หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 128 นายน้อยตระกูลเถียน

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 128 นายน้อยตระกูลเถียน
Prev
Next

ภาพเมืองขนาดเล็กที่มีรูปทรงสิ่งปลูกสร้างในลักษณะโบราณ ยามต้องแสงอ่อนโยนของอัสดงในยามลับฟ้า บังเกิดเป็นความงดงามประดุจภาพวาดฉากหนึ่ง นำพาผู้ที่ได้จับจ้องให้บังเกิดความผ่อนคลายสบายใจรื่นรมย์สมฤดี

เกวียนขนาดใหญ่ถูกลากจูงด้วยอาชาแกร่ง 5 ตัว เดินทางเข้าเมืองเล็กๆ เป็นอะไรที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนในเมืองครั้งใหญ่

"โอ้สวรรค์ พวกเจ้าดูนั่น ช่างเป็นเกวียนที่ใหญ่โตนัก!"

"ข้าสงสัยนัก ว่าผู้มีฐานะดีเช่นนี้เดินทางมาจากแห่งหนใดกัน"

ชาวเมืองเล็กๆที่ไม่เคยเห็นเกวียนขนาดใหญ่เช่นนี้มาก่อน ล้วนหยุดการกระทำที่วุ่นวายอยู่ แล้วหันมายืนชมดูด้วยความสนใจ

ชายวัยกลางคนที่ควบขับเกวียนใหญ่โต หันมากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า “นายท่าน พวกเราเดินทางเข้าเมืองมาแล้วขอรับ”

น้ำเสียงเฉื่อยชาราวกับคนพึ่งตื่นนอนพลันดังตอบออกมาว่า "เอาล่ะ เช่นนั้นก็ไปหาโรงเตี๊ยมสำหรับพักผ่อนในค่ำคืนนี้ก่อน แล้วพวกเราค่อยออกเดินทางต่อยามตะวันรุ่ง"

“ขอรับ” สารถีพยักหน้ารับคำ

แน่นอนว่าผู้ที่อยู่ในเกวียนหลังใหญ่นี้ไม่พ้นครอบครัวของต้วนหลิงเทียน ตอนนี้คณะของต้วนหลิงเทียนได้เดินทางออกจากเมืองออโรร่ามาเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว …

เกวียนใหญ่มาหยุดหน้าโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะเลิกผ้าม่านกั้นเกวียนขึ้น

ชายหนุ่มอายุราว 17 ปีสวมชุดสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวค่อยๆก้าวออกมาจากด้านในเกวียน หลังจากนั้นชายหนุ่มชุดสีม่วงยังคงรอประคองหญิงสาวที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาลงจากเกวียน และทันทีที่หญิงสาวคนนั้นเผยโฉมออกมา สายตาของคนทุกผู้ที่จับจ้องอยู่เป็นอันต้องตกตะลึง เหม่อมองค้างราววิญญาณหลุดออกจากร่าง ผิวสีขาวนวลดั่งหยกรูปร่างอรชรซ้ำยังงดงามปานเทพธิดาพิสุทธิ์เยื้องย่างลงมาจากสรวงสวรรค์

ใจของทุกคนพลันสั่นไหวเต้นไม่เป็นจังหวะและเป็นเช่นเดียวกันทุกผู้ ทว่าพริบตาต่อมาจิตใจของพวกมันก็แทบกระดอน ทั้งต้องเผยสีหน้าโง่งมออกมาอีกครั้ง

ครานี้กลับผิดแผกแตกต่างจากคนแรกอยู่บ้างเพราะสตรีที่งดงามนางนี้กลับมีอายุราวๆ 20 ปี นางเป็นสตรีที่มีใบหน้างดงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเทพธิดา ทว่าสิ่งที่แทบกระชากดวงใจของสายตาออกมาย่ำยีคาพื้นกลับเป็นรูปร่างที่เย้ายวนราวกับปีศาจ มันเย้ายวนถึงขั้นสะกดใจ ให้ผู้ที่จับจ้องไม่อาจละสายตาจากเรือนร่างของนางได้ และสุดท้ายหญิงสาวที่แลดูสง่างามและสมบูรณ์พร้อมไปด้วยเสน่ห์ของหญิงสาวเติบโตเต็มวัยอีกคนก็พลันก้าวลงมา

ยามนี้ทุกคนต่างตะลึงพรึงเพริด เมื่อไหร่กันที่พวกเขาเคยเห็นสตรีที่งดงามล่มเมืองเช่นนี้มาก่อน? ทว่าวันนี้พวกเขากลับมีวาสนาสามารถพบเห็นได้ถึง 3 คน

"ท่านลูกค้า ยินดีต้อนรับขอรับ" เสี่ยวเอ้อ 2 คนรีบเดินออกจากโรงเตี๊ยมมารอต้อนรับกลุ่มของต้วนหลิงเทียนด้านข้างเกวียนทันที ก่อนที่จะรับรองกลุ่มของต้วนหลิงเทียนเข้าโรงเตี๊ยมด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความเคารพอย่างสูง

ส่วนผู้ที่อยู่นอกโรงเตี๊ยมก็ถึงคราวต้องแยกย้ายกันจากไป

"ทำไมทุกที่ๆพวกเราไป ผู้คนล้วนต้องมาหยุดชมดูกันนัก พวกมันว่างงานกันมากหรือไร?" คิ้วที่งดงามของลี่เฟยขมวดขึ้น ใบหน้าของนางฉายแววไม่ค่อยพอใจออกมาสักเท่าไร

ตั้งแต่ออกเดินทางมานี้ทุกครั้งที่เข้ามาในเมืองเพื่อหาที่พัก นางจะพบกับเรื่องราวเช่นนี้อยู่เสมอ และสุดท้ายก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนทั้งหมด …

"อะไร นี่ไม่ใช่เพราะเสี่ยวเฟยของข้างดงามมากหรือไร นี่นับว่าเป็นการชมเชยในความงดงามของเจ้าประการหนึ่ง มีอันใดที่เจ้าไม่พอใจเล่า?" ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะไปจองห้องพัก 4 ห้องเช่นเดียวกับเมืองที่ผ่านๆมา ตัวเขา ,มารดา,และฉงเฉวียน พักกันคนละห้อง ส่วนห้องสุดท้ายจะเป็นลี่เฟยและเค่อเอ๋อ

และหลังจากที่ได้รับห้องพักแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไม่วายออกจากห้องพักของตนไปยังห้องพักอันเป็นห้องของลี่เฟยและเค่อเอ๋อ ท่าทางของเขาชำนาญและลื่นไหลนัก ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่เขาทำอยู่บ่อยครั้ง …

"ตัวเลวร้ายแล้วเจ้าจะจองห้องเปล่าไป เพื่อให้สิ้นเปลืองเงินทองทำอะไรเล่า" ลี่เฟยกรอกตามองไปยังหลิงเทียน

นี่เพราะในตลอดช่วงเวลาที่เดินทางออกมา คราใดก็ตามที่เข้าพักในโรงเตี๊ยม หลิงเทียนจะจองห้องพักเอาไว้ 4 ห้องเสมอ แต่สุดท้ายเมื่อยามค่ำคืนมาเยือนหลิงเทียนก็จะระเห็จออกจากห้องของตัวเองมาหลับนอนห้องเดียวกันกับเค่อเอ๋อและลี่เฟย

ตอนแรกๆลี่เฟยกับเค่อเอ๋อก็ล้วนยืนกรานปฏิเสธ แต่มีหรือพวกนางจะทานทนการอ้อนของต้วนหลิงเทียนไหว สุดท้ายพวกนางจึงยอมปล่อยให้ต้วนหลิงเทียนกระทำตามใจชอบ มานอนกับพวกนางด้วยประการฉะนี้

"มันไม่ได้สูญเปล่าหรอก ทำเช่นนี้จะได้ทำให้ผู้อื่นไม่สงสัยอย่างไรเล่า" ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานก่อนที่จะใช้สายตาจับจ้องไปยังร่างกายของสตรีที่แสนจะงดงามทั้งสองอย่างกรุ้มกริ่ม

"นายน้อยท่านไม่ต้องการให้นายหญิงสงสัยใช่หรือไม่?" ใบหน้าของเค่อเอ๋อกล่าวออกมาทั้งสีแดงระเรื่อ

“เค่อเอ๋อ เจ้าถูกลี่เฟยล้างสมองแล้วหรือ”ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น ดูเหมือนสาวน้อยบริสุทธิ์ไม่เดียงสาของเขาจะจากไปแล้วตลอดกาล

“ฮึ่ม ถ้าจะมีผู้ใดล้างสมองผู้คนก็มีแต่เจ้านั้นล่ะ เอ๊อ นี่ตัวเลวร้ายข้าจะออกไปซื้อผ้าคลุมหน้ากับน้องหญิงเค่อเอ๋อก่อนตอนนี้ เจ้าจะไปด้วยกันกับพวกเราหรือไม่?” ลี่เฟยกล่าวถามต้วนหลิงเทียนออกมา

เห็นได้ชัดว่าลี่เฟยไม่ค่อยชอบการเป็นจุดสนใจสักเท่าไร …

"อะไรกัน ทำไมเจ้าสองคนถึงต้องซื้อผ้าคลุมหน้าด้วยเล่า พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวจากผู้ซะหน่อย" สำหรับต้วนหลิงเทียนนั้น คิดต่างกับลี่เฟยอย่างสิ้นเชิง สำหรับเขาความงดงามของอิสตรีนั้นไม่ควรถูกบดบัง สตรีล้วนเกิดมาเพื่อแสดงออกไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร เพราะอย่างไรความสวยงามนี้พวกนางก็ไม่ได้ไปขโมยผู้ใดมา

"ถ้าเจ้าไม่ไป พวกเราไปกันเองก็ได้"

"เฮ่ๆ เจ้าล้อข้าเล่นหรือไร? ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าออกไปกันสองคนโดยไม่มีข้าตามไปด้วย ได้อย่างไรกันเล่า?” กล่าวจบต้วนหลิงเทียนก็เดินนำออกจากโรงเตี๊ยมไป

ส่วนลี่เฟยกับเค่อเอ๋อก็เดินมาประกบไหล่ของเขาทั้งสองข้าง …

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง เมืองเล็กๆก็เริ่มสว่างไสวประดับประดาไปด้วยเทียนโคม ตลาดกลางคืนยังคงมีชีวิตชีวาและมีผู้คนจับจ่ายใช้สอยไม่น้อย

แน่นอนว่ากลุ่มของต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 คนย่อมเป็นจุดดึงดูดความสนใจของผู้คนทั่วสารทิศ และทันใดนั้นเองในขณะที่พวกเขาเดินผ่านหัวมุมหนึ่งของถนน อีกด้านหนึ่งของถนนก็มีชายหนุ่มอายุราวๆ 20 ปีกำลังเดินมากับข้ารับใช้

"ข้าได้ยินว่าวันนี้มีเกวียนคันใหญ่ถูกลากมาด้วยม้าถึง 5 ตัว เดินทางเข้ามาในเมืองเช่นนั้นหรือ?" ชายหนุ่มในชุดลายปักกล่าวถามข้ารับใช้ที่อยู่ด้านข้างของเขา 2 คน

"ใช่แล้วขอรับนายน้อย ข้าเองก็อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นด้วย" หนึ่งในคนรับใช้รีบพยักหน้ารับก่อนที่จะกล่าวตอบคำออกมาก่อนที่จะนึกถึงภาพที่ทำให้เขาตกตะลึง เนื่องเพราะวันนี้เขาได้เห็นสตรี 3 คนที่ออกมาจากเกวียนและกล่าวได้ว่าเป็นสตรีที่งดงามที่สุดที่เขาเคยพบเจอมาในชีวิต เขาไม่อาจหาข้อตำหนิใดๆของพวกนางได้แม้แต่ข้อเดียว

"ข่าวลือนั่นมิใช่ว่าเกินความจริงไปหน่อยเช่นนั้นหรือ ที่กล่าวว่าสตรี 3 นางที่ลงจากเกวียนมางดงามราวเทพธิดาจุติลงมายังโลกมนุษย์" ชายหนุ่มในเสื้อลายปักกล่าวออกมาอย่างไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไรพร้อมส่ายหน้า

"นายน้อยขอรับ ข้ายืนยันได้ว่าข่าวลือนั้นหาได้เกินจริงไปแม้แต่นิดเดียว พวกนางงามล้ำประดุจเทพธิดาจริงๆ ขอรับ" ข้ารับใช้คนนั้นรีบกล่าวออกมา ตัวเขาได้พบเห็นเทพธิดามาด้วยตาทั้งสองข้างนี้ เขาจึงยืนยันได้ว่าข่าวลือนั้นไม่ได้ผิดเพี้ยนไปสักประโยค

"ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเช่นนั้นรึ?" แม้ว่าชายหนุ่มจะกล่าวออกมาอย่างไม่ยี่หระแต่ประกายตาของเขาก็ฉายแววอยากรู้อยากเห็นไม่น้อย "เอาล่ะข้าเองก็อยากชมดูไม่น้อย ตอนนี้พวกเจ้าตามข้าไปยังโรงเตี๊ยมนั่นก่อน"

"นายน้อยขอรับ!" ท่าทางของข้ารับใช้ซีดลงโดยพลัน "คนกลุ่มนี้เห็นได้ชัดว่าต้องมีพื้นเพไม่ธรรมดาแน่นอนขอรับ ตระกูลของพวกเราไม่อาจล่วงเกินเขาได้ … "

ประกายตาของชายในชุดลายปักเรืองวูบขึ้นมาก่อนที่จะกล่าวออกมา "ฮึ่ม! ข้าเพียงไปชมดูเท่านั้นยังมิได้ทันทำอะไรเสียหน่อย อีกอย่างจากที่เจ้ากล่าวมากลุ่มคนพวกนั้นก็มีเพียง ชายหนุ่มหนึ่งคน สตรี 3 คนแล้วก็เพียงสารถีเท่านั้น ต่อให้พวกมันจะเป็นตระกูลใหญ่ แต่ถ้าพวกเราลอบลงมือจัดการกับพวกมัน แล้วผู้ใดจะล่วงรู้ว่าเราเป็นผู้กระทำ"

"นายน้อยดูนั่นขอรับ เป็นพวกเขา!" ทันใดนั้นเองข้ารับใช้ด้านข้างก็กล่าวออกมาพร้อมชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง ดูเหมือนพวกเขาจะค้นพบคนที่ต้องการตามหาแล้ว

"หืม?" อดไม่ได้ที่ต้วนหลิงเทียนจะขมวดคิ้วออกมา ในขณะที่เขาจะช่วยลี่เฟยและเค่อเอ๋อสวมใส่ผ้าคลุมหน้า แต่กลับมีชายหนุ่ม 3 คนจับจ้องมาทางนี้ด้วยแววตาไม่เป็นมิตร

เมื่อลองมองดูก็พบว่าเป็นชายหนุ่มอายุราวๆ 20 ปีคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเดินมากับข้ารับใช้ …

ต้วนหลิงเทียนนั้นไม่ได้แยแสอะไรพวกมัน ก่อนที่จะหันไปจูงมือสตรีทั้งสองคน "พวกเราไปเดินดูของตรงนั้นกันเถิด"

“เฮ่ หยุดก่อน!” ตรงหน้าของหลิงเทียนพลันมีชายหนุ่มในชุดลายปักที่มองมาเมื่อสักครู่ก้าวมาปิดกั้นเส้นทางเอาไว้

แม้ว่าสตรีทั้งสองตรงหน้าจะสวมใส่ผ้าคลุมหน้าแล้ว แต่ดวงตาที่แหลมคมของเขาก็สามารถมองเห็นใบหน้าครึ่งหนึ่งที่ขาวกระจ่างและเรียบเนียนสวยงามราวดั่งหยกนั้นได้ชัดเจน …

ชายหนุ่มในชุดลายปักอดไม่ได้ที่จะน้ำลายสอ ประกายตาของมันเต็มไปด้วยความปรารถนาทันที

ลี่เฟยรู้สึกรังเกียจสายตาเช่นนี้ที่สุด "น่าขยะแขยง ไสหัวไป!"

"อา…ช่างเย้ายวนซ้ำยังร้อนแรงนัก เรานายน้อยชมชอบเป็นที่สุด" สายตาที่เต็มไปด้วยราคะของชายหนุ่มวัย 20 ปีนั้นจับจ้องไปยังลี่เฟยและเค่อเอ๋ออย่างหื่นกระหาย โดยที่มันไม่ได้สังเกตใบหน้าของหลิงเทียนที่เริ่มเย็นชาขึ้นเรื่อยๆแม้แต่น้อย

"แม่เทพธิดาน้อยทั้งสอง ช่วยเอาผ้าคลุมหน้านั่นออกก่อนได้หรือไม่ เรานายน้อยอยากชมดูใบหน้าที่งามล้ำของแม่นางทั้งสอง เรานายน้อยอยากรู้ว่าแม่นางทั้งสองจะงามดุจดั่งเทพธิดาเช่นที่ผู้คนเขาร่ำลือหรือไม่" ชายชุดลายปักยังคงกล่าวออกมาอย่างกรุ้มกริ่ม

"นางกล่าวให้เจ้าไสหัวไป ไม่ได้ยินหรือไร?" แววตาของหลิงเทียนเย็นชาลง ทั้งน้ำเสียงของเขายังยะเยือกราวกับธารน้ำแข็ง พาให้ผู้คนที่ได้ฟังหนาวเหน็บจับขั้วหัวใจ

โดยปกติแล้วหากมีผู้ใดมองเห็นความงดงามของลี่เฟยและเค่อเอ๋อจนตะลึงแล้วจ้องมองตาค้าง หลิงเทียนก็ไม่ได้กล่าวว่าอะไรเพราะมันเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนชมชอบสิ่งสวยงามด้วยกันทั้งนั้น

แต่การกระทำของชายตรงหน้ามันได้เลยเส้นกั้นแบ่งบางๆของเขาไปแล้ว!

และตอนนี้เอง ผู้คนที่อยู่รอบๆก็เริ่มสังเกตเห็น และจับกลุ่มสนทนากันเจื้อยแจ้ว

"เฮ่พวกเจ้าดู ชายหนุ่มชุดสีม่วงนั่นไม่ใช่ผู้ที่นั่งเกวียนใหญ่โตเข้าเมืองคันนั้นมาหรอกหรือ?"

"เช่นนั้นสตรีทั้งสองนางนั้นก็เป็นเทพธิดาที่ร่ำลือกันน่ะสิ?"

"ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนมองออกว่าความเป็นมาของกลุ่มคนลุ่มนี้หาใช่ธรรมดาสามัญเพียงแค่มองเห็นเกวียนของพวกเขา แต่ไม่คิดเลยว่านายน้อยตระกูลเถียนจะกล้าเข้าไปก่อกวนพวกเขาเช่นนั้น มันไม่เกรงกลัวจะนำภัยพิบัติมาสู่ตระกูลเถียนหรือไรกัน?"

…

ผู้คนหลายคนย่อมจดจำกลุ่ม 3 คนของหลิงเทียนออก

เมื่อได้ฟังเสียงสนทนารอบๆของฝูงชน ใบหน้าของนายน้อยในชุดลายปักก็แปรเปลี่ยนเป็นหน้าเกลียด แต่ตอนนี้เขาไม่อาจถอยกลับบ้ายไปในลักษณะนี้ … จะให้เขายอมก้มศีรษะต่อหน้าผู้คนมากมายได้อย่างไรกัน?

ถ้าเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นแล้วต่อไปจะให้เขายืนหยัดอยู่ในเมืองพิรุณโปรยแห่งนี้ได้อย่างไร?

ในฐานะสาวกตระกูล 1 ใน 3 ตระกูลใหญ่แห่งเมืองพิรุณโปรย บุตรชายของประมุขตระกูลเถียน นายน้อยของตระกูลเถียน ตัวเขาเถียนกวง ก็ย่อมมีความภูมิใจในตัวเอง!

ประกายตาของต้วนหลิงเทียนฉายชัดออกมาถึงความเยือกเย็น เขากล่าวออกมาอย่างไม่แยแสว่า "ความอดทนของข้ามีจำกัด ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ไสหัวไป!"

"เด็กน้อยข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะยิ่งใหญ่มาจากไหน แต่แม้มังกรที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่อาจได้เปรียบงูเจ้าถิ่น หากเจ้าไม่ให้แม่นางน้อยสองคนนี้ถอดผ้าคลุมให้ข้านายน้อยผู้นี้ชมดูก่อน นายน้อยผู้นี้จะไม่หลีกหนีไปไหน" เถียนกวงกล่าวเย้ยหยันออกมาอย่างไร้ยางอาย

"เสียวเฟย เค่อเอ๋อ พวกเจ้าหลับตาลงก่อน" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ลี่เฟยและเค่อเอ๋อพลันสัมผัสได้ถึงความหนาวยะเยือกจับขั้วหัวใจได้จากน้ำเสียงราบเรียบนี้

แต่จะอย่างไรก็ตาม นี่เป็นหลิงเทียนออกหน้าเพื่อพวกนาง ทำให้วกนางรู้สึกยินดีอยู่ในหัวใจไม่น้อย …

"อะไร กลัวแล้วหรือ? มันไม่ใช่เรื่องเสียหายอันใด แค่เพียงให้คนงามถอดผ้าคลุมเท่านั้น พวกนางเองสมควรยินดีที่จะเผยความงดงามให้ผู้อื่นได้เชยชมเช่นกันมิใช่หรือไร?" แววตาของเถียนกวงยังคงกรุ้มกริ่ม ไม่ล่วงรู้แม้สักเพียงนิดว่าหายนะกำลังจะเกิดขึ้นกับมัน…

ฟึ่บ! ฉัวะ!

ประกายแสงกระบี่อ่อนดาราม่วงเรืองวูบขึ้นมาเพียงชั่วพริบตา ก่อนที่จะกลับคืนสู่ฝักโดยที่ไม่มีผู้ใดทันมองเห็น

ทั้งด้วยม่านแห่งความมืดมิดที่ปกคลุมท้องฟ้ายามรัตติกาล เงาร่างช้างแมมมอธโบราณจำนวนมากเหนือศีรษะของต้วนหลิงเทียนที่กระพริบฉายออกมาวูบหนึ่ง ก็ไม่ทันมีผู้ใดสังเกตเห็น

"อ๊า!" พริบตาที่กระบี่คืนฝักเสียงกรีดร้องโหยหวนพลันดังขึ้นแทบจะเป็นเวลาเดียวกัน!

และในเวลาเดียวกันกับที่เถียนกวงกรีดร้องออกมา ทั้งร่างของเขาก็ทรุดลงไปดิ้นพล่านทั่วพื้น…

บริเวณส่วนล่างตรงกางเกงของเขาปรากฏหยาดโลหิตพรั่งพรูออกมาราวกับฟ้ารั่ว เนื้อชิ้นหนึ่งอันเป็นเอกลักษณ์แสดงความเป็นบุรุษเพศ ถูกสะบั้นทิ้งขาดตกอยู่บนพื้น …เกรงว่าหลังจากนี้คงไม่อาจใช้การได้อีกต่อไป

"นายน้อย!" ท่าทางของข้ารับใช้ทั้งสองคนเปลี่ยนเป็นซีดเผือด พวกมันพยายามที่จะช่วยนายน้อยของพวกมันห้ามเลือด ทว่าพวกมันรู้ดีว่าไม่อาจกระทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน

"ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม ควรสำเหนียกขีดจำกัดตัว และประมาณตนให้มากเข้าไว้ ข้าเองยังนับว่าเป็นคนที่ใจดีอยู่บ้าง ข้าจึงให้เจ้ายังมีชีวิตรอดอยู่สืบไป แต่หากเจ้ายังกล้าทำเช่นนี้อีกเป็นครั้งที่สอง ชีวิตเจ้าคงยากที่จะเก็บกู้เอาไว้ได้!" ต้วนหลิงเทียนกวาดสายตาเย็นชามองไปยังเถียนกวง ก่อนที่จะจูงมือลี่เฟยและเค่อเอ๋อเดินจากไป

"พรวด" ใบหน้าของเถียนกวงเต็มไปด้วยโทสะ เมื่อได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน สุดท้ายมันก็กระอักเลือดออกมาก่อนที่จะเป็นลมสิ้นสติไป

ก่อนที่มันจะสิ้นสติไปนั้น ความคิดเดียวในหัวของมันก็คือ นี่หรือที่เรียกว่าใจดี?

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 128 นายน้อยตระกูลเถียน"

3.7 228 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

ปกข้ามีดาวเทียมในยุคสามก๊ก
ข้ามีดาวเที่ยมในยุคสามก๊ก
กรกฎาคม 9, 2023
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
มิถุนายน 26, 2022
เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน
กรกฎาคม 6, 2023
都市:我!反派富二代他爹-193×278
เกิดใหม่เป็นพ่อของตัวร้ายรุ่นที่สอง
พฤษภาคม 3, 2023
อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ (Cultivation Online)
อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ (Cultivation Online)
เมษายน 24, 2023
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz