หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 171 อสรพิษน้อย ทะลวงผ่าน!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 171 อสรพิษน้อย ทะลวงผ่าน!
Prev
Next

ปังงงงงง! สีหน้าของประมุขตระกูลซู,ซูผอหยา หมองคล้ำลงอย่างถึงขีดสุด มันระบายโทสะด้วยการฟาดที่พักมือจนแตกกระจาย

ในแง่ของพรสวรรค์และศักยภาพการทำความเข้าใจสรรพวิชาแล้ว ซูถงนับว่าเหนือล้ำกว่าตัวมันในอดีตเสียอีก

นั่นทำให้มันไม่กังวลเลยว่าตระกูลซูจะเจริญรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จถึงขนาดไหนหากมีประมุขนำพาที่มีความสามารถสูงขนาดนั้น…แต่ทว่าตอนนี้ทุกอย่างกลับมลายสูญ ต้องมาจบสิ้นลงเพียงเพราะเด็กโอหังคนหนึ่ง!

"ท่านประมุข ต้วนหลิงเทียนนั่นลงมืออำมหิตเกินไปแล้ว พวกเราไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ไปได้!"

"ถูกต้อง หากมันไม่ถูกพวกเราสำเร็จโทษ พวกเราตระกูลซูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ต่อไปมิต้องเดินก้มหน้าก้มตาในเมืองหลวงแห่งนี้เลยหรือ?"

"มันต้องถูกลงทัณฑ์อย่างสาสม!"

…

ตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสตระกูลซูล้วนเดือดกันถ้วนหน้า พวกมันแต่ละคนบังเกิดอารมณ์ร้อนแรง อยากลากตัวต้วนหลิงเทียนออกมาสับเป็นชิ้นๆ

"ผู้อาวุโสหลัก เรื่องราวครั้งนี้ข้าจะให้ท่านเป็นผู้รับผิดชอบดูแลกระทำตามที่ท่านเห็นสมควร ทางตระกูลซูจะสนับสนุนท่านอย่างเต็มที่!" ซูผอหยาหันไปมอบหมายเรื่องราวให้แก่ซูหนัน เนื่องด้วยตัวมันย่อมรู้ดี …หามีใครในตระกูลซูมีความแค้นต่อต้วนหลิงเทียนลึกล้ำเท่ามันไม่

เพราะว่า…ซูถงเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของมัน!

“ขอบคุณประมุข”ซูหนันรู้สึกยินดีไม่น้อยเมื่อได้ฟังวาจาของซูผอหยา สายตาของมันเรืองวูบขึ้นมาด้วยอำมหิต จิตสังหารแผ่ซ่านออกมาจนทุกคนสั่นสะท้าน

ตอนนี้สำหรับซูหนัน ไม่ว่าต้วนหลิงเทียนจะมีฐานะใดหรือเป็นใคร แต่มันกล้าทำลายตันเถียนหลานชายคนเดียวของเขา มันต้องถูกสับเป็นชิ้นๆ ก่อนจะโยนเข้าประตูนรก!!

เขาไม่สนใจเรื่องราวความเป็นไปใดๆทั้งสิ้น ถึงแม้เรื่องนี้จะมีสาเหตุมาเพราะหลานเขาก็ตาม ทั้งหมดที่เขารู้ เขาจะแล่เนื้อเถือหนังต้วนหลิงเทียนทีละนิดๆจนมันตกตาย เผาร่างของมันจนเป็นเถ้าถ่าน สาดเทเถ้ากระดูกมันให้กระจัดกระจาย!

สถาบันบ่มเพาะขุนพล

บนต้นไม้ขนาดใหญ่ข้างลานฝึกซ้อม

วิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม รูปแบบงูเหลือมคลั่ง!

ต้วนหลิงเทียนนั้นนั่งบ่มเพาะมาตลอดทั้งบ่ายจนถึงยามเย็น…ตอนนี้เขาสัมผัสได้ว่า คอขวดของจุดชีพจรทั่วร่างเริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว…

"อืม ถ้าเป็นแบบนี้ คงไม่พ้นเดือนนี้ ข้าต้องตัดผ่านระดับไปได้แน่นอน" ประกายตาต้วนหลิงเทียนเรืองวูบขึ้น มุมปากเขาค่อยๆเผยรอยยิ้มยินดีออกมา

ปัจจุบันนี้ กล่าวได้ว่าเขาสามารถบ่มเพาะฝึกฝน ในรูปแบบที่เหมือนกับผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นได้เสียที ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาสั่งสมพลังงานต้นกำเนิด 2 รอบ ทั้งทะลวงผ่านระดับ และ นำมาบ่มเพาะร่างกายอีกต่อไป เพราะเขามีโอสถโลหิตมังกรที่จะรับผิดชอบเรื่องบ่มเพาะร่างกายในรูปแบบ งูเหลือมคลั่งโดยเฉพาะ

โอสถโลหิตมังกรเพียงเม็ดเดียว ก็เพียงพอที่จะมอบพลังงานต้นกำเนิดเพื่อหลอมกลั่นเสริมสร้างร่างกายของเขาจนสมบูรณ์ได้ทันที

ต้วนหลิงเทียนที่กำลังยินดีพลันกระโดดลงมาจากต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่จะเดินอย่างสบายอารมณ์ไปเฝ้าดูการประลองชี้แนะของเซี่ยวหยูและเซี่ยวฉวินกับนักศึกษาคนอื่นๆที่ลานฝึกซ้อม เขาชมดูอยู่ครู่หนึ่งก็ได้เวลาเลิกเสียที ทั้ง 3 ก็เดินออกจากสถาบันบ่มเพาะขุนพลพร้อมกันตามปกติ

"ต้วนหลิงเทียน ระวังตัวด้วย" เซี่ยวหยูและเซี่ยวฉวินกล่าวออกมาอย่างจริงจังด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง เมื่อต้องแยกทางกับต้วนหลิงเทียน

ต้วนหลิงเทียนพลันหันหน้าไปมองทางทิศที่ตั้งของตระกูลซูก่อนที่จะระบายลมหายใจออกมา

"พวกเจ้าอย่าได้กังวล" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำ ความอบอุ่นประการหนึ่งแล่นวูบขึ้นมาในหัวใจ

หลังจากที่แยกกับเซี่ยวหยูและเซี่ยวฉวิน หน้าสถาบันบ่มเพาะขุนพลได้สักพัก ต้วนหลิงเทียนพลันหยุดนิ่งลง …

เนื่องเพราะตอนนี้เขาสัมผัสได้ว่าอสรพิษน้อยในแขนเสื้อส่งสัญญาณบางอย่างออกมา ใบหน้าของเขาพลันเคร่งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาเริ่มแผ่สัมผัสไปรอบๆทันทีอย่างระวัง

สมาชิกตระกูลซูนับว่าลงมือได้รวดเร็วดีนัก?

หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ร่างของต้วนหลิงเทียนพลันขยับวูบไหวทันที เขาพุ่งตัวออกไปราวสายฟ้าหมายไปยังซอยเปลี่ยวร้างที่สังหารผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 ในวันก่อน

แต่ทว่าต้วนหลิงเทียนเพียงพุ่งตัวออกไปได้ 2 ก้าวใหญ่ๆ

ฟุ่บ! ฟุ่บ!

ชายชราสองคนพลันปรากฏตัวขนาบหน้าหลังเขาเอาไว้ในพริบตา ทำให้เขาไร้หนทางที่จะมุ่งไปด้านหน้าหรือถอยหลังย้อนกลับไป…

ชายชราทั้ง 2 คนที่ปิดทางเขาอยู่ตอนนี้ ดูไปแล้วอายุของพวกมันคงอยู่ราวๆ 70 กว่าปี แต่ประกายตาของพวกมันยังคมกล้าไม่ต่างอะไรกับเด็กหนุ่ม แววตากระจ่างใสล้ำลึกของพวกมันบ่งบอกถึงระดับบ่มเพาะที่ไม่ธรรมดาสามัญอย่างแน่นอน

เมื่อเห็นพวกมัน ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มสำรวจตั้งแต่แรก อาศัยความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด 2 ชาติภพ และพลังวิญญาณที่สูงส่งของเขา ก็สามารถบอกระดับบ่มเพาะคร่าวๆของชายชราทั้ง 2 คนได้ทันที ระดับบ่มเพาะของชายชราทั้ง 2 คนนี้ สมควรอยู่ในช่วงระหว่าง วิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4-6

ในแง่ของความแข็งแกร่งแล้วนับว่าชายชราทั้ง 2 คนนี้อ่อนแอกว่า ลุงหู ผู้ดูแลทรัพย์สินขององค์ชาย 3 ที่ต้วนหลิงเทียนสังหารไปเมื่อคืนวานมากนัก

"ตระกูลซูจะไม่ดูแคลนข้าเกินไปหน่อยหรือไง? คิดจริงๆหรือว่าอาศัยไอแก่โลงผุ 2 ตัวอย่างพวกเจ้าจะสามารถฆ่าข้าได้?" คิ้วของต้วนหลิงเทียนขมวดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนที่รอยยิ้มเย้ยยันจะเผยออกมาที่มุมปาก

"ตระกูลซู?" ท่าทางของชายชราทั้งสองคนแสดงออกมาถึงความสับสนอย่างเห็นได้ชัด หลังจากได้ฟังคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน

ชายชราที่ยืนอยู่ด้านหน้าของต้วนหลิงเทียน จับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนอยู่เงียบๆสักครู่ก่อนที่จะกล่าวออกมา พร้อมประกายตาอำมหิต "ต้วนหลิงเทียน ดูเหมือนตัวเจ้าจะมีศัตรูมากมายมิน้อย …แต่จะอย่างไรพวกเราก็มิใช่คนของตระกูลซู"

"หืม? ไม่ใช่คนของตระกูลซูงั้นหรือ?" ต้วนหลิงเทียนรู้สึกผิดคาดเล็กน้อยที่เขาเดาผิด

หรือว่าจะเป็นคนขององค์ชาย 5?

หรือที่แท้พวกมันมาจากตระกูลต้วน ด้วยคำสั่งของต้วนหรูเล่ย?

"ต้วนหลิงเทียน เจ้ากล้าสังหารรุ่นเยาว์อัจฉริยะทั้ง 2 คนของพวกเราตระกูลหยู … วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตเจ้า!" ชายชราคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมจิตสังหาร น้ำเสียงของมันเย็นยะเยือกราวดังมากจากก้นบึ้งของนรก

ตระกูลหยู…หยูไหนแล้วล่ะ?

ดวงตาของต้วนหลิงเทียนเหม่อลอยเล็กน้อยราวกับพยายามนึกย้อนไปในความทรงจำ…

"โอ้!!ข้าจำได้แล้ว! ไม่คิดเลยว่าเพียงเพราะต้องการสังหารข้า พวกเจ้าจะดั้นด้นกันมาไกลจากเมืองผานางแอ่นเหินเช่นนี้… ไอแก่อย่างพวกเจ้าทั้ง 2 นี่ นับว่าทำให้ข้าตกตะลึงในความพยายามไม่น้อยเลยทีเดียว แต่จะว่าไป ไอแก่อย่างพวกเจ้าไม่กลัวหรือ ว่าพวกเจ้าอาจจะเอาชีวิตมาทิ้งในเมืองหลวงอย่างโง่งมไร้ที่ฝังตลอดกาล ด้วยน้ำมือข้า? " ต้วนหลิงเทียนที่พอจะเดาความเป็นมาของชายแก่ทั้ง 2 ตรงหน้าได้ เริ่มเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา

พวกมันคือคนของตระกูลหยู ตระกูลใหญ่แห่งเมืองผานางแอ่นเหิน! สมาชิกตระกูลหยูอย่าง หยูหง กับหยูเซี่ยงได้มาระรานเขาตอนที่เข้าค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะของกองกำลังโลหิตเหล็ก สุดท้ายก็ตกตายไปอย่างอนาถ

"เหลวไหล โอหังนัก!" ชายชราที่ขวางทางต้วนหลิงเทียนด้านหน้า ไม่คิดต่อปากต่อคำอะไรอีก มันแค่นเสียงเย็นชาออกมาพร้อมลงมือทันที ร่างของมันวูบไหวพุ่งออกมาด้วยความเร็ว

เหนือศีรษะของพวกมันเงาร่างช้างแมมมอธโบราณฉายออกมา 600 ตัว … ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4!

ความแข็งแกร่งของชายชราคนนี้หากจำไม่ผิด มันมากกว่าผู้อาวุโสหลัก ที่เคยดักต้วนหลิงเทียนกลางทาง ก่อนที่จะตกตายอย่างโง่งมด้วยน้ำมือฉงเฉียน

ส่วนชายชราอีกคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังต้วนหลิงเทียน ก็เริ่มลงมือเช่นกัน และมันก็เป็นอีกคนที่มีระดับบ่มเพาะอยู่ที่ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4

"เสี่ยวเฮย เสี่ยวไป๋ ข้ายกพวกมันให้พวกเจ้า … " ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาเบาๆ

เมื่อกล่าวจบเขาก็ยกมือขึ้นมากางแขนทั้งสองข้างออก ชี้ไปด้านหน้าและหลัง

ฟุ่บ! ฟุ่บ!

เส้นแสงอัสนีสีขาวกระจ่างกับทมิฬราวรัตติกาลเรืองวูบทิ้งประกายไว้ในอากาศ พวกมันพุ่งออกมาจากแขนเสื้อของต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วสูง เร็วจนบังเกิดเสียงอากาศแตกระเบิดออก สั่นสะท้านรูหูคนทั้งหมด

บนท้องฟ้ายามนี้เงาร่างช้างแมมมอธโบราณของชายชราทั้ง 2 นับรวมกันได้ถึง 1,200 ตัว ทว่าอยู่ๆพลันบังเกิดเงาร่างช้างแมมมอธโบราณอีก 1,200 ตัวเช่นกัน ขึ้นมาอย่างอัศจรรย์!

ชายชราที่กำลังพุ่งตัวมาอย่างดุร้ายถึงกับเผยแววตาตกตะลึงพวกมันไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะมีตาหมากล้มกระดานซ่อนอยู่เช่นนี้ สายตาของพวกมันทั้งสองคนหม่นหมองและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นเส้นแสงที่น่าจะเป็นสัตว์อสูรกำลังพุ่งมา พร้อมทั้งระดับบ่มเพาะที่เท่าเทียมกับพวกมัน

พวกมันเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ…

สึบบ!

สึบบ!

รูกลวงโบ๋บังเกิดขึ้นกลางอก ก้อนเนื้อเต้นสั่นระริกที่เคยอยู่กับพวกมันมาทั้งชีวิตถูกฉีกกระชากหายไปอย่างน่าสยดสยอง…ประกายตาของพวกมันพลันหมองหม่นลง สูญสิ้นประกายแห่งชีวิต

ตุบ ตุบ

ร่างไร้ชีวิตทั้ง 2 ล้มลง สีหน้าของพวกมันฉายชัดออกมาถึงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

หากพวกมันรู้แต่แรกว่าต้วนหลิงเทียนมีสัตว์อสูรอยู่ข้างกายคอยคุ้มครองแล้วล่ะก็ ถึงแม้พวกมันจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอสรพิษน้อย แต่จะอย่างไรพวกมันคงไม่ตกตายรวดเร็วเช่นนี้

การจู่โจมโดยไม่คาดฝันของอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวนั้น ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 4 ไร้หนทางป้องกันอย่างสิ้นเชิง เพียงแค่พวกมันพึ่งรู้ตัวว่ากำลังจะถูกโจมตี พวกมันก็ไร้โอกาสจะตอบสนองทันเสียแล้ว

"เสี่ยวเฮย เสี่ยวไป๋ พวกเจ้าทั้งสองตัวทำได้ดีมาก เมื่อกลับไปบ้าน ข้าจะทำเสต็คให้พวกเจ้าคนละ 2 ชามใหญ่ ดีหรือไม่!" ต้วนหลิงเทียนต้องให้รางวัลอสรพิษน้อยทั้ง 2 เสียหน่อย

ดวงตาเล็กๆของอสรพิษน้อยทั้ง 2 วูบวาบขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อรู้ว่าอาหารค่ำคืนนี้พวกมันจะได้กินเสต็คที่แสนอร่อยนั่นอีกครั้ง …

"พวกตระกูลหยูนี่ราวกับวิญญาณตามติดจริงๆ ไม่คิดเลยว่าพวกมันยังไม่เลิกราอีก" ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเก็บอสรพิษทั้ง 2 ตัวกลับเข้าแขนเสื้อ

ชายชราของตระกูลหยู เดินทางรอนแรมมาเกือบปี เพื่อเอาชีวิตมาทิ้งอย่างไร้ค่าที่เมืองหลวง..

หลังจากที่ริบแหวนมิติของพวกมันมา 2 วง ต้วนหลิงเทียนก็จุดเปลวเพลิงหลอมโอสถทำลายร่างของพวกมันจนเป็นเถ้าธุลี แล้วเขาก็เดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

บางทีอาจจะเป็นเพราะแหวนมิติของลุงหู ที่ต้วนหลิงเทียนได้รับมาเมื่อคืนนั้น มันมั่งคั่งเกินไป ทำให้เขาไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับเงินไม่กี่ล้านเหรียญเงินที่อยู่ในแหวนมิติของชายชราตระกูลหยู…แต่จะอย่างไรมีเงินมาให้ถึงที่หากเขาไม่นำไปใช้ มันก็น่าเสียดายนัก

ท้องฟ้าเริ่มมืดลงอย่างช้าๆ

หลังจากต้วนหลิงเทียนกินมื้อค่ำของเขาเสร็จแล้ว เขาก็ทำตามสัญญาณที่ให้ไว้กับอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัว ลงมือเข้าครัวจัดเสต็คชุดใหญ่ให้เจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ด้วยตัวเองทันที

แน่แน่นอนว่ามันไม่ใช่เนื้อธรรมดา แต่เป็นเนื้อสัตว์อสูร หนูใต้พิภพระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 3!

"เสี่ยวไป๋ ถึงมันจะอร่อยมากก็เถอะ แต่เจ้ากินเยอะเกินไปหรือไม่ ดูเจ้าสิตัวพองจนแทบแตกอยู่แล้ว?" น้ำเสียงแหลมเล็กขบขันพร้อมเป็นห่วงของเค่อเอ๋อพลันดังขึ้น นางลูบไปยังลำตัวของเสี่ยวป๋าย ที่กำลังนอนนิ่งเพราอิ่มจัด ส่วนกลางลำตัวของมันกลมป๊อกน่าขบขันนัก

อสรพิษน้อยสองตัวตอนนี้นอนแผ่อยู่บนโต๊ะ ช่วงกลางลำตัวที่น่าจะเป็นส่วนท้องนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด พวกมันคงไม่อาจเลื้อยขยับร่างไปไหนได้สักระยะ

ต้วนหลิงเทียนและลี่เฟยที่นั่งอยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นภาพอสรพิษน้อยอิ่มจนขยับไม่ได้

"หืม?" ทันใดนั้นเองทุกสายตาพลันจับจ้องไปยังอสรพิษน้อยทั้ง 2

เนื่องเพราะทุกคนสังเกตเห็นว่าอักขระและลวดลายบนร่างของอสรพิษน้อย กำลังเรืองวูบส่องแสงกระพริบออกมา…

ตอนนี้อักขระสีทองบนร่างกายของเสี่ยวเฮย และอักขระสีเงินของเสี่ยวไป๋ที่ทอประกายวูบวาบออกมา เริ่มเปล่งแสงเรืองรองออกมาจนเด่นชัด

และในที่สุดทั่วทั้งร่างของเสี่ยวเฮยก็ถูกล้อมไปด้วยแสงสีทอง ส่วนร่างของเสี่ยวไป๋ก็ถูกแสงสีเงินปกคลุมไปทั่ว

วู้มมม!

ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนก็สังเกตเห็นว่ามีประกายแสงเรืองรองส่องลงมาจากท้องนภา

"เอ๋ … นี่มัน พลังงาน แสงจันทรา?" ลี่เฟยร้องอุทานออกมา

"หืม? นี่หรือพลังงาน แสงจันทรา?" ต้วนหลิงเทียนประหลาดใจเล็กน้อย เขาเองก็จำได้ว่าวิชาบ่มเพาะ เอกะดาราสะท้าน ที่เขามอบให้ลี่เฟยฝึกฝนก็ต้องใช้พลังงานแสงจันทราและพลังงานแสงสุริยาในการฝึกฝนบ่มเพาะเช่นกัน พลังงานแสงทั้ง 2 ชนิด จะถูกดูดซับควบรวมไปหลอมรวมกับพลังงานต้นกำเนิดในร่างกาย

อย่างไรก็ตามเขาคาดไม่ถึงเลยว่า อสรพิษน้อยทั้ง 2 จะสามารถดูดซับพลังงานแสงจันทรา ได้เช่นนี้!

จากความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด มีเพียงวิชาบ่มเพาะระดับสูงล้ำเท่านั้น ที่สามารถดึงดูดพลังงานธรรมชาติอย่าง พลังงานแสงจันทรา และพลังงานแสงสิรุยามาบ่มเพาะได้ แน่นอนว่าวิชาเอกะดาราสะท้านที่เขามอบให้ลี่เฟยเอง ก็เป็นวิชาบ่มเพาะระดับสูงล้ำที่ว่านั่น

พลังงานแสงจันทราส่องลงมาอย่างนวลตา ราวกับผ้าคลุมหน้าบางๆที่แสนอ่อนโยน

"นี่…." ต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นว่า พลังงานแสงจันทราที่ฉายลงมายามนี้ มันเริ่มควบรวมเข้ากับ แสงสีทองของเสี่ยวเฮย และแสงสีเงินของเสี่ยวไป๋ที่ปกคลุมร่างกายของพวกมันอยู่ …

ทว่าแสงสีทองบนร่างของเสี่ยวเฮยและแสงสีเงินบนร่างของเสี่ยวไป๋ กลับไม่ยินยอมหลอมรวมกับพวกมันเพียงลำพัง ร่างของเสี่ยวเฮยยเสี่ยวไป๋ เริ่มขยับมาใกล้กัน แสงสีทองและแสงสีเงินรอบร่างกายของพวกมันพลันประสานหลอมรวม ก่อนที่จะดูดซับพลังแสงจันทราเข้ามาเป็นอย่างสุดท้าย

สุดท้ายแสงทั้ง 3 ชนิดพลันหลอมรวมผสานกัน

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม พลังแสงจันทราที่สาดส่องลงมาก็ค่อยๆจางหายไป ตอนนี้แสงสีทองบนตัวเสี่ยวเฮยและแสงสีเงินบนร่างเสี่ยวไป๋ ก็ค่อยๆหดหายไปในร่างของอสรพิษน้อยเช่นกัน

ด้วยพลังวิญญาณที่น่าหวาดหวั่นของต้วนหลิงเทียน เขาสามารถสังเกตร่างกายและพลังงานของอสรพิษน้อยทั้งสองได้ทันที และเรื่องแรกที่เขาสังเกตเห็นนั้น…

พวกมันดูเหมือนจะตัดผ่านระดับ!

ทั้งคู่ตอนนี้มีระดับบ่มเพาะอยู่ที่ วิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 5

"ฟ่อๆ ~"

"ฟ่อๆ ~"

ไม่นานอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวก็ชูคอผงกหัวลุกขึ้นมาตั้งลำตัวได้อีกครั้ง พวกมันแลบลิ้นแผล่บๆอย่างน่าเอ็นดู สายตาของพวกมันพลันหันไปหาเสต็คหนูพิภพที่ยังเหลืออยู่ ก่อนที่พวกมันจะเลื้อยไปกินอีกครั้ง…

ดูเหมือนว่าเนื้อที่พวกมันกินไปจนท้องป่องก่อนหน้านี้จะถูกย่อยไปหมดสิ้นด้วยความเร็วสูง ยามนี้พวกมันจึงต้องไปเติมเต็มกระเพาะที่ว่างเปล่าอีกครั้ง

ต้วนหลิงเทียนและ 2 สาวต่างจับจ้องไปยังเรื่องราวตรงหน้าด้วยความฉงน เพราะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

"เจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวนี้มันเป็นสัตว์อสูรชนิดใดกันแน่ถึงพิกลเช่นนี้? ช่างแปลกประหลาดจริงๆ" ต้วนหลิงเทียนทำได้เพียงหัวเราะออกมาอย่างเจื่อนๆ เขาไม่รู้จริงๆว่าต้นกำเนิดของอสรพิษน้อยทั้ง 2 ตัวนี้คืออะไรกันแน่ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด

จากเรื่องราวที่พวกมันได้แสดงออกมาตั้งแต่แรก ไมใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ที่พวกมันจะพัฒนาตัวเองจนเปลี่ยนเป็นสัตว์อสูรปีศาจได้ในอนาคต…

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 171 อสรพิษน้อย ทะลวงผ่าน!"

3.7 232 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

INVINCIBLE โลกอมตะ
INVINCIBLE โลกอมตะ
มีนาคม 12, 2022
Gate of God
Gate of God
พฤษภาคม 17, 2022
The Inverted dragons scale
The Inverted dragons scale
มีนาคม 12, 2022
กลืนดารา (Renew)
กลืนดารา (Renew)
พฤษภาคม 17, 2022
ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ข้าจะเป็นราชาอมตะ
กรกฎาคม 22, 2023
Eternal martial sorvereign
Eternal martial sorvereign
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz