สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 4158 : สตรีกับความขัดแย้งในใจ
ตอนที่ 4158 : สตรีกับความขัดแย้งในใจ
ก่อนหน้านี้จักรพรรดิเทพระดับสูงสองคนเหมือนจะตกลงกันได้แล้ว แต่เมื่อพวกเขากำลังเก็บเกี่ยวผลเต๋าสวรรค์ ทั้งสองคนก็โจมตีกันเอง พวกเขาเหมือนกลับคำพูด พวกเขามิได้ยั้งมือ การโจมตีแต่ละครั้งนั้นเล็งที่จะฆ่าอีกฝ่าย
โม่เหวินเต้า หัวหน้าตระกูลของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้แสดงความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าที่เขาเคยแสดงออกมา ที่จริงแล้วเขารู้สึกว่าเขามิได้อ่อนแอไปกว่าจงไป่หนานเลย เพราะแบบนั้นเขาจึงมิเต็มใจที่จะแบ่งผลเต๋าสวรรค์ให้กับจงไป่หนาน
เขาทำตัวเป็นอ่อนแอก่อนหน้านี้ก็เพื่อทำให้จงไป่หนานนั้นลดการระวังตัวลง เขาสงวนพลังงานเอาไว้เพื่อที่เขาจะได้โจมตีและฆ่าจงไป่หนานตอนเผลอ แต่เขามิคิดเลยว่าจงไป่หนานนั้นมิใช่แค่มิได้ลดการระวังตัวลง ทว่าจงไป่หนานก็ยังโจมตีเขาทันทีที่เขาลงมือ
เพราะแบบนั้นการฉวยโอกาสโจมตีทีเผลอของเขาจึงล้มเหลว มิใช่แค่นั้น การโจมตีที่เหมือนจะรุนแรงของเขาก็มิอาจจะฆ่าจงไป่หนานได้ด้วย
“ โม่เหวินเต้า เจ้าคิดจริงๆหรือว่านี่คือความแข็งแกร่งทั้งหมดของข้า ? ” จงไป่หนานตะโกนออกมาหลังจากที่ปะมือกับโม่เหวินเต้ามาหลายรอบ จากนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ปะทุออกมา มิติเริ่มสั่นไหว ในพริบตาเดียวก็มีร่างโปร่งใสขนาดใหญ่ที่แทนถึงตัวเขาโผล่มาบนหัวของเขา
….
“ ปรากฏการณ์เทพสูงสุดหรือ ?! ” โม่เหวินเต้าอุทานออกมาพร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก จากนั้นเขาก็รีบพูดขึ้นมา “ ผู้อาวุโสจง ข้าแค่ล้อท่านเล่น ! ท่านเอาผลเต๋าสวรรค์ทั้งสามไปได้เลย ! ข้ามิต้องการมันแล้ว ! ”ปรากฏการณ์เทพสูงสุดนั้นคือสัญญาณที่บอกว่าจักรพรรดิเทพระดับสูงนั้นเกือบจะทะลวงผ่านและกลายเป็นเทพสูงสุด
จงไป่หนานฮึดฮัด เขามิได้สนใจคำพูดของโม่เหวินเต้า เขาเหวี่ยงใบมีดและพุ่งเข้าใส่โม่เหวินเต้าต่อโดยร่างยักษ์นั้นก็พุ่งเข้าไปตามเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าจงไป่หนานมิคิดจะปล่อยตนไป ความกลัวในสายตาโม่เหวินเต้าจึงเปลี่ยนเป็นความคลั่ง เขาคำรามออกมา “ จงไป่หนาน คงมิง่ายที่เจ้าจะฆ่าข้า ! ”
หลังจากนั้นโม่เหวินเต้าก็พุ่งเข้าใส่โม่เหวินเต้าโดยมิเกรงกลัว เมื่อจงไป่หนานมิคิดจะปล่อยเขาไป เช่นนั้นเขาก็มิมีอะไรให้เสีย เขาคว้าโอกาสสุดท้ายที่จะสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แม้ว่าเขาจะต้องตาย ทว่าเขาก็มิได้ตายเปล่าตราบใดที่เขาทำให้จงไป่หนานบาดเจ็บหนักได้
ต่อมาทั้งสองก็ได้ปะทะกัน พลังานอันน่ากลัวระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
ตูม ตูม ตูม…
พลังงานเข้าปะทะและพัวพันกันก่อนที่จะมีลำแสงดาบพุ่งออกมาทำลายพลังงานอีกฝ่ายไป ทว่าลำแสงดาบนี้ก็อ่อนแอลงไปอย่างมาก
“ ระเบิด ! ” ร่างของโม่เหวินเต้าพร้อมกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้ระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตอนที่วัตถุศักดิ์สิทธิ์ระเบิดออก ร่างหนึ่งก็สั่นไหวอยู่มินานก่อนจะหายตัวไป มันคือวิญญาณวัตถุของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของเขาคลื่นพลังอันน่ากลัวแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทางจากการระเบิด
พวกมันทำลายใบมีดของจงไป่หนาน ตอนนั้นเองมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากใบมีดของจงไป่หนาน ทว่ามันสายเกินไป วิญญาณวัตถุถูกทำลายโดยคลื่นพลังงานนี้รวมถึงจงไป่หนานที่กระเด็นกลับไปพร้อมกับบาดเจ็บหนัก
จงไป่หนานประคงตัวและกระอักเลือดออกมา สีหน้าเขาหม่นลง พลังของเขาอ่อนแออย่างมาก เขามองไปทางที่โม่เหวินเต้าตายและกระอักเลือดออกมาก่อนจะสบถ “ เจ้าบ้านี่ ! ”
หลังจากนั้นสีหน้าของจงไป่หนานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารีบหนีออกมาจากที่นั่น เมื่อเขามิมีเวลาเพียงพอที่จะกินยาศักดิ์สิทธิ์เพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ เขาจึงต้องกระอักเลือดออกมาต่อ
ทันทีที่จงไป่หนานหนีไป ก็มีร่างหนึ่งโผล่มาในจุดที่จงไป่หนานยืนอยู่เมื่อสักครู่ มันมิใช่ใครอื่น ต้วนหลิงเทียนถอนหายใจและพูดขึ้นมา “ ช่างวิเศษเสียจริง สมกับเป็นกึ่งเทพสูงสุด….ยังเหลือพลังออกจากที่นี่ได้แม้ว่าจะบาดเจ็บหนัก ”
ตอนที่ต้วนหลิงเทียนพูดนั้น เขาก็เคลื่อนไหวไปด้วย
จงไป่หนานโผล่กลับมาอีกครั้งมิห่างจากที่นั่นนัก เขามองไปที่ต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้ามิพอใจ เขารู้สึกว่ามันมิสมเหตุสมผลที่จักรพรรดิเทพระดับต้นจะฉวยโอกาสตอนที่เขาบาดเจ็บ ทว่าสีหน้ามิพอใจของเขาก็หายไปอย่างรวดเร็วแทนที่ด้วยความเหลือเชื่อแทน
“ กระบี่เต๋าและจ้าวแห่งเต๋าหรือ ? ! ” ก่อนหน้านี้จงไป่หนานสามารถหลบการโจมตของต้วนหลิงเทียนจนได้ง่ายๆเพราะต้วนหลิงเทียนนั้นโจมตีมิได้เต็มกำลัง ทว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนมิได้ยั้งมืออีกต่อไป เขาใช้กระบี่เต๋าและจ้าวแห่งเต๋าด้วย Orifices Exquisite Sword
ฟรึด…
ลำแสงกระบี่เจ็ดสีพุ่งอกมาด้วยความเร็วแสง
“ ไม่ ! ” จงไป่หนานพยายามจะกันลำแสงกระบี่จาก Orifices Exquisite Sword ทว่าอาการบาดเจ็บเขาหนักหนาเกินไป ลำแสงกระบี่พุ่งทะลุหว่างคิ้วของเขาออกไปที่หลังหัว ตาของเขาเบิกกว้างแม้ว่าจะตายไปแล้วก็ตาม สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ชัดแล้วว่าแม้แต่ฝันที่แปลกที่สุดของเขา เขาก็มิคิดเลยว่าจักรพรรดิเทพขั้นต้นนันจะครอบครองพลังเช่นนี้
ฟรึด ฟรึด….
ต้วนหลิงเทียนสะบัดมือดึงแหวนมิติของจงไป่หนานและโม่เหวินเต้ามา หลังจากที่เก็บแหวนมิติของทั้งคู่แล้ว เขาก็เริ่มเก็ฐแหวนมิติที่กระจายอยู่โดยรอบ
….
ในเวลาเดียวกันก็มีร่างเพรียวบางมองดูทุกอย่างอยู่ห่างๆ นางได้เห็นทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้โม่เหวินเต้าและจงไป่หนาน จักรพรรรดิเทพขั้นสูงทั้งสองคนปกปิดความแข็งแกร่งที่มีก่อนจะสู้กันเอาเป็นเอาตาย
หลังจากการต่อสู้จบลง คนหนึ่งก็ตายไป อีกคนบาดเจ็บหนัก หลังจากนั้นก็มีมือที่สามฉวยโอกาสฆ่าคนที่บาดเจ็บหนักไป
หลิวอู๋โยวถอนหายใจออกมา ‘ ผลลัพธ์นั้นช่างแตกต่าง หากเจ้าตระกูลรู้ถึงความแข็งแกร่งของจงไป่หนานหรือหากจงไป่หนานแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาตั้งแต่แรก น่าเสียดาย… ’
สายตาของหลิวอู๋โยวแสดงความซับซ้อนออกมา นางมองดูต้วนหลิงเทียนในชุดสีม่วงเข้าไปเก็บผลเต๋าสวรรค์ทั้งสามผล นางยังทึ่งกับความโชคดีของต้วนหลิงเทียน
หลังจากนั้นสักพักนางก็ตาเป็นประกายขึ้นมา นางคิดถึงการที่โม่เหวินเต้า, จงไป่หนานและอสูรอสรพิษทั้งสามซึ่งทัดเทียมกับจักรพรรดิเทพขั้นสูง พวกนี้กลับต้องตาย
‘ ข้าอาจจะทะลวงผ่านได้และกลายเป็นสัตว์กลายพันธุ์เทพขั้นกลางด้วยรางวัลพวกนี้ ! ’ หลิวอู๋โยวคิดกับตัวเองด้วยความตื่นเต้น นางมิกล้าที่จะคิดเกี่ยวกับผลเต๋าสวรรค์ นางดีใจเพียงพอแล้วที่ต้วนหลิงเทียนไว้ชีวิตนางและเต็มใจจะแบ่งปันรางวัลกับนาง
…
‘ ข้าจะเก็บผลเต๋าสวรรค์ไว้จนกว่าข้าจะเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูง ข้าสงสัยว่าข้าจะหาอะไรได้อีกในดินแดนลับระดับจักรพรรดิ ’ ต้วนหลิงเทียนคิดกับตนเองพร้อมกับเก็บผลเต๋าสวรรค์ก่อนจะออกไปสำรวจรอบๆ
ต้วนหลิงเทียนมิอาจจะออกจากดินแดนลับระดับจักรพรรดิจนกว่าเวลาจะหมด เพราะแบบนั้นเขาจึงได้แต่ตระเวนไปรอบๆโดยหวังว่าจะได้สมบัติและโชคดีเพิ่ม
ตอนที่ต้วนหลิงเทียนออกจากที่นั่นเพื่อสำรวจดินแดนลับระดับจักรพรรดิต่อ หลิวอู๋โยวก็ตามเขาไปด้วย
“ นายท่าน…” หลิวอู๋โหยวพูดออกมาด้วยความลังเล นางอยากจะบอกต้วนหลิงเทียนว่ามันคงจะดีหากพวกเขารออยู่ที่นี่จนกว่าจะถึงเวลาออกไป ทว่ามันชัดแล้วว่าเขามิคิดจะอยู่ที่นี่ นางสงสัยว่าหากการฆ่าจักรพรรดิเทพขั้นสูงที่บาดเจ็บหนักซึ่งเสียวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีวิญญาณวัตถุสมบูรณ์ไปนั้นจะทำให้ความั่นใจของต้วนหลิงเทียนเพิ่มขึ้น เช่นนั้นนางจึงมิมีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเสี่ยงและตามเขาไป มิเช่นนั้นแล้วนางน่าจะตายในดินแดนแห่งนี้
“ เจ้าคิดว่าข้ามีโอกาสที่จะปรับระดับการบ่มเพาะให้เสถียรก่อนที่จะออกจากดินแดนลับนี้หรือไม่ ? ” ต้วนหลิงเทียนถามขึ้นมา เขามิถือสาที่หลิวอู๋โยวตามเขามา ตราบใดที่นางมิมีจุดประสงค์ร้ายก็เพียงพอแล้ว มิเช่นนั้นแล้วเขาก็มิลังเลที่จะฆ่านาง
“ มีแน่ ” หลิวอู๋โยวตอบกลับมาด้วยความมั่นใจ “ ด้วยรางวัลจากจักรพรรดิขั้นสูงทั้งห้าที่ตายไปรวมถึงอสูรงูทั้งสามและการตายของจักรพรรดิเทพขั้นกลาง ท่านต้องปรับระดับการบ่มเพาะให้เสถียรได้แน่ แม้ว่าจะแบ่งรางวัลพวกนั้นเป็นสองส่วนก็ตาม มิใช่แค่นั้น ท่านอาจจะพัฒนาระดับการบ่มเพาะของท่านขึ้นไปอีก ”
ตอนที่หลิวอู๋โยวพูดนั้น นางก็อดมิได้ที่จะกังวลในใจ นางสงสัยว่าต้วนหลิงเทียนนั้นจะกลับคำพูดและฆ่านางเพื่อที่เขาจะได้รางวัลในดินแดนลับระดับจักรพรรดิไปครองเพียงผู้เดียว
“ มิเลว ” ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นเขาก็ถามขึ้นมา “ จากระดับการบ่มเพาะของเจ้าแล้ว เจ้าน่าจะขึ้นเป็นจักรพรรดิขั้นกลางได้ใช่หรือไม่ ? ”
หลิวอู๋โยวลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับตามความจริง “ เป็นไปได้ ” จากนั้นนางก็รีบพูดต่อ “ สบายใจได้ นายท่าน แม้ว่าจะขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นกลาง ทว่าข้าก็ละโมบแย่งของจากท่าน ”ต้วนหลิงเทียนตะลึงกับคำพูดของหลิวอู๋โยว จากนั้นเขาจึงยิ้มบางๆและพูดขึ้นมา “ จากที่เจ้าพูดมา…ดูเหมือนเจ้าจะคิดว่าเจ้าจะแกร่งกว่าข้าเมื่อขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพใช่หรือไม่ ? ”
ใจของหลิวอู๋โยวเต้นผิดจังหวะ นางฝืนยิ้มออกมาและรีบพูดขึ้น “ นั่นมิใช่สิ่งที่ข้าอยากจะบอก นายท่าน ถึงขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นกลางได้ ทว่าข้าก็มิมีทางที่จะเทียบท่านได้ ! ”