชายของท่านก็ตกตายไปแล้ว หลานชายของท่านจึงไร้ผู้คุ้มกัน เกรงว่าต้วนหลิงเทียนจะไปล่ามันถึงที่!"

"มันกล้า"? ชายชราในขุดสีดำ กล่าวออกมาเสียงดังสนั่น จิตสังหารแผ่ซ่านทะลักออกมา

ฟุ่บ!

ไม่นานร่างของชายชราชุดสีดำ ก็พุ่งจากไป และหายไปด้วยความเร็วสูง

"ต้วนหลิงเทียน … ข้าอยากรู้นักว่าครานี้เจ้าจักเอาตัวรอดจากโทสะของชายชราที่บ้าคลั่งนี่ได้อย่างไร" มุมปากของกู้โหยวถิงพลันยกขึ้น ก่อนที่จะยิ้มแสยะออกมาทันที ดูเหมือนแผนการของมันจะสำเร็จแล้ว

ยามนี้ต้วนหลิงเทียนกำลังนำพาองครักษ์เสื้อแพรควบขี่อาชาสัญจรไปตามถนนสายหลักของเมืองหลวง อาชาของเขานำหน้า โดยที่สมาชิกองครักษ์เสื้อแพรที่เหลืออีก 10 คนจะอยู่ด้านหลัง

ส่วนชายชราที่มีระดับครึ่งก้าวธรรมชาตินั้นขยับขึ้นหน้ามาเล็กน้อยอยู่ด้านหลังของต้วนหลิงเทียนราวกับจะเฝ้าคุ้มครอง

ทุกที่ๆองครักษ์เสื้อแพรทั้ง 11 คนนี้เดินทางผ่าน ผู้คนล้วนหลีกออกสองข้างทางด้วยความยำเกรง

"นั่นมันองครักษ์เสื้อแพร!"

"เช่นนั้นบุรุษหนุ่มผู้นั้น ก็คือท่านผู้บัญชาการต้วนหลิงเทียนที่เลื่องลือหรือ?"

"สวรรค์ช่วย! ยามแรกข้าคิดว่าข่าวลือนั้นกล่าวเกินจริงไปไม่น้อย แต่ยามนี้พอเห็นด้วยสองตา ที่แท้ผู้บัญชาการต้วนกลับเยาว์วัยถึงเพียงนี้"

…

ผู้คนที่ผ่านไปมารอบๆ ล้วนหันไปกล่าวกระซิบสนทนากันอย่างตื่นเต้น

แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนย่อมสามารถได้ยินบทสนทนาทั้งหมดโดยรอบได้เป็นอย่างดี แต่เขาทำเพียงยิ้มแย้มออกมาเท่านั้นไม่ได้คิดขวยเขินอะไรทำนองนั้น

บทสนทนาที่เต็มไปด้วยเรื่องราวยกย่องหรือกล่าวถึงตัวเขานั้น เขาได้รับฟังและพบเจอมาจนชินแล้ว

"ย่ะ!" ทันใดนั้นเองพลันมีรถม้าหรูหราคันหนึ่งมุ่งหน้ามาบนถนนด้วยความเร็วสูง

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว

“หลีกไป!” สารถีที่แลดูก็เห็นแต่ไกลว่าสมควรเป็นบุรุษองอาจผู้หนึ่ง มันกล่าวตะโกนดังก้องพร้อมหวดฟาดแส้ในมือใส่ม้าพ่วงพี

แววตาของสารถีนั้นเผยให้เห็นถึงความเย้ยหยันและดูแคลนไม่น้อย  มันมองไปยังเหล่าผู้คนเดินเท้าที่เร่งรีบหลบหนีด้วยความหวาดกลัวอย่างสนุกสนาน

ไม่นานหลังจากนั้นมันก็เห็นกลุ่มของต้วนหลิงเทียน

"หืม?" สารถีค่อยๆหรี่ตามองกลุ่มคนตรงหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นก็พินิจชุด คลุมปลาบินอันเป็นเอกลักษณ์ของกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรของต้วนหลิงเทียน มันรับรู้ได้ทันทีว่ากลุ่มคนตรงหน้าหาได้ง่ายดาย "หยูดดดดด!!"

รถม้าหยุดลงหน้าต้วนหลิงเทียนด้วยระยะทางไม่ถึง 3 เมตร

“อาฝู เหตุใดเจ้าจึงหยุดรถอย่างกะทันหันเช่นนี้” ทันใดนั้นเองเสียงชายหนุ่มคนหนึ่งพลันดังขึ้นจากในรถม้า

“นายน้อย 3 ขอรับ มีกลุ่มองครักษ์ระดับสูงอยู่ด้านหน้าของพวกเราขอรับ พวกเราควรรอให้พวกเขาผ่านพ้นไปก่อน” สารถีมองไปยังชายหนุ่มในชุดคลุมปลาบินด้วยความลังเลใจ

"องครักษ์ระดับสูง องครักษ์อันใดกัน?" น้ำเสียงที่ราวกับไม่อาจอดทนรอได้ ดังขึ้นมาจากในรถ

ไม่นาน ม่านของรถม้าก็ถูกเลิกขึ้นมา และศีรษะของชายหนุ่มคนหนึ่งก็โผล่พ้นมาชมดู

ทันใดนั้นเองม่านตาของชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาพลันหดแคบลง  อีกทั้งโทสะและจิตสังหารกลับแผ่ซ่านปะทุออกมาอย่างน่าหวาดกลัว เมื่อเขาได้เห็นชายหนุ่มที่ควบขี่อาชาอยู่เบื้องหน้า "เป็นเจ้านี่เอง สารเลว!"

ต้วนหลิงเทียนรู้สึกตกใจกับชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาเล็กน้อย เพราะอยู่ๆมันก็จ้องหน้าเขา แล้วก็ตะโกนออกมาเสียงดัง ซ้ำยังว่าเขาอีก

‘อะไรของมัน นี่ข้าเคยรู้จักมันด้วยหรือ?’

ต้วนหลิงเทียนเอียงคอเพ่งพินิจพิจารนา เค้าโครงใบหน้าของชายหนุ่มที่แลดูเคืองแค้นเขาอยู่ครู่หนึ่ง

ในที่สุดก็ดูเหมือนเขาจะเริ่มจำชายตรงหน้าได้ลางๆ  และหากเขาจำไม่ผิดชายหนุ่มผู้นี้สมควรเป็นผู้ที่เขาพบพานมานานแล้ว

ฉากบริเวณนอกเมืองชิงลี่ เมื่อราวๆ 2 ปีที่แล้วพลันฉายซ้ำในห้วงคำนึงของต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง

ยามนั้นเขากำลังควบขี่อาชาอยู่อย่างสงบไปตามเส้นทางสัญจรสายหลัก มุ่งหน้าสู่เมืองชัยชนะ และเขาก็ได้พบเจอ ชายหญิงคู่หนึ่งที่ทำราวกับชีวิตคนเป็นแค่หญ้าไร้ราคา

ชายหญิงคู่นั้นกำลังควบขี่อาชาเหงื่อโลหิตห้อตะบึงมาตามทาง

ยามนั้นตัวเขาเองก็หลบเลี่ยงออกข้างทางเพื่อให้พวกมันไปก่อนแล้ว

แต่ไม่คิดฝันว่าอยู่ๆ หญิงสาวที่นำหน้ามา จะลงมือโดยไม่บอกกล่าวหวดฟาดแส้มาทางเขาอย่างอำมหิต!

เขาจึงสั่งสอนบทเรียนให้แก่สตรีใจอำมหิตนางนั้นโดยกระชากนางให้ล่วงตกหลังม้า  และบุรุษตรงที่โผล่หัวออกมานอกรถม้าตรงหน้าเขา ก็ออกหน้าแทนหญิงสาวนางนั้น  ทั้งมันยังคิดฆ่าเขา เขาจึงตัดแขนมันทิ้งไปข้างหนึ่งเป็นการสั่งสอนเบาๆ

หลังจากนั้นตัวเขาก็พบอัตลักษณ์ของมัน ในร้านอาหาร นามของมันคือ เป่ยซัน และมันเป็นถึงบุตรชายคนที่ 3 ของผู้ว่าการประจำมณฑลผานางแอ่นเหิน

"ที่แท้ก็เจ้านี่เอง" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมา หลังจากที่เขาจำได้ว่า ชายตรงหน้าสมควรเป็นเป่ยซันที่เขาสะบั้นแขนสั่งสอนไปเมื่อ 2 ปีก่อน

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 222 : เป่ยซัน"

3.7 232 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ราชันสามภพ
กรกฎาคม 6, 2023
The favored son of heaven
The favored son of heaven
มกราคม 31, 2024
Crazy  Leveling  System
Crazy Leveling System
พฤษภาคม 17, 2022
มหายุทธทลายดารา!
มหายุทธทลายดารา!
มีนาคม 12, 2022
เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน
กรกฎาคม 6, 2023
The Divine Nine-Dragon Cauldron
The Divine Nine-Dragon Cauldron
พฤษภาคม 17, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz