หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 191 ถงลี่นังแพศยาสารเลว

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 191 ถงลี่นังแพศยาสารเลว
Prev
Next

"ยังไม่ตะโกนออกมาอีก?" น้ำเสียงของต้วนหลิงเทียนเรียบเย็นและไม่แยแส ราวกับมันผุดออกมาจากก้นบึ้งของนรก ทั้งจิตสังหารที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดอย่างถึงขีดสุดยังแผ่ซ่านกดดันนักศึกษาสตรีผู้นั้นทันที

นักศึกษาสตรีผู้นั้น พลันรู้สึกราวกับนางถูกจับมาโยนทิ้งไว้กลางสนามรบที่เต็มไปด้วยซากศพและโลหิตคละคุ้ง ทุกทั่วสารทิศมีแต่อสูรกายในคราบมนุษย์หมายสับร่างนางเป็นชิ้นๆ ความหวาดกลัวผุดออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจ ทำได้เพียงแต่เอ่ยออกมาอย่างตื่นกลัว “ข้ากล่าวแล้ว ข้าตะโกนแล้ว อย่าทำข้าเลย …”

"เจ้ากล้า!" สีหน้าของถงลี่กลับกลายเป็นหงุดหงิดขึ้นมา เพราะนางไม่คิดว่าคนข้างกายจะกล้าตะโกนด่าทอนางออกมาจริงๆ นางเงื้อมมือขึ้นหมายตบฟาดไปยังใบหน้าอีกฝ่ายให้หุบปาก

วูบ!

ตอนนี้เองแส้สีดำที่อยู่ในมือของต้วนหลิงเทียนพลันสะบัดวูบมาหมายรัดพันมือของถงลี่อย่างรวดเร็ว

เพียะ!

ทั้งยังหาได้รัดพันเพียงอย่างเดียวไม่ เสียงปลายแส้ ฟาดตบไปยังแขนของถงลี่รุนแรงดังขึ้น สีหน้านางเริ่มคล้ำลงเพราะความเจ็บปวด…

"เจ้า … เจ้า … ."ถงลี่ทำได้เพียงถลึงตามองต้วนหลิงเทียนอย่างดุร้าย แม้ในใจมีวาจานับล้านที่จะสาปแช่งด่าทอคนตรงหน้าทว่ากลับไร้ซึ่งความกล้าเอ่ยมันออกมาจากปาก ด้วยบทเรียนที่ยากจะลืมเลือนก่อนหน้านี้ถึง 2 บทเรียนนางรู้ดีหากกล่าววาจาอะไรขัดหูต้วนหลิงเทียน นางต้องถูกต้วนหลิงเทียนทำร้ายอยางไร้ปราณีแน่ๆ

เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดจากการถูกทุบตีทำร้ายร่างกายและใบหน้า ถงลี่เลือกที่จะอดทน!

นางจะค่อยๆล้างแค้นต้วนหลิงเทียนอย่างช้าๆในอนาคต

"ถงลี่เป็นอีนังแพศยาสารเลวบัดซบ!"

"ถงลี่เป็นอีนังแพศยาสารเลวบัดซบ!"

…

ตอนนี้เองนักศึกษาสตรีคนนั้นก็ก้มลงไปคุกเข่าพร้อมเริ่มตะโกนกล่าวคำออกมาซ้ำ

หลังจากที่ได้ยินข้ารับใช้ถงลี่กล่าววาจาตะโกนซ้ำอยู่ 20-30 รอบต้วนหลิงเทียนก็เริ่มเบื่อเล็กน้อย ม่านตาของเขาหดแคบลงก่อนที่จะจับจ้องไปยังนักศึกษาสตรีใบหน้าหมดจดสะอาดสะอ้านที่กำลังมองเขามาพร้อมรอยยิ้มเคลิบเคลิ้ม "เจ้าชื่ออะไรหรือ?"

ใบหน้านักศึกษาสตรีที่กำลังยิ้มแย้มอยู่นั้น พลันขึ้นสีแดงระเรื่อ นางก้มหน้างุดๆลงไปด้วยความเขินอาย พร้อมกล่าวออกมาอย่างตะกุกตะกัก "ขะ…ข้าชื่อ ถังกั่ว"

"ถังกั่วรึ อาชื่อนี้ช่างเหมาะกับเจ้านัก …เอาล่ะแม่นางถังกั่ว ข้าจะไปเข้าชั้นเรียนแล้ว หากนางไม่ตะโกนครบ 100 ครั้งตามที่ข้าสั่งเอาไว้ หรือถ้าถงลี่มันกล้าเล่นลูกไม้อันใดล่ะก็ เจ้าสามารถไปหาข้ายังชั้นเรียนฝ่ายดาวกุนซือของชั้นปีที่ 1 ได้ " ต้วนหลิงเทียนส่งแส้สีดำในมือไปให้ถังกั่วก่อนที่จะแย้มยิ้มให้นางแล้วเดินจากไป

ถังกั่วรู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างมาก นางเฝ้ามองตามเงาหลังของต้วนหลิงเทียนอย่างหลงใหลจนหายไป

"ถงลี่เป็นอีนังแพศยาสารเลวบัดซบ!"

"ถงลี่เป็นอีนังแพศยาสารเลวบัดซบ!"

…

เสียงด่าทอตัวที่ดังขึ้นเขาหูถังลี่อย่างไม่ขาดสาย ยังผลให้นางหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์อย่างถึงขีดสุด "มันจากไปแล้วเจ้ายังจะตะโกนหาอะไรอีก?"

ทันใดนั้นเองนักศึกษาสตรีที่กล่าวตะโกนอยู่ก็หยุดลงพร้อมแสดงสีหน้าซีดเซียว ร่ำไห้ออกมา กล่าววาจาอย่างน่าสงสารว่า "นายหญิงน้อยเจ้าคะ ข้าเองก็หาอยากได้กล่าววาจาเช่นนี้เจ้าค่ะ … แต่ … ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นน่ากลัวนัก…ข้า… "

"เช่นนั้นเจ้าหมายความว่า มันน่ากลัวแต่ข้าหาได้น่ากลัว เช่นนั้นสินะ?" หน้าของถงลี่เริ่มคล้ำลงในขณะที่กล่าววาจาขัดจังหวะการตะโกนของสตรีนางนั้น ยามนี้ประกายตาของนางเริ่มดุร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ

นึกศึกษาสตรีที่คุกเข่ากล่าววาจายังไม่ทันได้เอื้อนเอ่ยวาจาอธิบายอะไรออกมา ถังกั่วกลับกล่าววาจาออกมาอย่างเข้มขรึม ให้นางฟัง "เจ้าพึ่งตะโกนออกมา 41 ครั้งเท่านั้น ยังเหลืออีก 59 ครั้ง… รีบๆกล่าวเข้าสิ"

ร่างของสตรีที่คุกเข่าอยู่สั่นสะท้าน นางรู้ดีว่าแม้ต้วนหลิงเทียนจะจากไปแล้ว แต่เขายังเหลือตัวแทนเช่นนางผู้นี้เอาไว้ และเมื่อนางนึกถึงจิตสังหารและท่าทางดุร้ายไร้ปราณีของต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ นางเริ่มสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บก่อนที่จะเริ่มตะโกนออกมาอีกครั้ง

"ถงลี่เป็นอีนังแพศยาสารเลวบัดซบ!"

"ถงลี่เป็นอีนังแพศยาสารเลวบัดซบ!"

…

สีหน้าของถงลี่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด นางจ้องไปยังถังกั่ว "อีนังสารเลว เจ้าไม่คิดมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วหรือไร?"

ถังกั่วก้มหน้าลงครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะกัดฟันและเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกล่าววาจา "หากท่านไม่เห็นด้วยท่านก็ไปบอกกล่าวต่อต้วนหลิงเทียนเถอะ … เขาฝากให้ข้าอยู่ที่นี่เพื่อทำหน้าที่เฝ้า ข้าก็ต้องทำให้ดีที่สุด"

"เจ้า … เจ้า… ." ถงลี่ยกมือขึ้นมาชี้หน้าถังกั่ว โทสะของนางพลุ่งพล่านขึ้นอย่างหน้ามืดตามัว ตอนนี้นางไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า เอื้อมมือไปบีบคอนังสารเลวนี่ให้ตกตายคามือ ทว่านางนึกถึงสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวเอาไว้ก่อนหน้าทำให้นางระงับทีท่าและเฝ้าอดทนเอาไว้

"ฮึ่ม!" ถงลี่แค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา ก่อนที่จะหันหลังและเดินจากไป และในขณะที่นางเดินจากไปยังไม่ลืมกล่าววาจาข่มขู่เอาไว้อีกด้วย "เจ้าถังกั่วใช่หรือไม่ ข้าจะจดจำเจ้าเอาไว้อย่างดี"

ถังกั่วทำได้เพียงก้มหน้ากัดฟัน ทว่าเมื่อนางคิดถึงคำที่บุรุษหนุ่มผู้นั้นกล่าววาจาเอาไว้ สายตาที่หวาดกลัวพลันมีความกล้าขึ้นมาอีกครั้ง …

สำหรับนางในเมื่อต้วนหลิงเทียนฝากฝังหน้าที่นี้ไว้ให้นางกระทำ แน่นอนนางย่อมตั้งใจกระทำให้เต็มที่อย่างดีที่สุด นางไม่อาจทำให้ต้วนหลิงเทียนต้องผิดหวังได้

…..

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า นับเป็นเหตุการณ์เล็กๆในชีวิตของต้วนหลิงเทียนเท่านั้น ถังกั่วก็แค่คนที่เดินผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไปเหมือนแขกที่เข้ามาในชีวิตของเขา

หลังจากนั้นวันธรรมดา 1 วันก็จบสิ้นลง เซี่ยวหยู,เซี่ยวฉวินและต้วนหลิงเทียน ก็มายืนร่ำรากันหน้าสถาบันบ่มเพาะขุนพล

ตอนนี้เองรถม้าคันที่จอดอยู่ด้านหน้าประตูสถาบันบ่มเพาะขุนพลก็เลิกผ้าม่านขึ้น ก่อนที่จะมีชายวัยกลางคนๆหนึ่งเดินลงมา

"หืม?"ต้วนหลิงเทียนรู้สึกหงุดหงิดในใจเล็กน้อย เพราะเขาจำคนที่มาได้

เป็นผู้อาวุโสลพดับที่ 4 ของตระกูลต้วน ต้วนหรูหง

ต้วนหลิงเทียนนั้นไม่ได้มีความประทับใจอะไรดีๆกับต้วนหรูหงผู้นี้แม้แต่น้อย เขายังคงจำได้ดี วันนั้นที่ต้วนหลิงซิ่งคิดสังหารเขาที่ตระกูลลี่สาขาเมืองวายุโปรย วันนั้นต้วนหรูหงเพียงดุต้วนหลิงซิ่งคำเดียวเท่านั้น และก็หาได้กระทำการใดๆเป็นการลงโทษมันแม้แต่น้อย

ต้วนหรูหงเหมือนจะจับสังเกตได้ว่าต้วนหลิงเทียนนั้น ฉายแววตาที่ยากเป็นมิตรกันได้กับเขาออกมา… ต้วนหรูหงเพียงแย้มยิ้มอย่างขมขื่น "เจ้ามานั่งกล่าวสนทนากับข้าสักเล็กน้อยจะได้หรือไม่?"

"พวกเจ้า 2 คนกลับก่อนเถอะ" ต้วนหลิงเทียนกล่าวกับเซี่ยวหยูและเซี่ยวฉวินก่อนที่จะขึ้นมานั่งในรถม้าตระกูลต้วน

ในรถม้าต้วนหลิงเทียนนั้นนั่งเผชิญหน้ากับต้วนหรูหง โดยนั่งกันคนละฟากฝั่ง ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า "มีอะไรจะพูดก็รีบกล่าวมาตรงๆ อย่าอ้อมค้อม …หากเจ้ายังคิดชักชวนข้ากลับเข้าร่วมตระกูล่ะก็ ข้าต้องขอแสดงความเสียใจด้วยที่เรื่องนี้คงเสียเวลาเปล่า ข้าต้วนหลิงเทียนจะไม่เปลี่ยนการตัดสินใจใดๆก็ตามที่ข้าตัดสินใจไปแล้วหากมันไม่มีเหตุผลมากพอ"

เมื่อเขาเห็นต้วนหรูหง เขาก็พลันคาดเดาเจตนาการมาของมันได้เป็นอย่างดี เหตุที่ต้วนหรูหงถึงกับต้องมาด้วยตัวเองนั้น ไม่พ้นเรื่องราวที่เขาพึ่งแสดงพลังออกไปในการประลองกับฉวีชิงเป็นแน่ ป่านนี้พวกมันคงคิดไปแล้วว่าเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 1 ตระกูลต้วนจึงอยากให้เขากลับเข้าตระกูลรวมถึงกลับไปไหว้บรรพชนหวนคืนสถานะ …

เพราะตัวตนผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ ด้วยวัยเพียง 18 ปีนั้น นับว่าเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ตกลงกลางอาณาจักรนภาล่องอย่างแท้จริง

"ให้ข้ากล่าววาจาจนจบก่อนได้หรือไม่ แล้วเจ้าค่อนตัดสินใจ" ต้วนหรูหงหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น

"พูด" ต้วนหลิงเทียนหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวออกมาห้วนๆ

ต้วนหรูหงค่อยๆสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "เรื่องราวเป็นเช่นนี้ … ผู้อาวุโสหลักอันเป็นอดีตประมุขของตระกูลต้วนรุ่นก่อน ได้กล่าววาจาออกมาว่า หากเจ้ายินยอมกลับไปตระกูลต้วนและกราบไหว้บรรพชน คืนตำแหน่งเป็นคนของตระกูลต้วนคนหนึ่งแล้วล่ะก็ ไม่ว่าเจ้าจะต้องการอันใดก็ตาม ทางตระกูลต้วนจะยินยอมส่งมอบให้เจ้าทุกสิ่ง ขอเพียงยังอยู่ในขอบเขตที่ตระกูลต้วนสามารถกระทำได้ "

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว

ดีขนาดนี้?

ยินยอมรับข้อเสนอทุกอย่างที่เขาต้องการงั้นหรือ?

อย่างไรก็ตามคนอย่างต้วนหลิงเทียนยอมรู้ดีว่า ของฟรีดีๆย่อมไม่มีในโลก "ถึงขนาดทางตระกูลยินดีจ่ายมูลค่าสำหรับตัวข้ามากมายขนาดนี้ … ช่วยไขข้อสงสัยให้ข้าหน่อยได้หรือไม่…ข้าอยากรู้นักว่าอะไรที่ทางตระกูลต้องการจากตัวข้ากันแน่?"

ต้วนหรูหงเพียงจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาลึกซึ้ง เขารู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้านั้นเฉลียวฉลาดมีปัญญาเหนือล้ำกว่าบิดา เขาเสียอีก "ทางตระกูลมีข้อเรียกร้องเดียวจากเจ้านั่นคือ โอสถสู่ธรรมชาติ!"

โอสถสู่ธรรมชาติ?

ม่านตาของต้วนหลิงเทียนหดแคบลง ตัวเขาที่หลอมรวมความทรงจำจากจักรพรรดิมาเกิด แน่นอนย่อมต้องรู้ว่าโอสถสู่ธรรมชาตินี้มีสรรพคุณอย่างไร

โอสถสู่ธรรมชาติ เป็นโอสถระดับ 5 ที่สามารถช่วยเหลือให้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับครึ่งก้าวสู่ธรรมชาติใช้มันเพื่อทะลวงผ่านไปยังขั้นตอนที่สามารถเผชิญกับทัณฑ์สายฟ้า 6 ภัยพิบัติ 9 เคราะห์กรรม จากสวรรค์ครั้งแรกได้ และเมื่อสามารถทานทนทัณฑ์สายฟ้าได้ คนผู้นั้นก็จะตัดผ่านไปยังระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ

ปกติแล้วโอสถสู่ธรรมชาตินี้ จะมีไว้ให้ผู้ฝึกยุทธ์ที่ไร้พรสวรรค์ที่อยู่ในระดับครึ่งก้าวสู่ธรรมชาติ อยากตัดผ่านไปยังระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ …พวกมันจำต้องใช้โอสถสู่สวรรค์นี้เพื่อเรียกทัณฑ์สายฟ้าจากสวรรค์ ทว่าโอสถสู่สวรรค์นี้ก็นำมาซึ่งผลข้างเคียงที่เรียกได้ว่าร้ายแรงอย่างยิ่ง

ผู้ฝึกยุทธ์ที่อาศัยโอสถสู่ธรรมชาติตัดผ่านไปยังระดับแรกสัมผัสธรรมชาตินั้น ชั่วชีวิตของพวกมันสามารถมีระดับบ่มเพาะสูงสุดได้เพียงระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 9 เท่านั้น ไม่อาจตัดผ่านระดับก้าวหน้าไปมากกวานี้ได้อีกต่อไป…กล่าวได้ว่าการใช้โอสถสู่ธรรมชาตินี้ อาจจะเป็นการทำลายอนาคตของตัวเองเช่นกัน

อย่างน้อยสำหรับต้วนหลิงเทียนแล้ว เขายอมตายดีกว่าที่จะกินโอสถสู่ธรรมชาตินี่

แต่สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ในอาณาจักรนภาล่องแห่งนี้ หากพวกเขาไม่มีโอสถสู่ธรรมชาติแล้วล่ะก็ มีโอกาสมากกว่า 9 ส่วนที่พวกเขาจะไม่มีวันได้เหยียบย่างไปยังระดับแรกสัมผัสธรรมชาติได้เลยตลอดชีวิต

เช่นนั้นสำหรับคนกลุ่มนั้น โอสถสู่ธรรมชาตินับว่าเป็นหนทางเดียวของพวกมัน และพวกมันก็ไม่คิดกังวลถึงผลข้างเคียงของโอสถสู่ธรรมชาตินี้แม้แต่เพียงนิด

‘ถึงแม้จะเป็นแค่ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 9 … แต่มันคงเพียงพอที่จะเดินได้ทั่วอาณาจักรนภาล่องแห่งนี้อย่างไม่ต้องหวั่นเกรงอะไร! แม้กระทั่งผู้ฝึกยุทธ์ของตระกูลราชวงศ์เอง ก็คงมีระดับบ่มเพาะไม่ถึง แรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 9 ด้วยล่ะมั้ง’ ต้วนหลิงเทียนครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง

ต้วนหรูหงอดตกตะลึงไม่ได้เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนครุ่นคิด

เป็นไปได้หรือไม่ว่าเด็กน้อยผู้นี้รู้ว่าโอสถสู่ธรรมชาติคืออะไร?

ถึงแม้ว่าโอสถสู่ธรรมชาติ อาจจะไม่ได้ว่าเป็นความลับอันใด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะล่วงรู้

"โอสถสู่ธรรมชาติเช่นนั้นรึ … ตระกูลต้วนวางแผนได้ดีไม่เบานี่!" ต้วนหลิงเทียนเย้ยหยันเล็กน้อย “เหตุใดตระกูลต้วนถึงคิดว่าข้าสามารถนำโอสถสู่ธรรมชาติมาให้พวกมันได้กันล่ะ?”

หัวใจของต้วนหรูหงสั่นสะท้านเล็กน้อย ชายหนุ่มผู้นี้กลับรู้จักโอสถสู่ธรรมชาติจริงๆ "ตามความตั้งใจของผู้อาวุโสหลัก ท่านจะส่งเจ้าไปยังนิกายหนึ่งในอาณาจักรพนาคราม และเมื่อพรสวรรค์ของเจ้าประจักษ์ออกมา นิกายใหญ่ๆทั้งหลายล้วนต้องมาแย่งชิงตัวเจ้าเป็นแน่… และเมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เจ้าจะสามารถนำโอสถสู่ธรรมชาติกลับมามอบให้แก่ตระกูลต้วน "

"เข้าสู่นิกายใหญ่ในอาณาจักรพนาครามงั้นหรือ" ต้วนหลิงเทียนเพียงแสยะยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน

ดูเหมือนว่าทางตระกูลต้วนได้วางแผนดังกล่าวเอาไว้แล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจที่พวกมันจะใช้คำพูดใจกว้างถึงเพียงนั้นในการชักชวนเขากลับเข้าตระกูล …

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 191 ถงลี่นังแพศยาสารเลว"

3.7 232 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Godly Empress Doctor
Godly Empress Doctor
มีนาคม 12, 2022
ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ข้าจะเป็นราชาอมตะ
กรกฎาคม 22, 2023
Crazy  Leveling  System
Crazy Leveling System
พฤษภาคม 17, 2022
ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Picking Up Attributes From Today
ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Picking Up Attributes From Today
มีนาคม 12, 2022
พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
มีนาคม 12, 2022
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz