หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - บทที่ 119 ฉงเฉวียน

  1. หน้าแรก
  2. สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์
  3. บทที่ 119 ฉงเฉวียน
Prev
Next

ชายวัยกลางคนชักสีหน้าโกรธแค้นและไม่พอใจออกมาอย่างรุนแรง ราวกับเขาจะลุกขึ้นมาต่อต้านและฟาดหลิงเทียนให้ตกตาย น่าเสียดายแต่เขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เพราะรางกายถูกฝ่าเท้าหลิงเทียนสะกดไว้เสียหมดสภาพ

"เจ้าไม่เต็มใจจะยอมรับเช่นนั้นรึ?" สายตาของหลิงเทียนค่อยๆเย็นชาลงในขณะที่จ้องมองเขา อีกทั้งยังเพิ่มแรงเหยียบที่ขามากขึ้นเรื่อยๆ

สีหน้าของชายวัยกลางคนเริ่มซีดลงเรื่อยๆและสุดท้ายมันก็ซีดเซียวจนแทบไร้สีเลือด ร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะท้านจากการขาดอาการหายใจ

และทันใดนั้นเองหลิงเทียนก็ยกเท้าออก

ชายวัยกลางคนได้พยายามสูดหายใจเข้าอย่างหนักเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะค่อยๆฟื้นตัว เขาหันมาจ้องหลิงเทียนด้วยอำมหิต

ต้วนหลิงเทียนไม่ใส่ใจสายตาดุร้าย เพียงกล่าวไปไม่แยแส "หากเจ้ายอมรับว่าข้าเป็นนาย ข้าจะช่วยกำจัดปรสิตกลืนกำเนิดที่ฝังอยู่ในร่างของเจ้าออกเสีย"

"เจ้ารู้เรื่องปรสิตกลืนกำเนิดด้วยงั้นรึ?" ร่างชายวัยกลางคนหดลงเล็กน้อย สีหน้าไม่เชื่อถือพรั่งพรูออกมา

จากความรู้ของเขา เป็นไปไม่ได้ที่อาณาจักรเล็กกระจ้อยร่อยและอ่อนแอเช่นนี้จะรู้เรื่องเกี่ยวกับปรสิตกลืนกำเนิด

ทว่าชายหนุ่มในชุดสีม่วงตรงหน้าเขา ชักสีหน้าออกมาราวกับจะรู้จักปรสิตกลืนกำเนิดนี้เป็นอย่างดี และเรื่องที่สำคัญที่สุด …ชายตรงหน้ามีแหวนมิติ ของประมุขน้อยแห่งนิกายไรสิ้นสุด…

"เจ้าสามารถกำจัดพิษของปรสิตกลืนกำเนิดในร่างข้าได้จริงๆเช่นนั้นรึ?" ชายวัยกลางคนสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาทอประกายออกมา

"อะไร เจ้าสงสัยข้างั้นรึ?"

ต้วนหลิงเทียนเพียงมองชายวัยกลางคนด้วยสายตาเย็นชาและกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส "เอาล่ะ ตอนนี้บอกกล่าวเรื่องราวที่เจ้าถูกปรสิตกลืนกำเนิด รวมทั้งความเป็นมาของตัวเจ้าให้ชัดเจน แล้วยังเรื่องที่เจ้ามาอยู่ในอาณาจักรนภาล่องแห่งนี้ได้ยังไงออกมาให้หมด"

ชายวัยกลางคนสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อยก่อนที่จะค่อยๆกล่าวออกมา "ข้าชื่อฉงเฉวียนเป็นหน่วยองค์รักษ์ของนิกายไร้สิ้นสุด ข้าได้นำประมุขน้อยหลบหนีออกมาจากนิกาย ในยามที่นิกายไร้สิ้นสุดเผชิญกับภัยพิบัติที่รุนแรงถึงขั้นล่มสลาย ในระหว่างทางข้าเองเพื่อช่วยเหลือประมุขน้อยจึงทำการล่อลวงคนร้ายบางส่วนไปอีกทาง ถึงแม้ว่าข้าจะล่อลวงพวกมันไปได้สำเร็จ และหาทางสลัดพวกมันหลุดมาได้ ทว่าข้าโชคร้ายถูกพิษของปรสิตกลืนกำเนิด เมื่อข้าติดเชื้อเรี่ยวแรงและพลังงานต้นกำเนิดของข้าก็ค่อยๆถดถอยลงเรื่อยๆ สุดท้ายข้าก็ได้แต่เดินทางด้วยสองเท้า และในที่สุดเรี่ยวแรงข้าก็หมดสิ้นจนล้มลงหมดสติ และเมื่อข้าได้สติอีกครั้งข้าก็พบว่าตัวเองถูกขังอยู่ในกรงและถูกตีตราเป็นทาสไปเรียบร้อยแล้ว" หลังจากที่กล่าวจบฉงเฉวียนขบเคี้ยวฟันด้วยความโกรธแค้น

หน่วยองค์รักษ์อันเป็นผู้พิทักษ์ที่มีเกียรติของนิกายไร้สิ้นสุด กลับต้องกลายมาเป็นข้าทาสต่ำต้อยคนหนึ่ง …

ตอนแรกนั้นเขาคิดที่จะตายๆไปเสียดีกว่าต้องทนอยู่อย่างอัปยศ อย่างไรก็ตามสุดท้าย เขาก็เลือกที่จะอดทน

เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาจะสามารถกำจัดปรสิตกลืนกำเนิดและฟื้นคืนระดับบ่มเพาะของตัวเองกลับมาได้

และเมื่อเวลานั้นมาถึงเขาจะทำลายกลุ่มคนที่กล้าจับเขามาเป็นทาสให้หมด

"อ้อที่แท้เรื่องราวเป็นเช่นนี้ … หืม แหวนมิติของเจ้าไม่ได้ถูกพวกเขายึดไปหรือไร" ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองไปที่มือขวาของฉงเฉวียน

นิ้วกลางด้านขวาของฉงเฉียนนั้นมีแหวนเก่าๆวงหนึ่งที่เต็มไปด้วยสนิมเกราะกรังแลดูไร้ราคา แต่หลิงเทียนกลับสามารถมองออกได้ว่ามันเป็นแหวนมิติวงหนึ่ง … นี่คงเป็นเพราะแหวนมิติวงนี้ของเฉียวฉงมีสภาพโกโรโกโสมันจึงยังไม่ถูกช่วงชิงไป

ฉงเฉวียนมีทีท่าตื่นตัวเล็กน้อยในขณะที่ถอดแหวนมิติออก

ต้วนหลิงเทียนมองแหวนมิติครู่หนึ่ง "ยกเลิกความเป็นเจ้าของซะ แล้วมอบมันให้ข้า!"

ใบหน้าของฉงเฉวียนเปลี่ยนเป็นเป็นบิดเบี้ยวราวกับกินยาขม สุดท้ายเขาก็ยกเลิกความเป็นเจ้าของและยื่นส่งมันให้แก่ต้วนหลิงเทียนอย่างขมขื่น

ต้วนหลิงเทียนก็ทำการหยดเลือดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของทันที ก่อนที่จะมองลงไปตรวจสอบสิ่งของด้านใน และสิ่งที่เขาเห็นก็มีเพียงโอสถระดับ 7 แล้วก็ดาบใบแคบ ที่เป็นอาวุธระดับ 7 อีกเล่ม เท่านั้น

"มีแค่ขยะพวกนี้งั้นรึ?" ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะยกเลิกความเป็นเจ้าของแบบเบื่อหน่าย และโยนมันกลับไปให้ฉงเฉวียนอย่างไม่แยแส

แค่ขยะ?

มุมปากของฉงเฉวียนกระตุกด้วยความหงุดหงิด ดาบระดับ 7 แถมโอสถระดับ 7 ยังเป็นได้เพียงขยะสำหรับเขางั้นหรือ? "

"น้อง… น้องชายตัวน้อย … "

ฉงเฉวียนมองไปยังหลิงเทียนก่อนทีจะพยายามเริ่มต้นบทสนทนา แต่ทว่าเขากลับถูกหลิงเทียนตอบกลับมาอย่างดุร้ายก่อนว่า “น้องชายลุงเจ้าสิ ผู้ใดเป็นน้องชายคนเล็กของเจ้า? ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายแก่เจ้า ถ้าเจ้ายังดื้อรั้นไม่ยอมรับข้าเป็นนายเหนือหัวอีกล่ะก็ข้าจะปลิดชีวิตเจ้าเสียตอนนี้”

เมื่อหลิงเทียนกล่าวจบเขาก็เร่งเร้าจิตสังหารออกมา

ฉงเฉวียนตกตะลึงกับจิตฆ่าฟันที่อำมหิตและหนาวเหน็บอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างเรียบๆ "ข้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับประมุขน้อยของข้า ถ้าประมุขน้อยของข้าถูกเจ้าฆ่าตาย! ข้าก็ขอตกตายไม่อยู่เป็นขี้ข้าเจ้าให้อัปยศ!"

ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองฉงเฉวียนด้วยสายตาประเมินอีกครั้ง "โฮ่ ข้าไม่ทันเห็นเลยสักนิดก่อนหน้านี้ ไม่ยักรู้ว่าเจ้าเองก็เป็นบุรุษที่สัตย์ซื่อคนหนึ่ง"

ฉงเฉวียนทำเพียงโยนอารมณ์ขุ่นเคืองกลับมา

"ตอนที่ข้าพบประมุขน้อยของเจ้า เขาเองก็มีอาการสาหัสจนแทบหมดลมอยู่แล้ว ข้าไม่อาจจะช่วยเหลืออะไรได้นอกจากทำให้เขาหายจากการทรมานและมีเวลากล่าวสั่งเสีย ทั้งข้ายังสัญญาและตบปากรับคำสั่งเสียสุดท้ายของเขาและก็ได้รับฝากหยกบันทึกเสียงเอาไว้ เพื่อส่งนำไปส่งมอบชายที่มีนามว่าช่างกวนหยาง ข้าจะมอบหยกบันทึกเสียงให้แก่เจ้าเพื่อตรวจสอบความถูกต้องดูก็ได้ แต่ต้องเป็นหลังจากที่ข้าขจัดพิษปรสิตกลืนกำเนิดของเจ้าจนเจ้ากลับมาใช้พลังงานต้นกำเนิดได้เสียก่อน" หลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างเอาใจใส่

"ท่านประมุขน้อย!" ฉงเฉวียนร้องไห้ออกมาน้ำตานองหน้าด้วยความเศร้าโศก

ในที่สุดเขาก็เช็ดน้ำตาของเขาก่อนที่จะหันไปโค้งเคารพหลิงเทียน “นายท่าน”

ต้วนหลิงเทียนมองอย่างไร้อารมณ์ไปที่ฉงเฉวียน "ข้าไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไรเรื่องที่จะช่วยเหลือเจ้ารักษาพิษฟื้นพลัง แต่จะอย่างไรข้าก็ต้อง ให้เจ้ากินยาพิษอีกชุดหนึ่งเผื่อเอาไว้ด้วย"

ใบหน้าของฉงเฉวียนกลับมาหน้าเกลียด

“ไม่ต้องกังวลยาพิษที่ข้าจะให้เจ้ากินนั้นมันจะแสดงผลทุกๆ 6 เดือน ขอเพียงเจ้ากินยาถอนพิษที่ข้าให้ทุกๆ 6 เดือน เจ้าก็จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบายใจ นี่เป็นการป้องกันไม่ให้เจ้าทรยศและทำร้ายข้าหลังจากที่เจ้าฟื้นฟูพลังงานต้นกำเนิดเรียบร้อยแล้ว” ต้วนหลิงเทียนกล่าวเพิ่ม

ดวงตาของฉงเฉวียนทอประกายสว่างวูบหนึ่ง ก่อนที่จะมีใบหน้าขื่นขม

เขาไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะฉลาดเฉลียวและมองการณ์ไกลขนาดนี้ เขาย่อมรับว่าเขาเองก็บังเกิดความคิดดังกล่าวอยู่เหมือนกัน

"อย่าได้หวังจะมีโชคอะไรล่ะ เพราะข้าเองก็เป็นผู้หลอมโอสถเช่นกัน" ต้วนหลิงเทียนแสดงตรายืนยันสถานะผู้หลอมโอสถระดับ 9 ให้แก่ฉงเฉวียนดู ก่อนที่จะเก็บมันกลับไป

"ผู้หลอมโอสถระดับ 9 … " ใบหน้าของฉงเฉวียนสับสนเล็กน้อย ‘ชายหนุ่มอายุราวๆ 17 ปีคนนี้เป็นถึงผู้หลอมโอสถระดับ 9 แล้วหรือ? แม้แต่จะเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรพนาครามเองก็ตามแต่ยังไม่เคยมีผู้หลอมโอสถที่อายุน้อยถึงเพียงนี้ปรากฏขึ้นมาก่อน’

"ตามข้าไปเมืองโลหิตเหล็ก พรุ่งนี้ข้าจะไปซื้อวัตถุดิบมาเพื่อหลอมโอสถกำจัดพิษของปรสิตกลืนกำเนิดให้แก่เจ้า อย่างไรก็ตามยามนี้ระดับบ่มเพาะของข้ายังมีจำกัด ข้าสามารถปรุงยอถอนพิษที่สามารถขจัดพิษร้ายของปรสิตกลืนกำเนิดออกไปได้มากที่สุดประมาณ 1 ใน 3 เท่านั้น…อ่อจริงสิ แล้วระดับการบ่มเพาะของเจ้ามีเท่าไรตอนที่เจ้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด? หลิงเทียนกล่าวถามฉงเฉวียนหลังจากที่บอกกล่าวเรื่องราวแก่เขา

"ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ ขั้นที่ 6" ฉงเฉวียนกล่าวออกมาอย่างสุภาพ

ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ ขั้นที่ 6?

คิ้วของต้วนหลิงเขียนขมวดขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะลูบคางไปมา "ระดับการบ่มเพาะของเจ้าน่าจะฟื้นคืนมาอยู่ในช่วงระดับวิญญาณแรกก่อตั้งเป็นอย่างต่ำหลังจากที่มีการขจัดพิษออกไป 1 ใน 3 ส่วน ส่วนเรื่องที่ว่าจะเป็นระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่เท่าไรนั้น ก็แล้วแต่ดวงชะตาเจ้าแล้วกัน"

"ข้าไม่สามารถกู้คืนทั้งหมดได้หรือ?" ท่าทางของฉงเฉวียนแปรเปลี่ยนเป็นหม่นหมองลง

“ฮึ่ม! บัดซบ เจ้าแหกตาดูบ้าง ตอนนี้ข้าเป็นเพียงผู้หลอมโอสถระดับ 9 เท่านั้น พลังของเปลวเพลิงหลอมโอสถข้ายังมีจำกัด รอให้ข้าตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ก่อน ยามนั้นข้าจะสามารถใช้พลังงานต้นกำเนิดที่ยกระดับมาปรับปรุงยกระดับเปลวเพลิงหลอมโอสถของข้าจนกลายเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 8 และยามนั้น ข้าก็จะกำจัดพิษให้เจ้าได้อีก 1 ใน 3 และเมื่อข้าสามารถตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 ได้เมื่อไรข้าก็จะสามารถยกระดับเปลวเพลิงหลอมโอสถให้กลายเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 7 และตอนนั้นข้าก็จะสามารถล้างพิษให้แก่เจ้าได้จนหมดสิ้นไม่มีเหลือ! "

"กล่าวง่ายๆ ขอเพียงข้าตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 7 ได้เมื่อไหร่ ระดับบ่มเพาะเจ้าก็จะฟื้นคืนสมบูรณ์ดังเดิมเมื่อนั้น!"

ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองฉงเฉวียนดวยสายตาไม่แยแสอีกครั้ง "อะไร รอไม่ได้รึไง?"

"ข้าพอใจมากสำหรับเรื่องนี้" ฉงเฉวียนรีบส่ายหัวออกมา แค่นี้ก็ดีมากมายมหาศาลแล้ว ก่อนหน้านี้ตัวเขาเองยังมืดบอดไร้หนทางกู้คืนความแข็งแกร่งด้วยซ้ำ

เช้าวันรุ่งขึ้นฉงเฉวียนก็ติดตามหลิงเทียนไปยังเมืองโลหิตเหล็ก

ตอนนี้ฉงเฉวียนเองก็ได้รับหน้ากาก 1 อันมาปกปิดใบหน้าครึ่งหนึ่งตรงบริเวณรอยตีตราทาสของเขา

เมื่อเดินทางมาถึงเมืองโลหิตเหล็ก หลิงเทียนก็มอบเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ฉงเฉวียนเพื่อให้มันไปรอที่ห้องพักของโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ก่อนที่ตัวเขาจะเดินทางกลับค่ายกองกำลังโลหิตเหล็กก่อนกับหยางต้า

ตอนนี้หลิงเทียนเองก็ได้พบว่าเขาเป็นคนแรกที่สามารถทำภารกิจได้เสร็จสิ้นของผู้ที่เข้าร่วมค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะ และกลับมาเป็นคนแรก

‘อะไรกัน เหลืออีกแค่เดือนเดียวก็จะครบกำหนดเส้นตายการทดสอบแล้ว แต่ทั้ง 28 คนที่เข้าร่วมกลับไม่มีผู้ใดกลับมาถึงเลยเช่นนั้นหรือ ดูเหมือนพวกมันก็ไปทดสอบภารกิจไกลเหมือนกันแหะ’ หลิงเทียนคาดเดาในใจ

และก็อย่างที่คาดไว้ไม่นานหลิงเทียนก็ถูกแมทัพเติ้งหยุนไห่เรียกไปพบ และการเรียกไปพบครั้งนี้ก็เป็นการเรียกไปยังงานเลี้ยงเฉลิมฉลองที่ท่านแม่ทัพจัดขึ้นเป็นพิเศษเพื่อต้อนรับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของต้วนหลิงเทียน

ในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองนอกจากแม่ทัพอย่างเติ้งหยุนไห่และรองแม่ทัพเฉียวชิงจ่างแล้ว หัวหน้ากองอีก 7 คนรวมหยางต้าก็ถูกเชิญมาร่วมงานเลี้ยงฉลองด้วย ที่สำคัญเหล่าทหารยศสูงๆที่อยู่ในกองกำลังโลหิคเหล็กทีว่างอยู่ล้วนถูกเรียกมาทั้งสิ้น

"ต้วนหลิงเทียน ข้าในนามของแม่ทัพกองกำลังโลหิตเหล็ก ขอดื่มสุรานี้เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้า ด้วยผลงานที่เจ้ากระทำไว้ ต่อไปนี้กองกำลังโลหิตเหล็กของพวกเราก็ไม่ต้องเกรงกลัวอะไรกองทัพเกราะดำอีกต่อไป!" เติ้งหยุนไห่หัวเราะอย่างหนักก่อนที่จะยกสุราขึ้นมาดื่ม

คนอื่นๆเองก็ยกจอกขึ้นมาดื่มสุราเช่นกัน ทั้งหมดที่กองกำลังโลหิตรู้ก็คือ หลังจากนี้กองทัพเกราะดำไม่ต่างอะไรไปจากนกปีกหัก เพราะฝีมือของต้วนหลิงเทียนคนนี้

"ดื่ม!" ต้วนหลิงเทียนเองก็ยกจอกสุราของเขาขึ้นมาก่อนที่จะยกซดรวดเดียวหมดจอก

“มีคำกล่าวบอกไว้ว่า วีรีบุรุษถือกำเนิดตั้งแต่วัยเยาว์ คำกล่าวนี้ ตัวข้าเองก็พึ่งมาประจักษ์เอาวันนี้ล่ะ” หัวหน้ากองคนหนึ่งมองไปที่หลิงเทียนก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างชื่นชม

ต่อมาหัวหน้ากองและคนอื่นๆก็เฮโลมากล่าวชมหลิงเทียนอย่างไม่สงวนคำชมแม้แต่น้อย…

หลังจากงานเลี้ยงฉลองสิ้นสุดลงหลิงเทียนก็ติดตามหยางต้าเข้ากระโจมที่ใหญ่ที่สุดของค่ายที่พักกองกำลังโลหิตเหล็ก หรือเป็นกระโจมของแม่ทัพ เติ้งหยุนไห่นั่นเอง

"ต้วนหลิงเทียน แม้แต่ข้าเองก็ไม่คิดว่าเจ้าจะกระทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ" เติ้งหยุนไห่ถอนหายใจ

หลิงเทียนจ้องแม่ทัพด้วยประกายตาส่องสว่าง "ท่านแม่ทัพ หากท่านเองยังไม่มั่นใจแล้วเหตุใดถึงมอบภารกิจนี้ให้แก่ข้า?"

เติ้งหยุ่นไห่กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม "ฟังจากน้ำเสียงดูเหมือนเจ้าจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรนะ?"

"ทานแม่ทัพ แล้วไหนหนังสือรับรองการเข้าร่วมสถาบันบ่มเพาะขุนพลของข้า?" ต้วนหลิงเทียนไม่คิดจะตอบคำเติ้งหยุนไห่ เขาทำเพียงยืนมือไปแบออกด้านหน้า เพื่อรับของให้จบเรื่องจบราว เขาไม่คิดอยู่ที่นี่อีกนานนัก

เติ้งหยุนไห่ยกมือขึ้นหยิบเอกสารม้วนหนึ่งก่อนที่จะยื่นส่งไปให้หลิงเทียน "ระยะเวลาที่สถาบันบ่มเพาะขุนพลจะเปิดรับสมัครและให้ลงทะเบียนนั้นจะเริ่มเปิดตั้งแต่ตอนนี้จนถึงสิ้นปี เช่นนั้นเจ้าก็มีเวลาที่จะเดินทางกลับบ้านไปก่อน อีกทั้งถ้าเจ้าต้องการนำครอบครัวไปด้วย มันคงต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีเต็มๆพอดี ก็น่าจะทันการลงทะเบียนในปีหน้าพอดี"

"ท่านไปสืบเรื่องราวของข้าเช่นนั้นรึ?" หลิงเทียนหงุดหงิดและไม่พอใจเล็กน้อย

"ไม่ต้องกังวล ข้าหาได้มีเจตนาร้าย" เติ้งหยุนไห่ยังคงแย้มยิ้มเหมือนเดิม

"ขอลา" ต้วนหลิงเทียนเมื่อได้รับหลักฐานแสดงตัวแล้วก็จากไปทันที

"ยังเป็นเด็กอยู่แท้ๆ กลับมีอารมณ์อ่อนโยนเช่นนี้… ต้วนหรูเฟิงเจ้ามีลูกชายที่ดีนัก" ประกายตาของเติ้งหยุนไห่เต็มไปด้วยความเอ็นดู

เมื่อต้วนหลิงเทียนได้รับการตัดสินให้ผ่านการฝึกอบรมค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะไปแล้ว กฎที่ใช้ตอนที่เขายังเป็นผู้เข้าค่ายก็ตกไป ตอนนี้เขาสามารถเข้าออกค่ายที่พักของกองกำลังโลหิตเหล็กได้อย่างอิสระ

หลังจากออกไปนอกบริเวณค่ายที่พักหลิงเทียนก็ไปเดินตระเวนซื้อวัตถุดิบสมุนไพรจากร้านขายยา จนได้สมุนไพรและวัตถุดิบที่ต้องใช้ครบถ้วน จึงมุ่งหน้าไปยังโรงเตี้ยมที่นัดกับฉงเฉวียนไว้ก่อนหน้านี้

"นายท่าน" ฉงเฉวียนเองตอนนี้ก็เรียนรู้ที่จะทำความเคารพและปฏิบัติตัวต่อหน้าหลิงเทียนอย่างดี

"เอาล่ะ เจ้าไปยืนคุ้มกันและปกป้องข้าไว้นอกห้อง ข้าจะเริ่มหลอมโอสถเพื่อถอนพิษให้เจ้า" ต้วนหลิงเทียนยกมือขึ้นรับเล็กน้อยก่อนที่จะสะบัดลง

เมื่อได้ยินคำกล่างของหลิงเทียนฉงเฉวียนเองก็รีบรับคำสั่งอย่างฮึกเหิม ก่อนที่จะออกไปยืนเฝ้าประตูราวกับเทพผู้ปกปักษ์

ภายในห้อง หลิงเทียนก็ค่อยๆจัดเรียงวัตถุดิบออกมาเป็นอย่างๆ ก่อนที่จะหยิบพวกมันขึ้นมาใส่เตาหลอมโอสถทีละชนิดช้าๆ เปลวเพลิงหลอมโอสถของเขาถูกจุดขึ้นและถูกส่งไปในเตาหลอมโอสถทันที

ฟู่มมมม!

ประกายไฟพวยพุ่งออกจากเตามาราวกับแลบลิ้นอย่างไรอย่างนั้น หลังจากนั้นเตาหลอมโอสถก็เริ่มสั่นสะเทือนเล็กน้อย

อีก 1 ชั่วยามต่อมาหลิงเทียนก็หลอมสร้างโอสถเสร็จสิ้น เม็ดยา 3 เม็ดลอยขึ้นมาจากเตาหลอมโอสถพร้อมด้วยแสงสีเขียวทอประกายเรืองรอง

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 119 ฉงเฉวียน"

3.7 228 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art
มีนาคม 12, 2022
หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords !
หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords !
มีนาคม 12, 2022
นักล่าปีศาจ
นักล่าปีศาจ
พฤศจิกายน 12, 2023
Crazy  Leveling  System
Crazy Leveling System
พฤษภาคม 17, 2022
Gate of God
Gate of God
พฤษภาคม 17, 2022
Eternal martial sorvereign
Eternal martial sorvereign
มีนาคม 12, 2022
Tags:
#ผจญภัย, กำลังภายใน, ต่อสู่, สงคราม
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz