หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 172 โอสถระงับกำเนิด!!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 172 โอสถระงับกำเนิด!!
Prev
Next

ต้วนหลิงเทียนนอนเอนหลังลงไปก่อนที่จะเงยหน้าเหม่อมอง ทะเลดารางดงามที่พร่างพราวอยู่บนผืนนภาราวกับปติมากรรมของสวรรค์

‘ทะเลดาราพวกนี้ สมควรเป็นดาวเคราะห์จำนวนมากมายที่เรียงรายกันใช่ไหมนะ? จากความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด ขอบเขตของทวีปเมฆาล่องนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก …ทั้งเมื่อมุ่งหน้าไปจนสุดแผ่นดิน ก็ยังเจอแต่มหาสมุทรกว้างใหญ่ ทั้งราวกับมันจะไร้สิ้นสุดอีกต่างหาก’

‘จักรพรรดิกลับชาติมาเกิดเองก็เคยสงสัยและมุ่งหน้าหมายบินข้ามทะเลเพื่อแสวงหาจุดสิ้นสุด …แต่สุดท้ายเขาก็เห็นเพียงมหาสมุทรกว้างใหญ่สุดไพศาลราวกับไร้จุดสิ้นสุด สุดท้ายเขาก็กลัวที่จะหลงทางจนหาทางกลับไม่ได้ ต้องล้มเลิกความคิดที่จะออกไปสำรวจ ไม่กล้าบินออกไปไกลๆอีก…’ ส่วนหนึ่งของความทรงจำแล่นวูบขึ้นมาในหัวของต้วนหลิงเทียน

กล่าวให้ชัดก็คือ แม้จะเป็นจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดเองก็ยังไม่อาจสำรวจโลกใบนี้ให้ละเอียดได้

"บางทีทวีปเมฆาล่องที่ข้าอยู่ กับมหาสมุทรสุดไพศาลราวกับไร้จุดสิ้นสุดนั่น เป็นแค่เพียงสวนหนึ่งของดาวเคราะห์ขนาดมหึมาดวงนี้เท่านั้น" ต้วนหลิงเทียนเริ่มคาดเดาขึ้นมาในความคิด

ตอนนี้เขาบังเกิดแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ขึ้นมา

ในอนาคตหากเขาสามารถก้าวไปถึงจุดสูงสุดของทวีปเมฆาล่องแห่งนี้แล้ว เขาจะพาครอบครัวออกเดินทางท่องเที่ยวไปในมหาสมุทรสุดไพศาลไร้สิ้นสุดอะไรนั่น เพื่อสำรวจโลกใบนี้ดู ว่ามันกว้างใหญ่แค่ไหน… เขาอยากจะเห็นกับตาว่า แท้จริงแล้วนี่เป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งหรือไม่!

จากการประเมินคร่าวๆของเขา หากมันเป็นดาวเคราะห์จริง มันต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่โตมโหฬารมากกว่าโลกเดิมของเขาไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า

นั่นเพราะความเร็วสูงสุดยามที่จักรพรรดิกลับชาติมาเกิด บิท่องทะยานไปบนท้องฟ้านั้น มันเร็วยิ่งกว่าเครื่องบินเจ็ท ที่เร็วที่สุดของโลกเดิมเขาเสียอีก… และด้วยความเร็วมหาศาลขนาดนั้นของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด หากเขาไปโผบินที่รอบเก่าล่ะก็ คงสามารถบินรอบโลก ได้ในเวลาเพียงพริบตาเดียว

"แล้วถ้าแผ่นดินที่ข้าเหยียบอยู่นี่เป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งจริงๆ… " สายตาของต้วนหลิงเทียนพลันมองไปยังทะเลดาราบนท้องฟ้า "แล้วดาวเคราะห์ดวงใดกันเล่า ที่เป็นดาวโลกของข้า?"

โลกเป็นบ้านเกิดของเขา ความทรงจำมากมายของเขาก็เกิดขึ้นที่นั่น …

หากเขามีโอกาสกลับไปล่ะก็แน่นอนว่าเขาย่อมกลับไป และการกลับไปของเขาก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากมายนัก เขาจะกลับไปแล่เนื้อเถือหนังสายข่าวที่ขายเขา! เขาจะเผาร่างมันให้เป็นธุลีก่อนจะเหยียบย่ำเถ้ากระดูกของมัน เตะให้มันฟุ้งกระจาย

ถึงแม้ว่าเขาเอง ก็อยากจะขอบคุณสายข่าวบัดซบนั่น ที่ทำให้เขาได้มายังโลกใบนี้จนได้ใช้ชีวิตที่มีความสุข มีคนที่รักเช่นนี้! แต่จะอย่างไรทุกอย่างล้วนมีราคา สองเรื่องนี้ไม่สามารถนำมารวมกันได้ มันต้องชดใช้เรื่องที่ทรยศหักหลังเขา!

"นายน้อยท่านคิดอันใดอยู่หรือเจ้าคะ?" เสียงอ่อนโยนของเค่อเอ๋อดังขึ้น ปลุกต้วนหลิงเทียนที่กำลังจมอยู่ในภวังค์ให้รู้สึกตัวขึ้นมา เขายิ้มอย่างนุ่มนวลก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ข้ากำลังคิดอยู่ว่า มีมนุษย์คนอื่นอยู่บนดวงดาวเหล่านั้นหรือไม่… "

"นายน้อย! ท่านคิดเช่นนั้นได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ? หากมีผู้คนบนดวงดาวเหล่านั้นจริง พวกเขาตกมาตายนานแล้วล่ะเจ้าค่ะ!" เค่อเอ๋อมองไปยังทะเลดาราบนผืนฟ้า ก่อนที่คิ้วแสนงดงามของนางจะขมวดเป็นปม แล้วกล่าววาจาออกมาอย่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสา

มุมปากของต้วนหลิงเทียนพลันกระตุก

เขาจะพูดอะไรได้อีกล่ะทีนี้?

เป็นไปได้หรือไม่เล่า ที่เขาจะอธิบายเรื่องแรงดึงดูดหรือความเร่งเข้าสู่จุดศูนย์กลาง ให้แก่เค่อเอ๋อจนนางเข้าใจ นางจะรู้จักวิชาฟิสิกส์ไหม?

ในขณะเดียวกันลี่เฟยที่นอนอยู่ด้านข้างก็มองไปยังทะเลดาราที่งดงามเช่นกัน แววตากระจ่างใสของนางก็จมอยู่กับความคิด

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนและคู่หมั้นทั้งสองคน กำลังนอนดูทะเลดาราและจันทราที่งดงามตระการตากันอย่างมีความสุขนั้น …หน้าประตูเขตที่พักของตระกูลซูก็มีร่าง 2 ร่างกำลังพุ่งเข้าประตูไปอย่างเร่งรีบ

ร่างด้านหน้านั้นแลดูมีอายุอานามประมาณ 22-23 ปี ส่วนร่างด้านหลังนั้น มีอายุอานามประมาณ 20 ปีสวมชุดสีแดง อีกทั้งยังมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา แขนข้างนึงกอดกระบี่เอาไว้ ประกายตาของเขาฉายแววสงสัยออกมาไม่น้อย

หลังจากั้นไม่นาน

"ท่านผู้อาวุโสหลัก ข้านำซูหลี่มาแล้วขอรับ" ก่อนที่จะเดินเข้าไปในลานกว้างแห่งหนึ่ง ชายที่นำหน้าพลันกล่าวขึ้นมาหน้าประตู

"ให้มันเข้ามา" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากในลาน

ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความเย็นชาสวมชุดสีแดง ที่แท้คือซูหลี่นี่เอง

แววตาของซูหลี่ฉายความซับซ้อนและสงสัยออกมาไม่น้อย ก่อนที่จะเดินเข้าไปในลาน ด้วยความรวดเร็ว

ภายในมีชายชราคนหนึ่งที่ยืนตระหง่านอยู่ราวกับภูผา และสองตาของมันยังจับจ้องมายังซูหลี่ด้วยประกายตาเจิดจ้า …

ซูหลี่เพียงยืนนิ่งๆไม่กล่าววาจาใดๆออกมาแม้ครึ่งคำ

“บิดาของเจ้ายังสบายดีอยู่หรือไม่?” ผู้อาวุโสหลักของตระกูลซู ซูหนัน กล่าวถามออกมาพร้อมจับจ้องไปยังซูหลี่

"ก็ไม่เลว เขากินอิ่มนอนหลับ" ซูหลี่กล่าวตอบออกมาอย่างไม่แยแส ดูเหมือนเขาจะไม่อยากสนทนากับซูหนันสักเท่าไร "เจ้าให้คนไปตามข้ามามีธุระอะไร ถ้ามีอะไรก็รีบๆกล่าวออกมา"

ซูหนันไม่ได้เร่งร้อนอะไร ก่อนจะกล่าวออกมา "ข้ายังจำได้ว่า บิดาของเจ้าเองก็ฝึกฝนบ่มเพาะศึกษาในแนวทางของกระบี่ และเพลงกระบี่ไร้เงาของเขาเองก็เป็นเพลงกระบี่ที่กล่าวได้ว่าเลิศล้ำ จนยากจะหาคู่เปรียบได้ในตระกูลซูของเรายามนั้น…แต่น่าเสียดายที่บิดาของเจ้ามันยโสและจองหองเกินไป ถึงขั้นหาญกล้าไปท้าทายต้วนหรูเฟิงแห่งตระกูลต้วนที่กำลังโด่งดัง ราวกับดาราสุกสกาวในเวลานั้น… สุดท้ายแล้วเป็นไรเล่า ไม่เพียงแต่เพลงกระบี่ของบิดาเจ้าจะพ่ายแพ้เขา ตัวเขายังได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องทุกข์ทรมานอย่างหนักซ้ำยังไร้หนทางรักษา ต้องกลับกลายมาเป็นคนพิการที่ไม่อาจใช้พลังงานต้นกำเนิดได้อีกครั้งอย่างทุกวันนี้ "

"แต่ข้าได้ยินมาว่าตัวเจ้ากลับไปมีสัมพันธ์อันดีกับต้วนหลิงเทียนบุตรชายของต้วนหรูเฟิงนั่น แม้กระทั่งไปคบหาเป็นสหายกับมัน … เหอะ! บุตรชายของคนที่ทำร้ายบิดาเจ้าจนต้องพิกลพิการเช่นนี้! เจ้ายังไปญาติดีกับมันได้อย่างไร? เจ้าไม่มีความแค้นต่อมันแม้แต่น้อยเลยหรือไร?" ในขณะที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ประกายตาซูหนันเรืองวูบออกมาอย่างล้ำลึก ราวกับมันหวังผลเลิศล้ำอันใดอยู่

"ทำไมข้าต้องเกลียดเขาล่ะ?" ซูหลี่กล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงไม่แยแสพร้อมท่าทางสงบนิ่ง "หากเจ้าเรียกข้ามาที่นี่เพียงเพราะหวังยุยงให้พวกเราแตกแยก…เสียเวลาเปล่าๆ"

ถึงแม้ว่าบิดาของเขาจะพ่ายแพ้ต้วนหรูเฟิงจนพิกลพิการ แต่บิดาของเขาไม่เคยนึกโทษหรือโกรธเคือง ต้วนหรูเฟิงแม้แต่เพียงครั้งเดียว เพราะบิดาเขาเป็นผู้แสวงหาความเป็นเลิศในเพลงกระบี่อย่างแท้จริง ยามนั้นทั้งหมดล้วนเป็นเพราะบิดาเขาฝืนจนเกินตัว จึงต้องพบกับอาการบาดเจ็บเช่นนี้

อีกทั้งทุกครั้งยามที่กล่าวถึงต้วนหรูเฟิง…บิดาของเขายังแสดงความเคารพออกมาอีกด้วย ราวกับทุกคราที่กล่าวถึงเขาจะหวนไปนึกถึงการประลองกระบี่ครั้งนั้น

และถึงแม้พวกเขาจะอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงในตอนนั้น แต่ตอนที่ได้รับข่าวคราวการหายตัวไปของต้วนหรูเฟิง บิดาของเขายังซึมเศร้าและเสียใจออกมาอยู่เป็นเวลานาน

ต่อให้ตัวเขายังเป็นเด็กน้อยอยู่ในเวลานั้น แต่ความรู้สึกของบิดา ตัวเขาย่อมเข้าใจมันเป็นอย่างดี

และตัวเขาที่สานต่อปณิธานมาจากบิดาตั้งแต่ยังเล็ก ย่อมไม่มีวันเคียดแค้นต้วนหรูเฟิงอย่างแน่นอน!

ที่สำคัญเหตุผลเดียวที่บิดาเขาต้องจากตระกูลซู และออกจากเมืองหลวงไปในปีนั้น ไม่ใช่เพราะกลุ่มตัวบัดซบในตระกูลซูหรอกหรือ!

หากจะกล่าวถึงความเกลียดชังแล้ว ชีวิตนี้สิ่งที่เขาเกลียดชังที่สุดคือ ตระกูลซูบัดซบนี่ล่ะ!

"เฮอะ ที่แท้ตัวเจ้ากับบิดาก็งมงายไร้สาระไม่แพ้กัน!" สีหน้าของซูหนันเริ่มหมองคล้ำลง

"หากไม่มีอะไรแล้ว ข้าจะกลับ" ประกายตาของซูหลี่เรืองวูบขึ้นมาอย่างดุร้ายมือที่กุมกระบี่เกร็งขึ้นมาจนข้อขาว คนที่เขาชื่นชมมากที่สุดในชีวิตคือบิดาผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้เขาตั้งแต่ยังเล็ก เขาไม่มีวันทนฟังผู้ใดดูหมิ่นบิดาของเขาได้!

"เช่นนั้นข้าจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา …เจ้ารับนี่ไปก่อน" ซูหนันหยิบขวดเล็กๆใบหนึ่งส่งให้ซูหลี่

ซูหลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราแค่ดูก็รู้ว่ามันเป็นขวดโอสถ แต่เขาไม่คิดว่าคนอย่างซูหนันจะใจดีมอบโอสถนี้ให้เป็นของขวัญแก่เขาอย่างแน่นอน

"นี่คือโอสถระงับกำเนิด" ซูหนันกล่าวออกมาช้าๆ

สีหน้าของซูหลี่พลันเครียดขึ้นมาทันที เขาย่อมรู้ว่าโอสถในมือคืออะไร แม้ว่ามันจะไม่ได้นับว่าเป็นยาพิษร้ายแรงอะไร แต่หากคนที่มีระดับบ่มเพาะต่ำกว่ากำเนิดแก่นแท้ได้รับมันเข้าไปแล้วล่ะก็ พลังงานต้นกำเนิดในร่างกายทั้งหมดจะถูกระงับเอาไว้ไม่อาจโคจรใช้ออกมาได้ และช่วงเวลาที่ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นไม่อาจใช้พลังงานต้นกำเนิดได้ก็มีมากถึง 5 ชั่วยาม

ถึงแม้ว่าผู้ฝึกยุทธ์จะได้รับมันไปเพียงเล็กน้อย ไม่กี่หยด แต่พลังงานต้นกำเนิดก็จะถูกระงับเอาไว้ขั้นต่ำ 2 เค่อ

ตอนนี้เองซูหลี่พลันเข้าใจเรื่องราวที่ซูหนันคิดกระทำทันที "เจ้าต้องการให้ข้านำโอสถระงับกำเนิดนี่ ไปวางยาต้วนหลิงเทียนใช่หรือไม่?"

"โอ้! นับว่าเจ้าเฉลียวฉลาดนัก … " ประกายตาของซูหนันเรืองวูบขึ้นมา ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างช้าๆ “ข้ารู้ว่าเจ้ายึดถือมันเป็นสหาย ข้าจึงไม่คิดบังคับให้เจ้าเป็นคนลงมือเข่นฆ่ามัน … เจ้าเพียงต้องทำให้มันกินโอสถระงับกำเนิดนี่เข้าไปให้ได้ในช่วงมือกลางวัน แม้จะเป็นเพียงหยดเดียวก็ยังดี พอมันกินไปแล้วเจ้าก็ส่งสัญญาณ และตอนนั้นสาวกของตระกูลซูจะเป็นผู้ลงมือเอง”

"เหอะ! เจ้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นไปได้?" ซูหลี่หัวเราะเยาะ เขายกมือขึ้นหมายจะซัดขวดโอสถให้แหลกเป็นชิ้นๆ

สีหน้าของซูหนันพลันเคร่งขรึมขึ้น มันกล่าวออกมาด้วยวาจาอำมหิต "หากเจ้ากล้าโยนขวดโอสถนี่ทิ้ง! เจ้าจะต้องเสียใจ ที่กระทำการไม่คิดจนไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก"

"เจ้ากล้าข่มขู่ข้าหรือ? หรือเจ้าคิดว่าข้าซูหลี่รักตัวกลัวตาย จนถึงขั้นคิดคดทรยศสหาย?" ซูหลี่หัวเราะเย้ยหยันออกมา

เขายอมตายเสียดีกว่าจะต้องมาขายเพื่อน! แล้วนับประสาอะไรกับข่มขู่เขาให้ไปทำร้ายเพื่อนเช่นนี้!

ซูหนันหรี่ตาจ้องมองซูหลี่ ก่อนจะกล่าวออกมาช้าๆ "ไม่เลวเลยทีเดียว เจ้านี่นับว่าเหมือนกันกับบิดาไร้ค่าของเจ้าในปีนั้นนัก! อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เจ้าไม่มีทางเลือก! ตระกูลซูของเรานั้นค้นพบร่องรอยครอบครัวเจ้านานแล้ว! พวกเจ้าคิดหรือว่าถึงไปหลบอาศัยอยู่ในเมืองสุสานยุทธ์ ของมณฑลสายลมโปรยบุปผาที่ห่างไกล แล้วทางตระกูลซูจะหาไม่พบ!”

ซูหนันกล่าวถึงตรงนี้พลันจิตสังหารออกมา “ข้าให้เวลาเจ้าเพียง 2 วัน หากเจ้าไม่นำโอสถระงับกำเนิดนี่ไปวางยาใส่ต้วนหลิงเทียนแล้วล่ะก็ ข้าจะให้มือสังหารควบขี่อาชาเหงื่อโลหิต ไปยังเมืองสุสานยุทธ์และสังหารบิดามารดาเจ้า!”

ใบหน้าของซูหลี่พลันเปลี่ยนเป็นซีดเผือด

ถึงแม้ว่าระดับบ่มเพาะของบิดาเขาจะไม่ต่ำ แต่เพราะอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ยากรักษาหาย เขาจึงไม่อาจใช้พลังงานต้นกำเนิดของเขาออกมาได้ ส่วนมารดาของเขานั้นเป็นเพียงสตรีชาวบ้านร้านถิ่นธรรมดาเท่านั้น ระดับบ่มเพาะของนางยังต่ำกว่าเขาเสียอีก!

"ชั่วช้า สารเลวนัก" ไม่เคยมีสักครั้งที่ซูหลี่จะคิดว่าผู้อาวุโสหลักของตระกูลซูจะชาติชั่วได้ถึงขนาดนี้ มันกล้าใช้ชีวิตบิดามารดามาข่มขู่เขา!

"ชีวิตของบิดามารดาอยู่ในกำมือของเจ้าแล้ว … เจ้าเลือกมันอย่างระวังก็แล้วกัน!" ซูหนันแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยนราวกับตอนนี้ซูหลี่อยู่ในกำมือของเขา แล้วมันก็โบกมือให้ซูหลี่กลับไป

ซูหลี่สูดหายใจเข้าลึกๆ และแววตาของเขาดูเหมือนกำลังจมอยู่กับมโนธรรมในหัวใจ

สุดท้ายตัวเขาก็เลือกที่จะเดินออกจากตระกูลซู พร้อมกำขวดโอสถระงับกำเนิดเอาไว้

เช้าวันต่อมา

หลังจากกินอาหารเช้ากับครอบครัวแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็พาเสี่ยวเฮยและเสี่ยวไป๋มาสถาบันบ่มเพาะขุนพลตามปกติ

เห็นได้ชัดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทางสถาบันบ่มเพาะขุนพลไม่ได้มีเจตนาที่จะแพร่งพรายออกไป ทำให้วันนี้ชีวิตของต้วนหลิงเทียนก็ยังเป็นปกติสุข กลุ่มนักศึกษาในชั้นเรียนดาวกุนซือ เลยไม่ได้จ้องต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาเหมือนเห็นตัวประหลาด มากไปกว่าเดิม..

ชั้นเรียนช่วงเช้าจึงดำเนินไปอย่างปกติสุข

ตอนเที่ยงกลุ่มของต้วนหลิงเทียนก็มารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารเที่ยงอีกครั้ง

"เฮ่ ซูหลี่ เจ้าเป็นอันใด เหตุใดสีหน้าจึงย่ำแย่นักเล่า ?" ต้วนหลิงเทียนสังเกตได้ว่าสีหน้าของซูหลี่วันนี้ไม่สู้ดีนัก เขาจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้

"ข้าเองก็สงสัยเช่นกัน ไม่รู้มันถ่ายไม่ออก หรือมีอันใดผิดปกติ แต่มันทำหน้าเช่นนี้มาตั้งแต่เช้าแล้ว" เทียนหูส่ายหัวไปมา

"ข้าไม่ได้เป็นอะไร" ภายใต้การจับจ้องอย่างเป็นห่วงจากสายตาของเซี่ยวหยูและเซี่ยวฉวินและทุกคน ซูหลี่พลันกล่าวออกมาพร้อมส่ายหัว

ไม่นานอาหารก็ถูกนำมาจัดวาง เหยือกสุราเองก็เช่นกัน

"ข้ารู้สึกสนุกสนานทุกทียามนึกถึงเรื่องเมื่อวาน เอาล่ะ พวกเรามาดื่มฉลองกันเถอะ … " ต้วนหลิงเทียนยิ้มก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับเหยือกสุรา

หมับ!

ซูหลี่พลันยกมือขึ้นมาจับมือที่ถือเหยือสุราของต้วนหลิงเทียนไว้ ก่อนที่จะหยิบเหยือกสุรามาถือเอาไว้เอง ราวกับมันคิดรินสุรา

"อะไร! วันนี้ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกงั้นหรือ? ซูหลี่ถึงคิดรินสุราให้พวกเราเช่นนี้!" สีหน้าของเทียนหูเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

"หากไม่ใช่เพราะเจ้ามาทันเวลา เมื่อวานนี้ระดับบ่มเพาะของข้า คงถูกซูถงทำลายไปแล้ว … " ซูหลี่กล่าวออกมาเบาๆ

"เจ้ายังจะกล่าวอะไรอีก พวกเราล้วนเป็นสหายกันทั้งสิ้น" ต้วนหลิงเทียนเพียงส่ายหัวออกมาพร้อมรอยยิ้ม "เอาล่ะ ซูหลี่ หากเจ้าซึ้งใจมากรีบรินสุรามายกหมดจอกเร็วๆ"

ที่โต๊ะห่างออกไปไม่ไกลมีชาย 2 คนกำลังนั่งอยู่ด้วยกัน

"ดูเหมือนซูหลี่จะลงมือแล้ว"

“ฮึ่ม! มันกล่าวเสียดิบดีว่าเป็นสหายกัน! แต่ดูมันสิ มิใช่ยามนี้มันกำลังคิดขายสหายตัวเองหรือไร? ตอนนี้ต่อให้ต้วนหลิงเทียนตกตายไป มันยังคงคิดไม่ถึงเลยกระมัง ว่าสหายที่แสนดีของมันจะวางยามันเช่นนี้” ชายหนุ่มทั้ง 2 คนพูดคุยกระซิบกระซาบกันด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา โดยมีเพียงพวกมันเท่านั้นที่ได้ยิน

"จะอย่างไรก็ช่างเถอะ เมื่อพวกเราลงมือสังหารต้วนหลิงเทียนแล้ว พวกเราก็ต้องรีบออกจากสถาบันบ่มเพาะขุนพล ไม่สิพวกเราต้องรีบหนีออกจากเมืองหลวงให้เร็วที่สุด"

"รางวัลที่ผู้อาวุโสหลักสัญญาว่าจะมอบให้พวกเรานับว่ามากมายมหาศาลนัก พอให้พวกเราใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้เหลือเฟือโดยมิต้องกังวล … "

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 172 โอสถระงับกำเนิด!!"

3.7 232 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

davisam
จักรพรรดิเทพมรณะ
มกราคม 14, 2023
ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ราชันสามภพ
กรกฎาคม 6, 2023
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
มีนาคม 12, 2022
นักล่าปีศาจ
นักล่าปีศาจ
พฤศจิกายน 12, 2023
กลืนดารา (Renew)
กลืนดารา (Renew)
พฤษภาคม 17, 2022
ดาบจอมราชัน
ดาบจอมราชัน
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz