หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 120 คำสั่งเสีย!

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 120 คำสั่งเสีย!
Prev
Next

โอสถกวาดจิตพิสุทธิ์!

โอสถที่อยู่ในมือของหลิงเทียนตอนนี้ เป็นโอสถที่ไว้กำจัดพิษได้แทบจะทุกชนิด ที่จักรพรรดิกลับชาติมาเกิดคิดค้นขึ้น หลังจากที่ได้ทำการศึกษาเกี่ยวยาพิษนาๆชนิด โอสถนี้ถูกแบ่งออกเป็น 9 ระดับเช่นกัน

และตอนนี้ด้วยความที่ต้วนหลิงเทียนยังมีระดับผู้หลอมโอสถอยู่ในระดับ 9 เขาจึงสามารถหลอมสร้างโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์นี่ได้แค่ระดับ 9 เท่านั้น

ต้วนหลิงเทียนเปิดประตูออกมา ก็เห็นฉงเฉวียนที่จ้องมายังเขาด้วยสายตากระวนกระวาย

ต้วนหลิงเทียนเห็นท่าทางของฉงเฉวียนก็แสยะยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะโยนโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ทั้ง 3 เม็ดให้ฉงเฉวียนไปอย่างไม่แยแส พร้อมทั้งกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “เจ้ากินก่อนตอนนี้ 1 เม็ด และโอสถนี้จะใช้เวลา 1 เดือนเพื่อแสดงผล หลังจากนี้ 1 เดือนเจ้าจึงจะกินเม็ดที่ 2 ได้ และหลังจากนี้ 2 เดือนเจ้าถึงจะกินเม็ดที่ 3 ได้ และเมื่อเวลาผ่านไปครบ 3 เดือนจากตอนนี้ ระดับบ่มเพาะของเจ้าก็จะหวนคืนมา 1 ใน 3 ของแต่ก่อน”

"ขอบคุณนายท่าน" ฉงเฉวียนโยนโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์เข้าปากไปทันที 1 เม็ดโดยไม่คิดรีรออะไรอีก

ส่วนอีก 2 เม็ดเขาค่อยๆเก็บมันลงแหวนมิติราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดในชีวิตอย่างไรอย่างนั้น

"แล้วเจ้าก็อย่าได้ลืมเลือนซะล่ะ จดจำเอาไว้ให้มั่นด้วย ว่าข้าได้ผสมยาพิษบางอย่างลงในโอสถนั่นไว้แล้ว หากเจ้าเล่นลูกไม้หรือลวดลายอันใดล่ะก็ มีเพียงความตายอย่างทรมานเท่านั้นที่รอเจ้าอยู่!" หลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างเย็นชา

"ขอรับนายท่าน" ฉงเฉวียนก็ได้เตรียมตัวเตรียมใจรับเรื่องนี้เอาไว้ก่อนแล้ว

ในวันต่อมาหลิงเทียนก็ยังเลือกที่จะพักที่โรงเตี๊ยมต่อไปเพื่อรอเหล่าสหาย…สาเหตุที่พักโรงเตี๊ยมก็ไม่มีอะไรมาก เพราะมันสะดวกสบายกว่ากระโจมในค่ายที่พักของกองกำลังโลหิตเหล็กนั่นเอง

และตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มสั่งสมพลังงานต้นกำเนิดเพื่อกรุยทางไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 4 แล้ว

"เมื่อข้าตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 4 พลังงานต้นกำเนิดของข้าจะเพิ่มพูนศักยภาพไปอีกขั้นและได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มอีกทันที 2 ช้างแมมมอธโบราณ" ดวงตาของหลิงเทียนทอประกายวาวโรจน์ออกมา

"ถึงตอนนั้นแม้ข้าจะไม่ใช้อาวุธวิญญาณ แต่ข้าก็ยังมีความแข็งแกร่งสูงถึง 11 ช้างแมมมอธโบราณด้วยการใช้มือเปล่า และนั่นมันเท่าเทียมกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 8 วิชาบ่มเพาะของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด วิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงครามนี้ ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนักสมแล้วที่เป็นวิชาที่จักรพรรดิกลับชาติมาเกิดคิดจะบ่มเพาะยามใช้ชีวิตที่ 3 …และถ้าข้าสามาระไปถึงระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9 รวมทั้งกลั่นร่างกายด้วยพลังงานก่อกำเนิดจนเสร็จสิ้นกระบวนการตามรูปแบบเฉพาะของรูปแบบงูเหลือมคลั่งแล้วละก็ ข้าจะมีความแข็งแกร่งทั้งหมดรวม 23 ช้างแมมมอธโบราณ! "

หากไร้ซึ่งความช่วยเหลือใดๆจากภายนอก ยามปกติของผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9 โดยทั่วไปจะครอบครองความแข็งแกร่งเพียงแค่ 12 ช้างแมมมอธโบราณเท่านั้น นั่นหมายความว่าช้าย่อมมีความแข็งแกร่งมากกว่าพวกมันอยู่ถึง 11 ช้างแมมมอธโบราณ อีกทั้งร่างกายของข้ายังแข็งแกร่งกว่าพวกมัน…นับว่าเหนือล้ำคนธรรมดาไปมากมายนัก "

"อีกทั้งแม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 1 เองก็มีความแข็งแกร่งเพียง 20 ช้างแมมมอธโบราณเท่านั้น เช่นนั้นถ้าข้าอยู่ในระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9 ข้าก็สามารถเอาชัยผู้ที่อยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นแรกได้อย่างไม่มีปัญหา"

"แต่จะอย่างไรระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 2 ก็มีความแข็งแกร่งสูงถึง 30 ช้างแมมมอธโบราณ เชนนั้นข้าต้องก้าวเข้าสู่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นแรกก่อนเท่านั้น ถึงจะต่อสู้กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 2 ได้" ตอนนี้ร่างกายของหลิงเทียนเริ่มแผ่กลิ่นอายนักสู้ออกมา นิสัยของเขานั้นแสวงหาการต่อสู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

เขาเริ่มฝึกฝนบ่มเพาะอย่างจริงจัง!

วิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม รูปแบบงูเหลือมคลั่ง!

พลังงานต้นกำเนิดในร่างกายของหลิงเทียนพลันโคจรด้วยความเร็วบ้าคลั่งทุกๆรอบปริมาณพลังงานต้นกำเนิดจะค่อยๆสูงขึ้นทีละน้อย และเมื่อมันสะสมได้มากเพียงพอหลิงเทียนก็จะทะลวงจุดชีพจรเผื่อตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 4 …

ถึงแม้ตอนนี้หลิงเทียนจะได้หลักฐานยืนยันสถานะผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมสถาบันบ่มเพาะขุนพลแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้รีบร้อนมุ่งหน้ากลับบ้าน นี่เพราะเขายังคงรอผลการทดสอบของเหล่าสหายทั้ง 3 เซี่ยวหยู,เมิ่งฉวนและก็ลั่วเฉิน

อีก 10 วันต่อมาในที่สุดคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกลับกันมา

คนแรกที่มาถึงก็คือ ซูหลี่ เขาเองก็ผ่านภารกิจไปอย่างสวยงามและได้รับสิทธิ์ในการเข้าศึกษาต่อที่สถาบันบ่มเพาะขุนพล

"ต้วนหลิงเทียน ข้าอยากท้าประลองกับเจ้า!" ดวงตาของซูหลี่จับจ้องไปยังหลิงเทียนนด้วยความปรารถนาจะวัดฝีมือ มันเป็นแววตาของนักสู้เฉกเช่นเดียวกับหลิงเทียน

"เฮ่ ซูหลี่ หืม? นั่นเจ้าตัดผ่านระดับไปแล้วหรือ?" ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆออกมาในขณะที่กล่าวถาม

ครืนนน!

ร่างของซูหลี่สั่นเบาๆ ก่อนที่พลังงานฟ้าดินจะตอบรับความแข็งแกร่งของเขาแล้วฉายเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 7 ตัว

"ซูหลี่เจ้าแน่ใจหรือว่ายังต้องการประลองกับข้า?"ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนเองก็ยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้ม เขาก้าวไปข้างหน้า 1 ก้าวก่อนที่จะเร่งเร้าพลังออกมา

ครืนนน!

พลังงานฟ้าดินสั่นสะเทือนและรวมตัวควบแน่นเหนือหัวของหลิงเทียนราวกับก้อนเมฆ ก่อนที่มันตอบรับความแข็งแกร่งของหลิงเทียนแล้วกลั่นออกมาเป็นเงาร่างช้างแมมมอธโฐราณถึง 8 ตัว

"นี่ …เจ้า … " ซูหลี่กลับกลายเป็นไร้อารมณ์ทันที ความรู้สึกสูญเสียประการหนึ่งบังเกิดขึ้นในใจของเขา แต่เขาก็สามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติได้ในเวลาเพียงพริบตา

"เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว"

ซูหลี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่แววตานักสู้จะกลับคืนมาอีกครั้ง เขามองไปที่หลิงเทียนด้วยความตั้งใจแล้วกล่าวออกมาว่า "ต้วนหลิงเทียนยามนี้ข้าด้อยกว่าเจ้าแล้ว แต่ข้าจะพยายามอย่างหนักเพื่อไล่ตามเจ้า แล้วพวกเราค่อยไปเจอกันที่สถาบันบ่มเพาะขุนพล หลังจากนี้อีก 1 ปี"

หลังจากที่กล่าวจบซูหลี่ก็พุ่งร่างหายลับไปจากค่ายที่พักของกองกำลังโลหิตเหล็กราวกับสายวาโยกรรโชก

"ซูหลี่ผู้นี้ก็นับว่าน่าคบหาไม่น้อย" ต้วนหลิงเทียนยิ้มออกมาบางๆ ผู้ที่มีสายตาหลงใหลในการตอสู้เช่นนี้ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไร

และในวันต่อมา หยูเซี่ยงและเทียนหูก็เดินทางกลับมาถึง

"ต้วนหลิงเทียน เจ้าระวังตัวเอาไว้ให้ดี ตระกูลหยูจะไม่มีวันเลิกรากับเจ้าแน่!" หยูเซี่ยงข่มขู่ต้วนหลิงเทียนในขณะที่กำลังจะเดินทางกลับ

"เช่นนั้นรึ…นี่แล้วเจ้าไม่กลัวว่าข้าจะติดตามไปสังหารเจ้าที่กำลังจะเดินทางกลับ เสียตั้งแต่ตอนนี้หรือ?" แววตาของหลิงเทียนหรี่ลงเล็กน้อยและแผ่จิตสังหารออกมาบางๆ

ใบหน้าของหยูเซี่ยงพลันเปลี่ยนเป็นซีดเซียวเมื่อถูกจิตสังหารเพียงเล็กน้อยของหลิงเทียนคุกคาม ถึงแม้ตอนนี้เขาจะได้รับหลักฐานยืนยันสถานะว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติเข้าร่วมสถาบันบ่มเพาะขุนพลแล้ว แต่เขาก็หวาดกลัวและไม่กล้าเดินทางกลับขึ้นมาโดยพลัน

เขาจึงไปหาสหายที่ดีที่สุดของพี่ชาย ที่เป็นนายกองคนหนึ่งนามว่าฟางชุ่น เพื่อขอให้สหายคนนี้ของพี่ชายพาเขาออกนอกเมืองเพื่อคอยคุ้มกันไม่ให้ต้วนหลิงเทียนลงมือสังหารเขา

"หยูเซี่ยงช่วงนี้ข้ามีภารกิจรัดตัวและค่อนข้างยุ่งยิ่งนัก เกรงว่าข้าจะไม่มีเวลาไปส่งเจ้ากลับบ้าน"ทว่าฟางชุ่นกลับปฏิเสธคำขอของเขาอย่างไม่คาดฝัน

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน!

ตั้งแต่ตอนที่หยูหงได้ตกตายอย่างโง่งมภายใต้น้ำมือของต้วนหลิงเทียน ฟางชุ่นก็สาบานกับตัวเองไว้แล้วว่า ชาตินี้ทั้งชาติจะไม่มีวันไปสร้างปัญหาให้แก่ตัวตนที่น่ากลัวราวกับปีศาจอย่างเช่นต้วนหลิงเทียนเด็ดขาด

อีกทั้งตอนนี้ เขาเองก็เริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ว่านายกองไป่เฟิ่งที่หายตัวไปอย่างลึกลับในหุบเขาซ่อนอรุณนั้น ใช่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของต้วนหลิงเทียนอีกคนรึเปล่า? ไม่เช่นนั้นเหตุใดคนที่มีความแข็งแกร่งระดับไป่เฟิ่งจึงหายตัวไปราวกับอากาศธาตุโดยไม่มีร่องรอยใดๆให้สืบสาว?

ตอนนี้อารมณ์ของหยูเซี่ยงพลันดิ่งวูบทันที

"หยูเซี่ยงลองทำเช่นนี้ดีหรือไม่ เนื่องจากเจ้ายังกังวลเกี่ยวกับเรื่องของต้วนหลิงเทียน เช่นนั้นเจ้าก็แค่พักอยู่ที่ค่ายที่พักกองกำลังโลหิตเหล็กของพวกเราไปก่อน แล้วรอให้ต้วนหลิงเทียนเดินทางออกนอกเมืองไปสักพัก หลังจากนั้นเจ้าก็สามารถใช้เส้นทางอื่นเพื่อเดินทางกลับ ถึงแม้จะอ้อมและเสียเวลาไปนิดแต่ก็ดีกว่าไปปะทะกับเขาซึ่งๆหน้า เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับวิธีนี้กันเล่า?" ฟางชุ่นเองก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จะอย่างไรหยูหงก็เป็นสหายที่ดีของเขา เช่นนั้นเขาเองก็ต้องช่วยเหลือน้องชายของสหายบ้าง เพื่อเห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อน

ตอนนี้สีหน้าของหยูเซี่ยงบิดเบี้ยวนัก ชีวิตมันไม่เคยต้องอยู่อย่างอดสูเช่นนี้ มันเองก็เป็นอัจฉริยะที่เหนือชั้นคนหนึ่งของตระกูลหยู และก็ได้รับสิทธิ์ในการเข้าศึกษาที่สถาบันบ่มเพาะขุนพลอย่างภาคภูมิ มันควรต้องมีชีวิตที่เต็มไปด้วยเกียรติ แต่ตอนนี้กลับต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุนราวมุสิกขี้ขลาดตัวหนึ่ง

แต่อย่างไรก็ตาม บางครั้งชีวิตของคนเรา ทางเลือก…ก็ไม่ได้มีมากนัก

ต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่ได้คิดว่าคำขู่ที่กล่าวไปอย่างไม่ได้แยแสอะไร จะทำให้หยูเซี่ยงรู้สึกทุกข์ทรมานและเจ็บปวดในใจอย่างแสนสาหัสและไม่กล้าเดินทางออกไปจากเมืองโลหิตเหล็กไปไหน จนกว่าเขาจะจากไป…

และไม่กี่วันหลังจากนั้นหลิงเทียนก็บังเอิญเจอกับเซี่ยวหยูที่ทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้วกำลังเดินทางกลับมาพอดี

"เอ๋ เซี่ยวหยู เจ้า … ตัดผ่านระดับแล้วรึ?" เมื่อได้เจอเซี่ยวหยูอีกครั้ง หลิงเทียนก็ประหลาดใจเล็กน้อย

"หืม แล้วเจ้าสังเกตเห็นได้อย่างไรกัน?" เซี่ยวหยูตกตะลึง

"มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรที่ข้าจะเดาได้ ก็จิตของเจ้ายามนี้แหลมคมขึ้นไม่น้อย" ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมา

"อ่อ จริงสิ! เจ้ามาด้วยกันกับข้าสักครู่ก่อน" เซี่ยวหยูกระพริบตาก่อนที่จะกล่าวออกมา

"มีอะไรรึ?" ต้วนหลิงเทียนสงสัย

"ข้าต้องการไปท้าประลองกับหยูเซี่ยง" ความเย็นชาแฝงอยู่เต็มน้ำเสียงของเซี่ยวหยู

หยูเซี่ยงนั้นหวาดกลัวหลิงเทียน แต่ไม่ได้แยแสอะไรเซี่ยวหยู แน่นอนว่ามันต้องรับคำท้าของเซี่ยวหยู

สุดท้ายเป็นเซี่ยวหยูที่อาศัยความเลิศล้ำและการใช้วิชาอย่างแยบคาย อาศัยฝ่ามือเอกะเอาชนะไปได้อย่างสวยงาม ไม่ได้ลำบากอะไรแม้แต่น้อย …

เซี่ยวหยูนึกถึงความบาดหมางก่อนหน้า เขาจึงสะบัดฝ่ามือเอกะออกไปเต็มกำลังซัดหยูเซี่ยงที่สิ้นท่าจนกระเด็นลอยละลิ่วออกไป หมดสติกลางอากาศอย่างน่าสมเพช

ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมา "เป็นเช่นไรเล่า จิตใจกระจ่างแล้วหรือไม่?"

เซียวหยูพยักหน้า ก่อนที่จะฉีกยิ้มออกมา ความเบิกบานอารมณ์ดีฉายชัดเต็มใบหน้า …

ไม่นานหลังจากที่ครบกำหนด 1 ปีเหล่านายกองที่เป็นผู้ควบคุมเหล่าเยาวชนต่างๆก็ทยอยกันเดินทางกลับมา นายกองบางคนก็กลับมาแต่ผู้เดียว บางคนก็กลับมาพร้อมเยาวชน

สุดท้าย นายกองที่เป็นผู้ควบคุมเซี่ยวหยูกับลั่วเฉินก็เดินทางกลับมาถึง

ทว่า …

มองไปทางไหน…ก็ไม่อาจมองเห็นเมิงฉวนและลั่วเฉิน!

หัวใจของหลิงเทียนและเซี่ยวหยูดิ่งวูบลงไปอยู่ตาตุ่มทันทีที่ได้รับการแจ้งข่าว

เมิงฉวนและลั่วเฉินได้ระบายลมหายใจสุดท้ายของชีวิตออกไปแล้ว!

และในที่สุดเหล่านายกองทั้งหมดก็กลับมา..หากนับรวมหลิงเทียนและเซี่ยวหยูแล้ว ผู้ที่ผ่านการทดสอบภารกิจ มีเพียง 7 คนเท่านั้น…

"ต้วนหลิงเทียน,เซี่ยวหยู!" หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนและเซี่ยวหยูได้รับข่าวร้าย รองแม่ทัพเฉียวชิงจ่างก็มาหาพวกเขาทั้งสองด้วยตัวเอง…และในมือของรองแม่ทัพก็มีจดหมาย 2 ฉบับ

คำสั่งเสียของเมิ่งฉวนและลั่วเฉิน!

"เมิ่งฉวนและลั่วเฉินนั้น ทั้งคู่ได้เขียนจดหมายสั่งเสียไว้คนละ 2 ฉบับ เพื่อฝากฝังเอาไว้ให้แก่ญาติและมิตรสหาย ในบรรดาจดหมายสั่งเสียของเมิ่งฉวนทั้ง 2 ฉบับนั้น มีฉบับหนึ่งจ่าหน้าถึงเซี่ยวหยู เช่นเดียวกันกับของลั่วเฉินจดหมายสั่งเสียฉบับหนึ่งของลั่วเฉิน ก็จ่าหน้าถึงเจ้าเช่นกัน ต้วนหลิงเทียน" เฉียวชิงจ่างกล่าวจบก็ยื่นจดหมายทั้งสองฉบับให้แก่หลิงเทียนและเซี่ยวหยูไปคนละ 1 ฉบับ

"ข้าเสียใจกับพวกเจ้าด้วย" เฉียวชิงจ่างกล่าวจบก็เดินจากไปทันที

เขานั้นประสบเหตุการณ์พลัดพรากจากสหายเช่นนี้มามากมายแล้ว เขาย่อมเข้าใจความรู้สึกของหลิงเทียนและเซี่ยวหยูดี

ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะเปิดจดหมายของลั่วเฉิน

ลายมือของลั่วเฉินนั้นงดงามมาก ราวกับลายมือของสตรีก็ไม่ปาน

ต้วนหลิงเทียน…หากเจ้าได้อ่านจดหมายฉบับนี้ คงหมายความว่าข้า…ไม่อาจผ่านการทดสอบสุดท้ายนี้ได้…เฮ่อ สุดท้ายข้าก็ยังคงล้มเหลว ใช้ไม่ได้จริงๆ… แต่ข้าก็ไม่คิดเสียใจเลย เพราะว่าข้าได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว

การที่ในชีวิตนี้ ข้าได้พบกับเจ้า เซี่ยวหยู และเมิ่งฉวน นับได้ว่ามันเป็นเรื่องราวที่ดีที่สุดในชีวิตของข้าเลยล่ะ พวกเจ้าได้ช่วยทำให้ข้าที่ขี้กลัวกลายเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริง พวกเจ้าทำให้ข้ายืนหยัดเข้มแข็งขึ้นมาได้…ขอบคุณพวกเจ้ามาก ข้าฝากเจ้าส่งความคิดถึงของข้าไปให้เมิ่งฉวน และเซี่ยวหยูด้วย…หลังจากที่เจ้าอ่านจดหมายฉบับนี้จบและพวกเขาเองก็ยังมีชีวิตอยู่

นอกจากนี้ ข้าเองก็มีเรื่องราวลำบากใจประการหนึ่งที่ไม่อาจวางมันลงได้จริงๆ และเรื่องนี้เอง เป็นเรื่องที่ทำให้ข้าตัดสินใจมาเข้าร่วมการทดสอบเข้าค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าข้าจะหวาดกลัวมากก็ตาม ข้าก็ได้แต่หวังว่าเจ้าจะช่วยเหลือข้า….

… ลงนาม ลั่วเฉิน

แกรบ!

มือของต้วนหลิงเทียนสั่นระริก เขาขยำจดหมายสั่งเสียเป็นก้อนกลม

ถึงแม้เขาจะได้รู้จักลั่วเฉินเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ แค่ 3 เดือน แต่เขาเองก็ยึดถือลั่วเฉินเป็นสหายของเขาคนหนึ่งแล้ว

ทว่าตอนนี้สหายของเขากลับจากเขาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ…ตลอดกาล

ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยความจริงใจ "ลั่วเฉินสหายข้า อย่าได้มีห่วงอะไร ข้าจะดูแลเรื่องนี้ให้เจ้าเอง!"

"เมิ่งฉวน!" เซี่ยวหยูที่อยู่ด้านข้างเองก็อานจดหมายสั่งเสียของเมิ่งฉวนเสร็จสิ้น ใบหน้าที่มักจะเย็นชาราวกับศิลาน้ำแข็ง ยามนี้ปรากฏความเศร้าโศกและหยาดน้ำตาคลอเบ้า

"เมิ่งฉวน… " ดวงตาของหลิงเทียนเองก็ฉายความเศร้าออกมาไม่น้อย เขาอดไม่ได้ที่จะหวนคิดถึงเมิ่งฉวน ในยามเก่าก่อน ภาพของเมิ่งฉวนนั้นมักเต็มไปด้วยความร่าเริงและสนุกสนานเฮฮา วันเวลาเหล่านั้นในเมืองออโรร่านับว่ามีความสุขนัก

“เมิ่งฉวน ข้าขอให้เจ้าไปสู่สุขคติ”

เซี่ยวหยูสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะมองไปยังหลิงเทียนแล้วกล่าวว่า "หลิงเทียน ข้าคิดที่จะเดินทางกลับในวันนี้ เพื่อไปทำตามความปรารถนาสุดท้ายของเมิ่งฉวนให้เป็นจริง"

"ข้าเองก็ต้องไปเยี่ยมครอบครัวของลั่วเฉินด้วย" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

ทั้งสองคนไปหารองแม่ทัพเฉียวชิงจ่าง และนำจดหมายสั่งเสียอีกฉบับของแต่ละคนมาเก็บไว้เพื่อที่จะส่งมอบด้วยตัวเอง ก่อนที่จะเดินทางออกจากเมืองโลหิตเหล็กไป

ฉงเฉวียนติดตามหลิงเทียนอยู่ทางด้านหลังเงียบๆ เพื่อปกป้องคุ้มครองชายหนุ่มที่ยามนี้กลายเป็นนายท่านของเขา

ตอนนี้ 1 เดือนได้ผ่านไปแล้ว และผลของโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์เองก็เห็นผลนัก ตอนนี้เพียงแค่โอสถเม็ดแรก ระดับบ่มเพาะของเขาก็ทะยานกลับคืนมาอยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้แล้ว

ตระกูลของลั่วเฉินตั้งอยู่ที่เมืองสนตระหง่าน

เมืองสนตระหง่านนี้ตั้งอยู่ระหว่างเมืองออโรร่าและเมืองโลหิตเหล็ก กล่าวได้ว่ามันเป็นทางผ่านสายหนึ่ง

กลุ่มต้วนหลิงเทียนจึงเลือกที่จะเดินทางกลับเมืองออโรร่าตามเส้นทางสายนี้และแวะเข้าไปยังเมืองสนตระหง่านเสียก่อน

ตระกูลลั่วนั้นเป็นเพียงตระกูลเล็กๆตระกูลหนึ่งในเมืองสนตระหง่านนี้เท่านั้น

กลุ่มต้วนหลิงเทียนเมื่อเดินทางเขตที่พักของตระกูลลั่ว เขาก็ทำการติดสินบนยามของตระกูลลั่ว หลังจากจ่ายเงินไปไม่เท่าไหร่เขาก็เข้าไปยังเขตที่พักของตระกูลลั่วได้อย่างราบรื่น และสุดท้ายเขาก็ได้พบกับน้องสาวของลั่วเฉิน

แรกพบน้องสาวของลั่วเฉินนั้น หลิงเทียนเองก็รู้สึกทึ่งเล็กน้อย

อายุของลั่วเฉียนนั้นอยู่รุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา ทั้งนางยังดูงดงามมีเสน่ห์ ท่วงท่ากริยาแลดูอ่อนโยน น่าสนใจไม่น้อย …

ในแง่ความงดงามของนางนั้นเรียกได้ว่าเพียงด้อยกว่าเค่อเอ๋อ,ลี่เฟยและเซี่ยวหยัน แต่จะอย่างไรก็นับว่าเหนือกว่าลี่ฉีฉี

"พวกท่าน…"

ลั่วเฉียนพึ่งจะเปิดปากกล่าววาจา ทว่าคำพูดของนางก็ต้องถูกขัดจังหวะเอาไว้ เมื่ออยู่ดีๆ ฉงเฉวียนก็ตะโกนแทรกขึ้นมา

“เป็นผู้ใด? ไสหัวออกมา!”

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 120 คำสั่งเสีย!"

3.7 228 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

จอมดาบพิฆาตสวรรค์
จอมดาบพิฆาตสวรรค์
มีนาคม 12, 2022
ปกข้ามีดาวเทียมในยุคสามก๊ก
ข้ามีดาวเที่ยมในยุคสามก๊ก
กรกฎาคม 9, 2023
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
The Demon God Pesters : The Ninth Lady of the Doctor
มีนาคม 12, 2022
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
มีนาคม 12, 2022
The Divine Nine-Dragon Cauldron
The Divine Nine-Dragon Cauldron
พฤษภาคม 17, 2022
The Inverted dragons scale
The Inverted dragons scale
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz