หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 186 ค้นหาผู้บงการหลังฉาก!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 186 ค้นหาผู้บงการหลังฉาก!
Prev
Next

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวและยิ้ม ในขณะที่มองไปยังชายทั้ง 2 คนที่กำลังเดินออกมาจากมุมหน่งที่ห่างไกล "ทำไมพวกเจ้า 2 คนออกมาเร็วนักเล่า? ข้ายังเล่นไม่เสร็จเห็นรึไม่?"

ยังเล่นไม่เสร็จ?

ชายหน้าบากหวังต้าหู่ ผู้นำกลุ่ม 5 พยัคฆ์สีชาดแดนเหนือ ถึงกับสะอึกหลังจากได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน และตอนนี้สังหรณ์อัปมงคลพลันบังเกิดขึ้นในใจเขา

และเมื่อพวกเขาหันศีรษะไปมองด้านหลัง ตามแหล่งที่มาของเสียง พวกเขาก็พบเห็นชายวัยกลางคน 2 คนกำลังก้าวเดินมาอย่างช้าๆ

อีกทั้งเหนือศีรษะของชายวัยกลางคนทั้ง 2 แต่ละคนกลับฉายชัดออกมาถึงเงาร่างช้างแมมมอธโบราณคนละ 1,000ตัว … สรุปแล้วยามนี้ เหนือท้องฟ้าฉายเงาร่างช้างแมมมอธโบราณทั้งสิ้น 2,000 ตัวเหนือศีรษะพวกเขา!

"ผู้ ฝะ…ฝึกยุทธ์ … วิญญาณแรกก่อตั้ง ขะ…ขั้นที่ 7!" ม่านตาของหวังต้าหู่หดแคบลง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว 2 ขาเริ่มสั่นระริก

พี่น้องอีก 4 คนที่เหลือของเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไร เพราะตอนนี้ทุกคนมีสีหน้าซีดราวกับศพ อีกทั้งความคิดหลบหนียังสลายหายไปสิ้น …

เรื่องตลกหรือไร!

ต่อหน้าผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 ถึง 2 คนมันยังจะเหลือโอกาสอะไรให้พวกเขาหนีรอด? เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะหนีรอดเงื้อมมือผู้เชี่ยวชาญระดับนี้ไปได้

ตอนนี้ความหวังหนึ่งเดียวของพวกเขาคือความเมตตาของชายหนุ่มชุดสีม่วงตรงหน้า…เพราะมีเพียงชายหนุ่มคนนี้เท่านั้นที่สามารถตัดสินชีวิตของพวกเขาได้

ตุบ!

ตุบ!

…

หวังต้าหู่ไม่รีรออะไร มันรีบคุกเข่าลงทันที และแน่นอนเมื่อมีผู้นำย่อมมีผู้ตาม อีก 4 คนที่เหลือนั้นก็รีบคุกเข่าตามทันที และอันที่จริงเรี่ยวแรงจะยืนพวกมันก็ไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว ทั้งหมดเพียงคุกเข่าและก้มหัวให้ต้วนหลิงเทียน

เพียะๆ!

หวังต้าหู่ยกมือขึ้นและเริ่มทุบตีตัวเอง และเขาก็อ้อนวอนขอความเมตตาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "นายน้อย … พวกเรามีตาแต่หามีแววไม่ กลับมิเห็นความยิ่งใหญ่ของขุนเขาไท่ซาน กล้าหลงผิดคิดทำร้ายนายน้อยผู้ยิ่งใหญ่ ได้โปรดเถิดนายน้อย… ขอเพียงท่านมอบน้ำใจเล็กๆน้อยๆและ ถือเสียว่าพวกเราเป็นเพียงขยะริมทางอย่าได้นำไปใส่ใจ ได้โปรดละเว้นชีวิตพวกเราด้วย"

และตอนนี้เองพวกเขาทุกคนถึงได้รู้ว่าก่อนหน้านี้ทั้งหมดชายหนุ่มคนนี้เพียงแค่เล่นสนุกกับพวกเขาเท่านั้น

และในขณะเดียวกันกับที่ความหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจก่อเกิดขึ้น ความโกรธแค้นอย่างถึงที่สุดก็ปะทุขึ้นมาในใจของพวกเขาเช่นกัน!

แน่นอนว่าความโกรธแค้นสุดขั้วหัวใจนี้ย่อมมีต่อผู้ที่จ้างวาน และจ่ายเงินให้พวกเขามาสังหารชายหนุ่มตรงหน้า …

หากพวกเขารู้ว่าเป้าหมายในการสังหารครั้งนี้ จะมีผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 7 ตามคุ้มครองอยู่ถึง 2 คนล่ะก็ อย่าว่าแต่ 200,000 เหรียญเงิน ต่อให้จ้าง 10,000,000 พวกเขาก็ไม่รับ

แม้ว่าเงินตรามันจะหอมหวานแต่มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าไร้ชีวิตอยู่ใช้!

ต้วนหลิงเทียนตกใจกับการกระทำของทั้ง 5 คนไม่น้อย เพราะคาดไม่ถึงเลยพวกมันจะตรงไปตรงมาเช่นนี้ …

“อะไร พวกเจ้าไม่ใช่ 5 พยัคฆ์สีชาดแดนเหนือแล้วหรือไร เหตุใดถึงยินยอมง่ายดายราวกับพวกกระดูกอ่อนแบบนี้เล่า” ต้วนหลิงเทียนมองไปยังหวังต้าหู่ก่อนจะยิ้มบางๆ

"นายน้อย..ต่อหน้าท่านพวกเราสามารถเป็นได้แค่เพียง 5 แมวน้อยสีชาดแดนเหนือเท่านั้นแหล่ะขอรับ" หวังต้าหู่กล่าววาจาถล่มตนออกมาด้วยใบหน้าขื่นขม ตอนนี้ความปรารถนาเดียวของเขาคือ ขอแค่เพียงชายหนุ่มชุดสีม่วงตรงหน้าไว้ชีวิตเขาและพี่น้องของเขาก็พอ

"ฮ่าๆๆ แมวน้อยสีชาดแดนเหนือหรือ? ช่างเหมาะสมกับพวกเจ้านัก " จางเฉวียนที่ยืนอยู่ข้างต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน

“ไหน ข้าขอฟังเสียง 5 แมวน้อยสีชาดแดนเหนือ สักหน่อยซิ” จ้าวกังหัวเราะออกมา ก่อนที่จะมองไปยังกลุ่มหวังต้าหู่ทั้ง 5 ด้วยสายตาบันเทิง

"เมี๊ยวววว!" ใบหน้าของหวังต้าหู่เจื่อนลง ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกอับอายและเสียศักดิ์ศรีอย่างถึงที่สุดแต่เมื่อคิดถึงว่ายามนี้ชีวิตตัวอยู่ในกำมือของคนอื่น เขาก็ยินยอมก้มหัวร้องเสียงแมวเหมียวออกมา

"ม๊าวววว!"

"เมี๊ยววว!"

…

อีกสี่คนเองก็ร่ำร้องเสียงแมวเหมียวออกมาอย่างตลกขบขัน แม้ว่าขาที่คุกเข่าอยู่จะสั่นสะท้านก็ตาม

พวกเขานั้นรู้ดีว่ายามนี้ขอเพียงชายหนุ่มชุดสีม่วงเบื้องหน้าลดมือลงหรือกล่าววาจาแค่เพียง 1 คำ หัวและตัวของพวกมันจำต้องแยกทางจากกัน

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเขาได้เห็นกลุ่มของหวังต้าหู่ทั้ง 5 เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมันนัก เพียงกล่าววาจาถามไถ่ออกไปอย่างไม่แยแส "ข้าสามารถละเว้นชีวิตของพวกเจ้าได้ แต่ข้าเพียงอยากรู้ว่าผู้ใดที่จ้างวานกลุ่ม 5 เหมียวของพวกเจ้ามาฆ่าข้า … ตอนนี้ข้ายังสงสัยว่าพวกเจ้าจะยึดกฎเกณฑ์หนทางบัดซบลูกผู้ชายกระทำตามสัจจะอันใดนั่นของพวกเจ้า หรือพวกเจ้าเห็นค่าชีวิตของพวกเจ้ามากกว่ากัน? "

"แน่นอนว่าย่อมเป็นชีวิตของพวกเรา!" เมื่อได้ยินว่าพวกเขายังคงมีโอกาสที่จะรักษาชีวิตน้อยๆเอาไว้ได้ประกายตาของทั้ง 5 ก็เรืองวูบขึ้น ถึงแม้มันจะยังดูหม่นแสงอยู่บ้างแต่ก็ยังดีกว่าตาย

"อะไร ตอนนี้พวกเจ้าไม่สนใจกฎอันใดนั่นแล้วรึ?" รอยยิ้มเย็นชาของต้วนหลิงเทียนพลันแสยะขึ้น

กลุ่มของหวังต้าหู่เพียงหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น หากไร้ซึ่งชีวิตแล้วยังจะต้องคำนึงถึงกฎบัดซบอันใด? ลูกผู้ชายยืดได้หดได้กฎทั้งหลายหาได้มีความสำคัญมากไปกว่าชีวิตของพวกมันไม่

"คายออกมา ผู้ใดจ้างวานพวกเจ้ามาเอาชีวิตข้า?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาอย่างไม่แยแส

"มันคือ เจ็ดคอนทลาย" หวังต้าหู่กล่าวออกมา

"ค้อนเจ็ดทลาย แล้วพวกเจ้ารู้หรือไม่ว่ามันอยู่ที่ใด?" ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย

"รู้ขอรับนายน้อย … มันเป็นนักเลงคนหนึ่งที่คุมพื้นที่บางส่วนของเมืองหลวงชั้นนอกขอรับ"หวังต้าหู่กล่าวออกมาพร้อมพยักหน้า

"เช่นนั้นเจ้าก็นำข้าไปหามัน!" ต้วนหลิงเทียนแหงนมองท้องฟ้าเพื่อดูว่ากี่โมงยามแล้ว ตอนนี้ยังพอมีเวลาเข้าออกจากเมืองหลวงชั้นใน หากเขารุดออกไปตอนนี้ยังคงพอเหลือเวลาให้จัดการธุระปะปัง แล้วกลับเข้าเมืองมาได้ทันก่อนที่ประตูเมืองจะปิดลง

บริเวณเมืองหลวงชั้นนอก

ต้วนหลิงเทียนนั่งพักรอในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งและกำลังจิบชาอย่างสบายใจ

นอกจากจางเฉวียนและจ้าวกังแล้ว ยังมีหวังต้าหู่ที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยท่าทีกระวนกระวายใจ

"หวังต้าหู่ไม่ใช่เจ้าเป็นคนบอกข้าเองหรือว่า คอนเจ็ดทลายอะไรนั่นอยู่ไม่ได้ไกลจากที่นี่? นี่มันเกือบ 1 เค่อเข้าไปแล้วแต่พี่น้องของเจ้ายังไม่กลับมา ไม่ใช่ว่าพวกมันไสหัวหนีไปแล้วหรอกนะ?" ต้วนหลิงเทียนใช้สายตาเย็นชาแฝงความอำมหิตจับจ้องไปยังหวังต้าหู่

"ไม่ต้องห่วงขอรับนายน้อย พวกเรา 5 พยัคฆ์สีชาดแดนเหนือมิ.." หวังต้าหู่พึ่งเริ่มกล่าววาจาแต่เมื่อเห็นหน้าของต้วนหลิงเทียนพลันเย็นชาขึ้น ต้องรีบแก้วาจาตัวเองทันที "ไม่ใช่ๆ กลุ่ม 5 แมวเหมียวสีชาดแดนเหนือของพวกเรานั้น มีชื่อเสียงในการรักษาสัจจะและห่วงใยพวกพ้อง ขอนายน้อยอย่าได้กังวล ต่อให้ตายพวกมันก็ต้องลากตัวค้อนเจ็ดทลายมาพบนายท่านได้แน่นอนขอรับ"

"ข้าก็หวังว่ามันจะเป็นดั่งคำกล่าวของเจ้า" ต้วนหลิงเทียนกวาดสายตาเย็นชาผ่านหวังต้าหู่รอบหนึ่ง ก่อนที่จะหันไปจิบชาอย่างสบายอารมณ์ต่อ

ชาถูกจิบหมดจอกอย่างรวดเร็ว

และตอนนี้เอง

"จางเฉวียนไปเปิดประตู " คิ้วของต้วนหลิงเทียนขมวดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยวาจาออกมา

แม้ว่าจางเฉวียนจะรู้สึกสงสัยและแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเดินไปเปิดประตูตามคำสั่งของต้วนหลิงเทียน

และเมื่อเขาเปิดประตูและมองด้านนอกอย่างสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พลันจับสัมผัสได้ว่ามีเสียงกลุ่มคนกำลังเคลื่อนไหวและมุ่งตรงมายังทางนี้ และไม่นานร่างของกลุ่ม 5 แมวเหมียวอีก 4 คนก็นำพากระสอบใบหนึ่งสั่นไหวเข้ามา

เห็นได้ชัดว่ามีผู้คนถูกจับยัดใส่กระสอบและกำลังดิ้นส่งเสียงอู้อี้ออกมา

หลังจากที่รับพวกมันเข้ามาในห้องแล้วจางเฉวียนก็ปิดประตู ก่อนที่จะหันมามองชายหนุ่มชุดสีม่วงด้วยความตกตะลึง และความหวาดหวั่นในใจอย่างถึงที่สุด

การเก็บเสียงของโรงเตี๊ยมนี่ค่อนข้างดีอย่างมากแทบไม่ได้ยินเสียงรบกวนใดๆจากภายนอก แล้วชายหนุ่มชุดสีม่วงคนนี้สามารถล่วงรู้ได้อย่างไร ซ้ำยังล่วงรู้ว่าพวกมันมาตั้งแต่แรก ขนาดเป็นตัวเขาเองเปิดประตูออกไปกว่าจะสัมผัสได้ก็ใช้เวลาสักพัก?

และไม่เพียงจางเฉวียนเท่านั้น จ้าวกังเองก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงออกมา

พวกมันทั้งสองคนตระหนักได้ว่า ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่พวกมันต้องเรียนรู้และให้นายน้อยผู้นี้สอนสั่ง …

“นายน้อยขอรับพวกเราพาตัวมันมาแล้วขอรับ” ชายหนุ่ม 4 คนของกลุ่มแมวเหมียวแดนเหนือกล่าวออกมา ก่อนที่จะโยนกระสอบลงพื้นและเทคนออกมา เสียงร้องอู้อี้พลันดังขึ้น

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกมัดมือมัดเท้า อีกทั้งมีผ้าจุกปาก พลันปรากฏตัวต่อหน้าต้วนหลิงเทียน ชายหนุ่มที่ถูกผ้าอุดปากเอาไว้พยายามส่งเสียงอู้อี้ด่าทอออกมา และจับจ้องไปยังกลุ่ม 5 แมวเหมียวของหวังต้าหู่ …

"ถ้าเจ้ายังกล้าส่งเสียงดังรำคาญหูข้าอีก ข้าจะเจาะรูที่คอให้เจ้าสัก 2 รู" ต้วนหลิงเทียนตวัดมือขึ้นมาพร้อมกับชักกระบี่อ่อนดาราม่วงไปจี้ไว้ที่คอหอยของชายที่ถูกผ้าอุดปาก เมื่อกระบี่บาดลำคอของมันจนหลั่งโลหิต ชายหนุ่มที่ถูกอุดปากพลันสงบเงียบและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนร่างทั้งร่างสั่นเทิ้ม

ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนหันไปจ้องมันด้วยแววตาเย็นชา

ฟั่บ!

กระบี่อ่อนดาราม่วงในมือต้วนหลิงเทียนตวัดด้วยความเร็วปานสายฟ้าสะบั้นผ้าที่มัดอุดปากเอาไว้จนหลุด

แต่แม้ว่าผ้าที่มัดอุดปากของชายหนุ่มจะร่วงหล่นลงพื้นไปแล้ว มันยังคงปิดปากเงียบไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมาแม้แต่ครึ่งคำ เพราะตอนนี้กระบี่อ่อนดาราม่วงได้พาดทับลำคอของมันเอาไว้ดังเดิม

ต้วนหลิงเทียนจับจ้องไปยังชายหนุ่มด้วยแววตาไม่แยแส "เจ้าใช่หรือไม่ค้อนเจ็ดทลายบัดซบ … เอ่ยออกมาว่าผู้ใดจ้างวานเจ้ามาให้ฆ่าข้า?"

หน้าของค้อนเจ็ดทลายกลับกลายเป็นซีดเผือด "ทะ … ท่านคือต้วนหลิงเทียน?"

เพียะ!

ร่างกายของจางเฉวียนขยับวูบไป เขายกมือขึ้นก่อนที่จะฟาดตบไปยังปากของค้อนเจ็ดทลายจนเลือดกบปากก่อนที่เขาจะเอ่ยวาจาออกมาอย่างไม่แยแส "นายหนุ่มถามว่าอันใด แล้วเจ้ายังกล้าเอ่ยเรื่องไร้สาระอยู่อีก?"

"ใช่ขอรับนายน้อย ข้าเองขอรับค้อนเจ็ดทลาย" คอนเจ็ดทลายเมื่อถูกฟาดปากจนหน้าสั่นก็ไม่กล้าชักช้าอีกรีบพยักหน้าออกมาทันที

นาม "ต้วนหลิงเทียน" ตอนนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว และเป็นนามที่ปรากฏขึ้นมาในวงสนทนาอย่างหนาหูมากที่สุดตราบใดที่ตอนนี้ยังเป็นคนของเมืองหลวงและยังสนทนากับผู้คนอยู่บ้าง หามีแม้แต่ผู้เดียวไม่ ที่ไม่รู้จักนามต้วนหลิงเทียนนี้ และด้วยเหตุนี้ตัวมันเองย่อมรู้ดีเช่นกัน

เพราะเหตุนี้ตอนที่มีผู้คนจ้างวานมันมาให้ฆ่าต้วนหลิงเทียน มันจึงไม่กล้าลงมือด้วยตัวเอง มันจึงหัวใสคิดไปค้นหาตัวผู้คนหรือนักเลงที่ยังไม่ค่อยล่วงรู้นามของต้วนหลิงเทียนที่อยู่ในเมืองหลวงชั้นนอกมาเป็นตัวตายตัวแทนลงมือ … ตอนแรกมันก็คิดว่าเรื่องราวคงจะราบรื่นดี แต่ทว่าเมื่อเจอเช่นนี้ดูเหมือนเรื่องราวจะหาได้ง่ายดายอย่างที่มันคาดหวังซะแล้ว ซ้ำยังย่ำแย่อย่างถึงขีดสุด

มายามนี้เขาเริ่มบังเกิดความเสียใจขึ้นมาอย่างสุดซึ้ง หากรู้ว่าเรื่องราวมันจะเป็นเช่นนี้ ต่อให้เขามีความกล้ามากกว่านี้เขาก็ไม่คิดที่จะกระทำ จนต้องล่วงเกินคนตรงหน้าเช่นนี้!

5 พยัคฆ์สีชาดแดนเหนือแห่งเมืองหลวงบัดซบอะไร สุดท้ายพวกมันก็ถูกจับราวสุนัข!

ชื่อพวกมันฟังดูยิ่งใหญ่ แล้วตอนนี้เล่า? แต่ละคนหงอยั้งลูกแมว

"ข้ากล่าวถามเจ้าว่า ผู้ใดที่จ้างวานเจ้าให้มาสังหารข้า?" แววตาของต้วนหลิงเทียนจับจ้องไปยังค้อนเจ็ดทลายด้วยความเย็นชา น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นสั่นสะท้านราวกับอยู่ขั้วโลก …

"นายน้อย ข้าไม่อาจกล่าวได้ขอรับ… หากข้ากล่าวออกไปข้าน้อยคงต้องตกตายเป็นแน่" สีหน้าของค้อนเจ็ดทลายกลับกลายเป็นซีดเผือดก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างขื่นขม

"อ่องั้นรึ แล้วเจ้าเชื่อหรือไม่เล่า ว่าข้าสามารถปลิดศีรษะบัดซบของเจ้าและเตะเล่นราวลูกหนัง มันเสียตอนนี้ล่ะ!" ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำพลันตวัดกระบี่อ่อนดาราม่วงด้วยความเร็วสูงตัดเส้นผมที่ปรกหน้าผากของมันหลุดออกมาโดยที่ไม่สัมผัสถูกผิวหนังของมันแม้แต่นิด ฝีมือกระบี่อันสูงส่งโดยแท้ …

สีหน้าของค้อนเจ็ดทลายกลับกลายเป็นซีดเผือดยิ่งกว่าศพมันรีบกล่าววาจาออกมาอย่างร้อนรน "นายน้อยข้าบอกท่านแล้ว! บอกท่านแล้วขอรับ!"

"คายออกมา เป็นผู้ใด?" น้ำเสียงของต้วนหลิงเทียนเอ่ยออกมาอย่างราบรื่น แต่ลึกๆแล้วมันเต็มไปด้วยโทสะยากระงับ เขาอยากรู้ว่าไอบัดซบตัวใดที่อยากได้ชีวิตของเขา!

แต่ไม่ว่ามันเป็นใครเขาไม่คิดปล่อยมันให้มีลมหายใจได้นาน …

"หงจี้ขอรับ นายน้อย มันชื่อหงจี้ มันให้เงินข้ามา 3,000,000 เหรียญเงินเพื่อไปสังหารท่านหรือจ้างวานผู้อื่นไปสังหารท่าน" ค้อนเจ็ดทลายรีบกล่าวออกมาอย่างร้อนรน

"อะไร 3,000,000 เหรียญเงิน?" หวังต้าหู่ และอีก 4 คนของกลุ่ม 5พยัคฆ์สีชาดแดนเหนือกล่าวทวนวาจาออกมาด้วยโทสะ พวกมันหันไปจ้องค้อนเจ็ดทลายด้วยสายตาดุร้าย

หากไม่ใช่เพราตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกำลังนั่งอยู่ตรงนี้และสอบปากคำค้อนเจ็ดทลายอยู่ พวกเขาอาจบันดาลโทสะพุ่งไปฟาดค้อนเจ็ดอุบาทว์นี่ให้ตกตาย … ค้อนเจ็ดอุบาทว์นี่มันรับเหรียญเงินผู้อื่นมาถึง 3,000,000 เหรียญ แต่มันกลับจ้างวานพวกเขาเพียง 200,000 เหรียญเงินเท่านั้น และนั่นเกือบให้พวกเขาเอาชีวิตไปทิ้ง!

"หงจี้?" ต้วนหลิงเทียนพลันรู้สึกรำคาญและเบื่อหน่ายออกมา ดูเหมือนเรื่องราวนี้มันจะซับซ้อนขึ้นอีกแล้ว

"นายน้อยข้าเคยได้ยินนามหงจี้นี้มาอยู่บ้าง มันเป็นเจ้าถิ่นครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองหลวงชั้นนอกแห่งนี้…และดูเหมือนมันจะถูกร่ำลือว่ามีความสัมพันธ์กับประมุขของตระกูลเซี่ยว … " จางเฉวียนกล่าวออกมาหลังจากที่นึกเรื่องราวบางอย่างออก

ต้วนหลิงเทียนเพียงพยักหน้ารับคำจางเฉวียนก่อนที่จะจับจ้องไปยังค้อนเจ็ดทลายด้วยสายตาเย็นชา พร้อมกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส "เอาเงิน 3,000,000 เหรียญเงินมาให้ข้า"

"ได้..ได้ขอรับนายน้อย …แต่นายน้อยยามนี้ข้ามีเพียง 2,800,000 เหรียญเงินเท่านั้น อีก 200,000 เหรียญเงินนั้นอยู่กับพวกเขา" ค้อนเจ็ดทลายกล่าวฟ้องต้วนหลิงเทียนก่อนที่จะรีบนำเงินที่มันมีออกมา

หวังต้าหู่จ้องมองค้อนเจ็ดทลายด้วยแววตาอำมหิตก่อนที่จะหยิบเงิน 200,000 เหรียญเงินออกมา

"หวังต้าหู่" ต้วนหลิงเทียนเอ่ยปาก

"นายน้อย ข้าอยู่ขอรับ" หวังต้าหู่ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความเคารพนอบน้อมอย่างที่ไม่เคยทำกับผู้ใดมาก่อน

"ฆ่ามันแล้วเก็บกวาดให้เรียบร้อย!" น้ำเสียงของต้วนหลิงเทียนเรียบเฉยจนน่าหวาดหวั่น และนั่นทำให้สีหน้าของค้อนเจ็ดทลายบิดเบี้ยวอย่างถึงขีดสุด

แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีโอกาสแม้แต่จะเอ่ยวาจาอ้อนวอน เพราะศีรษะของมันถูกหวังต้าหู่ฟาดตบจนระเบิดมันสมองสาดกระจายออกมา …

เหนือศีรษะหวังต้าหู่ฉายเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 100 ตัววูบหนึ่งก่อนที่จะจางหายไป

ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7!

ร่องรอยความพึงพอใจฉายชัดอยู่บนใบหน้าของหวังต้าหู่ ก่อนที่เขาจะหันกลับไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาสำนึกบุญคุณ "ขอบพระคุณนายน้อยที่ให้โอกาส พวกเรา 5 แมวเหมียว ระบายความคับแค้นใจครานี้"

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 186 ค้นหาผู้บงการหลังฉาก!"

3.7 232 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ราชันสามภพ
กรกฎาคม 6, 2023
พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
มีนาคม 12, 2022
Eternal martial sorvereign
Eternal martial sorvereign
มีนาคม 12, 2022
The Divine Nine-Dragon Cauldron
The Divine Nine-Dragon Cauldron
พฤษภาคม 17, 2022
นักล่าปีศาจ
นักล่าปีศาจ
พฤศจิกายน 12, 2023
The Inverted dragons scale
The Inverted dragons scale
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz