สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 4166 : ตราของผู้ปกครอง
ตอนที่ 4166 : ตราของผู้ปกครอง
หยุนเหอผู้ส่งสารของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรม เขาต้อนรับต้วนหลิงเทียนที่ถูกเลือกเป็นเจ้าเมืองชั่วคราวอย่างอบอุ่น เป็นธรรมดาเมื่อจักรพรรดิเทพขั้นต้นที่มีความสามารถฆ่าจักรพรรดิเทพขั้นสูงได้ แน่นอนว่าต้องโดดเด่น จากความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนแล้ว
เขาบอกได้ทันทีว่าจักรพรรดิเทพขั้นกลางทุกคนนั้นมิอาจจะเทียบกับต้วนหลิงเทียนได้เลย เขาต้องคว้าโอกาสในการผูกมิตรกับคนโดดเด่นเช่นนี้ให้ได้
มิเช่นนั้นแล้วจะสายเกินไปเมื่อต้วนหลิงเทียนแกร่งขึ้นและเหนือกว่าเขา นอกจากความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนแล้ว เขารับรู้ได้ว่าต้วนหลิงเทียนนั้นเด็กแค่ไหน เพราะแบบนั้นเขาจะบอกมิได้ว่าต้วนหลิงเทียนนั้นมีพรสวรรค์สูงส่งเช่นใด ?
บางคนที่มีพรสวรรค์เช่นต้วนหลิงเทียนนั้นมิต้องเดาเลยว่าต้องมีอนาคตที่สดใสในอนาคตตราบใดที่มิตายไปเสียก่อน
“ น้องหลิงเทียน ข้าบอกมิได้เลยว่าข้าแปลกใจแค่ไหนกับคำตอบของเจ้า ” หยุนเหอพูดขึ้นมา เขาสงสัยเรื่องนี้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหากเขาเป็นต้วนหลิงเทียน เขาคงรู้สึกว่าอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมนั้นเล็กเกินไปสำหรับเขา
ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรม มีน้อยคนนักที่กล้าจะทำให้หยุนเหอมิพอใจตั้งแต่ที่เขาได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครองแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมซึ่งเป็นเทพสูงสุด แต่เขาเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงมานาน
นี่คือช่วงเวลาที่สูงสุดของเขาแล้ว หากเป็นไปได้ เขาอยากจะพัฒนาตนเองให้ดีกว่านี้ ในความเห็นของเขาแล้ว การผูกมิตรกับคนเช่นต้วนหลิงเทียนอาจจะทำให้เขามีโอกาสเช่นนั้นในอนาคต
….
“ ยังไงเสียน้องหลิงเทียน คนในเมืองหลวงนั้นต้องตะลึงกับพรสวรรค์ของเจ้าเป็นแน่ ! มิใช่สิ แม้แต่พวกที่มาจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์อื่นๆก็ยังต้องตะลึง ! ” หยุนเหอพูดขึ้น เขาคาดหวังถึงสีหน้าตะลึงของทุกคนที่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนนั้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นต้นซึ่งมีความสามารถในการฆ่าจักรพรรดิเทพขั้นสูงได้
“ น้องหลิงเทียน ระหว่างเดือนนี้ เจ้าอยู่ที่คฤหาสน์เจ้าเมืองไปก่อนก็ได้ เจ้าจะได้รับการดูแลในฐานะเจ้าเมือง เจ้าเข้าไปในคลังของอดีตเจ้าเมืองโม่เพื่อเอาอะไรไปก็ได้ ”
แม้แต่ผู้ปกครองเมืองทั่วไปก็ยังมีคลังของตัวเอง นี่มิต้องนับเจ้าเมืองใหญ่เช่นนี้ สมบัติส่วนมากนั้นถูกเก็บไว้ในคลังเมื่อมิอาจจะแบกสมบัติเหล่านี้ไปด้วยทุกที่ได้
แม้ว่าสีหน้าของต้วนหลิงเทียนจะยังเยือกเย็นมิเปลี่ยนเมื่อได้ยินเช่นนั้น ในใจเขาก็ตื่นเต้นอย่างมาก เขาภาวนาให้ในคลังของโม่เหวินเต้านั้นมีสมบัติที่เขาต้องการ
รางวัลที่ต้วนหลิงเทียนได้มาหลังจากที่ฆ่าเฉิงหยานซึ่งเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงนั้นมีพลังเกือบครึ่งที่เขาได้รับจากดินแดนลับระดับจักรพรรดิ ตอนนั้นพลังงงานคลุกรุ่นในร่างกายเขา เมื่อเขาดูดซับมันได้อย่างสมบูรณ์ เขาก็มั่นใจว่าเขาจะเข้าใกล้การเป็นจักรพรรดิเทพขั้นกลาง
‘ ข้ามั่นใจว่าจะกลายเป็นจักรพรรดิเทพขั้นกลางได้ในมิช้า ตอนนั้นข้าก็เกือบใกล้เคียงกับจักรพรรดิเทพขั้นสูงด้วย สำหรับการเป็นเทพสูงสุด….ก็คงยากที่จะทำได้ในตอนนี้ ’ก่อนหน้านี้ต้วนหลิงเทียนคิดว่าคงมิง่ายที่เขาจะกลายเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงในเวลาอันสั้น แต่เขารู้สึกว่าตอนนี้มีความหวังแล้ว ไม่ถึง 1 ปีหลังจากที่เข้ามาในการทดสอบของเทพ เขาก็กลายเป็นจักรพรรดิเทพขั้นต้น, ปรับการบ่มเพาะให้เสถียรและเกือบที่จะก้าวเป็นจักรพรรดิเทพขั้นกลางได้
ตอนแรกต้วนหลิงเทียนคิดว่าการเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงนั้นคงเกินเอื้อม แต่เขารู้สึกว่าตอนนี้มีหวังแล้ว เขากลายเป็นจักรพรรดิเทพขั้นต้น, ปรับการบ่มเพาะให้เสถียร, เขาถึงกับก้าวหน้าอย่างมากกับการก้าวเป็นศักดิ์สิทธิ์เทพขั้นกลาง
หลังจากที่เข้ามาในการทดสอบของเทพไม่ถึง 1 ปี หากเทพช่วย ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นกลางในการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ที่จัดขึ้นในหุบเขาโชคชะตาได้ !
‘ เมื่อข้าขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นกลาง ผู้บ่มเพาะที่ต่ำกว่าเทพสูงสุดก็มีน้อยคนนักที่จะเทียบกับข้าได้ถึงบ้าจะยังมิปรับการบ่มเพาะให้เสถียรก็ตาม เมื่อข้าปรับการบ่มเพาะให้เสถียรแล้ว นอกเสียจากว่าจะเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงที่มีพรสวรรค์น่ากลัวในโลกนี้ ข้าก็น่าจะไร้เทียมทานในหมู่พวกที่ต่ำกว่าเทพสูงสุด ’ ต้วนหลิงเทียนคิดกับตัวเองพร้อมตาที่เป็นประกาย
จักรพรรดิเทพขั้นกลางที่ไร้เทียมทานในหมู่พวกที่ต่ำกว่าเทพสูงสุดนั้นหายากในหมู่อัจฉริยะในกองกำลังชั้นนำตาของต้วนหลิงเทียนเป็นประกายยิ่งกว่าเดิมเมื่อคิดกับตัวเอง ‘ การทดสอบของเทพนั้นคือสมบัติจากสวรรค์จริงๆ ! บางทีข้าอาจจะมีโอกาสก้าวเป็นเทพสูงสุดได้ก่อนจะหมดเวลา 1,000 ปีด้วยความช่วยเหลือจากการทดสอบของเทพ ! ’
จากความเข้าใจกฎกับเต๋าสวรรค์และโลกของเขาแล้ว ทันทีที่เขากลายเป็นเทพสูงสุดขั้นต้น เขาอาจจะฆ่าจักรพรรดิเทพขั้นกลางได้
ความต่างระหว่างเทพสูงสุดขั้นต้นกับเทพสูงสุดขั้นกลางนั้นมิเหมือนกับจักรพรรดิเทพขั้นต้น, กลางและสูง ที่จริงความต่างด้านความแข็งแกร่งนั้นกว้างกว่าจักรพรรดิเทพขั้นต้นกับจักรพรรดิเทพขั้นสูงด้วยซ้ำ
….
ตอนที่พวกเขามาถึงคฤหาสน์เจ้าเมือง หยุนเหอก็พูดขึ้นมา “ น้องหลิงเทียน ในเดือนที่จะมาถึงนี้ข้าคงมิรบกวนเจ้า จำไว้ว่าเราจะเดินทางใน 1 เดือน ข้าจะส่งหยกสื่อสารกลับไปที่เมืองหลวงเพื่อแจ้งว่าเจ้าฆ่าจักรพรรดิเทพขั้นสูงได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว คงมินานก่อนที่หยกสื่อสารจะไปถึงเขา ผู้ปกครองนั้นให้ความสำคัญกับคนที่มีพรสวรรค์ ข้าเชื่อว่าผู้ปกครองนั้นจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดีและช่วยเจ้าพัฒนาการบ่มเพาะก่อนที่จะเข้าไปในหุบเขาโชคชะตา ”
“ ก็ได้ ขอบคุณพี่หยุนเหอ ” ต้วนหลิงเทียนพูดขึ้น เขาค่อนข้างอยากที่จะพบกับผู้ปกครองแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรม เขาคงยินดีหากเขาทะลวงผ่านก่อนได้จะเริ่มการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์
….
หลายวันต่อมาต้วนหลิงเทียนก็พบว่าสมุนไพรหลายอย่างที่มีประโยชน์กับเขา เขานำไปปรุงเป็นยาศักดิ์สิทธิ์เมื่อไม่อาจจะกินได้โดยตรง จากทักษะการปรุงยาของเขาแล้ว เขาสามารถปรุงยาให้เป็นยาศักดิ์สิทธิ์จำกัดได้ง่ายๆซึ่งช่วยในการบ่มเพาะของเขา
ตอนนั้นเองที่เขาตระหนักได้ว่าการปรุงยาศักดิ์สิทธิ์จำกัดในโลกนี้นั้นมิทำให้เกิดภัยพิบัติ เพราะแบบนั้นเขาจึงมิต้องกังวลว่าจะถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะถูกพบตัว เขาก็มิกลัวแม้แต่น้อย ยังไงเสียหากมินับผู้ปกครองอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมแล้ว เขาก็มั่นใจในความสามารถของตนที่จะปกป้องตนเองได้
ยิ่งไปกว่านั้นถึงผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์จะพบความสามารถในการปรุงยาศักดิ์สิทธิ์จำกัดของต้วน หลิงเทียน แต่ก็มิน่าจะทำให้อีกฝ่ายมิพอใจ ยังไงเสียในฐานะผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์แล้ว อีกฝ่ายคงฉลาดพอที่จะมิทำเรื่องโง่เง่าเช่นนั้น
….
1 เดือนผ่านไปในพริบตา
ต้วนหลิงเทียนมิใช่แค่ปรุงยาศักดิ์สิทธิ์จำกัด แต่เขายังทำการดูดซับพลังงานที่เขาได้มาหลังจากที่ฆ่าเฉิงหยานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาก้าวขึ้นมาใกล้จักรพรรดิเทพขั้นกลางไปอีกก้าว หากเส้นทางในการเป็นจักรพรรดิเทพขั้นกลางนั้นอยู่ที่ 100 ม. ไม่เช่นนั้นเขาก็ผ่านมาได้ 10 ม.แล้ว
เมื่อคิดจากการที่เขาเพิ่งขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นต้นได้มินาน 10 ม.นี้ถือว่าดีอย่างมาก
“ น้องหลิงเทียน ไปกันเถอะ ! ” หยุนเหอมารับต้วนหลิงเทียนด้วยเรือบินระดับจักรพรรดิก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปที่เมืองหลวงของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรม ระหว่างการเดินทาง เรือบินได้บินไปด้วยความเร็วของจักรพรรดิเทพขั้นสูง
ในเรือบินนั้นหยุนเหอได้ยิ้มให้กับต้วนหลิงเทียนและพูดขึ้น “ เมืองหลวงนั้นอยู่มิไกลจากที่นี่นัก เราจะไปถึงภายในครึ่งเดือน… ”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าตอบรับ เขามิได้รีบไปบ่มเพาะ กลับกันแล้วเขาใช้เวลาเพื่อถามหยุนเหอกับสิ่งที่คาใจ เขาถามเรื่องการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์และหุบเขาโชคชะตาก่อนหน้านี้หยุนเหอรับปากว่าจะอธิบายทุกอย่างให้ต้วนหลิงเทียนฟัง ดังนั้นต้วนหลิงเทียนจึงมิลังเลที่จะถาม อีกฝ่าย
“ หุบเขาโชคชะตานั้นคือที่ปาฏิหาริย์ของทวีปสวรรค์แดนใต้ ตำนานบอกว่ามันถูกทิ้งไว้โดยเทพแห่งการสรรค์สร้างเพื่อผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ แล้วจะเปิดเมื่อผู้ปกครองมารวมตัวกันและใช้ตราของผู้ปกครอง อย่างที่เจ้ารู้ การต่อสู้จะเกิดขึ้นในหุบเขาโชคชะตา.. ”
หุบเขาโชคชะตานั้นมีตัวตนมานานพอๆกับทวีปสวรรค์แดนใต้ หลายคนบอกว่ามันถูกทิ้งไว้โดยเทพแห่งการสรรค์สร้าง จักรพรรดิเทพหลายคนอยากที่จะไปสู้ในการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เมื่อมันจัดขึ้นในหุบเขาโชคชะตา บอกกันว่าเป็นที่แห่งปาฏิหาริย์
นอกจากนี้แล้วจักรพรรดิเทพก็มีโอกาสที่จะทะลวงผ่านเช่นกัน จักรพรรดิเทพขั้นสูงนั้นมีโอกาสทะลวงผ่าน ขึ้นเป็นเทพสูงสุด
จากเหตุการณ์ในอดีต เทพสูงสุดหลายคนในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ต่างๆขึ้นมาเป็นเทพสูงสุดได้ในหุบเขาโชคชะตา แม้แต่ผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมตอนนี้และอดีตผู้ปกครองสองคนก็ยังกลายเป็นเทพสูงสุดในหุบเขาโชคชะตา
นอกจากนี้แล้วต้วนหลิงเทียนก็ยังรู้เรื่องอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ต่างๆในทวีปสวรรค์แดนใต้ บอกกันว่าผู้ปกครองอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นั้นจะได้รับการปกป้องจากสวรรค์และโลก
แม้ว่าผู้ปกครองจะเป็นเพียงเทพสูงสุดขั้นต้น แต่เทพสูงสุดขั้นสูงก็ยังมิอาจจะฆ่าเขาได้ตราบใดที่เขาหรือนางอยู่ในอาณาเขตของตนเอง ผู้ปกครองและอาณาจักรนั้นคือเสาหลักของกันและกัน นอกจากนี้แล้วตราของผู้ปกครองก็ถูกทิ้งไว้โดยเทพแห่งการสรรค์สร้าง มันมิมีใครชิงไปจากผู้ปกครองได้ ตราของผู้ปกครองนั้นคือสิ่งที่ทำให้ผู้ปกครองไร้เทียมทานในอาณาเขตของตนเอง ด้วยตราของผู้ปกครอง เทพสูงสุดขั้นต้นก็มิต้องกลัวเทพสูงสุดขั้นกลางและสูงเมื่ออยู่ในอาณาเขตของตนเอง