หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

The Great Mage Returns After 4000 Years - บทที่ 46 อัครสาวก (1)

  1. หน้าแรก
  2. The Great Mage Returns After 4000 Years
  3. บทที่ 46 อัครสาวก (1)
Prev
Next

 

พ่อมดระดับ 7 ดาว

ความหมายของคำๆนั้นมันไม่ง่ายอย่างที่คิด

ในความเป็นจริงมันคือก้าวแรกในอาณาจักรของการเป็นอาร์ชเมจและพวกเขาจะได้รับการรับรองอย่างน้อยในตำแหน่งเอิร์ลในประเทศใดๆก็ตามในทวีป

จักรวรรดิคัสต์เคาซึ่งเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าจักรวรรดิเวทมนตร์ได้แสดงรายชื่อของพ่อมดระดับ 7 ดาวทุกคนบนแผ่นหินในพระราชวัง การกระทำดั่งกล่าวถือเกียรติยศสูงสุดของเหล่าพ่อมด

เฟรย์เดินเข้าไปในห้องของเขา

จากนั้นเขาก็กระจัดกระจายผลึกเยือกแข็งที่เขาสร้างขึ้นในเวลาว่างรอบๆห้อง

สิ่งเหล่านี้สร้างขึ้นโดยคำแนะนำของอเดเลียและความสามารถของมันก็ยอดเยี่ยม

อากาศเย็นกระจายไปทั่วห้องทันทีราวกับว่าเป็นฤดูหนาว

เฟรย์รอสักพักแล้วก็นั่งลงจนเย็นพอที่จะมองเห็นลมหายใจของตัวเองได้

จากนั้นเขาก็หยิบยาอายุวัฒนะที่ทำจากหัวใจของทอร์กุนทาและดื่มมันในอึกเดียว

ใบหน้าของเฟรย์เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

“ …”

เขารู้สึกราวกับว่าเขากลืนลูกบอลเพลิงเข้าไป

ความรู้สึกของมันที่ลงไปในลำคอของเขานั้นราวกับว่าเขาถือมันไว้ในมือ

สิ่งแรกที่มีปฏิกิริยาคือโฟรเซินริฟเวอะที่ถูกเก็บไว้ในห้องมานาของเขา

ซ่า…อาห์

ไฟและน้ำแข็ง

เช่นเดียวกับตอนที่เขาอยู่บนภูเขาเดรก พลังทั้งสองเริ่มปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า

อย่างไรก็ตามครั้งนี้โฟรเซินริฟเวอะได้โอบล้อมพลังของทอร์กุนทาไว้อย่างอ่อนโยน

“ …”

เฟรย์อดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กๆ มันแตกต่างจากครั้งที่แล้ว

ในเวลานั้นเขาไม่สามารถควบคุมพลังของโฟรเซินริฟเวอะได้และเขาต้องใช้พลังโดยตรงจากหัวใจของทอร์กุนทาเท่านั้น

อย่างไรก็ตามตอนนี้พลังงานเย็นคงที่และหัวใจของทอร์กุนทาก็ได้รับการปรับเปลียนเพื่อให้ย่อยง่ายขึ้น

ดังที่อเดเลียเคยเตือนเขาการปรับแต่งนี้จะช่วยกระตุ้นและเพิ่มพลังงานมานาอย่างมาก แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนัก

เขาค่อนข้างพอใจ

ครู่…

เฟรย์จมลงในสมาธิและเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

และเมื่อถึงเวลาที่มิเคลมาเยี่ยมเขา เขาก็ได้ทำให้พลังงานของหัวใจของทอร์กุนทามาเป็นของเขาแล้ว

กล่าวอีกนัยหนึ่งตอนนี้เฟรย์เป็นพ่อมดระดับ 7 ดาวอย่างสมบูรณ์แบบ

* * *

โฮลบริดจ์

นี่คือชื่อของหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอูเทียโน่

มิเคลดูเหมือนจะคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่อัครสาวกจะอยู่ที่นั่น และในขณะที่เฟรย์เข้ามาในหมู่บ้านเขาก็มั่นใจว่าข้อสันนิษฐานของมิเคลนั้นถูกต้อง

‘พลังศักดิ์สิทธิ์ แค่รู้สึกถึงมันก็ทำให้ฉันคลื่นไส้ ‘

เขารู้สึกสะอิดสะเอียนจนขนลุก

ที่สำคัญหมู่บ้านเงียบเกินไป แม้ว่าจะยังเป็นเวลากลางวันแต่หมู่บ้านก็ให้ความรู้สึกที่มืดมน

“ มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่นี่มีผู้อยู่อาศัยน้อยกว่า 500 คนและเนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาอยู่แบบพอเพียงจึงไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับหมู่บ้านอื่นๆ ”

“ เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบมากที่มีไว้สำหรับอัครสาวกให้ใช้งาน”

“ ถูกต้อง”

ตามคำพูดของเลียมสันมิเคลพยักหน้า

จากนั้นหูของคามิลล์ก็เสียดกัน

ชายหนุ่มและวัยกลางคนหลายคนกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา

ชายวัยกลางคนที่ด้านหน้ามองไปที่เสื้อคลุมของมิเคลก่อนจะก้มหน้า

“ พวกคุณเป็นพ่อมดจากหอคอยเวทมนตร์หรือเปล่า?”

“ถูกตัอง แล้วคุณล่ะ?”

“ ผมเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองโฮลบริดจ์ อัลลาร์ด”

อัลลาร์ดตอบเขาด้วยสีหน้าหวาดกลัว

“ …ผมขอถามได้ไหมว่าทำไมท่านพ่อมดถึงมาที่หมู่บ้านของเรา?”

“ เมื่อเร็วๆ นี้มีคนแปลกหน้ามาที่หมู่บ้านนี้หรือเปล่า?”

“ คนแปลกหน้าที่คุณพูด…อืม…?”

อัลลาร์ดเอียงศีรษะไปข้างหนึ่งและดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามระลึกถึงอย่างสุดความสามารถ

ไม่นานเขาก็ส่ายหัว

“อย่างน้อยเท่าที่รู้ก็ไม่มี”

“ …”

“มีอาชญากรหรือคนที่ดูอันตรายซ่อนตัวอยู่ที่นี่มั้ย?”

“อืม…มันก็มีความเป็นไปได้”

อัลลาร์ดดูเหมือนว่าเขาต้องการทำให้ดูมั่นใจ แต่มันก็ยังไม่ปลอดภัยที่จะสรุปว่ามันจะไม่เกิดขึ้น

อัลลาร์ดเริ่มดูหวาดกลัวมากขึ้น

จากนั้นเฟรย์ก็ก้าวไปข้างหน้า

“ฉันอยากจะถามคุณแค่เรื่องเดียว”

“ ดะ..ได้โปรดถาม”

“ ชาวบ้านทั้งหมดอยู่ที่ไหน?”

“อะไรนะ?”

อัลลาร์ดมีสีหน้างงงวย

เฟรย์เพียงแค่หันไปมองหมู่บ้านอย่างไม่แยแส

“ฉันไม่รู้สึกว่าจะมีชาวบ้านอยู่เลยราวกับว่ามันเป็นหมู่บ้านร้างที่ไม่มีคนอยู่และดูเหมือนว่าจะไม่มีคนอื่นๆนอกจากพวกคุณห้าคน”

“ อา…วันนี้…พวกเขามีงานต้องทำ อยู่ในป่าใกล้ๆ …”

“ ชาวบ้านทุกคนเลยเหรอ?”

อัลลาร์ดเหงื่อแตก

“ไม่ใช่ทั้งหมด บางคน…”

“ เลียมสันช่วยตรวจลองดูหน่อย”

“ เข้าใจแล้ว”

ร่างของเลียมสันหายไป

มิเคลดูฉากนี้ด้วยความประหลาดใจ

นี่เป็นเพราะดาร์กเอลฟ์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ชอบทำสงครามและมีความภาคภูมิใจแต่เขากลับรีบปฏิบัติตามคำสั่งของเฟรย์ราวกับว่าเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์

หลังจากนั้นไม่นานเลียมสันก็กลับมา

“ ในหมู่บ้านไม่มีใคร แล้วก็…”

เขามองไปที่อัลลาร์ดโดยไม่มีการแสดงออกใดๆบนใบหน้าของเขา

“ มีแอ่งเลือดขนาดใหญ่”

“ … อ๊าก!”

การแสดงออกของอัลลาร์ดเปลี่ยนไปทันที

จากนั้นการเค้าเริ่มแปลงร่าง

หลังของเขาเริ่มค่อม เล็บบนนิ้วที่โค้งงอของเขาเริ่มยาวและปากของเขาก็ฉีกไปจนถึงหูของเขา

เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ดูเหมือนหมาป่า

ไม่ใช่แค่อัลลาร์ดแต่ยังรวมถึงผู้ชายที่อยู่ข้างๆเขาด้วยที่เริ่มแปลงร่าง

“ สัตว์ประหลาดของเดมิก็อด!”

มิเคลตะโกนและใช้คาถา

“ กำแพงเปลวไฟ!”

กำแพงไฟลุกขึ้นต่อหน้าเขา

“ ฟู่ๆ!”

แต่มอนสเตอร์ก็ทะลุกำแพงออกไปอย่างง่ายดายและพุ่งเข้าใส่มิเคล

“โอ้พระเจ้า!”

เขาไม่ได้คาดคิดว่าพวกมันจะผ่านทะลวงคาถาระดับ 4 ดาวได้อย่างง่ายดาย

ร่างกายของมิเคลแข็งทื่อ

เฟรย์ดูออกว่าเขาเป็นพ่อมดที่ไม่มีประสบการณ์ในสถานการณ์จริงมากนัก

แต่เฟรย์ได้ร่ายเวทเสร็จแล้ว

“ วินคัดเตอร์ ”

ควิ้ง

ใบมีดที่ทำจากลมที่มองไม่เห็นได้ฉีกร่างของสัตว์ประหลาดออกเป็นชิ้นๆในพริบตา

กำแพงเปลวไฟที่ทะลวงได้อย่างง่ายดายดูเป็นเวทย์ที่ด่อยกว่าไปทันที

เลือดและส่วนต่างๆของร่างกายของสัตว์ประหลาดส่วนใหญ่กลายเป็นแอ่งทันที เหลือเพียงแต่อัลลาร์ด

เขาจ้องมองเฟรย์ด้วยสีหน้าไม่เชื่อ

“ ฉัน – เป็นไปไม่ได้ สิ่งมีชีวิตที่ได้รับพลังของนายท่านโดยตรง… ตะ- ตายจากวินคัดเตอร์ธรรมดา ๆ …”

แบม

ตุบ!

“อ๊าก…”

เลียมสันกดตัวอัลลาร์ดและเฟรย์เดินมาหาเขาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“บอกทุกอย่างที่แกรู้”

“ฉันฉันไม่รู้อะไรเลย”

“ …”

แน่นอนว่าเฟรย์ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเปิดปากได้ง่ายขนาดนี้เพราะเขาเป็นพวกคลั่งเดมิก็อด

ดังนั้นเฟรย์จึงตัดสินใจใช้วิธีทรมานแทนเพราะมันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ไฟ

“ เอ่อเอ่อ…นายกำลังทำอะไร?”

เสียงแตก

เมื่อเปลวไฟขนาดเล็กปรากฏขึ้นในมือของเฟรย์อัลลาร์ดก็เริ่มส่ายหัวพร้อมกับการแสดงออกว่ากำลังกลัวบนใบหน้าของเขา

“ หยุด – หยุดนะ!”

“ เลียมสันเปิดตาข้างซ้ายของเขาเอาไว้”

เลียมสันทำตามที่เฟรย์พูดและบังคับให้ตาซ้ายของอัลลาร์ดเปิดขึ้นและในขณะที่เขาทำเช่นนั้นเปลวไฟของเฟรย์ก็เริ่มหดตัวลงจนมีขนาดที่สามารถเข้าไปในตาได้

ใบหน้าซีดเซียวของอัลลาร์ดซีดยิ่งขึ้นไปอีก

“ พ่อมดจากจักรวรรดิทำอะไรแบบนี้ได้หรือ?!”

“ ไม่มีกฎหมายใดที่บอกว่าฉันทำไม่ได้ ในสายตาของฉัแกกลายเป็นปศุสัตว์ไปแล้ว อย่าคาดหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติเหมือนมนุษย์”

เช่นเดียวกับที่เปลวไฟของเฟรย์กำลังโดนตาของอัลลาร์ด

“หยุดก่อน!”

นั้นคือเสียงของคามิลล์

เฟรย์เพียงแค่เหลือบมองเธอ

แต่เลียมสันกลับโกรธ

“ อาจารย์คงจะไม่พล่ามถึงคุณธรรมและจริยธรรมตอนนี่ใช่ไหม?”

“ ไม่แน่นอน แต่มันมีวิธีที่ง่ายและสะดวกกว่านี้”

หลังจากพูดอย่างนั้นเธอก็เริ่มพึมพำด้วยเสียงต่ำ

เฟรย์จำภาษาได้แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจคำพูดของเธอ

‘มันคือภาษาเอลฟ์โบราณหรือ?’

ชิอิค –

จากนั้นมีบางสิ่งที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้นจากเงาของคามิลล์

มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลำตัวกลมและมีตาดวงเดียว

หลังจากนั้นเลียมสันก็รู้ว่าเธอกำลังหมายถึงอะไร

“อา…! เข้าใจแล้ว อาจารย์กำลังคิดที่จะขโมยข้อมูลโดยใช้วิญญาณแห่งความมืด”

“นั่นคือวิญญาณแห่งความมืดหรือ?”

“ถูกตัองมันคือดาร์กโกรันวิญญาณชั้นสูง”

ดาร์กโกรันกลอกตาไปรอบ ๆ

จากนั้นคามิลล์ก็พูดด้วยน้ำเสียงสงบ

“ ควบคุมจิตใจของผู้ชายคนนั้น”

“ …”

ดาร์กโกรันพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆก่อนที่จะกลายร่างเป็นไอน้ำและดูดเข้าไปในหัวของอัลลาร์ด

“ ห๊ะ – อ๊าก!”

อัลลาร์ดตัวสั่น ตาของเขาปิดลงและน้ำลายเริ่มไหลออกมาจากปากของเขา

เขาเหมือนคนที่สมองถูกทำลาย

มิเคลอดไม่ได้ที่จะถามอย่างกังวล

“ ถ้าเขาตายล่ะ?”

“ ฉันควบคุมเขาได้หมดหากทำครบเงือกไข มันอาจดูเหมือนว่าฉันทำพลาดแต่มันจะไม่เป็นไร”

“ …”

เมื่อเขาเห็นสิ่งนี้มิเคลก็รู้สึกได้ว่าแม้ว่าเขาจะต้องตายเขาก็ไม่ควรถูกดาร์กเอลฟ์จับตัวไป

หลังจากนั้นไม่นานอัลลาร์ดซึ่งดูยุ่งเหยิงอย่างสมบูรณ์ก็พูดอย่างเงียบๆ

“ ถาม…เขาได้…..”

คามิลล์เหลือบมองและเฟรย์บอกใบ้ให้เขาถามคำถาม

“ ชาวบ้านทั้งหมดอยู่ที่ไหน?”

“ ทั้งหมดตะะ…ตายแล้ว ”

มิเคลตัวสั่น

ในทางกลับกันคามิลล์กับเลียมสันไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมา

“ ทำไมแกถึงฆ่าพวกเขา?”

“ เครืองสังเวย…ที่เราต้องการ”

“ สังเวยไปเพื่ออะไร?”

“ …สร้างสิ่งมีชีวิต…เพื่อปลดปล่อยพลังของอัครสาวก…”

“ปลดปล่อย? แกกำลังปลดปล่อยอะไร?”

“ เอ่อเอ่อ…”

อัลลาร์ดเริ่มสั่นและคามิลล์ร้องอย่างเร่งรีบ

“ถอยออกมา!”

ในขณะนั้นร่างกายของอัลลาร์ดพองตัว

ลูกตาของเขาโผล่ออกมาเหมือนกำลังจะหลุดออกจากหัวและได้ยินเสียงแปลกๆจากข้างในร่างกายของเขา

ตูม!

ร่างกายของอัลลาร์ดระเบิด เนื้อกระดูกและเลือดกระจายไปทุกหนทุกแห่ง

เฟรย์ไม่ได้รับความเสียหายใดๆนั่นก็เพราะเขาเปิดใช้งานคาถาป้องกันด้วยต่างหูไต้ฝุ่นของเขา

คามิลล์เดินเข้ามาหาด้วยใบหน้านิ่ง

“ จิตใจของเขาถูกควบคุมไปแล้ว เขาน่าจะระเบิดก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูลสำคัญๆ ”

“ นั่นมันโหดร้าย เขาปฏิบัติต่อสาวกของตัวเองเป็นผักปลา”

“ สถานการณ์ไม่ค่อยจะดีนัก ”

มิเคลเดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าแข็งทือ

เขาชี้ไปที่สัตว์ประหลาดบนพื้นและพูดต่อ

“อัครสาวกเองก็มีการแบ่งชั้นระดับของพลัง คนที่อ่อนแอจะไม่สามารถสร้างสิ่งมีชีวิตได้และพวกเขาก็ไม่ยากเกินไปที่จะรับมือ หากเขาสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตในระดับนี้พลังของอัครสาวกคนนี้ก็ไม่น่าจะอยู่ในระดับธรรมดาๆ นี่…ปัญหานี้เกินกำลังของเรา”

“ดังนั้น? คุณตั้งใจที่จะถอนภารกิจหรือ?”

“ ในตอนแรกนี่เป็นเพียงการลาดตระเวนเท่านั้น ก่อนอื่นพวกเราต้องกลับไปที่หอคอยและรอให้ออเนอลุคส์กลับมา”

“ เราต้องดำเนินต่อไป ”

ครู่หนึ่งการจ้องมองของมิเคลและเฟรย์ก็ปะทะกันกลางอากาศ ทั้งคู่ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใคร

ในที่สุดมิเคลก็เปิดปากของเขา

“ทำไม?”

“ตอนนี้อัครสาวกก็คงตระหนักได้ว่าพวกเรามาถึงแล้ว เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ออเนอลุคส์จะกลับมาและไม่มีการรับประกันว่าอัครสาวกจะยังอยู่ที่นี่เมื่อเขากลับมา ซึ่งหมายความว่าคุณอาจไม่มีวันตามตัวอัครสาวกได้อีกแล้ว”

“ มีเหตุผลอื่นอีกไหม?”

“ เขาคงไม่มีเวลาคิดแผนฉุกเฉินเพื่อจัดการกับเราในตอนนี้ สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอและหมู่บ้านว่างเปล่าเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ เมื่อเรากลับอีกครั้งก็มั่นใจได้เลยว่าเขาจะเตรียมมาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพต้อนรับพวกเราอย่างแน่นอน”

“ …คุณไม่รู้อะไรเลย?”

มิเคลส่ายหัว

“ ฉันเข้าใจเหตุผลของนายแล้ว พูดได้ว่านายไม่ได้คิดผิดและมันมีประโยชน์มากที่จะดำเนินการต่อในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตามข้อเสียของการไม่มีออเนอลุคส์ยังคงสำคัญกว่า”

“ คุณหมายถึงอะไร?”

“ เขาเป็นพ่อมดระดับ 7 ดาว เราต้องมีอย่างน้อยอาร์ชเมจหนึ่งคนเพื่อต่อกรกับอัครสาวก มันไม่ใช่คำแนะนำแต่เป็นข้อกำหนดเช่นเดียวกับที่อัศวินใช้ดาบและพ่อมดใช้ไม้เท้า”

“ ผมขอทำหน้าที่นั่นแทนออเนอลุคส์เอง”

“ ฮ่า!”

สีหน้าของมิเคลฉายแววเย็นชา

“ ฉันยอมรับว่านายมีพรสวรรค์ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ความหยิ่งยโสจะนำพานายไปสู่หลุมฝังศพให้เร็วขึ้นเท่านั้น”

“ ผมไม่ได้หยิ่ง”

“ นายอยากจะทำให้ฉันโกรธจริงๆเหรอ?”

“ …”

เฟรย์เพียงจ้องไปที่มิเคลและในขณะนั้นมิเคลก็รู้สึกตัวสั่นด้วยเหตุผลบางอย่าง

‘อะไร – นั่นคืออะไร?’

เขามีความรู้สึกที่ไม่อาจพรรณนาได้

จากนั้นเฟรย์ก็ยื่นฝ่ามือหนึ่งออก

ขณะที่มิเคลมองดูด้วยความสับสนเปลวไฟก็ปรากฏขึ้นที่มือของเขา

เสียงแตก

“นายกำลังทำอะไร?”

เฟรย์ไม่ตอบ

แต่เขากลับยื่นฝ่ามืออีกข้างออกและอากาศเย็นๆเริ่มก่อตัวขึ้น

แตก

เมื่อการสีหน้าของมิเคลเริ่มสับสน เฟรย์ก็ค่อยๆรวมเปลวไฟและอากาศเย็นเข้าด้วยกัน

“อะไร!?”

มิเคลสะดุ้ง

การหลอมรวมของสององค์ประกอบที่เป็นปฏิปักษ์กัน!

นั่นมันบ้ามาก

มันเป็นการฆ่าตัวตายและคงไม่แปลกหากจะทำให้เกิดการระเบิด

ตอนนั้นมิเคลพยายามหยุดเขา

“ นายกำลังทำอะไรอยู่!? …หือ?”

ทั้งสององค์ประกอบผสานเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น

พายุเพลิงและน้ำแข็งขนาดเล็กได้ถูกสร้างขึ้นเหนือฝ่ามือของเฟรย์

มิเคลตัวแข็งกระด้างเหมือนหิน

“ การผสมผสานองค์ประกอบของฝ่ายตรงข้ามที่สมบูรณ์แบบ…ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้ต่อเมือพ่อมดคนนั่นอยู่ในระดับ 7 ดาว…”

จุ๊ก

“…ผม”

พายุหายไปจากมือของเฟรย์และเขาพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมยตามปกติ

“ ผมจะขอทำหน้าที่แทนออเนอลุคส์เอง”

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 46 อัครสาวก (1)"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Godly Model Creator
Godly Model Creator
มีนาคม 12, 2022
main-qimg-9b25e6cb2a9b0514175f768be289b119-lq (1)
Hokage Ryos Path
มีนาคม 12, 2022
เพลิงพิโรธสวรรค์
เพลิงพิโรธสวรรค์
ธันวาคม 6, 2023
Player Who Returned 10,000 Years Later
Player Who Returned 10,000 Years Later
มีนาคม 12, 2022
Omni genius
Omni genius
มีนาคม 12, 2022
Special District 9
Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9
ตุลาคม 17, 2023
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz