หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 221 : ชวีลู่ นี้สมควรตาย!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 221 : ชวีลู่ นี้สมควรตาย!
Prev
Next

บทที่ 221 : ชวีลู่ นี้สมควรตาย!

 

 

เรื่องราวที่ กองกำลังองครักษ์เสื้อแพรได้กระทำไป นับว่าเป็นเรื่องสะท้านขวัญของเมืองหลวงไปตลอดทั้งคืน

องค์ราชาได้ออกราชโองการ จัดตั้งกองกำลังองครักษ์เสื้อแพร  ทั้งยังลงนามรับรองกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรด้วยตัวเอง ทว่ายามนี้องครักษ์เสื้อแพรกลับบุกไป ลงมือสังหารผู้บัญชาการกองทหารองค์รักษ์ประจำเมืองหลวงอย่างอุกอาจ!

กระกระทำที่ไร้ซึ่งความยำเกรงและอุกอาจขององครักษ์เสื้อแพรครั้งนี้  ทำให้ผู้คนในเมืองหลวงต่างรู้สึกหวาดผวาและหวาดกลัวไม่น้อย อีกทั้งพวกเขาเองก็ยังรู้สึกเสียใจกับต้วนหลิงเทียนด้วยเช่นกัน

ภายในวังขององค์ชาย 3

เพล้ง!

ภายในศาลากลางน้ำ สีหน้าขององค์ชาย 3  แปรเปลี่ยนเป็นมืดลงอย่างน่ากลัวหลังจากได้รับรายงานของคนรับใช้ เขาปาจอกสุราลงบนพื้นจนแตกกระจายส่งเสียงดัง อดไม่ได้ที่จะทำให้เหล่าอัจฉริยะหนุ่มบางคนสะดุ้งขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว

"เอาล่ะ ทุกท่าน เกรงว่าวันนี้งานเลี้ยงพวกเราคงต้องจบลงเพียงเท่านี้   วันหน้าพวกเราค่อยมาสนทนากันอีก" องค์ชาย 3 สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะกล่าววาจากับแขกทั้งหลายของเขา

หลังจากที่บรรดาอัจฉริยะวัยเยาว์ทั้งหมดเดินทางกลับออกไปจนหมด ประกายตาขององค์ชาย 3 กลับกลายเป็นวูบวาบออกมาอย่างน่าหวาดกลัว "ตั้งแต่มันกับข้าไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ดั่งน้ำกับไฟ เช่นนั้นข้าจะทำลายอำนาจและความโอหังของมันให้ย่อยยับ… เจ้าไปเตรียมการเอาไว้ พรุ่งนี้ข้าต้องการเข้าพบพระบิดาให้เร็วที่สุด!"

"ขอรับ" ข้ารับใช้รับคำก่อนที่จะจากไป

"ต้วนหลิงเทียน เจ้าคิดว่าได้รับความโปรดปรานเล็กๆน้อยๆเข้าหน่อย  แล้วจะมาทำกร่างกระทำตามใจตัวไม่เห็นหัวผู้คนได้เช่นนั้นหรือ มาดูกันเถอะว่าพระบิดาข้าจะลงโทษเจ้าเพราะเรื่องนี้อย่างไร!"น้ำเสียงเย็นชาหนาวยะเยือกดังออกมาจากปากขององค์ชาย 3  ราวกับผุดออกมาจากส่วนลึกของนรก

วังองค์ชาย 5

ในศาลาชมบุปผา ชายชราคิ้วขาวกำลังกล่าวรายงานเรื่องราวที่กำลังเป็นประเด็นร้อนภายในเมืองหลวงให้แก่องค์ชาย 5รับรู้

"อะไรนะ ต้วนหลิงเทียนมันนำกองกำลังองครักษ์เสื้อแพร ของมันบุกไปสังหารชวีลู่?" องค์ชาย 5 รู้สึกตกตะลึงกับข่าวนี้ไม่น้อย ใบหน้าของเขามืดลงโดยพลัน "มันกล้าลงมืออย่างอุกอาจโดยไม่เห็นหัวผู้ใดนัก!"

"ฝ่าบาท ตามที่ข้าน้อยไปสืบมา ดูเหมือนผู้ที่ลงมือสังหารชวีลู่จะเป็น 1 ในองครักษ์เสื้อแพรของต้วนหลิงเทียน และดูเหมือนจะมีระดับบ่มเพาะอยู่ที่ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 9 ขอรับ" ชายชราคิ้วขาวกล่าวออกมา แววตามันฉายความหวาดกลัวเล็กน้อย

"ดูเหมือนพระยาเรืองฤทธิ์ ยังคงเห็นแก่ความสัมพันธ์ครั้งเก่ากับต้วนหรูเฟิงไม่น้อย… ถึงขนาดส่งผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นสูง จำนวนมากเช่นนี้ไปให้ต้วนหลิงเทียนใช้งาน"ประกายตาขององค์ชาย 5 เรืองวูบออกมาด้วยความเย็นชา น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึมขึ้น

"ฝ่าบาทเช่นนี้พวกเราควรจะทำอย่างไรกันดี?" ชายชราคิ้วขาวกล่าวถามออกมา

องค์ชาย 5 สะบัดแขนเสื้อก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่สนใจ  "ฮึ่ม! ตอนนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากมาย แต่พรุ่งนี้ข้าจะไปเข้าเฝ้าพระบิดาเพื่อกล่าวรายงานแต่เช้า.. ต้วนหลิงเทียนนี่นับว่ากล้าหาญนัก กระทั่งผู้บัญชาการกองกำลังทหารองครักษ์มันยังบุกไปฆ่าสังหารได้… ก่อการร้ายแรงตามใจตนเช่นนี้ พระบิดาของข้าต้องปลดมันลงจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรแน่นอน! "

"ฝ่าบาททรงปรีชานัก" ชายชราคิ้วขาวพยักหน้า

จวนอัครมหาเสนาบดี

กู้โหย่วถิง นั่งจิบชาหอมสวรรค์อยู่บริเวณโต๊ะหินอ่อนบริเวณลานด้านหน้าอย่างผ่อนคลาย

"รายงานท่านอัครมหาเสนาบดีขอรับ  ต้วนหลิงเทียนผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์เสื้อแพร ได้นำคนบุกไปยังค่ายของกองกำลังทหารองครักษ์ และสังหารผู้บัญชาการ ขอรับชวีลู่ !"

"ชวีลู่? กู้โหย่วถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย "มันนับว่าเป็นคนกักขฬะไร้ราคาอะไร…แต่จะอย่างไรบิดาของชวีลู่ ก็นับว่าไม่ใช่ธรรมดา"

ในขณะที่กล่าวพึมพำ ประกายตาของกู้โหย่วถิงก็เรืองวูบขึ้นมาอย่างลี้ลับ มุมปากเริ่มแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์

วันรุ่งขึ้น เมื่อต้วนหลิงเทียนมาถึงศูนย์บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร  เขาก็ได้รับแจ้งว่าองค์ราชาเรียกเขาไปเข้าเฝ้าที่วังหลวง

วังหลวงเองก็ยังดูโออ่าและสวยงามเหมือนครั้งที่มาหนก่อน ต้วนหลิงเทียนเดินไปตามทางด้วยท่วงท่าองอาจไร้กังวล  ไม่นานก็มาถงท้องพระโรงเข้าสังเกตว่ายามนี้นอกเหนือจากองค์ราชาที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ และอัครมหาเสนาบดีกู้ อีกด้านยังมีร่าง 2 ร่างยืนอยู่อีกด้วย

ทั้งสองคนนี้ก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าอะไรสำหรับต้วนหลิงเทียน

มันเป็นองค์ชาย 3 กับองค์ชาย 5 นั่นเอง!

ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเดาได้แต่แรกแล้วว่าเขาถูกองค์ราชาเรียกมาด้วยเรื่องที่เขาพึ่งก่อไปหมาดๆ แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าองค์ชาย 3 และองค์ชาย 5 จะพร้อมหน้ารวมหัวกันมาเล่นงานเขา

เหมือนตอนนี้ตัวเขาจะนับว่าเป็นที่ต้องตาต้องใจใครต่อใครไม่น้อยเลยทีเดียว!

"องค์ราชา สบายดี" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังราชาก่อนที่จะพยักหน้าเบาๆ

"บังอาจ" องค์ชาย 3 และองค์ชาย 5 กล่าวออกมาราวกับนักร้องประสานเสียง

"บังอาจ?" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังองค์ชาย ทั้ง 2 ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างไม่แยแสพร้อมรอยยิ้ม "โอ้ ข้าขอถามองค์ชาย 3 กับ 5 หน่อยได้หรือไม่ ข้าบังอาจอย่างไร?"

"ต้วนหลิงเทียน! เจ้าพบหน้าองค์ราชาผู้อยู่สูงสุดของอาณาจักรนภาล่อง แต่เจ้ายังไม่คุกเข่าทำความเคารพ!  เช่นนี้ไม่เรียกบังอาจแล้วจะให้เรียกอะไร?" องค์ชาย 3 กล่าวถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม

"ไม่คุกเข่าเมื่อพบหน้าฝ่าบาท ย่อมไม่ต่างอันใดกับดูหมิ่นพระองค์  ต้วนหลิงเทียนทีนี้เจ้ารับรู้ความผิดร้ายแรงนี้แล้วหรือไม่?" องค์ชาย 5 ได้ทีสุมไฟเพิ่มโดยพลัน

ต้วนหลิงเทียนคร้านจะแยแสตัวโง่งม 2 ตัวนี่ ก่อนที่จะหันไปมององค์ราชา

"เอาล่ะ พวกเจ้าพี่น้องพอได้แล้ว" องค์ราชากล่าวออกมา

"พระบิดา!" องค์ชาย 3 และองค์ชาย 5กล่าวออกมาด้วยความตกใจ และหันไปมององค์ราชาอย่างพร้อมเพรียง

องค์ราชากล่าวออกมาอย่างไม่ใส่ใจ  "ข้าได้ให้คำมั่นกับผู้บัญชาการต้วนเอาไว้แล้ว ว่าต่อแต่นี้ไปยามพบหน้าข้าเขาไม่จำเป็นต้องคุกเข่าทำความเคารพข้า… พวกเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องกล่าวเรื่องนี้ให้วุ่นวายแล้ว"

ได้รับการยกเว้นให้ไม่ต้องคุกเข่า?

องค์ชาย 3 และองค์ชาย 5 หรี่ตาลง พร้อมกับประหลาดใจไม่น้อย

พวกเขาไม่คิดเลยว่าพระบิดาที่เข้มงวดกับพวกเขา จะไม่ถือตัวสักนิดกับต้วนหลิงเทียน …

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาคิดถึงเรื่อร้ายแรงที่ต้วนหลิงเทียนก่อพวกเขาก็ใจเย็นลง

เหตุการณ์ร้ายแรงที่ต้วนหลิงเทียนก่อขึ้นเมื่อวาน มันร้ายแรงมากพอที่จะทำให้ต้วนหลิงเทียนที่อยู่สูง ราวกับกำลังท่องทะยานอยู่บนสรวงสวรรค์พังพินาศตกลงมาสู่พื้นดินได้ในทันที!

"เอาล่ะ ตอนนี้ผู้บัญชาการต้วนก็มาแล้ว พวกเจ้ามีอะไรคิดกล่าว ก็ว่าออกมา?" องค์ราชามองไปยังองค์ชาย 3 และ องค์ชาย 5 ก่อนที่จะกล่าวถามออกมาอย่างเฉยเมย

"ต้วนหลิงเทียน พระบิดาข้าโปรดปรานเจ้า เพราะสร้างความดีความชอบ  ถึงกับประทานตำแหน่งให้เจ้า หวังให้เจ้าสร้างคุณงามความดี คอยรับใช้ราชวงศ์ให้ดี…แต่ไม่คิดฝันเลยว่าเจ้าจะใจกล้าเหิมเกริมถึงเพียงนี้  เจ้ากล้าบุกไปยังค่ายบัญชาการกองกำลังทหารองครักษ์ประจำเมืองหลวงที่มีหน้าที่ดูแลความสงบสุข ก่อนจะสังหารผู้บัญชาการชวีลู่อย่างไร้มนุษย์ธรรม!"

สีหน้าขององค์ชาย 3 ยามนี้แลดูเต็มไปด้วยโทสะ "พระบิดา ชวีลู่เป็นผู้บัญชาการกองกำลังทหารองครักษ์ประจำเมืองหลวง กล่าวได้ว่าเขาเป็น เสาหลักในการดูแลความสงบในเมืองหลวง  แต่เขากลับต้องมาตกตายเพราะความคึกคะนองเหิมเกริมของเด็กน้อยไม่ประสาผู้นี้ ข้าหวังว่าพระบิดาจะคืนความเป็นธรรมให้แก่ผู้บัญชาการชวีลู่ด้วย!"

"ใช่แล้วพระบิดา ต้วนหลิงเทียน ลงมือสังหารผู้บัญชาการชวีลู่เช่นนี้ นับว่าเป็นอาชญากรรมร้ายแรงนัก ข้าหวังว่าพระบิดาจะปลดเขาออกจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร  รวมทั้งลงโทษเขาให้หนัก เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างไม่ให้ผู้อื่นหลงผิด" องค์ชาย 5 เองก็กล่าวเสริมคำองค์ชาย 3 ออกมา

ทว่าตั้งแต่ตอนแรกจนถึงบัดนี้ต้วนหลิงเทียนยังยืนสงบ ด้วยท่าทางสบายๆไม่แยแส ราวกับเรื่องราวทั้งหมดล้วนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา

และจริงๆแล้วต้วนหลิงเทียนก็ไม่แยแสพวกมันจริงๆนั่นล่ะ  เพราะทั้งหมดเป็นแค่เรื่องชวนหัวเท่านั้น!!

"ผู้บัญชาการต้วน ตัวท่านมีคำอธิบายในเรื่องนี้หรือไม่?" องค์ราชาเบนสายตามาจ้องมองต้วนหลิงเทียนอย่างลึกซึ้ง

ต้วนหลิงเทียนย่อมเข้าใจความนัยของสายตาสงบนิ่งนี้ขององค์ราชาดี ดูท่าแล้วองค์ราชาคงไม่ใช่แค่พึ่งรู้เรื่องราว แต่น่าจะรู้เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว  ตอนนี้เขากำลังทำหน้าที่ราชาที่ดีต่อหน้าองค์ชาย 5 และองค์ชาย 3 เท่านั้น

และสายตาขององค์ราชานี้ก็ดูเหมือนจะแฝงความลำบากใจไม่น้อย

ต้วนหลิงเทียนเองก็เข้าใจความลำบากใจขององค์ราชาดี …

เพราะถึงแม้ว่าตัวเขาจะเป็นผู้เดียวที่สามารถหลอมปรุงยาถอนพิษรักษาองค์ราชาได้  แต่องค์ราชา ก็มีหน้าที่และภาระที่แบกไว้บนบ่า ไม่อาจลำเอียงได้  ถ้าตัวเขาทำผิดจริงแน่นอนว่าราชาจำเป็นต้องลงโทษเขา  แต่องค์ราชาก็ไม่อยากทำเช่นนั้นจึงคิดให้เขาหาหนทางแก้ต่างให้แก่ตัวเอง

"ราชา เรื่องราวบาดหมางระหว่างข้ากับชวีลู่นั่น ล้วนเกิดขึ้นเพราะว่า ข้ามีเรื่องมีราวกับชวีลั่งบุตรชายเขาเล็กน้อย และเรื่องนี้ตัวท่านน่าจะทราบดีอยู่แล้ว …แต่อย่างไรก็ตามเกรงว่าฝ่าบาทจะพลาดเรื่องสำคัญไปเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ในขณะที่ตัวข้ากำลังเดินทางไปกับกองกำลังสนับสนุนที่จะไปช่วยเหลือแนวรบชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือ กลับมีคนมือสังหาร แฝงตัวมากับกองกำลังมังกรเหิน ลอบจูโจมหมายสังหารข้า!”

"ท่านคงรู้ดีว่าหากมือสังหารคนนี้ลงมือสำเร็จผลจะเป็นอย่างไร  ข้าคงไม่มีโอกาสได้ไปเข้าร่วมการรบกับทัพทหารประจำชายแดนรวมทั้งกองกำลังมังกรเหิน!  ข้าคงไม่อาจช่วยให้ทัพของอาณาจักรเราตีชิงเมืองชัยชนะ!  ซ้ำร้ายมิแคล้วทัพนับ 100,000 ของพวกเราคงต้องย่อยยับเพราะตัวโง่งม!  และคงไม่ได้นำเกียรติยศมาสู่อาณาจักรนภาล่องอย่างยิ่งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์เช่นนี้!" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาเสียงดังฟังชัด

"อะไร กลับมีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น?" สีหน้าของจักรพรรดิมืดลง เต็มไปด้วยโทสะ "เจ้ารู้หรือไม่ ผู้ใดเป็นผู้กระทำ?!"

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า "นี่คือเรื่องที่ข้ากำลังจะเอ่ยบอกต่อท่าน… มือสังหารผู้นั้นที่แท้กลับเป็นสมาชิกของกองกำลังทหารองครักษ์ประจำเมืองหลวง…ที่ได้รับคำสั่งมาจากผู้บัญชาการของมันอย่างชวีลู่!  ที่มันกล้ามันลอบเร้นแฝงตัวปะปนมากับกองกำลังมังกรเหิน เพื่อบรรลุเป้าหมายในการลอบสังหารข้านั้น… ทั้งหมดเป็นเพราะชวีลู่ต้องการล้างแค้นให้บุตรชายของมัน! "

"เหลวไหล"

"ไร้สาระ!"

องค์ชาย 3 และ องค์ชาย 5 กล่าวออกมาแทบจะพร้อมกัน

อย่างไรก็ตามภายใต้สายขององค์ราชา พวกมันต้องหุบปากลงสงวนวาจาและท่าที

"เจ้ากล่าวต่อ" องค์ราชาหันกลับมามองต้วนหลิงเทียน

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าพร้อมกล่าวคำ  "ราชา ข้ารู้ว่าท่านและองค์ชายทั้ง 2 อาจจะยังไม่เชื่อคำกล่าวข้า … แต่เรื่องราวทั้งหมดนี้ ผู้บัญชาการชวีลู่ได้กล่าวยอมรับความผิดออกมาทั้งสิ้นแล้ว  กลางศูนย์บัญชาการกองกำลังทหาร  ตอนแรกข้าก็คิดว่าจะให้เรื่องราวที่ผ่านไปมันแล้วไปแล้ว หวังเพียงเรียกร้องค่าเสียหายชดเชยเล็กๆน้อยๆเท่านั้น  ….ท่านว่าข้าคงไม่กระทำเกินเลยไปใช่หรือไม่? "

"เฮ่อ…แต่ชวีลู่กลับไม่คิดเลิกรา มันปฏิเสธที่จะจ่ายค่าเสียหายเล็กน้อยนั่น  ซ้ำมันยังกล่าววาจาข่มขู่หมายเอาชีวิตข้าและองครักษ์เสื้อแพรทั้งหมดอีกด้วย…เรื่องนี้ทหารองครักษ์ประจำเมืองหลวงล้วนได้ยินกันทั่ว  หากองค์ชายทั้ง 2 คนไม่เชื่อ ก็ลองไปตรวจสอบด้วยตัวเองได้อย่างอิสระ"  เมื่อต้วนหลิงเทียนกล่าวจบเขาก็หันไปมององค์ชาย 3 และองค์ชาย 5

ใบหน้าของพวกมันหมองคล้ำลงทันที

ต้วนหลิงเทียนยังกล่าวต่อไป "สุดท้ายตัวข้า เพื่อป้องกันตัวจึงจำเป็นต้องสั่งให้องครักษ์เสื้อแพรของข้าชิงลงมือ ก่อนเพื่อไม่ให้ถูกชวีลู่กลุ้มรุมสังหาร … หากข้าไม่กระทำเช่นนี้แล้ว เกรงว่าข้าและเหล่าองครักษ์เสื้อแพรคงต้องตกตายกันหมดสิ้น  ข้าหวังว่าฝาบาทจะเข้าใจ"

องค์ราชาพยักหน้า

"เสด็จพ่อ!" ทันใดนั้นเองมีน้ำเสียงไพเราะเสนาะหูดังกังวานขึ้น ร่างบางร่างหนึ่งกับสตรีชรารีบร้อนวิ่งเข้ามาอย่างร้อนใจ

ร่างที่วิ่งนำหน้ามากลับเป็นสตรีคนหนึ่งที่งดงามอ่อนโยน ด้วยใบหน้านี้ของนางคงทำให้บุรุษที่ได้มองไม่อาจระงับความต้องการและทานทนต่อความงามของนางได้

"องค์หญิงปี้เหยา" ต้วนหลิงเทียนรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เพราะเขาไม่คิดว่าจะได้พบองค์หญิงปี้เหยาที่นี้

"ปี้เหยา เหตุใดเจ้าดูรีบร้อนนักเล่า… เจ้ามีเรื่องด่วนอันใดหรือไม่?" สีหน้าขององค์ราชาเผยความอ่อนโยนลงมาหลายส่วนยามที่มองไปยังปี้เหยา  และสีหน้าเช่นนี้ไม่เคยปรากฏสักครั้งยามมองไปยังองค์ชาย 3 และองค์ชาย 5 …เพียงเท่านี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้รู้ว่าบุตรสาวคนนี้มีความหมายขนาดไหน

"เสด็จพ่อ ข้าได้ยินว่าท่านกำลังจะลงโทษผู้บัญชาการต้วน ใช่หรือไม่? เสด็จพ่อ่ไม่อาจลงโทษเขาได้นะเจ้าคะ  ผู้บัญชาการต้วนคงไม่สังหารผู้อื่นโดยไร้เหตุผลเป็นแน่" องค์หญิงปี้เหยาสูดลมหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวคำออกมา

ทันใดนั้นทุกคนในห้องโถงตื่นตะลึง

เนื่องจากไม่มีแม้แต่ผู้เดียวที่คิดว่า องค์หญิงปี้เหยาที่รีบร้อนมาถึงเพียงนี้ จะมาเพื่อกล่าววาจาช่วยเหลือต้วนหลิงเทียน

สีหน้าขององค์ชาย 3 และองค์ชาย 5 นั้นยามนี้บิดเบี้ยวอัปลักษณ์อย่างมาก

องค์ราชาหันกลับมามองต้วนหลิงเทียนอย่างลึกซึ้ง ในฐานะที่ตัวเขาเองก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ย่อมมีประสบการณ์ไม่น้อย แค่เห็นท่าทีของบุตรี เขาก็รู้แล้วว่านางบังเกิดความรู้สึกต่อต้วนหลิงเทียนไม่น้อย หาไม่แล้วนางคงไม่ร้อนใจเร่งรีบวิ่งมากล่าววาจาถึงเพียงนี้

"ปี้เหยา ผู้ใดบอกเจ้าว่าบิดาจะลงโทษผู้บัญชาการต้วนกันเล่า" องค์ราชาส่ายหัวออกมาพร้อมรอยยิ้ม "ผู้บัญชาการต้วนล้วนกล่าวอธิบายหมดสิ้นแล้วว่าเขาไม่ได้ทำผิดอะไร  เรื่องราวทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของผู้บัญชาการกองกำลังทหารองครักษ์ประจำเมืองหลวงอย่างชวีลู่ทั้งสิ้น!… ชวีลู่นั่นสมควรตายแล้ว!"

องค์ชาย 3 และองค์ชาย 5 ล้วนสูดลมหายใจเขาอย่างหนาวเหน็บ เมื่อได้ยินวาจานี้ขององค์ราชา พวกมันยอมรู้ได้ทันที…ว่าวันนี้พวกมันคงเสียเวลาเปล่าแล้ว

สีหน้าขององค์หญิงปี้เหยากลับกลายเป็นเบิกบานขึ้นมาทันที พวงแก้มของนางแดงขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ได้ยินคำกล่าวขององค์ราชา นางไม่คิดเลยว่าผลมันจะเป็นเช่นนี้…แล้วที่นางอุตส่าห์รีบวิ่งมาเล่า!

ที่แท้ถึงนางไม่มาต้วนหลิงเทียนก็ปลอดภัยไร้เรืองราวอยู่แล้ว

คิดได้เช่นนี้สีหน้าของนางจึงแดงขึ้นมาเพราะความเขินอาย  ไม่กล้าเงยศีรษะขึ้นมาสู้หน้าผู้ใด

"ส่วนเจ้าทั้ง 2 คน!" องค์ราชาเบนสายตาไปยังองค์ชาย 3 และองค์ชาย 5 ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา  "ทีหลังพวกเจ้าอย่าได้มารบกวนข้า! หากพวกเจ้ายังไม่สืบสาวเรื่องราวอย่างชัดเจน!"

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 221 : ชวีลู่ นี้สมควรตาย!"

3.7 232 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Crazy  Leveling  System
Crazy Leveling System
พฤษภาคม 17, 2022
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
มีนาคม 12, 2022
พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
มีนาคม 12, 2022
Dragon Kings Son-In-Law
Dragon Kings Son-In-Law
มีนาคม 12, 2022
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
มีนาคม 12, 2022
Divine Beast Adventures
Divine Beast Adventures
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz