หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 193 คลื่นใต้น้ำเริ่มก่อตัวอย่างลับๆ!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 193 คลื่นใต้น้ำเริ่มก่อตัวอย่างลับๆ!
Prev
Next

“พี่ชาย ท่านได้รับรู้ข่าวนี้หรือยัง? ยามนี้ต้วนหลงเทียนที่เป็นข่าวโจษจันกันอยู่ก่อนหน้านี้ เขาได้สร้างเรื่องราวสะท้านขวัญขึ้นอีกแล้ว บัดนี้เขาได้ตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้เรียบร้อยแล้ว!”

"ข้ารู้ข่าวนี้ตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว พอดีข้ามีญาติร่ำเรียนอยู่ที่สถาบันบ่มเพาะขุนพล"

"เช่นนั้นขออภัยด้วย ทำให้ท่านขบขันแล้ว ข้าไม่นึกว่าพี่ชายมีญาติร่ำเรียนอยู่ที่สถาบันบ่มเพาะขุนพลด้วยเช่นนี้!"

"ช่างเถอะ อย่าได้กล่าวแล้ว ข้าไม่ได้ว่าอันใด … "

"พี่ชาย แล้วท่านรู้หรือไม่เล่า ว่าเมื่อเช้าวันนี้ต้วนหลิงเทียนได้กลับไปยังตระกูลต้วน พร้อมกับติดตามประมุขไปกราบกรานบรรพชน หวนคืนสู่สถานะนายน้อยตระกูลต้วนเรียบร้อยแล้ว?"

"อะไร! มีเรื่องเช่นนั้นจริงหรือ?"

"ฮี่ๆ พอดีลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ได้ความของข้าน้อย เป็นสาวรับใช้ของตระกูลต้วน เรื่องเช่นนี้จึงพอล่วงรู้อยู่บ้าง"

"ไม่ใช่ว่าต้วนหลิงเทียนผู้นั้น ได้ยืนกรานปฏิเสธเรื่องการกลับเข้าร่วมตระกูลอยู่หรอกหรือ?"

"ฮายๆ เรื่องนั้นเป็นเพียงอดีตไปแล้ว … ท่านอย่าได้กล่าวถึงอีกเลย!"

ชายหนุ่ม 2 คนกำลังสนทนากันอยู่ภายในเหลาอาหารในเมืองอย่างออกรส

และตอนนี้ บทสนทนาทั่วทั้งเมืองหลวงก็ล้วนเป็นเรื่องราวเช่นนี้แทบทั้งสิ้น…

ต้วนหลิงเทียนชายหนุ่มที่สามารถตัดผ่านไปยังระดับบ่มเพาะกำเนิดแก่นแท้ ด้วยวัยเพียง 18 ปี และได้รับการขนานนามจากผู้คนทั้งหมดของสถาบันบ่มเพาะขุนพลว่าเป็นอัจฉริยะอันดับ 1 ยามนี้เขาได้หวนคืนสู่ตำแหน่งยิ่งใหญ่และได้ชื่อว่า เป็นนายน้อยสายเลือดหลักแห่งตระกูลต้วนเรียบร้อยแล้ว

ในสายตาของผู้คนทั่วทั้งเมืองหลวงยามนี้ สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากแล้วว่า ต้วนหลิงเทียนแห่งตระกูลต้วน เป็นบุรุษผู้ที่ได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์อย่างแท้จริง และระดับพรสวรรค์ของเขาก็ได้ก้าวผ่านบิดาที่นามกระฉ่อนอย่าง ต้วนหรูเฟิงไปแล้วด้วย …

…

เขตที่พักของตระกูลซู

ในลานกว้างแห่งหนึ่ง ปรากฏร่างชายชราที่ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนที่จะตบลงไปยังโต๊ะม้าหินอ่อนด้วยโทสะจนแตกละเอียด

"ท่านปู่ มีอันใดเกิดขึ้นหรือขอรับ?" ชายหนุ่มที่มีผิวซีดเล็กน้อยพึ่งเดินออกมาจากห้องและบังเอิญเห็นภาพตรงหน้าพอดี จึงกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย

"หลานถง เจ้าออกมาทำอันใด ร่างกายของเจ้ายังไม่แข็งแรงหายดี เหตุใดไม่นอนพักให้หายเสียก่อน อย่าได้ฝืนตัวแล้ว" ชายชราหันมองไปยังหลานด้วยแววตาหม่นหมองไม่ยินยอมระคนกับความผิดหวังอยู่ครู่หนึ่ง

"ท่านปู่ มีอันใดเกิดขึ้นกันแน่?"สีหน้าของซูถงเริ่มหมองลง

ประกายตาของชายชราเพียงเรืองวูบขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มแย้มออกมาพร้อมกล่าววาจา "ไม่มีอันใดหรอก เจ้าอย่าได้คิดมากไปเลย กลับไปพักเถิด.. "

"ท่านผู้อาวุโสหลัก!" ทว่าตอนนี้กลับมีเสียงดังขึ้น ประมุขตระกูลซูอย่างซูผอหยา อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเดินเข้ามาจากหน้าประตู ตัดผ่านลานกว้างมาถึงม้าหินอ่อน ก่อนที่จะจับจ้องไปยังซูหนันอาวุโสหลักของตระกูลซู

"คำนับท่านประมุข"ซูหนันและซูถงพลันทำความเคารพซูผอหยา

ซูผอหยาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะมองไปยังซูหนันด้วยสายตาจริงจัง "ผู้อาวุโสหลัก ข้าว่ายามนี้ท่านคงได้รับข่าวคราวเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนกลับเข้าตระกูลต้วนเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?"

สีหน้าของซูหนันคล้ำลงก่อนที่จะพยักหน้าลงอย่างหงุดหงิด

"ว่ากระไรนะ?!" สีหน้าของซูถงพลันเปลี่ยนเป็นซีดจาง ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นหวนคืนตระกูลต้วนและรับสถานะคืนแล้วจริงงั้นหรือ?

ยามนี้เขารู้สึกเสมือนท้องฟ้ามืดมิดลง ประกายตากลับกลายเป็นหมองคล้ำ …

ในช่วงสองวันที่ผ่านมายามที่เขารับรู้ว่า ต้วนหลิงเทียนได้ตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ด้วยวัยเพียง 18 ปี เขาก็ตกตะลึงกับพรสวรรค์ของต้วนหลิงเทียนอย่างมาก และแน่นอนว่าภายในใจของเขาย่อมเต็มไปด้วยความไม่พอใจและยากจะยอมรับ

เขาไม่ได้ต้องการอะไรมากมายไปกว่า การที่จะได้สับต้วนหลิงเทียนเป็นชิ้นๆด้วยน้ำมือของเขาเอง!

เพราะถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะมีพรสวรรค์ตามธรรมชาติในเชิงยุทธ์สูงส่งขนาดไหน แต่มันก็หัวเดียวกระเทียมลีบ ไร้พื้นหลังที่แข็งแกร่งปกป้องคุ้มครอง ทำให้ปู่ของเขายังสามารถแก้แค้นให้เขาได้ แต่ยามนี้ข่าวที่ต้วนหลิงเทียนหวนคืนสู่ตระกูลพร้อมรับสถานะผู้สืบทอดหลักของตระกูลต้วน ไม่ต่างอันใดไปจากอัสนีบาตรยามแล้งฟาดลงมากลางกระหม่อมของซูถง ลมหายใจของมันกลับกลายเป็นปั่นป่วนจนติดขัด

ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ ด้วยวัยเพียง 18 ปี แน่นอนว่าย่อมเป็นพรสวรรค์ที่สั่นคลอนทั่วทั้งอาณาจักร แต่มันก็ไม่นับว่ายอดเยี่ยมอะไร หากมันไม่สามารถเติบโตมากไปกว่านี้ได้ แต่หากอัจฉริยะวัย 18 ผู้นั้นมีพื้นหลังอย่างตระกูลต้วนอันเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงแห่งนี้ เรื่องราวก็แปรเปลี่ยนกลับกลายแล้ว เพราะเสมือนมันได้รับอำนาจที่จะช่วยรักษาชีวิตของมันได้! แน่นอนว่าตระกูลต้วนย่อมทำทุกวิถีทางเพื่อคุ้มครองอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมฟ้าประทานเช่นนี้!!

"ผู้อาวุโสหลัก ต้วนหรูหั่วประมุขของตระกูลต้วนได้พูดคุยกับข้าเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนได้กระทำต่อซูถงแล้ว … เขายินดีที่จะมอบเหลาอาหารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของตระกูลต้วนบริเวณเมืองหลวงชั้นนอก ให้อยู่ในความดูแลของตระกูลซู และแน่นอนว่าทางตระกูลก็จะมอบมันให้แก่ท่าน ไม่ทราบว่าท่านพึงพอใจเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ของตระกูลหรือไม่ "ซูผอหยามองไปยังซูหนันก่อนที่จะกล่าวออกมาช้าๆ

"ประมุข แล้วต้วนหรูหั่วมันต้องการอันใด? หรือมันต้องการให้เราละวางความแค้นต้วนหลิงเทียน?!" สีหน้าของซูหนันหมองคล้ำลงเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงก้าวร้าวดังก้อง

"ผู้อาวุโสหลัก!"ซูผอหยายิ้มเย็นเยือกและมีทีท่าเย็นชาลง เขาเป็นประมุขของตระกูลซู แต่ซูหนันคนนี้กล้าขึ้นเสียงใส่หน้าเขา เช่นนั้นแล้วเขาจะมีหน้าเหลืออยู่อีกหรือ?

"ประมุข" ซูหนันย่อมรับรู้ถึงอารมณ์ของซูผอหยา เขากล่าวออกมาเสียงอ่อนลงเล็กน้อย "ข้าบันดาลโทสะไปเล็กน้อย ขออภัยที่ล่วงเกินท่าน โปรดอภัยให้ข้าด้วย"

"ฮึ่ม!" ซูผอหยาที่มีท่าทีเย็นชาลงได้มองไปยังซูหนันด้วยแววตาไร้อารมณ์ "ผู้อาวุโสหลักเหตุผลที่ข้ามาวันนี้นอกเหนือจากส่งร้านอาหารที่ได้รับมาแล้วแก่ท่าน … ส่วนอีกเหตุผลนั้น ข้ามาเพื่อแจ้งท่านว่า หลังจากนี้ท่านอย่าได้ไปสร้างปัญหาอะไรให้แก่ต้วนหลิงเทียน หาไม่แล้วทางตระกูลซูจะไม่รับผิดชอบหรือออกหน้าอะไรให้แก่ท่าน "

“อะไรนะ?!” สีหน้าของซูหนันกลับกลายเป็นบิดเบี้ยวหมองคล้ำลง ส่วนซูถงที่อยู่ด้านข้างเองก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้นยากระงับ

เรื่องที่ประมุขกล่าวนี้ย่อมแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงตระกูลซูอย่างชัดเจนแล้วว่า หากเขายังไปก่อเรื่องราวอันใดกับต้วนหลิงเทียนอีก ทางตระกูลจะตัดปัญหาโดยการผลักไสไล่ส่งพวกเขา

"ประมุข ครอบครัวของข้ายังถือว่าเป็นสายโลหิตหลักของตระกูลซู… แต่ยามนี้ท่านพยายามผลักไสพวกเราออกไปให้ห่างจากเรื่องนี้ ข้าใคร่รู้นักว่า…การตัดสินใจในเรื่องนี้ มาจากเหตุผลส่วนตัวของท่านหรือมติของตระกูล" สีหน้าของซูหนันหมองคล้ำลงอย่างถึงขีดสุด เขากล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างเผยความไม่ยินยอมออกมา

"อย่าให้มันมากเกินไปนัก" สีหน้าของซูผอหยาเริ่มเคร่งขรึมขึ้น

"ผู้อาวุโสหลัก ไม่คิดว่าท่านกลับกล้าต่อต้านนายเหนือหัวของท่านจริงๆ!" มันใดนั้นเอง กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาในลานกว้าง เห็นได้ชัดว่าพวกมันคือกลุ่มผู้อาวุโสของตระกูลซู

"พวกเจ้า…."ความรู้สึกไม่ดีเริ่มบังเกิดขึ้นในใจของซูหนัน

"ผู้อาวุโสหลัก ท่านอย่าได้สงสัยในคำกล่าวของท่านประมุขอีกต่อไปเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกเราร่วมลงมติ และประชุมหารือกันจนได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว" มุมปากของอาวุโส 2 ที่เป็นผู้กล่าวคำแสยะยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

ซูหนันที่มีใบหน้าหมองคล้ำลงเพราะโทสะ กวาดสายตามองผ่านอาวุโสทุกคนก่อนจะกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ข้าอยากรู้นักว่าตระกูลต้วนมันจ่ายอะไรให้แก่พวกท่านกันแน่ ข้าว่าคงหาได้มีเพียงแค่ร้านอาหารที่เมืองหลวงชั้นนอกใช่หรือไม่?"

“มิผิด! ทางตระกูลต้วนเพียงมอบร้านอาหารนั่นเป็นแค่ ข้อเสนอแรกเท่านั้น ส่วนสิ่งที่เรียกได้ว่าทางตระกูลต้วนได้ชดใช้ให้แก่พวกเราอย่างแท้จริงนั่นคือ สิทธิ์ในการเข้าศึกษาสถาบันบ่มเพาะขุนพล 1 สิทธิ์”

"กล่าวง่ายๆว่า ตระกูลต้วนได้เลือกรักษาไมตรีโดยพวกมันจะมอบสิทธิ์ในการเข้าสถาบันบ่มเพาะขุนพล 1 ใน 5 สิทธิ์ของพวกมัน ให้แก่ทางตระกูลซูของเรา เช่นนั้นทำให้ทางตระกูลต้วนและตระกูลซูมีสิทธิ์ เท่าเทียมกัน คือ 4 สิทธิ์" ผู้อาวุโสที่ 2 กล่าวออกมาอย่างไม่คิดปิดบัง

"เหอะ ไมตรีที่ทางตระกูลต้วนมอบให้งั้นหรือ!"สีหน้าของซูหนันมืดลงอย่างไม่รู้ว่าจะมืดอย่างไรแล้ว กล่าวออกมาอย่างประชดประชัน

"ประมุข อาวุโสทั้งหลาย หากไม่มีอันใดแล้ว ซูหนันผู้นี้ไม่คิดรบกวนเวลาพวกท่าน … " ซูหนันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้ออย่างแข็งกร้าว

เขาเข้าใจได้ว่ายามนี้เรื่องราวทั้งหมดได้ถูกตัดสินลงไปแล้ว หาใช่เรื่องที่เขามีอำนาจแก้ไขอันใดอีกต่อไป!

คิ้วของซูผอหยาขมวดขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะจากไปพร้อมกับเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลาย

"ไม่ … ข้าไม่ยินยอมรับเรื่องนี้ … ท่านปู่ ข้าไม่ยินยอมรับเรื่องราวนี้!!" สีหน้าของซูถงซีดเผือด เข้าทำได้เพียงยกมือขึ้นขยี้ศีรษะจนผมเผ้ายุ่งเหยิงจนราวกับเศษผ้าขี้ริ้ว เขาส่ายหน้าออกมาไม่หยุดราวกับไม่เต็มใจยอมรับ เขาไม่มีวันยอมเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นความจริง!

"พรวด" ทันใดนั้นเองซูหนันพลันกระอักเลือดออกมาด้วยโทสะ เลือดคำโตนี้กระอักออกมาเพราะโทสะที่เขามีต่อผู้อาวุโสทั้งหลายของตระกูลซู

“หลานถง เจ้าอย่าได้กังวล…แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อการที่ครอบครัวของพวกเราจะถูกเขี่ยทิ้ง แต่ปู่ชราคนนี้จะต้องแก้แค้นให้หลานปู่ให้จงได้! อนาคตของเจ้าถูกทำลายลงทั้งคน หากครอบครัวพวกเราไม่ให้พวกมันชดใช้ เรื่องนี้! แล้วพวกเราจะไปคิดมีอนาคตอันใดอีก” ม่านตาของซูหนันหดแคบลง ประกายเย็นชาเรืองวูบใบหน้าของมันเต็มไปด้วยโทสะ แฝงความเด็ดเดี่ยวเจืออาลัยเอาไว้

ภายในห้องโถงของ วังองค์ชาย 5

สีหน้าขององค์ชาย 5 หมองลงเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำรายงานของชายชราคิ้วขาว

"ไม่ใช่ว่าต้วนหลิงเทียนนั่นยืนกรานปฏิเสธเรื่องหวนคืนตระกูลไม่ใช่หรือไร เหตุใดมันถึงเปลี่ยนใจหวนคืนสู่ตระกูลที่ทอดทิ้งมันไปหลายปีเช่นนี้?"ม่านตาขององค์ชาย 5 หดแคบลงเล็กน้อย เรื่องราวการหวนคืนตระกูลของต้วนหลิงเทียนนี้ เกินความคาดหมายของมันเล็กน้อย

"ฝ่าบาท เรื่องนี้ข้าเดาว่าน่าจะเป็นเพราะอัจฉริยะภาพของต้วนหลิงเทียน มันสามารถตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ด้วยวัยเพียง 18 ปีเช่นนี้ อนาคตของมันย่อมไร้สิ้นสุด ข้าคิดว่าทางตระกูลต้วนคงมอบข้อเสนอที่จ่ายราคามหาศาล แก่มันเป็นแน่" ชายชราคิ้วขาวกล่าวออกมา

"ฮึ่ม! ข้ากลับหลงคิดไปว่ามันจะเด็ดเดี่ยวได้ตลอดรอดฝั่งเสียอีก" น้ำเสียงขององค์ชาย 5 เจือแววเหยียดหยามเล็กน้อย

"ท่านพี่!" ตอนนี้เองร่างเล็กในชุดสีแดงพลันพุ่งพรวดเข้ามาในห้องโถง

สีหน้าเย็นชาขององค์ชาย 5 เริ่มละลายหายไปกลับกลายเป็นอบอุ่นยิ้มแย้มทันที "น้องสาวตัวน้อย เจ้าเร่งรีบมาหาพี่ชายผู้นี้ มีเรื่องราวอันใดหรือ?"

แน่นอนว่าคนที่มานี้ย่อมเป็นถงลี่

สีหน้าของถงลี่หมองคล้ำลงเล็กน้อย "ท่านพี่ข้าได้ยินข่าวเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมันหวนคืนสู่ตระกูลต้วนแล้ว …เรื่องนี้เป็นความจริงงั้นหรือ?"

"มิผิด พี่เองก็พึ่งได้ยินจากผู้เฒ่าไป๋เมื่อครู่นี้เอง" องค์ชาย 5 พยักหน้ารับคำ

"เช่นนั้น …ความแค้นของข้าเล่า หรือว่ามันมิมีวันได้สะสางแล้ว?" แววตาของถงลี่ฉายชัดออกมาถึงความไม่ยินยอม น้ำเสียงยามกล่าวแฝงความไม่ยอมรับออกมาอย่างเห็นได้ชัด

"ลี่น้อย เจ้าอย่าได้กังวลไป แม้นว่ายามนี้ต้วนหลิงเทียนจักมีตระกูลต้วนหนุนหลัง แต่พี่ชายผู้นี้ไม่คิดรามือจากมันแต่อย่างใด…ทว่ายามนี้พี่ชายผู้นี้ย่อมต้องระมัดระวังเรื่องนี้และกระทำการอย่างรอบคอบเล็กน้อย"

องค์ชาย 5 ยังกล่าวต่อไปอีกว่า "จริงสิ ไม่นานมานี้ใช่เจ้ากล่าวว่ามีนักศึกษาสตรีผู้หนึ่งกล้า รังแกเจ้าในสถาบันบ่มเพาะขุนพลมิใช่หรือ พี่จะให้ผู้เฒ่าไป๋มอบคนให้เจ้าสักสองคน เพื่อไปสะสางเรื่องราวนี้ ให้เจ้าจัดการกับนางเสียก่อนดีหรือไม่ "

ประกายตาของถงลี่เรืองวูบขึ้น "ขอบคุณท่านพี่!"

ภายในลานบ้านด้านหลังขนาดกว้างขวาง ตอนนี้ต้วนหลิงเทียน กำลังนั่งเอนหลังอย่างสบายอารมณ์บนเก้าอี้เอน เขาหลับตาพริ้มอาบแดดอย่างสบายอารมณ์

……

ตอนนี้ลี่เฟยผู้มีใบหน้างดงามปานเทพธิดาและรูปร่างเย้ายวนปานนางปีศาจ กำลังนวดขาให้ต้วนหลิงเทียนอย่างตั้งใจ …

"เสี่ยวเฟย สูงขึ้นอีกนิด … อานั่นล่ะ … อา สบายยิ่งนัก!" ต้วนหลิงเทียนเผยสีหน้าผ่อนคลายเต็มไปด้วยความสุขออกมา

"นายน้อย อ้าปาก อ้ำๆ เจ้าค่ะ" เค่อเอ๋อที่บริสุทธ์ราวสายน้ำนั่งอยู่เคียงข้างต้วนหลิงเทียนอีกฝั่ง เอ่ยกล่าวขึ้นพร้อมยืนส่งองุ่นที่ปอกเปลือกแล้วป้อนใส่ปากต้วนหลิงเทียน

ต้วนหลิงเทียนนั้นกินองุ่นหอมหวานอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมทั้งยังมีสตรีนวดให้เช่นนี้ ช่างสร้างความสำราญและสบายตัวให้แก่มันอย่างถึงขีดสุดนัก เขาผ่านวันเวลา 2-3 วันนี้อย่างสุขสบายราวเทพเซียน

"นายน้อย เมื่อเช้านี้ท่านสนุกหรือไม่ ที่ไปกราบกรานบรรพชนที่ตระกูลต้วน?" เค่อเอ๋อกล่าวถามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย

ต้วนหลิงเทียนลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวถามของเค่อเอ๋อ อีกทั้งเขายังเห็นว่าลี่เฟยเองก็แสดงแววตาอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน "มันจะไปสนุกได้อย่างไรเล่า? มีแต่พิธีการอะไรไม่รู้ยุ่งยากแทบตายแล้ว… "

ลี่เฟยกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม "ป้าหลัวแลดูมีความสุขยิ่งนัก"

"แน่นอนว่าท่านแม่รอคอยวันนี้มาแสนนานแล้ว มีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าท่านแม่หวังเรื่องนี้เอาไว้มากถึงเพียงใด … เรื่องที่ข้ากระทำคราวนี้ล้วนทำเพื่อให้ท่านแม่ดีใจ" ต้วนหลิงเทีนพยักหน้า

นอกเหนือจากการปูเส้นทางของตัวเองแล้ว เหตุผลหลักของต้วนหลิงเทียนนั้นย่อมเป็นการทำเพื่อมารดาของเขา หาไม่แล้วต่อไปประมุขตระกูลต้วนอย่างต้วนหรูหั่วมาโขกหัวอ้อนวอนให้เขากลับเข้าตระกูลต้วน คนอย่างต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดกลับไปเหยียบตระกูลต้วน… แต่หากเพื่อความสุขของมารดาแล้ว เขากระทำได้ทุกสิ่ง

ตระกูลต้วนที่เลือดเย็นและอำมหิตราวก้อนน้ำแข็งทอดทิ้งพวกเขาสองแม่ลูกอย่างไร้ปราณีนั้น แม้ต้วนหลิงเทียนจะกลับเข้าตระกูลไปแล้ว เขาก็หาได้มีความรู้สึกผูกพัน อันใดต่อตระกูลแม้แต่น้อย ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลนั้น มีเพียงเรื่องของผลประโยชน์เท่านั้น

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 193 คลื่นใต้น้ำเริ่มก่อตัวอย่างลับๆ!"

3.7 232 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

davisam
จักรพรรดิเทพมรณะ
มกราคม 14, 2023
Tales of Herding Gods
Tales of Herding Gods
มีนาคม 12, 2022
เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน
กรกฎาคม 6, 2023
ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ราชันสามภพ
กรกฎาคม 6, 2023
Dragon Kings Son-In-Law
Dragon Kings Son-In-Law
มีนาคม 12, 2022
Eternal martial sorvereign
Eternal martial sorvereign
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz