“ของง่ายๆ สิ่งนี้ไม่ได้ถูกทำมาอย่างดี และมันยังไม่ได้เข้ารหัสไว้”
“งั้นฉันจะปล่อยมันให้เป็นหน้าที่นาย หากนายสามารถหาพิมพ์เขียวได้ ฉันจะดึงนายเข้าแผนกเรา แน่นอน ตำแหน่งนายจะสูงขึ้น”
ดวงตาของลั่วซวนสว่างขึ้น นับตั้งแต่เรื่องของแขนกล เขาก็เริ่มรู้สึกไม่มีอนาคตในแผนกโลจิสติกส์
หากเขาได้รับความโปรดปรานจากเบื้องบนอีกครั้ง เขาย่อมสามารถเอาชนะหานเซี่ยวได้อย่างแน่นอน!
…
ย้อนกลับไปที่โรงงาน หานเซี่ยวได้ย้ายเข้าไปในอาคารใหม่เพื่อความสะดวกสบาย
ขกตกลงนี้ทำให้ลู่ เฉียนรู้สึกโล่งใจบ้าง แต่ก็ยังมีความอึดอัดระหว่างทั้งคู่อยู่
“หวือ”
ไอร้อนพุ่งออกมาเมื่อหานเซี่ยวในชุดทนความร้อนเปิดฝาเตาเผา เขาใช้แหนบเหล็กคู่หนึ่งเพื่อหยิบโลหะร้อนเหลวจากด้านใน
สำหรับตอนนี้ หานเซี่ยวมีอยู่สองตัวเลือกในการทำมีดพับ-การขึ้นหรือการปั้ม(ปั้มตามต้นฉบับ)
ทั้งสองวิธีต่างมีข้อดีในแบบของมัน อย่างหลังจะช่วยให้การผลิตจำนวนมากมีอัตราสำเร็จสูง ดังนั้นหานเซี่ยวจึงชอบมัน
จุดขายของมีดพับคือการซ่อนเร้น เนื่องจากการปฏิบัติจริงมีความสำคัญกว่าคุณภาพของงานฝีมือ หานเซี่ยวจึงไม่คิดใส่รายละเอียดให้มาก
แผ่นโลหะที่เขาใช้สำหรับการปั้มถูกจัดหาโดยแผนก13 ดังนั้นพวกมันจึงมีคุณภาพสูง หานเซี่ยวขัดแผ่นโลหะด้วยสเปรย์เคมีก่อนใส่ลงในเตา หลังนำออกจากเตา เขาก็วางมันใต้เครื่องปั้ม แน่นอน เขายังมีอีกไม่กี่ขั้นตอนก่อนมีดจะเสร็จ
มีดพับแต่ละเล่มมอบค่าประสบการณ์ให้เขา100-200หน่วย และระดับของตัวพิมพ์เขียวก็เลื่อนเป็นระดับ2แล้ว ทำให้ผลิตภัณฑ์ชุดหลังมีคุณภาพสูงขึ้นเล็กน้อย
เมื่อเขาทำเสร็จ หานเซี่ยวก็ถอดชุดทนความร้อนออกและปากเหงื่อบนหน้าผาก หลังตรวจสอบมีดที่เพิ่งทำใหม่ เขาก็ดำเนินงานตามคำสั่งซื้อ
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของหานเซี่ยวก็ดังขึ้น เขารับสายเมื่อเห็นว่ามันคือหลี่ ย่าหลิน
“เกิดเรื่องขึ้นแล้ว!เจ้าหน้าที่ทุกคนอยากยกเลิกคำสั่งซื้อ!”
“เกิดอะไรขึ้น?!”หานเซี่ยวตกใจกับข่าว
“แผนกวิจัยได้ออกแบบมีดพับ และพวกเขาก็ประกาศว่าจะดำเนินการผลิตจำนวนมากในไม่ช้าและทำให้ทุกคนสามารถใช้งานได้!”
แม้ทุกคนจะเห็นว่าแผนกวิจัยทำตัวอวดเบ่งแค่ไหน พวกเขาก็ยังยากได้รับมีดพับฟรี ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาต้องการยกเลิกคำสั่งซื้อของพวกเขากับหานเซี่ยว
ความสามารถในการทำกำไรของมีดพับย่อมสูญหายไป
หานเซี่ยวนั่งคิด เขาคิดอยู่แล้วว่าแผนกวิจัยต้องทำเช่นนี้ แต่เขาไม่คิดว่าพวกเขาจะลงมือเร็วขนาดนี้
ขณะที่การมอบพิมพ์เขียวโดยสมัครใจจะทำให้เขาได้รับชื่อเสียงบ้าง เขาก็ยังไม่อาจได้รับค่าประสบการณ์ใดๆ
ไม่ว่าจะในกรณีใด พวกเขาก็ทำให้แผนพัฒนาตัวเองของหานเซี่ยวบิดเบือนไป
หานเซี่ยวหยิบโทรศัพท์ขึ้นเพื่อโทรหาเฟิงจุน
“ผมเดาว่าคุณคงรู้เรื่องแล้ว?”เขาถามด้วยเสียงต่ำ
เฟิงจุนถอนหายใจ
“แผนกวิจัยทำเกินไปจริงๆ เบื้องบนไม่แม้แต่จะอนุมัติพวกเขาและพวกเขาก็ป่าวประกาศว่าจะผลิตมีดพับออกมา”
หานเซี่ยวขมวดคิ้ว
“บอกรายละเอียดให้ผมฟัง”
เฟิงจุนบอกหานเซี่ยวถึงโคแรทและลั่วซวน
“แผนกวิจัยได้แถลงการณ์อย่างเป็นทางการรึยัง?”
“ยัง”
สีหน้าของหานเซี่ยวมืดหม่น ดูเหมือนว่าแผนกวิจัยจะไม่คิดให้คำอธิบายแก่เขา
แผนกวิจัยกลับกล้าทำเรื่องเช่นนี้ แต่เบื้องบนก็เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หานเซี่ยวสงสัยว่าที่พวกเขาไม่ตอบรับหรือปฏิเสธคำขอของแผนกวิจัยก็เพราะอยากเห็นว่าเขาจะตอบโต้ยังไง หากเขาปล่อยให้แผนกวิจัยคุกคาม มันก็เท่ากับเป็นไฟเขียวให้พวกเขาหยุดเล่นกับเขา
แน่นอน นั่นเป็นความคิดที่รุนแรง
เบื้องบนย่อมไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตราบเท่าที่ฉันไม่ทำให้เรื่องบานปลายเกินไป พวกเขาย่อมต้องปฏิบัติตามและชดเชยให้ฉัน
ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้น นี่อาจเป็นโอกาสที่ฉันจะได้รับความรู้ขั้นกลาง!
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ความรู้ขั้นกลางถือเป็นความลับสุดยอด มันย่อมไม่อาจกล่าวถึงได้ง่ายๆ
แผนเริ่มจัดเรียงในหัวของหานเซี่ยว
คิดปล้นกันกลางวันแสกๆ?ฉันจะสอนพวกแกเองว่าฉันไม่ใช่คนที่รังแกได้ง่าย!
..
ในแผนกวิจัย…
“ฮ่าๆ ทำได้ดีมาก ทำได้ดีมาก”เลขานุการแผนกวิจัยกล่าวชื่นชมลั่วซวน
ลั่วซวนยิ้มอย่างเฉยชา แต่ในความเป็นจริงเขากำลังสะกดกลั้นความดีใจเอาไว้
“หัวหน้าแผนกวิจัยหวังกับนายไว้สูงมาก เราได้ขอข้อมูลและเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดจากแผนกโลจิสติกส์แล้ว ตอนนี้นายนับเป็นคนของเราแล้ว”
“แล้ว..โปรโมชั่นละครับ?”
“หัวหน้าแผนกได้ออกคำสั่งโดยตรงว่านายจะได้นำกลุ่มของนาย ข้อมูลของนายจะขาวสะอาด ตั้งใจทำงานต่อไปและจะไม่มีอะไรให้ต้องกังวล”
รอยยิ้มของลั่วซวนกว้างขึ้น
“ผมได้ยินว่าหานเซี่ยวถูกเบื้องบนตั้งคุณค่าไว้สูง จะมีปัญหาอะไรไหมครับ?”เขาถาม
“ไม่ต้องใส่ใจ ฉันมีข้อมูลภายในอยู่ ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้”
