หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 165 คนเราควรรู้ขีดจำกัดตัวเอง!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 165 คนเราควรรู้ขีดจำกัดตัวเอง!
Prev
Next

"ชายคนรัก?" ใบหน้าขององค์หญิงปี้เหยาพลันขึ้นสีในทันที

"องค์หญิง มันก็เป็นแค่การประลองชี้แนะเล็กน้อยอย่างที่องค์ชาย 3 กล่าวนั่นล่ะ ท่านเองก็อย่าได้กังวลไปเลย" ในขณะที่องค์หญิงปี้เหยาคิดจะกล่าวคำโต้แย้งองค์ชาย 3 ออกมา ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวแทรกคำออกมาก่อน เพื่อหยุดการกระทำของนาง

ใบหน้าที่สวยงามขององค์หญิงปี้เหยา พลันนิ่งค้างไปเล็กน้อย แสงโคมเทียนสาดส่องลงมาเผยให้เห็นแววตา กระจ่างใส่ราวผิวน้ำที่เริ่มบังเกิดระลอกเนื่องจากความกังวล ทั้งมันกำลังจับจ้องมายังต้วนหลิงเทียน

ต้วนหลิงเทียนเพียงพยักหน้าให้องค์หญิงปี้เหยา ก่อนที่เขาจะขยับปากทำราวกับกล่าววาจาแก่นาง

"อย่าได้กังวล!" นี่คือคำกล่าวไร้เสียง ที่ต้วนหลิงเทียนบอกองค์หญิงปี้เหยา

อารมณ์ความรู้สึกขององค์หญิงปี้เหยาพลันปะทุขึ้นเล็กน้อยยามเห็นภาพนี้นางนั่งลงอย่างสงบทันที ยามนี้นางเริ่มบังเกิดความอยากรู้ออกมาแล้วเช่นกัน ว่าเหตุใดชายหนุ่มที่มีอายุอานามไล่เลี่ยกับนาง ใยจึงมีความมั่นใจสูงถึงเพียงนี้ …

ฟุ่บ! ตุบ!

ต้วนหลิงเทียนนั้นไม่คิดรีรอ เขาพุ่งร่างไปยังที่ว่างของศาลากลางน้ำทันที

"ผู้ใดจะเป็นคนแรกเล่า?" ต้วนหลิงเทียนกวาดสายตามองไปยังเหล่าชายหนุ่มอัจฉริยะมากพรสวรรค์ที่ยืนอยู่รอบๆทั้งหมด ตอนนี้พวกมันแต่ละคนดูกระตือรือร้น และกระสันที่อยากจะกระโดดออกมาประลองกับต้วนหลิงเทียนทั้งสิ้น…พวกมันลุกขึ้นยืนอย่างพร้อมเพรียง

"ข้าเอง!" ชายหนุ่มสวมเสื้อสีเขียวกล่าวตะโกนออกมาเบาๆ พร้อมกับไม่รอช้า มันรีบพุ่งร่างมายังที่ว่างเพื่อเผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียน ราวกับกลัวผู้อื่นตัดหน้าอย่างไรอย่างนั้น

ต้วนหลิงเทียนที่ดูอยู่อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมาที่มุมปาก นี่เพราะผู้ที่มาก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวบัดซบซูหล่าน ที่วอแวกับเขาจนเริ่มรำคาญแล้วนั่นเอง

"องค์ชาย 3!" ตอนนี้เองซูหล่านพลันหันไปมององค์ชาย 3 และกล่าวออกมาด้วยความเคารพ "เช่นเดียวกับคำว่าดาบกระบี่ไร้นัยน์ตา ตัวข้าและต้วนหลิงเทียนเองต่างก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9 ทั้งคู่ การประลองนี้แม้จะเป็นการประลองชี้แนะแต่อย่างไรก็ต้องมีผู้ชนะ! เรื่องการบาดเจ็บล้มตายใดๆ มันก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ … "

"หากมีผู้ใดเสียชีวิต ข้าจักถือซะว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้แล้วกัน" องค์ชาย 3 พลันเบนสายตาไปมองยังต้วนหลิงเทียนทันที "น้องชายต้วนหลิงเทียนแล้วเจ้าคิดเห็นอย่างไร?"

ต้วนหลิงเทียนเพียงแย้มยิ้มออกมาอย่างไม่แยแส "ข้าเองก็เห็นด้วย"

สีหน้าขององค์หญิงปี้เหยาเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน แต่ในขณะที่นางจะกล่าวโต้แย้งอะไร ต้วนหลิงเทียนพลันมองมาที่นั่งพร้อมกับส่งสายตาราวกับจะบอกว่า ไม่เป็นอันใด ออกมา นางเองก็ได้แต่สงบลง ทว่าถึงแม้นางจะไม่ได้กล่าวอะไรออกมา แต่ความกังวลที่ฉายออกมาทางดวงตาก็เผยออกมาอย่างปิดไม่มิด

ครั้งแรกที่นางได้เห็นต้วนหลิงเทียนนั้น ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะดูหล่อเหลาและไม่ธรรมดา แต่นางก็ได้หามีปฏิกิริยาอันใดไม่ นั่นเพราะตัวนางเองย่อมเคยเป็นบุรุษหล่อเหลาและรูปงามมาไม่น้อยจนชินชา

แต่ทว่าเมื่อนางเห็นต้วนหลิงเทียนยังคงนิ่งสงบและคงสภาวะสูงส่งไม่แยแส ต่อเหล่าคำค่อนแขวะกระแนะกระแหนจากชายหนุ่มอัจฉริยะมากพรสวรรค์รอบๆ อีกทั้งนางยังเห็นต้วนหลิงเทียนเผยรอยยิ้มหยามหยันออกมา ราวกับมองดูตัวโง่งม …ภาพนั้นมันช่างตราตรึง และราวกับมีสายบ่วงอันใดผูกมัดใจของนางเอาไว้ …

ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่นางไม่เคยมีมาก่อน

และตอนนี้เมื่อนางต้องเห็นต้วนหลิงเทียนตกอยู่ในอันตราย ใจของนางพลันอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความกังวลและเป็นห่วงความปลอดภัยของต้วนหลิงเทียนอย่างมาก

"ต้วนหลิงเทียน ข้าจะฆ่าเจ้า!" มุมปากของซูหล่านแสยะออกมาเล็กน้อยก่อนจะกล่าวกับต้วนหลิงเทียน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการกล่าวคำโดยไม่ได้ออกเสียง แต่แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนย่อมอ่านริมฝีปากมันออก และรู้ว่ามันกล่าวอะไร

ฆ่าข้าหรือ? ต้วนหลิงเทียนไม่ได้สนใจอะไรในคำพูดนี้สักเพียงนิด มีคนมากมายในโลกนี้ที่ต้องการฆ่าเขาให้ตาย แล้วตอนนี้เขาตกตายรึยังเล่า?

มุมปากของต้วนหลิงเทียนพลันแสยะยิ้มออกมา ทั้งดวงตาของเขายังทอประกายเรืองวูบออกมาอย่างลึกล้ำ เขากล่าวออกมาอย่างไม่แยแสว่า "คนเราควรรู้ขีดจำกัดตัวเอง!"

วาจาที่กล่าวออกมาอย่างฉับพลันนี้ของต้วนหลิงเทียน แน่นอนว่าซูหลี่ย่อมรู้ความหมายที่แฝงเอาไว้อย่างดี

ใบหน้าของซูหล่านเคร่งขึ้น ทั้งยังเต็มไปด้วยโทสะ

"รนหาที่ตาย!" ประกายตาของซูหล่านแปรเปลี่ยนเป็นยะเยือก มันพุ่งร่างออกมาราวเสือชีต้า หมายฟาดต้วนหลิงเทียนให้ตกตาย

ทุกๆย่างก้าวของมันนั้นทำให้แผ่นดินสะเทือนอีกทั้งยังไถกวาดหน้าดินออกไปราวกับพายุถล่มพัดผ่านพื้นที่ เงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 12 ตัวฉายชัดอยู่เหนือศีรษะซูหล่าน

เพียงกระบวนท่าแรกมันก็ลงมืออย่างสุดกำลัง!

วิชาท่าร่างที่ซูหล่านใช้อยู่แน่นอนว่ามันต้องอยู่ระดับสูงมาก และหากมองไม่ผิดมันย่อมอยู่ระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง อีกทั้งยังมีความสำเร็จอยู่ในขั้นตอนแก่นแท้ กล่าวได้ว่าความเร็วของมันบรรลุขีดสุดเท่าที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9 ทั่วๆไปสามารถกระทำได้….และแน่นอนว่าย่อมหมายถึงผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9 ธรรมดาสามัญเท่านั้น

ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่อยู่ในขอบเขตนี้

องค์ชาย 3 นั่งมองฉากนี้ด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ดวงตาของมันส่อประกายเย็นชาออกมาไม่น้อย

แม้ว่าวันนี้มันจะได้พบกับต้วนหลิงเทียนเป็นครั้งแรก แต่มันกลับรู้สึกได้ว่าต่อไปต้วนหลิงเทียนต้องเป็นภัยคุกคามมันอย่างแน่นอน …

มันพลันสำเหนียกได้ทันทีว่าการคงอยู่ของต้วนหลิงเทียน ต้องทำให้หนทางการขึ้นเป็นองค์ราชาในอนาคตของมันพบเจออุปสรรคเป็นแน่ เช่นนั้นตอนนี้มันจึงไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่า ให้ซูหล่านสังหารต้วนหลิงเทียนจนตกตาย

องค์หญิงปี้เหยากุมมือเอาไว้แน่นพร้อมทั้งมองภาพตรงหน้าโดยไม่กระพริบตา หัวใจของนางเต้นระรัวราวกลองศึก … เพราะตอนนี้ชายหนุ่มชุดสีม่วงที่สายตาของนางจับจ้องอยู่นั้น ยังยืนอยู่กับที่หาได้เคลื่อนไหวแม้แต่ก้าวเดียว

ฟึ่บ!

ซูหล่านพุ่งร่างมาถึงต้วนหลิงเทียนภายในพริบตา และเมื่อมันเห็นว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้ทำอะไรเลย แม้แต่จะขยับสักนิ้วก็ไม่มี มันพลันแสยะยิ้มออกมาที่มุมปาก

ฝ่ามือตาข่ายคลุมฟ้า!

วิชายุทธ์จู่โจมระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง!

ฝ่ามือของซูหล่านเรืองวูบขึ้นมาด้วยแสงของพลังงานต้นกำเนิด ก่อนที่จะระเบิดออกก่อเกิดเป็นภาพฝ่ามือจำนวนมากมายพร่างพราวเต็มท้องฟ้า ปิดล้อมต้วนหลิงเทียนเอาไว้ทุกทาง อีกทั้งพวกมันกำลังฟาดลงมาอย่างพร้อมเพรียง

"ไม่นะ!" เมื่อเห็นการโจมตีสุดกำลังของซูหล่านกำลังซัดไปยังต้วนหลิงเทียน องค์หญิงปี้เหยาพลันลุกขึ้นยืนและตะโกนออกมาทันที

"ต้วนหลิงเทียนผู้นี้อวดดีนัก!" ความคิดเดียวกันนี้บังเกิดกับเหล่าชายหนุ่มอัจฉริยะมากพรสวรรค์ทุกคนในงาน พวกมันทุกคนล้วนแสยะยิ้มเย้ยหยัน นี่เพราะพวกมันคิดว่าต้วนหลิงเทียนวางท่ามาก แต่กลับทำอะไรไม่ได้ใกล้จะถูกฟาดจนตกตาย

ใบหน้าขององค์ชาย 3 เองก็เริ่มบังเกิดรอยยิ้มขึ้นมาเช่นกัน

ประกายตาของซูหล่านปรากฏแววเริงร่าออกมาราวคนวิกลจริต เรื่องที่มันคิดมีเพียง ตราบใดที่ฝ่ามือนี้บรรลุเป้าหมายฟาดตบไปยังต้วนหลิงเทียนเมื่อไหร่ ชายหนุ่มที่มันรู้สึกอิจฉาและจงเกลียดจงชังผู้นี้จะหายไปตลอดกาล

ทันใดนั้นมุมปากของมันเริ่มแย้มยิ้มออกมาอย่างน่าเกลียด อีกทั้งใบหน้ายังฉายชัดออกมาถึงความปิติยินดี…

ทว่าเสี้ยวพริบตานั้นเองต้วนหลิงเทียนพลันขยับร่างกายเล็กน้อย ก่อนที่พลังงานต้นกำเนิดจะปะทุพวยพุ่งออกมาในปริมาณมหาศาลจนเกือบมีความแข็งแกร่งเทียบเท่า 13 ช้างแมมมอธโบราณ แต่จะอย่างไรก็ตามภาพเงาร่างช้างแมมมอธโบราณที่ฉายชัดเหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนมีเพียง 12 ตัวเท่านั้น

พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล!

ต้วนหลิงเทียนใช้พลังงานต้นกำเนิดที่แผ่พุ่งออกมาโคจรตามเคล็ดวิชาพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลอันเป็นวิชาป้องกันที่เขาฝึกฝนจนบรรลุความสำเร็จขั้นตอนแก่นแท้ เกราะพลังงานต้นกำเนิดพลันก่อเกิดเคลือบร่างเอาไว้ในทันทีทันใดอย่างทันท่วงที

ปงงงง!!

ฝ่ามือตาข่ายคลุมฟ้าทำได้เพียงฟาดปะทะเข้ากับเกราะพลังงานต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียนเท่านั้น แน่นอนว่าทำได้เพียงสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงให้แก่เกราะพลังงานต้นกำเนิดนี้ของต้วนหลิงเทียนหาได้แหวกฝ่าไปทำร้ายร่างกายไม่

"อ๊าค!" และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ฝ่ามือของมันฟาดปะทะลงมา หลังจากที่เกราะพลังงานต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียนสั่นสะท้านเล็กน้อย พลังทำลายทั้งหมดที่มันซัดออกมาพลันสะท้อนกลับตามแนวทางพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลของต้วนหลิงเทียน ดั่งหอกนั้นคืนสนอง ระเบิดร่างมันให้กระเด็นไปจนตกทะเลสาบน้ำกระเซ็นฉาดใหญ่ ทันที!

และเมื่อบรรลุหน้าที่แล้วเกราะพลังงานต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียนก็สลายไป

สีหน้าของต้วนหลิงเทียนพลันขึ้นสีแดงเล็กน้อย เพราะว่าถึงแม้เกราะพลังงานต้นกำเนิดจะสามารถปกป้องร่างกายเขา รวมทั้งย้อนทวนพลังงานซัดใส่ศัตรูไปได้อย่างแยบยล ทว่าอย่างไรฝ่ามือของซูหล่านก็ใช้ออกมาด้วยความแข็งแกร่งสูงถึง 12 ช้างแมมมอธโบราณ อวัยวะภายในของต้วนหลิงเทียนเองก็อดไม่ได้ที่จะรับแรงกระแทกมาเล็กน้อย

แต่ก็นับว่าโชคดีเพราะร่างกายของต้วนหลิงเทียนเองนั้นกล่าวได้ว่าแข็งแกร่งมากกว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วๆไปมากโข!

และถึงแม้ว่าเขาจะใช้พลังงานต้นกำเนิดเร่งเร้าความแข็งแกร่งให้สูงถึง 13 ช้างแมมมอธโบราณเพื่อสร้าง กำแพงพลังงานต้นกำเนิด อวัยวะภายในของเขาก็จะยังคงได้รับแรงกระแทกเล็กน้อยอยู่ดี

วิชายุทธ์ป้องกันนั้นมันมีความสามารถในการหักล้างการโจมตีจากผู้ฝึกยุทธ์ที่มีความแข็งแกร่งเท่ากันได้ก็จริง แต่มันก็สามารถทนรับได้เพียงแค่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับต่ำๆเท่านั้น เมื่อบรรลุระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9 ไปแล้ว กำแพงพลังงานต้นกำเนิดไม่ได้กันได้อย่างสมบูรณ์อีกต่อไป

องค์ชาย 3 และชายชราที่ยืนอยู่ด้านหลัง อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน “ย้ายดารา”

พวกเขาสามารถมองออกได้ทันทีว่าวิชาป้องกันที่ต้วนหลิงเทียนพึ่งใช้เมื่อครู่นั้น ย่อมเป็นวิชาป้องกันตัวที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเซี่ยว ย้ายดารา แน่นอน!!

พวกเขาอดที่จะสงสัยและสับสนไม่ได้ เพราะเหตุใดกันต้วนหลิงเทียนถึงมีวิชาย้ายดารา อันเป็นวิชาที่ตระกูลเซี่ยวจะถ่ายทอดให้เฉพาะคนของตระกูลเซี่ยวเท่านั้นกัน?

ไหล่ของซูหล่านถูกพลังตีกลับจนกระดูกแขนแตกสลายห้อยตกลงอย่างไม่อาจควบคุมได้ มันขึ้นจากน้ำอย่างยากลำบาก ทั้งยามนี้มันยังบังเกิดความเสียใจอย่างถึงที่สุด

และในพริบตาต่อมา ม่านตาของซูหล่านพลันเบิกกว้างขึ้น สีหน้าของมันเปลี่ยนเป็นหวาดผวา จนอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องโหยหวนออกมาด้วยความหวาดกลัว “ไม่นะ!”

นั้นเพราะมันเห็นว่าต้วนหลิงเทียนยังไม่รามือและกำลังลงมือต่อเนื่องสืบต่อมา….ทว่ายามนี้แขนของมันใช้การไม่ได้แล้ว จะให้มันต้านทานต้วนหลิงเทียนได้อย่างไร!

วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

ก่อนที่ทุกคนจะรู้สึกตัวและลงมือทำอะไร เนื่องเพราะความตกตะลึงก่อนหน้านี้ ต้วนหลิงเทียนก็บรรลุถึงตัวซูหล่านแล้ว

ฝ่ามือพิชิตมังกร!

ต้วนหลิงเทียนไม่ได้โบกมือหรือใช้ฝ่ามือลวงตาตามเคล็ดวิชาหลอกล่ออะไรออกมา เขาเลือกที่จะจี้ดัชนีรวมศูนย์ไว้ด้วยพลังงานต้นกำเนิดออกมาทันที และดัชนีนี้ก็พุ่งวาวกับดาวตกแหวกฝ่าอากาศดังหวีดหวิวไปยังกลางอกของซูหล่าน

ตาของซูหล่านเบิกกว้างออก มันรีบรีดเค้นพลังงานต้นกำเนิดทั้งหมดโคจรใช้ออกด้วยวิชาป้องกันอย่างสุดชีวิต

เกราะพลังงานต้นกำเนิดพลันฉาบปกคลุมร่างของมันในทันทีทันใด

"กำแพงพลังงานต้นกำเนิดงั้นหรือ ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างนักหรอก?" รอยยิ้มเย้ยหยันของต้วนหลิงเทียนพลันบังเกิดขึ้นที่มุมปาก ดัชนีของเขาจี้ไปยังกลางอกของซูหล่านโดยไม่คิดสนใจกำแพงพลังงานต้นกำเนิดใดๆทั้งสิ้น เขาจี้ทำลายเกราะพลังงานต้นกำเนิดจนมันทะลวงเป็นรูได้อย่างง่ายดาย…

ทว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้ฝืนใช้ดัชนีที่ถูกลอดทอนพลังงานต้นกำเนิดทำร้ายซูหล่านแต่อย่างใด ในชั่วพริบตาเขากลับชักมือกลับด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะโคจรพลังงานต้นกำเนิดด้วยความเร็วเหนือชั้น ใช้ออกด้วยดัชนีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานต้นกำเนิดที่รวมศูนย์เอาไว้อย่างเต็มกำลังอีกครั้ง จี้ซ้ำไปยังกลางอกซูหล่านทันที!!

และครานี้พลังทำลายเต็มกำลังของวิชา ก็ทำให้ดัชนีของต้วนหลิงเทียนทะลวงกลางอกของซูหล่านราวกับมีดปาดเนย บรรลุถึงหัวใจซูหล่านทั้งยังระเบิดหัวใจมันเป็นเสี่ยงๆ แหลกเละกระจายในชั่วพริบตา!

ตึก!

ร่างกายซูหล่านสั่นสะท้าน สองตาเบิกกว้างก่อนที่จะล้มลงไปแน่นิ่งบนพื้น ตกตายคาที่!

เมื่อร่างกายซูหล่านนอนแน่นิ่งบนพื้น หยาดโลหิตอุ่นก็เริ่มพรั่งพรูทะลักล้นออกมาจากรูกลางอก พร้อมเศษเนื้อเลอะเลือน เจิ่งนองไปทั่ว

"เฮ่อ ข้าก็บอกเจ้าแล้ว … ว่าคนเราควรรู้ขีดจำกัดตัวเอง!" ต้วนหลิงเทียนพลันนั่งยองๆลง ก่อนที่จะกล่าวออกมาพร้อมถอนหายใจดังเฮือก…ในขณะที่เขาเอื้อมมือไปปิดตาที่เบิกกว้างของซูหลี่

หลังจากนั้นเขาก็ยืนขึ้นแล้วหันไปมองเหล่าชายหนุ่มอัจฉริยะมากพรสวรรค์รอบๆ ด้วยรอยยิ้ม…สีหน้าของพวกมันตอนนี้แลดูหวาดกลัวอีกทั้งยังซีดเซียวไม่น้อย

"เอาล่ะ คราวนี้ผู้ใดจะเป็นรายต่อไปหรือ?" ยามกล่าวรอยยิ้มของต้วนหลิงเทียนสลายหายไป กลับกลายเป็นสายตาเย็นชามาแทนที่ ก่อนที่จะกวาดสายตาไปรอบๆ

เหล่าชายหนุ่มอัจฉริยะมากพรสวรรค์ทั้งหลาย ทำได้เพียงหลบสายตาของต้วนหลิงเทียนและหันมองหน้ากันเองเท่านั้น หามีใครกล้าแสดงตัวออกมาอีก เพราะยามนี้พวกมันได้ประจักษ์ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนแล้ว

ก่อนการประลองครั้งนี้ พวกมันล้วนคิดว่า ที่ต้วนหลิงเทียนเอาชนะมาได้เป็นเพราะใช้อาวุธวิญญาณระดับ 7 เท่านั้น แต่ตอนนี้พวกมันรับรู้แล้วว่า ต่อให้ไม่มีอาวุธวิญญาณระดับ 7 แต่ต้วนหลิงเทียนก็หาได้ง่ายดายไม่ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9 ทั่วๆไปไม่ใช่คู่มือของเขาอย่างแน่นอน!!

ยามนี้พวกชายหนุ่มทั้งหมดล้วนจับจ้องไปยังซูหล่านที่นอนเป็นศพด้วยสายตาหวาดกลัว แต่พวกมันก็อดถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและรู้สึกว่าตัวโชคดีขึ้นมาไม่ได้ ที่ไม่ได้ออกไปท้าทายต้วนหลิงเทียน ก่อนซูหล่าน! หาไม่แล้วคนที่ตายคงเป็นพวกมันเอง

"องค์ชาย 3 เช่นนี้จะเอายังไงต่อดี?" ต้วนหลิงเทียนเพียงสยบเหล่าชายหนุ่มมากพรสวรรค์ทั้งหลายในงานด้วยสายตา เมื่อไม่มีใครกล้าสู้แล้ว เขาก็หันกลับมากล่าวถามองค์ชาย 3 พร้อมรอยยิ้มทันที

ถึงแม้ว่ายามนี้องค์ชาย 3 จะยังคงมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า แต่รอยยิ้มของเขาแลดูไปก็แปลกประหลาดไม่น้อย "ข้าไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า น้องชายต้วนหลิงเทียนจะฝึกวิชาป้องกันย้ายดาราของตระกูลเซี่ยวเช่นนี้ … แต่จะอย่างไรเรื่องที่จะไปเดินเล่นชมวิวรอบทะเลสาบนี่ก็ต้องถามความสมัครใจของน้องสาวข้าก่อน.."

"เฮ่ เรื่องนี้องค์ชาย 3 อย่าได้เป็นกังวล"ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มออกมาอย่างไม่แยแส ก่อนที่ร่างของเขาจะวูบไหวดังลมพายุเคลื่อนไปด้านข้างองค์หญิงปี้เหยาทันที เขายื่นมือออกไปกุมมือองค์หญิงปี้เหยาในฉับพลัน

ร่างที่บอบบางอ้อนแอนอรชรขององค์หญิงปี้เหยาพลันสะท้านราวกับต้องสายฟ้า พวงแก้มของนางเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างควบคุมไม่ได้

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่นางถูกบุรุษกุมมือเอาไว้เช่นนี้

"องค์หญิง ท่านออกไปเดินเล่นกับข้าหน่อยเป็นไร?" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าเบาๆ ให้องค์หญิงปี้เหยา

องค์หญิงปี้เหยาเพียงพยักหน้ารับด้วยความเขินอาย

รอยยิ้มขององค์ชาย 3 พลันสลายหายไปทันที หลังเห็นต้วนหลิงเทียนกุมมือองค์หญิงปี้เหยา และเดินจากไปในลักษณะนี้ มันราวกับว่า…ต้วนหลิงเทียนจงใจแสดงภาพนี้หยามหน้าเขาอย่างไรอย่างนั้น…

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 165 คนเราควรรู้ขีดจำกัดตัวเอง!"

3.7 233 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Divine Beast Adventures
Divine Beast Adventures
มีนาคม 12, 2022
กลืนดารา (Renew)
กลืนดารา (Renew)
พฤษภาคม 17, 2022
รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ ( 末世虐杀游戏最新章节 )
รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ ( 末世虐杀游戏最新章节 )
มีนาคม 12, 2022
พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
มีนาคม 12, 2022
ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ข้าจะเป็นราชาอมตะ
กรกฎาคม 22, 2023
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
มิถุนายน 26, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz