หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 158 ตระกูลต้วน

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 158 ตระกูลต้วน
Prev
Next

ณ โรงอาหารของสถาบันบ่มเพาะขุนพล

กลุ่มของต้วนหลิงเทียนยามนี้ก็มานั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต๊ะในโรงอาหาร และต้วนหลิงเทียนก็กำลังคีบอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อย ราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเมื่อสักครู่ ไม่ได้มีผลกระทบใดๆต่อเขาสักเพียงนิด

ในขณะที่เซี่ยวหยู,เซี่ยวฉวิน และเทียนหูนั้นจะไม่ค่อยกินอะไรสักเท่าไร พวกเขาดูเหมือนจะเสียความอยากอาหารไปตั้งแต่เห็นฉากเลือดสาดเมื่อสักครู่ พวกเขาทำเพียงกระพริบตาปริบๆ พอจะคีบกินอาหารก็เหมือนว่าภาพต้วนหลิงซิ่งถูกปาดคอ หรือถูกสะบั้นแขนขาจะลอยมา ทำให้พวกเขากินอะไรไม่ลง มีเพียงซูหลี่เท่านั้นที่คล้ายกับหลิงเทียน และดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร

“ระดับบ่มเพาะสูงถึงก่อกำเนิดขั้นที่ 9 ทั้งยังมีอาวุธวิญญาณระดับ 7 หากไม่ใช่เจ้าลงประลองเป็นตายกับต้วนหลิงซิ่ง พวกเราคงยังถูกเจ้าปิดบังเอาไว้ได้อบ่างมิดชิด” เทียนหูถอนหายใจออกมาพร้อมยิ้มเจื่อนๆ

ต่อหน้าต้วนหลิงเทียน ความสามารถและพรสวรรค์ของเขาที่เคยถูกเรียกว่าอัจฉริยะกลับกลายเป็นเพียงขยะตัวหนึ่งเท่านั้น! แต่เขาก็รู้ดีว่าเขาไม่ควรเอาตัวไปเปรียบเทียบกับตัวประหลาดต่อต้านสวรรค์ตัวนี้ หากเขาเปรียบเทียบกับคนปกติคงจะดีเสียกว่า

"มิผิด แม้กระทั่งข้าเองยังถูกปิดหูปิดตามาเสียนาน" ยามนี้สายตาที่เซี่ยวหยูใช้จับจ้องต้วนหลิงเทียนเต็มไปด้วยความซับซ้อน เขาคิดว่าหากต้วนหลิงเทียนยังเติบโตไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ สักวันเขาอาจจะมีหนทางติดตามต้วนหลิงเทียนได้ทันในเส้นทางยุทธ์นี้ แต่ใครจะไปรู้กันว่าเพียงพริบตาเดียวความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนกลับทะยานพุ่งไกลออกไปจนตัวเขานั้นทำได้เพียงเหม่อมองเงาหลังและเดินตามรอยฝุ่นเท่านั้น!

"แต่สิ่งที่ข้าคาดไม่ถึงที่สุด กลับเป็นเรื่องหลัง…ที่แท้เจ้าเป็นถึงบุตรชายของท่านต้วนหรูเฟิง นั่นย่อมหมายความว่าเจ้าเองก็เป็นสาวกสายหลักของตระกูลต้วน" เซี่ยวฉวินหรี่ตามองต้วนหลิงเทียนเล็กน้อย แววตาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

"ข้าเป็นบุตรชายของต้วนหรูเฟิงจริง … แต่ข้าไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับตระกูลต้วน!หลิงเทียนเพียงกล่าวตอบคำเซี่ยวฉวินไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆแฝงความไม่พอใจเอาไว้เล็กน้อย เขานั้นชิงชังคนตระกูลต้วนอย่างมาก เขาไม่ชอบให้ใครมาเหมารวมเขาเป็นคนตระกูลต้วน

เซี่ยวฉวินเพียงสงสัยและงุนงงกับท่าทีนี้ของหลิงเทียนเล็กน้อย แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความเกลียดชังบางอย่างจึงไม่คิดจะถามอะไรให้มากความอีก

เขาย่อมเห็นได้ชัดว่าต้วนหลิงเทียนนั้นดูเหมือนจะไม่ลงรอยกับตระกูลต้วนสักเท่าไร

ในเวลาเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกำลังเพลิดเพลินกับมื้ออาหารแสนอร่อย ต้วนหรงเองก็หอบหิ้วร่างไร้วิญญาณของต้วนหลิงซิ่งกลับตระกูลต้วน

ในลานกว้างขนาดใหญ่ร่างไร้วิญญาณของต้วนหรงนอนอยู่ที่นั่นในสภาพซีดเซียวแทบไม่หลงเหลือโลหิตสักหยด รอยโลหิตบนร่างของเขาก็เริ่มแห้งกรังไปบ้างแล้ว

“ลูกซิ่ง!” เสียงพื้นดินสั่นสะเทือนดังตึงตังดังขึ้นมาจากฮูหยินที่หนักไม่ต่ำกว่า 300 ชั่งกำลังวิ่งมา หยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาจากดวงตาหยีๆที่ยามนี้มีแต่สีแดงก่ำ นางไม่อาจทำใจรับเรื่องราวตรงหน้าได้ว่ามันเป็นความจริง

ร่างหนึ่งพุ่งมาด้วยความเร็วอย่างถึงขีดสุดในชีวิตมัน พร้อมกับตะโกนออกมาดังลั่นลานกว้าง ราวกับเสียงอัสนีร่ำร้อง “ลูกซิ่ง”

เป็นร่างของชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง รูปลักษณ์สง่างามดูหรูหรามีระดับ เห็นได้ชัดเจนว่าเขาคงมีระดับที่สูงและฐานะร่ำรวยไม่น้อย

เมื่อเขามาถึงลานกว้างแห่งนี้เขาก็ร่ำไห้ออกมา ดวงตาของเขาก็แดงก่ำและเต็มไปด้วยความเกลียดชังเช่นกัน ตอนนี้ความเคียดแค้นที่ราวกับเพลิงกัลป์กำลังปะทุอยู่ในอกของเขา …

“ไม่ว่ามันจะเป็นผู้ใด ข้าจะเผามันให้เป็นเถ้าถ่าน แล้วสาดกระจายเถ้ากระดูกมัน!” น้ำเสียงของต้วนหรูเล่ยเต็มไปด้วยความเคียดแค้นอย่างถึงขีดสุด

"พี่รอง ข้าได้ยินมาว่าต้วนหลิงซิ่ง … " ร่างอีกร่างหนึ่งพลันเดินเข้ามายังลานกว้างแห่งนี้พร้อมกล่าวถามขึ้น ก่อนที่จะเงียบลงเมื่อเห็นร่างไม่สมประกอบที่นอนอยู่บนลานกว้าง เขาคือต้วนหรูหงอาวุโสลำดับที่ 4

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีชายชราท่าทางมีอายุมากแล้วกำลังเดินเข้ามาในลานกว้างอย่างช้าๆ ชายชราทั้ง 3 นั้นถูกนำมาด้วยชายวับกลางคนที่สวมเสื้อคลุมสีขาวขลิปทอง

ชายวัยกลางคนมีรูปลักษณ์ภูมิฐานแลดูแข็งแกร่งองอาจ การเคลื่อนไหวทุกย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉงแลดูมั่นใจในตัวเองอย่างสูง … เขาคือประมุขตระกูลต้วน, ต้วนหรูหั่ว!

"น้องรอง ,น้องสะใภ้ ข้าเสียใจด้วย" ต้วนหรูหั่วกล่าวออกมาพร้อมถอนหายใจ ขณะที่มองไปยังต้วนหรูเล่ยและภรรยาของมัน

"น้องรองมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?" สีหน้าของต้วนหรูหงแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง น้ำเสียงของมันรุนแรงขึ้นมาไม่น้อย ดูท่ามันเองก็บังเกิดโทสะขึ้นมากมายเช่นกัน…

"ข้าเองก็พึ่งกลับมา" ต้วนหรูเล่ยกล่าวจบ ก็หันไปมองสตรีร่างอ้วน เมื่อร่างอ้วนถูกหันมามอง นางก็เบนสายตาจากดวงตาที่แดงก่ำไปยังต้วนหรง "เป็นต้วนหรงที่นำร่างกายของลูกซิ่งกลับมา … ต้วนหรง! ไอ้สารเลวบัดซบตัวใดกันที่มันกล้าสังหารลูกข้าเช่นนี้?!!"

เมื่อกล่าวถึงท้ายประโยคน้ำเสียงของนางก็สั่นเครือและเริ่มเต็มไปด้วยโทสะยากระงับ นางหันไปจับจ้องต้วนหรงด้วยแววตาน่าหวาดกลัว

และตอนนี้เองทุกสายตาก็จับจ้องมายังต้วนหง

ต้วนหรงที่ตกเป็นเป้าสายตาและศูนย์รวมความสนใจ กล่าวตอบออกมาด้วยความหวาดกลัวพร้อมทั้งร่างกายที่สั่นระริก "ท่านป้า ปะ..เป็นต้วนหลิงเทียนที่เป็นผู้ลงมือขอรับ!"

ต้วนหลิงเทียน?

สตรีอ้วนฉุถึงกับตกตะลึงค้างจนสติหลุดลอยไปครู่หนึ่ง

"เจ้าว่าอันใดนะ?" สีหน้าของอาวุโส 4 ต้วนหรูหงเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ก่อนที่จะมองไปยังต้วนหรงด้วยสายตาที่กำลังจับผิด "เจ้ามั่นใจหรือว่าผู้สังหารมีนามว่าต้วนหลิงเทียน?"

ชื่อต้วนหลิงเทียนนี้เขาคุ้นหูนัก!

ลูกชายของต้วนหรูเฟิงเองก็มีนามว่าต้วนหลิงเทียนเช่นกัน และเขาเองก็ได้พบกับต้วนหลิงเทียนเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่ออกไปทำธุระกับต้วนหลิงซิ่งแล้วบังเอิญผ่านเมืองวายุโปรย

"เขาเป็นบุตรชายของ ต้วนหรูเฟิง มีนามว่าต้วนหลิงเทียน ไม่ผิดแน่!" ต้วนหรงกัดฟันอย่างหนักในขณะที่พูดออกมา

นอกเหนือจากต้วนหรูหงคนอื่นๆในตอนแรกนั้นยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรมากนักกับนามที่ชื่อต้วนหลิงเทียนนี้มากนัก

แต่พอชื่อ ต้วนหรูเฟิงดังขึ้น …ทำให้พวกมันตื่นตัวขึ้นมาในทันทีทันใด

"เป็นไปไม่ได้!" ต้วนหรูหงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ข้าได้พบกับต้วนหลิงเทียนเมื่อ 2 ปีก่อน และตอนนั้นเขาเป็นเพียงผู้บ่มเพาะร่างกายระดับต้นๆ เท่านั้น มันพึ่งผ่านไปแค่ 2 ปี แล้วเขาจะมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะฆ่าต้วนหลิงซิ่งได้อย่างไร? นอกจากนี้มันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับเขา ที่จะมีปัญญามายังเมืองหลวงแห่งนี้" ต้วนหรูหงกล่าวยืนกรานออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อคำกล่าวของต้วนหรง

“มันเป็นเรื่องจริงนะขอรับ! ยามนี้ต้วนหลิงเทียนสมควรมีอายุประมาณ 18 ปี อีกทั้งเขาเองก็อยู่ที่สถาบันบ่มเพาะขุนพล!…” แล้วต้วนหรงก็ค่อยๆเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดออกมาด้วยดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยน้ำตา

ต้วนหลิงเทียน!

อายุ 18 ปี!

ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9!

อาวุธวิญญาณระดับ 7!

ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามที่ต้วนหรูหงกล่าวออกมาล้วนสร้างความตื่นตระหนก จนอกสั่นขวัญแขวนแทบจะลืมหายใจทั้งสิ้น แม้แต่ต้วนหรูหงเองก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง ชายหนุ่มคนนั้นพึ่งมีระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นต้นๆเท่านั้นเมื่อ 2 ปีที่แล้วแล้วเขากลับกลายมาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นสูงสุดเช่นนี้ได้อย่างไร

และหลังจากที่ยืนยันได้แล้วว่าผู้ที่ฆ่าต้วนหลิงซิ่งเป็นใคร พวกเขาเองก็รู้สึกลำบากใจไม่น้อย เพราะหากวัดกันที่ลำดับสถานะทั้งคู่ล้วนมีฐานะที่เท่าเทียมกัน ความรู้สึกจนปัญญาและไม่รู้จะทำอย่างไรดีเริ่มบังเกิดกับต้วนหรูหง …

"เป็นไอ้สารเลวบัดซบนั่น" เสียงของสตรีอ้วนยามนี้ช่างหนาวเย็นเสียดกระดูกราวกับเป็นเสียงที่มาจากขุมนรกอเวจี

"แล้วเหตุใด ยามนั้น เจ้าไม่ห้ามปรามต้วนหลิงซิ่ง มิให้มันรับคำท้าประลองเป็นตายกันเล่า?" สายตาของประมุขตระกูลต้วน ต้วนหรูหั่วจ้องเขม็งไปยังต้วนหรง ก่อนจะกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ

ต้วนหรงเพียงแย้มยิ้มอย่างขมขื่นออกมา "ข้าพยายามถึงที่สุดแล้ว แต่ท่านพี่ก็ไม่ยอมฟังคำของข้าแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งข้าเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าต้วนหลิงเทียนจะมีความแข็งแกรงมากมายถึงเพียงนี้!"

"ที่แท้ เป็นบุตรชายต้วนหรูเฟิง!"

"บุตรชายต้วนหรูเฟิงงั้นหรือ…ตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9 ได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี … พรสวรรค์ตามธรรมชาติของเขานับว่าเหนือกว่าหรูเฟิงเสียอีก!"

"ท่านประมุข จะอย่างไรต้วนหลิงซิ่งก็ตกตายลงเพราะการประลองเป็นตาย อีกทั้งตัวมันเองก็ได้ลงนามยินยอมไปแล้วด้วย นี่ไม่อาจโทษใครได้นอกจากตัวมันเองที่มั่นใจมากเกินไป! นอกจากนั้นต้วนหลิงเทียนเองก็นับได้ว่าเป็นสายเลือดหลักของตระกูลต้วน เช่นนั้นพวกเราควรให้เขากลับมากราบไหว้บรรพชน รับรู้สถานะที่แท้จริงของเขา และต้องให้เขากลับเข้าตระกูล ! " ชายชราอาวุโส 3 คนที่ยืนอยู่ด้านหลังของต้วนหรูหั่วกล่าวออกมา

ภายในแววตาของพวกเขายามนี้นั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ตั้งแต่ต้วนหลิงซิ่งได้ลงนามประลองเป็นตายไปแล้วก็กล่าวได้ว่าต่อให้ผู้ฆ่าจะเป็นใครก็ตาม ตระกูลต้วนก็ไม่มีสิทธ์ที่จะเข้าไปก้าวก่าย แล้วจะนับประสาอะไรกับผู้ที่ลงมือฆ่าเป็นต้วนหลิงเทียน…

ปัจจุบันตอนนี้พวกเขาคิดถึงแต่บุคคลที่ลงมือสังหารต้วนหลิงซิ่ง , ต้วนหลิงเทียนนั่นเอง! นี่เพราะพรสวรรค์ตามธรรมชาติในเชิงยุทธ์ของเขานั้นทำให้พวกเขาอดประหวั่นจนเนื้อเต้นไม่ได้!

ในปีนั้นทุกคนในตระกูลต้วนเองก็บังเกิดความหวังว่าต้วนหรูเฟิงที่เป็นอัจฉริยะ มีโอกาสที่จะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับ ธรรมชาติ และนำพาตระกูลต้วนให้รุ่งโรจน์ทัดเทียมกับตระกูลราชวงศ์!

แต่น่าเสียดายที่ต่อมาต้วนหรูเฟิงก็หายตัวไปเสียก่อน

แต่ตอนนี้หลายปีผ่านไป บุตรชายของต้วนหรูเฟิง , ต้วนหลิงเทียนได้ปรากฏกายขึ้นมา ซ้ำเขาไม่ใช่แค่สามารถเทียบรอบเท้าบิดาของเขาได้ แต่พรสวรรค์ของเขานั้น กลับเหนือล้ำยิ่งกว่าบิดาเสียอีก! นี่ทำให้พวกเขาบังเกิดความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

สำหรับพวกเขาตระกูลต้วน … ต้วนหลิงเทียนเป็นดั่งดาวความหวังของพวกเขา!

เพื่อประโยชน์ของตระกูลต้วนแล้ว จะไปนับประสาอะไรกับเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนจะเข่นฆ่าต้วนหลิงซิ่ง ต่อให้ต้วนหลิงเทียนฆ่ามันโดยไม่มีเหตุผลคนตระกูลต้วนก็คงไม่กล่าวว่าอะไรเขามาก แล้วนี่เป็นการสังหารในการประลองเป็นตายเช่นนี้อีกด้วย ตระกูลต้วนย่อมไม่คิดใส่ใจอะไร

นั่นเพราะมูลค่าของต้วนหลิงเทียน ต่อให้มี 100 ต้วนหลิงซิ่งก็ไม่อาจนำมาเทียบได้

ในโลกนี้ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่ง มันเป็นสัจธรรมที่เย็นชาและเป็นความจริงอันโหดร้าย

และนี่คือความโหดร้ายของตระกูลใหญ่ … หากเจ้าสามารถทำประโยชน์ให้แก่ตระกูลได้เจ้าก็เป็นดั่งสมบัติของตระกูล แต่หากเจ้าไม่อาจทำประโยชน์อะไรได้ก็เป็นแค่เศษหญ้าเท่านั้น!

"ผู้อาวุโส ท่านกล่าวเช่นนี้หมายความว่าอะไร?" ดวงตาเล็กๆ ของสตรีอ้วนกระพริบเล็กน้อย ก่อนที่จะฉายแววหม่นหมองพร้อมกล่าวออกมาด้วยความคับแค้นใจ "ต้วนหลิงซิ่งบุตรข้าก็เป็นสายเลือดหลักของตระกูลต้วน ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีการลงนามยินยอมรับความตายในการประลองเป็นตายแล้วก็จริง แต่ไอบัดซบนั่นก็ไม่ควรฆ่าบุตรชายข้า ต้วนหลิงซิ่งเป็นถึงพี่ชายมัน! เป็นคนตระกูลเดียวกัน! ไอบัดซบที่ไร้ปราณีเช่นนี้สมควรต้องตาย หากคนเช่นมันเข้ามาในตระกูลต้วน แล้วผู้ใดจะรู้ว่ามันจะทำอันใดบ้าง "

"หากตระกูลต้วนไม่คิดจัดการเรื่องนี้ให้เหมาะสม ข้าอวิ๋นผิงจะลงมือจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเอง!" เมื่อสตรีอ้วนฉุกล่าวออกมาจบคำ กลิ่นอายเย็นชาหนาวเหน็บและความอำมหิตก็แผ่ซ่านออกมาอย่างน่าหวาดกลัว …

สีหน้าของชายชราเองก็แปรเปลี่ยนเป็นขุ่นเคืองเช่นกัน สตรีอ้วนฉุผู้นี้กล้ามีปัญหากับพวกเขา?

แม้แต่ประมุขของตระกูลต้วนอย่าง ต้วนหรูหั่วเองก็มีสีหน้าเคร่งขึ้นทันที เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตำหนิว่า "น้องสะใภ้เจ้าอย่าได้ให้มันมากเกินไป!"

ตอนนี้แน่นอนว่าภายใจของต้วนหรูหั่วย่อมคิดไปในทิศทางเดียวกันกับผู้อาวุโสทั้ง 3 เรื่องของตระกูลย่อมมีความสำคัญที่สุด และอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ

เพียะ!

ทันใดนั้นเองเสียฟาดตบก็ดังขึ้นในอากาศ และผิดคาดนัก กลับเป็นต้วนหรูเล่ยที่ลงมือตบหน้าสั่งสอนอวิ๋นผิง ภรรยาอ้วนฉุด้วยตัวมันเอง

"เจ้า… เจ้าตีข้า?" อวิ๋นผิงตกตะลึงพรึงเพริด บุตรชายของนางถูกสังหารอย่างอำมหิต และนางก็ทำเพียงกล่าวคำออกมาจากหัวใจของผู้เป็นแม่เท่านั้น แต่คนที่นางเรียกว่าสามีกลับตบหน้านางออกมาเช่นนี้!

"ใช่! ข้าตีเจ้า เจ้ามันสตรีที่โง่เขลานัก!"ต้วนหรูเล่ยยกมือขึ้นทำท่าจะตีอวิ๋นผิงอีกครั้ง แต่เขาก็ทำเพียงแค่นเสียงออกมาแล้วหันไปกล่าววาจากับผู้อาวุโสทั้ง 3 รวมถึงประมุขตระกูลต้วน "ท่านประมุข,ท่านผู้อาวุโส … เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บุตรชายของข้าตัดสินใจไปโดยพลการ แต่จะอย่างไรมันก็เป็นผู้ตัดสินใจเลือกหนทางนี้เอง ไม่มีใครที่จะต้องถูกตำหนิเพราะเรื่องเช่นนี้ ข้าต้วนหรูเล่ยย่อมรู้ดีว่าเรื่องใดควรทำ และไม่ควรทำ ข้าหวังว่าท่านประมุขและผู้อาวุโสทั้งหลายจะสบายใจได้"

"ไม่เลวๆ หรูเล่ย เจ้านับว่าสามารถยึดส่วนรวมเป็นที่ตั้ง และมองภาพรวมผืนใหญ่ก่อนจริงๆ!" ผู้อาวุโสทั้ง 3 คนล้วนพยักหน้าออกมาด้วยความพึงพอใจ

มีเพียงประมุขตระกูลต้วนอย่างต้วนหรูหั่ว ที่ม่านตาหรี่ลงเล็กน้อยก่อนที่จะจับจ้องไปยังต้วนหรูเลยด้วยสายตาลึกซึ้ง "น้องรองข้าหวังว่าเจ้าจะจริงใจดังเช่นคำกล่าวนี้ของเจ้าจริงๆ … หาไม่แล้วไม่เพียงแต่ข้าจะผิดหวัง ทั้งตระกูลคงผิดหวังกับเจ้าด้วยเช่นกัน"

ร่างกายของต้วนหรูเล่ยสั่นเล็กน้อยก่อนที่จะรีบกล่าววาจาออกมา "แน่นอน ท่านพี่ประมุข!"

"น้อง 4 เจ้าเป็นคนไปรับผิดชอบเรื่องราวที่จะรับตัวต้วนหลิงเทียนกลับเข้ามาตระกูลของเราเถิด เขาได้ลำบากลำบนอยู่ด้านนอกมานานเกินพอแล้ว ทางตระกูลจะชดใช้ให้เขาอย่างเหมาะสม" ต้วนหรูหั่วมองไปยังต้วนหรูหงก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างช้าๆ

"ขอรับท่านประมุข!" ต้วนหรูหง รีบรับคำสั่งที่มอบให้เขานี้ทันที ก่อนที่จะลอบระบายลมหายใจออกมาอย่างอย่างไม่ได้ เขาย่อมรู้ดีว่าคราวนี้จะอย่างไร ต้วนหลิงซิ่ง ก็ตกตายอย่างไร้ค่าไปแล้ว

ต้วนหรงที่อยู่ด้านข้างเองก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวอย่างถึงขีดสุด มันได้แต่เฝ้ามองดูเหล่าผู้อาวุโสทยอยจากไปทีละคนๆจนหมด

เรื่องราวจบลงง่ายดายเช่นนี้?

“น้องรอง น้องสะใภ้ ไม่คิดเลยว่าเรื่องราวมันจะออกมาในรูปแบบนี้ จะอย่างไรข้าก็เสียใจกับพวกเจ้าด้วย” ต้วนหรูหงกล่าวปลอบต้วนหรูเล่ยกับภรรยา ก่อนที่เขาจะจากไป

"สามี ความแค้นของลูกซิ่ง ท่านคิดจะมันปล่อยไปง่ายๆเช่นนี้หรือ!!" หลังจากที่เห็นคนนอกจากไปหมดสิ้นแล้ว ดวงตาของสตรีอ้วนฉุก็แดงก่ำดั่งโลหิต ก่อนที่นางจะจ้องตาเขม็งไปยังต้วนหรูเล่ย พร้อมกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 158 ตระกูลต้วน"

3.7 233 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ (Cultivation Online)
อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ (Cultivation Online)
เมษายน 24, 2023
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!
มีนาคม 12, 2022
ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ข้าจะเป็นราชาอมตะ
กรกฎาคม 22, 2023
ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ราชันสามภพ
กรกฎาคม 6, 2023
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
มีนาคม 12, 2022
หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords !
หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords !
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz