หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

The Great Mage Returns After 4000 Years - บทที่ 49 อัครสาวก (4)

  1. หน้าแรก
  2. The Great Mage Returns After 4000 Years
  3. บทที่ 49 อัครสาวก (4)
Prev
Next

 

‘เขาเป็นตัวอะไรกันเนี่ย?’

ลุคส์มองเฟรย์ด้วยสายตาประหลาดใจ

แม้ว่าเขาจะเป็นพ่อมดระดับ 7 ดาวแต่อายุของเขาก็ไม่น่าเกินสามสิบ

มันน่าประหลาดใจ มันก็ไม่ถึงกับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เขาเคยเห็นคนสองสามคนในเซอร์เคิลที่มีพรสวรรค์บ้าบอเช่นนี่

แต่เหตุผลที่ลุคส์ตกใจไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ของเฟรย์แต่กลับเป็นความสงบที่เขาแสดงออกมาต่างหาก

หืม… ’

ลุคส์เคยเห็นอัจฉริยะสองสามคนมาก่อนและรู้ดีถึงนิสัยของพวกเขามากกว่าคนอื่น ๆ

โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาหยิ่งยโส

คนอื่นๆอาจไม่คิดอย่างนั้นแต่สำหรับลุคส์ที่มีประสบการณ์มากมายแล้วเขาก็ยังพบข้อบกพร่องอยู่เสมอ

ไม่ว่าจะเป็นความประมาทที่เกิดจากความโอหังของพวกเขาหรือจากการขาดประสบการณ์ คนพวกนี้ก็ยังมีข้อบกพร่องให้เห็นได้อยู่เสมอ

แต่ลุคส์กลับไม่พบสิ่งนั้นในตัวของเฟรย์เลยแม้แต่นิดเดียว

เฟรย์ไม่ได้แสดงความสะเพร่าออกมา

ไม่มีแม้แต่พื้นที่ให้เขาสอดเข็มได้ มันช่างไร้ที่ติ

นอกจากนี้เฟรย์ยังเป็นเด็กที่ไม่มีแม้แต่ริ้วรอยบนใบหน้า เขาอยู่ในวัยที่ไม่มีประสบการณ์ชีวิตจริงมากนัก

‘นี่…ทำไมมันเหมือนกับว่าฉันกำลังต่อสู้อยู่กับอาร์ชเมจในวัยชราเลย!’

ตราบใดที่เขามีพลังศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้คู่ต่อสู้ของเขาคืออาร์ชเมจระดับ 7 ดาวมันก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรเลย

ในความเป็นจริงด้วยพลังแห่งสายฟ้าของเขาแม้ว่าจะต้องใช้อาร์ชเมจถึง 3คนในการเผชิญหน้ากับเขามันก็ยังไม่เพียงพอที่จะล้มเขาได้ อย่างไรก็ตามครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นอาร์ชเมจก่อนที่จะกลายเป็นอัครสาวกของเดมิก็อด

ดังนั้นเขาจึงรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของพ่อมดเป็นอย่างดี

เขารู้วิธีหลายสิบวิธีที่เขาสามารถใช้ข้อมูลนั้นเพื่อปรับเปลียนสถานการณ์หรือแม้แต่กดดันฝ่ายตรงข้าม

แต่ดูเหมือนว่าเฟรย์จะนำหน้าเขาไปหนึ่งก้าวอยู่เสมอ

‘ฉันจะแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้จริงๆเหรอ?’

ลุคส์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับ

มิฉะนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถจัดการกับอาร์ชเมจแค่คนเดียวดาร์กเอลฟ์สองคนและหัวหน้าชั้นหอคอยได้

ตูมตามบูม!

ไฟเออร์บอลหล่นลงอีกครั้ง

คาถาไม่สามารถทะลุผ่านเกราะสายฟ้าได้ แต่ลุคส์กลับไม่สามารถซ่อนความรู้สึกที่ไม่ดีที่อยู่ภายในใจได้

เพียงแค่จากการฟังเสียงเขาก็สามารถบอกได้เลยว่าพลังของเวทมนตร์นี้เหนือกว่าพ่อมดระดับ 7 ดาวไปแล้ว

หากไม่มีเกราะสายฟ้าเขาก็จะคงถูกจัดการและนอนกองเลือดไปแล้ว

ลุคส์จับตาดูพฤติกรรมของเฟรย์และให้ความสนใจกับการโจมตีที่ดูเหมือนจะไม่รู้จักจบจักสิ้น

‘ทำไมเขาถึงจงใจใช้คาถาที่มีเสียงดัง? เขาพยายามดึงดูดความสนใจของฉันหรือเปล่า? ‘

งั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคืออะไร?

ลุคส์หันมาสนใจทีมของมิเคลที่กำลังเคลื่อนที่เป็นขบวน

พวกเขาพยายามซ่อนมันแต่ลุคส์ก็สัมผัสได้ว่ามานารอบๆตัวพวกเขากำลังสั่น มันรู้สึกเหมือนมานาแห่งลม

ดวงตาของลูคส์เป็นประกาย

“ เจ้าพวกนี้! พวกเขากำลังคิดที่จะกำจัดเมฆฝนด้วยคาถาลม!”

ปัง

ในขณะนั้นความแรงของพายุฝนฟ้าคะนองก็ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงเป็นสองเท่า

เฟรย์เดาะลิ้นของเขา

‘เขารู้ตัวเร็วกว่าที่ฉันคาดไว้’

บางทีอาจเป็นเพราะเขาเคยเป็นพ่อมดมาก่อน แต่มันก็ยากสำหรับพวกของเฟรย์ที่จะปกปิดความตั้งใจของพวกเขาได้เป็นเวลานาน

เฟรย์ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ในสถานะที่จะประหยัดมานาของเขาได้อีกต่อไป

คาถาที่ทรงพลังที่สุดที่เขาสามารถใช้ได้ในขณะนี้มาจากคุณสมบัติของไฟและน้ำ

อย่างไรก็ตามคาถาธาตุน้ำจะมีผลเสียและเสริมพลังให้กับสายฟ้า

ดังนั้นจึงเหลือทางเลือกเดียว

ตูม

มานาเริ่มทะยานไปรอบๆตัวของเฟรย์อย่างรวดเร็ว ด้ายมานาสีแดงหลายพันเส้นบินพันรอบๆตัวเขา

ลุคส์ซึ่งให้ความสำคัญกับกลุ่มของมิเคลอยู่นั้นถึงกับตัวสั่นโดยไม่สมัครใจ

“ มะ – มานามากขนาดนั้น! เจ้าหน้าอ่อนนั้น! แกเป็นใครกัน?”

เฟรย์ไม่ตอบเขา

คาถาที่เขาเตรียมที่จะใช้นั้นมีพลังทำลายล้างสูงที่สุดในบรรดาคาถาระดับ 7 ดาว

เฟรย์ต้องการเพิ่มความเสียหายจากคาถานี้ให้มากที่สุด

ลุคส์เหวี่ยงมือของเขา

ตูม!

สายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้าและหอกที่ทำจากสายฟ้าก่อตัวขึ้นภายในพายุฝนฟ้าคะนองก่อนที่จะบินเข้าไปหาเฟรย์

แต่ก่อนที่การโจมตีจะเกิดขึ้นเฟรย์ก็เปิดปากของเขา

“ ลาวาบราส ”

ตูมตามบูม!

มีเสียงระเบิดครั้งใหญ่ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของลุคส์ขณะที่เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่รุนแรงเพราะมือขวาของเขาถูกไฟลวก

“ อ๊าก!”

ความเจ็บปวด?

ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างงั้นหรือ?

นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขากลายมาเป็นอัครสาวก ลุคส์แทบไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าเกราะสายฟ้าของเขาจะถูกทำลาย

ลุกส์กัดริมฝีปากล่างอย่างแรงจนเลือดออกด้วยความที่จะพยายามบังคับควบคุมจิตใจของเขาซึ่งรู้สึกเหมือนว่ามันจะทำให้สติของเขาดับไปเพราะความเจ็บปวดที่รุนแรง

‘ลาวาบราส! คาถานี้อันตรายจริงๆ! ’

แขนขวาของเขาเกือบจะหายไปเกือบหมดและเขารู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากบริเวณนั้น

ในเวลานี้ร่างกายของเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยรอยไหม้ที่น่ากลัวและในไม่ช้าและเขาจะสูญเสียความสามารถในการควบคุมสายฟ้า

ด้วยใบหน้าที่ดุร้ายของเขาลุคส์จึงตัดมือขวาที่เหลือออกด้วยสายฟ้า

“ แก …แก…ทะลุผ่านเกราะสายฟ้า…”

มันเป็นเวทย์ที่ทรงพลังมากจนไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นแค่เวทมนตร์ระดับ 7 ดาว

อย่างไรก็ตามมีบางอย่างที่ลุคส์ไม่รู้

เวทมนตร์ไฟของเฟรย์ได้รับการเสริมพลังหลังจากการใช้ยาอายุวัฒนะและจากนั้นพลังของเขาก็ถูกขยายโดยไม้เท้าแห่งมหานักปราชญ์

เฟรย์เองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีเช่นกัน เพราะในขณะนั้นเขารู้สึกเวียนหัวอย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่เพียงแค่นั้น

‘ระบบประสาทของฉันเริ่มร้อนเกินไป’

เขาไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ในสภาพปัจจุบันของเขา

รู้สึกดีจริงๆที่ได้ทะลวงเกราะสายฟ้าและพุ่งพลังเวทย์เข้าใส่เขาจังๆ แต่ตอนนี้เขาจะใช้เวทมนตร์ไม่ได้ไปสักครู่

อย่างไรก็ตามนั่นไม่ได้หมายความว่าความสามารถในการต่อสู้ต่อไปของเขาจะหายไปโดยสิ้นเชิง

เฟรย์ตั้งท่าที่เขาเรียนรู้จากราชานักรบเวทมนตร์

“แก…!”

ลุคส์ใช่มือข้างหนึ่งที่เขาเก็บไว้และสายฟ้าก็เริ่มไหลผ่านปลายนิ้วของเขา

‘แม้ว่าเขาจะเห็นการโจมตีนี้และพยายามหลบมัน มันก็จะสายเกินไป’

อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าเฟรย์ให้ความสำคัญกับนิ้วของเขา

วิ้ง

“ …!”

เมื่อเฟรย์หลบการโจมตีของสายฟ้าที่ฟาดออกมาเป็นชุด ดวงตาของลูคส์ถึงกับเบิกกว้าง

การเคลื่อนไหวที่เขาเพิ่งแสดงให้เห็นนั้นรวดเร็วมากจนเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเฟรย์เป็นพ่อมด

ลุคส์ไม่สามารถแม้แต่จะจินตนาการถึงตัวตนของชายตรงหน้าได้

อาร์ชเมจระดับ 7 ดาวที่มีทักษะและความสงบที่ไม่ตรงกับอายุของเขาแถมยังมีทักษะศิลปะการต่อสู้แบบนักรบเวทย์

“ แกเป็นตัวอะไรเนี่ย…!”

“ ฉันเป็นมนุษย์”

“ กะ…แกเป็นมนุษย์เหมือนฉันจริงๆหรือ?”

“ อย่าเข้าใจผิดไป”

“อะไร?”

“ แกมันไม่ใช่มนุษย์!”

เฟรย์ลดระยะห่างของลุคส์อย่างรวดเร็ว

เกราะสายฟ้ายังคงค่อยๆฟื้นตัว แต่ตราบใดที่เขาอยู่ใกล้พอ มันก็ง่ายต่อการโจมตีระหว่างช่องว่างของเกราะเพื่อให้โดนตัวของลุคส์

ป้าบ!

“ อัก!”

หมัดของเฟรย์โดนคางของลุคส์

แตก

ความรู้สึกที่กระดูกขากรรไกรของเขามันช่างคล้ายกับแป้งและมันก็รู้สึกได้อย่างชัดเจน

ถ้าหากเป็นคนธรรมดาๆพวกเขาคงจะหมดสติไปนานแล้วจากการกระแทกคางในครั้งนั้น

และพวกเขาจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่รอดได้โดยการกินโจ๊กเท่านั้น

มันเป็นชีวิตที่น่าเศร้าอย่างแท้จริง แต่เฟรย์จะไม่รู้สึกสงสารชายตรงหน้าเลย

ป้ากๆ!
ป้ากๆ!
ป้ากๆ!

การโจมตีของเฟรย์พุ่งเข้าใส่ลุคส์อย่างช้าๆ แต่ละหมัดที่เขาปล่อยออกไปไม่ได้เบาเลย

มันมีน้ำหนักที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีในแต่ละครั้ง

เฟรย์ไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นอัครสาวกมานานแค่ไหน แต่เฟรย์รู้ว่าเขาน่าจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในฐานะพ่อมด ดังนั้นเขาเลยไม่มีประสบการณ์มากนักเมื่อต้องต่อสู้ในระยะประชิด

ตามที่เฟรย์คาดไว้ลุคส์ไม่สามารถตัดสินใจกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมเพราะสมองของเขาสั่นไหว

แน่นอนว่าสถานการณ์เชิงบวกนี้เกิดขึ้นได้ไม่นาน

เสียงแตก

ในเวลานั้นเกราะสายฟ้าก็ฟื้นตัวเต็มที่และสายฟ้าก็กระแทกเฟรย์จนกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง

ร่างของเฟรย์ลอยไปไกลหลายสิบเมตรเพราะแรงกระแทกก่อนที่จะล้มลงสู่พื้น

“อัก…”

เขากระแทกศีรษะลงกับพื้นอย่างแรง

เขารู้สึกได้ถึงเลือดที่อยู่บนศีรษะและดูเหมือนว่าเขาจะมีแผลอยู่บนหน้าผาก

เขากัดลิ้นตัวเองด้วยหรือเปล่า?

เขาได้ลิ้มรสของดินและเลือดอยู่ในปากของเขา

เฟรย์มองไปที่ลุคส์ขณะที่พ่นเลือดออกมา

สภาพของเขาแย่มากพอที่จะเรียกเขาว่าเป็นซากศพและมันก็ไม่ได้เกินจริงเลย เขาดูน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ

“ ฉันจะไม่…ให้อภัย…”

มันเยี่ยมมากที่เขาสามารถพูดได้ด้วยกรามที่ถูกทุบนั้น

แม้ว่าการออกเสียงจะผิดไปเล็กน้อยแถมยังแหบ แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด

เฟรย์ชื่นชมลุคส์ในด้านของพลังใจ

ทุกครั้งที่คางของเขาขยับเขาจะต้องรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

“ มันสายไปแล้ว”

“อะไรนะ…?”

“ พวกเราชนะแล้ว”

วูม!!

ในขณะนั้นอากาศที่โหมกระหน่ำอย่างหนักก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

ดวงตาของเฟรย์ส่องประกายแวววาว

“เฮาลิ้งเทมเพส”

มันมีพลังอำนาจมาก

นี่เป็นเรื่องปรกติ คนสามคนที่ร่ายเวทย์ด้วยกันเป็นเวลาสอง-สามนาที มันก็ไม่แปลกถ้าหากมันจะมีพลังอย่างน้อยในระดับนี้

เมฆฝนฟ้าคะนองถูกพัดพาไปโดยลมแรงและในขณะเดียวกันเกราะสายฟ้าที่ปกป้องลุคส์ก็ค่อยๆจางหายไปก่อนที่จะหายไปอย่างสมบูรณ์

ลุคส์คุกเข่าลงพร้อมกับใบหน้าที่ว่างเปล่า

“ นี้..มันไม่สมเหตุสมผลเลย”

พายุฝนฟ้าคะนองได้จางหายไปและแสงของดวงอาทิตย์ก็ตกถึงพื้นอีกครั้ง

เฟรย์ไม่ละสายตาจากลุคส์ที่กำลังก้มหน้าด้วยความเหนื่อยล้า

“พวกเราชนะแล้ว!”

เลียมสันตะโกนออกมาด้วยความดีใจ คามิลล์ถอนหายใจอย่างโล่งอกและมิเคลยังมีความรู้สึกที่สับสน

“ ออเนอลุคส์ …คุณไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้”

เฟรย์เดินช้าๆไปยังออเนอลุคส์ซึ่งกำลังน้ำลายไหลด้วยดวงตาที่งุนงง

“ ฉัน…อัครสาวกอย่างฉันแพ้…”

“ …ออเนอลูคส์ทำไมคุณถึงหักหลังเรา?”

ลูคส์เหลือบมองมิเคลก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“ ฮะฮะ แกไม่อยากรู้หรือ ใครก็ตามที่ได้เห็นพวกเขาด้วยตาตัวเองก็ต้องหมดกำลังใจกันทั้งนั้นแหละ เซอร์เคิล? เจตจำนงของเหล่าวีรบุรุษ? แล้วไงล่ะ? ในที่สุดมนุษย์ก็เป็นเพียงแค่มนุษย์เท่านั้น”

“ แกเลยเลือกที่จะกระดิกหางงั้นเหรอ? แกเลือกที่จะละทิ้งความภาคภูมิใจในฐานะพ่อมดและหน้าที่ของแกในฐานะสมาชิกของเซอร์เคิลเพื่อที่จะได้กลายมาเป็นหมา?”

ขณะที่เลียมสันมองเขาอย่างดูถูกลุคส์ก็ส่ายหัว

“ แก…พวกแกทุกคนไม่รู้อะไรเลย!”

ดวงตาที่บ้าคลั่งของเขาหันไปหาเฟรย์

“ เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้วไม่ว่ามนุษย์คนนั้นจะทรงพลังเพียงใดก็ไม่ต่างอะไรจากแมลงเลย! แต่พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติกับเราเหมือนแมลง! เขาสัญญากับฉันว่าฉันจะรอด! เขาบอกว่าเขาจะพัฒนามนุษย์ให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงขึ้น! เห็นมั้ย?! แกต่างหากที่เป็นคนขัดขวางความก้าวหน้าของมนุษยชาติอย่างแท้จริง!”

“ อาจจะมีเดมิก็อดที่คิดแบบนั้นอยู่ก็ได้”

เฟรย์พูดคำเหล่านี้อย่างเย็นชาซึ่งทำให้ลุคส์ตัวสั่นโดยไม่สมัครใจ แม้แต่แสงแห่งความบ้าคลั่งในดวงตาของเขาก็ดูเหมือนจะหยุดชะงักด้วยความโกรธที่เขารู้สึกได้

“ อาจจะมีเดมิก็อดที่คิดอย่างที่แกบอก เดมิก็อดที่ต้องการพัฒนาและต้องการปกป้องมนุษย์ แต่แกคิดว่าพวกเขาทำไปเพราะความรักที่มีต่อมนุษย์จริงๆหรือ? แกคิดว่าพวกเขาติดต่อกับเราเพราะต้องการเข้าใจมนุษย์จริงๆหรือ?”

“ ถ – ถูกต้อง…!”

“ แกต่างหากที่ไม่รู้อะไรเลย”

คริก

เฟรย์กัดฟันเข้าหากัน

“ สำหรับเดมิก็อดแล้ว ทั้งหมดนี้มันเป็นแค่เกม พวกเขาสนุกกับการเลี้ยงดูและพัฒนามนุษย์เพื่อเป็นความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง แกคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเกมจบลง? แกคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอารยธรรมขั้นสูงเมื่อพวกเขาหมดความสนใจและเบื่อ?”

“ อึก … ”

ขณะที่เฟรย์ก้าวไปข้างหน้าลุคส์ก็ถอยห่างออกไป อย่างไรก็ตามเฟรย์ไม่ได้หยุดเดิน

“ พวกเขาจะพลิกกระดานยังไงละพวกเขาจะรีเซ็ตมัน คำมั่นสัญญาความก้าวหน้าและอนาคตเป็นสิ่งที่พวกเขามักจะอ้างแม้ว่ามันจะฟังดูดีก็ตาม แต่แกต้องคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเดมิก็อดเบื่อหน่ายกับการเป็น ‘ผู้พิทักษ์’ของมนุษย จะเกิดอะไรขึ้นกับเผ่าพันธุ์ที่ยอมเชื่อฟังพวกเขามาตลอดนะหรือ?”

เฟรย์เคยพยายามทำความเข้าใจพวกเดมิก็อดมาก่อน

มีช่วงเวลาหนึ่งที่เขาเชื่อจริงๆว่าอาจมีคนที่ดีอยู่ในหมู่ของพวกเขาที่พยายามช่วยเผ่าพันธุ์มนุษย์จริงๆ

แต่ไม่มีเลย

สำหรับพวกเขาทุกอย่างเป็นเพียงความบันเทิง

มีกี่อารยธรรมและเผ่าพันธุ์ที่หายไปด้วยน้ำมือของพวกเขา?

พวกเขาไม่คิดที่จะนับจำนวนเผ่าพันธุ์ที่ทำลายลงไปเลยด้วยซ้ำ และไม่มีมนุษย์คนไหนที่สามารถทำได้ก่อนที่จะกลายเป็นซากฝุ่น

เสียงของเดมิก็อดนั้นเป็นเรื่องโกหก

พวกเขาอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังหลอกพวกมนุษย์อยู่

เสียงแตก

เปลวไฟปรากฏขึ้นเหนือมือของเฟรย์

มิเคลสะดุ้งและหยุดเขา

“ คุณ – คุณกำลังจะทำอะไร?”

“ เราปล่อยเขาไปไม่ได้ เราต้องทำให้มันจบลงที่นี่”

การจับกุมจะทำได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้

แต่เฟรย์ไม่มีความมั่นใจในความสามารถของเขาในการควบคุมตัวลุคส์ในขณะที่ต้องรับมือกับพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขาไม่รู้จัก

แน่นอนว่าการจับเป็น ทรมานและดึงข้อมูลจากเขาจะมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ความเสี่ยงก็สูงเกินไป

เฟรย์ไม่มีเจตนาที่จะเสี่ยงกับการพนันในครั้งนี่

“ คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นใช่ไหม? เขาหมดความตั้งใจที่จะต่อสู้แล้ว คุณกำลังตัดสินใจได้ไม่ดีเพราะคุณกำลังโกรธ”

“ หัวหน้าชั้นมิเคล คุณคิดว่าใครกันแน่ที่ดูสถานการณ์ไม่ออกในตอนนี้?”

“ อะ- อะไรนะ?”

สายตาเย็นชาของเฟรย์หันไปหามิเคล

“ คุณยังเห็นเขาในฐานะลุคส์รองหัวหน้าหอคอย คุณคิดว่าเขาฆ่าคนมากี่คนเพื่อให้ได้เป็นอัครสาวก? คุณลืมเรืองในโฮลบริดจ์ไปแล้วหรือ?”

“ แต่…”

ตอนนั้นเอง

ลุคส์ที่เงียบมาจนถึงตอนนี้ได้คว้าข้อมือของมิเคลไว้ในพริบตา

มิเคลและลุคส์อยู่ใกล้กันมากจนเฟรย์ซึ่งให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของเขาอยู่ตลอดเวลาก็ยังไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา

“รองหัวหน้าลุคส์?! นี่มันอะไร…”

“ ฉันจะพาแกแกและพวกแกลงนรกไปพร้อมกับฉัน!”

“ เอ่อ!”

“บ้าเอ่ย! ทุกคน! หนีไป!”

เฟรย์รีบคว้าตัวเลียมสันและคามิลล์ก่อนจะเปิดใช้งานต่างหูไต้ฝุ่นของเขา

บึ้ม!

เสียงระเบิดดังขึ้นทันทีหลังจากนั้น

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 49 อัครสาวก (4)"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Bringing Culture to a Different World
Bringing Culture to a Different World
พฤษภาคม 17, 2022
คุณพ่อยอดเชฟที่ต่างโลก Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World
คุณพ่อยอดเชฟที่ต่างโลก Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World
มีนาคม 12, 2022
Legend of the Mythological Genes
Legend of the Mythological Genes
กุมภาพันธ์ 23, 2023
02
พ่อครัวในโลกซอมบี้
มีนาคม 18, 2025
god of soul system – ไปผจญภัยในโลกone piece กันเถอะ 397+
god of soul system – ไปผจญภัยในโลกone piece กันเถอะ 397+
มีนาคม 12, 2022
I Am In Mavel​ ฉันอยู่ในโลกมาร์เวล
I Am In Mavel​ ฉันอยู่ในโลกมาร์เวล
มีนาคม 12, 2022
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz