หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

The Great Mage Returns After 4000 Years - บทที่ 41 หอคอยเวทมนตร์(3)

  1. หน้าแรก
  2. The Great Mage Returns After 4000 Years
  3. บทที่ 41 หอคอยเวทมนตร์(3)
Prev
Next

 

“อา! คุณเป็นลูกตระกูลเบลคนี้เอง แถมคุณยังเป็นนักเรียนจากสถาบันเวสต์โร้ดถึงสองปีด้วย”

“ ฉันลาออกจากโรงเรียนแล้วละ”

“ ลาออก? แต่สถาบันเวสต์โร้ดเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงมากนะ แถมยังมีชื่อเสียงในด้านหลักสูตรและระบบอีกด้วย”

โดยปกติแล้วมีเพียงพ่อมดที่อายุมากกว่า 30 ปีที่สามารถดูแลตัวเองได้เท่านั้นที่จะเข้าไปในหอคอยเพราะการปฏิบัติต่อพวกเขามักจะถูกละเลย

นิกสงสัยว่าทำไมเขาถึงมาที่หอคอยเวทมนตร์ แต่เขาไม่มีความกล้าพอที่จะสอดรู้สอดเห็นมากเกินความจำเป็น

“ อืม…ผมเข้าใจแล้ว คุณตั้งใจจะอยู่ที่หอนานแค่ไหน?”

“ ฉันคิดว่าจะใช้เวลาประมาณครึ่งปี”

ครึ่งปี

เป็นช่วงเวลาที่ไม่ยาวเกินไปหรือสั้นเกินไป

“ ค่าใช้จ่ายคือ 1 เหรียญทองสำหรับ 6 เดือน จะมีบริการอาหารสองครั้ง ในตอนเช้าและตอนเย็น และสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นห้องสมุดหรือศูนย์ฝึกอบรมจะเปิดให้บริการฟรียกเว้นสถานที่พิเศษ”

“ ราคานั้นถูกมาก!”

เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ต้องจ่ายเงินมากถึง 1 เหรียญทองเพื่อที่อยู่ในโรงแรมแค่เพียงเดือนเดียว

นั่นหมายความว่าการอยู่ที่หอคอยนั้นจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 20 เหรียญเงินต่อเดือนซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการใช้ห้องสมุดและศูนย์ฝึกอบรมด้วย

“ นั่นเป็นเพราะที่นี่เป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ เรายินดีต้อนรับทุกคนตราบเท่าที่พวกเขามีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดและมีความทุ่มเท”

“ นี่เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยม”

“ ฮ่าฮ่า ขอบคุณ และนี่ … คือบัตรผ่านเข้าออกสู่หอคอยเวทมนตร์”

นิกยื่นแหวนให้เฟรย์

มันเป็นแหวนเงินธรรมดาๆที่มีตัวเลขจารึกอยู่บนวง

“ คุณไม่จำเป็นต้องใส่มันตลอดเวลา แต่มีค่าใช้จ่ายถึง 1 เหรียญเงินเพื่อที่รับอันใหม่ในกรณีที่คุณทำมันหาย”

“ฉันเข้าใจละ”

เฟรย์ใส่แหวนที่นิ้วของเขา

“ ส่วนหมายเลขที่สลักบนวงแหวนเป็นหมายเลขห้องที่คุณจะเข้าพัก”

“ มันสลักไว้ 6-13 ”

“ นั่นหมายถึงห้องที่ 13 บนชั้น 6 คุณจะสามารถใช้งานห้องนั้นได้ในทันที เพียงแค่ใส่แหวนลงในร่องที่ประตูแล้วมันจะเปิดออก การล็อคห้องก็ทำแบบเดียวกัน “

เฟรย์ขอบคุณนิกก่อนจะเดินไปที่ห้องของเขาทันที

มันเป็นห้องเล็กๆแต่มีทุกอย่างที่เขาต้องการ

เตียงเดี่ยวโต๊ะเก้าอี้และโต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร

เฟรย์รู้สึกว่าพวกเขาใช้พื้นที่แคบๆ นี้ได้อย่างคุ้มค่า เหนือสิ่งอื่นใดเขาชอบความจริงที่ว่ามันมีหน้าต่าง

เขาอยู่ในระดับความสูงที่พอดีเพื่อให้มองเห็นวิวภายนอกได้ชัดเจนและวิวจุดนี่ก็ช่างสวยงามมาก

เฟรย์แขวนเสื้อคลุมไว้ที่เก้าอี้อย่างลวกๆ จากนั้นเขาก็นั่งบนเตียงและเริ่มครุ่นคิดถึงแผนการในอนาคตของเขา

‘วัตถุประสงค์แรกคือการย่อยโฟรเซินริฟเวอะให้หมด ในการทำเช่นนั้นเค้าจะต้องเปลียนให้หัวใจของทอร์กุนทากลายเป็นยาอายุวัฒนะเสียก่อน ‘

เฟรย์หยิบขวดแก้วจากกระเป๋าของเขา

ภายในขวดนี้มีหัวใจที่ถูกบีบอัดของราชาเดรกทอร์กุนทาซึ่งส่องแสงสีแดงสดคล้ายกับแมกม่า

‘จริงๆแล้วมันจะได้ผลถ้าฉันหากจะดื่มมันเข้าไปในตอนนี่ แต่ … ‘

เฟรย์ต้องการให้ได้รับผลสูงสุด

หัวใจของทอร์กุนทาจะช่วยเพิ่มพลังมากขึ้นหากสามารถย่อยมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

‘เมื่อพูดถึงเวทย์มนตร์ไฟและน้ำพลังของมันก็เทียบเท่าได้กับสิ่งมีชิวิตเหนือมนุษย์’

และนั่นจะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับเขาในการต่อสู้กับเหล่าเดมิก็อด

ในการทำยาอายุวัฒนะให้ดีที่สุดเขาต้องมีส่วนผสมที่ดีที่สุดสูตรที่ดีที่สุดและผู้ผลิตที่ดีที่สุด

เฟรย์ไม่ใช่คนที่ไม่มีความรู้ในการทำอายุวัฒนะ

แม้ว่าเขาจะมีความรู้ในระดับสูง แต่เขาก็ยังคิดว่ามันไม่เพียงพอ

“ ฉันต้องไปหาอ่านหนังสือในห้องสมุด ”

ห้องสมุดของหอคอยเวทย์มนต์ที่ 3!

นี่เป็นเหตุผลที่เขามาที่นี่

เฟรย์ออกจากห้องทันทีเพื่อค้นหาห้องสมุด

…

ดังที่เชพเพิร์ดได้บอกเขาห้องสมุดในหอคอยเวทมนตร์ที่ 3 นั้นมีขนาดใหญ่มาก

เขาได้รับแจ้งว่ามีหนังสือหลายล้านเล่มถูกเก็บไว้ในสถานที่แห่งนี้

นอกจากนี้ยังถูกจัดเรียงตามหมวดหมู่ได้ดีดังนั้นจึงไม่ยากที่จะหาหนังสือที่เขาต้องการ

หลังจากมองไปรอบๆห้องสมุดแล้ว เฟรย์ก็กลับไปที่ห้องของเขาและคิดว่าจะใช้ชีวิตต่อยังไงดี

ในตอนเช้าเขามุ่งเน้นไปที่การย่อยพลังของโฟรเซินริฟเวอะ การทำสมาธิยังเป็นรูปแบบหนึ่งของการฝึกของพ่อมดที่สำคัญที่สุด

เฟรย์ตระหนักว่าหอคอยเวทมนตร์ถูกสร้างขึ้นด้วยเส้นเลือดมานา

แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด

อิฐทุกก้อนในหอคอยถูกแกะสลักโดยช่างฝีมือชั้นหนึ่งเพื่อให้สมาธิของคนๆหนึ่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขอเพียงแค่อยู่ในหอคอย

ห้องที่ได้รับมอบหมายนั้นติดตั้งฉนวนป้องกันเสียงรบกวนอย่างสมบูรณ์และผ้าม่านสามารถปิดกั้นแสงทั้งหมดซึ่งทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการนั่งทำสมาธิ

ตอนบ่ายก็ออกกำลังกาย

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้วคนเรามักจะเหนื่อยง่ายเนื่องจากความอิ่มจึงเป็นช่วงเวลาที่ไม่สามารถโฟกัสได้

ดังนั้นสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพอย่างเฟรย์ ช่วงบ่ายจึงเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการออกกำลังกาย

ร่างกายของเขาที่ได้รับความเสียหายจากการโดนตะลุมบอนในเทือกเขาอิสปาเนียจะกลับคืนสู่สภาพเดิม ไม่สิเขาจะทำให้มันดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ

จิตใจที่มีสุขภาพดีย่อมอยู่ใจร่างกายที่มีสุขภาพแข็งแรง

เฟรย์รู้ดีว่าวลีนี้เป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลายแต่มันก็เป็นความจริง

การดำเนินชีวิตตามปกติ การรับประทานอาหารที่สมดุลและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ตราบเท่าที่สามสิ่งนี้รวมเข้าด้วยกันอย่างเหมาะสมสภาพร่างกายของเขาก็จะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

หอคอยแห่งนี้ยังมีศูนย์ฝึกที่เหล่านักรบเวทย์มนตร์ฝึกฝนร่างกายและฝึกฝนศิลปะการต่อสู้

จากนั้นเขาก็ขังตัวเองในห้องสมุดในช่วงเย็นเพราะมันเปิดตลอด 24 ชั่วโมง

ด้วยเหตุนี้เฟรย์จึงสามารถมีสมาธิในการอ่านหนังสือจนกระทั่งร่างกายของเขาบังคับให้เขาเข้านอน

เฟรย์ตระหนักว่าเขาค่อนข้างชอบชีวิตของเขาในหอคอยเวทมนตร์

พฤติกรรมที่เป็นอิสระในปัจจุบันของเขาเหมาะกับรสนิยมของเขามากกว่าสมัยที่เขาอยู่ในสถาบันการศึกษาที่เขาถูกตารางเวลาล๊อกเอาไว้

และเช่นนั้น

เวลาก็ได้ผ่านไป

“ ฉันแพ้แล้ว ”

“ ฮึ่ม…”

เลียมสันตะคอกและหดกำปั้นของเขา

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขานิกิตาก้มหน้าลงพร้อมกับสีหน้าเศร้าๆ

‘เขาเป็นสัตว์ประหลาดชัดๆ’

นิกิตาเป็นนักรบเวทย์มนต์และเขาก็มีความภาคภูมิใจในทักษะที่ไม่ได้เลวร้ายเกินไปเลย

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเข้าไปในหอคอยเวทย์มนตร์ที่ 4 ซึ่งถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักรบเวทมนตร์ได้ก็จริง แต่เขาก็ยังถือว่าตัวเองเป็น 1 ใน 5 อันดับแรกของหอคอยเวทมนตร์ที่ 3

จากนั้นเขาก็ได้ยินมาว่าดาร์กเอลฟ์มาพักอาศัยอยู่ในหอคอย

ดาร์กเอลฟ์มีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่จากป่ามากกว่าสายพันธุ์ที่รักป่าและอ่อนโยน แต่นักรบเวทย์มนต์กลับมีความรู้สึกว่าพวกเขาอยู่เหนือกว่าพวกดาร์กเอลฟ์เสมอ

จากนั้นหนึ่งในดาร์กเอลฟ์ก็เข้ามาหาเขา

“มาสู้กัน”

“ …!”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หยาบคายมาก

อย่างไรก็ตามคำพูดของเขาได้ปลุกความรู้สึกที่พวกเขานั้นอยู่เหนือกว่านิกิตา

ดังนั้นนิกิตาจึงรับคำท้า

แต่เขาแพ้

แพ้อย่างราบคราบ

‘ฉันสัมผัสไม่โดนตัวเขาเลยด้วยซ้ำ…’

มันไม่ถือเป็นการต่อสู้เลยด้วยซ้ำ

ทันทีที่มันเริ่มขึ้นเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบในช่องท้อง จากนั้นก่อนที่เขาจะได้รับโอกาสในการตอบสนอง ร่างกายของเขาก็ถูกส่งลงไปนอนที่พื้น

นิกิตาไม่รู้สึกขุ่นเคืองหรือขายหน้าจากการพ่ายแพ้ เพราะพวกเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เขามองพวกเอลฟ์ด้วยสายตาที่เคารพแต่เลียมสันกำลังมองไปที่อื่นแล้วราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจในตัวนิกิตาอีกต่อไป

และดวงตาของนิกิตาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ดังนั้นโดยธรรมชาตินิกิตาก็หันไปมองสิ่งเดียวกันกับที่เลียมสันกำลังมอง

‘ผู้ชายคนนั้น…’

นั่นไม่ใช่เด็กเนิร์ดที่มาที่นานๆครั้งจะมาที่ศูนย์ฝึกอบรมหรือ? และมักจะอยู่ในห้องสมุดเกือบตลอดเวลาหรือเปล่า?

เขาจำเฟรย์ได้อย่างชัดเจนเพราะผมของเขาซึ่งเป็นเหมือนส่วนผสมของสีเทาและสีขาว

‘ทำไมเลียมสันถึงมองเขาล่ะ?’

แม้แต่นิกิตาก็ไม่ได้เคยสนใจเฟรย์เลยสักนิด

ตอนแรกเขาสังเกตเห็นเฟรย์เพราะพฤติกรรมแปลกๆ ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่การกระทำของเฟรย์ดูเหมือนจะไม่มีจุดประสงค์ที่แท้จริง

เมื่อเลียมสันเดินเข้ามาใกล้ชายคนนั้นนิกิตาก็นึกถึงชื่อของเขา

‘เฟ…เฟรย์เหรอ?’

“ นายเป็นนักรบเวทมนตร์ด้วยหรือเปล่า?”

เฟรย์หยุดเคลื่อนไหวและมองไปที่เลียมสัน

เขาสวมเสื้อโค้ทตัวบางซึ่งแตกต่างจากเสื้อผ้าของเขาเมื่อเดือนก่อนมาก มันแสดงให้เห็นร่างกายของเขาที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

แม้แต่แก้มของเขาก็ไม่ได้ดูผอมเหมือนเมื่อก่อน

“ ไม่ ฉันเป็นพ่อมดนะ ”

“ พ่อมดแบบไหนกันที่เคลื่อนไหวแบบนั้นได้…”

เลียมสันที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ยิ้มออกมา

“ เจ้ามนุษย์ ”

“ ฉันชื่อว่าเฟรย์”

มันเป็นการสนทนาซ้ำของพวกเขาเมื่อเดือนที่แล้ว

เลียมสันพยักหน้า

“ ได้เลยเฟรย์ มาสู้กับฉัน”

“อะไรนะ?”

“ ไม่…มันต้องไม่เรียกว่าสู้สิ…”

เลียมสันดูหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะไม่สามารถหาคำพูดที่เหมาะสมได้

จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงจากด้านซ้ายของเขา

“ ประลอง ”

“อา ใช่นั่นแหละ”

เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มของเอลฟ์ที่ตะโกนออกมา

เธอเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะมองเฟรย์

“ ฉัน…คามิลล์ ”

“ เฟรย์ ”

“ คุณสามารถเพิกเฉยต่อคำขอของไอ้งี่เง่านั้นได้นะ ”

คำพูดของเธอทำให้เลียมสันโกรธเล็กน้อย

“ ผมไม่ใช่คนงี่เง่านะอาจารย์ อาจารย์ไม่เห็นเหรอว่าชายคนนี้เคลื่อนไหวอย่างไร เขาต้องเป็นนักรบ..”

มันเป็นภาษาเอลฟ์

แน่นอนว่าเมื่อพวกเขาพูดคุยกันพวกเขาจะใช้ภาษาที่พวกเขาคุ้นเคยมากกว่า

นอกจากนั้น ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นอาจารย์ของเขา

ไม่มีอะไรยากไปกว่าการพยายามเดาอายุของเอลฟ์ ทั้งคามิลล์และเลียมสันดูเหมือนอายุ 20 ปีเท่านั้น

ตาของคามิลล์เย็นชา

“ แกนี้ยังไม่ยอมแก้ไขนิสัยการชอบท้าดวลกับพวกนักรบเลยนะ”

“ ตะ- แต่…”

“ แกควรถามความคิดเห็นของอีกฝ่ายอย่างเหมาะสมก่อน มีหลายครั้งที่นักรบถูกควบคุมโดยความเชื่อของตนเองมากกว่าสมอง”

“ …”

เลียมสันก้มหัวให้กับคำพูดเหล่านั้น

จากนั้นเฟรย์ก็พูด

“ ฉันไม่ว่าอะไรหรอกถ้าหากมันเป็นเพียงการประลอง”

เอลฟ์ทั้งสองหันมามองเขาด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่คิดว่าจะมีใครเข้าใจบทสนทนาของพวกเขา

แม้แต่คามิลล์ที่ไม่เคยแสดงสีหน้าออกมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถซ่อนสีหน้าประหลาดใจของเธอได้

“ …คุณรู้วิธีพูดภาษาเอลฟ์ด้วยหรือ?”

เฟรย์พยักหน้า

“ก็…นิดหน่อย”

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 41 หอคอยเวทมนตร์(3)"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

3453b547aed3d55
เศรษฐีกองขยะ
ธันวาคม 23, 2022
The Overlord of Blood and Iron
The Overlord of Blood and Iron
มีนาคม 12, 2022
ปราณเทวะ เทพหยวน
ปราณเทวะ เทพหยวน
มีนาคม 12, 2022
The First Order ปฐมภาคีมวลมนุษย์
The First Order ปฐมภาคีมวลมนุษย์
มีนาคม 12, 2022
เนตรเซียนทะลุสมบัติ
เนตรเซียนทะลุสมบัติ
กรกฎาคม 5, 2022
ราชันจักรพรรดิบรรพกาล – God Emperor
ราชันจักรพรรดิบรรพกาล – God Emperor
มีนาคม 12, 2022
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz